ย้อนเวลามาเป็น.....หมอเทวดา (จบแล้ว) (เปิดสั่งจองหนังสือ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2561 )
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ กำลังภายใน ผู้แต่ง : matsuiakira41
My.iD :
https://my.dek-d.com/matsuiakira41/writer/
ตอนที่ 88 : ภาค 3 บทที่ 12
ยามเช้ามาเยือนพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง เช้าวันนี้หลังจากตื่นขึ้นมาฟางเซียนได้รับรู้ว่าลมปราณของตัวนางเองได้เพิ่มมากขึ้น โดยที่นางไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง เมื่อคืนที่ผ่านนั้นนางหลับไปหลังจากทานยาที่เฟยหลงได้สั่งให้เจิ้นหู่ไปต้ม และไหนจะความทรมานจากพิษที่กำเริบทำให้หมดแรง จึงทำให้นางหลับสนิท
“ตื่นแล้วเหรอฟางเซียน รู้สึกยังไงบ้าง”เฟยหลงที่เดินกลับมาจากล้างหน้าเห็นฟางเซียนตื่นแล้วจึงรีบเดินเข้ามาหาเพื่อตรวจอาการ ว่าเป็นยังไงบ้าง หากว่าฟางเซียนยังไม่ดีขึ้นการเดินทางวันนี้อาจต้องพักเอาไว้ก่อน เพื่อรอให้ฟางเซียนพร้อมสำหรับการเดินทาง
“เฟยหลง”ฟางเซียนมองดูหลานชายของนางที่กำลังจับแขนนางตรวจชีพจรอยู่ หากว่านางไม่ได้พบเฟยหลง นางคงต้องตายอย่างที่คนพวกนั้นต้องการ
“เป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นหรือไม่”
“ข้ารู้สึกเหมือนลมปราณตัวเองเพิ่มขึ้นเลยเฟยหลง เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น”เฟยหลงที่ได้ยินคำถามของฟางเซียนนั้น ลอบยิ้มออกมาถ้าลมปราณนางไม่เพิ่มอันนี้สิถึงจะเป็นปัญหา แสดงว่ายาที่เขาทำนั้นมันใช้ไม่ได้ผล
“เจ้าจำได้ไหมว่าเมื่อคืนนี้ข้าฝั่งเข้มให้เจ้า นั้นล่ะคือสาเหตุที่ทำให้ลมปราณของเจ้าเพิ่มขึ้นเพราะข้าได้ฝั่งเข็มขยายเส้นลมปราณที่เคยติดขัดของเจ้าด้วย ทำให้ลมปราณที่เคยติดขัดอยู่นั้น เมื่อไม่มีอะไรขวางกั้นเอาไว้ จึงทำให้ลมปราณของเจ้าเพิ่มขึ้นอย่างที่เห็น”เฟยหลงตีสีหน้าจริงจังอธิบายให้ฟางเซียนเข้าใจ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลมปราณของนาง ซึ่งเขาเชื่อว่านางต้องไม่สงสัย หากนางสงสัยเขาก็มีตำราเตรียมเอาไว้ให้นางอ่านดู ว่าในอดีตเคยมีการเพิ่มลมปราณอย่างนี้ด้วยไม่ใช่แค่กินยาเท่านั้น
“แล้วนี้ว่าแต่หลิวเมิ่งกับเจิ้นหู่ไปไหน ทำไมเหลือแค่พวกเราแค่สามคน”ฟางเซียนพยักหน้าลงอย่างเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พลางถามเฟยหลงถึงเจิ้นหู่กับหลิวเมิ่ง
“อ้อ สองคนนั้นบอกว่าจะออกไปล่าสัตว์มาเตรียมทำอาหารเช้าให้พวกเราทาน ข้าว่าตอนนี้ไหนๆเจ้าก็ตื่นแล้ว ลองฝึกควบคุมลมปราณดีกว่ามั้ย ถ้าหากมีอะไรติดขัดตรงไหนข้าจะได้รักษา”ถึงแม้ว่าเมื่อคืนนี้เขาจะช่วยให้ปรับลมปราณให้ฟางเซียนแล้ว แต่ถ้าจะให้ดีเขาอยากให้ฟางเซียนได้ปรับตัวกับการเพิ่มขึ้นของลมปราณ
“เอาอย่างนั้นก็ได้”ฟางเซียนรีบนั่งสมาธิเตรียมพร้อมกับการฝึกลมปราณ ความรู้สึกของนางมีแต่ความยินดีในการก้าวหน้าอีกหนึ่งขั้นของตัวเอง และที่สำคัญนางอยากตรวจดูให้แน่ใจด้วยว่าระดับลมปราณของนางตอนนี้เพิ่มไปถึงขั้นไหนแล้ว
“เฟยหลง”เสียงเรียกชื่อเขาจากหนีหวงทำให้เฟยหลงรีบเดินเข้าไปหา ว่ามีอะไรหรือเปล่า
“ข้ารู้สึกว่าลมปราณของข้าเพิ่มมาถึงแตะถึงระดับกลางของขั้นดำแล้ว”หนีหวงกระซิบให้เฟยหลงได้ฟังว่าผลของการปรับระดับของลมปราณนางหลังจากทานยาว่าอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ หนีหวงหันไปมองฟางเซียนที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ นางเชื่อว่าระดับของฟางเซียนต้องไม่น้อยหน้าไปกว่าของตน
“ดีแล้ว เดี๋ยวข้าจะไปรินน้ำชามาให้เจ้าบ้วนปาก”เฟยหลงพยักหน้าอย่างพอใจกับความก้าวหน้าของหนีหวง พร้อมกับลุกขึ้นไปรินน้ำชามาให้หนีหวงได้บ้วนปาก มือหนึ่งถือถ้วยน้ำชาอีกข้างมีผ้าที่ชุบน้ำเตรียมมาด้วยเพื่อให้หนีหวงได้เช็ดใบหน้า
“ขอบใจเจ้ามาเฟยหลง”หนีหวงรับถ้วยน้ำชาที่เฟยหลงส่งมาให้ พร้อมกับผ้ามาถือเอาไว้ ก่อนลุกขึ้นเดินไปข้างหลังของต้นไม้เพื่อจัดการตัวเองให้เรียบร้อย
สามวันผ่านไปแล้วตอนนี้คณะเดินทางของเฟยหลงทั้งห้าได้เดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหากเจอหมู่บ้านเฟยหลงยังแวะเข้าไปเปิดโต๊ะรักษาเหมือนอย่างที่เคยทำมา ถึงแม้จะไม่มีใครกล้ามารักษากับเขาเลยก็ตาม
“เฟยหลงต้องเจออย่างนี้ตลอดเลยหรือฟางเซียน”เมื่อเห็นว่าเจิ้นหู่เดินเข้ามาใกล้หนีหวงจึงเอ่ยถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านาง เฟยหลงที่นั่งอยู่กลางลานหมู่บ้านอย่าโดดเดี่ยว ทั้งที่อยู่เมืองเยี่ยนมีผู้คนมากมายเดินทางมารักษากับเฟยหลงในแต่ล่ะวันจนไม่มีวันได้หยุดพัก แต่ตอนนี้กลับมีแต่คนเดินผ่านไปมา
“ถูกต้องแล้วขอรับแม่นางหนีหวง ท่านหมอเจออย่างนี้มาตลอดเวลา”เจิ้นหู่บอกให้หนีหวงรู้นับตั้งแต่วันแรกที่เขาได้เห็นท่านหมอทำอย่างนี้ แต่ท่านหมอกลับไม่เคยยอมแพ้เลยสักครั้ง
“แล้วนี้เมื่อไหร่ฟางเซียนกับหลิวเมิ่งจะกลับมาสักที”หนีหวงถามถึงอีกสองคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตอนนี้
“อีกหนึ่งชั่วยามขอรับ น่าจะพอดีกับเวลาที่พวกเราต้องออกเดินทางต่อ ว่าแต่เจ้าเถอะพบอะไรผิดสังเกตหรือไม่”หนีหวงหันมองดูรอบหมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อตรวจสอบว่าไม่ได้มีทหารปะปนอยู่
“ไม่มีขอรับแม่นางหนีหวง”เจิ้นหู่รีบบอกให้หญิงสาวที่ยืนข้างๆเขารู้ ว่าการเดินตรวจรอบๆหมู่บ้านเป็นยังไง
“ท่านหมอข้าขอยาไปรักษามารดาข้าเถอะขอรับ แล้วข้าจะรีบหาเงินมาจ่ายค่ายาให้ท่านโดยเร็ว”เสียงร้องของเด็กชายที่เบื้องหลัง ทำให้หนีหวงรีบหันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไสหัวไปซะเจ้าเด็กเหลือขอ อย่ามาบังร้านหมอของข้า”ชายวัยกลางคนผู้ถูกเรียกว่าท่านหมอสะบัดข้อเท้าของตนให้หลุดจากการเกาะกลุ่มของเด็กชาย เมื่อหลุดแล้วเขาจึงรีบเดินเข้าไปข้างใน ปิดประตูไม่สนใจเสียงร้องที่ให้ไปรักษามารดา
“เจิ้นหู่เจ้าไปบอกเฟยหลงว่าให้มาตรงนี้”หนีหวงหันไปบอกเจิ้นหู่ให้รีบไปตามเฟยหลง ก่อนที่นางจะเดินตรงไปหาเด็กชายคนนั้นเพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“เด็กน้อย หยุดร้องให้เถอะ บอกข้ามาว่าตอนนี้มารดาเจ้าอยู่ที่ไหน เดี๋ยวข้าจะพาหมอไปรักษานาง”เสียงของหนีหวงเปรียบเสมือนดังแสงสว่าง ทำให้เด็กชายที่กำลังร้องให้อยู่นั้นหันมามอง
“มารดาข้าอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านขอรับแม่นาง ท่านจะช่วยรักษามารดาข้าจริงๆนะขอรับ”หนีหวงมองดูมือของนางที่ถูกจับด้วยรอยยิ้ม นางเข้าใจดีความรู้สึกที่บุคคลอันเป็นที่รักเจ็บป่วยนั้นมันทรมานแค่ไหน
“ข้าสัญญาว่าหมอที่ข้าพามานั้น ต้องรักษามารดาของเจ้าได้”หนีหวงลูบหัวปลอบเด็กชายที่ร้องไห้ หนีหวงหันไปมองข้างหลังของนางที่มีเฟยหลงรีบวิ่งมาตรงนี้
“หนีหวง เกิดอะไรขึ้น”เมื่อครู่นี้อยู่ดีๆก็ถูกเจิ้นหู่เดินเข้าไปบอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับหนีหวง เฟยหลงจึงรีบมาเขากลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงกับนาง
“ไม่มีอะไร แต่พอดีมารดาของเด็กน้อยคนนี้ป่วย ข้าจึงให้เจิ้นหู่ไปตามเจ้ามา”หนีหวงรีบอธิบายให้เฟยหลงเข้าใจเรื่องราวในตอนนี้ พลางส่งเด็กชายที่กุมมือนางอยู่ให้ลุกขึ้นยืน
“แล้วมารดาเจ้าอยู่ไหนล่ะพาข้าไปเร็ว ข้าจะได้รีบรักษามารดาของเจ้าให้หาย”เฟยหลงก้มลงมาพูดคุยกับเด็กน้อยตรงหน้า เขาไม่รู้หรอกว่าเด็กตรงหน้าจะคิดว่ายังไง แต่เขาไม่คิดจะทอดทิ้งคนที่กำลังเจ็บป่วยอยู่
“บ้านของข้าอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านขอรับ ท่านเป็นหมอจริงๆหรือขอรับ”หนีหวงหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อได้ยินในสิ่งที่เด็กน้อยเอ่ยถามเฟยหลง
“ถูกต้องแล้ว ข้าเป็นหมอ และตอนนี้ข้ากำลังจะไปบ้านของเจ้าเพื่อรักษามารดาของเจ้า”
“เรียนท่านเจ้าสำนัก หัวหน้าหน่วยจันทราให้ข้าส่งจดหมายมาให้ท่านเจ้าสำนักด่วนขอรับ”ฟางเซียนรับจดหมายมาเปิดอ่านทันที นางอยากรู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างในสำนักตอนนี้
“บอกนางด้วยว่าให้ระวังตัวให้ดี ห้ามแหวกหญ้าให้งูตื่นเป็นอันขาด”เมื่ออ่านจดหมายจบแล้ว ฟางเซียนจึงได้ฝากข้อความของนางไปกำชับไม่ให้ซู่เม่ยและหลวนคุนทำอะไรผิดสังเกต จนทำให้อีกฝั่งรู้ตัวว่าตอนนี้นางไม่ใช่ไก่ในกำมือของอีกฝ่ายแล้ว
“ขอรับท่านเจ้าสำนัก”
“แล้วสมุนไพรที่ข้าสั่งให้หามาล่ะ อยู่ที่ใด”ฟางเซียนรีบถามหาสมุนไพร ตอนนี้ครบสามวันอย่างที่นางบอกเฟยหลงแล้วด้วย อันที่จริงหน้าที่นี้ควรเป็นเจิ้นหู่ที่มารับเองก็ได้ แต่นางอยากตรวจดูว่าสมุนไพรที่สั่งนั้นมีสภาพเป็นยังไง
“อยู่ในตะกร้าขอรับท่านเจ้าสำนัก”ฟางเซียนรีบเดินเข้าไปตรวจดูว่า มีไม่มีสมุนไพรตัวไหนผิดพลาด
“ดีมาก แล้วเรื่องที่สำนักกระบี่เทียนจงอยากพบข้านั้น บอกให้ซู่เม่ยนัดวันเวลาหลังจากพวกข้าจบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองชิงอันก่อน”ฟางเซียนพยักหน้าอย่างพอใจเมื่อเห็นสมุนไพรในตะกร้า พร้อมกับคิดถึงข้อความที่ซู่เม่ยส่งมาเรื่องเจ้าสำนักกระบี่เทียนจงต้องการพบนาง
“ขอรับท่านเจ้าสำนัก แล้วเรื่องรองเจ้าสำนักล่ะขอรับ จะให้พวกข้าลงมือเมื่อไหร่”
“อีกไม่นาน ข้าสัญญาว่าเจ้าจะได้จัดการพวกมันแน่นอน”ฟางเซียนเข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มตรงหน้า เมื่อคนที่ได้จากไปในครานั้นมีความสำคัญกับหน่วยนี้เพียงใด ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งน้องเล็กของกลุ่ม
“ข้าจะรอวันนั้นขอรับท่านเจ้าสำนัก”
..........................................................................................................................
มาแล้วค่ะ ช่วงนี้ฝนตกบ่อย อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
4 ความคิดเห็น