ย้อนเวลามาเป็น.....หมอเทวดา (จบแล้ว) (เปิดสั่งจองหนังสือ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2561 )
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ กำลังภายใน ผู้แต่ง : matsuiakira41
My.iD :
https://my.dek-d.com/matsuiakira41/writer/
ตอนที่ 118 : ภาค 4 บทที่ 3
ค่ายรักษาสำนักวายุเทพ
ข้างนอกกระโจมรักษาตอนนี้ถูกเพิ่มคนยืนคอยระวังมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อป้องกันเหตุร้ายแรง มีเวรยามคอยเดินตรวจผ่านไปมาทุกหนึ่งชั่วยาม ไม่ว่าใครจะเข้าออกจะต้องถูกคนที่ยืนเฝ้าอยู่ตรวจเข้มทุกราย ไม่มีข้อยกเว้น
“เจ้าฟื้นแล้วเฟยหลง”ฟางเซียนที่นั่งเฝ้าเฟยหลงอยู่นั้นอุทานออกมาด้วยความดีใจ ในที่สุดเฟยหลงก็ฟื้นสักที นางไม่รู้ว่าเฟยหลงได้รับบาดเจ็บตรงไหนเพราะตรวจดูแล้วกลับไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายเลย แต่ไม่รู้ทำไมว่าเฟยหลงถึงไม่ฟื้นสักที นางหวาดกลัวว่าเฟยหลงจะถูกวางยาพิษ
“ตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่หรือฟางเซียน”เฟยหลงสะบัดหน้าของเขาเพื่อเรียกสติ พร้อมกับมองดูรอบๆกระโจมว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง และที่สำคัญเขาอยากพูดคุยกับหญิงสาวลึกลับคนนั้น เพื่อสอบถามเพิ่มเติมอีก
“ตอนนี้ยามอู่(11.00-12.59)แล้ว ว่าแต่เจ้าเป็นยังไงบ้าง ถูกทำร้ายตรงไหน”ฟางเซียนพยุงตัวเฟยหลงขึ้นมาพิงตัวนาง ก่อนจะยืนมือไปหยิบเอายาที่นางต้มไว้ส่งให้เฟยหลงทาน
“เจ้าหมายความว่ายังไง ข้าถูกทำร้าย แล้วยาถ้วยนี้คืออะไรกันฟางเซียน”เฟยหลงมีสีหน้างุนงงกับคำพูดที่เอ่ยออกมาของฟางเซียน เขามองดูถ้วยยาที่นางส่งมาให้อย่างสงสัยว่าทำไมเขาต้องทานยาถ้วยนี้ด้วย
“ก็วันนี้ตอนเช้าเจ้าถูกทำร้ายไม่ใช่หรืออย่างไรเฟยหลง ยาถ้วยนี้เป็นยาบำรุงที่ข้าต้มเอาไว้ ทานสักนิดเถอะนะจะได้ฟื้นฟูร่างกาย”เฟยหลงยกถ้วยยาขึ้นดื่มในครั้งเดียว รสชาติที่ขมติดลิ้นทำเอาเฟยหลงต้องส่ายหน้า พร้อมกับรีบอธิบายให้ฟางเซียนเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ข้าไม่ได้โดนทำร้าย ข้ากำลังฝึกวิชาใหม่นะ ข้าไม่ได้ถูกทำร้ายจริงๆนะฟางเซียน”เฟยหลงเอ่ยย้ำให้ฟางเซียนเข้าใจ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้บ้าง เขายังไม่อยากมีคนมาดูแลเพิ่มเติม แค่ที่มีอยู่เขาก็เหมือนถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา หากมีมาพร้อมอีกต่อไปเขาคงจะทำอะไรลำบาก
“เจ้าไม่ได้ถูกทำร้าย แต่เรื่องที่เกิดขึ้นตอนเช้าคือเจ้าฝึกวิชาใหม่”ฟางเซียนที่ได้ยินคำอธิบายทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่นางก็โล่งอกที่อย่างน้อยเฟยหลงก็ไม่ได้ถูกใครลอบทำร้าย
“ถูกต้อง ข้าแค่ฝึกวิชาใหม่ ว่าแต่มีใครต้มยาไปให้ชาวบ้านหรือยังฟางเซียน”เฟยหลงรีบถามถึงชาวบ้านที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ค่ายว่าได้ทานยาหรือยัง หากว่าทานยาขาดช่วงจะทำให้ชาวบ้านที่นอนรักษาอยู่มีอาการกำเริบได้
“ข้าให้คนเอายาที่เจ้าต้มไว้ไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านทานแล้ว ว่าแต่ตอนนี้เจ้ารู้สึกยังไงบ้างล่ะ เจ็บปวดตรงไหนหรือเปล่า”ฟางเซียนรับถ้วยยาที่เฟยหลงส่งมาให้ พร้อมกับลุกขึ้นปล่อยให้เฟยหลงได้นั่งพักสบายๆ ฟางเซียนมองดุสีหน้าที่ดูผ่อนคลายของเฟยหลง ดูท่าว่าวิชาที่เฟยหลงกำลังฝึกอยู่นั้นคงจะสำเร็จ
“ตอนนี้ข้าไม่เป็นไรแล้ว เจ้าออกไปข้างนอกเถอะ เดี๋ยวข้าขอปรุงยาเตรียมไว้ให้ชาวบ้านทานตอนเย็น”เฟยหลงรีบบอกให้ฟางเซียนออกไปข้างนอก เขาเชื่อว่าถ้าฟางเซียนยังอยู่ภายในกระโจมเยี่ยงนี้ หญิงสาวลึกลับคนนั้นคงจะไม่ยอมออกมาแน่นอน
“ว่าแต่เจ้าจะไม่ให้ข้าช่วยเหลืออะไรหรือยังไง เจ้าจะทำคนเดียวไหวหรือเฟยหลง ให้ข้าอยู่ช่วยดีหรือไม่”เฟยหลงที่ได้ยินฟางเซียนพูดอย่างนั้น รีบส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรข้าว่าข้าทำคนเดียวจะเร็วกว่า อีกอย่างดูท่าว่าเจ้าคงจะไม่ได้นอนมาทั้งคืน ข้าว่าเจ้าไปนอนพักก่อนดีกว่าไหม แล้วพอตื่นเมื่อไหร่เจ้าค่อยมาช่วยงานข้าที่กระโจมก็ได้”ฟางเซียนแม้ว่าจะไม่อยากห่างเฟยหลง แต่นางก็ยอมเดินออกไปข้างนอกแต่โดยดี เพราะนางรับรู้ถึงความเป็นห่วงในคำพูดของเฟยหลงที่มีต่อตัวนาง
“พวกเจ้าคอยเฝ้าท่านหมอให้ดีๆ หากมีอะไรผิดพลาดตรงไหนรีบไปแจ้งข้าทันทีเข้าใจหรือไม่”ฟางเซียนที่เดินออกมาข้างนอก ย้ำกับคนของนางที่คอยเฝ้าหน้ากระโจมรักษาของเฟยหลง ว่าให้คอยดูแลเฟยหลงให้ดี
“เข้าใจขอรับท่านเจ้าสำนัก”ฟางเวียนพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนที่นางจะเดินไปยังกระโจมที่พักของตัวเองที่เจิ้นหู่ได้สร้างเอาไว้ไม่ห่างไกลจากกระโจมรักษาของเฟยหลงมากนัก
หอเมี่ยวจง
“ท่านรองแม่ทัพ ข้ารู้วิธีเปิดแล้วขอรับว่าทำยังไง แจกันนี้ต้องเป็นกุญแจที่ใช้เปิดทางลับแน่นอนขอรับ เพราะข้าไม่สามารถยกขยับมันได้เลย”หนีหวงที่ได้ยินว่าหาทางเปิดช่องลับเจอแล้ว รีบเดินเข้าไปดูพร้อมกับพยักหน้าบอกให้ทุกคนเตรียมพร้อมเข้าสำรวจข้างในกันได้แล้ว หนีหวงขยับแจกันที่วางอยู่บนตู้หมุนไปทางขวาอย่างช้าๆ ประตูทางเข้าค่อยๆเลื่อนเปิดออกมาให้ทุกคนได้เห็นว่า เปิดทางลงบันไดลงไปข้างล่าง
“ฮุ่ยเหยาเจ้านำคนของเราเข้าไปสำรวจข้างใน ส่วนคนอื่นๆเดี๋ยวตามข้ากลับไปที่ค่ายทหาร”หนีหวงมอบหน้าที่การสำรวจข้างในทางลับให้เป็นหน้าที่ของฮุ่ยเหยาและพรรคพวกที่เหลืออยู่ นางเชื่อว่าทุกอย่างข้างในนั้นย่อมไม่สามารถตบตาพวกฮุ่ยเหยาได้
“ขอรับท่านรองแม่ทัพ”ฮุ่ยเหยาประสานมือขึ้นรับคำสั่งของหนีหวง เขาหันไปสั่งให้คนที่จะเข้าไปข้างในกับเขารีบหาตะเกียงไฟ เพื่อเป็นแสงสว่างคอยส่องทางเวลาเดิน
“เสี่ยวหนิงเดี๋ยวเจ้ากับคนที่เหลือคอยเฝ้าข้างหน้าทางเข้าไว้ให้ดี รอจนกว่าพวกฮุ่ยเหยากลับมา”หนีหวงหันไปสั่งเสี่ยวหนิงให้คอยเฝ้าข้างหน้าทางเข้าให้ดีๆ นางกลัวว่าหากไม่มีคนอยู่เฝ้าแล้วถ้าคนพวกนั้นย้อนกกลับมาที่หอเมี่ยวจง จะทำให้พวกฮุ่ยเหยาที่เข้าไปสำรวจข้างในได้รับอันตราย
“เจ้าค่ะท่านรองแม่ทัพ”
ค่ายรักษาสำนักวายุเทพ
“แม่นาง ท่านอยู่หรือไม่”เฟยหลงที่เห็นว่าภายในกระโจมไม่มีใครอยู่แล้ว พูดขึ้นมาเบาๆด้วยกลัวว่าคนที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกนั้นจะได้ยิน และสงสัยว่าเขาร้องเรียกหาผู้ใด
“ข้าอยู่นี้ เรียกเตาปรุงยาเพลิงโลกันต์ออกมาได้แล้ว”เฟยหลงหันไปมองหญิงสาวที่ปรากฏตัวออกมาแล้ว เมื่อได้ยินที่นางบอกเฟยหลงรีบหลับตาพร้อมกับเรียกเอาเตาปรุงยาเพลิงโลกันต์ออกมา
“......”เฟยหลงที่ลืมตาขึ้นมาต้องแปลกใจ เมื่อตอนนี้หญิงสาวไม่ได้ใช้ใบหน้าเดิมที่เขาเคยเห็นมาตลอด การได้เห็นหญิงสาวที่มีใบหน้าคล้ายกับเพื่อนสนิททำเอาเฟยหลง อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเพื่อนสนิท
“เฟยหลง หากเจ้าไม่หยุดมองข้าแบบนี้ งานของเราจะยิ่งช้าขึ้นไปอีกนะ”หญิงสาวรีบเอ่ยเตือนสติเฟยหลง นางอดคิดไม่ได้ว่าคนที่เฟยหลงบอกว่าหน้าคล้ายนางนั้นเป็นอะไรกับเฟยหลง เพราะนี้สองครั้งแล้วที่เฟยหลงมีท่าทางแปลกไป
เฟยหลงรีบหลับตาลงเพื่อเตือนสติตัวเอง ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นไม่ใช่คนที่เขาคิด “ขอรับ จะให้ข้าทำอะไรต่อท่านบอกข้าได้เลยแม่นาง”เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแววตาของเฟยหลงไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้ เขาพร้อมที่จะทำตามทุกอย่างที่นางบอก
“เอาดอกน้ำค้างแสงดาวที่เก็บมาออกมาจากกล่องไม้”เฟยหลงรีบเรียกเขากล่องไม้ที่เก็บดอกน้ำค้างแสงดาวออกมาวางไว้บนโต๊ะ พร้อมกับยืนนิ่งประสานมือรอว่านางต้องการอะไรอีก
หญิงสาวค่อยๆเปิดกล่องไม้ที่เก็บดอกน้ำค้างแสงดาว นางใช้ลมปราณเข้าไปตรวจสอบดูว่าตอนนี้ดอกน้ำค้างแสงดาวเหมาะสำหรับที่จะนำมาปรุงยาได้แล้วหรือยัง
“เฟยหลงเจ้าใช้ไฟลมปราณของเจ้าจุดเตาได้แล้ว”หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสั่งให้เฟยหลงจุดไฟเตาปรุงยาเพลิงโลกันต์ด้วยลมปราณได้แล้ว
“ขอรับ”เฟยหลงรีบรอบรวมลมปราณไว้ในมือก่อนจะส่งมันต่อไปยังเตาปรุงยา การจุดไฟด้วยลมปราณครั้งนี้ช่างแตกต่างกับก่อนหน้าที่เขาเคยทำมาก่อน เพราะเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นก็สำเร็จ
“เจ้าตอนคอยควบคุมไฟที่ใช้ให้ดีๆเข้าใจหรือไม่”เฟยหลงพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวบอก เขารีบตั้งสมาธิให้มั่นคอยควบควบไม่ให้ไฟลมปราณของเขาแรงเกินไป
“เอาล่ะดีมาก เจ้าค่อยใช้ลมปราณส่งต้นกู๋เซิงเข้าไปข้างในเตาปรุงยา ช้าๆ”หญิงสาวส่งต้นกู๋เซิงที่หั่นไว้แล้วให้เฟยหลงบังคับให้มันลอยไปที่เตาปรุงยาเพลิงโลกันต์ นางพยักหน้าอย่างพอใจกับลมปราณที่เฟยหลงคอยควบคุมบังคับอยู่
“ดีมาก ระหว่างนี้เจ้าจงเร่งไฟลมปราณของเจ้าขึ้นมา รอจนมีกลิ่นหอมอ่อนๆของต้นกู๋เซิงออกมา”หญิงสาวรีบจัดเตรียมสมุนไพรที่นางสั่งให้เฟยหลงไปเก็บมาเมื่อวานออกมาวางเตรียมเอาไว้
เฟยหลงควบคุมการส่งสมุนไพรเข้าไปในเตาปรุงยาตามคำบอกของหญิงสาว เฟยหลงไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้การปรุงยาของเขาเริ่มเปลี่ยนไปจากตอนแรกที่ยังเชื่องช้าอยู่นั้น ตอนนี้เฟยหลงกลับค่อยๆควบคุมจังหวะการใช้ไฟและส่งสมุนไพรเข้าไปข้างในเตาปรุงยาได้
“เอาล่ะคราวนี้เจ้าต้องควบคุมสมาธิของตนไว้ให้ดีๆ”เฟยหลงรู้ดีว่าความหมายที่หญิงสาวพูดออกกมานั้นคืออะไร เมื่อตอนนี้ถึงขั้นตอนสำคัญที่สุดในการปรุงยาแล้ว เหลือเพียงดอกน้ำค้างแสงดาวเท่านั้น
“เฟยหลงใช้ลมปราณของเจ้าคอยๆหลอมรวมทุกอย่างเข้าหากัน อย่างเร่งจนเกินไปและอย่าให้ช้าเกินไป มันจะทำให้ฤทธิ์ของดอกน้ำค้างแสงดาวเสียได้”หญิงสาวหันไปมองดูการทำงานของเตาปรุงยารีบเอ่ยเตือนเฟยหลง อีกนิดก็จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
“ดีมากอย่างนั้นแหละเฟยหลง”หญิงสาวเฝ้ามองดูสมุนไพรทั้งหมดที่กำลังจับกลุ่มก้อนเป็นตัวยา เม็ดที่หนึ่งผ่านไปเม็ดที่สองตามมาอย่างช้าๆ นางเชื่อว่าหากเวลานี้เฟยหลิวได้มาเห็นความก้าวหน้าของศิษย์เอกของเขา เฟยหลิวคงภูมิใจในตัวเฟยหลงเป็นอย่างมาก เพราะตอนนี้เฟยหลงได้ก้าวข้ามเขาไปข้างหน้าอีกหนึ่งขั้นแล้ว
...................................................................................................................................................................
8 ความคิดเห็น