คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : OS [ChenBaek Or BaekChen ?] Stupid Boy - END -
JONGDAE & BAEKHYUN
SOULINA PRESENT
"STUPID BOY"
“หมา... มึงว่าโลกใบนี้มันโหดร้ายป่ะวะ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามรูมเมทตัวเล็กที่กำลังนอนเล่นเกมบนมือถืออย่างสบายอารมณ์ แต่สำหรับคนถามนั้น.... มันไม่ใช่เลยสักนิด...
แววตาคู่คมของผู้ถามนั้นเจือไปด้วยประกายแห่งความสิ้นหวังและเจ็บปวดอย่างที่อีกคนไม่คิดจะสนใจมอง...
“ไม่นี่... จงแด!! มึงจะทักทำไมวะ ตายเลย ไอ้เวรนี่!!” เสียงหวานตอบกลับพร้อมกับพ่นคำด่าออกมา... คนถามเบือนสายตาออกไปยังท้องฟ้าที่กำลังมืดลงอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียด...
คนตัวเล็กพูดถูก... โลกนี้ไม่โหดร้ายหรอก
แต่พยอนแพคฮยอนต่างหากที่โหดร้าย...
“กูว่า... กูจะย้ายไปเรียนวิทยาลัยดนตรีแล้ววะ”
“เหรอ... ก็ดีนี่ มึงชอบแนวนั้นอยู่แล้ว” คนตัวเล็กยังคงนอนเล่นเกมอย่างไม่สนใจอะไร... พยอนแพคฮยอนยังคงเห็นเกมที่เล่นอยู่นั้นสำคัญกว่าเขา ไม่รู้เพราะว่าจงแดเงียบไปหรือมันเบื่อที่จะเล่นเกมแล้วไม่ผ่านซะที ดวงหน้าหนาวจึงเงยหน้าขึ้นมามองเขา ที่กำลังนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างของห้อง
ห้องพักขนาดสองคนที่ถูกจัดแยกกันเป็นสองส่วนอย่างลงตัวนั้นดูแคบขึ้นถนัดตา เมื่อกล่องสีน้ำตาลใบใหญ่หลายใบนั้นวางซ้อนกันข้างเตียงของคนที่บอกว่าจะย้ายออก... ห้องที่ทำให้เขาได้เจอกับเพื่อนสนิท ที่แอบคิดไม่ซื่อ... คิ้วเรียวของแพคฮยอนขมวดกันแทบจะเป็นปม หากแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถาม หรืออะไรสักนิด...
...เพราะผมไม่มีค่าพอให้เขาใส่ใจเลยรึเปล่า...
หรือเพราะผมยืนเป็นได้แค่เพื่อน...
“มึง..จะย้ายออกเลยเหรอ?” ในที่สุดเขาก็เอ่ยถามออกมา และมันก็เรียกรอยยิ้มจากจงแดได้ไม่ยาก... เขากำลังดีใจที่แพคฮยอนยังคงคิดจะเป็นห่วงหรือสนใจอยู่บ้าง แต่บางครั้งคิมจงแดคนนี้ก็คิดไปเองเสมอ...
“อื้ม... กูทนไม่ไหวแล้ว”
“ตกลงที่มึงยอมตามใจแม่มึง ไปเรียนที่วิทยาลัยดนตรีนี่เพราะมึงทนอยู่กับกูไม่ไหวเลย หาข้ออ้างย้ายออกสินะ!!” แพคฮยอนขึ้นเสียง แต่จงแดก็ยังคงนิ่งไม่ยอมหันไปสบดวงตาเรียวคู่นั้นที่น่าจะกำลังเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขาไม่รู้หรอกว่าแพคฮยอนมีสีหน้าเป็นยังไง แต่ก็คงหงุดหงิดไม่น้อย เพราะเกมก็แพ้ แล้วรูมเมทอย่างเขาก็มาทำตัวงี่เง่าอีก...
“เปล่า... กูทนแอบรักมึงไม่ไหวแล้วต่างหาก พยอนแพคฮยอน”
และนั่นก็เป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้บอกกับเขา... ไม่รู้เพราะความน้อยเนื้อต่ำใจอะไรหรือเพราะทนไม่ไหวที่จะต้องเก็บงำความรู้สึกนี้ต่อไป เลยเผลอพูดออกไปอย่างไม่ทันคิด...
...ไม่ทันคิดว่า เพื่อนตัวเล็กคนนั้นจะรับได้ไหม...
ไม่ทันคิด... ว่าแพคฮยอนมีแฟนอยู่แล้ว...
“ฉะ...ฉัน....” ผมหลับตาลงปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาเงียบๆ ก่อนจะก้มลงหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพาย แล้วยกกล่องหนังสือซ้อนกับของใช้แล้วยกมันขึ้นมา ถึงมันจะหนักเกินกว่าแขนจะรับไหว แต่ผมก็ไม่อยากเดินกลับเข้ามาภายในห้องเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว
“ดูแลตัวเองด้วยนะ...” เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเมื่อเดินผ่านคนตัวเล็กที่รีบลุกขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น... ผมไม่รู้ว่าแพคฮยอนกำลังมีสีหน้าแบบไหน ผมไม่กล้าหันไปดู เพราะกลัวว่าเขาจะรู้ว่าผมร้องไห้...
...และไม่อยากให้แพคฮยอนต้องลำบากใจด้วย...
เพราะผมเป็นได้แค่เพื่อน... หรือเพื่อนสนิท แค่นั้น...
วันเวลาผ่านมาเกือบหนึ่งปี... ไม่มีวันไหนที่คิมจงแดจะไม่คิดถึงพยอนแพคฮยอน... ใบหน้าเรียบเฉยเหม่อมองปุยหิมะสีขาวที่ค่อยๆตกลงมาอย่างช้าๆ ในขณะที่นิ้วเรียวนั้นวางค้างอยู่บนคีย์เปียโนนิ่ง...
...อากาศหนาวอีกแล้ว...
แพคฮยอนจะหาอะไรอุ่นๆใส่รึยังนะ...
แล้วจะลืมปิดหน้าต่างตอนนอนรึเปล่า...
แต่ความคิดทุกอย่างก็จบลง... เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าแพคฮยอนนั้นมีใครคนหนึ่งคอยดูแลอยู่แล้วจะไปห่วงอะไร...
หลังจากที่เก็บข้าวของออกมาจากห้องวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอกับแพคฮยอนอีกเลย... ไม่ใช่แพคฮยอนที่หนีหาย หากแต่เป็นเขาต่างหาก... เพื่อนตัวเล็กที่เขาแอบชอบนั้นมาหาเขาที่บ้านแทบทุกวันหลังจากที่เขาลาออกจากโรงเรียนมัธยมปลาย แต่เป็นเขาที่ไม่ยอมแม้แต่จะเจอหน้าแพคฮยอน...
ไม่ใช่ว่าเกลียด... แต่คิมจงแดกำลังกลัว...
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกให้คนที่กำลังจมอยู่กับอดีตนั้นรู้สึกตัวแล้วรีบปาดน้ำตาทิ้งอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มกว้างถูกปั้นขึ้นมาแทนทีเพื่อทักทายกับผู้มาใหม่ทันที
“เชิญครับ”
“พี่เฉิน... มีคนมาขอพบน่ะครับ” รุ่นน้องตัวสูงกว่าเขาหลายเซนนั้นเดินเข้ามาบอก ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับคนที่มาหาเขาด้วยรอยยิ้มและสายตาที่เป็นมิตร... แต่สำหรับเขามันไม่ใช่เลยสักนิด... ดวงตาคู่คมกลอกไปมาอย่างชั่งใจก่อนจะเบือนไปสบกับดวงตาเรียวของคนที่มาหาตนทันที
“ขอบคุณนะไค... ออกไปซ้อมต่อเถอะ” รุ่นน้องตัวสูงออกไปแต่โดยดีทิ้งให้สองร่างนั้นจมอยู่กับความเงียบที่คนสองคนสร้างขึ้นมาอย่างน่าอึดอัด...
ห้องซ้อมเปียโนของเขานั้นเป็นห้องเล็กๆ ที่มีแกรนด์เปียโนวางไว้มุมหนึ่ง และอีกมุมหนึ่งถูกจัดวางด้วยชุดรับแขกเล็กๆ ไว้สำหรับอาจารย์ที่ปรึกษาที่นานๆครั้งจะมาดูสักที มือเรียวละจากเปียโนหลังงามแล้วลุกขึ้นไปคว้ากระเป๋ากับถุงกระดาษของคนที่ยังยืนนิ่งอยู่นั้นมาวางไว้บนโต๊ะหน้าโซฟา ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ
“นั่งก่อนสิ...” พยอนแพคฮยอนนั่งลงตามคำเชิญชวนนั้น ในขณะที่อีกคนทำท่าจะลุกไปที่เปียโนอีกครั้ง แต่ก็ถูกมือเรียวสวยของแขกผู้มาเยือนรั้งไว้...
“นั่ง...ด้วยกันดิ”
คิมจงแดถอนหายใจออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะเดินไปหยิบน้ำส้มในตู้เย็นมาวางไว้บนโต๊ะแล้วเลื่อนไปให้คนข้างๆ โดยไม่ได้หันไปหาหรือพูดอะไรทั้งนั้น...
เขาไม่เคยเข้าใจแพคฮยอนเลยสักนิด ว่าจะตามมาทำไม
ในเมื่อแพคฮยอนเองก็มีชานยอลคนนั้นคอยดูแลอยู่แล้ว ถ้าบอกว่าก็แค่คิดถึงเพื่อนที่อยู่ด้วยกันกว่าสองปีละก็ เขาไม่เชื่อมันแน่ๆ
...เพราะคำตอบนั้นไม่ใช่ของแพคฮยอนแน่ๆ...
“มึง... สบายดีนะ?” เป็นแพคฮยอนที่เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบอันน่าอึดอัดนี้ หากแต่คนถูกถามเพียงแค่เค้นยิ้มแล้วหันไปพยักหน้าให้อย่างเงียบงัน... แต่เมื่อเห็นดวงตาเรียวรีคู่นั้นที่หม่นแสงลงอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไม... ถึงเป็นแบบนี้ละ...”
“อะไรของมึง”
“ตาของมึง... ปกติไม่ได้เป็นงี้ ปกติมันจะส่องสว่างและเปล่งประกาย หน้ามึงด้วย ทำไมไม่ดูแลตัวเอง... ชานยอลก็ด้วย ทั้งๆที่กูฝากมึงไว้กับมัน แต่มันไม่ดูแลมึงเลยเหรอ...” เขาเผลอพูดออกไปอีกครั้ง พร้อมกับมือที่ขยับไปไล้ใบหน้าเรียวนั้นอย่างเหม่อลอย...
ความรักทำให้คนเราสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองได้เสมอ... และคิมจงแดก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นแต่อย่างใด
“มึงมันโง่...”
“ใช่... โง่มากที่มาชอบคนใจร้ายแบบมึง... แต่กูก็ยังโง่... โง่จนถึงทุกวันนี้”
“แม่งโคตรของโคตรแห่งความโง่เลยวะ...” พยอนแพคฮยอนยังคงว่าต่อว่าเขาซ้ำ หากแต่น้ำตาเม็ดโตกลับกลิ้งลงอาบแก้มขาวเสียอย่างนั้น... ฝ่ามือเย็นยะเยียบยกขึ้นแตะหลังมือ ก่อนที่จะเอนหน้าใบหน้าลงซบไหล่เขาอย่างช้าๆ
“ไม่ใช่มึงหรอกจงแด... กูต่างหากที่โคตรโง่... โง่ที่ไม่รู้ว่าชอบมึงเหมือนกัน โง่ที่รู้ตัวช้า... ถ้าวันนั้นมึงไม่บอกกูแล้วทิ้งให้กูอยู่คนเดียว กูก็คงยังโง่เหมือนเดิม....”
เขาว่ามนุษย์ที่ตกอยู่ในห้วงของความรักนั้นจะใช้สมองน้อยลง...
เพราะความรัก... ไม่ใช่สิ่งที่ใช้สมองตัดสิน...
...หากแต่เป็นหัวใจ...
“มันไม่ใช่วันที่หนึ่งเมษาที่มึงจะมาหยอกกูเล่นนะหมา” คิมจงแดพยายามอย่างหนักที่จะสั่งให้หัวใจเต้นช้าลงตามปกติ และพยายามหยุดความดีใจของตัวเองไว้อย่างยากลำบาก...
“กูถึงบอกไงว่ามึงมันโง่!! แค่นี้ยังไม่ชัดพออีกเหรอ ว่ากูชอบมึง ไอ้บ้า!!!”
คนตัวเล็กกว่านิดหน่อยตะโกนขึ้นเสียงดัง ก่อนที่จะเงยหน้ามองมาอย่างเอาเรื่อง หากแต่ระยะที่ห่างกันเพียงเล็กน้อยนั้นทำให้พยอนแพคฮยอนชะงักไป...
ช่องว่างระหว่างคนสองคนเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ก่อนที่ริมฝีปากทั้งสองจะแนบติดกันอย่างแผ่วเบา และผละออกอย่างรวดเร็ว...
“หมา... งั้นกูขอโง่รักมึงแบบนี้ต่อไปแล้วกันนะ”
END…
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ครบรอบหนึ่งปีเพจช็อทฟิคเอ็กโซแล้วว > 3 <
ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามและอยู่ด้วยกันมาตลอดหนึ่งปีนะคะะ
โบว์จะพยายามเขียนฟิคต่อไปเรื่อยๆ จะพยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุด อยู่ด้วยกันไปนานๆน้าา > ___ < ~
*กอดทุกคนนนนนนน
แล้วก็อย่าลืมรักแพคเฉินกันเยอะๆนะคะ ถึงบางครั้งพี่จงแดจะเป็นตัวเล็กของพี่ป๋าย แต่บางครั้งพี่ป๋ายก็เป็นน้องพยอนของพี่จงแดนะ อิอิ และก็แน่นอนว่า รักคริสโฮ ไคโฮ แพคโฮว กันเยอะๆด้วยนะคะะ *กอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ความคิดเห็น