ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ZOMBIES HARD CREEPER | KAIHUN CHANBAEK FT.EXO

    ลำดับตอนที่ #77 : Chapter 72 :: One Shot (Part 1)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.84K
      71
      27 พ.ย. 57

    ? Tenpoints!

     

     

     

    Chapter 72

    One Shot (Part 1)

     

     

     

    นี่

    มินซอกเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา ทั้งคู่สบตากันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรต่อแม้กระทั่งคนที่เริ่มเป็นฝ่ายเข้าหาอย่างแบคฮยอน เด็กหนุ่มยิ้มเจื่อน ๆ เมื่อคนตรงหน้าแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าไม่ได้อยากคุยด้วย ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

    แบคฮยอนนั่งลงบนม้านั่งไม้ข้างคนที่กำลังนั่งถักนิตติ้งอยู่ เขาเว้นระยะห่างไว้พอสมควร ซึ่งมันก็ดีเหมือนกันที่มินซอกวางของคั่นเอาไว้อยู่แล้วก่อนหน้านี้ เด็กหนุ่มถอนหายใจพรูเพื่อรวบรวมความกล้า ถูกต้องแล้ว ทุกครั้งที่แบคฮยอนพยายามเข้าหามินซอกมันต้องใช้ความกล้าพอสมควร

    ถักให้ใครเหรอ

    อึนจี

    ...

    แบคฮยอนชะงักไปทันทีขณะที่คนข้าง ๆ ยังคงสนใจอยู่กับไหมพรมในมือ เด็กหนุ่มกำลังกดดันกับความอึดอัดที่แทรกตัวเข้ามาทุกจังหวะหายใจ ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องพยายามเข้าหาคน ๆ นี้ทั้งที่อีกฝ่ายก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการผูกมิตรกับเขา ก็คงตอบง่าย ๆ ว่าบยอนแบคฮยอนไม่อยากเป็นคนแปลกหน้าสำหรับคิมมินซอกเพียงแค่มีเรื่องไม่เข้าใจกัน

    การที่ต่างคนต่างอยู่เหมือนอย่างที่คนอื่น ๆ เป็นมันก็ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดีในความคิดของเขา ทุกคนที่นี่ไม่ได้สนิทกัน แต่ละคนเลือกปฏิบัติกับคนที่เขาพอใจ สังเกตได้ง่าย ๆ เช่นลู่หานกับจงอิน และลู่หานกับชานยอล

    ฉันว่าเธอต้องชอบแน่ ๆ

    นายรู้ด้วยเหรอว่าคนที่ตายแล้วจะคิดยังไง

    เป็นอีกครั้งที่จุกกับคำพูดของคนข้าง ๆ ถ้ามีใครสักคนยืนอยู่ตรงนี้เขาคงถูกตะโกนใส่หน้าว่าไอ้โง่ เวลาไม่กี่วิที่ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ราวกับเป็นตัวเลือกให้แบคฮยอนหยุดความตั้งใจแล้วเดินออกไปจากตรงนี้ซะ ถ้าทำแบบนั้นแน่นอนว่าทุกอย่างมันจะต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ใช่ว่าการที่เขาพยายามอยู่มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากไปกว่านี้ อย่างเก่งก็ทำได้แค่ให้มินซอกหันมามองเขาด้วยแววตาที่เอาไว้มองคนแปลกหน้าเท่านั้นแหละ แบคฮยอนใช้เวลาตั้งหลักใหม่อยู่ราว ๆ หนึ่งนาที มันไม่มากและไม่น้อยเกินไปสำหรับคนที่เอาแต่สนใจอยู่กับไหมพรม

    ฉันไม่รู้หรอก มือของมินซอกหยุดไป เขาเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบว่าแบคฮยอนเองกำลังจ้องหน้าเขาอยู่แต่ถ้าฉันเป็นอึนจีก็คงดีใจแน่ ๆ

    เหรอ นายยังไม่รู้จักยัยนั่นดีเลยด้วยซ้ำ

    ...

    ผู้หญิงอย่างจองอึนจีไม่ชอบอะไรแบบนี้หรอก พูดจบก็ก้มหน้าลง แต่คราวนี้แบคฮยอนกลับไม่รู้สึกโกรธคนข้าง ๆ เลยสักนิดที่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแบบนี้กับเขา

    ...มินซอกเบิกตาโพลงเมื่อจู่ ๆ คนข้าง ๆ ก็เข้ามากอดเขาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว มันคือสิ่งที่เด็กหนุ่มไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น หรือจริง ๆ แล้วเขาเคยคิดว่ามันเป็นสิ่งที่แบคฮยอนคงไม่กล้าทำ รู้สึกได้ถึงใบหน้าของใครอีกคนที่ทาบลงกับไหล่ วงแขนนี้กระชับกอดแน่นยิ่งขึ้นราวกับจะบอกว่าบยอนแบคฮยอนก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้ไม่ต่างจากเขาเลย

    ใช่ ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอึนจีเลยสักอย่าง แบคฮยอนเองก็ตกใจกับสิ่งที่เขากำลังทำลงไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดที่จะผละออก สิ่งที่ทำอยู่เหมือนกับเชือกที่เขาพยายามผูกมินซอกเอาไว้ไม่ให้เดินหนีไปเหมือนกับทุกครั้งนายคงโกรธฉันเหมือนกับที่เทาโกรธ

    ...

    นายจะเกลียดฉันมากกว่าเดิมเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่ามินซอก?

    คนถูกถามนิ่งไป เขาไม่ได้หันเข้าหาอีกฝ่ายเพื่อดูว่าตอนนี้บยอนแบคฮยอนกำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่ และมันคงเดาไม่ยากนัก ฉันไม่เคยพูดว่าเกลียดนาย

    ไม่เคยพูด...แต่เคยคิดใช่ไหม

    คิดว่าฉันจะตอบในสิ่งที่นายอยากได้ยินงั้นเหรอ

    ใช่ ฉันกำลังหวังอย่างนั้น หวังว่านายจะตอบว่าไม่

    ไร้สาระน่ะ ปล่อยได้แล้ว เด็กหนุ่มแกะมืออีกคนออกแต่แบคฮยอนกลับกระชับกอดแน่นยิ่งขึ้น

    มินซอกจงใจให้คนข้าง ๆ ได้ยินเสียงถอนหายใจของเขา บยอนแบคฮยอนไม่เคยเหนื่อยที่ต้องพยายามเข้าหาคนที่จูนกันไม่ติดหรือไง ขนาดเขาเองยังรู้สึกเหนื่อยแทน มันอึดอัดน่ารำคาญไปหมด แม้กระทั่งการโต้ตอบบทสนทนาอย่างเมื่อครู่นี้ ทำไมต้องพยายามทั้งที่ก็รู้ดีว่ามันเปล่าประโยชน์

    ฉันกับลู่หานไม่ได้เป็นอะไรกัน

    ...

    ช่วยฟังหน่อยนะ ฉันอยากให้นายมองฉันใหม่ แบคฮยอนยังคงซบหน้าอยู่กับไหล่อีกคน ทั้งที่เรียบเรียงคำพูดมาซะดิบดีแต่พอมีโอกาสจริง ๆ กลับลนไปหมด นายอาจจะเชื่อในสิ่งที่นายเห็น แต่ว่ามันไม่มีอะไรมากเกินกว่านั้นจริง ๆ

    ขอโทษนะ เพื่ออะไร?

    นายอาจจะโกรธลู่หานที่หักหลังนายแบบนั้น แล้วก็ไม่ชอบหน้าฉันตั้งแต่แรก แบคฮยอนหลับตาแน่นแล้วหายใจเข้าลึก ๆ แต่ฉันไม่เคยรู้เรื่องนายกับลู่หานเลยจริง ๆ

    รู้ไปก็เท่านั้น ทุกอย่างมันจบแล้ว มินซอกพูดเสียงเรียบ เขาไม่ได้ตกใจสักเท่าไหร่กับเรื่องที่แบคฮยอนรู้เรื่องนี้ แต่ประโยคเมื่อครู่มันก็คิดอะไรไปมากกว่าการแก้ตัวไม่ได้

    เดี๋ยวสิ ให้ฉันอธิบายให้นายฟังก่อน

    พอเถอะ มันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก ทั้งกับเขาแล้วก็นาย มินซอกทอดสายตาไปยังเบื้องหน้า และสิ่งที่เขาเห็นก็คือกำแพงไม้บ้านหลังแรก ต่อให้ไม่มีนาย ฉันกับเขาก็ไปไม่รอดอยู่ดี

    ...

    เขาไม่เคยทำให้ฉันเชื่อใจได้ ส่วนฉันก็ไม่เคยไว้ใจเขา เราสองคนแค่คิดเหมือนกันแต่ไปกันไม่ได้ มินซอกนิ่งไปครู่หนึ่ง มันไม่จำเป็นเลยสักนิดที่จะพูดเรื่องนี้ให้แบคฮยอนฟัง คนที่คิดว่าเป็นคนสุดท้ายที่จะได้รับรู้เรื่องราวของเขา อย่าพยายามประติดประต่อฉันเข้ากับลู่หานอีกเลย ฉันก็เด็กเกินไปกับเรื่องความรัก ส่วนเขาก็โง่ชอบทำอะไรไม่คิด นายอาจจะคิดว่าฉันควรอยู่กับเขา แต่นั่นมันคือสิ่งที่นายคิดว่าควรจะเป็น

    ...

    ไม่เคยเจ็บจนยืนอยู่ที่เดิมไม่ไหวหรือไง

     

     

     

    คุณต้องการคำตอบแบบไหนเหรอครับ?

     

     

     

    เคยสิ...เด็กหนุ่มนิ่งไปทันทีที่คำพูดของใครอีกคนผุดเข้ามาในหัว ขอโทษนะมินซอก แบคฮยอนกระชับกอดแน่นยิ่งขึ้น รู้สึกผิดที่พูดแบบนั้นออกไป เขาคิดแค่ว่าจะทำยังไงมินซอกกับลู่หานถึงจะเข้าใจกัน พอถึงตอนนั้นเรื่องราวระหว่างเขากับมินซอกมันอาจจะดีขึ้นก็ได้ แต่แบคฮยอนคิดผิด...เขาไม่เคยนึกถึงว่าคนที่ถูกทำร้ายจิตใจจะเจ็บปวดมากแค่ไหน

     

     

    เพราะการที่จะกลับไปรู้สึกเหมือนเดิมมันไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างต้องใช้เวลา เหมือนกับความรู้สึกของบยอนแบคฮยอนที่มีต่อปาร์คชานยอล...

     

     

     

    เราสองคนต่างก็ต้องการเวลา...

     

     

     

    งั้นฉันจะอยู่ตรงนี้กับนายเอง อย่าไล่ฉันอีกเลยนะมินซอก

     

     

     

     

     
     

    ทุกคนต่างวางของและละความสนใจจากสิ่งที่ทำอยู่แล้วออกมาหน้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงบีบแตรรถ อี้ฟานจะปรบมือสองครั้งเป็นเชิงเรียกให้ทุกคนมารวมกันที่หน้ากองไฟในขณะที่ลู่หานยังคงพูดไม่หยุด

    เราปล่อยไว้แบบนั้นไม่ได้นะเว้ยอี้ฟาน

    ผมรู้ แต่ที่คุณบอกให้ผมกลับรถเพื่อบุกเข้าไปกันทั้งอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่อง

    แล้วจะให้ทำยังไง? ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าไอ้จงอินโดนกระทืบ จากสภาพคิดว่าพวกมันคงไม่ปล่อยมันไว้นานหรอก มีกลับไปยำตีนต่อแน่ ๆ

    ช่วยใจเย็นหน่อยได้ไหมครับ ผมบอกคุณมาตลอดทั้งทางแล้วว่าเราทุกคนต้องคุยกัน? น้ำเสียงของชานยอลแม้จะเรียบเฉยแต่ก็พอดูออกว่าตอนนี้เขากำลังหงุดหงิดเสียงลู่หานเต็มที ผู้ชายคนนี้เอาแต่พูดไม่หยุดตั้งแต่อยู่ในรถ ดึงดันจะกลับไปลุยในค่ายให้ได้

    เย็นอะไรอีก นี่กูร้อนจนไฟลุกแล้วเนี่ย ลู่หานยีหัวตัวเองแรง ๆ แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนคนอื่น ๆ ก็กระจายกันหาที่นั่ง บางคนก็ยืน จงแดเข้ามาจุดไฟตรงกลางเพื่อให้ความอบอุ่น

    เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? ครูสาวถามเมื่อเห็นว่าทั้งสามหนุ่มมีท่าทีลำบากใจ อี้ฟานหันไปมองหน้าชานยอลก่อนจะพยักหน้าอย่างรู้กัน

    ที่นั่นไม่ปลอดภัยแล้ว ทุกคนมีสีหน้าไม่ต่างกันหลังจากได้ยินคำพูดจากปากอี้ฟาน

    หมายความว่ายังไงที่บอกว่าไม่ปลอดภัยแล้ว? ซีวอนถาม

    หมายความว่าที่นั่น เคย ปลอดภัยไง ไม่ดิ ต้องเรียกว่าไอ้จงอินมันคิดไปเองว่าปลอดภัย จนถึงตอนนี้ลู่หานก็ยังไม่สงบ อี้ชิงวางมือลงบนหน้าขาอีกคนเป็นเชิงบอกให้ใจเย็นหน่อย เพราะตอนนี้ทุกคนต่างรอฟังว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงมากกว่าการที่จะมานั่งดูลู่หานแสดงอาการหงุดหงิดแล้วพาลแบบนี้

    ตอนที่เราไปถึง จงอินกำลังถูกพวกทหารรุมซ้อมน่ะ อี้ฟานไม่เสียเวลาไปกว่านี้ เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายว่ารู้เห็นมาได้ยังไงเพราะยังมีสิ่งสำคัญกว่านั้นผมเรียกพวกคุณมาเพราะอยากให้ลงความเห็นกันว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ดี

    บุกไงบุก! ทำเหมือนตอนค่ายพวกนัมจุน กับตอนไปช่วยนายออกมาจากผับ ลู่หานโพล่งขึ้นมาพร้อมกับสะกิดแขนอี้ฟานแต่จากที่เห็นน่าจะเรียกว่าผลักมากกว่า ยิงให้เกลี้ยง

    คุณควรแยกความจริงกับจินตนาการให้ออกก่อนนะครับ เพราะสิ่งที่คุณคิดคือการบุกเข้าไปในค่ายแล้วยิงทุกคนเพื่อช่วยจงอินกับเซฮุน แต่คุณนึกถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาหรือเปล่า? ถ้าเป็นอย่างนั้นคนบริสุทธิ์ที่อาศัยอยู่ในนั้นจะเป็นยังไง? ชานยอลมองอีกฝ่ายด้วยแววตาจริงจัง ทั้งที่ตั้งใจว่าจะนั่งฟังอยู่เฉย ๆ แต่พอเห็นลู่หานสติแตกแล้วก็ทนไม่ไหวและในความเป็นจริงคุณคิดว่ามันง่ายแบบนั้นเหรอครับ? จริงอยู่ที่คุณเคยผ่านมันมาแล้วหลายครั้ง แต่คุณจะรู้ได้ยังไงว่าคราวนี้คุณจะไม่พลาด?ตอนนี้ชานยอลกับลู่หานกำลังสู้กันทางสายตา คนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันเมื่อสองคนนี้ลับริมฝีปากกันอีกแล้ว เผลอ ๆ คุณอาจถูกปืนจ่อหัวตั้งแต่วินาทีแรกที่กระโดดข้ามรั้วเข้าไปในนั้นก็ได้

    ทุกคนนิ่งไปหลังจากที่ชานยอลพูดจบ ลู่หานกำหมัดแน่น คิ้วทั้งสองข้างที่ขมวดเข้าหากันเป็นสิ่งบ่งบอกได้ดีว่าตอนนี้เขากำลังหงุดหงิดมากกับการที่ถูกหักหน้าโดยใครอีกคน จงแดมองทั้งคู่สลับกันไปมาก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ

    ไม่เอาน่า ลู่หานเขาก็แค่เป็นห่วงเพื่อนน่ะครับ จงแดลูบหลังคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เรามาคุยกันต่อดีกว่า พวกคุณคิดไว้แล้วหรือยังว่าจะเอายังไง?

    ถ้าบอกว่าจงอินโดนซ้อม แล้วเซฮุนล่ะ? ในเมื่อไม่มีคนถามเรื่องนี้โดคยองซูก็เลยเลือกที่จะถาม

    เราไม่เจอเซฮุน

    ว่าไงนะ? แบคฮยอนเบิกตากว้าง

    ไม่เจอตั้งแต่วันที่ไปครั้งแรก วันนี้ก็ไม่เจอ ส่วนเรื่องไอ้จงอินถูกซ้อม ถ้าเป็นเพราะมันปากหมาก็อาจจะไม่แปลก แต่ไอ้พวกระยำนั่นมันทำร้ายคนแก่ที่คิดจะเข้าไปช่วยไอ้จงอินด้วยแบบนี้จะให้คิดยังไง? ลู่หานอธิบาย เขาเข้าใจว่าเหตุผลการไปบุกที่นั่นมันยังมีไม่มากพอในมุมมองของคนที่ไม่ได้เห็นมันกับตา

    อี้ฟาน? กาฮีมองหน้าคนอายุมากที่สุดซึ่งนั่งใช้ความคิดอยู่ฝั่งตรงข้าม ร่างสูงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้น

    ผมต้องบอกก่อนว่าสภาพที่นั่นเป็นยังไงบ้าง อี้ฟานเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งทหารทุกคนมี M16 อยู่ในมือ พวกเขายืนเฝ้าอยู่ตามจุด เพราะฉะนั้นการแอบเข้าไปเหมือนที่ลู่หานคิดไว้มันคงเป็นเรื่องยาก

    แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางเลย ลู่หานยังคงเชื่อว่าวิธีของเขามันเข้าท่า ฉันมีปัญญาหาทางเข้าไปได้แล้วกัน ขอแค่บอกมาว่าต้องทำอะไรบ้าง

    ไม่บ่อยนักที่พวกเขาจะเห็นลู่หานจริงจังขนาดนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องความเป็นความตายเมื่อไหร่แน่นอนว่าเขาไม่เคยปล่อยให้มันเป็นไปโดยที่ไม่ทำอะไรสักอย่าง และครั้งนี้ก็เช่นกัน

    ที่ผมกังวลมันไม่ใช่แค่เรื่องนั้น คราวนี้ไม่ใช่แค่จงอินกับเซฮุนที่ตกอยู่ในอันตราย แต่มันหมายถึงเราทุกคนที่จะเข้าไปด้วย อี้ฟานพูดถูก ตั้งแต่เกิดเรื่องมามากมายทั้งเฉียดตายและรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ มันเหมือนกับเส้นด้ายบาง ๆ ที่พร้อมจะขาดได้ทุกเมื่อ ถ้าเข้าไปในนั้นพวกเขาอาจจะต้องพบเจอกับความสูญเสียอีกครั้ง

    คุณจะไปช่วยพวกเขาหรือเปล่าครับ... เสียงของซูโฮแผ่วเบา เด็กคนนั้นยืนอยู่ข้างพ่อของเขาพร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

    ครับ ผมจะไป อี้ฟานยิ้มบาง ๆ เพื่อให้เด็กหนุ่มสบายใจตอนที่ผมกำลังจะโดนยิงหน้าผับจงอินเป็นหนึ่งในนั้นที่เข้าไปช่วยผม ถ้ามีทางไหนช่วยเขาออกมาได้แน่นอนว่าผมจะทำ ร่างสูงหันเข้าหาคนอื่น ๆ ที่กำลังมองหน้าเขาอยู่

    ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับลู่หาน แต่เราต้องวางแผนกันให้ดีถ้าไม่อยากเสียใครไปอีก ชานยอลมองไปทางอีกคนที่ดูเหมือนว่าจะสงบลงไปบ้างแล้วหลังจากได้ฟังเหตุผลจากปากเขาเราจะต้องกลับมาทุกคนแทนที่จะเสียใครไปเพื่อช่วยสองคนนั้นกลับมา

    ผมเห็นด้วยกับชานยอล จงแดยกมือขึ้น

    งั้นก็บอกมาเลยว่าจะต้องทำไงบ้าง ลู่หานพร้อมที่จะทำตามทุกอย่าง ขอแค่ได้เข้าไปช่วยจงอินกับเซฮุนก็พอ

    คุณว่าไง? อี้ฟานหันไปถามคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ชานยอลนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

    แผนของผมมันอาจจะดิบไปหน่อย แต่มันจะทำให้เราเข้าไปในนั้นง่ายขึ้น ถ้ามีใครคิดว่ามันไม่เข้าท่าก็แย้งได้เลยนะครับ ไม่มีใครพูดอะไร บางคนพยักหน้ารับเพื่อให้อีกฝ่ายเล่าถึงแผนการต่อ ก่อนอื่นต้องมีคนที่คอยดูลาดเลาอยู่ข้างนอก ถ้าเกิดมีเหตุสุดวิสัยจริง ๆ ผมคิดว่าการซุ่มยิงจากที่สูงมันคงช่วยคนที่เหลือได้ ชานยอลหันไปทางคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้นัก สายตาที่มองมานั้นมินซอกเข้าใจดี

    ผมจะทำ

    ขอบคุณครับ ร่างสูงยิ้มบาง ๆ ลู่หานไม่ได้แย้งหลังจากรับรู้ว่ามินซอกเป็นคนแรกที่อาสารับหน้าที่นี้ เขาสองคนได้เพียงแค่สบตากันเท่านั้น และสุดท้ายคนตัวเล็กก็หลบสายตาไปก่อน

    ถ้าจะให้ลู่หานแอบปีนรั้วเข้าไป เราก็ต้องมีคนดึงความสนใจพวกมัน

    ดึงความสนใจนี่คือยังไง? ปาหินไปอีกทางเหมือนในหนังน่ะเหรอ? ซีวอนถามแล้วชานยอลก็ส่ายหน้า

    ผมหมายถึงคนที่จะเข้าไปในนั้นได้โดยไม่ถูกสงสัย

    ...

    ในฐานะผู้รอดชีวิต

    ทุกคนมองชานยอลเป็นตาเดียวกัน ถึงจะได้ฟังแผนการแล้วแต่ยอมรับเถอะว่าทุกคนกำลังกลัวกับหน้าที่นี้ ถ้าบอกว่าในค่ายทหารมันเลวร้าย การเข้าไปที่นั่นทางประตูหน้ามันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่

    หมายความว่าให้เข้าไปในนั้นเหมือนที่จงอินกับเซฮุนทำน่ะเหรอคะ?

    ครับ ชานยอลประสานมือไว้ตรงหน้าขาและต้องเข้าไปข้างในแบบคนไม่รู้อะไรสักอย่าง ต้องไม่รู้ว่าข้างในมีศูนย์วิจัย ไม่รู้ว่ามีผู้รอดชีวิต สิ่งเดียวที่รู้คือต้องการความช่วยเหลือ

    งั้นฉันไปเองค่ะ

    ไม่ได้ อี้ชิงโพล่งขึ้นมาทันทีที่กาฮีเสนอตัวคุณเป็นผู้หญิง เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เธอเข้าใจได้ยังไง บุรุษพยาบาลหนุ่มหันไปอธิบายให้ลู่หานฟัง คนที่จะช่วยอธิบายคำพูดของเขาให้ทุกคนฟังได้

    อี้ชิงบอกว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกไม่ควรเข้าไปในที่อันตรายแบบนั้น ถ้าพวกทหารในค่ายซ้อมไอ้จงอินจนน่วม มันก็บอกได้แล้วว่าสภาพจิตใจของพวกมันไม่ได้พร้อมที่จะทำดีกับทุกคน

    ...

    ต่อให้เป็นผู้พิทักษ์สันติราช รั้วของชาติ หรือบาทหลวง ถ้าอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความกระหายแบบนี้เชื่อเหอะว่าคุณไม่รอดแน่ ๆ คนเราถ้ายังไม่ตายยังไงก็ต้องมีความต้องการทางเพศ เพราะงั้นคุณไม่เหมาะกับหน้าที่นี้ หลังจากที่ลู่หานพูดจบครูสาวก็หันไปมองอี้ชิงที่กำลังแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขากำลังเป็นกังวลกับเรื่องนี้ กับประสบการณ์ฝันร้ายที่เคยพบเจอแน่นอนว่าเขาไม่สามารถลืมมันไปได้เลย

    นี่ก็ไปไม่ได้ด้วย เพราะมันเคยเห็นหน้าฉันแล้ว ลู่หานพูดทันทีที่นึกถึงวันแรกที่ได้เจอทหารคนนั้น

    งั้นผมไปเอง อี้ฟานเสนอตัว

    ถ้าผมเป็นทหารที่นั่น ผมคงสงสัยในตัวคุณพอสมควรชานยอลมองหน้าอีกฝ่ายคุณไม่ดูเหมือนคนเอาตัวไม่รอด

    ...

    งั้นผมได้ใช่ไหม? ทุกคนหันไปทางแบคฮยอนเป็นตาเดียวกัน ถ้าเป็นผมที่เข้าไปในนั้นด้วยเหตุผลที่ว่าเพิ่งสูญเสียครอบครัวไป แววตาของเด็กหนุ่มแน่วแน่ ไม่มีแล้วบยอนแบคฮยอนที่เคยกลัวการต่อสู้กับโลกใบนี้

    ชานยอลสบตากับคนตัวเล็ก รู้ว่าเด็กคนนั้นกำลังอยากบอกอะไรผ่านแววตาคู่นั้น เหมือนกับว่าต้องการให้เขาเชื่อใจ เขาไม่คิดว่าแบคฮยอนจะเป็นคนอาสารับหน้าที่นี้ และมันทำให้เขาค่อนข้างที่จะลำบากใจ ถึงจะบอกว่าต้องการคนที่ดูปกติไม่น่าสงสัย แต่ก็อดเป็นห่วงแบคฮยอนไม่ได้อยู่ดี

    ครับ แบคฮยอนเป็นคนรับหน้าที่นี้ ต่อไปเรามาวางแผนกันว่าจะเข้าไปช่วยจงอินยังไง

    คยองซู ผมขอสมุดวาดรูปคุณได้ไหม? พอได้ยินอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็เดินอ้อมไปหาอี้ฟานก่อนจะยื่นสมุดพร้อมดินสอให้ ร่างสูงใช้เวลาร่างมันอยู่ไม่นาน แค่ครู่เดียวก็ออกมาเป็นรูปแผนที่แบบคร่าว ๆ

    ผมต้องทำอะไรบ้าง? แบคฮยอนถาม

    ทำตัวเป็นเด็กหลงเข้าไปเพื่อดึงความสนใจคนในนั้น มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่จะสนใจกับสิ่งใหม่ ๆ อยู่แล้ว พวกทหารจะใช้เวลามองคุณสามวิเป็นอย่างต่ำ พอถึงตอนนั้นก็ให้ลู่หานหาจังหวะเข้าไป ซีวอนลูบคางพลางมองไปยังหนุ่มไฟแรงที่วางแผนออกมาเป็นฉาก ๆ

    พอเข้าไปได้คุณก็ต้องระวังตัวให้มากกว่าเดิมเลยสิแบบนี้ ถ้าในนั้นมีทหารยืนเฝ้ายามตลอด แล้วคุณจะหาทางเข้าไปได้ยังไงกัน? จงแดหันไปทางลู่หานที่กำลังนั่งตั้งใจฟัง

    ไม่หรอก ฉันมีแผนแล้ว เขาตอบทั้งที่ไม่หันไปมองหน้าอีกฝ่าย

    จงแด ยาสลบของคุณยังมีเหลืออยู่บ้างไหม? อี้ฟานหันไปถามแล้วเจ้าหน้าที่หนุ่มก็พยักหน้า

    เหลือพอสมควรเลย คุณจะเอาแบบสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ล่ะ

    เดี๋ยวผมจะบอกคุณอีกที

    ส่วนผมจะเข้าไปพร้อมกับลู่หานเอง แทบจะทุกคนที่เลิกคิ้วมองปาร์คชานยอลผมรู้ว่าเข้าไปคนเดียวมันสะดวกกว่าเป็นไหน ๆ แต่ถ้าเราทำงานกันเป็นทีม ผมว่ามันต้องออกมาดีกว่าแน่นอน ชานยอลมองไปทางลู่หานที่ขมวดคิ้วส่ายหน้ารัว ๆ

    ถามกูก่อนไหมครับว่ากูสะดวกหรือเปล่า

    แต่ผมสะดวก

    ห่า

     


     

    ตุ่บ!

     
     

     

    ทุกคนเงยหน้าขึ้นเมื่อจู่ ๆ ก็มีใครคนหนึ่งโยนเป้สีดำไม่ได้รูดซิปลงบนพื้นจนปืนและแม็กกาซีนกระจายออกมา พอหันไปทางด้านข้างก็พบสีหน้าเรียบเฉยของหวงจื่อเทาที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก

     
     

     

    ผมลุยด้วย

     

     
     

     

     

     

    กึ่ก...

    ชายหนุ่มชุดกาวน์ยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องทดลองส่วนนอก ข้างในนั้นมีนักวิทยาศาสตร์ผู้ซึ่งเพื่อนร่วมทีมอีกสองคนกำลังจัดการกับร่างชายแก่ที่เพิ่งเปลี่ยนไปเป็นผีดิบหลังจากถูกฉีดยาที่พวกเขาใช้เวลาร่วมอาทิตย์ในการค้นคว้าทดลองหาทางแก้

     

     

    ใช่...ผลลัพธ์ครั้งนี้ก็เป็นศูนย์

     

     

    อีทงเฮลอบถอนหายใจก่อนจะก้มหน้าเขียนบันทึกการทดลองลงในแฟ้มสีเข้ม ทั้งที่คิดว่ามันน่าจะได้ผลแล้วแต่ก็พลาดเหมือนกับทุกครั้ง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นก่อนจะหันไปมองมือใหญ่ที่วางอยู่บนไหล่เขา แค่ครู่เดียวอีทงเฮก็ทำมือปัด ๆ เป็นเชิงบอกให้อีกคนเอามือออก

    ทำรังเกียจไป จินฮยอกต่างหากที่ลงมือกับตาแก่นั่น

    พี่ควรเข้าห้องฆ่าเชื้ออีกรอบ ทงเฮพูดเสียงเรียบก่อนจะก้มหน้าลงเขียนบันทึกต่อ ชายหนุ่มตัวสูงยกยิ้มพลางส่ายหน้าหน่าย ๆ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะพร้อมใจกันทำหน้ามึนตึงในสถานการณ์สิ้นหวังสุดกู่แบบนี้

    คนต่อไปนายจะลงมือเองหรือเปล่า?

    อย่าใช้คำว่าลงมือ ชายหนุ่มหันกลับไปข้างหลังขณะถอดถุงมือยางสีขาวออก เขาเห็นว่าอีทงเฮนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเลื่อนไปหยุดอยู่หน้าจอมอนิเตอร์พร้อมกับใส่พาสเวิร์ดเข้าไปในระบบ

    ทำไม? มันทำให้นายรู้สึกเหมือนเป็นฆาตกรหรือไง? พูดจบก็แค่นยิ้มเล็กน้อย เขารู้ว่าหมอนั่นกำลังโมโหแต่นั่นแหละคือจุดประสงค์ของเขาผ่อนคลายหน่อย

    เช่นอะไรดีล่ะ นั่งจิบเบียร์เย็น ๆ หน้าศูนย์วิจัย มองประตูทางเข้าที่เปิดรับเหยื่อเข้ามาเรื่อย ๆ แล้วหันไปชนแก้วกับพี่น่ะเหรอ? ควอนซังอูหัวเราะ เขาพิงกับผนังสีขาวพลางกอดอกมองนักวิทยาศาสตร์รุ่นน้องที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันนักถ้าเทียบกับชเวจินฮยอกที่ยังคงยุ่งอยู่กับศพในห้องทดลอง

    เห็นไหม นายก็เรียกคนพวกนั้นว่าเหยื่อ

    ...

    ยอมรับเถอะ เรามันก็ไม่ต่างอะไรไปจากพวกฆาตกรในคุกหรอก

    มือทั้งสองข้างวางอยู่บนแป้นคีย์บอร์ด เขาไม่ได้ออกแรงกดปุ่มลงไปขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่กับหน้าต่างข้อมูลพร้อมกับรูปภาพสมองที่ตายแล้วของชายแก่เมื่อครู่ แต่ถึงอย่างนั้นในหัวของเขากลับกำลังคิดไปถึงเรื่องอื่น

    เสียงประตูเปิดออก ตอนนี้ทหารสองนายกำลังเข้าไปในห้องทดลองพร้อมกับเตียงเหล็ก ศพชายแก่ถูกช้อนขึ้นวาง แค่ครู่เดียวเท่านั้นก็ถูกเข็นออกไป

    ฉันว่าเด็กคนนั้นทนได้อีกไม่กี่เข็มหรอก อีทงเฮรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงใคร และหมอนั่นก็ไม่ได้พูดผิด พวกเขาทั้งสามคนต่างรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไรหลังจากผ่านการทดลองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

    พี่อย่าพูดแบบนั้นสิ มีอย่างที่ไหนพูดตัดกำลังใจตัวเองอยู่ได้ ชเวจินฮยอกถอดผ้าปิดปากตามด้วยถุงมือยางก่อนจะขมวดคิ้วมองรุ่นพี่ที่กำลังยิ้มพอใจขณะมองใครอีกคนที่นั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์

    แล้วฉันพูดผิดหรือไง?

    ผิดตั้งแต่พี่เลือกเป็นนักวิทยาศาสตร์แล้ว เคยได้ยินไหมว่าความรู้ที่แท้จริงเกิดจากประสบการณ์ ถึงจะทดลองพลาดนับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความหวังนี่ครับ บ่นจบก็ส่ายหน้าเบา ๆ นายอย่าไปฟังเขาเลย ไปพักเถอะ ประโยคหลังพูดกับคนที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ เขาวางมือลงบนไหล่ทงเฮก่อนจะตบเบา ๆ

    ไม่เป็นไร นายไปเถอะ

    เอางั้นเหรอ? ถ้าไม่ไหวก็พักนะ พรุ่งนี้เริ่มกันใหม่ พูดจบก็เดินออกไปพร้อมกับรุ่นพี่อีกคน  

    เสียงสวิซต์ดังมาก่อนแสงไฟจะดับไป ตอนนี้สิ่งที่ให้ความสว่างในห้องกว้างคือจอมอนิเตอร์ที่เปิดทิ้งเอาไว้เท่านั้น ทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบและปล่อยให้เรื่องเมื่อครู่กลับเข้ามาวนเวียนอยู่ในหัว

    ในครั้งแรกที่เริ่มทดลอง ตอนนั้นอีทงเฮจำได้ดีว่าประหม่ามากแค่ไหน มือของเขาสั่น ตอนที่เห็นผู้ป่วยพยายามขืนตัวออกจากเก้าอี้ที่ขึงข้อมือทั้งสองข้างไว้ด้วยเชือกหนังเส้นใหญ่ ริมฝีปากที่อ้ากว้าง เลือดสีสดที่เยิ้มตามซอกฟันและสายตาที่มองมาราวกับว่าจะฆ่าเขาให้ได้ วันนั้นในห้องทดลองวุ่นวาย เกิดความโกลาหลจนยากที่จะหยุดยั้ง พวกเขาไม่มีความรู้เรื่องการฆ่าพวกผีดิบและในเหตุการณ์นั้นทำให้สูญเสียนักวิทยาศาสตร์อาวุโสที่เขาเคารพไปหนึ่งคน

    ทงเฮเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ เสียงเอี๊ยดอ๊าดของมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำลายความเงียบในห้องกว้างที่เคยเรียกมันว่าความหวัง เปลือกตาปิดลงแล้วให้ลมหายใจผ่อนเข้าออกเป็นจังหวะ มันเป็นวิธีเดียวที่จะยืดเวลาให้เขาเดินไปไหนมาไหนได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการหลับนอน

     

     

     

    ฉันว่าเด็กคนนั้นทนได้อีกไม่กี่เข็มหรอก

     

     

     

    โอเซฮุนไม่ได้พิเศษไปกว่าใคร ในทีแรกเด็กคนนั้นแสดงท่าทีเหมือนกับคนอื่น ๆ ไม่มีผิด ทั้งต่อต้าน แสดงออกถึงความหวาดกลัวไปจนถึงร้องขอความเห็นใจจากเขา แต่สิ่งที่ทำให้อีทงเฮรู้สึกไม่ดีแบบนี้อาจเป็นเพราะช่วงหลัง ๆ เด็กคนนั้นแทบจะไม่ปริปากพูดเลยล่ะมั้ง

    บางทีถ้าโอเซฮุนขอความเห็นใจหรือแสดงท่าทีรังเกียจเขามันอาจจะดีกว่านี้ เมื่อสี่ชั่วโมงที่แล้วเขาเข้าไปหาเด็กคนนั้นเหมือนกับทุกวัน และก็เหมือนเดิม...เซฮุนเอาแต่นอนนิ่ง ๆ แล้วเหม่อลอยไปอย่างไร้จุดหมาย แม้ว่าเขาจะถามอาการหรือหาข้าวหาน้ำไปให้กินเด็กคนนั้นก็ยังเฉย

    มีสิ่งหนึ่งที่อยากรู้แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ นั่นก็คือเรื่องที่เซฮุนคอยถามเขาอยู่ทุกวันว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่แล้ว? ทุกครั้งที่ตอบอีทงเฮมักจะถามกลับไปเสมอว่า ถามทำไม? แต่เด็กคนนั้นก็ไม่เคยตอบ บางทีเซฮุนอาจจะอยากรู้ว่าเข้ามาอยู่ที่นี่ได้กี่วันแล้ว หรือถ้าแย่หน่อยก็อาจจะนับรอวันตายของตัวเอง

    ชายหนุ่มมองไปยังนาฬิกาซึ่งบอกวันที่และเวลาปัจจุบัน เป็นอีกครั้งที่อีทงเฮลอบถอนหายใจกับความหวังที่ริบหรี่เข้าไปทุกที เขาจะต้องอดหลับอดนอนไปอีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี ผลการทดลองถึงจะสำเร็จ?

     

     

     

    สิบสามมกราคมแล้วสินะ...

     

     

     

     
     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น

    อี้ฟานขับรถไปจอดข้างทางซึ่งมีโพรงไม้บังเอาไว้ในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังเตรียมตัวพร้อมสำหรับหน้าที่ของตัวเอง การจอดในที่แจ้งมันคงไม่ดีเท่าไหร่หากว่ามีคนผ่านมาแล้วเห็นรถคันหนึ่งจอดทิ้งอยู่ข้างทาง

    ตอนนี้ลู่หานออกไปดูลาดเลาข้างถนน ส่วนเทาหลังจากสวมเสื้อเวสไซราสเสร็จแล้วก็เดินไปคุกเข่าอยู่ใต้ต้นไม้เพื่อเป็นฐานให้มินซอกได้ปีนขึ้นไปข้างบน

    นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ผมอยากให้พวกคุณใจเย็นเข้าไว้ อี้ฟานบอกก่อนจะยื่นกระเป๋าเป้ให้แบคฮยอน ข้างในมีเพียงแค่เสื้อผ้าหนึ่งชุดกับน้ำดื่มครึ่งขวดเท่านั้น อย่าตื่นตูม

    ครับ แบคฮยอนพยักหน้าก่อนจะหันไปทางชานยอลที่ยืนมองเขาอยู่ สบตากันได้ครู่เดียวร่างสูงก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กก่อน เขาเห็นว่าแววตาของเด็กคนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ถึงอย่างนั้นบยอนแบคฮยอนก็ไม่ได้ออกปากขอเปลี่ยนหน้าที่นี้กับใคร

    แทงเข้าที่ขา แล้วบิด ชานยอลวางมีดพับลงบนมืออีกคน เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นก่อนจะพยักหน้ารับผมรู้ว่าคุณทำได้

    คุณก็เหมือนกัน

    ร่างสูงยิ้มบาง ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมา ถึงจะดูประหม่าอยู่บ้างแต่สุดท้ายชานยอลก็วางมือลงบนไหล่อีกฝ่าย วูบหนึ่งแบคฮยอนคิดไปว่าบางทีมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้อยู่กับทุกคน แต่ถ้าผลลัพธ์ของเรื่องนี้มันจะจบด้วยความตาย เขาก็อยากทำในสิ่งที่ถูกต้องสักครั้งในชีวิต

    เป็นยังไงบ้างมินซอก?

    ตอนนี้คนกำลังทยอยกันไปใน...ไม่รู้เรียกว่าบ้านได้ไหม แต่มันหลังใหญ่มาก ตรงนั้นน่ะหลังคาสีดำ

    แล้วมีอะไรอีก รอบข้างมีทหารหรือเปล่า?

    มีครับ แต่ไม่มาก เพราะทหารบางส่วนก็เข้าไปในบ้านหลังนั้นพร้อมกับคนอื่น ๆ เหมือนกัน

    เอาล่ะ มันคือโอกาสทองที่เราจะเข้าไปในนั้น อี้ฟานหันไปหาเพื่อนร่วมทาง และพวกเขาก็พยักหน้ารับอย่าเพิ่งยิงจนกว่าคนของเราจะโดนไล่ต้อนนะ เงยหน้าขึ้นไปสั่งการเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะชักปืนยาสลบออกมา

    อี้ฟาน ชานยอล ลู่หานและเทาแยกไปทางรั้วด้านข้าง ตอนนี้เหลือเพียงแบคฮยอนกับมินซอกที่ยังคงอยู่ที่เดิม เด็กหนุ่มยืนนิ่ง เขากำลังหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อรวบรวมความกล้า

    กลัวเหรอคนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นไปบนต้นไม้ มินซอกพูดกับเขาขณะตั้งปืนส่องลำกล้องไปทั่วค่ายทหารพวกนั้นไม่น่ากลัวเท่าฉันหรอก ไปได้แล้ว

    มินซอกละมือออกมาแล้วก้มลงไปสบตากับใครอีกคนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม แบคฮยอนยิ้มแล้วพยักหน้า คนบนต้นไม้มองตามอีกฝ่ายอยู่แค่ครู่เดียวก็หันกลับไปสนใจลำกล้องอีกครั้ง

     

     

     

     
     

     

    ครืด...

    ข...ขอโทษครับ ทันทีที่ประตูเปิดออกนายทหารก็มองไปยังเด็กหนุ่มที่ยืนกอดกระเป๋าเป้ไว้แนบอก ชายหนุ่มในชุดลายพรางหิมะมองอีกฝ่ายหัวจรดเท้า พอเห็นแบบนั้นแบคฮยอนเลยคิดว่าควรทำอะไรสักอย่างพอจะมีอาหารให้ผมบ้างไหม...ผมไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้ว...

    มาจากไหนเนี่ยไอ้หนู?

    ผมมาจากอีกเมือง กลุ่มของผมโดนพวกมันกัดตายหมดเหลือผมอยู่แค่คนเดียว ถึงจะฟังดูแปลก ๆ แต่จากสภาพเด็กคนนี้แล้วก็ไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไร แถมมาคนเดียวอีกด้วย ได้แต่คิดในใจว่าถ้าเก็บไอ้เด็กนี่เอาไว้ใช้แรงงานในค่ายก็คงดี

    เข้ามาสิ ถึงเวลากินข้าวเช้าพอดี แบคฮยอนยิ้มกว้างแล้วโค้งหัวเต็มองศา เด็กหนุ่มเดินตามทหารเข้าไปพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบ ๆ ตอนนี้เขาเข้ามาแล้ว...ใจเย็นไว้แบคฮยอน อย่าตื่นตูม

    อี้ฟานละกล้องส่องทางไกลลง เป็นอย่างที่ชานยอลคาดไว้ไม่มีผิดว่าพวกทหารที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างทางกำลังหันไปให้ความสนใจผู้มาใหม่ ทั้งสี่คนยืนอยู่บนลังไม้ที่ถูกลากออกมาทิ้งข้างถังขยะ มันเป็นความโชคดีของพวกเขาในความสะเพร่าของคนในค่ายนั้น

    เราต้องรีบลงไป ชายหนุ่มหันไปหาคนข้าง ๆ แล้วลู่หานก็พยักหน้ารับ ร่างโปร่งปีนข้ามรั้วไปอย่างง่ายดายและตามด้วยชานยอล ส่วนอี้ฟานกับเทาจะรออยู่ตรงนี้ สองหนุ่มเงยหน้าขึ้นก่อนจะพยักหน้าให้คนที่เหลืออย่างรู้กัน ลู่หานวิ่งเลียบไปตามกำแพงบ้านก่อนจะดึงมีดพกออกมาถือไว้

    มึงรออยู่ตรงนี้เดี๋ยวกูออกไปก่อน ถ้าถูกจับจะได้ไม่โดนพร้อมกัน เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นด้วยกับความคิดของลู่หาน ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรจนกระทั่งลู่หานแยกตัวออกไปก่อน เขายืนดูท่าทีแค่ครู่เดียว ไม่ถึงสิบวิเลยด้วยซ้ำก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงคน ซึ่งประโยคนั้นมันจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากว่าลู่หานถูกจับได้แล้ว

    ชานยอลโผล่หน้าออกไปเล็กน้อย ใช่อย่างที่คิดจริง ๆ ตอนนี้มีทหารนายหนึ่งตั้งปืนกลเตรียมพร้อมที่จะเหนี่ยวไกใส่คนที่กำลังยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ พอเห็นแบบนั้นแล้วก็หัวเสียไม่น้อย บางทีเขาอาจจะคาดหวังกับผู้ชายคนนั้นสูงมากเกินไป

    อย่าขยับ

    ก็ยืนเฉย ๆ แล้วนี่ไง ลู่หานพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ เขาไม่ได้แสดงท่าทีว่ากลัวอีกฝ่ายเลยสักนิด ทหารมองหน้าชายหนุ่มอย่างหยั่งเชิง ถ้าเกิดไอ้หน้าหวานนี่ขยับเขาอาจจะต้องลงไม้ลงมือกับมันสักหน่อย

    ลู่หานกลอกตาไปทางด้านขวา ตามสัญชาติญาณเขามั่นใจว่าไอ้หอกนี่ต้องอยากรู้ว่าข้างหลังมันมีอะไร จังหวะนั้นเองที่ทหารหันกลับไปลู่หานก็ซัดหน้าอีกฝ่ายอย่างแรงก่อนจะเข้าไปล็อกคออีกฝ่ายจากข้างหลังแล้วใช้มืออีกข้างปิดปากเอาไว้ โชคดีที่ขนาดตัวไอ้เวรนี่ไม่โตไปกว่าเขานักเพราะฉะนั้นมันเลยง่ายขึ้นมาหน่อย

    ชู่วววว์... กระซิบเบา ๆ ก่อนที่คนตรงหน้าจะหมดสติไป ลู่หานมองออกไปข้างนอก เขาต้องเร่งมือหน่อยถ้าหากไม่อยากโดน  M16 จากเหล่าทหารรัวใส่จนพรุน เฮ้ย!”

    ชู่วววว์... เขาแทบจะช็อกตายตอนที่ถูกสะกิดจากข้างหลัง ที่ไหนได้คือพ่อยอดชายจอมหายนะนามว่าปาร์คชานยอลนี่เอง มึงมาแบบนี้ไม่ฆ่ากูเลยล่ะห่า ยังมีหน้าเอานิ้วแตะปากตัวเองทำหล่ออีก ที่กูจะแหกปากก็เพราะมึงเนี่ย

    ช่วยกูหน่อย เดี๋ยวเหอะมึง ถ้ากลับอุทยานเมื่อไหร่กูจะด่าชนิดที่ว่าปลุกโคตรเหง้ามึงมานั่งฟังด้วยเลยคอยดู

    ทั้งคู่ช่วยกันลากทหารหมดสติไปทางหลังบ้าน จังหวะนั้นก็เห็นอี้ฟานกระโดดตามลงมาพร้อมกับปืนยิงยาสลบ ส่วนลู่หานกำลังแลกชุดตัวเองกับชุดทหาร ตอนนี้เหลือเพียงแค่เทาที่ยืนสแตนด์บายอยู่รั้วทางด้านนอก เหลือเพียงแค่ส่งสัญญาณมาเท่านั้นเขาก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วย

    เอาล่ะ ทางสะดวก ลู่หานยืนวอร์มร่างกายหลังจากเปลี่ยนเป็นชุดลายพรางหิมะเรียบร้อยแล้ว นี่คือแผนที่เขาได้บอกไว้ก่อนหน้านี้กูจะเข้าไปก่อน ช่วยไอ้จงอินเสร็จแล้วค่อยว่ากันอีกที ส่วนตอนนี้ดูแบคฮยอนกับไอ้ห่านี่ไว้ ถ้ามันตื่นมาแล้วร้องให้เอานิ้วหัวแม่ตีนอุดปากมัน เคนะ?

    สองหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร ซึ่งก็ขอบคุณมากที่ทำให้กูยืนเก้อแบบนี้ ลู่หานเดินออกมาข้างนอก เขาเกร็งเล็กน้อยกับการที่ต้องเนียนทำตัวเป็นคนที่นี่ แต่ก็แค่ห้าวิเท่านั้นแหละ พอเห็นว่าพวกทหารที่เขาเพิ่งเดินผ่านไม่ได้สนใจเลยสักนิดเจ้าตัวเลยเหิมเกริม เดินชิลแม่งเลยครับ

    เฮ้ย ทหารหนุ่มขมวดคิ้วมองคนข้าง ๆ ที่หน้าตาไม่คุ้นเลยสักนิดวันนี้อากาศดีนะ

    ดียังไง นี่หนาวจะตายห่าแล้ว ทหารสวนกลับไปพร้อมกับแววตาที่เขาสามารถรู้ได้เองว่าไอ้หอกนี่กำลังด่าเขาในใจ แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหา

    เออ หนาวจริง หนาวจนแม่คะนิ้งลงไข่

    อะไรของมึง นี่ไม่ต้องเฝ้าเวรไงวะ? หรือว่าออกมากินข้าว?

    ไม่อ่ะ นี่กูได้คำสั่งมาว่าให้ไปกระทืบไอ้เชี่ยนั่น ชื่อไรนะ? ที่มันโดนรุมตีนเมื่อวาน

    หือ? ไอ้คนนั้นน่ะนะ? กูไม่รู้จักชื่อมันหรอก ทหารหนุ่มปฏิเสธ หน้าที่ของเขาก็แค่เฝ้าเวรเท่านั้น ไม่ได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนที่นี่จนรู้จักกันเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนอย่างทหารบางนาย

    อ้าว แล้วกูจะไปตื้บมันได้ไงล่ะทีนี้?

    มึงยังจะไปทำมันอีกเหรอ นั่นก็โดนไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ สงสารมันเถอะทหารส่ายหน้าหน่าย ๆ เขาเห็นทุกครั้งที่พวกทหารกลุ่มนั้นเข้าไปเล่นงานมัน

    ทำไมวะ

    เมื่อตอนเช้าก็โดนไปแล้วรอบนึง ว่าแต่ใครบอกให้มึงมาจัดการมันล่ะ ลู่หานกลอกตาไปมาเมื่อโดนยิงคำถามนี้ เขายิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะชี้โบ้ชี้เบ้ไปมั่ว

    ลูกพี่กูเองแหละ

    ลูกพี่?

    ใช่ ลูกพี่กู ลู่หานทำตาปริบ ๆ เชื่อเถอะครับนี่กูยิ้มจนเหงือกแห้งแล้วมันอยู่บ้านหลังไหนวะกูจะได้ไปจัด ถ้าลูกพี่ไม่เห็นคราบเลือดมันบนตีนกูนี่มีชิบหายอ่ะ

    ลูกพี่มึงไม่ได้บอกหรือไงว่ามันอยู่บ้านหลังไหน

    ไม่ว่ะ กูเฝ้าอยู่ทางนั้นจะไปเห็นได้ไงว่ามันอยู่ตรงไหน อย่าว่างู้นงี้เลยนะ ขอบ่นทีเหอะ อัดอั้นมานาน ลู่หานวางปืนลงแล้วขยับเข้าไปใกล้ ๆ อีกฝ่าย และดูเหมือนว่าตอนนี้คนข้าง ๆ จะคล้อยตามแล้ว

    อะไรวะ

    มึงเข้าใจอารมณ์ตอนเพิ่งเป็นทหารใหม่ ๆ ได้ใช่ป่ะวะ ไหนจะพวกครูฝึก ไหนจะพวกขี้กร่าง เห็นกูตัวเตี้ยหน่อยก็รุมแกล้งจังเลย เมื่อวานก็ไล่กูถอดเสื้อคลานบนหิมะ หัวนมกูแข็งปั่กแค่ไหนมึงจินตนาการไม่ออกหรอก ลู่หานปั้นหน้าจริงจังทำเอาคนได้ฟังขมวดคิ้วมุ่น

    เอาจริงดิ มันขนาดนั้นเลยเหรอวะ

    ยิ่งกว่านั้นอีกแต่กูอายที่จะเล่า แต่รวม ๆ แล้วคือถ้ากูไม่ไปกระทืบมันนะ... ลู่หานทำท่าปาดคอตัวเอง

    ทางนั้น ตรงที่มีถังขยะสีดำวางอยู่ข้างหน้า มึงรีบไปเหอะ เห็นแล้วก็สมเพชเลยชี้ทางสว่างให้ เขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายที่จะทนเห็นเพื่อนทหารด้วยกันโดนแกล้ง เพราะตอนเป็นทหารเกณฑ์เขาก็โดนมาไม่ใช่น้อย ๆ

    พอได้ยินแบบนั้นลู่หานก็ยิ้มกว้าง เกินความคาดหมายเอาไว้เสียอีก เขาก้มลงเก็บปืนก่อนจะลุกขึ้นมาหลังอีกฝ่ายอั่ก ๆ เป็นเชิงขอบคุณ

    ขอบใจมากนะเว้ย ถ้ารอดไปได้กูจะสวดมนต์อวยพรให้มึงไม่ตาย

    พูดจบก็รีบวิ่งไปทางด้านขวา ทหารหนุ่มหรี่ตามองไอ้เตี้ยคนนั้นที่จู่ ๆ ก็หยุดวิ่งแล้วยืดอกเดินต่อ เขาส่ายหน้าน้อย ๆ แล้วหันกลับไปยืนเหมือนอย่างที่เคย

    ลู่หานเลียริมฝีปาก หันซ้ายขวาอยู่ในทีก่อนจะหลุบตามองลูกบิด เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกว่าการเกิดมาเป็นโจรกระจอกนี่มันดีจริง ๆ อย่างน้อยเขาก็ได้ใช้สกิลนี้ในเวลาคับขัน

    ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วเอาลวดแข็งออกมาสองเส้น โชคดีที่เขาไม่ลืมเอามาด้วยตอนแลกชุดกับไอ้หอกนั่น ก้มตัวลงเล็กน้อยแล้วผิวปากกลบเกลื่อน พอเห็นว่ามีทหารกำลังมองมาทางนี้เลยตีเนียนพยักหน้าให้พร้อมกับทำท่าสับศอกประกอบเป็นเชิงบอกว่าเดี๋ยวพี่จะเข้าไปตื้บไอ้หอกที่อยู่ข้างในนี้เอง

    ใช้เวลาไม่นานนักลูกบิดก็เปิดออกได้ ลู่หานซี๊ดปากก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ หวังว่าเพื่อนรักของเขาจะนั่งทำหน้าดำอยู่ข้างในแทนที่จะนอนอาบเลือดอย่างน่าสมเพช เอาเถอะ ในที่สุดเขาก็ผ่านภารกิจแรกแล้ว

    เชี่ย!”

    ลู่หานก้มหัวลงพร้อมกับยกมือขึ้นบังเมื่อจู่ ๆ ก็มีบางอย่างลอยผ่านหน้าไปอย่างเฉียดฉิว พอหันไปก็เห็นว่าใครคนหนึ่งกำลังพยายามยืนทรงตัวพร้อมกับถือลิ้นชักไม้เอาไว้

    ไอ้จงอิน?

    ...นั่นใคร? เพราะความมืดในห้องเก็บของเลยทำให้เขามองเห็นอีกฝ่ายได้ไม่ชัดเท่าที่ควร เพราะแสงสว่างตอนประตูเปิดนั่นแหละเลยทำให้รู้ว่าผู้มาใหม่เป็นทหาร แน่นอนว่าทุกคนที่ใส่ชุดลายพรางคือศัตรูของเขา

    พ่อมึงไงห่า

    ...ไอ้ลู่หาน? จงอินทิ้งลิ้นชักลงพื้นก่อนจะเข้าไปกอดเพื่อนซี้จนเซไปทางด้านหลัง

    เฮ้ย! ถอยออกไปเลยมึง ขนลุกชิบหาย!”

    เข้ามาได้ไงวะ? ร่างหนาผละตัวออกก่อนจะเบาเสียงลงเมื่อพบว่ามีเงาใครคนหนึ่งเดินผ่านไป

    เดี๋ยว ลู่หานพูดเบา ๆ ก่อนจะหันไปข้างหลัง ไม่ต้องร้อง!!! ต่อให้กราบตีนกูก็ไม่ออมมือหรอก!!!” ลู่หานตะโกนเสียงดังพร้อมกับเตะผนังไม้อย่างแรงแสดงละครสมจริงจนกระทั่งคนที่อยู่ข้างนอกเดินผ่านไป

    มันไปแล้วจงอินยืนมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉย

    เออ ไม่ใช่แค่กูที่มา อี้ฟาน ชานยอล ไอ้เทา...

    เรื่องนั้นไว้ทีหลัง ตอนนี้กูต้องไปช่วยเซฮุนก่อน จงอินเดินไปหยุดอยู่ข้างผนังไม้ก่อนจะมองทะลุช่องว่างออกไปสังเกตการณ์

    เออ แล้วเด็กกรงหมาอยู่ไหนวะ?

    ศูนย์วิจัย กูคิดว่าตอนนี้พวกมันคงทำเรื่องไม่ดีอยู่ นัยน์ตาคมยังคงจับจ้องอยู่กับทหารที่เดินเพ่นพ่านอยู่ละแวกนี้

    ชิบหายเอ้ย! เป็นไงละครับเป็นไง ดิ้นอยากมากันนักใช่ไหม ควาย กระบือแบบแพ็คคู่ ไม่เคยเข็ดไม่เคยจำ

    นี่มันใช่เวลาที่มึงจะมาด่ากูเหรอ ถ้ารอดกลับไปได้กูจะกราบตีนมึงงาม ๆ สักสามทีเลยดีเปล่า?

    ดี ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น คืนคำเจอบาทาลูบพักตร์ ลู่หานชี้หน้าคาดโทษคนเป็นเพื่อนแต่ก็ต้องชะงักไปครู่หนึ่ง พอเบ้าหน้ามันอยู่ใกล้แสงสว่างแล้วก็แทบตกใจเยด นี่มึงโดนซ้อมหรือรถถังเหยียบหน้าเนี่ย อย่าเดินผ่านกระจกนะเดี๋ยวมีช็อก กูขอเตือนเลย ลู่หานขมวดคิ้วพลางส่ายหน้าช้า ๆ

    ช่วงที่กูไม่อยู่มึงคงเหงาปากมากสินะ จงอินมองอีกฝ่ายด้วยสายตาระอา

    ที่สุดอ่ะ มึงไม่รู้หรอกว่าคนที่นั่นแม่งอมทุกข์กันแค่ไหน กูอึดอัดไม่รู้จะคุยกับใคร หันหน้าไปทางไหนทุกคนก็เดินหนีหมด มีแค่มึงคนเดียวที่รับฟังกู

    เออ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน แผนว่าไง?

    ตอนนี้คิดแค่ว่าจะพามึงไปหาพวกอี้ฟานที่อยู่ด้านหลัง

    แล้วหลังจากนั้นล่ะ

    ไม่รู้อ่ะ ยังไม่ได้คิด

    ...

    ทั้งคู่หันมามองหน้ากันท่ามกลางความว่างเปล่าและเสียงกาที่บินอยู่บนหัว จงอินตบหน้าผากตัวเองแล้วเอนหลังพิงกับผนังก่อนจะชำเลืองมองเพื่อนที่แฝงตัวเข้ามาเป็นทหารซะดิบดี

    มึงถ่อหน้าเข้ามาในนี้ทั้งที่ไม่มีแผนเนี่ยนะ กูจะบ้า อี้ฟานกับชานยอลปล่อยมึงมาได้ไงวะ?

    เหย ของแบบนี้มันไม่ต้องเตรียมหรอกห่า คนเรียนจบมาทำงานไม่ตรงสายก็มีเยอะแยะไป แล้วที่วางแผนไว้ใช่ว่าจะลงรอยทุกอย่าง มึงเชื่อดิเดี๋ยวก็ไหลไปตามน้ำ จงอินแค่นหัวเราะในลำคอกับคำแถของเพื่อนซี้

    งั้นบอกมาว่ามึงจะพากูออกไปได้ยังไง? จงอินอ้าแขนออกกว้างพร้อมกับมองไปรอบ ๆ ห้องเก็บของที่ไม่มีทางไหนออกได้เลยนอกจากประตู

    มันจะไปยากอะไรวะ ก็แค่เดินออกไป

    เดินที่หน้า

    กูเข้ามาได้ก็ต้องพามึงออกไปได้ ช่วยดูหน่อยครับว่าอยู่กับใคร

    โจรขี้กากคนนึงที่คิดว่าตัวเองเก่งนักหนา

    เดี๋ยวมึงจะได้เป็นอีกคนที่คิดว่ากูเก่ง มานี่มา ลู่หานกระดิกนิ้วเรียก จงอินถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปหาเพื่อนอีกครั้งเราต้องแสดงละครกันหน่อย อาจจะมีฉากบู๊ เตะต่อยบ้าง กูจะทำเบา ๆ มึงก็ตีเนียนทำเป็นเจ็บจริงแล้วกันเคป่ะวะ

    มึงจะเตะกูโชว์พวกมันว่างั้น แบบนั้นจะไม่เด่นเกินไปเหรอวะ?

    เปล่าเว้ย กูแค่จะเตะตอนที่พวกมันสงสัยแค่นั้นแหละ มึงไม่ต้องกลัว

    กูกลัวโดนยิงตายคู่ก่อนได้ไปช่วยเซฮุนน่ะ มึงไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าจะทำได้? จงอินผลักหัวคนเป็นเพื่อนเบา ๆ ลู่หานถอนหายใจแล้วมองหน้าเพื่อน

    "ฟังนะ...กูไม่เคยเอาผู้หญิงสองคนพร้อมกันมาก่อน แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงมึงเชื่อเถอะว่ากูรับมือกับมันได้" นั่นหมายความว่าลู่หานผู้นี้สามารถผ่านอุปสรรคทุกสิ่งอันบนโลกใบนี้ได้แน่นอน

    ถุ้ย

    เทพสัดอ่ะกู

    ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายที่ทุกคนบุกเข้ามาช่วยเขาถึงที่นี่ สงสัยว่าลู่หานรู้ได้ยังไงว่าเขาอยู่ส่วนไหนของค่ายทหารแต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาถามในเรื่องที่อยากรู้ แต่สิ่งหนึ่งที่คิมจงอินรู้ในตอนนี้ก็คือความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อทุกคน กับการที่ยังมีคนเป็นห่วงและพร้อมจะยื่นมือเข้ามาช่วยเวลาที่เขาลำบากนี่มันดีมากจริง ๆ

    ขอบใจที่มา

    เออ

    ไม่มีใครพูดอะไรอีก พวกเขาต่างรู้สึกแปลก ๆ กับการที่ต้องพูดคำซึ้งทั้งที่ปกติมักจะสาดคำพูดหยาบ ๆ ใส่กันอยู่เสมอ จงอินกอดคอคนข้าง ๆ เข้ามา ลู่หานเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มมองหน้าเพื่อนซี้แล้วกอดคอตอบเช่นกัน

    พร้อมยัง?

    กูพร้อมตั้งแต่เมื่อวานละ

     

     

     

     

     

    งั้นลุย จะไม่มีการอยู่ให้เลือดเพื่อช่วยใครหน้าไหนอีกแล้ว

     

     

     

     

     

    TBC

     

     

     

     

    ขอโทษนะคะ ช่วยดับไฟที่กำลังลนดากดิฉันทีค่ะ พี่ลู่จะพาจงอินออกไปได้จริง ๆ ป่ะเนี่ย นางไปเอาความมั่นใจมาจากไหน แล้วถ้าเจอพวกอี้ฟานแล้วจะวางแผนยังไงต่อ จะเข้าไปในศูนย์วิจัยได้เหรอ ยากอยู่นะเนี่ย เซฮุนรอหน่อยนะ!!!

     

     

     

    (พื้นที่โฆษณา)

     

    เปิดโอนฟิคซอมบี้ซีซั่น 2 พร้อมรีปริ๊นท์ซีซั่น 1 จ้า >> http://t.co/0rr5IpfULe

    เสื้อซอมบี้ลายใหม่รายละเอียดข้างในนี้จ้า >> https://t.co/VMKYIPZnAG

    เล่นเกมชิงโปสเตอร์ฟิคซอมบี้อ่านกติกาในนี้ค่า >> http://t.co/6Gb7TY30uX

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×