ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "MEAN BOY" มนุษย์ชานยอล | CHANBAEK KAIHUN

    ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 20 :: His Gift (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19.12K
      108
      26 ส.ค. 57

     

     
     

    Chapter 20

    His Gift

     

     



     

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!”

     

    เสียงโหยหวนของความเจ็บปวดแผดลั่นไปทั่วห้องนอนที่ถูกตกแต่งอย่างสวยหรู มือหนาเอื้อมขึ้นมากลางอากาศ มันกำลังสั่นระริกกับอาการเกร็งตรงช่วงเอวและขาที่ถูกงัดขึ้นในท่ามวยปล้ำ

     

    ที่ร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”

     

    จงอินฟาดมือลงกับเตียงรัว ๆ เป็นเชิงบอกว่ายอมแพ้แล้ว แต่นักมวยปล้ำที่สมยอมเขาทุกคืนกลับไม่ใจอ่อนง่าย ๆ เซฮุนยังคงดัดขาอีกคนอยู่อย่างนั้นก่อนจะพลิกตัวมานั่งคร่อมหลังแล้วจิกกลุ่มผมคนรักให้เชิดหน้าขึ้น

     

    มึงไม่รู้จักกูใช่ไหม?!”

     

    ร...รู้จักแล้วจ้า อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

     

    แม้จะหยอดคำหวานแค่ไหนแต่เหมือนว่าจะบี๊บให้เซฮุนเดือดกว่าเดิมอีก พ่องตรัย ต้องให้กูกราบตีนงาม ๆ สามทีแบบเบญจางคประดิษฐ์แล้วตบท้ายด้วยการใส่กระโปรงชีฟองสวอนเลคเข้ามาในห้องพร้อมกับถอนสายบัวท่าเยอรมันสปีชป่ะครับถึงจะหาย

     

    เผลอไม่ได้เลย มึงนี่มันชั่วจริง ๆ เชี่ยถ่าน ด่าอย่างเดียวก็ร้าวไปถึงซีรีบรัมละมึงยังจะตบหัวกูอีกเหรอ เอาให้ความจำเสื่อมเหมือนอีพระเอกฟิคซอมบี้เลยดีไหมจะได้ดราม่ากันรายตอน ซั้ซ!!!

     

    เค้าก็อธิบายให้เตงฟังแล้วไงว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น...อ้อยไปก็กระดากปากตัวเองไป นี่กูยอมขุดสรรพนามดาก ๆ มาเรียกมึงเลยนะฮุนจ๋า

     

    อย่ามาตอแหล มึงมันหน้าม่อ เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้หางนี่กระดิกดิ๊ก ๆ ๆ เชียว

     

    เซฮุนยังคงเขย่าหัวไอ้ชั่วที่บังอาจหักหน้าเขาต่อหน้าแฟนคลับผู้ซึ่งอยู่ในฐานะชู้แทนที่จะทำให้เขาสบายใจ ยกตัวอย่างเช่นพูดอ้อมค้อมยังไงก็ได้ให้เขาเข้าใจว่ามันกำลังแสดงความรักในขณะเอ่ยปากปฏิเสธ

     

    มึงก็อี๋อ๋อกับน้องฮยอนอาเหมือนกันแหละวะ!” เอาสิ! มึงงี่เง่ามากูงี่เง่ากลับ ไหน ๆ ก็ไม่ฟังกันอยู่ละ เหตุผลใด ๆ ในโลกมันก็กะโปกไร้เหตุผลได้ทั้งนั้นล่ะ

     

    นั่นมันงาน มึงก็รู้ว่ากูไม่โอเคกับยาหยีของมึงเลยสักนิดเดียว กูคงมีอารมณ์หวีดกับมันหรอกนะห่า เซฮุนแค่นหัวเราะพลางมองอีกคนที่พลิกตัวขึ้นนอนหงาย ส่วนกูก็ใจดียกตูดขึ้นให้มันขยับตัวอีกนะ

     

    มึงอ้างงาน กูก็อ้างได้เหมือนกันว่ะ

     

    โห ยังจะแถต่ออีกว่างั้น มึงนี่ไม่สำนึกแล้วยังจะยอกย้อนอีก นิสัยแบบนี้ได้ใครมามึงตอบให้กูชื่นใจซิ? พูดจบก็ตบหัวคนรักไปอีกที นี่ยังไม่ได้สะสางคดีที่มึงไปแลกไลน์กันลับหลังกูนะ แชทล่าสุดนี่ทำกูลั่นเลย

     

    กูแค่ตอบว่า จ้า เองป่ะวะที่รัก มึงก็น่าจะรู้ว่ากูเป็นตัวผู้ที่แอบแฝงไปอยู่ในดงติ่งหูเพื่อตามถ่ายรูปมึงอ่ะ จงอินทำหน้าหงอพร้อมกับวางมือลงบนเอวคนรัก ฮุนจ๋า~” เจ้าของชื่อเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มแล้วมองไอ้ดำที่ลุกขึ้นนั่งกอดเอวเขาเอาไว้แฟนกูทั้งหล่อ ทั้งน่ารักแบบนี้ใครจะไปนอกใจลงวะหื้ม?

     

    ...

     

    ดูดิ ชะนีเด็กจะเอาอะไรมาสู้มึง? จงอินทำตาโตแล้วมองเรือนร่างคนรักที่ยังอยู่ในชุดถ่ายละคร ตาก็บวมอีก กูทั้งสงสารทั้งขำกับสีหน้ามันตอนร้องไห้ในกองถ่าย

     

    ...

     

    ก็แค่มีนม ร่างหนาทาบมือลงบนแผงอกแบนราบ มี...อึ๋ม...

     

    จงอินส่งเสียงในลำคอพร้อมกับทำจมูกบานตอนเลื่อนระดับสายตาลงมาหยุดตรงเป้ากางเกง แน่นอนว่าถ้าจับลงตรงนั้นเขาต้องเจอข้าวหลามหนองมนเป็นแน่แท้ และตอนนี้มันไม่ใช่สถานการณ์ที่จะปลุกความเป็นชายในตัวคุณทั้งที่อยู่บนสังเวียนมวยปล้ำ

     

    แค่ตัวเล็กกว่า ไหล่แคบกว่า พูดพร้อมกับปะป่ายไปตามตัวคนรักที่ปัจจุบันสูงกว่าเขาแล้ว ถ้ารู้ว่าโตขึ้นเซฮุนมันจะหล่อ จะสูงขนาดนี้สิบปีก่อนกูน่าจะเป็นเมียมึงให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ

     

     

    แหม่...หยอก ๆ ๆ ๆ

     

     

    เรื่องความสูงมันวัดการเป็นฝ่ายรุกฝ่ายรับบ่ดั้ยดอก

     

     

    สรุปที่พูดมาทั้งหมดกูมีเหี้ยอะไรดีบ้างเนี่ยสัด

     

    ป๊าบ!!!

     

    ตบหัวไปอีกทีนึง นี่มึงกำลังจะกวนส้นตีนกูใช่ไหมจงอิน มึงกำลังจะแซะว่ากูเป็นเพศผู้ที่ไม่มีอะไรจะเอาไปเทียบกับผู้หญิงได้เลยสินะ! มึงนี่มันร้ายนักหลอกด่าได้แม้กระทั่งแฟนตัวเอง เลว ชั่ว!

     

    โห่ไรวะที่รัก ก็เพราะว่ามึงไม่มีแบบนั้นไงกูถึงได้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแบบเนี้ย ชายหนุ่มลูบหัวป้อย ๆ แล้วฟาดมือลงบนก้นแน่น ๆ ไปทีนึงอย่างหมั่นเขี้ยว รวั๊กเลยอ่ะ!”

     

    ตอแหล ถ้าได้น้องฮยอนอามึงก็เอากูรู้”’

     

    อันนั้นกรณียกเว้น เอ้ยย!!! ล่ะล่ะล้อเล่นน่า... จงอินคว้าข้อมือคนรักไว้ทั้งสองข้างเมื่อเซฮุนทำท่าจะเข้ามาแดกหัวเขาอีกรอบ ไคจ๋าน่ะรักฮุนจ๋าที่สุดในจักรวาลเลยไม่รู้เหรอ

     

    ถุ้ย!”

     

    เลิฟเลย จงอินทำมือเป็นรูปตัวแอลแล้วขยิบตา

     

    กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าให้ระวังตัวดี ๆ ดูเหมือนว่าเซฮุนจะยอมโอนอ่อนลงบ้างหลังจากได้ระบายกับร่างกายของอีกฝ่ายจนสาแก่ใจ

     

    เรื่องนี้กูสะเพร่าเอง นี่ยอมให้ที่รักเหวี่ยงจนกว่าจะหายงิดเลยก็ได้แต่ต้องหายโกรธนะโอเคไหม? จงอินเขี่ยปลายจมูกรั้นพร้อมกับกัดริมฝีปากล่างอ่อย ท่าทางแบบนี้ถ้าคนเห็นไม่ใช่โอเซฮุนคงโดนรุมประชุมตีนที่หลากหลายได้

     

    ยอมให้เหวี่ยง?

     

    จ้ะ

     

    จนกว่าจะสาแก่ใจ? ร่างบางหักนิ้วพร้อมกับขยับตัวให้อยู่ให้ท่าถนัด ๆ จงอินถึงกับตาเหลือกส่ายหน้าอย่างช้า ๆ ทันทีที่เห็นว่าเซฮุนมันจะเล่นเขาในท่ามวยปล้ำอีกแล้ว

     

     

     

     

    ด...เดี๋ยว!!! ที่รัก อ...อย่าดึงตรงนั้น อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!”

     

     

     

     

     

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงง!!!

     

    คนตัวเล็กลูบ ๆ คลำๆ  ตามที่นอนไล่ไปจนถึงโต๊ะข้างเตียงแล้วกดปิดเสียงนาฬิกาปลุกทั้งที่ยังหลับตาอยู่ แบคฮยอนใช้เวลาไปกับการตั้งสติอยู่ราว ๆ ห้านาทีก่อนจะลืมตาขึ้น ถึงจะปิดเทอมแล้วแต่วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เขาจะต้องไปโรงเรียนเพื่อประชุมในช่วงแปดโมงครึ่ง และหลังจากนี้บยอนแบคฮยอนคงได้หยุดยาวจนกว่าจะเปิดเทอมใหม่

     

    ร่างเล็กลุกขึ้นเดินไปคว้าเอาผ้าขนหนู เดินหลับไปจนถึงประตูแล้วเปิดออกก่อนจะผงะถอยหลังทันทีที่เห็นว่าเด็กตัวสูงยืนดักรออยู่พร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ แบคฮยอนเรียกสติตัวเองอยู่ครู่หนึ่งแล้วขยี้ตาให้มองภาพตรงหน้า แล้วก็ได้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในมือชานยอลคือถาดสีเข้มที่มีแก้วนมสด ขนมปังปิ้ง ไข่ดาวและไส้กรอกที่อยู่ในจานพร้อมกับซอสที่วาดเป็นรูป Smile

     

    แบคฮยอนเงยหน้ามองหลานชายที่กำลังยิ้มแฉ่งแล้วก็เกาหัว ชานยอลถือถาดอาหารด้วยมือเดียวแล้วเอามืออีกข้างมาช่วยปัดเผ้าผมที่ชี้โด่เด่ให้คนตัวเล็กกว่าจนคนเป็นน้าถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยกับสัมผัสที่ไม่ทันได้ตั้งตัว บอกตามตรงเลยก็ได้ว่าเขาไม่เคยชินเลยสักครั้งเวลาถูกเด็กนี่สัมผัส และคิดว่าคงไม่มีทางชินได้ง่าย ๆ ด้วย

     

    อะไรของแก ประโยคโง่ ๆ ถูกถามออกไปเพราะสงสัยกับสิ่งที่เห็น ก็ร้อยวันพันปีชานยอลมันเคยแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาเข้าครัวเสียเมื่อไหร่กันล่ะ แค่ตื่นมาอาบน้ำไปโรงเรียนก็ทำหน้าง่วงเหมือนคนไม่ได้นอนมาสามวันสามคืนยังไงอย่างนั้น

     

    ผมทำมื้อเช้าให้ เดี๋ยวเอาไปวางไว้บนโต๊ะนะ เด็กตัวสูงไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง หนำซ้ำยังอมยิ้มเดินไปหน้าตาเฉยอีก แบคฮยอนชะโงกหน้ามองตามอีกคนที่เดินไปหยุดอยู่ตรงโต๊ะอาหารพร้อมกับจัดแจงมื้อเช้าสำหรับสองที่อย่างตั้งใจ

     

    ใช้เวลาไม่นานสำหรับการอาบน้ำแต่งตัว น้าชายตัวเล็กก็เดินออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามหลานชายตัวโต แบคฮยอนมองคนตรงหน้าเป็นระยะ แน่นอนว่าเขาจะหลบสายตาหนีทุกครั้งที่ชานยอลหันมา

     

    เห็นทีวันนี้ฉันคงต้องพกร่มไป

     

    กลัวฝนเหรอ ผมไปรับเอาป่ะ? ชานยอลทำหน้ากวนประสาท  

     

    มะเหงกเถอะฉันมีรถ จะแซะที่แกเข้าครัวหรอก ร่างเล็กขยับปากบ่นแล้วมองอาหารเช้าก่อนจะตัดสินใจกินขนมปังปิ้งก่อน ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่

     

    ตีสี่ครึ่ง

     

    ... พอเงยหน้าขึ้นก็ต้องชะงักอีกครั้งเพราะคนเป็นหลานกำลังเท้าคางมองเขาอย่างใจจดใจจ่อราวกับกำลังลุ้นผล แบคฮยอนอมขนมปังปิ้งไว้ในปากแล้วค่อย ๆ เคี้ยวก่อนจะดื่มนมตามเพราะทำตัวไม่ถูก

     

    อร่อยไหม?

     

    อือ ขานตอบทั้งที่ยังไม่วางแก้วลง และแน่นอนว่ามันทำให้เด็กตัวสูงยิ้มอย่างพอใจ

     

    ไส้กรอกบ้างดิ

     

    แกก็กินสิ แบคฮยอนดุคนเป็นหลานที่เอาแต่นั่งมองเขาอยู่ได้ รู้ไหมว่ากูเกร็งไปหมดแล้วเนี่ย

     

    ผมอิ่มแล้วอ่ะ ไม่สิ อันที่จริงแล้วผมยังไม่ค่อยหิวชานยอลมองอาหารเช้าในจานของตัวเองแล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

     

    หือ?

     

    ...

     

    ...

     

    ผมกินไข่ดาวไหม้กับขนมปังปิ้งเกรียม ๆ ไปเยอะแล้ว...ก็เลย เด็กตัวสูงถูจมูกตัวเองอย่างขลาดอายก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ

     

    ... แบคฮยอนยังไม่ละสายตาออกห่างจากหลานชายตัวสูง หมายความว่าไอ้เด็กนี่ทำขนมปิ้งกับไข่ดาวเละไม่เป็นท่าเลยกินทั้งหมดเอง แล้วจัดเรียงส่วนที่ดูดีที่สุดให้กับเขางั้นเหรอ?

     

    งั้นเดี๋ยวผมกินเป็นเพื่อน เด็กหนุ่มกำส้อมเอาไว้แล้วทิ่มลงกลางไข่แดงจนแตก แต่ไหนแต่ไรชานยอลก็ชอบทำแบบนี้อยู่แล้ว แต่ไหงวันนี้เขาถึงได้รู้สึกหวาด ๆ กับพฤติกรรมแบบนั้นเพราะในหัวมันเผลอจินตนาการเรื่องวิปริตขึ้นมา

     

    นิสัยเสีย...กินดี ๆ ดิ

     

    ทำไมอ่ะ? เด็กตัวสูงใช้ช้อนกวาดเอาไข่แดงของโปรดขึ้นมากินพร้อมกับเลิกคิ้วถาม แบคฮยอนค้างสองมืออยู่ท่านั้นแล้วก็พูดไม่ออก

     

    หมายถึงให้กินเหมือนคนปกติเขากินกันน่ะ...

     

    แล้วผมไม่ปกติตรงไหน?

     

    ไม่ปกติตรงที่เป็นแกนี่แหละ กินซะ ปิดการขายเพียงเท่านี้ บยอนแบคฮยอนรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้าที่คิดอกุศลไปคนเดียวทั้งที่คนตรงหน้าก็ไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้น

     

    ชานยอลมองน้าชายที่ก้มหน้าก้มตากินก็ยิ้มขำก่อนจะอ้าปากหาวหวอด ๆ แล้วฝืนกินต่อไป และแน่นอนว่าพฤติกรรมทุกอย่างมันอยู่ในสายตาคนตัวเล็ก แบคฮยอนเพ่งมองจับผิด จากอาการที่เห็นมันพอจะทำให้เดาได้ว่าไอ้เด็กคนนี้มันไม่ได้ตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

     

    แกยังไม่ได้นอนใช่ไหม?

     

    ...

     

    หืม? แบคฮยอนหรี่ตามองจับผิด ชานยอลเม้มปากจนเป็นเส้นตรงแล้วส่ายหน้าช้า ๆ เป็นคำตอบ เล่นเกมจนเช้าอีกอ่ะดิ?

     

    อันนั้นก็ส่วนนึง แต่ผมมีเหตุผลที่เล่นมันนะ ชานยอลรีบแย้งขึ้นมาเมื่อเห็นว่าน้าชายตัวเล็กดูเหมือนจะไม่เชื่อเขา

     

    เหตุผลอะไรมิทราบ?

     

    ถ้านอนผมคงตื่นไม่ทัน ทางออกที่ดีที่สุดคือไม่ต้องนอนไง เห็นเด็กตัวสูงยักคิ้วแล้วคนเป็นน้าถึงกับแค่นหัวเราะ

     

    ง่วงก็นอนสิจะฝืนทำไม ตอนปิดเทอมฉันไม่ได้จิกหัวให้แกตื่นแต่เช้าสักหน่อย แบคฮยอนว่าแล้วก็หันไปมองอีกคนที่หอบจานอาหารเช้ามานั่งข้าง ๆ เขา

     

    กับสิ่งที่อยากทำเขาไม่เรียกว่าฝืนหรอกนะแบคฮยอน

     

    อย่างแกเขาเรียกเห่อ ฉันเดาได้เลยว่าแกจะเป็นแบบนี้ได้อีกสองวันอย่างเก่ง ร่างเล็กชูสองนิ้วเป็นท่าประกอบแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเด็กตัวสูงจับมือเขาเอาไว้หน้าตาเฉย

     

    วันนี้ผมไม่ได้นอนแต่วันหลังผมจะต้องตื่นให้ทัน แล้วก็จะทำมื้อเช้าให้น้ากินทุกวันแบบอาทิตย์นึงไม่ซ้ำเมนูด้วย บอกมาเลยว่าอยากกินอะไรเดี๋ยวจะไปหัดทำ

     

    เขาเห็นว่าคิ้วหนา ๆ กำลังขมวดเล็กน้อยกับประโยคที่สื่อออกมาถึงความตั้งใจ ซึ่งแบคฮยอนก็ไม่ได้ตอบในทันที เขากำลังพยายามอ่านใจเด็กคนนี้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่แต่ก็เท่านั้นแหละ เขาไม่รู้หรอกว่าชานยอลกำลังคิดอะไรอยู่

     

    แค่นี้ครัวฉันก็เละเทะไม่เหลือชิ้นดีแล้วมั้ง

     

    ยังไม่เละ ผมเก็บเรียบร้อยแล้วด้วยไม่เชื่อไปดู ชานยอลผินหน้าไปทางห้องครัวพร้อมกับเอามืออีกข้างเขย่าแขนร่างเล็ก แบคฮยอนพยายามชักมือกลับแต่เด็กหนุ่มกลับจับไว้แน่นกว่าเดิมอีก

     

    แป้บนึงดิ

     

    แป้บบ้าไร ปล่อยเลยนะ

     

    ขอจับหน่อยไม่ได้เหรอ จะงกไปไหนแบคฮยอน นี่หลานนะ

     

    นี่ก็น้าเหมือนกัน พูดจบก็เอามืออีกข้างผลักหัวไปทีนึง แต่น่าแปลกที่ชานยอลกลับเอาแต่ยิ้มแทนที่จะชักสีหน้าใส่เหมือนอย่างเคย

     

    วันนี้ประชุมเสร็จตอนไหน

     

    ไม่แน่ใจ คงช่วงบ่ายมั้ง อย่าบอกนะว่าจะทำมื้อเที่ยงรอ เลิกความคิดนั้นไปได้เลย ทันทีที่เห็นว่าแบคฮยอนกำลังมองเขาอย่างหวาด ๆ เด็กหนุ่มก็หลุดขำออกมาอีกครั้ง

     

    เปล่า ถ้าเลิกเร็วไปดูหนังกันไหม

     

    ดูหนัง?

     

    ใช่

     

    หมดสิ้นเพื่อนจะคบแล้วเหรอถึงได้ชวนฉันเนี่ย

     

    ก็ไอ้เทามันไปดูกับคนอื่น คนในวงก็ดูหมดแล้ว เพื่อนในห้องไม่มีใครว่างสักคนเพราะยุ่งเรื่องสอบเข้ามหาลัย เหลือแค่ผมคนเดียวที่ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ ผมเลยมาชวนน้าไง

     

    ชานยอลแหลอย่างจริงจัง และแน่นอนว่าน้าชายตัวเล็กไม่ได้ตกหลุมพรางในครั้งนี้ง่าย ๆ เขาน่ะรู้จักไอ้เด็กนี่ยิ่งกว่าใคร เรื่องตอแหลนี่ที่หนึ่งไม่มีใครเทียบ แถมยังแถหน้าตายอีกด้วย

     

    ใสเจียเสียใจ ฉันมีนัดกับไอ้เซฮุนแล้ว ชานยอลอ้าปากหวอแล้วปล่อยให้แบคฮยอนชักมือกลับอย่างง่าย ๆ

     

    ไปกับพี่เซฮุนเหรอ?!”

     

    ใช่ แล้วก็ไม่ต้องขอไปด้วยนะ เรื่องของผู้ใหญ่ ร่างเล็กดื่มนมจนหมดแก้วแล้วดึงทิชชู่ออกมาเช็ดปากก่อนจะลุกขึ้นยืน ชานยอลเงยหน้ามองน้าชายตาปริบ ๆ เป็นเชิงขอความเห็นใจแต่แบคฮยอนกลับลอยหน้าลอยตาเดินไปหยิบกุญแจรถ

     

    ให้ผมไปด้วยดิ

     

    ไม่

     

    แบคฮยอนอา ผมก็อยากเจอพี่เซฮุนเหมือนกันนะ ชานยอลเอาคางเกยกับพนักเก้าอี้ ส่งสายตาอ้อนวอน ส่วนคนเป็นน้าก็ทำมือปัด ๆ แล้วเปิดประตูบ้านออกมาครึ่งหนึ่งแล้วหันกลับไปมองหลานชายอีกครั้ง

     

    เย็นนี้อยากกินที่บ้านหรือข้างนอก

     

    หา?

     

    ฉันหมายถึงว่าเราจะกินข้าวกันที่บ้านก่อนหรือว่าไปกินข้างนอกแล้วค่อยดูหนัง ทำไมต้องให้อธิบายยาว ๆ ด้วยเนี่ย เรียนจนจบม.ปลายแล้วยังคิดตามประโยคสั้น ๆ ไม่ได้อีกเหรอ ซื่อบื้อเอ้ย!” แบคฮยอนขยับปากบ่นพร้อมกับเปิดประตูบ้านแต่คนเป็นหลานกลับยิ้มกว้างแล้วรีบวิ่งตามออกไปก่อนทาบแก้มลงกับขอบประตูขณะที่น้าชายตัวเล็กกำลังจะเข้าไปในรถ

     

     

    กินข้างนอกแล้วค่อยดูหนัง! ไปกันสองคนนะ ผมจะรอ <3”

     

     

     

     

    50%







     

     

     

    เด็กหนุ่มยืนอยู่หน้ากระจก นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ตั้งใจเซ็ทผมแบบนี้นอกจากตอนขึ้นเวทีแข่งดนตรีกับไปเดทกับผู้หญิงที่เคยชอบมาก ๆ เสื้อผ้าชุดเก่งที่ไม่ค่อยได้หยิบจับออกมาใช้ถ้าเกิดว่าวันนั้นไม่ใช่วันสำคัญ แต่วันนี้เขาได้เอามันออกมาใส่แล้ว

     

    ดวงตากลมโตมองทรงผมตัวเองพร้อมกับใช้มือจับมันจนเป็นทรงแล้วก็ยิ้มกว้างเมื่อคนในกระจกหล่อจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว ชานยอลฉีดสเปรย์สำหรับผู้ชายไปทั่วตัวก่อนจะก้มลงเช็คกลิ่นว่ามันหอมพอหรือยัง แม้ว่าอีกตั้งห้าชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดแต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยให้เวลาเหล่านั้นทำร้ายเขาด้วยความตื่นเต้นแน่ ๆ

     

    เด็กหนุ่มเดินไปหยุดอยู่ตรงประตูห้องแล้วจ้องมองโปสเตอร์มอเตอร์ไซค์ดูคาติ มอนเตอร์สีแดงดำที่เขาอยากได้นักอยากได้หนาก่อนจะจูบนิ้วมือแล้วทาบลงบนรูปก่อนจะออกไปข้างนอก

     

    เดินไปตามถนนลาดชันอย่างไม่เร่งรีบ วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสเรียกรอยยิ้มจากเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปลาย ๆ ได้เป็นอย่างดี มือแกร่งล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของโทรศัพท์มือถือ แล้วก็ได้รู้ว่าคนที่ไลน์มานั่นไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากหวงจื่อเทาเพื่อนรักเพื่อนหอกที่นัดกันไว้

     

    จื่อเทา NO.1 FC พี่เซฮุน

    ถึงล้า  13:30

     

    ข้อความเดียวก็ทำให้เข้าใจได้ง่าย ๆ แต่ปาร์คชานยอลไม่คิดที่จะตอบกลับไป เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อมือถือสั่นอีกรอบ ชานยอลหรี่ตามองข้อความตัดพ้อที่อีกคนส่งมาแล้วก็เบ้ปาก

     

    จื่อเทา NO.1 FC พี่เซฮุน

    อ่านไม่ตอบ งอน  13:32

     

    จื่อเทา NO.1 FC พี่เซฮุน

      13:32

     

     13:32  เรื่องมึง

     

     

    ตอบกลับไปแค่นั้นแล้วเก็บมือถือใส่ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะโบกแท็กซี่ให้จอด เด็กหนุ่มเข้าไปนั่งในรถแล้วหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ บอกเป้าหมายที่จะไปเรียบร้อยแล้วก็กดเข้าเครื่องเล่นเพลง ไม่นานนักก็มาถึงจุดหมายที่ไอ้เทาเป็นคนเลือก

     

    ชานยอลผลักประตูกระจกร้านขายไก่เข้าไป ข้างในมีลูกค้าไม่มากนักเพราะยังอยู่ในช่วงบ่าย เด็กหนุ่มโค้งหัวให้เจ้าของร้านตามมารยาทพร้อมรอยยิ้ม อ้อลืมบอกไปสินะว่าที่นี่คือบ้านของจองอึนจี สตรีผู้โหดสัดซึ่งเป็นหัวหน้าห้องของเขา

     

    เด็กตัวสูงนั่งลงฝั่งตรงข้ามเพื่อนตัวเขียวที่มองเขาด้วยแววตาตัดพ้อ ส่วนปากก็คาบหลอดเอาไว้ แทนที่มันจะเอาแก้วขึ้นมาดูดน้ำดี ๆ แต่เสือกก้มหัวลงไปดูดโค้กจากแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะ เห็นงี้ปาร์คชานยอลก็อายแทนเลยตบกะโหลกมันไปทีนึงเพื่อเรียกสติ

     

    อะไรว้า มาถึงก็ตบหัวอ่ะ

     

    มึงเคยคิดจะคีพลุคบ้างป่ะห่า หน้าตาก็โหดอย่างกับแรงงานพม่าแต่เสือกทำตัวงิ้งเหมือนเด็กผู้หญิงม.ต้น

     

    กูไปทำแบบนั้นเมื่อไหร่ แค่กูก้มลงดูดน้ำมึงก็หาเรื่องว่ากูแล้วช่ะจื่อเทาเลิกคิ้วมองเพื่อนอย่างหาเรื่องก่อนจะหลุบตาลงมองเสื้อผ้าหน้าผมอีกฝ่ายอย่างจับผิด  เหวย ๆ ๆ วันนี้แต่งซะหล่อเชีย...

     

    กูก็หล่อทุกวันอยู่แล้ว ชานยอลพยายามปั้นหน้านิ่งเก็บอาการ เขาจะไม่มีทางเล่าให้มันฟังแน่ว่าที่แต่งองค์ทรงเครื่องมาอย่างดีแบบนี้ก็เพื่อจะไปดูหนังกับคนที่เขาพูดอยู่ทุกวันว่าเป็นบุคคลน่ารำคาญอันดับหนึ่ง

     

    มีนัดอ่ะดิ

     

    ...

     

    กับคนที่มึงชอบเขา แต่เขาไม่เอามึงใช่ป่ะ?

     

    โห ปากนี่ควรเอาไปจูบขี้ พอเห็นว่าเพื่อนตัวสูงง้างมือขึ้นจื่อเทาก็ผงะถอยจนหลังชิดกับพนักเก้าอี้ทันทีพร้อมกับระเบิดหัวเราะอย่างพอใจ

     

    จริงอ่ะ ชานยอลไม่ได้ตอบคำถาม เขาเพียงแค่แย่งแก้วโค้กเพื่อนรักหักสวาทมาดูดอึก ๆ จนหมดก่อนจะโค้งหัวขอบคุณเมื่อแม่ของอึนจีเอาไก่ทอดมาส่ง เฮ้ย~ ตอบกูก่อนดิแล้วค่อยแดก จื่อเทาดึงถาดไก่เข้าหาตัวเพื่อห้ามไม่ให้เพื่อนกิน เด็กตัวสูงหลับตาลงก่อนจะลืมตามองคนตรงหน้าที่ยังคงรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

     

    เออ กูไปกับเขาเองแหละมีไรไหม

     

    มีดิ ถ้าเป็นงั้นหมายความว่ามึงกำลังถูกหลอกนะเว้ยเพื่อน!”

     

    ...

     

    ก็เขาไม่ได้ชอบมึงแต่เสือกยังคุยอยู่ แถมยังไปไหนมาไหนด้วยแบบนี้อีกเขาเรียกให้ความหวังเว้ย จื่อเทาทำหน้าจริงจังก่อนจะสวมถุงมือพลาสติกแล้วหยิบปีกไก่ชิ้นแรกขึ้นมากัดทั้งที่ยังมองหน้าเพื่อนอยู่เขาก็แค่กั๊กไม่ให้มึงไปไหน แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเอามึงนะ

     

    ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ก็ใช่ว่าจะทำหูทวนลมไม่ฟังคำพูดของมัน โคตรจะตลกที่เขาต้องนั่งฟังคนไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรักมาสั่งสอนแบบนี้ แต่เชื่อเถอะว่าเรื่องที่มันพูดมาทั้งหมดเขาน่ะรู้ดีแก่ใจ แต่มันเอามาใช้ไม่ได้กับเขาและแบคฮยอน

     

    หรืออาจจะเป็นเหตุผลอื่นที่มึงไม่รู้

     

    รู้ดิ มึงอธิบายมาขนาดนั้นกูสามารถวิเคราะห์ได้เป็นฉาก ๆ เลยนะมึงฟังป่ะ จื่อเทาพูดทั้งที่ไก่ยังคงเต็มปาก ชานยอลพยักหน้าส่ง ๆ เขาไม่อยากทำร้ายจิตใจเพื่อนด้วยการปิดโอกาสไม่ให้มันพูด

     

    ว่ามา

     

    วันนี้มึงจะไปเที่ยวกับเขาช่ะ นั่นก็เพราะว่าคนที่เขาชอบไม่ว่างไงเลยไปกับมึง

     

     

    ไม่ว่างห่าไร ปาร์คชานยอลมั่นใจว่าไอ้ครูขี้เก๊กนั่นน่ะมีเวลาให้แบคฮยอนเสมอถ้าเกิดว่าเรื่องนั้นมีเขาเข้าไปเอี่ยวด้วย

     

     

    พอกลับไปถึงบ้าน มึงคุยแชทกับเขา หัวใจมึงพองโตเพราะถูกให้ความหวัง เขาจะทำเหมือนว่ามีใจให้มึงเหมือนกัน แล้วก็จะทำแบบนั้นไปเรื่อย ๆ พอเห็นว่ามึงตายใจไปไหนไม่ได้แล้วเขาก็จะฆ่ามึงด้วยการบอกว่าคิดกับมึงแค่เพื่อน

     

     

    แค่หลานน่ะสิไม่ว่า -_-

     

     

    เพราะงั้นมึงตัดใจเหอะ มีผู้หญิงอีกตั้งเยอะที่พร้อมจะกระพือกระโปรงใส่เวลาเห็นมึงเดินผ่านอ่ะ ถึงประโยคจะแสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยแต่สายตาของหวงจื่อเทาตอนนี้กำลังจับจ้องอยู่กับไก่โดยที่ไม่คิดจะเชิดคอขึ้นมาสบตากัน หรือไม่ก็สารภาพรักไปเลย มัดมือชกเว้ยมึง วิธีนี้กูว่าเฉร๋ง

     

    กูรู้น่ะว่าต้องทำยังไง มึงเอาตัวให้รอดก่อนแล้วค่อยห่วงกู

     

    แหงอยู่แล้ว กูไม่เห็นต้องมาเอาตีนก่ายหน้าผากเหมือนมึงเพราะอกหักเลย จื่อเทาว่าแล้วตักข้าวคำใหญ่เข้าปาก จากที่เห็นเด็กหนุ่มคงรออยู่นานมากถึงได้ระบายความหิวออกมาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้

     

    อย่าเสือกมีความรักบ้างนะมึง พูดจบก็ใส่ถุงมือพลาสติกแล้วหยิบไก่มากินบ้าง แต่กัดไปยังไม่ถึงคำก็ต้องสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ ถาดไก่เซรามิกส์ก็วางลงบนโต๊ะซะเสียงดัง

     

     

    กึง!!!

     

     

    ...

     

    เฮ้ยว่าไงมึง~”

     

    ชานยอลเงยหน้าขึ้นแล้วก็ต้องผงะเมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเด็กสาวที่ยังไม่ถอดแม้แต่หมวกกันน็อกที่ติดสติ๊กเกอร์ชื่อร้านไว้ ชานยอลเคี้ยวไก่เหมือนกับควายเคี้ยวเอื้องก่อนจะหันไปมองจื่อเทาที่กำลังยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี

     

    นี่พวกมึงจะไปเที่ยวกันสองคนช่ะ!”

     

    ห๊ะ? คำถามของจื่อเทาทำเอาอึนจีหันควับทันที หญิงร่างแกร่งหยัดตัวนั่งลงก่อนจะหันซ้ายขวามองไอ้สองเพื่อนซี้ที่เคยแวะเวียนมาร้านเธออยู่บ่อยครั้งใครเที่ยวกับใครนะ?

     

    มึงกับไอ้ชานยอลไง!”

     

    ไอ้ส... สายไปแล้วสำหรับการห้ามปากเพื่อน ชานยอลหันไปมองเด็กสาวที่กำลังทำหน้างงจนถึงขีดสุด แต่แค่ครู่เดียวเท่านั้นเธอก็หันมามองหน้ากันเปล่า...มันเข้าใจผิดน่ะ

     

    เฮ้ย! เอาเลยมึงมาถึงขั้นนี้แล้ว สารภาพรักไปเลยจะได้ไปเที่ยวกันอย่างสบายใจไง จับมือถือแขน สอดประสานกันเงี้ย จื่อเทาประกบมือทั้งสองข้างก่อนจะค่อย ๆ กรีดกรายนิ้วประสานกันแล้วมองทั้งคู่อย่างลุ้น ๆ ฟายเอ้ย!!! มึงชวนมาร้านอีอ้วนเพราะตั้งใจจะหักหน้ากูด้วยวิธีนี้งั้นเรอะ ไอ้ห่าเทา มึง!!!!!

     

    ไม่ใช่อย่างนั้น คือ...ฟังก่อนนะ ชานยอลยิ้มแห้ง ๆ พร้อมกับยกสองมือขึ้นปรามเด็กสาวที่กำลังเอาลิ้นดังกระพุ้งแก้มอย่างหัวเสีย แน่นอนว่าเขาทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่าอีนี่เล่นวอลเล่ย์บอลเก่งแค่ไหน มือตบระดับพระกาฬโดนทีน่าจะถูกหามส่งโรงพยาบาลได้ไม่ยาก และอึนจีคงไม่โอเคนักที่กำลังถูกไอ้เทายัดเยียดให้เขา

     

    เร็ว จื่อเทายังคงยิ้มอยู่อย่างนั้นก่อนจะหน้าคว่ำจนแทบจะจุ่มน้ำซุปร้อน ๆ เมื่อเพื่อนรักกับอึนจีพร้อมใจกันตบหัวเขาอย่างไม่ได้นัดหมาย เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นพลางลูบหัวป้อย ๆ แทนที่พวกมันจะฟิน จะยิ้ม จะสุขีแต่ไหงทำหน้าทะมึนตึงกันอย่างนั้นล่ะไรอ่ะ   

        

    ยังจะถามอีก

     

    ข้อแรก กูตบมึงข้อหาทำหน้ากวนตีน แม้จะเป็นผู้หญิงแต่โทนเสียงและน้ำหนักมือนั้นช่างหนักหนากว่าบุรุษยิ่งนัก จื่อเทามองอย่างตัดพ้อก่อนจะยกมือขึ้นบังอีกครั้งเมื่อเด็กสาวทำท่าง้างมือขึ้นอีก

     

    กูไม่ได้นัดกับมัน แล้วก็ไม่ได้ชอบมันด้วย จบนะ พอได้ยินชานยอลว่างั้นเด็กตัวเขียวก็ทำหน้าบึ้งอย่างผิดหวัง

     

    โห่ เซ็งเลยอ่ะ

     

    มึงจะเซ็งทำซากไร ดูกูกับมันด้วยเคมีเข้ากันตายห่า อีกครั้งที่เขาถูกอึนจีผลักหัว จื่อเทาโงนเงนไปตามแรงแล้วก็ได้แต่หันไปมองอีกฝ่ายโดยที่ตอบโต้กลับไปไม่ได้เพราะนั่นคือผู้หญิง

     

    กูจะไปรู้เหรอ ก็มันบรรยายมาแล้วกูเห็นภาพมึงคนแรกเลยนี่

     

    วันหลังก็ถามสิถามมมมมมมมมม

     

    ก็มันไม่ยอมบอกอ่ะ...

     

    ไว้กูพร้อมเมื่อไหร่แล้วจะบอก ชานยอลพูดตัดบทก่อนที่ทั้งคู่จะไฝว้กันหนักไปกว่านี้

     

    เอาเถอะ พวกมึงรีบ ๆ กินแล้วรีบกลับบ้านไปดูดนมแม่ซะ เด็กสาวทำมือปัด ๆ อย่างรำคาญ ได้ยินอย่างนั้นชานยอลเลยพยักหน้าส่ง ๆ แล้วกินไก่ต่อไป วันนี้เขาไม่มีอารมณ์ไปต่อล้อต่อเถียงกับผู้หญิง ถือว่าพักยกช่วงปิดเทอม จะให้มันชนะสักครั้งหนึ่งก็แล้วกัน

     

    อึนจี มึงจะเรียนคณะอะไรอ่ะ

     

    นิติ

     

    เย้ชชชชชชช์ จบมาเป็นทนายช่ะ?

     

    เป็นอะไรก็ได้ยกเว้นเมียมึงสองคนอ่ะ

     

    “SHOCK” จื่อเทาเผยอปากแล้วทำตาปริบ ๆ แบบนี้เขาเรียกกู๊ดบายสเตจตั้งแต่ยังไม่เดบิวท์

     

    นี่ชานยอลเจ้าของชื่อหันไปพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม กูเห็นมึงลงวิดวะ อย่างมึงจะรอดเหรอวะ เด็กสาวคีบเอาหัวไชเท้าดองขึ้นมากินทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากเพื่อนตัวสูง จริงอยู่ที่ชานยอลเป็นคนฉลาด แต่จากที่เรียนด้วยกันมาสองปีเธอก็ได้แต่สงสัยว่ามันจะไปรอดไหมเพราะความขี้เกียจ ไม่เอาไหนของมันนี่แหละ

     

    ถ้ามันคนเดียวไม่รอดหรอก ต้องมีกูด้วย

     

    แดกไป อึนจียกตูดถาดไก่ทอดขึ้นแล้วทิ้งลงลงตรงหน้าคนตัวเขียวเป็นเชิงบอกให้หุบปาก เทาเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ทำหน้าน้อยอกน้อยใจที่ไม่ถูกชวนเข้าร่วมบทสนทนาในครั้งนี้ด้วย

     

    ของแบบนี้มันต้องลอง

     

    เรื่องเรียนจะลองเล่น ๆ ไม่ได้นะเว้ยกูเตือนก่อน มึงควรถามตัวเองว่าอยากเรียนอะไร แล้วจะไปรอดไหม ไม่ใช่ว่าอยากเป็นวิศวกรเลยเรียน...มึงหันไปดูนี่ อึนจีกอดคอเพื่อนตัวสูง แม้ว่าจะลำบากยากเย็นแต่ก็ใช่ว่าจะเหนือบ่ากว่าแรง ชานยอลหันไปทางครัวบ้าน เขาเห็นว่าหญิงวัยสี่สิบปลาย ๆ กำลังง่วนอยู่กับการทอดไก่

     

    นั่นคือสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์แม่

     

    เออ

     

    กูเสือกด้วยดิ จื่อเทาข้ามมานั่งข้าง ๆ ชานยอลพร้อมกับกอดคอด้วย เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งสามคนกำลังจับจ้องไปยังมารดาบังเกิดเกล้าที่สามารถให้กำเนิดหญิงถึกอย่างจองอึนจีขึ้นมาบนโลกใบนี้

     

    แม่กูต้องทอดไก่อยู่ในนั้นตั้งแต่เก้าโมงยันเที่ยงคืน เพื่อหาเงินส่งกูเรียน

     

    ไงต่อ

     

    ถ้าเกิดกูลองเรียนเล่น ๆ ดูว่าคณะนี้เป็นไงบ้างแล้วค่อยซิ่ว แบบนั้นใครจะเดือดร้อน

     

    มึงไง โดนรีไท...โอ๊ะ!” ถึงจะแขนสั้นแต่เด็กสาวก็หาทางลุกขึ้นไปตบหัวคนที่อยู่ถัดจากชานยอลได้ จื่อเทาถอนหายใจแรง ๆ วันนี้เขาถูกผู้หญิงคนนี้ตบหัวไปแล้วกี่ครั้งแทบจะนับไม่ได้เลย

     

    ต่อนะ อึนจีนั่งลงที่เดิม ตอนนี้แม่ของเธอกำลังใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อที่มาจากความร้อนของน้ำมันในครัว ถ้ากูเกรดต่ำแม่กูก็ไม่เคยว่าหรอก แต่ร้อยทั้งร้อยถ้ากูทำเกรดเฉลี่ยได้สูง ๆ แม่กูก็ต้องดีใจ

     

    อือ

     

    พวกมึงสองคนเคยคิดที่จะทำให้คนที่เลี้ยงมึงมาตั้งแต่เด็กภูมิใจบ้างป่ะวะ คำพูดของอึนจีทำให้เขานึกไปถึงพ่อกับแม่ที่อยู่ปูซาน แต่ถึงอย่างนั้นชานยอลก็ไม่ได้ซาบซึ้งกับเรื่องที่อีกฝ่ายพูดนักเมื่อนึกถึงนิสัยของแม่ที่ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่

     

    วูบหนึ่งปาร์คชานยอลรู้สึกเป็นลูกเนรคุณที่กำลังสะเทือนใจเมื่อนึกถึงน้าชาย เพราะเขาได้ทำเรื่องน่าปวดหัวให้ตลอดช่วงเวลาสองปีที่อยู่ด้วยกัน แต่ไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันควรรู้สึกกับพ่อแม่ก่อนป่ะวะ

     

     

     

    ไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้อะไร ๆ ก็แบคฮยอนทั้งนั้นแหละ...

     

     

     

     

     

    คนตัวเล็กกอดแฟ้มออกมาจากห้องพักครู หลังจากประชุมเสร็จแล้วเลยแวะไปเก็บโต๊ะให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยออกมา แต่พอหักเลี้ยวลงบันไดก็ต้องผงะถอยหลังเมื่อพบว่าใครอีกคนยืนดักรออยู่ ร่างสูงยิ้มบาง ๆ แล้วรับแฟ้มไปช่วยถือให้ก่อนจะกุมมือแบคฮยอนให้เดินลงไปด้วยกัน ร่างเล็กเบิกตาโพลงแล้วหันหน้าหันหลังอย่างลนลานก่อนจะหลุบตาลงมองมือตัวเองที่ถูกกุมไว้

     

    พี่อี้ฟาน เดี๋ยวคนเห็นนะ

     

    คนอื่นกลับหมดแล้วล่ะครับ ร่างสูงพูดในโทนเสียงสบาย ๆ คนตัวเล็กถึงได้ยอมให้อีกฝ่ายจูงมือลงไปจนถึงชั้นล่าง โชคดีที่ว่าลานจอดรถอยู่หน้าอาคารเลยไม่งั้นบยอนแบคฮยอนคงต้องหลอนว่าใครจะมาเห็นเข้าเข้าหรือเปล่า พี่อี้ฟานนี่นะ...บทจะเข้มก็เข้ม บทจะเอาแต่ใจก็เหมือนเด็ก ๆ เลย

     

    เอ่อ...พี่ครับ

     

    ทั้งคู่หยุดยืนอยู่ข้างรถของแบคฮยอน เขาเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังเกาหัวขณะเรียบเรียงคำพูด ที่คุยกันแบบเห็นหน้าและได้ยินเสียงครั้งล่าสุดก็สามวันที่แล้ว นอกนั้นก็คุยกันแค่ในไลน์ และแน่นอนว่ามันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีนัก

     

    ในห้องประชุมพี่เห็นเราเอาแต่นั่งมองมือถือตลอดเลย กลายเป็นคนติดมือถือตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ร่างสูงพูดติดตลก แต่แบคฮยอนกลับเป็นเหมือนเด็กน้อยที่ถูกจับได้เวลาทำผิด คนตัวเล็กยิ้มแห้ง ๆ เขาทั้งคู่กำลังอึดอัดเพราะเรื่องวันนั้น

     

     
     

    แบคฮยอนยังชอบพี่อยู่หรือเปล่าครับ?

     

     
     

    แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากเชื่อว่าได้ถามคำถามนี้ออกไป เขาจำสีหน้าคนตัวเล็กในตอนนั้นได้ แบคฮยอนดูกระอักกระอ่วน อึดอัด ไม่เหมือนกับช่วงแรกที่เริ่มคุยกัน ร่างเล็กใช้เวลาไปเกือบครึ่งนาที ไม่ว่ามันจะออกมาเป็นในทางบวกหรือทางลบ ช่วงเวลาที่สูญเสียไปกับการรอมันก็น่าจะเป็นคำตอบได้แล้ว

     

     

    ขอโทษนะครับ...

     

    ทำไมถึงขอโทษพี่ล่ะครับ?

     

    คือผม...

     

     

    วันนั้นแบคฮยอนดูประหม่า เขารู้สึกได้ว่ามือเล็กนั้นเย็นเฉียบกับความกดดันที่เขามอบให้ ร่างเล็กเบิกตาโพลงเมื่อถูกรั้งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด เขาไม่แน่ใจว่าอี้ฟานยังอยากได้ยินคำตอบจากปากเขาอยู่ไหม หรือที่เป็นอยู่มันคือการกดดันให้เขาตอบในสิ่งที่ยังไม่แน่ใจ

     

     

    พูดมาเถอะ พี่อยากได้ยินจากปากเรา

     

    ...

     

    เพราะชานยอลใช่ไหม?

     

     

    อี้ฟานไม่รู้ว่าตอนนี้แบคฮยอนกำลังทำหน้าแบบไหน และมันก็คงเดาได้ไม่ยากนัก ชายหนุ่มรู้สึกกลายเป็นคนแพ้ทั้งที่เรื่องความรักมันไม่ใช่การแข่งขัน แน่นอนว่าเขารู้สึกเสียศูนย์เพราะแบคฮยอนกำลังเขวไปทางเด็กอายุที่ห่างกับเขาเป็นสิบปี อีกทั้งยังมีศักดิ์เป็นหลานอีกถึงแม้ว่าจะนอกสายเลือดก็ตาม

     

    ตราบใดที่ยังมีความรู้สึก เชื่อว่ามนุษย์ย่อมมีความเห็นแก่ตัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี ช่วงหลัง ๆ กลายเป็นเขาที่ถูกปั่นหัวทั้งที่แบคฮยอนไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เด็กคนนี้แค่อยู่เฉย ๆ แต่มันคือเขาเองต่างหากที่รู้สึกมากขึ้นทุกวันจนหยุดยั้งความงี่เง่าของตัวเองไว้ไม่ไหว

     

     

    ผมไม่ตอบได้ไหม...

     

    ...

     

    ผมคิดมากจนนอนไม่หลับเลย ทั้งเรื่องพี่แล้วก็เรื่องของชานยอล

     

    ...

     

    ทั้ง ๆ ที่ผมชอบพี่มากขนาดนี้แต่ผม...

     

    ...

     

    กับชานยอล...

     

    ไม่เป็นไร

     

     

    ประโยคปลอบใจมาพร้อมกับมือแกร่งที่ลูบไปตามเรือนผมคนตัวเล็กกว่า ไม่ใช่แค่การปลอบอีกฝ่าย แต่อู๋อี้ฟานยังใช้คำนั้นปลอบใจตัวเองด้วย แบคฮยอนซบหน้าอยู่กับไหล่กว้างพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นมากอดตอบแน่น ๆ แต่น่าแปลกที่เขากลับไม่ได้รู้สึกว่ากอดนี้มันกำลังสื่อถึงความห่วงหาอย่างที่เคย

     

    ผมนัดเซฮุนไว้น่ะครับ สีหน้าของแบคฮยอนไม่สดใส และต้นเหตุส่วนหนึ่งมันก็คงไม่ได้มาจากใครนอกจากเขา อู๋อี้ฟานรู้ตัวดีว่าได้ส่งความกดดันไปยังอีกฝ่ายให้ลำบากใจหลายต่อหลายครั้ง และเขาก็ตั้งใจทำแบบนั้นเพื่อให้คนตัวเล็กเลือกสักทาง แน่นอนว่าเขาอยากเป็นคำตอบนั้น

     

    ครับ งั้นขับรถดี ๆ นะ ร่างสูงยีหัวอีกฝ่าย แบคฮยอนยังคงทำหน้าหงอยขณะพยักหน้ารับ นัยน์ตาคมมองตามร่างเล็กที่เดินไปเปิดประตูรถ อี้ฟานยิ้มกว้างกว่าเดิมนิดหน่อยเมื่อคนตัวเล็กยังไม่ยอมเข้าไป แววตาคู่นั้นที่มองมาราวกับจะบอกว่า ผมขอโทษ ซึ่งเขาฟังมันมาแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง

     

    พี่...จะกลับเลยหรือเปล่าครับ

     

    พี่ว่าจะแวะร้านหนังสือสักหน่อยน่ะ

     

    อ๋อ... แบคฮยอนพยักหน้าแล้วโค้งหัวเล็กน้อยก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในรถ

     

    เด็กคนนั้นขับรถออกไปแล้ว...ตอนนี้เหลือเพียงแค่เขาที่ยังคงยืนอยู่ตรงนี้ ขายาวก้าวถอยหลังจนชิดกับประตูรถ มือแกร่งเอื้อมขึ้นมานวดขมับพร้อมกับหลับตาลง หากเป็นไปได้เขาก็อยากไล่ความคิดบ้า ๆ นี่ออกไปพร้อมอาการปวดหัว

     

    อู๋อี้ฟานไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่ไหนแต่ไรเขามักจะเป็นฝ่ายถูกตามเสมอ แน่นอนว่ามีทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่เข้ามาให้เลือก แต่สิ่งที่เป็นอยู่มันไม่ใช่ตัวเขาเลยสักนิด ทั้งที่รู้จักกันได้ไม่นาน ทั้งที่ทุกอย่างเริ่มต้นจากแบคฮยอนเริ่มมีใจให้กับเขาก่อน แต่ทำไมทุกอย่างถึงกลับกันจนกลายเป็นอู๋อี้ฟานที่ดูเหมือนว่ากำลังจะอกหักในเร็ว ๆ นี้ถ้าความรู้สึกของคนตัวเล็กชัดเจนแล้ว

     

    ครูหนุ่มพยายามหาเหตุผลให้กับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ บางทีเขาอาจจะรู้สึกเจ็บใจที่แพ้เด็กอายุสิบแปดหรืออะไรสักอย่าง ในทีแรกก็คิดว่าแบคฮยอนคงไม่มีอะไรพิเศษเหมือนกับคนอื่น แต่พอได้คุยด้วย ได้รู้จักมากขึ้นเขาก็คิดว่าคงปล่อยไปไม่ได้

     

     
     

    อู๋อี้ฟานชอบบยอนแบคฮยอนแล้วจริง ๆ

     

     

     

     

     

    ดารา มึงอยู่ไหนแล้ววะ

     

    ( ถนน มึงถึงแล้วเหรอคนธรรมดา )

     

    ถึงสักห้านาทีแล้ว มึงใกล้ถึงยัง

     

    ( อีกประมาณสิบห้านาทีอ่ะ มึงเดินตากแอร์เล่นไปก่อนแล้วกัน )

     

    เออ ไม่ต้องรีบ กูไม่อยากอ่านข่าวดาราแหกโค้งเพราะคุยโทรศัพท์

     

    ( แหกที่หน้า )

     

     

    ตู๊ดดดดดดดด...

     

     

    แบคฮยอนมองโทรศัพท์ในมือที่ถูกตัดสายไปแล้วเรียบร้อยดี เพื่อนของเขาไม่ว่าจะกี่ปี ๆ มันก็ยังทำตัวกากเหมือนเดิมแม้ว่าตอนนี้มันจะกลายเป็นไอดอลชื่อดังที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก ขนาดตรงป้ายรถเมล์ยังมีรูปมันอยู่เต็มไปหมด ทั้ง ๆ ที่ละครที่มันเล่นก็ไม่ได้สนุกอะไร หนำซ้ำก็แข็งทื่อซะอย่างกะท่อนไม้ แต่เขาไม่ได้บอกมันหรอกเพราะเพื่อนที่ดีต้องรักษาน้ำใจเพื่อน

     

    เดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกคอแห้งเลยไปหยุดอยู่หน้าร้านขายน้ำที่อยู่ในศูนย์อาหาร แน่นอนว่าบยอนแบคฮยอนคงไม่เสียโง่เดินเข้าสตาร์บั้คแล้วสั่งซิกเนอเจอร์ช็อกโกแลตร้อนไซส์ใหญ่เหมือนที่ไอ้เซฮุนชอบดื่มแน่

     

    คนตัวเล็กสั่งน้ำมะนาว ระหว่างนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาดู เห็นว่าไอ้หลานตัวดีมันรัวส่งไลน์มาประมาณ 50 กว่าข้อความได้ ไม่รู้มันเป็นอะไรนักหนาตั้งแต่ตอนประชุมแล้วนะ

     
     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

    แบคฮยอน  14:22

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

    ตอบหน่อยดิ  14:22

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

    แบคฮยอน ตอบ  14:23

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

      14:23

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

    ประชุมอยู่เหรอ  14:29

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

    ทำไมยังไม่ตอบอีก ประชุมประสาอะไรไม่มีพักบ้างหรือไง?  14:40



    มิสเตอร์ชาร์ล1

      14:40

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

    ตอบหน่อย  15:01

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

      15:06

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

    แบค...ฮยอน... 15:14

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

      15:14

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

      15:14

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

      15:15

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

      15:15

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

      15:15

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

      15:15

     

    มิสเตอร์ชาร์ล1

      15:15

     

     มิสเตอร์ชาร์ล1

      15:15


     

    ประมาณนั้น...

     

     

    ร่างเล็กยิ้มขำโดยไม่รู้ว่าถูกมองอยู่ พอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าพนักงานได้วางแก้วไว้ให้แล้วอีกทั้งยังยิ้มน้อย ๆ ตอนมองทางนี้อีก ตอนนั้นแบคฮยอนถึงได้รู้ว่าควรหุบยิ้มซะก่อนที่จะอับอายมากไปกว่านี้

     

    แต่เดินออกมาได้ไม่เท่าไหร่คนตัวเล็กก็ต้องผงะถอยหลังเมื่อถูกเดินชนจนแก้วของทั้งคู่ตกลงพื้น แบคฮยอนอ้าปากหวอ ดึงเสื้อเชิ้ตออกเมื่อน้ำมะนาวที่เคยเต็มแก้วจนแทบล้นหกใส่เสื้อเขาเต็ม ๆ พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเด็กหนุ่มสามคนยืนอยู่ด้วยกัน แถมยังมองมาที่เขาด้วยสายตาคาดโทษอีก

     

    เดินไม่ดูทางหน่อยวะพี่?

     

    อ้าว? พูดงี้ได้ไง นายเป็นคนชนฉันนะ แบคฮยอนชักสีหน้ามองไอ้พวกเด็กหัวหลิมที่จู่ ๆ ก็มาโทษเขาเฉยเลย นี่มึงจะกล้าแกร่งกันไปแล้วนะ ตอนพวกมึงเกิดกูได้ลงสนามเป็นนักฟุตบอลตัวจริงทีมอนุบาลแล้วอย่าให้คุย

     

    พี่ต่างหากที่เดินชน จ่ายค่าเสียหายมาเลยนะรองเท้าคู่นี้ไม่ใช่ถูก ๆ ไอ้เด็กหัวเกรียนสกินเฮดว่าพร้อมกับเลิกคิ้วมอง ซึ่งประโยคนี้ทำเอาบยอนแบคฮยอนถึงกับแค่นหัวเราะ นี่กูกำลังถูกรีดไถ by เด็กกะโปกใช่หรือไม่

     

    เสื้อตัวนี้ราคาถูกแต่ไอ้น้ำมะนาวแก้วเนี้ยแพงเพราะยังไม่ได้ดื่มซักคำ แบคฮยอนชี้ลงบนพื้น ตอนนี้ชายหนุ่มทั้งสี่คนกำลังถูกมองเป็นตาเดียวกันแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

     

    ก็เรื่องของพี่ดิ จ่ายค่าเสียหายมาเลยนะ

     

    ... แบคฮยอนเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มพลางมองไอ้เด็กสามคนเรียงตัว ไอ้พวกนี้จะด่าว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนก็คงไม่ได้ เพราะบางทีคนทั้งโลกอาจจะสั่งสอนมาแล้วแต่มันกลับทำตัวแบบนี้เอง ร่างเล็กเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วเงยหน้ามองไอ้เด็กเวรที่ยังคงแสดงออกถึงความหยิ่งจองหอง

     

     

    แป้ะ!!!

     

     

    โอ๊ย!!!”

     

    จ่ายเงินเหรอห๊ะ!!! แกคิดว่าตัวเองเป็นใครไอ้เด็กนรกถึงได้กล้ารีดไถคนอื่นหน้าด้าน ๆ แบบนี้ อยากมีเงินใช้ทำไมไม่รู้จักตั้งใจเรียนหางานพิเศษทำ แกอยากตายใช่ไหม?!” เด็กหนุ่มทั้งสามคนหมอบลงเมื่อถูกคนตัวเล็กรัวตบหัวผลัดกันโดยไม่ทิ้งจังหวะให้ได้ตั้งตัว ท่ามกลางเสียงฮือฮาของคนที่อยู่ในฟู้ดคอร์ส

     

    อ๊ากกกก อย่า!!!”

     

    เวลาทำผิดเขาให้พูดว่าขอโทษไม่ใช่โบ้ยความผิดให้คนอื่น พวกแกยังมีความเป็นผู้ชายกันอยู่ไหม ตอบมา!!” แบคฮยอนยังคงรัวตบไม่ยั้ง เสียงดังแป้ะ ๆ ก้องไปทั่วโถงกว้าง

     

    เด็กหนุ่มที่อยู่ทางขวาสุดถอยออกไปจากพิกัดมือได้ก่อนจะเข้าไปรวบแขนทั้งสองข้างของคนตัวเล็กเอาไว้ นั่นเป็นจังหวะให้เด็กอีกสองคนเงยหน้าขึ้นมาตั้งหลักได้

     

    นี่มึงกล้าตบหัวกูเหรอ!!” ถึงไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้จะเคยหงอเหมือนหมาแต่วินาทีนี้แกร่งยิ่งกว่าไฮยีน่าฝูงใหญ่เพียงแค่เห็นว่าคนตรงหน้าถูกล็อกแขนไว้แล้ว

     

    เด็กหนุ่มถลกแขนเสื้อขึ้นแล้วง้างมือเตรียมจะเข้ามาซัดหน้าไอ้เตี้ยหน้าหงิมที่อายุมากกว่าเขากี่ปีก็ไม่รู้ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่งวดนี้ต้องอัดคนสักหมัดแล้วค่อยเผ่นหนีก่อนตำรวจมา

     

    แต่จู่ ๆ แขนของเขาก็ขยับไม่ได้ พอหันกลับไปก็พบกับชายหนุ่มตัวสูงที่กำลังบีบข้อมือเขาไว้อยู่ ดูจากสีหน้าแล้วคาดว่าผู้ชายคนนี้ยังไม่ได้ออกแรงเลยด้วยซ้ำ แต่เขากลับรู้สึกปวดจนชาไปหมด

     

    อ...โอ้ย!!!!”

     

    พี่อี้ฟาน?!”

     

    จะไปโรงพักหรือว่าจะก้มหัวขอโทษดี ๆน้ำเสียงเรียบเฉยถูกส่งมาพร้อมกับแววตาที่บ่งบอกว่าทำจริงแน่ เด็กหนุ่มอีกคนเห็นท่าไม่ดีเลยทำท่าจะวิ่งหนีแต่ก็ถูกร่างสูงคว้าคอเสื้อไว้

     

    เหวอ!!!” เด็กที่เคยล็อกแขนแบคฮยอนรีบปล่อยออกก่อนจะวิ่งหนีไปจากตรงนี้ด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี นั่นทำให้เด็กอีกสองคนที่ยังอยู่ตรงนี้ถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกใจ

     

    เฮ้ยยยยยย!!! มึงจะไปไหนวะ!!!” เด็กหนุ่มตะโกนตามหลังเพื่อนที่วิ่งหายไปจนลับสายตาแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแค่เขากับเพื่อนอีกคนที่ถูกดึงตัวเอาไว้

     

    คุณมีเวลาห้าวินาทีในการตัดสินใจ

     

    ...!!!” เด็กหนุ่มมองทั้งสองคนสลับกันไปมา แน่นอนว่าตอนนี้สิ่งที่ทำให้เขากลัวมากที่สุดก็คงเป็นหน้าตานิ่งเฉยของผู้ชายตัวสูง

     

    หนึ่ง

     

    ข...ขอโทษแล้ว ๆ

     

    ...

     

    ผมขอโทษครับพี่...ขอโทษ!!!”

     

    แบคฮยอนยังคงอึ้งกับภาพตรงหน้า คำถามแรกที่ผุดเข้ามาในหัวคือพี่อี้ฟานมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ตอนนี้แบคฮยอนไม่แม้แต่จะเข้าไปตบหัวหรือจิกผมเด็กพวกนี้มาเขย่า ๆ ให้สำนึก เขาเพียงแค่ยืนเฉย ๆ จนกระทั่งร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า

     

    แบคฮยอนยืนแข็งทื่อเมื่อพี่อี้ฟานเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยเช็ดเสื้อให้กับเขาอีกทั้งยังก้มลงเช็ดตรงขากางเกงให้อีกด้วย ร่างเล็กรีบโน้มตัวลงไปห้ามแต่สิ่งที่ได้รับกลับมานั้นเป็นรอยยิ้มที่กำลังบอกเขาว่า ไม่เป็นไรแล้วนะ

     

    เสียงซุบซิบของคนละแวกนั้นทำให้แบคฮยอนรู้ตัวว่าไม่ควรอยู่นานไปกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะคิดเรื่องนี้ได้เร็วกว่าร่างของเขาเลยเดินไปตามคนที่จูงมือเขาให้เดินออกมาจากฟู้ดคอร์สด้วยกัน

     

    ประตูห้องน้ำชายถูกผลักเข้าไป ทั้งคู่หยุดยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือก่อนที่คนตัวโตกว่าจะปาดมือผ่านเซนเซอร์เพื่อให้น้ำไหลออกมา

     

    ขยับมาตรงนี้หน่อยครับ

     

    ... แบคฮยอนก้าวเข้าหาร่างสูงก่อนจะหันซ้ายขวา คนที่ยืนฉี่อยู่ข้างในต่างหันมามองเป็นตาเดียวกัน อาจเป็นเพราะสิ่งที่พี่อี้ฟานทำอยู่มันดูเหมือนกับคุณพ่อที่กำลังช่วยลูกเช็ดคราบสกปรกออกให้

     

    ร่างสูงช่วยล้างคราบเหนียวออกให้จากเสื้อและมือของเขา เพียงแค่ครู่เดียวแขนยาวก็เอื้อมไปถึงทิชชู่ออกมาหลาย ๆ แผ่นแล้วช่วยซับน้ำออกจากเสื้อและมือทั้งสองข้างให้ แบคฮยอนเพียงแค่ยืนอยู่เฉย ๆ แล้วมองหน้าคนตัวสูงที่กำลังแสดงออกถึงความตั้งใจ

     

    ไปกันเถอะครับ

     

    ยังไม่มีโอกาสได้ปริปากถามพี่อี้ฟานก็ลากเขาออกมาจากห้องน้ำเสียแล้ว แบคฮยอนเดินตามหลังอีกฝ่ายต้อย ๆ ก่อนจะหลุบตาลงมองมือแกร่งที่กุมมือเขาเอาไว้โดยที่ไม่แคร์สายตาคนรอบข้างเลยสักนิดเดียว

     

    พี่อี้ฟานเป็นคนหล่อแถมหุ่นดีอีกต่างหาก ไม่ว่าผู้หญิงวัยไหนเป็นต้องมองตาม ตอนนี้เขาชักจะรู้สึกอายขึ้นมาแล้วสิ จริงอยู่ที่แบคฮยอนชอบผู้ชายด้วยกันแต่การเดินจูงมือใครสักคนไปไหนมาไหนแบบนี้มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ

     

    สวัสดีค่ะ พนักงานสาวโค้งหัวต้อนรับทันทีที่ร่างสูงผลักประตูกระจกเข้ามา อี้ฟานยิ้มตอบก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงราวเสื้อเชิ้ตหลากสี

     

    อี้ฟานไม่ได้หันมาถามว่าแบคฮยอนชอบสีไหนหรือใส่ไซส์อะไร เขาเพียงแค่เลือกอย่างตั้งใจแล้วก็ดึงมันออกมาพาดกับท่อนแขนตัวเองก่อนจะจูงมือร่างเล็กเข้าไปดูกางเกงสแล็คที่อยู่ทางด้านใน

     

    พี่ครับ...มือ ร่างเล็กพูดเบา ๆ เพราะตอนนี้พนักงานสาวทั้งสองคนกำลังยืนซุบซิบกันอยู่หากแต่อี้ฟานกลับไม่สนใจ เขาเพียงแค่ทำหูทวนลมแล้วจูงมือแบคฮยอนเข้าไปในห้องลองเสื้อเอ่อ...

     

    ที่พี่ไม่ถามก็เพราะว่าพี่อยากเห็นเราใส่สีนี้ นั่น...อย่างกับอ่านใจออก แบคฮยอนรับเสื้อกับกางเกงมาจากร่างสูงแล้วก็ยืนเก้ ๆ กัง ๆ เพราะไม่รู้จะวางของไว้ตรงไหน พี่ถือกระเป๋าให้อี้ฟานถือวิสาสะเอากระเป๋ามาถือไว้ก่อนจะยีหัวคนตัวเล็กเหมือนอย่างที่ชอบทำก่อนจะเปิดผ้าม่านออกไป

     

     

    เฮ้อ...นึกว่าจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าพี่อี้ฟานซะแล้ว

     

     

     

     

     

    ไม่ถึงห้านาทีแบคฮยอนก็เดินออกมาจากห้องลองเสื้อ ชุดที่ใส่ไม่ได้ต่างไปจากเดิมนักเพราะเป็นแค่เสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนกับกางเกงสแล็คสีดำ สิ่งหนึ่งที่คนตัวเล็กทึ่งก็คือผู้ชายคนนี้รู้ได้ยังไงว่าเขาใส่เสื้อผ้าไซส์ไหนโดยที่ไม่ต้องวัด...

     

    พอหันไปทางด้านซ้ายก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นเมื่อพบว่าเพื่อนของเขาได้นั่งคุยอยู่กับพี่อี้ฟานอยู่ตรงโซฟาเตี้ยสีแดงที่มีไว้ให้แขกนั่งรอ แถมพนักงานสาวที่เคยซุบซิบนินทาเมื่อครู่นี้ก็พากันไปยืนออขอลายเซ็นมันด้วยท่าทางระริกระรี้อีก

     

    อ้าว แบคฮยอน!”

     

    เจ้าของชื่อพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปหา ทั้งคู่เลยลุกขึ้นยืนก่อนที่อี้ฟานจะยื่นบัตรเครดิตให้สำหรับชำระค่าใช้จ่าย เซฮุนมองเขาด้วยแววตามีความหมาย ซึ่งตลอดเวลาที่รู้จักกันมาเป็นสิบ ๆ ปีก็ไม่ได้ทำให้บยอนแบคฮยอนเดายากนักว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่

     

     

     

    ไม่วายคงฟินพี่อี้ฟาน ห่าจิก

     

     

    พี่เห็นเขาโทรเข้าหลายสายก็เลยถือวิสาสะรับให้น่ะ

     

    อ๋อ ไม่เป็นไรครับ

     

    ได้ข่าวว่าเกือบโดนเด็กเล่นเหรอวะ เซฮุนยิ้มขำแล้วมองสภาพเพื่อนที่อยู่ในชุดใหม่ พนักงานสาวเอาบัตรเครดิตมาคืนพร้อมกับเอาถุงกระดาษสีเข้มมาให้ร่างเล็กใส่ชุดเก่า อี้ฟานเลยเข้ามาช่วยจนแบคฮยอนไม่ต้องทำอะไร

     

     

    แน่นอนว่าทุกอย่างมันอยู่ในสายตาของโอเซฮุน

     

     

    ว้าว...

     

    เงียบเลยมึง

     

    รบกวนช่วยเซ็นตรงนี้ด้วยนะคะ หญิงสาวว่าแล้วร่างสูงก็หันไปเซ็น จังหวะนั้นเองที่เซฮุนลากเพื่อนตัวเตี้ยออกมาห่าง ๆ เพื่อคุยในเรื่องที่เขาไม่ต้องการให้ใครได้ยิน

     

    ไม่ยักรู้ว่ามึงจะพาพี่เขามาด้วย

     

    เอ้า กูไม่ได้พามา แบคฮยอนรีบปฏิเสธ แต่เซฮุนกลับแค่นหัวเราะ

     

    ถ้าจะมาสวีทกันมึงจะแคนเซิลกูก็ไม่ว่านะ

     

    กูบอกว่าเปล่าไง แบคฮยอนทำท่าจะเหนี่ยวเพื่อนตัวสูงแต่มันกลับหัวเราะพอใจ

     

    มึงพาพี่อี้ฟานมาแบบนี้ไม่กลัวว่าเขาจะชอบกูเหรอวะถามหน่อย

     

     

     

    อื้อหือ...มั่นหน้านี่ที่หนึ่ง

     

     

     

    มึงคิดว่าจะมีผู้ชายสักกี่คนที่ชอบมึงเหมือนไอ้จงอินวะ

     

    ทั้งโลก ใคร ๆ ก็อยากได้กูไปครอบครองทั้งนั้นมึงไม่รู้เหรอ กูมัน Rare Item” ไอดอลหนุ่มว่าแล้วหันไปยิ้มให้กับสาว ๆ เป็นครั้งสุดท้ายและไม่ลืมที่จะโบกมือก่อนจะออกไปจากร้านเมื่ออี้ฟานเดินมาถึง

     

     

     

     

     

    ไอ้ชานยอล

     

    เออ

     

    วันเกิดปีที่แล้วมึงจำได้ป่ะว่ากูให้อะไรเป็นของขวัญ

     

    ใครจะไปจำได้วะ นึกแล้วก็ปวดหัวเปล่า ๆ ของขวัญวันเกิดปีที่แล้วเยอะมากจนไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร แต่ทั้งหมดนั่นไม่ใช่จากเพื่อนร่วมห้อง แต่มันมาจากพวกสาว ๆ ที่ชอบเขากับเหล่าแฟนคลับวงดนตรีนั่นแหละ

     

    จื่อเทามองชานยอลด้วยสายตาว่างเปล่า เขารู้สึกเคว้งคว้างเหมือนถูกถีบตกเหวไม่มีผิดกับคำตอบที่ไม่แม้แต่จะเสียเวลาคิดของเพื่อนสนิท

     

     

    ปึง!!

     

     

    ทุบหาพ่อง หันไปด่ามันครั้งที่ร้อยในรอบวัน ไม่รู้เป็นห่าไรจู่ ๆ ถึงได้ทุบโต๊ะซะเสียงดังทั้งที่มีคนนั่งอยู่ในร้านเต็มไปหมด

     

    มึงจำชื่อฮีโร่ในดอทเอทั้งร้อยตัวได้แต่เสือกจำไม่ได้ว่าเพื่อนที่ดีที่สุดให้อะไรมึงเป็นของขวัญวันเกิดงั้นเหรอวะ

     

    อันนั้นมันก็กรณียกเว้น มึงก็ไม่ได้ให้ของขวัญกูทุกวัน ๆ ละหกชั่วโมงเหมือนดอทเอนี่ห่า เด็กหนุ่มว่าแล้วลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ จื่อเทาเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังเพื่อนตัวสูงแล้วก็เบ้ปากอย่างน้อยใจ

     

    ปีที่แล้วกูซื้อ Diablo 3 ให้มึงอ่ะ...

     

    อ๋อ ไอ้เกมหอกหักบั๊กเยอะถล่มทลายนั่นอ่ะนะ กูโละทิ้งลงกล่องไปแล้วว่ะ โทษ ๆ ชานยอลหัวเราะแล้วตบบ่าเพื่อนก่อนจะผลักประตูร้านออกไป จื่อเทาอ้าปากหวอ เขารีบวิ่งตามหลังคนตัวสูงไปติด ๆ แล้วผลักมันอย่างแรงจนชานยอลหน้าแทบจะทิ่มไปข้างหน้า

     

    มึงมันแย่อ่ะ กูเสียใจนะเว้ยแม่ง TT_TT”

     

    เอ้า ก็เกมมันห่วยอ่ะ เหมือนกับ WarZ ที่กูซื้อมาแล้วก็ได้แต่สำเหนียกว่ามันให้อะไรกูบ้างนอกจากความเศร้า เกมมันกะโปกเหมือนหน้ามึงไม่มีผิด ชานยอลตบหัวจื่อเทาเบา ๆ แล้วเดินนำไปข้างหน้า

     

    งั้นปีนี้มึงก็ไม่ต้องเอาของขวัญจากกู น้ำเสียงตัดพ้อถูกส่งไปยังเพื่อนตัวสูงข้าง ๆ ชานยอลหันไปมองอีกฝ่ายแล้วก็ทำหน้าเอือม

     

    กูต้องเสียใจป่ะวะ

     

    แล้วแต่มึง

     

    เก็บเงินไว้ซื้อนิยายเกย์เถอะ ตอนนี้กูไม่อยากได้อะไรละ ชานยอลตบบ่าเพื่อนตัวเขียวก่อนจะถูกสะบัดออกอย่างรังเกียจ

     

    เอ้อ กูไม่ซื้อให้มึงหรอก รองเท้าก็จะไม่ซื้อให้ด้วย

     

    จ้า

     

    เดี๋ยวกูจะซื้อมาแล้วเอาไปขายต่อ

     

    เอาให้ได้ทุนคืนล่ะเด็กหนุ่มหัวเราะกับน้ำเสียงประชดประชันของคนที่เดินตามหลังมาติด ๆ ไม่บอกก็รู้ว่าไอ้รองเท้าที่มันบอกว่าจะซื้อให้น่ะ มันได้ซื้อมาแล้ว

     

    ไม่ดิ กูจะทำท่าเหมือนว่าซื้อมาให้มึงแต่จริง ๆ แล้วกูจะเก็บไว้ใส่เอง

     

    ว๊าว! งั้นใส่มาอวดด้วยนะกูจะได้ทำท่าเสียดายให้เห็น

     

    ...

     

    จื่อเทามองแผ่นหลังเพื่อนตัวสูงที่กำลังเดินไปข้างหน้า เขารู้สึกได้ว่าพักนี้ชานยอลมันเปลี่ยนไปตั้งแต่ช่วงไปนอนบ้านเขา ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ เพื่อนของเขาถูกผีเข้าเหรอ? ปาร์คชานยอลคนเดิมต้องทำตัวเยี่ยกว่านี้ พาลทุกอย่างแล้วก็ไม่ยอมใครสิ!

     

    เฮ้ย ๆ ๆ

     

    อะไรของมึงอีกวะ เด็กตัวสูงถามอย่างรำคาญก่อนจะหันไปมองอีกคนที่อยู่ข้างหลัง จื่อเทาเงยหน้าขึ้นแล้วรีบวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อนสนิท

     

    พี่เซฮุนอัพไอจีอ่ะ มีน้ามึงด้วย แค่นั้นแหละมือถือของจื่อเทาก็วาร์ปไปอยู่ในมือของชานยอลภายในพริบตาเดียว เด็กเขียวอ้าปากค้างมองเพื่อนตัวสูงที่กำลังเพ่งมองจอโทรศัพท์ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจทันทีที่เห็นส่วนเกินอยู่ในรูปนั้นกับแคปชั่นว่า

     

     

    ‘Friends BBH and WYF’

     

     

    ไอ้ครูขี้เก๊ก...

     

    มีคนเมนท์ชมพี่สุดหล่อด้วย ๆ จื่อเทาเอื้อมมือมาช่วยเลื่อนจอลง มีคอมเมนท์จากแฟนคลับมากมายที่เข้าไปเมนท์รูปให้

     

     

    หล่ออออ กรี๊ดดด

     

    เพื่อนพี่เซฮุนคนนั้นหล่อจัง เป็นดาราหรือเปล่าคะ?

     

    พี่คนที่นั่งฝั่งซ้ายชื่ออะไรคะ BBH หรือ WYF พี่เซฮุนตอบหน่อยค่ะ

     

    เพื่อนพี่เซฮุนหล่อมากเลยอ่า ชื่ออะไรคะ ตัวย่อ BBH WYF? คืออะไรคะ?

     

    ‘Boy Be Here กับ What You From แน่ ๆ

     

    เข้! นั่นมันบยอนขาโหดของเรียนกูนี่หว่า!!!’

     

     

    เด็กหนุ่มไม่สามารถอ่านคอมเมนท์ต่อไปได้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องของพี่เซฮุนซึ่งเป็นไอดอลที่เขาปลื้มมาตั้งแต่เด็กก็ตาม เด็กตัวสูงยืนนิ่ง วูบหนึ่งจื่อเทารู้สึกเหมือนว่าวิญญาณได้ออกจากร่างเพื่อนของเขาแล้ว แต่เพียงแค่ครู่เดียวชานยอลก็คืนมือถือให้เขาแล้วก็วิ่งออกไปจากตรงนั้นโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว

     

    เฮ้ย! ไอ้ชานยอล! มึงจะไปไหนวะ!”

     

    หวงจื่อเทาเพิ่งรู้วันนี้ว่าเพื่อนของเขาวิ่งเร็วมากแค่ไหน เพียงแค่อึดใจเดียวเด็กตัวสูงก็วิ่งเลี้ยวโค้งหัวมุมจนลับสายตาไป และนั่นมันทำให้เขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมชานยอลมันถึงได้รีบแบบนั้น

     

     

     

     

     

     

    ครืดดด...ครืดดด....

     

    คนตัวเล็กล้วงเอามือถือออกมาเปิดดูแล้วกดรับสายเมื่อพบว่าหลานชายเป็นคนโทรเข้า ร่างบางเงยหน้าขึ้นโบกมือลาเซฮุนที่อยู่ในวงล้อมของแฟนคลับหลังจากที่มันได้ช่วยเขาเลือกของขวัญวันเกิดให้ชานยอลเรียบร้อยแล้ว

     

    ตอนนี้เหลือเพียงแค่พี่อี้ฟานที่ยืนอยู่ตรงนี้ แบคฮยอนรู้สึกได้ว่าร่างสูงไม่ได้รู้สึกดีนักที่ต้องยืนดูเขากับเซฮุนช่วยกันเลือกของขวัญให้หลานชาย แต่ถึงอย่างนั้นพี่อี้ฟานก็ไม่ได้แสดงอาการหงุดหงิดจากทางคำพูดและการกระทำอย่างที่เขาเป็นกังวลอยู่

     

    ฮัลโหล

     

    ( อยู่ไหน? )

     

    ห้าง K น่ะมีอะไรเหรอ?

     

    ( รอห้านาที )

     

    ได้แต่ขมวดคิ้วหลังจากถูกตัดสาย ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาสบตากับร่างสูงที่ยืนมองการเคลื่อนไหวทุกอย่างของเขา

     

    ชานยอลจะมาที่นี่เหรอ?

     

    อาจจะใช่มั้งครับ เห็นมันบอกว่าห้านาที แต่ผมอาจจะฟังผิด ร่างเล็กหัวเราะ

     

    งั้นพี่กลับดีกว่า อี้ฟานคืนถุงกระดาษให้ร่างเล็กก่อนจะถอยออกมาก้าวหนึ่ง นานแค่ไหนแล้วที่เขาต้องมองแบคฮยอนคนที่เอาแต่ทำหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความอึดอัด ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้คนตัวเล็กมักจะยิ้มให้เขาอยู่เสมอ

     

    ขอบคุณนะครับ...

     

    ไม่เป็นไร ใช่ เขาไม่เป็นไร

     

    ทั้งเรื่องชุดใหม่ แล้วก็ที่ไปช่วยผมในฟู้ดคอร์สด้วย เสียงของแบคฮยอนหงอยเหมือนเด็ก ๆ พอได้ยินอย่างนั้นอี้ฟานเลยเอื้อมมือไปยีหัวเบา ๆ อีกครั้ง คนตัวเล็กยืนนิ่ง ๆ เขาไม่ได้ถามออกไปว่าทำไมอี้ฟานถึงมาอยู่ที่นี่ได้ทั้งที่บอกว่าจะไปร้านหนังสือ

     

    ...

     

    ...

     

    ทั้งคู่หันไปทางด้านข้างเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกมองอยู่ แบคฮยอนเบิกตาโพลงทันทีที่เห็นว่าเด็กตัวสูงที่ยืนหอบหายใจพร้อมกับเหงื่อที่ไหลลงมาตามโครงหน้านั่นไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากหลานชายของเขา

     

    เด็กหนุ่มมองไปยังคนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกัน พิกัดสายตาในตอนนี้คือมือของผู้ชายคนนั้นที่วางอยู่บนหัวน้าชายของเขา ชานยอลเดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ แบคฮยอน สบตากับครูตัวสูงแค่ครู่เดียวก็กุมมือร่างเล็กให้เดินออกมาจากตรงนั้นโดยที่ไม่มีแม้แต่คำทักทายให้อีกคน

     

    นี่ชานยอล!”

     

    ...

     

    พี่อี้ฟาน!” แบคฮยอนหันกลับไปข้างหลังแล้วร่างสูงก็ยิ้มให้พร้อมกับพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่า ไม่เป็นไร อีกครั้ง

     

     

     

     

    ทั้งคู่ออกมาลานจอดรถ แบคฮยอนยื้อแขนเอาไว้แล้วใช้มือที่ถือถุงกระดาษช่วยดึงหลานชายให้หันมามองหน้ากัน แล้วเด็กตัวสูงก็ไม่ได้ยื้อดึงอย่างที่คาดคิดเอาไว้ แต่สิ่งหนึ่งที่บยอนแบคฮยอนเดาไม่ผิดคือสีหน้าของชานยอล มันดูเรียบเฉย และบ่งบอกถึงความไม่พอใจในตอนนี้

     

    แกวิ่งมาเหรอ

     

    ...

     

    เรานัดกันตอนเย็นนะ ไม่เห็นต้องรีบขนาดนี้ แบคฮยอนพูดพร้อมกับค้นกระเป๋าเพื่อเอาทิชชู่ออกมาช่วยซับเหงื่อให้เด็กหนุ่ม

     

     

    แค่นั้นแหละที่ต้องการ...แค่แบคฮยอนแสดงออกว่าแคร์เขาเหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้ความหงุดหงิดที่เคยมีก็หายไปหมดแล้ว...

     

     

     

    ชานยอลมองคนตัวเล็กที่กำลังตั้งใจเช็ดเหงื่อตามโครงหน้าให้กับเขา เด็กหนุ่มไม่ได้หันหนีหรือพ่นคำพูดแรง ๆ ใส่อย่างที่เคยเป็น เขากำลังพยายามสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้น้าชายต้องเกลียดเขาเพราะความงี่เง่าจนต้องทะเลาะกัน

     

    ทำไมเปลี่ยนชุด ชานยอลจำได้ว่าเมื่อเช้าคนตัวเล็กไม่ได้ใส่ชุดนี้

     

    ห้ะ? แบคฮยอนชะงักมือแล้วก้มลงมองเสื้อผ้าตัวเองตามที่อีกคนกำลังทำอยู่พอดีมันมีเด็กทำน้ำหกใส่น่ะก็เลยซื้อชุดใหม่ คนเป็นน้าเงยหน้าขึ้นสบตากับหลาน แต่ดูเหมือนว่าคำตอบนี้ไม่ได้ทำให้ชานยอลสบายใจอย่างที่ควรกับพี่อี้ฟานแค่บังเอิญมาเจอกัน

     

    ...

     

    ไม่เชื่อล่ะสิ ร้อยทั้งร้อยไอ้เด็กนี่คงไม่มีทางเชื่อเขาแน่ ๆ แล้วมันเรื่องอะไรกันที่บยอนแบคฮยอนจะต้องมายืนแก้ตัวเรื่องนี้ให้หลานชายตัวเองฟังด้วยไม่เชื่อก็ไปถามไอ้เซฮุนเลย

     

    ผมยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ

     

    ก็เพราะว่าแกไม่ได้ว่าอะไรไง ดูตัวเองบ้างไหม ทำหน้าอย่างกับว่าจะไปฆ่าใคร เด็กตัวสูงถูกจับพลิกให้หันหน้าเข้าหากระจกรถที่จอดอยู่ข้าง ๆ ชานยอลเห็นสภาพตัวเองตอนนี้แล้วก็ดูไม่จืด ทั้ง ๆ ที่เขาแต่งตัวมาซะดิบดีแต่ตอนนี้ผมที่เคยเซ็ทไว้มันเสียทรงไปหมดแล้ว

     

    หมดหล่อเลย

     

    เออดิ ไอ้คนไม่หล่อ

     

    เพราะน้านั่นแหละ ชานยอลหันไปมองคาดโทษคนข้าง ๆ พอเห็นอย่างนั้นน้าชายตัวเล็กเลยเลิกคิ้วขึ้นสูง

     

    เอ้า!!!”

     

    ผมเห็นพี่เซฮุนอัพไอจี แถมมีไอ้ครูนั่นอยู่ด้วย

     

    เวรเอ้ย บอกแล้วว่าอย่าถ่าย ๆ ... แบคฮยอนหันไปพึมพำก่อนจะหันกลับมาเพราะถูกมือแกร่งโอบใบหน้าเอาไว้

     

    ร่างเล็กทำตาเหลือก เขาไม่สามารถขยับหัวไปไหนได้เลยเพราะถูกสองมือของไอ้เด็กแสบบล็อกเอาไว้เรียบร้อย ชานยอลกำลังจ้องตาจับผิดเขา คิดว่าถ้าเข้ามาสิงร่างได้มันคงทำไปแล้ว

     

    แล้วแกมานี่ได้ยังไง หายตัวมาเหรอ

     

    ใช่ ผมให้ผีที่สิงผมพามาที่นี่เองแหละ เจ๋งไหมล่ะ?

     

    เพี้ยน บอกมาเลยว่ามาได้ไง บ้านเราก็ไม่ได้อยู่ใกล้ที่นี่สักหน่อย

     

    ร้านเค้กที่น้าไปกินมามันคือร้านที่ผมกับไอ้เทาชอบไปนั่ง ผมเห็นแล้วก็รีบมาที่นี่เลย แต่ที่โทรถามก็เพราะว่าอยากแน่ใจ แบคฮยอนถึงกับเงียบเพราะพูดไม่ออก ฉลาดแบบนี้มึงไม่ไปสมัครงานเป็น FBI ไปเลยล่ะซั้ซ

     

    ก็แค่กินเค้กเอง ไอ้เซฮุนมันอยากหาที่นั่ง

     

    แล้วให้เขาจับหัวทำไม

     

    เอ้า!! ไม่ให้จับหัวแล้วจะให้จับนมไง๊? แบคฮยอนพยายามดิ้นออกแต่เด็กตัวสูงกลับยื้อมือเอาไว้

     

    ไม่ให้จับ ตรงไหนก็ห้ามจับ ชานยอลยื่นคำขาดแล้วนั่งลงบนชั้นหินขัดสูงระดับเอวที่มีดอกไม้ปลูกอยู่ข้างใน เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะซบหัวลงกับหน้าท้องน้าชาย

     

    แบคฮยอนก้มลงมองเด็กตัวสูง เขาเพิ่งสังเกตตอนนี้เองว่าชานยอลเซ็ทผมด้วย พอลดระดับสายตาลงอีกนิดก็เห็นไหล่กว้างที่กำลังสั่นไหวอยู่ ไอ้เด็กแสบคงเหนื่อยกับการวิ่งมาจนถึงที่นี่

     

    แต่น่าแปลก...ทั้งที่หลานชายทำตัวไร้มารยาทต่อหน้าพี่อี้ฟานแต่เขากลับรู้สึกดีที่เห็นว่าชานยอลรีบมาหาเขาทั้งที่เพิ่งวางสายไปยังไม่ถึงห้านาที มือข้างที่ว่างอยู่ค่อย ๆ เอื้อมขึ้นมา บยอนแบคฮยอนกำลังชั่งใจว่าเขาควรจะวางมือลงบนหัวเด็กคนนี้ดีไหม?

     

    ...

     

    ชานยอลลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงสัมผัสตรงกลางศีรษะ แบคฮยอนกำลังลูบหัวเขาเบา ๆ ราวกับว่าสิ่งที่ทำอยู่มันจะช่วยบรรเทาความเหนื่อยให้เขาได้ และคนตัวเล็กคิดถูกแล้ว เขากำลังรู้สึกดีขึ้นเพราะสัมผัสนี้

     

    เด็กหนุ่มยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว มือทั้งสองข้างที่ว่างอยู่ค่อย ๆ เอื้อมขึ้นมากอดเอวคนตัวเล็กเอาไว้ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง

     

    แบคฮยอนไม่ได้ผลักไส เขาไม่ได้หันไปมองรอบข้างว่าตอนนี้มีใครกำลังมองอยู่หรือเปล่าเหมือนตอนที่อยู่กับพี่อี้ฟาน แต่ตอนนี้สิ่งที่ดึงความคิดและความรู้สึกของเขาไว้ได้นั่นก็คือสัมผัสของชานยอลที่ทำให้เขารู้สึกดีจนลืมความเหนื่อยของวันนี้ไปจนหมดสิ้น

     

     

    น่าแปลก...

     

     

    หิวหรือยัง

     

    รอหิวพร้อมแบคฮยอน

     

    ปากดีไปเถอะ งั้นวันนี้ฉันจะไม่หิว

     

    ไม่เอาดิ...หิวพร้อมกันนะ

     

    อะไรของแก ไอ้เด็กคนนี้นี่

     

    จะหิวตอนไหนก็ได้แต่อย่าเพิ่งหิวตอนนี้

     

    ทำไมล่ะ?

     

     

     

    ขอผมอยู่แบบนี้อีกแค่แป้บเดียว...แล้วแบคฮยอนอยากให้ทำอะไรผมจะตามใจหมดเลย

     

     
     

     

    TBC

     

    เป็นแบคฮยอนมันเหนื่อยอ่ะคุณ

    คนนั้นก็แสนดี คนนี้ก็อยากได้

    #จบสามพีเลยดีไหม #หันซ้ายเจอฟาน #หันขวาเจอหลานไรงี้

    5555555555555555555555555

     

     

     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×