09057769646
ดู Blog ทั้งหมด

พระธาตุที่ ถูกลืมในจังหวัดหนองคาย

เขียนโดย 09057769646
ในจังหวัดหนองคายมีพระธาตุ ที่สร้างในสมัยลานช้าง ที่ไม่ได้รับการดูแล เท่าที่ควรหรือถูกลืมไป 80 พระธาตุ และข้อมูล ณ ที่นี่เป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งที่นำมาเท่านั้น

๑.เจดีย์พระธาตุโพนจิกเวียงงัว





สถานที่ตั้ง  เจดีย์พระธาตุโพนจิกเวียงงัว
ประดิษฐานอยู่ในวัดพระตุบุ หมู่ 3 บ้านโคกป่าฝาง ตำบลปะโค อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ห่างจากตัวเมืองหนองคาย ไปตามถนนแก้ววรวุฒิ (หนองคาย - ท่าบ่อ)
๑๐ กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายมือเข้าไปในวัดฯอีกประมาณ ๒ กิโลเมตร
ประวัติความเป็นมา
จากตำนานอุรังคธาตุ และตำนานการสร้างเจดีย์พระธาตุบังพวนได้กล่าวว่า พระอรหันต์ทั้ง ๘ อัน ประกอบด้วย พระพุทธรักขิต พระธรรมรักขิต และพระสังฆรักขิต พร้อมด้วยพระมหารัตนเถระ พระจุลรัตนเถระ พระมหาสุวรรณปราสาทเถระ พระจุลสุวรรณปราสาทเถระ และพระสังขวิชัยเถระ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จำนวน ๔๕ องค์ จากประเทศอินเดีย มาประดิษฐานในแถบลุ่มแม่น้ำโขง ดังนี้
อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุหัวเหน่า จำนวน ๒๙ องค์ ประดิษฐานในเจดีย์พระธาตุบังพวน
อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระบาทก้ำขวา จำนวน ๙ องค์ ประดิษฐานพระธาตุเมืองหล้าหนอง (พระธาตุกลางน้ำปัจจุบัน)
อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวฝาง จำนวน ๔ องค์ ประดิษฐานในเจดีย์พระธาตุโพนจิกเวียงงัว
และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยงฝาง จำนวน ๔ องค์ ประดิษฐานในเจดีย์พระธาตุหอผ้าหอแพ ที่เมืองซายฟอง กำแพงนครเวียงจันทร์ ปัจจุบัน


๒.โบราณสถานวัดเทพพลประดิษฐาราม (บ้านเวียงคุก)

สถานที่ตั้ง โบราณสถานวัดเทพพลประดิษฐาราม
อยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านเวียงคุกใต้ หมู่ที่ ๒ ตำบลเวียงคุก อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
ประวัติความเป็นมา
เป็นวัดเก่าแก่ ถูกสร้างขึ้น ในราวพุทธศตวรรณที่ ๒๒-๒๓ สมัยวัฒนธรรมลานช้าง(สมัยพระเจ้าอนุรุทราช ที่ครองเมืองเวียงจันทร์ องค์สุดท้าย) ครั้นต่อมา หมื่นกลางโฮงจากเมืองสาเกตุนคร ได้มาสร้างแปลงเมืองแถบนี้และได้ปฏิสังขรณ์เป็นที่พักอาศัยของพระสงฆ์ สามเณร หลังจากที่เมืองเวียงคุกถูกยุบให้เป็นหมู่บ้าน ก็ไม่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่อีกเลย จนถึง พ.ศ ๒๕๓๖ กรมศิลปกรได้รับมอบหมายให้บริษัทยอดนภศูล มาทำการบูรณะให้มั่นคง
หลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญในวัดเทพพลประดิษฐาราม
มีพระธาตุ ๒ องค์ มีรูปทรงคล้ายคลึงกันและตั้งอยูใกล้เคียงกัน รูปแบบเป็นสถาปัตยกรรมผสม ระหว่างล้านนากับล้านช้างสมัยก่อน


**พระธาตุที่คล้ายคลึงและตั้งอยู่ใกล้กัน ในวัด
เทพพลประดิษฐาราม


๓. โบราณสถานวัดยอดแก้ว วนาราม (บ้านเวียงคุก)



สถานที่ตั้ง
ตำบลเวียงคุก อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย อยู่ทิศทางตะวันตกของบ้านเวียงคุก
ประวัติความเป็นมา
เป็นวัดเก่าแก่ ที่ยังปรากฏวากโบราณสถานและโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บ้านเวียงคุก เป็นบริเวณแหล่งชุมชนโบราณแห่งหนึ่งลุ่มแม่น้ำโขง ที่มีความเป็นเจริญรุ่งเรืองในสมัยพระไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง (พ.ศ ๒๐๙๑ - ๒๑๑๔)จนถึงสมัยรัชกาลพระเจ้าสิริบุญสาร (มหาบุญชัยเชษฐาธิราช)ที่ทรงพ่ายแพ้แก่กองทัพสยาม ในสมัยกรุงธนบุรี อันได้แก่จังหวัดในประเทศไทยที่ลงท้ายด้วยบุรี ในปัจจุบัน

๔.โบราณสถาน พระพุทธบาทคอเเก้ง (เวินกุ่มหรือโคกซวก)



สถานที่ตั้ง
วัดพุทธบาท บ้านพระพุทธบาท ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ห่างจากจังหวัดหนองคาย ไปตามถนนทางจังหวัด หมายเลข ๒๑๒ ไปทางจังหวัดเลย ระยะทาง ๕๓ กิโลเมตร
ประวัติความเป็นมา
วัดพระพุทธบาท สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ ๒๒๑๕ โดยมีนายอุ่น เป็นผู้พบรอยพระพุทธบาทแล้วชักชวนชาวบ้านสร้างเพิงหลังคาครอบรอยพระพุทธบาท ครั้นต่อมาชาวลาวเวียงจันทร์ ในสมัยเจ้าเพชราชได้ ส่งสามเณรสมเด็จลุนและแม่ชีจันทร์ มาอุปถัมภ์รอยพระพุทธบาท สร้างเสนาสนเพิ่มเติม ต่อมามีตาปะขาวคนหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าพ่อเฒ่าหลวงแก้ว นุ่งขาวห่มขาว มาสร้างวิหารครอบรอยพระพุทธไว้ ต่อมาเกิดฟ้าผ่าลงมายังวิหารและรอยพระพุทธบาท เป็นรอยเหมือนกับมีคนเอาจอบไปสับลงข้างเดียว ๒ รอยติดกัน ต่อมาพระศรีทัต หรือชาวบ้านเรียกว่า ญาท่านศรีทัต ได้มาสร้างเจดีย์ใหญ่ครอบรอบพระพุทธบาท ตามแบบอย่างพระพุทธบาท ๓ แห่งที่เคยสร้างมา คือพระบาทโพนฉัน ในประเทศลาว พระบาทบ้านติ้วหรือพระพุทธบาทบัวบก ในอำเภอบ้านผือ และพระพุทธบาทในวัดนครพนม พระพุทธบาทคอแก้งเป็นแห่งที่ ๔ เป็นแห่งสุดท้ายที่ท่านสร้าง ครั้นต่อมา พระปิยะพงษ์ อารุณโณ เจ้าอาวาสได้มาบูรณะครั้งใหญ่ได้สร้างมณฑปครอบเหมือนพระพุทธบาทสระบุรี
v
v
v
v
 
โดย...
หน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย
และ โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร
v
v
v
v
เก็บตกที่เห
ลือ ภาพถ่ายไม่ค่อยสวย ต้องขออภัยด้วยนะจร้า


ณ โบราณสถานวัดยอดแก้ว วนาราม (บ้านเวียงคุก)







ณ วัดพระพุทธบาทคอแก้ง








## เจ้าต้นนี้ คือต้นสาระ ดอกหอมมากๆ ครูบอกว่าใครไม่มีสาระให้มาดูเจ้าต้นนี้ไว้ซะ จะได้มีสาระกับเค้าบ้าง

ณ 
เจดีย์พระธาตุโพนจิกเวียงงัว












ณ โบราณสถานวัดเทพพลประดิษฐาราม



















ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาดูเข้ามาอ่าน ขอขอบพระคุณอย่างสูง (-/\-)


 
 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น