ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] .:::THE MELODY OF LOVE:::. BY SOULINA

    ลำดับตอนที่ #69 : [KRIS x SUHO] WHITE DAY ::END::

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 265
      1
      20 มี.ค. 59



    เคยคิดบ้างไหมครับ… ว่าการเข้าใจว่า ตัวชอบหรือไม่ชอบอะไรมัน

    เป็นสิ่งที่ยากที่สุด


    โดยเฉพาะกับเรื่องความรัก…

    เราจะรู้ได้อย่างไร… ว่าเราคิดอะไรกับใครหรือเปล่า





    ร่างเล็กเจ้าของเรือนผมสีดำตัดกับผิวขาวของเจ้าตัวกำลังนอนฟุ่บกับแขนข้างหนึ่งเอียงหน้าดูกล่องช็อกโกแลตราคาแพง กับจดหมายสารภาพรักที่ได้รับมาเมื่อเดือนก่อน… จริง ๆ จะปล่อยผ่านไปเลยเหมือนกล่องอื่น ๆ มันก็ได้อยู่หรอก



    แต่เพราะคนให้นั่นแหละ ตามตื้อเขาหลังจากนั้นตลอด จนเขาต้องมาคิดหนักอยู่แบบนี้ไงเล่า



    “จริงจังเลยนะพี่จุนมยอน… ผมว่ามันชัดเจน” เสียงใสของรุ่นน้องรูมเมทดังขึ้นพร้อมกับดวงหน้าหล่อเหลาของคิมจงแดที่ชะเง้อหน้ามองช็อกโกแลตยี่ห้อดังจาดต่างประเทศ



    “ชัดตรงไหน… พี่ไม่เห็นจะเข้าใจ” ใช่… เขาไม่เข้าใจมันจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกของตัวเอง หรือ การตอบคำถามของคนคนนั้น ทั้งเวลายังเหลือน้อยลงทุกที…



    “บางทีเรื่องแบบนี้ใช้สมองไปก็เสียเวลานะครับ” คิมจงแดพูดเพียงเท่านั้นแล้วคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องม่เข้าใจอยู่ดี… ว่าตรงไหนที่มันชัดเจน



    ไม่ใช่แค่คิมจงแดเท่านั้น… ทั้งเพื่อนในคณะ และรุ่นน้องที่รู้จักเขากับคริสต่างพูดเหมือนกันหมดว่ามันชัดเจน มีแต่เขาเท่านั้นแหละที่ไม่่รู้



    คริสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากแคนาดา เป็นคนตัวสูง หน้าตาดี แค่นี้แหละที่คนคนนั้นมี นอกนั้นก็มีดีด้านกีฬานิดหน่อย… แล้วก็หาอะไรไม่ได้อีกแล้ว จุนมยอนก็ไม่ได้อยากจะว่า แต่มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ มีอย่างที่ไหน คิดจะให้ก็เดินเอากล่องช็อกโกแลตมาให้ ทำเป็นคาบดอกกุหลาบแดง แต่หนามต่ำปาก ไม่เรียกกากให้เรียกว่าอะไรวะ



    แต่มันก็เทคแคร์ดีนะ… ชอบโอเวอร์ตามประสาลูกเศรษฐี ไม่รู้จะหาอะไรมาเปย์เขานักหนา ทั้ง ๆ ที่ของพวกนั้นที่คริสหามาให้ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า นาฬิกา เสื้อผ้า เขาหลับตายื่นบัตรเดียวก็ได้มาทั้งหมด แล้ว



    ยังไม่รวมกับมุกชวนเดท ที่คิมจุนมยอนมักจะปฏิเสธอย่างรู้ทันเสมอนั่นอีก



    เพราะเป็นแบบนี้เขาเลยคิดไม่ออกไง… ว่าควรจะตอบกลับยังไง






    ก๊อก ๆ



    “เชิญครับ” เสียงหวานเอ่ยตอบเนือย ๆ แล้วลุกขึ้นยืน หันไปหาแขกผู้มาใหม่ เมื่อเห็นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ก็ยิ่งปวดหัว



    คริสมักจะมาหาเขาเสมอ เมื่อรู้ว่าคิมจงแดออกไปเรียนแล้ว… และวันนี้ก็เช่นกัน



    “ไปกินข้าวกัน” เสียงทุ้มว่าพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างจนแทบจะเห็นฟันครบทั้ง32 ซี่… จริง ๆ คริสมันก็เป็นคนดูดีนะ… แต่มันชอบทำร้ายตัวเองมากกว่า



    ผมพยักหน้าให้แล้วเอื้อมไปหยิบกระเป๋าเงิน มือถือ และกุญแจห้องขึ้นมา บางคนเขาอาจพูดว่า ถ้าไม่คิดอะไร ไม่เห็นต้องไปด้วยเลย แต่คริสก็เป็นเพื่อนในคณะไง



    ถ้าไม่ไป เดี๋ยวคนอื่นก็เอาไปลือกันผิด ๆ อีกว่า ไม่กินเส้น ไม่ถูกกันอีก คิมจุนมยอนแค่ขี้เกียจจะปวดหัวกับเรื่องแบบนั้นก็เท่านั้น




    “จุนมยอนอยากทานอะไรครับ” คริสถามขึ้นในขณะที่กำลังเดินลงบันได คิมจุนมยอนถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจกับเรื่องนี้ทันที ไม่ใช่ว่าเบื่อที่ต้องไปกับคริสนะ เขาแค่เบื่อที่ต้องมานั่งคิด ว่าต้องกินอะไรต่างหาก



    “ยังไม่ได้คิด… แล้วแต่คริสละกัน” ตอบผ่าน ๆ แต่กับอีกคนนี่ดีใจขนาดไหน ทำไมจุนมยอนจะไม่รู้



    ก็สำหรับคริสน่ะ… จากเขาแค่เล็กน้อยขนาดไหนก็ดีใจแล้ว

    รู้… ถึงได้กังวลไง ว่าควรจะตอบยังไงดี




    และมันก็ไม่ใช่ปีแรกที่เขาได้ของจากคริส… มันดำเนินมาแบบนี้จนปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว… และเวลาของเขากับคริสก็เหลือน้อยลงเต็มที่



    ปีนี้พวกเขาจะจบมหาวิทยาลัยแล้ว คริสต้องกลับไปเรียนต่อที่แคนาดา ส่วนเขาก็ต้องต่อบริหาร พร้อมกับเข้าทำงานในบริษัทของคุณพ่อ… ใบไม้ผลิ… ก็ใกล้มาถึงทุกที



    นี่ไง ถึงปวดหัวอยู่เนี่ย… ทุกคนบอกว่า เขารู้สึกยังไงมันก็ชัด

    แต่คิมจุนมยอนคนนี้ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะตอบอะไรในวันไวท์เดย์นี้


    หรือหนีเหมือนที่ผ่านมาดีวะ…





    ตกลงร้านที่มากินก็เป็นร้านเดิม ๆ ที่จุนมยอนเคยบอกคริสว่าชอบกินที่ร้านนี้ เลยกลายเป็นร้านที่คริสมักจะพาเขามากินเสมอ แล้วมันก็ซ้ำซากจนเขาต้องเปลี่ยนเมนูไปเรื่อย ๆ จนพี่ที่ร้านจำหน้าแล้วด้วยซ้ำ



    “ร้านเปิดใหม่เยอะแยะ…” พอเป็นร้านเดิม ก็อดที่จะพูดไม่ได้ แน่สิ… คิมจุนมยอนต้องมากินข้าวกับคริสที่ร้านนี้เป็นเวลาสามปีแล้วนะ ดีที่เดือนละครั้งสองครั้ง ไม่งั้นเขาคงต้องบอกพ่อให้ซื้อร้านนี้ไว้ เพราะเสียดายเงินต่างหาก



    “แต่จุนมยอนชอบร้านนี้ ผมรู้”



    “แต่มันบ่อยเกินไป…”



    “เดือนละครั้งเอง.. .ไม่บ่อยหรอกครับ” คิมจุนมยอนถอนหายใจแล้วเบือนหน้าหนีทันที แล้วเขาก็ยอมมากับคริสสามปีแล้วเนี่ยนะ ไม่รู้คนพามา หรือคนยอมมากับคริสอย่างเขาจะบ้ากว่ากัน



    ถ้าถามว่ารำคาญไหม มันก็มีบ้างแน่นอนอยู่แล้ว

    แต่ถ้าถามว่า รู้สึกดีไหมที่อยู่ด้วยกัน

    มันก็คง… ดีมั้ง





    “จบแล้วจุนมยอนจะไปไหนเหรอ” บทสนทนาถูกเปลี่ยนหัวข้อ ทำให้เขาเงยหน้าสบตาของคริส ถึงใบหน้าของคนคนนี้จะประดับไปด้วยรอยยิ้ม แต่มันกลับไม่ใช่เลยสักนิด



    จุนมยอนสัมผัสได้ว่า คริสกำลังปิดบังอะไรบางอย่าง



    “อาจจะเที่ยวสักสองสามประเทศ แล้วค่อยเริ่มทำงานกับที่บ้าน หรือ ไม่ก็ลงทะเบียนเรียนโทเลย” ดวงตากลมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคริส แล้วยกยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับถามต่อ “แล้วคริสละ… ตั้งใจจะทำอะไร”



    อยู่ ๆ ระหว่างเขากับคริสก็เกิดความเงียบขึ้นมาเสียอย่างนั้น คริสไม่ตอบคำถามของจุนมยอน เขาทำแค่เพียงหันไปเรียกบริกรเพื่อเก็บเช็คบิลเท่านั้น จุนมยอนเลยไม่พูดอะไรอีก และในขณะที่กำลังจะก้าวขึ้นรถของคริส เสียงทุ้มก็เอ่ยกระซิบเสียงเบา ขณะที่เขาก้าวขึ้นรถ โดยมีคริสเป็นคนเปิดประตูให้  



    “มันขึ้นอยู่กับจุนมยอน”



    มันดูเหมือนจะเป็นปริศนาที่น่าค้นหา… หากคริสยิ้มเพียงมุมปากเล็กน้อย แต่คนตัวสูงกลับยิ้มกว้างจนแทบจะเห็นฟันครบ 32 ซี่แบบนี้จุนมยอนจำเป็นต้องยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ไม่อยากให้คริสเสียความมั่นใจ…

    ก็มันเป็นแบบนี้ไง… คิมจุนมยอนถึงไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไง




    การมีคนไปไหนมาไหนด้วยใครจะไม่ชอบ

    แน่นอนเขารู้สึกโอเคมาก แต่ชอบไหม…

    เขาไม่รู้จริง ๆ




    คริสชอบทำร้ายตัวเองหลังจากที่พูดอะไรแบบนี้เสมอ… จนบางครั้งจุนมยอนรู้สึกว่า ที่คริสทำแบบนั้นก็เพื่อจะให้จำอย่างอื่นที่ไม่ใช่คำพูดของเจ้าตัวมากกว่า…



    กับคนอื่นร่างสูงนี้ไม่เคยหลุดมาดที่เจ้าตัวพยายามสร้างให้ดูดี แต่กับจุนมยอน แรก ๆ คริสก็พยายามคีฟลุคมาก ๆ วางตัวดีมาก จนกระทั่งผ่านมาสามปีนี่แหละ เจ้าตัวก็เริ่มเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าพอคีฟลุคแล้วเขายังไม่ตกลงสักที เลยเลือกที่จะไม่คีฟหรือเปล่า



    “จุนมยอน… ถ้าเราขอคำตอบก่อนได้ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น หลังจากที่เจ้าตัวขับรถมาถึงหน้าหอเราแล้ว… ดวงหน้าหวานหันไปมองเสี้ยวหน้าที่ยังคงมองตรงไปข้างหน้า ซึ่งมันผิดปกติไง จุนมยอนเคยชินกับการที่คริสจะทำ จะพูดอะไรต้องหันมาสบตากันมากกว่า ไม่ใช่แบบนี้…



    “มีอะไรรึเปล่า… ทำไมไม่สบตา…”



    “ได้ไหม” ยังไม่ทันทีเขาจะพูดจบ คริสก็สวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม…



    “ไม่รู้… จะช้าจะเร็วก็ไม่รู้อยู่ดี…” เหมือนจุนมยอนจะได้ยินเสียงถอนหายใจของคนข้าง ๆ แต่ก็ทำได้แค่เม้มปากแน่น มือเล็กหยิบกระเป๋าเป้ที่แล้วเตรียมจะลงไป จุนมยอนไม่ชอบบรรยากาศแสนอึดอัดตอนนี้เอาเสียเลย…



    และมันเป็นครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ด้วย เขาสัมผัสได้ว่า คริสมีเรื่องที่อยากพูด หรืออะไรสักอย่างที่คาใจอยู่ แต่ถ้าคริสเลือกที่จะไม่พูด เขาก็จะไม่ถามเหมือนกัน




    หมับ




    มือหนาเอื้อมมาคว้า ข้อมือของคนตัวเล็กไว้ อย่าง ทั้ง ๆ ที่ใบหน้าหล่อเหลายังจับจ้องไปที่เบื้องหน้า ความสงสัยทำให้คิมจุนมยอนต้องมองตามไป



    “ตอบตอนนี้ได้ไหม… ตอนนี้เลยได้ไหม”



    “ไม่รู้… เราไม่รู้ไง… เราบอกคริสไปหลายรอบแล้วนะ” มือหนากำข้อมือเล็กแน่นขึ้น จนจุนมยอนรู้สึกเจ็บ



    “จุนมยอน… เราชอบจุนมยอนนะ… ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่เรารู้สึกดี ๆ ด้วย มีแค่นาย”




    ในตอนนั้นคิมจุนมยอน ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า จะไม่มีโอกาส จะได้คิดอีกแล้ว




    หลังจากวันนั้น… คิมจุนมยอนก็ไม่ได้เจอคริสอีกเลย ถึงจะไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้คบกันอย่างชัดเจน แต่เขาก็อดรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้… คริสมีอิทธิพลกับตัวเขาในหลาย ๆ เรื่อง โดยที่เขาไม่รู้ตัว มากจนกระทั่ง พออีกฝ่ายไม่อยู่ เขากลายเป็นคนทำอะไรไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ



    จงแดบอกว่า คริสกำลังเตรียมตัวกลับไปเรียนที่แคนาดา… หลังจากสอบเสร็จก็อาจจะต้องบินทันที และวันนั้นที่คริสขอคำตอบจากเขา… มันเป็นวันสุดท้ายที่คนคนนั้นอยู่ที่นี่



    คริสไม่ผิดหรอก… ที่ไปทั้ง ๆ ที่อะไรมันค้างคาอยู่แบบนี้

    เพราะความจริง คนที่ทำให้มันค้างคาก็มีเพียงคิมจุนมยอนคนนี้เท่านั้น




    “แล้วกูก็มานั่งเป็นหมาบ้า ไม่กินข้าว ไม่อยากทำอะไรแบบนี้เนี่ยนะ… ทุเรศมาก” เสียงหวานต่อว่าตัวเอง ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสมเพช… แต่ก็ยังไม่ลุกออกไปหาอะไรกิน หรือเริ่มเก็บของสักอย่าง



    เขากำลังจะเรียนจบ… และนั่นทำให้จุนมยอนเพิ่งรู้สึกตัวว่า เขาอาจไม่ได้เจอคริสอีกแล้ว จะให้ไปหาที่แคนาดาก็ไม่ได้ยาก เงินที่มีจะบินไปทุกวันยังได้… แต่จะให้บินไปบังเอิญเจอที่ร้านกาแฟหรือสนามบินก็คงเป็นไปไม่ได้…



    ในเมื่อแคนาดามันกว้าง… และถ้าเขาออกจากหอแล้วกลับบ้าน… คริสก็ไม่มีทางหาเจอแน่ ๆ เพราะคนคนนั้นรู้จักเกาหลีดีที่ไหน… มันก็ไม่ได้ต่างจากเขาที่ไม่รู้จักอะไรที่แคนาดาเลย…



    “พี่จุนมยอนกินข้าวไหม” น้ำเสียงน่าฟังของคิมจงแดดังขึ้นพร้อมร่างโปร่งของเจ้าตัวที่เดินถือถุงไก่ทอดเข้ามาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม…



    “พี่ไม่ค่อยหิว… จงแดกินเถอะ” รอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าของคิมจงแดก็หมองลงทันที…



    “ถ้าพี่ไม่กิน จะไม่มีแรงไปเจอพี่คริสนะ”



    “แล้วพี่จะไปเจอเขาได้ที่ไหนละ… ตอนจะไปเขายังไม่บอกพี่เลย…”



    “แต่พี่ลืมไปแล้วเหรอ ว่าพี่คริสรอให้ไวท์เดย์มาถึงในทุก ๆ ปี”





    คนฟังเบิกตาขึ้นเล็กน้อยแล้วหันไปมองหน้ารุ่นน้องที่พยายามยิ้มให้กว้างที่สุดเพื่อเขา แล้วอยู่ ๆ น้ำสีใสก็ไหลรินออกจากดวงตา…



    ความหวังของคิมจุนมยอนอยู่ที่พรุ่งนี้… เพียงวันเดียวแล้วสินะ


    “แต่ก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ… ว่าเราอยากได้คำตอบก่อนหน้านั้น”




    เสียงทุ้มดังขึ้นที่หน้าประตู เรียกดวงตาสองคู่หันไปมองได้ในทันที คิมจงแดยิ้มกว้างแล้วมองตามร่างเล็กของพี่ชายรูมเมทที่ลุกขึ้นวิ่งเข้าไปสวมกอดร่างสูงทันที



    เพราะแบบนี้คิมจงแดถึงได้บอกไง… ว่าคำตอบสำหรับพี่จุนมยอนน่ะ มันชัดเจนอยู่แล้ว




    “วิ่งมากอดแบบนี้… เราพอจะมีสิทธิ์ลุ้นไหมนะ” คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาทั้ง ๆ ที่อ้อมแขนเล็กนั้นกำลังกำเสื้อด้านหลังแน่น… คริสรู้อยู่แล้วว่า คำตอบคืออะไร… แต่เขาต้องการความชัดเจน… และคำตอบที่ย้ำให้เขารู้ว่า เขาไม่ได้คิดไปเอง



    “เกลียด… ฮึก… เกลียดที่สุด”



    “ถ้าจุนมยอนเกลียด… งั้นเราไปนะ” จุนมยอนส่ายหน้าอีก คราวนี้ดวงตาฉ่ำน้ำเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา



    “ถ้าไป… จะเกลียดมากกว่านี้” คริสยกยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากที่ได้ยินคำพูดของคนตัวเล็กกว่า ในขณะที่่คิมจงแดหลบฉากออกไปเรียบร้อยแล้ว



    “แล้วจุนมยอนอยากอยู่กับคนที่เกลียดเหรอ” คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาอีกครั้ง จนคริสอดยิ้มไม่ได้ นี่เสื้อเขากำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของคนตัวเล็กในอ้อมแขนที่ร้องไห้ไม่หยุด เพราะเขาหายไป



    แบบนี้ให้เปียกทั้งตัวยังยอม



    “แค่คริส”



    “ครับ?”



    “แค่คริสเท่านั้นที่เราอยากอยู่ด้วย…”



    คริสกอดกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นกว่าดื่ม แถมยังถือวิสาสะกดจูบลงข้างแก้มขาวอีกด้วย


    “แล้วคำตอบละครับ”



    คนตัวเล็กรั้งร่างออกจากอ้อมกอดแกร่งก่อนที่จะยกหลังมือปาดน้ำตาอย่างลวก ๆ ดวงหน้าหวานระเรื่อขึ้นอย่างที่คริสไม่เข้าใจ แต่เมื่อมือเล็ก ค่อย ๆ ปลดกระดุมทีละเม็ด เขาถึงกับต้องรีบคว้ามือบางไว้แทบไม่ทัน



    “จุนมยอนจะทำอะไรครับ”



    “คำตอบไง… เขาว่าไวท์เดย์ ต้องตอบด้วยของสีขาวไม่ใช่เหรอ แต่เราหาไม่ทัน”




    แก้มใสระเรื่อขึ้นกว่าเดิมแล้วหลบสายตาของคนตรงหน้า เขาไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าตัวเองจะกล้าทำอะไรแบบนี้..



    “เราก็เลย… ให้ตัวเรา”




    น่ารัก!!



    ความคิดของคนที่ดึงจุนมยอนเข้ามากอดแน่นแล้วฟัดแก้มอย่างหมั่นเขี้ยว…ไม่เจอกันไม่กี่วัน ใครจะคิดว่าคิมจุนมยอนจะทำตัวน่ารักแบบนี้กับเขาได้ขนาดนี้…



    ถ้าไม่ติดว่า หน้าห้องมีคนอยู่เกือบสิบ เขาสาบานได้เลยว่า จะต้องทำให้คิมจุนมยอนเสียใจ ที่พูดอะไรแบบนี้ออกมาแน่ ๆ




    คริสเคยรอคอยให้ไวท์เดย์มาถึงมานับครั้งไม่ถ้วน…

    แต่ตั้งแต่นี้… เขาไม่จำเป็นต้องรอมันอีกแล้ว



    THE END


    ------------------------------------------------------------------------------------------------

    คิดถึงฉันบ้างรึเปล่า คนดีย์ 55555 หายไปนานจุงงงง คิดถึงเราไหม ๆๆๆ
    เขื่อว่าทุกคนบอก คิดถึงคริสโฮมากกว่า 555555555555

    ช่วงนี้งานเยอะ งานยุ่งมาก ๆ ไม่ค่อยมีเวลาเขียน เหนื่อยใจ เหนื่อยกาย เหนื่อยมาก ๆ แต่เราคิดถึงทุก ๆ คนนะคะ
    พูดคุยกับเราได้เสมอที่ @rerenela น้าาา

    มาคุยเยอะ ๆ เดี๋ยวฟิคจะมาเรื่อย ๆ 55

    คิดถึงนะคะ กอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด*

    เกี่ยวกับฟิค... ฟิคหวาน ๆ ตามสัญญาเลยเห็นป่าววว หน่วงตรงไหนน น
    อัพช้าไปอาทิตย์พอดี... ย้อนหลังหนึ่งสัปดาห์ ไม่ว่ากันเนอะ 555

    ติดแทก #krishomol เมื่อพูดถึงฟิคเรื่องนี้ในทวิตเตอร์นะคะ กอดดดดดดดดดดดดดดด**
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×