ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "MEAN BOY" มนุษย์ชานยอล | CHANBAEK KAIHUN

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 14 :: His Heartbeat (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19.79K
      158
      6 ส.ค. 57

     

     

     

    Chapter 14

    His Heartbeat

     

     
     

    แบคฮยอน!!!”

     

    แทบสะดุ้งสุดตัวทันทีที่ได้ยินเสียงหลานชายตะโกนลั่นบ้าน เจ้าของชื่อหันไปข้างหลังแล้วก็พบกับใบหน้าอันบูดบึ้งของเด็กตัวสูงซึ่งยืนอยู่ตรงมุมเสาไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก อะไรอีกล่ะ กลับมาถึงบ้านก็แหกปากลั่นเลยนะมึง

     

    ไร

     

    บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเข้าไปในห้องผมโดยไม่ได้รับอนุญาต

     

    อะไรนะ ฉันต้องขออนุญาตแกด้วยเหรอนี่บ้านใคร แบคฮยอนก้าวดุ่ม ๆ ไปหยุดอยู่ตรงหน้าชานยอลพร้อมกับแหงนคอมองหน้ามันอย่างผงาด ฉันจะทำอะไรก็ได้แม้กระทั่งเดินทะลุกำแพงเข้าไปในห้องแก คนเป็นน้าเชิดหน้าเถียงหลานชายที่กำลังแสดงออกถึงความไม่พอใจโดยการกระชากเน็กไทออกอย่างแรง แหม่ นี่มันชาวร็อค

     

    งั้นผมก็เข้าไปในห้องคุณได้ใช่ไหม? เด็กหนุ่มยกยิ้ม เห็นสีหน้าแบบนั้นกับสรรพนามเชิงประชดประชันแล้วก็หมั่นหน้าเลยตบกระบาลแม่งไปทีนึง อึฮึ!

     

    แบคฮยอน!!!” เด็กตัวสูงกุมหัวตัวเองพร้อมกับชักสีหน้ามองคนตัวเล็กกว่า ซึ่งดูเหมือนว่าน้าชายของเขาจะไม่ได้สะทกสะท้านหรือสำนึกผิดใด ๆ

     

    ฉันทำอะไรผิด ไหนลองบอกเหตุผลมาสักยี่สิบข้อแบบไม่ซ้ำกันซิ

     

    ข้อแรก...นั่นมันห้องผม ถึงโฉนดที่ดินมันจะเป็นของน้าก็เถอะ สรรถ คำพูดของไอ้เชี่ยเทาเมื่อวันก่อนถึงกับลอยเข้ามาในหัวจนต้องรีบแถ

     

    ยาวไป แบคฮยอนทำมือปัด ๆ แล้วเดินไปบิดผ้าขี้ริ้วในถังน้ำขึ้นมาเช็ดตู้และเครื่องเสียงที่อยู่ใกล้ ๆ พอเห็นแบบนั้นชานยอลเลยลูบ ๆ กลุ่มผมตัวเองแล้วเอามาดม

     

    น้าจับผ้าถูพื้นแล้วมาตบหัวผมเนี่ยนะ ทำไมสกปรกแบบนี้เนี่ย อี๊!”

     

    ทำไมต้องเสียงดังด้วยยืนก็ห่างกันแค่เนี้ย แล้วไอ้น้ำในถังนี่ก็สกปรกได้ไม่เท่ากางเกงยีนส์ตัวเก่งของแกที่อยู่ในกะละมังหรอก เน่าอย่างกับน้ำล้างตีน เด็กหูกางถึงกับตาโตเมื่อได้ยินประโยคนี้ เหมือนมีคนส่งข้อความมาว่า คุณได้รับรอปอเช่จากอิชิตัน แต่สุดท้ายก็มีข้อความส่งกลับมาว่า โทษครับส่งผิดคน ยังไงอย่างนั้น

     

    อะไรนะ!!! น้าเอากางเกงผมไปซักงั้นเหรอ?!!!”

     

    ใช่ แกตกใจอะไร คนเป็นน้าเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มที่ยังคงส่งเสียงแว้ด ๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

     

    ได้แต่สงสัยว่ามันไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เมื่อคืนก็นอนดึกเพราะถูกเขาบังคับให้นั่งติวประวัติศาสตร์เกาหลีจนถึงตีสอง แล้วก็ตื่นพร้อมกันตอนตีห้าอาบน้ำแต่งตัวไปส่งที่โรงเรียน นี่ยังมีน้ำใจติวให้ตอนอยู่ในรถก่อนเฉดหัวมันเข้าโรงเรียนอีกด้วย คิดดูว่าบยอนแบคฮยอนผู้นี้ทุ่มเทให้กับหลานรักมากเท่าไหร่กัน

     

    กางเกงยีนส์เขาซักกันบ่อยที่ไหนอ่ะ ต้องใส่ให้มันเซอร์ ๆ สีหม่น ๆ ดิถึงจะเท่

     

    เท่แบบโสโครกอ่ะนะ แกไปเอาความเชื่อง่าว ๆ แบบนั้นมาจากไหน อย่างเก่งใส่สามครั้งก็หรูแล้ว แกไม่กลัวคันยุ้บยิ้บตรงนั้นหรือไง? พูดจบก็ละความสนใจจากทีวีจอใหญ่ก่อนจะหลุบตาลงมองเป้าหลานชายแล้วยิ้มกริ่ม พอเห็นแบบนั้นชานยอลเลยรีบเอามือปิดเป้าตัวเองเอาไว้

     

    คนเขาใส่กันแบบนี้กันทั้งประเทศ

     

    วัดจากโพลไหน ฉันก็เป็นคนเกาหลีแต่ไม่เห็นต้องใส่กางเกงตัวเดิมซ้ำ ๆ

     

    คุยกันแบบนี้ชาติหน้าก็คงรู้เรื่องหรอก คนอะไรพิลึกคน ชานยอลบ่นอุบอิบทำท่าจะเดินเข้าห้อง แบคฮยอนชักจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว เอะอะก็เอาความเป็นเจ้าของบ้านเข้าขู่ ไม่ก็อ้างว่าอายุมากกว่าบ้างแหละ แย่จริง ๆ

     

     

     

    RRRrrrrr!!

     

     

     

    ครับพี่อี้ฟาน

     

     

     

     

    ผึ่งงงงงงง!!!!

     

     

     

     

    อ๋อ...ว่างสิครับ ทำไมจะไม่ว่างล่ะ นั่น มีทำเสียงออดอ้อน ทีเมื่อกี้ล่ะขึ้นเสียงใส่กูจั๊ง

     

    พี่ยังไม่กินข้าวอีกเหรอ นี่สองทุ่มแล้วนะ...หา...อยากกินพร้อมกันเหรอครับ...

     

    จากตอนแรกตั้งใจจะเดินเข้าไปเปิดเพลงฮาร์ดคออัดเบ้าหูให้หายเซ็งสักหน่อยแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจ เด็กหนุ่มค่อย ๆ ชำเลืองตาไปทางด้านหลังแล้วก็เห็นคนตัวเล็กกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะถูโต๊ะกระจกตรงห้องนั่งเล่น แถมถูอยู่ที่เดิมซ้ำ ๆ ชนิดว่าถ้าเชื้อโรคมีเก้าชีวิตก็คงตายห่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด

     

    ผมก็ยังไม่กินเหมือนกัน... แบคฮยอนอมยิ้มตามใจพี่เลย...ร้านไหนก็ได้ครับ...สองทุ่มครึ่งเหรอ? โอเค...แล้วเจอกันนะ

     

    ทันทีที่กดวางสายเด็กหนุ่มก็สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคนเป็นน้าหันมาทางนี้ ชานยอลทำท่าบิดแขนบิดเอวแก้เก้อแล้วจ็อกกิ้งอยู่กับที่ก่อนจะลงไปวิดพื้นโชว์

     

    ทำบ้าอะไร

     

    ต้องออกกำลังกายหน่อยคนเพิ่งหายป่วย เดี๋ยวไข้กลับ

     

    ประสาท รีบไปอาบน้ำซะ กับข้าวอยู่ในตู้เอาออกมาเวฟกินได้เลย คนตัวเล็กเก็บถังน้ำแล้วเดินผ่านไปอย่างหน้าตาเฉย ชานยอลอ้าปากค้างก่อนจะมองตามแผ่นหลังอีกคนไป

     

    อะไร ทำไมมีกับข้าวอยู่ในตู้

     

    อ้าว แปลกหรือไง? แบคฮยอนหันกลับไปมองเด็กหนุ่มที่ยืนเท้าแขนอยู่หน้าประตูห้องน้ำด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก

     

    มันจะไม่แปลกเลยถ้าคนแถวนี้ไม่บอกครูสุดหล่อว่า ผมก็ยังไม่กินข้าวเหมือนกันฮะ~~’ ประโยคหลังจงใจดัดเสียงให้น่าหมั่นไส้ แบคฮยอนเทน้ำเสียทิ้งลงก่อนจะซักผ้าขี้ริ้วทั้งที่ไม่หันกลับไปมองกินแล้วก็บอกมา

     

    เฮ้ย กินอะไรกัน... แบคฮยอนตอบเสียงเบา พอไม่เห็นหลานชายเถียงกลับเลยหันไปดูสักหน่อย แล้วก็พบว่ามันไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว อ้าว หายหัวไปไหน

     

    แต่ก็ช่างเถอะ เขาก็ขี้เกียจตอบคำถามโง่ ๆ ของมันเหมือนกัน พอเป็นเรื่องพี่อี้ฟานแล้วก็ชอบเซ้าซี้อยู่เรื่อย ไม่รู้ชาติที่แล้วพี่แกไปทำบาปทำกรรมอะไรกับมันไว้ก็ไม่รู้

     

    นี่อะไร!”

     

    เหวอ!!!” แบคฮยอนหงายหลังลงไปนั่งกับพื้นเมื่อคนเป็นหลานโผล่หน้าเข้ามาพร้อมกับถ้วยสแตนเลสกับช้อนตะเกียบครบเซทที่เขาเอาไปแช่ไว้ในอ่างล้างจานเมื่อก่อนหน้านี้

     

     

    สรรถ!!! ชาติที่แล้วมึงเป็นโคนันเหรอ!!!

     

     

    ถ้วยไง

     

    แล้วไหนบอกว่ายังไม่กินข้าว?

     

    เออ ฉันโกหก!” แบคฮยอนลุกขึ้นยืนแล้วเบียดเด็กตัวสูงออกมาจากห้องน้ำ ชานยอลเดินตามคนเป็นน้าจนต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อจู่ ๆ แบคฮยอนก็หยุดกะทันหันจนแผงอกของเขาชนกับแผ่นหลังคนตัวเล็กฉันอยากไปกินข้าวกับเขา พอใจยัง

     

     

    พอใจยังงั้นเรอะ?!

     

     

    ใครจะไปพอใจ

     

    ชานยอลเลิกคิ้วมองคนตัวเล็กกว่า นี่กะจะยั่วโมโหเขาใช่ไหมที่คิดจะออกไปกับไอ้ครูหล่อนั่นอีกแล้ว ทั้งที่ก็รู้ว่าเขาไม่ชอบ ถึงเหตุผลมันจะงี่เง่าสมเต่าถุยสักแค่ไหนก็เถอะ แต่แบคฮยอนไม่รักไม่แคร์ความรู้สึกหลานเลยหรือไงกัน

     

    น้าไปแล้วผมจะกินข้าวกับใคร

     

    ปกติแกก็กินคนเดียวได้ไม่ใช่เหรอ อย่ามามารยาสารไถ

     

    ผมก็แค่แกล้งทำเป็นกินคนเดียวได้ต่างหาก อย่าไปนะแบคฮยอน นี่เลยครับ ปั้นหน้าน่าสงสารสุด ๆ เท่าที่เด็กตอแหลคนนึงจะทำได้ และดูเหมือนว่ามันจะได้ผลอยู่ไม่น้อยเมื่อคนเป็นน้าเงียบไปราวกับว่าชั่งใจในเหตุผลนี้นะ

     

    อะไร

     

    จะซักกางเกงยีนส์อีกกี่ตัวก็ได้ แต่อย่าไปกับครูอี้ฟานเลยนะ

     

    แบคฮยอนขมวดคิ้วมองจับผิดคนตรงหน้า เชื่อเถอะว่าช่วงหลัง ๆ ไอ้เด็กคนนี้เริ่มจะทำตัวแปลก ๆ เข้าไปทุกที ปกติเคยออดอ้อนแบบนี้ซะที่ไหนกัน อย่างเก่งก็แค่เข้ามาเอาหัวถูไหล่เขาตอนที่อยากได้รองเท้าคู่ใหม่เท่านั้นแหละ

     

    เดี๋ยวน้ากลับมาล้างจานเอง นี่คงเป็นคำตอบที่คนตัวเล็กให้กับเขา แบคฮยอนดึงแก้มเด็กหนุ่มก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง ทิ้งไว้แค่ใครอีกคนที่ยืนหงุดหงิดอยู่ตรงนั้น

     

     

     

     

     

     

    สามทุ่มยี่สิบสองนาที

     

    ตอนนี้ปาร์คชานยอลยืนโด้สายลมอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านที่น้าชายของเขากำลังหัวเราะอย่างมีความสุขอยู่กับไอ้ครูสุดหล่อที่แต่งตัวมาซะสาวโต๊ะข้าง ๆ มองกันตาเยิ้ม ไหนจะท่าทางตอนดึงทิชชู่ยื่นให้แบคฮยอนเช็ดปากนั่นอีก

     

    ตอนแรกก็อยากจะขำเพราะความเงอะงะของน้าชายที่กินยังไงให้เลอะปากจนต้องให้คนอื่นยื่นทิชชู่ให้ แต่พอมานึกอีกที มันอาจจะเป็นเพราะไอ้ครูขี้กากนั่นเอาแต่จ้องหน้าแบคฮยอนอยู่ตลอด ใช่ มันต้องใช่แน่ ๆ

     

    เฮ้ย~ ถึงพรุ่งนี้จะเป็นวันหยุดแต่กูก็ง่วงแล้วนะเว้ย เทาปรือตามองเพื่อนสนิทที่ยังเพ่งมองร้านอาหารฝั่งตรงข้ามอย่างไม่ละสายตา มึงลากกูมาด้วยทำไมอ่ะ

     

    เออน่า ทำไมมึงชอบถามคำถามที่ยังไงก็ไม่ได้คำตอบอยู่เรื่อยเลยวะ ชานยอลหันมาเหวี่ยง เทาได้แต่นั่งเบ้หน้าก่อนจะเอนหัวซบลงกับไหล่เพื่อน

     

    ก็อยากรู้อ่ะ

     

    เงียบ

     

    ถ้าเงียบกูต้องหลับแน่ ๆ มึงมันนิสัยไม่ดี ลากเพื่อนออกมาแล้วแทนที่จะดูแลแต่เสือกปฏิบัติกับกูเหมือนหมาข้างถนน เทาบ่นอุบอิบก่อนจะคล้องแขนเพื่อนตัวสูงกว่าเอาไว้เป็นหลัก ชานยอลพยายามสะบัดออกแต่ก็ไม่เป็นผล

     

    แล้วมึงเป็นเพื่อนกูไหม ถ้าไม่ใช่ก็เดินกลับบ้านไปเลย

     

    โห ดูพูด ๆ มึงไล่แบบนี้เลยช่ะ!” เทาผละตัวออกแล้วเลิกคิ้วขึ้นมองเพื่อนด้วยอารมณ์โทสะสุด ๆ

     

    เออ แบบนี้แหละ

     

    เพื่อนกันเขาไม่ไล่กลับเฉย ๆ หรอก มึงต้องควักเงินออกมาแล้วจ่ายค่าแท็กซี่ให้กูด้วย

     

    กูไม่ถีบมึงออกจากตรงนี้ก็ดีแค่ไหนละ ชานยอลมองคาดโทษเพื่อนตัวเขียวที่กำลังปั้นหน้างอนเขาอยู่

     

    มึงจะให้กูเดินกลับได้ยังไง มึงไม่เป็นห่วงกูเหรอ เดี๋ยวนี้ข่าวข่มขืนลงหนังสือพิมพ์อยู่โครม ๆ ถ้ากูเป็นอะไรขึ้นมาแล้วจะมีใครหน้าไหนยอมเป็นเพื่อนกับมึงอีกอ่ะ

     

    โถ หน้าตาแบบมึงนี่น่าข่มขืนมากเลยสินะครับ เดินออกไปสามก้าวมาเฟียยังต้องทิ้งปืนแล้วก้มลงกราบตีนท่าเบญจางคประดิษฐ์เพราะเห็นเบ้าหน้ามึง หน้าโหดอย่างกับโรงฆ่าสัตว์แล้วยังเสือกกลัวโดนข่มขืน กูล่ะเชื่อมึงเลย

     

    สรุปแล้วมึงไม่ห่วงกูเลยช่ะ ;_;”

     

    มึงจะตัดพ้อทำห่าไร เฮ้ย! แบคฮยอนออกมาแล้ว ลุก ๆ ๆ ชานยอลคว้าแขนเพื่อนให้ลุกขึ้น จื่อเทาปลิวไปตามแรงดึงเพราะความง่วงที่กำลังสร้างแลนด์มาร์กบนเปลือกตาเขา

     

    ไปไหนอ่ะ กูง่วงงงงงงงงงงง

     

    ฟังนะ ถ้ากูพูดอะไรมึงต้องเออออทุกอย่าง อย่าเสือกพูดอะไรถ้ากูไม่ได้ถาม เคไหม? ชานยอลหันมาชี้หน้าเพื่อนสนิท จื่อเทาปรือตามองแล้วพยักหน้ารับ

     

    เด็กตัวสูงสองคนวิ่งข้ามถนนไปเพื่อดักรออยู่มุมตึก ชนิดว่าถ้าน้าชายของเขาเลี้ยวโค้งมามีได้ป๊ะหน้ากันแน่ ๆ และมันก็ได้ผล!

     

    โอ๊ะ!!”

     

    ชานยอล?

     

    อ้าว...แบคฮยอน? มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย...หวัดดีครับพี่ ชานยอลยิ้มกว้างพร้อมกับเข้าไปกุมมืออี้ฟานและไม่ลืมที่จะเขย่าสองสามทีเป็นการทักทาย

     

    ฉันต่างหากที่ต้องถามแก แบคฮยอนขมวดคิ้วมองเด็กตัวสูงทั้งสองคน ก่อนที่จื่อเทาจะยกมือไหว้เขา

     

    น้าแบคหวัดดี

     

    เออไหว้พระเถอะ

     

    ตรงนี้ไม่มีพระนะน้าแบค

     

    ไอ้... แบคฮยอนแทบเส้นกระตุก แค่หลานกูคนเดียวก็กวนส้นตีนจะแย่ละนี่ต้องมารับมือกับไอ้เด็กกะโปกซื่อหน้าตายแบบมันด้วย

     

    บังเอิญจังเลยนะ นี่ผมกับไอ้เทามาร้านหนังสือ แบบว่าเหลือสอบวันสุดท้ายเลยอยากหาความรู้ใส่หัวนิดนึง ชานยอลหัวเราะร่าพร้อมกับเคาะนิ้วชี้ตรงขมับตัวเองเป็นท่าประกอบ

     

    หนังสือไรของมึงว้า...

     

    สัดเงียบ!” เด็กหนุ่มหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนสนิทก่อนจะหันมาหัวเราะต่อหน้าทั้งคู่อีกครั้ง

     

    เหลือสอบวิชาอะไรเหรอ? อี้ฟานถามและไม่ลืมที่จะยิ้มให้เด็กทั้งสองคน

     

    เหลือ... ชานยอลลากเสียงยาวก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อน จื่อเทาส่ายหน้าช้า ๆ พร้อมกับทำท่ารูดซิปปาก พ่อมึง! ทีงี้ล่ะเสือกอยากเงียบขึ้นมา!!

     

    เหลือศิลปะกับพละ

     

    อ้อ...เป็นวิชาที่ยากพอสมควรเลยนะ อี้ฟานยิ้ม

     

    ไอ้เชี่ยครูสุดหล่อ มึงกำลังจะลูบคมกูใช่ไหมถึงได้แซะด้วยประโยคสุภาพแบบนี้ วูบหนึ่งชานยอลได้หุบยิ้มลง เขากำลังต่อสู้กันทางสายตากับไอ้ครูขี้กากที่ยืนตีขนาบข้างน้าชายของเขาอยู่

     

    แล้วไหนอ่ะหนังสือ แบคฮยอนหลุบตาลงมองมือที่ว่างเปล่าของคนตรงหน้า

     

    หาไม่เจอ ไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง โบ๋เบ๋ เด็กตัวสูงแบมือขึ้นระดับหัวไหล่ สมัยเรียนน้าเก่งพละใช่ป่ะ ติววิชานี้ให้ด้วยดิ

     

    เฮ้ย~ ต้องติวด้วยเหรอวะ พละมึงได้ตั้ง... ชานยอลตะปบปากเพื่อนมหาประลัยได้ทันท่วงที เด็กหนุ่มยิ้มกว้างพร้อมกับล็อกคออีกคนไว้

     

    คะแนนเก็บผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ น้าก็รู้ว่าผมชอบโดดเรียน คนเป็นหลานว่าก่อนจะกลอกตาไปทางไอ้ครูขี้เก๊กที่กำลังมองเขาด้วยสายตาจับผิดอยู่

     

    สอบอีกทีวันจันทร์ไม่ใช่หรือไง แกยังมีเวลาอ่านอีกทั้งวัน ไหนพรุ่งนี้ฉันก็มีสอนกว่าจะถึงบ้านก็ตอนเย็น

     

    ผมรอได้ เดี๋ยวจะอ่านแบบงู ๆ ปลา ๆ รอแล้วกัน เข้าใจนิดนึงนะพวกกติกาบาสเก็ตบอลนี่ผมแทบจะไม่รู้เรื่องเลย ตอแหลไปครับกู นาทีนี้ต้องแยกไอ้ครูขี้กากออกจากแบคฮยอนให้ได้

     

    ฉันก็ไม่ได้เก่งบาสสักหน่อย เออ พรุ่งนี้แกไปหาไอ้จงอินที่บ้านดิ มันเป็นนักบาสมาก่อน

     

    อย่าโบ้ยภาระให้คนอื่นได้ป่ะแบคฮยอน ผมเป็นหลานน้านะ

     

    อ้าง <- เทา

     

    หุบปาก <- ชานยอล

     

    ตอนสมัยเรียนพี่ก็เป็นนักบาสเหมือนกัน พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนพี่แวะไปติวให้ได้นะ เสียงของไอ้ครูหน้าหล่อทำให้เส้นเลือดกระตุกได้ง่าย ๆ ชานยอลเหล่มองอีกฝ่ายด้วยหางตาก่อนจะหายใจเข้าลึก ๆ

     

    ไม่เป็นไรครับ มันเป็นเรื่องของน้ากับหลาน อีกอย่างผมเกรงใจพี่ด้วย

     

    หลานแบคฮยอนก็เหมือนหลานพี่เหมือนกัน จริงไหม? อี้ฟานหันไปยิ้มให้กับคนตัวเล็ก จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ถึงม่านบาเรียสีชมพูที่แผ่ซ่านอยู่รอบตัวสองคนนี้

     

    หูยมึง...โคตรโรแมนติกเลยอ่ะ... เทากระซิบกระซาบเพื่อน เหมือนได้ดูหนังวายแบบสด ๆ เลย เคะตัวเล็ก ๆ คู่กับเมะตัวสูงชะลูด...โง้ย~~”

     

    โง้ยพ่อง!”

     

    ถ้าพี่ไม่ลำบาก... คนเป็นน้าช้อนตามองคนข้าง ๆ โอ้ย นี่ก็อ่อยเขาจังเลย ช่วยทำตัวให้มันน่าหมั่นไส้น้อยลงกว่านี้ได้ไหมแบคฮยอน!

     

    ถ้าเราไม่สบายใจก็ทำมื้อเย็นเป็นการตอบแทนพี่แล้วกันนะครับ

     

    อะแฮ่ม!” ชานยอลทำท่ากระแอมไอโดยมีเทาคอยลูบหลังให้อย่างเป็นห่วง ช่วยออกมาจากโลกส่วนตัวด้วยครับ มีกูยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคน

     

    อะไรติดคอมึงเหรอเพื่อน

     

    ส้นตีนติดน่ะ จบนะ หันไปตอบตัดรำคาญแล้วมีทำท่ายึ๊กใส่ เทาทำตาปริบ ๆ แล้วพยักหน้า แล้วนี่จะไปไหนกันต่ออ่ะ?

     

    กลับบ้านไง

     

    อ้อ...นี่ต่างคนต่างเอารถมาใช่ไหม? ชานยอลชี้ไปยังคนตรงหน้าทั้งสองแล้วอี้ฟานก็พยักหน้ารับดีเลยผมจะได้กลับพร้อมน้า ส่วนมึง... เด็กหนุ่มยิ้มกว้างแล้วดันหลังเพื่อนจนเซไปข้างหน้า จื่อเทายืนเกาหัวแกร่ก ๆ ก่อนจะมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ

     

    อะไรว้า

     

    ฝากไปส่งเพื่อนผมหน่อยนะพี่

     

    หา?!” จากที่ง่วง ๆ ถึงกับสร่างทันที จื่อเทาเหลือกตามองเพื่อนตัวสูงกว่าก่อนจะส่ายหน้าพรืดเมื่อชานยอลลากเขามาถึงที่นี่แล้วก็ปล่อยเซอร์ทิ้งให้เขากลับกับคนอื่นได้อย่างหน้าตาเฉยไม่เอาแบบนี้ดิ อย่านะเว้ย...

     

    พูดเองเออเองอยู่นั่นแหละ จะให้พี่อี้ฟานไปส่งเพื่อนแกได้ยังไง หัดมีความเกรงใจคนอื่นบ้างสิไอ้เด็กคนนี้ แบคฮยอนมองคาดโทษหลานชายพร้อมกลับผลักหัวไปทีนึง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของเขาเลยสักนิด

     

    ไม่ได้ใช่ป่ะพี่ ผมขอมากไปเหรอ ขนาดเรื่องติวพี่ยังอาสาช่วยเองเลย เรื่องแค่นี้คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกใช่ไหมพี่ ใช่ไหม ๆ ๆ คงไม่ต้องพูดถึงสีหน้าของไอ้หลานตัวแสบในตอนนี้ กวนส้นตีนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อีกแล้ว

     

    บ้านเราอยู่ไหนเหรอ? อี้ฟานหันไปถามเด็กเขียวที่กำลังปั้นหน้าลำบากใจอย่างถึงขีดสุด เขาเห็นว่าตามขมับนั้นมีเหงื่อไหลออกมาเพราะความกดดัน

     

    เฮ้ย~ ไม่เป็นไรพี่ ผมนั่งแท็กซี่กลับเองได้

     

    ไม่เป็นไร พี่ก็ไม่ได้รีบไปไหน อีกอย่าง...หลานทั้งคนฝากมาพี่จะปฏิเสธได้ยังไงกัน?

     

     

     

    เปรี้ยง!!!!

     

     

     

    รู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวทันทีที่ได้ยินประโยคเมื่อครู่ ชานยอลเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มขณะสบตากับไอ้ครูหนุ่มที่ยังคงยิ้มให้เขา ส่วนแบคฮยอนไม่ต้องพูดถึงครับ ยืนเขินบิดไป นี่ก็จะเขินอะไรนักหนา!!!

     

    เอางั้นเหรอพี่...ผมเกรงใจอ่ะ ;_;”

     

    อื้ม งั้นพี่กลับแล้วนะครับแบคฮยอน ร่างสูงวางมือลงบนหัวคนตัวเล็กพร้อมกับยีเบา ๆ แบคฮยอนพยักหน้าน้อย ๆ พร้อมกับโบกมือลา

     

    กลับดี ๆ นะครับ

     

    ถ้าถึงแล้วพี่จะโทรหา เราก็ขับรถดี ๆ ล่ะ

     

    พี่ก็ด้วยนะ

     

    โอ้ยยยยยยยยยยยย!!!!! อะไรจะสั่งเสียกันขนาดนั้นพรุ่งนี้ไม่ต้องไปเจอหน้าค่าตากันที่โรงเรียนไงวะ นี่อยากเดินไปแทรกกลางเหมือนโมเสกแยกทะเลแดงเหลือเกิน ไม่รู้จะสวีทอะไรกันนักหนา ไม่เห็นหัวหลานที่ยืนอยู่ตรงนี้เลยสักนิด

     

    คนทรยศ

     

    ประโยคสุดท้ายที่เพื่อนของเขาส่งมาพร้อมกับแววตาตัดพ้อ แถมยังมีชูนิ้วโป้งใส่ด้วยนะ ท่าทางแบบนั้นคิ้วท์ตีนที่สุด พอเห็นแบบนั้นชานยอลเลยเอามั่งครับ ชูนิ้วโป้งกลับไปแต่ในที่นี้หมายความว่ามึงทำดีมากเพื่อนรัก

     

    เหลือเพียงแค่เขากับแบคฮยอนที่ยังคงอยู่ตรงนี้ พอหันไปก็แทบสะดุ้งกับสายตาที่มองมา บ่งบอกได้ดีว่าน้าชายของเขากำลังหงุดหงิดเพราะโดนขัดจังหวะอีกแล้ว

     

    ไป กลับบ้าน

     

    คนตัวเล็กเดินนำไปข้างหน้าแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกคว้าข้อมือเอาไว้ แบคฮยอนหันไปมองหน้าเด็กตัวสูงที่กำลังมองมาด้วยแววตาแปลก ๆ ไม่มีรอยยิ้มกวนประสาท ไม่มีใบหน้ามึนตึง สีหน้าแบบนั้นชานยอลกำลังคิดอะไรอยู่เขาเดาไม่ออกเลย

     

     

     

    ไปเดินเล่นกันก่อนแล้วค่อยกลับบ้านนะแบคฮยอน

     

     

     

     

    70%

     

    งั่ม ๆ ๆ

     

    ร่างสูงหันไปทางคนที่นั่งกินขนมปังอยู่เบาะข้างคนขับก่อนจะหันกลับไปมองถนนอย่างในทีแรก มือข้างหนึ่งบังคับพวงมาลัยไปด้วยท่าทีสบาย ๆ ส่วนมืออีกข้างก็วางอยู่บนหน้าขา เสียงเพลงในรถคลอเบา ๆ จนแทบจับใจความไม่ได้ แต่มันก็สามารถทำลายความอึดอัดที่คละคลุ้งอยู่รอบข้างได้พอสมควร

     

    เอาน้ำหรือเปล่า?อี้ฟานถามหลังจากเหยียบเบรกเมื่อขับมาถึงไฟแดง

     

    เทาทำตาปริบ ๆ มองอีกคนที่ทำให้เขานั่งเกร็งดากมาตลอดทั้งทาง เด็กหนุ่มพยักหน้าช้า ๆ พร้อมกับห่อไหล่รับขวดโค้กมาด้วยท่าทางเจี๋ยมเจี้ยมที่สุดเท่าที่ยอดชายจากแดนชิงเต่าจะมีมารยาทได้

     

    ชื่อหวงจื่อเทาใช่ไหม?

     

    ครับ เทาแทะขนมปังต่อไป เพิ่งรู้วันนี้เองว่าคนเราสามารถเป็นควายได้เพราะคำถามของคนหน้าตาดีที่นั่งฉายแสงอยู่ข้างตัว บอกเลยว่ามันทำให้เด็กคนหนึ่งที่กำลังเคี้ยวขนมปังแปรเปลี่ยนเป็นหญ้าได้โดยไม่มีข้อแม้

     

    จื่อเทา

     

    แค่ก ๆ

     

    ค่อย ๆ เคี้ยวสิ อี้ฟานมองคนข้าง ๆ ก่อนจะเลื่อนมือไปช่วยลูบหลังแล้วหันไปมองถนนอีกครั้งเมื่อถึงสัญญาณไฟเขียว เทาเบี่ยงตัวหลบมือแกร่งราวกับถูกของร้อน ตอนนี้ตัวเด็กหนุ่มแทบจะงอเป็นสะพานโค้งพระรามห้าแล้ว คนข้าง ๆ จะรู้ไหมว่าที่เขาแทบสำลักขนมก็เพราะพี่แกนั่นแหละ แค่เรียกชื่อยังสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกขนาดนี้ คิดสภาพตอนกระซิบข้างหูตอนนั่งอยู่บนตักสิ

     

     

     

    เดี๋ยว...นั่นมันในฟิค

     

     

     

    โอ้ย... เทาทุบขมับตัวเองปั๊ก ๆ ไล่ความคิดอัปปรีย์ที่ผุดเข้ามาในหัวอย่างไม่ลดละเพราะคนข้าง ๆ ที่ทำให้เขานึกถึงฉากในฟิคเรื่องหนึ่งที่เพิ่งอ่านจบไปสด ๆ ร้อน ๆ

     

    ในใจก็พร่ำขอโทษน้าของเพื่อนสนิทที่ริอาจคิดอกุศลแบบนี้ ทั้งที่หวงจื่อเทาไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้นเลย อยากจะร้องไห้ เมื่อไหร่จะถึงบ้านวะ นี่นั่งเกร็งจนเส้นเลือดไม่ไหลเวียนแล้ว

     

    ดีจังเลยนะ

     

     

    ดีกับผีไรล่ะควั้ฟ นี่ถ้าเยี่ยวได้คือเยี่ยวไปแล้ว

     

     

    นาน ๆ ทีจะเจอคนจีนเหมือนกัน อี้ฟานยิ้มแต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นก็กลับไปสนใจถนนต่อพูดภาษาเกาหลีเป็นตั้งแต่อายุเท่าไหร่เหรอ?

     

    สิบสี่ครับ...

     

    มาอยู่ที่นี่นานหรือยัง?

     

    ก็พอสมควร...

     

    คงสนิทกับชานยอลมากเลยใช่ไหมหืม? ยังคงยิ้มอยู่ ตอนนี้กูเข้าใจที่ไอ้ชานยอลเล่าแล้วว่าทำไมน้าแบคถึงสะดีดสะดิ้งมากตอนถูกพี่แกมองหน้า

     

    สนิทดิพี่ นี่อ่ะซี้กันเลย เทาโพล่งขึ้นมาเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อี้ฟานยิ้มขำ เขาเอื้อมมือไปเบาเพลงลงแล้วหันไปขับรถต่อ

     

    พูดถึงชานยอลแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เวลาเด็กคนนั้นแสดงออกว่าติดน้าชายน่ะน่ารักดีนะว่าไหม?

     

    โหยพี่อย่าว่าติดเถอะ มันก็แค่หวงไม่อยากให้ใครมายุ่งกับน้ามันก็เท่านั้น...อุ่บส์จื่อเทารีบตะปบปากตัวเอง ตอนนี้ตาของเขาเบิกกว้างเท่าทางเข้าสนามบินเมื่อเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอหลุดพูดความลับของเพื่อนออกไป

     

    หืม...หวงแบคฮยอนงั้นเหรอ?

     

    เอ่อ...ไม่ใช่อย่างนั้นพี่ คือผม... เทาหน้าซีดเป็นไก่ต้มก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อจู่ ๆ พี่แกก็เลี้ยวรถไปจอดหน้าร้านกาแฟเฉ๊ย พี่...จอดทำไมอ่ะครับ...

     

    พี่อยากดื่มกาแฟสักแก้วน่ะ ไม่รีบใช่ไหม? ร่างสูงว่าพร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัย จื่อเทาทำหน้าเหวอพลางส่ายหน้าช้า ๆ อย่างไม่เต็มใจนัก

     

     

    คือไม่รีบหรอกครับพี่ แต่ถ้าอยู่นานกว่านี้ไอ้เชี่ยชานยอลไหม้เกรียมแน่ ๆ

     

     

    เด็กตัวสูงเดินห่อไหล่ออกมาจากรถในขณะที่พี่คุณครูสุดหล่อเดินเข้าไปสั่งออเดอร์แล้วแถมยังมีกวักไม้กวักมือเรียกอีกด้วย ตอนนี้หวงจื่อเทารู้สึกเหมือนเป็นเคะใส ๆ ในฟิคที่ติดสอยห้อยตามพระเอกมาเพราะความบังเอิญ ทั้งที่จริงแล้วเกิดขึ้นจากความเหี้ยของเพื่อนที่เสือกปล่อยเซอร์ทิ้งเขาไว้กับพี่แก (สรรถ)

     

    ดื่มอะไรดี เดี๋ยวพี่เลี้ยง <- พระเอกไปอีก

     

    ชาเขียวปั่น...

     

    เอาชาเขียวปั่นอีกแก้วนึงครับ อี้ฟานหันไปสั่งกับแคชเชียร์ก่อนจะเปิดกระเป๋าเงินสีดำแล้วยื่นบัตรเครดิตให้ เหยดดดดด...ใช้บัตรเครดิตจ่ายค่ากาแฟซะด้วย นี่มันวิถีของคนหล่อชัด ๆ เงินสดไม่ต้องเดี๋ยวท้องจะเสีย...

     

    เอาวิปครีมเยอะ ๆ นะ... เทาก้ม ๆ เงย ๆ อี้ฟานยิ้มขำพลางส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะบอกพนักงานให้ใส่วิปครีมเพิ่มให้เด็กหนุ่มที่มากับเขา

     

    ตอนนี้ทั้งคู่นั่งอยู่โต๊ะติดกระจกทางด้านในสุด จื่อเทาไม่แน่ใจว่าที่ชาเขียวปั่นหมดฮวบฮาบจนเหลือแค่ครึ่งแก้วภายในไม่ถึงสามนาทีนี่เป็นเพราะความกระหายหรือเป็นเพราะเขินกันแน่ ถ้าถามว่าชอบพี่แกเหรอก็คงตอบว่าไม่ มันเป็นอารมณ์ฟินคนหล่อ สูง ดูดีที่เหมือนกับว่าหลุดออกมาจากการ์ตูนวายเท่านั้น

     

    ครั้งหนึ่งไอ้ชานยอลเคยถามว่าที่เขาเป็นหนุ่มวายแบบนี้คงไม่ได้คิดอกุศลกับมันหรอกใช่ไหม วินาทีนั้นหวงจื่อเทาอยากจะขากเสลดถุยลงพื้นแล้วเอาตีนยีจนแตกฟองแต่ติดที่ว่าไม่กล้าเพราะวันนั้นอีอ้วนจองอึนจีเป็นเวรทำความสะอาด วันนั้นถึงได้รู้ว่าอันที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้หวั่นไหวไปกับผู้ชายหน้าตาดีทุกคน

     

    อีกแก้วไหม

     

    ก็เกินป๊าย สำเนียงเหน่อ ๆ ของจื่อเทาทำเอาคนที่กำลังจะยกกาแฟร้อนชะงักมือเอาไว้ เป็นอีกครั้งที่เด็กคนนี้ทำให้เขาหลุดขำ

     

    เมื่อกี้ที่คุยกันค้างไว้น่ะ พี่ขอถามอะไรอีกหน่อยสิ

     

    ไม่เอาเรื่องไอ้ชานยอลนะ...

     

    ทำไมล่ะ? อี้ฟานจิบกาแฟทั้งที่สายตายังคงจับจ้องไปยังคนตรงหน้า จื่อเทาถอนหายใจแล้วเบ้ปาก

     

    ผมไม่อยากขายเพื่อนอ่ะ พี่ถามเรื่องอื่นไม่ได้เหรอ

     

    พี่แค่ถาม...ไม่ได้คิดร้ายอะไร แต่ถ้าเราลำบากใจพี่จะไม่ถามก็ได้ครับ อี้ฟานวางแก้วกาแฟลง หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบกริบ ได้ยินแค่เสียงดนตรีในร้านคลออยู่ท่ามกลางความกดดันที่ทำให้หวงจื่อเทากลายเป็นเด็กสารเลวที่แดกชาเขียวปั่นฟรีแต่ไม่ยอมขายความลับเพื่อนให้พี่แกฟัง

     

    พี่จะรู้ไปทำไมอ่ะ... ได้ยินคำถามเสียงแผ่วแล้วก็เงยหน้าขึ้น อี้ฟานยิ้มบาง ๆ ก่อนจะขยับแก้วเข้าหาตัวเมื่อพนักงานเดินมาเสิร์ฟเค้กสามชิ้นที่ทำให้จื่อเทาตาเหลือกอีกครั้ง

     

    ไม่รู้ว่าชานยอลเคยเล่าเรื่องของพี่กับแบคฮยอนให้เราฟังหรือเปล่า? ทานสิพี่สั่งมาให้ มือแกร่งดันจานเค้กไปตรงหน้าพร้อมกับขยับส้อมให้เสร็จสรรพ นี่เหลือแค่ป้อนกับเคี้ยวแทนกูเท่านั้น

     

    จื่อเทาเม้มปากก่อนจะชำเลืองมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ผู้ชายคนนี้การตลาดดีมาก มีการวางแผนและการซื้อใจผู้บริโภคอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเลย

     

    ก็เล่า...

     

    งั้นแสดงว่าชานยอลก็คงสนใจเรื่องน้าชายของเขาอยู่พอสมควร

     

    สนใจกับเสือกมันมีเส้นบาง ๆ คั่นอยู่นะพี่...

     

    อย่างนั้นเหรอ อี้ฟานหัวเราะ

     

    ผมก็ไม่เข้าใจที่มันเป็นเหมือนกันอ่ะ ปากอย่างใจอย่าง มันชอบทำตัวแปลก ๆ ผมนี่งงไปหมด

     

    หืม?

     

    ปากบอกว่ารำคาญน้าแบค แต่สิ่งที่มันทำคือหวงชัด ๆ ยกตัวอย่างเช่นวันนั้นที่มันตามไปถึงโรงหนังแล้วอ้างว่าไม่สบาย...อุ่บส์!” จื่อเทาตะปบปากตัวเองอีกครั้ง คราวนี้อี้ฟานไม่ได้หัวเราะเหมือนกับก่อนหน้านี้ แววตาของร่างสูงที่มองมานั้นแอบน่ากลัวอยู่นิด ๆ ถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง

     

    วูบหนึ่งหวงจื่อเทารู้สึกได้ถึงออร่าสีดำที่แผ่ซ่านออกมาจากรอบตัวคนตัวสูงกว่า แต่ก็แค่ครู่เดียวอี้ฟานก็กลับมายิ้มเหมือนเดิม

     

    วันนั้นชานยอลไม่ได้ป่วยหรอกเหรอ?

     

    ป...ป่วย

     

    เหรอ?

     

     

    จะถามย้ำทำหม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย TT_TT

     

     

    พักหลังพี่เห็นชานยอลติดแบคฮยอนมาก มันทำให้พี่คิดว่าบางทีเด็กคนนั้นอาจจะแค่ติดน้าชาย เคยได้ยินหรือเปล่าว่าเด็กมักจะเห็นพี่เป็นไอดอล

     

    เฮ้ย~ ไม่หรอกพี่ ไอดอลของไอ้เชี่ยชานยอลมีแค่พี่เซฮุนคนเดียวเท่านั้นแหละ เทาว่า

     

    พี่แค่เปรียบเปรยน่ะ... ร่างสูงยิ้มเจื่อนก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่มแก้อาการหน้าแตก

     

    ก่อนหน้านี้มันแสดงออกชัดจะตายว่ารำคาญน้าแบค แต่ที่มันทำน่ะไม่ต่างอะไรจากหึงเลย...อุ่บส์!” เทาตะปบปากตัวเองอีกครั้ง คราวนี้เขาตบปากตัวเองสามครั้งก่อนจะเหวี่ยงมือไปไกล ๆ มันเป็นวิธีแก้เคล็ดอย่างหนึ่งที่แม่สอนไว้ตั้งแต่เด็ก

     

    พี่ว่าเราเริ่มจะออกนอกทะเลแล้วล่ะ คำว่าหึงเขาไม่ใช้กับคนในสายเลือดหรอกนะ ที่อธิบายให้ฟังเพราะเห็นว่าเด็กคนนี้เป็นคนจีนเหมือนกันเขาก็เลยพอจะเข้าใจว่าการใช้คำพูดอาจจะมีผิดพลาดกันบ้าง

     

     

     

    เฮ้ย~ สายเลือดอะไรกันพี่ ไม่รู้เหรอว่ามันกับน้าแบคไม่ใช่สายเลือดเดียวกันอ่ะ

     

     

     

     

     

    ช่วงเวลาค่ำคืนในย่านฮงแด ผู้คนยังคงเดินเพ่นพ่านอยู่ละแวกนี้โดยที่ไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่องไปพักผ่อน บยอนแบคฮยอนยังหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้ว่าเขามายืนง่อยแดกอะไรที่นี่กับหลานชายตัวแสบท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกโดยรอบที่ทำให้รู้สึกตาร้อนทุกทีที่หันไปเห็นคู่รัก

     

    ใช่ คู่รักไง คู่รักเต็มไปหมด ไหนจะพวกเล่นดนตรีสดที่อยู่มุมนั้นอีก จริงอยู่ที่เขาไม่ใช่คนสนใจกับเรื่องเพลง เรื่องวงดนตรี แต่เสียงที่กำลังเพลงบรรเลงเนื้อร้องนี่ก็หวานหยดย้อยซะ ส่วนเสียงคนร้องก็ทุ้มนุ่มจนอยากเข้าไปดูหน้าว่าพ่อแม่ได้กันท่าไหนทำไมถึงได้มีลูกเสียงดีแบบนี้

     

    ชานยอลเดินกลับมาพร้อมกับสายไหม ภาพที่เห็นมันทำให้เขารู้สึกว่าไอ้เด็กนี่ไม่ได้โตไปกว่าเมื่อสิบปีที่แล้วเลย เด็กตัวสูงอ้าปากงับสายไหมสีขาวเหมือนกับเด็ก ๆ ในขณะที่แบคฮยอนได้แต่ยืนมองความสุขของหลานที่ถ่ายทอดออกมาทางสีหน้า

     

    จะกลับได้ยัง

     

    อะไร

     

    กลับบ้านไง แบคฮยอนทำหน้าเนือย พอได้ยินแบบนี้ไอ้เด็กแสบก็กลอกตาขึ้นบนแล้วถอนหายใจ แสดงออกอย่างชัดเจนว่ามันไม่โอเคกับคำพูดของเขาเป็นอย่างมากฉันยังไม่ได้สะสางคดีที่แกสาระแนออกมาข้างนอกเลยนะ

     

    จะดุผมว่างั้น ชานยอลเลิกคิ้วมองคนข้าง ๆ ก่อนจะย่นจมูกแล้วหันไปกัดสายไหมอย่างหัวเสีย ซึ่งท่าทางแบบนั้นในสายตาแบคฮยอนมันช่างเหมือนลูกหมาที่กำลังพยายามฟัดอะไรสักอย่างอยู่

     

    แล้วออกมาทำไม น้าบอกน้าเตือนเคยฟังบ้างไหมห้ะ? พูดจบก็ผลักหัวไอ้เด็กตัวสูงไปทีนึง หรือว่าแกตามฉันมา

     

    โห่ย ตลกละ ใครจะไปตามคุณครับบยอนแบคฮยอน?

     

    เรียกดี ๆ คนตัวเล็กผลักหัวเด็กหนุ่มอีกครั้ง คราวนี้คนที่เดินผ่านไปมาถึงกับสะดุ้งพลางมองทั้งคู่อย่างหวาด ๆ

     

    ชานยอลลูบหัวตัวเองป้อย ๆ ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังยืนมองหน้ากันราวกับรอว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรอีก เด็กตัวสูงอ้าปากงับสายไหมทั้งที่ยังจ้องอีกฝ่ายอยู่ ท่าทางแบบนั้นแม้แต่ลิงใส่ชุดว่ายน้ำก็รู้ว่ามันกำลังงอน

     

    โอเค อยากทำอะไรต่อล่ะพ่อคุณ แบคฮยอนถามอย่างอ่อนใจ เอาเถอะ เห็นว่าวันนี้มันเพิ่งสอบเสร็จคงเครียด ๆ ถ้าพามันเดินกินลมหน่อยก็คงไม่เสียหลายไหน ๆ ก็ถ่อหน้ามาถึงฮงแดแล้ว ถึงจะเซ็งเรื่องพี่อี้ฟานอยู่ก็เถอะ

     

    หิวอ่ะ ไปกินข้าวกัน

     

    ฉันบอกแกไปหรือยังว่าเพิ่งกินข้าวกับพี่อี้ฟานมา

     

    ที่บ้านก็กิน

     

    เอออออออ ก็กินไปสองรอบแล้วไง แกคิดว่าฉันจะยัดอะไรลงอีกไหมล่ะหื้อแบคฮยอนขมวดคิ้วเถียงคอเป็นเอ็น ซึ่งตอนนี้ชานยอลกำลังเลียนแบบท่าเดียวกับเขาอยู่ ห่านี่อ้อนตีนมากเดี๋ยวปั๊ด!

     

    งั้นไปนั่งดูผมกินก็ได้ นะ นี่หิวจนท้องร้องแล้ว คนเป็นหลานว่าพร้อมกับลูบท้องตัวเอง เห็นแบบนั้นคนตัวเล็กเลยฟาดท้องมันไปทีนึงข้อหาหมั่นไส้ -_- “โอ๊ย!”

     

    น้าทำกับข้าวไว้แล้วทำไมไม่กินก่อนออกมา

     

    เดี๋ยวกลับไปกินเอง แต่ตอนนี้กินที่นี่ก่อนนะ นะนะนะแบคฮยอน เด็กโข่งเขย่าแขนน้าชายอย่างออดอ้อน คนตัวเล็กกุมขมับก่อนจะพยักหน้าส่ง ๆ เป็นเชิงตอบตกลง

     

    ชานยอลยิ้มกว้าง เขาจับข้อมือน้าชายเอาไว้แล้วลากให้เดินไปด้วยกัน ซึ่งแบคฮยอนก็ไม่ได้ขัดขืน สิ่งที่คนตัวเล็กทำได้ในตอนนี้คือการเดินเอื่อยไปตามทางจนกว่าหลานบังเกิดเกล้าจะหาร้านที่ถูกใจได้

     

    สุดท้ายทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ร้านเนื้อย่าง อยากจะถามหลานรักเหลือเกินว่ามึงอารมณ์สุนทรีย์มากแค่ไหนถึงได้คิดจัดหนักมื้อดึกเป็นเมนูนี้ แต่จะขัดใจมันไปก็เปล่าประโยชน์เพราะเชื่อว่ายังไงปาร์คชานยอลก็ต้องขุดเหตุผลกะโปก ๆ ขึ้นมาเอาชนะเขาจนได้

     

    ทั้งคู่เลือกนั่งตรงส่วนกลางร้าน ชานยอลเอาตะเกียบเหล็กกับช้อนให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้าม แบคฮยอนยกมือปรามแล้วส่ายหน้าแต่หลานรักก็ยัดเยียดใส่มือให้เขาถือเอาไว้อยู่ดี สรุปคือจะบังคับให้กูแดกเป็นเพื่อนให้ได้สินะซั้ซ

     

    สั่งอาหารไปไม่นานซุปเต้าหู้เดือดฟูฟ่อดและข้าวเปล่าก็มาถึงก่อน แบคฮยอนเท้าคางมองเด็กตัวสูงที่กำลังเปิดฝาถ้วยสแตนเลสด้วยรอยยิ้มที่เขาคิดว่ากวนส้นตีนที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีความน่าเอ็นดูอยู่ถ้าไม่รวมเรื่องชอบตัวขวางโลกไปวัน ๆ

     

    สอบวันนี้เป็นไงบ้าง

     

    โอ๊ะ!”

     

    ยังไม่ทันได้ตอบคำถามคนเป็นน้าก็ต้องดีดตัวลุกขึ้นนั่งดี ๆ เมื่อน้ำซุปที่กำลังเดือดปุด ๆ ในถ้วยดีดใส่ตาเด็กตัวสูงจนต้องรีบยกมือขึ้นปิดเอาไว้ แบคฮยอนลุกขึ้นไปนั่งข้างอีกคนพร้อมกับวางมือไว้บนหัวเด็กตัวโตกว่าแล้วก้มหน้าดูอาการแต่ชานยอลก็ยังไม่ยอมละมือออกมา

     

    เป็นไงบ้าง เข้าตาเหรอ? เด็กหนุ่มเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น แบคฮยอนเอื้อมมือไปดึงทิชชู่ออกมาสี่ห้าแผ่นก่อนจะดึงมือแกร่งออกแต่ชานยอลก็ยื้อเอาไว้

     

    อย่า ผมแสบตา

     

    รู้แล้ว ก็จะช่วยเช็ดออกให้นี่ไง

     

    เกิดอะไรขึ้นเหรอคะคุณลูกค้า?

     

    ซุปมันกระเด็นเข้าตาหลานผมน่ะ ช่วยเช็คบิลทีครับผมจะพาหลานไปแล้ว เด็กเสิร์ฟสาวพยักหน้าแล้วรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์แต่สุดท้ายเจ้าของร้านก็ไม่คิดเงินอีกทั้งยังให้ขวดน้ำเปล่ามาอีกด้วย

     

    แบคฮยอนประคองเด็กตัวสูงออกมานอกร้าน เขามองซ้ายขวาก่อนจะหันกลับมามองหลานชายอีกครั้ง บ้าเอ้ย รถก็จอดอยู่ไกลซะด้วย

     

    เดี๋ยวจะพาไปหาหมอ

     

    ไม่ต้อง เดี๋ยวลองเอาน้ำล้างก่อน เด็กตัวสูงปฏิเสธทันที แบคฮยอนรู้ดีว่าเด็กนี่มันเกลียดโรงพยาบาลเสียยิ่งกว่าอะไร และคงไม่ง่ายนักหากว่าเขาจะพาชานยอลไปที่นั่น

     

     

     

     

     

    สุดท้ายทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ตรงบันไดทางเดินขึ้นร้านขายเสื้อผ้า บนพื้นหินขัดมีน้ำเจิ่งนองอยู่เล็กน้อยหลังจากที่ชานยอลล้างตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว แบคฮยอนก้มหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วงจนกระทั่งคนเป็นหลานหันมาพร้อมกับหรี่ตามองเขานั่นแหละ มือเล็กถึงได้เอื้อมขึ้นไปยีหัวเด็กหนุ่มเบา ๆ

     

    ไง? ยังแสบอยู่ไหม

     

    นิดนึง

     

    คราวหลังระวังหน่อยสิ ซุปมันแม่นกระเด็นทีโดนตาตลอด คนเป็นน้าว่าก่อนจะยื่นถ้วยรามยอนสำเร็จรูปที่เขาเพิ่งวิ่งไปซื้อมาจากมินิมาร์ทเมื่อครู่นี้ให้

     

    เกือบตาบอดแล้ว

     

    หาเมียยากเลยนะแบบนั้น คนเป็นน้าเหยียดขาออกก่อนจะเปิดฝาขวดวิตามินยกดื่ม

     

    บรรยากาศโดยรอบโรยตัวไปด้วยความเงียบ เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองคนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องทอดสายตามองออกไปยังท้องถนนเบื้องหน้า จะว่าไปแล้วแบคฮยอนกับไอ้เด็กแสบนี่ก็ไม่ได้สนิทกันจนสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง มันเลยเกิดบรรยากาศใบ้รับประทานแบบนี้เวลาอยู่กันตามลำพัง

     

    อดกินเนื้อย่างเลย

     

    ดีแค่ไหนแล้วที่เจ้าของร้านเขาไม่คิดเงินน่ะ

     

    ดียังไง? ถ้าผมตาบอดทางร้านต้องเป็นคนจ่ายค่าเสียหาย ซึ่งตาคู่นี้มันประเมินค่าไม่ได้ เด็กหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ พร้อมกับจ้องเข้าไปยังนัยน์ตาคนเป็นน้า แบคฮยอนนั่งนิ่งก่อนจะผลักหน้าเด็กตัวสูงออกไป

     

    เพ้อเจ้อ

     

    นี่แบคฮยอน

     

    อะไร

     

    ถ้าผมตาบอดจริง ๆ น้าจะทำยังไง

     

    ฉันทำอะไรได้ด้วยเหรอ แบคฮยอนหันไปมองเด็กตัวสูงที่กำลังโซ้ยรามยอนคำโต

     

    ตอบให้ซึ้งหน่อยก็ไม่ได้

     

    ถ้าฉันบอกว่า น้าจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้แกตาบอดแบบนั้นแกคงทำท่าจะอ้วกใส่ฉันแน่ ๆ

     

    รู้อีก ชานยอลยิ้มกว้างแล้วก้มหน้ากินรามยอนต่อ แบคฮยอนแค่นหัวเราะ ไอ้เด็กคนนี้ทำตัวน่ารักได้นาน ๆ กับเขาเป็นซะที่ไหนกัน

     

    นี่แบคฮยอน

     

    อะไรอีกล่ะ

     

    ชอบครูอี้ฟานจริง ๆ เหรอ

     

    ถามทำไมอีก

     

    อยากรู้

     

    ก็ชอบ

     

    แล้วจะคบกันไหม

     

    แบคฮยอนค่อย ๆ หันไปมองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ ถึงจะถามออกมาเหมือนเป็นเรื่องจริงจังแต่ชานยอลก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตากินรามยอนเหมือนก่อนหน้านี้ราวกับว่าไม่ยี่หระกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่

     

    ยังไม่รู้หรอก

     

    แล้วถ้าคบล่ะ

     

    ...

     

    จะย้ายไปอยู่กับเขาหรือเปล่า?

     

    ...

     

    จะทิ้งผมไว้ที่บ้านคนเดียวไหม

     

    ...

     

    น้าจะไปทำกับข้าวให้คนอื่นกิน แล้วปล่อยให้ผมซื้อข้าวกล่องสำเร็จรูปมาเวฟกินเองหรือเปล่า?

     

    แกจะ...

     

    พอถึงตอนนั้นผมจะกลายเป็นหมาหัวเน่าที่ไม่มีใครสนใจใช่ไหม? เด็กหนุ่มละมือจากตะเกียบไม้แล้วหันมาสบตากับคนตัวเล็กกว่า ชานยอลรู้ว่าตอนนี้แบคฮยอนกำลังงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาถึงได้รัวคำถามโง่ ๆ ออกไปแบบนั้น

     

    อาจจะเป็นเพราะลมเย็นกับท้องฟ้ามืดครึ้มที่ทำให้เด็กหนุ่มกำลังรู้สึกกลัวในอนาคต ทั้งที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่พูดไปมันคือสิ่งที่เขากลัวจริง ๆ หรือเปล่า? หรือบางทีปาร์คชานยอลอาจแค่อยากได้ยินแบคฮยอนพูดว่า ไม่ ถึงจะชอบเขา แต่น้าจะไม่คบกับพี่อี้ฟานหรอกวางใจได้

     

    พูดอะไรแปลก ๆ อีกแล้วนะ ไข้กลับหรือไง แบคฮยอนเอาหลังมืออังกับหน้าผากเด็กหนุ่มก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ ชานยอลก็คว้ามือของเขาเอาไว้

     

    จะไม่ตอบจริง ๆ เหรอ

     

    ตอบอะไร แกจะบ้าเหรอไอ้เด็กคนนี้นี่ แบคฮยอนส่ายหน้าหน่าย ๆ แล้วลุกขึ้นยืน แต่เด็กตัวโตก็ไม่ยอมปล่อยมือเขา เฮ้

     

    ถ้าผมกับครูอี้ฟานจมน้ำ แบคฮยอนจะช่วยใคร

     

    ...

     

    เหมือนโดนฮุคหมัดตรงจนแทบเสียหลัก คนเป็นน้านิ่งไปเกือบครึ่งนาทีก่อนจะยกมืออีกข้างขึ้นมาเกาหัวกับคำถามที่ต้องใช้ความคิด ใช่ว่าเขาจะลังเลในสถานะ แน่นอนว่าชานยอลสำคัญและพี่อี้ฟานก็สำคัญเหมือนกัน แต่ถ้าต้องเลือกช่วยชีวิตได้แค่คนเดียวเป็นใครก็ต้องคิดมากทั้งนั้น

     

    ฉันว่ายน้ำไม่เป็น

     

    ...

     

    ...

     

    แบคฮยอน~~~~!!” เด็กตัวสูงเหยียดขาออกมาแล้วชักดิ้นชักงอเป็นเด็ก ๆ จนตัวเขาเขย่าไปด้วยเพราะมันยังไม่ยอมปล่อยมือ

     

    แบคฮยอนขมวดคิ้วมองไอ้เด็กแสบก่อนจะหันไปมองรอบด้าน ถึงตรงนี้คนจะไม่เยอะเท่าไหร่แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย การที่หลานรักแสดงอากัปกิริยาแบบนี้แน่นอนว่ามันทำให้เขารู้สึกอับอายอยู่เล็กน้อยถึงปานกลาง

     

    ทำบ้าอะไรของแก หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” คนตัวเล็กนั่งลงยอง ๆ ก่อนจะทำท่าง้างมือขึ้นขู่ ชานยอลเบ้ปากแล้วถอนหายใจใส่ งอแงเป็นเด็กอนุบาลไปได้

     

    ใช่สิ ใครจะไปโตเท่าไอ้ครูนั่นกันล่ะ

     

    อ้าว พาลแล้วไหมไอ้เด็กนี่

     

    คำถามง่าย ๆ แค่นี้ยังตอบไม่ได้ เป็นครูประสาอะไร ห้ะ? แบคฮยอน? เด็กหนุ่มมองคาดโทษคนที่นั่งยอง ๆ อยู่บนขั้นบันไดระดับต่ำกว่าทั้งที่ข้อมือนั้นยังถูกเขากุมเอาไว้

     

    ก็ตอบไปแล้วไงว่าว่ายน้ำไม่เป็น

     

    ว่ายไม่เป็นก็ต้องตอบซื้อใจคนฟังหน่อยสิ ผมอยู่ตรงนี้ นั่นหมายความว่าน้าต้องเลือกช่วยผม เข้าใจไหม

     

    ถ้าว่ายน้ำเป็นฉันก็ต้องช่วยทั้งสองคนอยู่แล้ว หรือไม่ก็ช่วยใครสักคนนึงก่อนแล้วก็กระโดดลงไปช่วยอีกคน แบคฮยอนใช้มือที่ว่างอยู่ทำท่าว่ายน้ำกลางอากาศ ชานยอลเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มแล้วกระตุกแขนคนเป็นน้าเข้ามาจนแทบหน้าคะมำ

     

    ตัวก็แค่นี้จะไปช่วยใครได้ เพ้อเจ้อว่ะแบคฮยอน

     

    อ้าว แล้วแกจะถามทำซากอ้อยอะไรถ้าคิดว่าฉันช่วยใครไม่ได้ คนตัวเล็กมองอีกฝ่ายด้วยหางตา แล้วก็ช่วยเช็คหุ่นแกกับพี่อี้ฟานด้วยนะ แต่ละคนเบาหวิวเท่าฟองสบู่เหลือเกินคิดจะหวังพึ่งคนตัวเตี้ยแบบนี้เนี่ย แบคฮยอนขยับปากบ่นพร้อมกับฟาดมือลงบนหน้าขาอีกคนอย่างแรง ชานยอลหดขายาวเข้าหาตัวทันทีก่อนจะลูบขาป้อย ๆ

     

    ที่ไม่ยอมตอบก็เพราะจะเลือกช่วยไอ้ครูนั่นแต่กลัวผมเสียใจเลยพูดอ้อมโลกสินะ ชานยอลเบือนหน้าหลบไปอีกทาง คิดแล้วก็น้อยใจแบคฮยอนจริง ๆ ไม่เคยจะทำให้สบายใจหรอก เอะอะก็พี่อี้ฟาน ๆ ไม่รู้จะหลงอะไรกันนักหนา

     

    ลุก

     

    ...

     

    เด็กตัวสูงยืนขึ้นด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อยสุด ๆ ถึงจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจแต่มือข้างซ้ายที่กุมข้อมืออีกฝ่ายเอาไว้ก็ยังไม่ยอมปล่อยออก ชานยอลเดินตามหลังอีกคนไปตามฟุตปาธ คนเป็นน้าไม่ได้หันมามองคาดโทษเขาหรือบ่นอุบอิบอย่างที่เจ้าตัวชอบทำ

     

    จะว่าไปแล้วเขาน่ะหลงใหลตอนกลางคืนเป็นที่สุด เพราะฉะนั้นช่วงปิดเทอมชานยอลถึงได้ดื่มด่ำกับการนอนกลางวันแล้วใช้ชีวิตตอนกลางคืนอย่างมีความสุข แสงสียามค่ำคืนในย่านฮงแดเป็นอีกอย่างหนึ่งที่เด็กหนุ่มชอบ ยิ่งตอนมองไปข้างหน้าแล้วเห็นใครอีกคนเดินนำอยู่แล้วก็รู้สึกดีแปลก ๆ

     

    มันตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ปาร์คชานยอลรู้สึกว่าการมีน้าชายอยู่ตรงนี้มันเป็นเรื่องราวดี ๆ ในชีวิต มือแกร่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบไอโฟนออกมา กดเข้าแอพลิเคชั่นกล้องถ่ายรูปพร้อมกับตั้งขึ้นระดับริมฝีปากก่อนจะกดโฟกัสให้ชัดแล้วกดชัตเตอร์

     

    ริมฝีปากหยักยกยิ้มพอใจเมื่อเห็นรูปที่เพิ่งถ่ายเสร็จ ชานยอลละมือถือออกไปทางด้านข้างเล็กน้อยแล้วมองมือตัวเองที่กำลังกุมข้อมืออีกคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าก่อนจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้

     

    ชานยอลรีบซุกไอโฟนใส่ในกระเป๋าเสื้อตัวนอกเมื่อจู่ ๆ แบคฮยอนก็หันกลับมามองหน้าเขา เด็กตัวสูงฉีกยิ้มกว้างพลางกลอกตาไปมาเพื่อไม่ให้อีกคนจับพิรุธได้

     

    กลับเลยไหม

     

    อยากกลับแล้วเหรอ

     

    ก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อแล้วนี่

     

    ...

     

    ...

     

    สองน้าหลานยืนมองหน้ากัน บอกตามตรงว่าตอนนี้แบคฮยอนกำลังรู้สึกอึดอัดเพียงแค่ได้สบตากับไอ้เด็กคนนี้ มันเป็นความรู้สึกแปลก ๆ ที่สมองบอกให้รีบหันหน้าหนีและเขาก็ทำตาม

     

    งั้นไปดูวงดนตรีไหมล่ะ

     

    หา?

     

    เมื่อกี้ผมเห็นน้าสนใจ ว่าไง? อยากไปดูเปล่า?

     

    ก็ แบคฮยอนยืนใช้ความคิด สงสัยอยู่ว่าเด็กนี่มันรู้ได้ยังไง แต่ถ้าจะไม่ไปชานยอลมันต้องทำหน้าหงิกตลอดขากลับแน่ ๆ เพราะฉะนั้นไปดูวงดนตรีเสร็จแล้วก็พากลับบ้านเลยดีกว่า

     

    โอเค งั้นไปดูกัน

     

     

     

     

     

    เสียงปรบมือดังมาก่อนเสียงทุกอย่างในละแวกนั้น สองน้าหลานเดินไปหยุดอยู่ข้างหลังกลุ่มคนที่ยืนมุงวงดนตรีที่เพิ่งเล่นเพลงจบไปเมื่อครู่ ชานยอลหลุบตาลงมองคนตัวเล็กที่กำลังเขย่งขาเพราะมองไม่เห็น ส่วนตัวเขาน่ะเหรอ มองเห็นทุกอย่างตั้งแต่หนังหน้านักร้องไปจนถึงแอมป์ที่ตั้งอยู่บนพื้น

     

    มองไม่เห็นเลยอ่ะ

     

    มาตรงนี้มา...ขอโทษนะครับ ชานยอลโค้งหัวให้กับคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าก่อนจะจับหัวไหล่น้าชายให้ขยับเข้าไปทางด้านในอีกเล็กน้อย ซึ่งมันทำให้แบคฮยอนมองเห็นหน้าศิลปินได้แล้ว

     

    โว้ว หน้าตาดีเอาเรื่องนะเนี่ย โดยเฉพาะมือกีต้าร์

     

    จะฟังเพลงทั้งทีเลือกดูที่หน้าตาก่อนหรือไง? แบคฮยอนทำหน้าเซ็งแล้วค่อย ๆ ชำเลืองมองเด็กตัวสูงที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง พูดอะไรก็ไม่ได้จ้องจะหาเรื่องกูตลอดดดด

     

    อันดับแรกก็ต้องมองหน้าก่อนป่ะ จะซื้อขนมยังต้องดูซองเลย

     

    อ้าง

     

    เออ แบคฮยอนหันกลับไปเพราะขี้เกียจจะเถียงกับมัน เสียงเกากีต้าร์ดังขึ้นก่อนจะตามด้วยเสียงนักร้องนำผู้หญิง มันเริ่มด้วยจังหวะเบาสบาย ๆ คนตัวเล็กไม่รู้ตัวว่ากำลังขยับตัวเล็กน้อยไปตามจังหวะ

     

    ชานยอลอมยิ้มก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเมื่อถูกเบียด เขาพยายามยืนให้คงที่เพราะถ้าเสียหลักคงเซไปชนแบคฮยอนแน่ ๆ เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังอย่าเบียดมากไปกว่านี้ก่อนจะหันหน้ากลับไปทางวงดนตรีอีกครั้ง

     

    เสียงปรบมือ เสียงคอรัสตอนจังหวะที่นักร้องชายกำลังแรป ไปจนถึงเสียงดนตรีที่เล่นได้อย่างลื่นหู ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเข้ามาถึงท่อนฮุคแล้ว ชานยอลฮัมเพลงตามและคนที่อยู่รอบข้างก็เช่นกัน ยกเว้นแค่แบคฮยอนที่ยืนฟังเงียบ ๆ เพราะร้องไม่เป็น

     

     

    เพลงนี้ชื่ออะไร

     

    “Officially Missing you, too.”

     

    ไม่เคยได้ยินเลยแฮะ แบคฮยอนช้อนตามองเด็กตัวสูงที่โน้มหน้าลงมาเพราะเสียงรอบข้างดังมากจนต้องกระซิบใกล้ ๆ

     

    나에겐    하나뿐인 

    คนเดียวที่ผมต้องการก็คือคุณ

     

    너땜에  아파  하는걸

    ผมเจ็บปวดเพราะคุณ

     

      잊으려고  노력해봐도    안돼

    ผมพยายามจะลืมคุณ แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย

     

      미워하는 

    ผมทำได้เพียงแค่เกลียดคุณ

     

    แบคฮยอนกระพริบตาปริบ ๆ มองหลานชายที่กำลังร้องเพลงตามวงดนตรีได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน เสียงที่เขาเคยได้ยินแหกปากร้องเพลงในห้องน้ำเป็นประจำแต่คราวนี้มันกลับทุ้มนุ่มอย่างน่าประหลาด

     

    มันเป็นเรื่องตลกสิ้นดีที่เขาเห็นเงาตัวเองอยู่ในแววตาคู่นั้น และคิดว่าเงาของชานยอลก็คงอยู่ในแววตาของเขาเช่นกัน เด็กตัวสูงยังคงร้องเพลงต่อไป ความหมายของเนื้อเพลงมันทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก

     

    사랑노래  들어도  where the melodies at?

    เมื่อไหร่ที่เปิดเพลงรัก ทำนองมันอยู่ไหนนะ?

     

    행동  하나하나  모두  외로음이 

    ทุก ๆ การกระทำมันช่างเหงาเหลือเกิน

     

    So I’m officially missing you

    ผมคิดถึงคุณมากจริง ๆ

     

      떠난  너지만  아직    괴롭히네

    คุณจากไปแล้ว แต่ผมยังคงเจ็บปวดอยู่ตรงนี้

     

    แบคฮยอนหันหน้ากลับเข้าหาวงดนตรี เสียงของชานยอลถึงจะเบาบางแต่กลับได้ยินอย่างชัดเจนราวกับว่าเด็กคนนี้กำลังกระซิบอยู่ข้างหูเขา คนเป็นน้าชายรู้สึกเหมือนตัวเล็กลงไปทุกที ๆ เขาต้องเป็นบ้าแน่ ๆ ที่กำลังใจเต้นแรงกับเพลงรักที่เพิ่งเคยฟังครั้งแรกในชีวิต

     

    ไม่รู้เป็นเพราะเพลงมันสั้นหรือเป็นเพราะเขาจมอยู่กับความคิดนานเกินไป พอรู้ตัวอีกทีเพลงนี้ก็จบไปแล้ว แบคฮยอนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ คนที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังก็วางมือบนไหล่เขาพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาหา

     

     

    วงผมก็เคยซ้อมเพลงนี้เหมือนกัน

     

    อ้อ งั้นเหรอ แบคฮยอนยิ้มแห้ง ๆ เขาไม่ได้สนใจหรอกว่าชานยอลจะเห็นรอยยิ้มบ้า ๆ แบบนี้หรือเปล่า แต่ที่รู้คือต้องไม่ให้เด็กนี่รู้ว่าเขากำลังผิดปกติ

     

    เห็นนั่นไหม? กีต้าร์ที่พิงอยู่ข้างหลัง ตัวนั้นน่ะแพงหูฉีกเลย

     

    ไหน?

     

    ตัวสีแดงนั่นไง เห็นหรือยัง? ชานยอลชี้ไปยังเป้าหมายแต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นน้าก็ยังมองไม่เห็น แบคฮยอนเพ่งมองอยู่นานสองนานจนกระทั่งนักร้องที่นั่งบังอยู่เดินไปหยิบขวดน้ำนั่นแหละเขาถึงได้เห็น

     

    อ๋อ ตัวนั้นใช่... แบคฮยอนหันกลับไปหาหลานชายที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง แต่วินาทีนั้นเองที่ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่งราวกับว่าโลกนี้หยุดหมุนไปเมื่อปลายจมูกของเขาสัมผัสกับแก้มชานยอลอย่างไม่ตั้งใจ

     

    ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงน้อยนิด เขารู้สึกได้ถึงปลายนิ้วเรียวยาวที่วางอยู่บนไหล่ มันขยับเล็กน้อยราวกับว่าชานยอลก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน แบคฮยอนไม่ได้หันหน้าหนี เขาคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำแบบนั้นเพียงเพราะแค่อุบัติเหตุบ้า ๆ ที่เกิดขึ้นกับหลานตัวเอง

     

    บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องง่ายกว่านี้ถ้าเกิดอีกสิบวินาทีข้างหน้าปาร์คชานยอลจะด่าเขาด้วยคำพูดเชิงรังเกียจและปล่อยมือออกจากไหล่เขา แต่บยอนแบคฮยอนคิดผิด...มันไม่เป็นอย่างนั้น

     

    ตอนนี้เวลาผ่านไปนานเกินหนึ่งนาทีแล้วเขารู้สึกได้เพราะนักดนตรีเริ่มเล่นเพลงใหม่ และมันกำลังจะเข้าท่อนฮุค โอเค...ในเมื่อชานยอลมันไม่ยอมทำอะไรสักอย่างงั้นเขาจะยอมแพ้ก็ได้

     

    แบคฮยอนหันหน้ากลับเข้าหาวงดนตรีทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวร่างของเขาก็เซเข้าไปปะทะอกแกร่งของเด็กตัวสูง คนตัวเล็กนิ่งค้างอยู่ท่านั้น นี่มันบ้าไปแล้วแน่ ๆ ที่เขากำลังอยู่ในอ้อมกอดของหลานชายตัวเองโดยที่ไม่ถูกผลักไสออกไปหรืออะไรก็ตามแต่ที่เขาคิดว่ามันไม่ควรอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

     

    ระวังหน่อยครับ

     

    โทษทีน้อง

     

    แบคฮยอนมองมือแกร่งที่ยังคงโอบไหล่เขาเอาไว้ เมื่อครู่นี้ชานยอลเป็นใครอีกคนที่เขาไม่รู้จัก ไม่มีเด็กโข่งที่ชอบขึ้นเสียงเวลาพูดจาเอาแต่ใจ หรือเด็กที่เคยตะโกนถามเขาว่าของชิ้นนั้นอยู่ส่วนไหนของบ้านโดยที่ไม่คิดจะหาเองก่อน ตอนนี้มีเพียงแค่ปาร์คชานยอลที่สามารถประคองร่างเขาเอาไว้ไม่ให้เสียหลักหลังจากถูกผู้คนเบียดเสียดเข้ามา

     

    เสียงเพลงที่บรรเลงอยู่ประสานกับเสียงคนดูโดยรอบ แต่นาทีนี้บยอนแบคฮยอนมั่นใจว่าเสียงหัวใจของเขานั้นเต้นดังกว่าเป็นไหน ๆ บ้า...บ้าไปแล้ว...เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ

     

     

     

     

    ที่กำลังใจเต้นแรงกับหลานชายตัวเองที่ชื่อว่าปาร์คชานยอล

     

     

     

     

    TBC

     

     
     

    เอาแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    อีน้ามึงโดนของแล้ว มึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×