ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "MEAN BOY" มนุษย์ชานยอล | CHANBAEK KAIHUN

    ลำดับตอนที่ #30 : Chapter 28 :: His New Friend (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15K
      109
      17 ก.ย. 57

     

     

     
     

    Chapter 28

    His New Friend

     

     

     

     

    เสียเวลากับการนั่งจมปุกอยู่ในหอประชุมอยู่หลายชั่วโมงกว่าการปฐมนิเทศจะจบ เด็กหนุ่มทั้งสองคนแอบเป็นห่วงไอ้หัวทองขาสั้นคนนั้นจริง ๆ เพราะมันถูกรุ่นพี่ลากไปสั่งสอนเรื่องการแต่งตัวผิดระเบียบตั้งแต่ตีนขวายังไม่ทันก้าวเข้าหอประชุม

     

    ไอ้เขาก็คาดไว้ตั้งแต่เห็นแว้บแรกแล้วล่ะว่ามันคงไม่น่ารอดตั้งแต่เห็นกางเกงสีซีดขาด ๆ แล้ว นี่ยังไม่รวมรองเท้าผ้าใบราคาเหยียบแสนนั่นอีก ถึงตัวปาร์คชานยอลจะเคยเป็นเด็กเกเรมาก่อนแต่เขาก็พอจะรู้ว่าที่ไหนควรซ่าและที่ไหนควรทำตามชาวบ้านเขา ซึ่งไอ้ลู่หานก็ล่อตีนตั้งแต่วันแรก

     

    นักศึกษาหลายร้อยทยอยออกมาจากหอประชุม บางคนเลือกที่จะเดินออกไปหน้ามหาลัยเพื่อนั่งรถเมล์กลับบ้าน แต่บางคนก็เลือกอยู่คุยกับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำความรู้จักกันตอนนั่งปฐมนิเทศ

     

    ชานยอลกับจื่อเทากวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อมองหาไอ้ตี๋หัวทอง ไม่รู้ป่านนี้มันไปมุดหัวอยู่ไหน บางทีมันอาจจะดราม่าจนบึ่งสี่สูบกลับบ้านแล้วโผล่หน้ามาอีกทีตอนเปิดเทอม แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดเมื่อหันไปเห็นคนในความคิดกำลังนั่งคาบบุหรี่เซลฟี่รูปตัวเองอยู่ข้าง ๆ ถังขยะเปียก

     

     

     

    มึงไม่มีมุมที่ดีกว่านั้นแล้วเหรอกูอยากรู้

     

     

     

    ไงมึง

     

    ออกมาช้าจังวะ ลู่หานเงยหน้าพร้อมกับกดเปลี่ยนเป็นกล้องหลังแล้วถ่ายรูปเพื่อนทั้งสองหน้าตาเฉย

     

    เฮ้ย...จะถ่ายรูปทำไมไม่บอกกันก่อนอ่ะ... จื่อเทาถามเสียงแผ่ว

     

    กูว่ารูปทีเผลอดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ดูไหม?ลู่หานเลิกคิ้วมองอีกคนพร้อมกับหันจอมือถือให้ จื่อเทาอมยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินไปนั่งลงบนฟุตปาธกับคนตัวเตี้ยกว่า

     

    แล้วพวกปีสองว่าไงบ้างเรื่องมึงแต่งตัวผิดระเบียบ ที่หยาบคายเป็นกันเองแบบนี้ก็เพราะไอ้ลู่หานเป็นคนบอกเอง เหตุผลเพราะจะได้ไม่เกร็งไม่เครียด สนิทกันง่ายขึ้นอีกด้วย ตอนแรกก็ไม่อยากจะอะไรขนาดนั้นหรอกนะแต่พอมันเล่าว่าชีวิตนี้มีเพื่อนอยู่ไม่กี่คนเลยรู้สึกสปาร์ค ที่ไหนได้ก็เป็นพวกเดียวกัน

     

    ก็ไม่ว่าไง พอดีรุ่นพี่พวกนั้นเคยเป็นรุ่นน้องกูที่โรงเรียนก็เลยหยวน ๆ ได้ ชายหนุ่มเลื่อนจอมือถือพลางพูดด้วยท่าทีไม่ยี่หระต่างจากอีกสองคนที่กำลังขมวดคิ้วแล้วมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ

     

    ยังไงวะ ที่บอกว่ารุ่นพี่ที่นี่เป็นรุ่นน้องมึง?

     

    ก็ไม่ไง กูซิ่ว

     

    จริงป่ะ? งี้มึงก็อายุมากกว่ากูสองคนดิ? จื่อเทาถามแล้วลู่หานก็พยักหน้ารับ

     

    นี่มึงซิ่วมากี่รอบแล้ว จากสภาพกูว่าไม่น่าจะรอบแรก เสียงของชานยอลเหมือนคำถามหยุดโลก หนุ่มชาวจีนรุ่นพี่มากประสบการณ์ละสายตาจากสมาร์ทโฟนก่อนจะนิ่งไปครู่หนึ่ง

     

    นับแป้บ

     

    เหยด ถึงกับต้องนับนิ้วกันเลยทีเดียว ยืมขาหลังไอ้ชานยอลไปนับด้วยดิ เด็กเขียวมองคนข้าง ๆ อย่างหวาด ๆ ก่อนจะผินหน้าไปทางเพื่อนตัวสูงกว่า

     

    รอบแรกกูเรียนการบินเหตุผลเพราะอยากแดกแอร์ แต่พอเรียนไปเรียนมาแล้วเพื่อนกูเป็นเกย์หมดไอ้ชิบหาย ไหนจะผู้หญิงรุ่นกูไม่มีใครสวยอีก แถมรุ่นพี่ก็มีแต่พวกสวยแต่โง่กูเลยซิ่วแม่ง

     

    เหตุผลมึงนี่...

     

    เออ นั่นแหละ ลู่หานเว้นจังหวะไว้ครู่หนึ่งเพื่อดูท่าทีเพื่อนใหม่ทั้งสองคน รอบสองกูเลยมีความคิดอยากเป็นบุรุษพยาบาล

     

    นี่ก็จะแดกพยาบาลอีกไหม

     

    ตอนแรกกูไม่ได้คิดงั้น แต่หลังจากซิ่วการบินกูก็ไปแดกเหล้ากับเพื่อน ขากลับดริฟท์โค้งใส่เฝือกอยู่เป็นเดือนแล้วเพื่อนที่มีอยู่น้อยนิดก็มาเยี่ยม มันถามว่ากูจะเอายังไงต่อกับชีวิตมหาลัย จังหวะนั้นแหละคุณหมอคนสวยก็มา...ตาของลู่หานตอนนี้กำลังเคลิ้มไปอย่างไร้จุดหมายขณะเล่าถึงอดีตของตัวเอง ชานยอลเบ้ปากแล้วนั่งลงข้าง ๆ เพื่อนใหม่ทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกห่าง

     

    ประเด็นหลักคือหมอสินะ เด็กตัวสูงถามและก็ได้คำตอบเป็นรอยยิ้มชั่ว ๆ ของมัน

     

    ชอบหมอแล้วทำไมไม่เรียนหมอคำถามของจื่อเทานั้นลู่หานเตรียมคำตอบไว้แล้ว ชายหนุ่มเอนตัวไปข้างหลังแล้วใช้สองมือยันพื้นเอาไว้

     

    เรียนหมอมันยากไป ทำไมกูต้องเอาสมองอันเลอค่าของกูไปปวดหัวกับเซลล์สมอง กล้ามเนื้อ เส้นเลือดนู่นนี่นั่นด้วยวะ วันนึงของกูมีอะไรให้ทำมากกว่านั้นเช่นการแคสเกม

     

    แล้ว?

     

    กูเลยลดระดับความยากลงมานิดนึงคือการลงเรียนบุรุษพยาบาล แต่นั่นมันคือจุดเปลี่ยนของชีวิตกู ลู่หานนิ่งไปหลังจากพูดประโยคนี้จบก่อนจะกลอกตามองเพื่อนทั้งสองคนที่นั่งขนาบข้าง มันสองคนพร้อมใจกันอ้าปากทำหน้างงอย่างไม่ได้นัดหมายซึ่งที่เป็นอยู่มันทำให้เขารู้ตัวว่าควรพูดอะไรเพิ่มเติมไปอีกพวกมึงแน่ใจนะว่าฟังได้?

     

    เออเล่ามาเหอะ กูพร้อมเสือกมากนาทีนี้ ชานยอลพูดแล้วจื่อเทาก็พยักหน้ารัว ๆ

     

    หลังจากฟังจบแล้วพวกมึงสองคนอาจจะไม่อยากเป็นเพื่อนกูอีกก็ได้ มันเสี่ยงนะ

     

    ตอนนี้กูก็ไม่อยาก เพราะงั้นมึงเล่าเถอะ ชาวจีนสตั้นไปหลายวิกับประโยคที่พูดเหมือนว่าเรื่องนี้มันโคตรจะธรรมด๊าธรรมดาของชานยอล

     

    เรื่องมันเกิดขึ้นในคืนหลังสอบไฟนอลเสร็จ คือกูเล็งเมียชาวบ้านไว้นานแล้วแต่หาจังหวะแดกไม่ได้เพราะผัวมันหน้าโหดมาก สายตามันเหมือนมีเซ้นส์ว่ากูคิดไม่ซื่อกับเมียมัน แต่ก็นั่นแหละ พอเหล้าเข้าปากก็หาจังหวะตีเนียนได้เลยนัดเมียชาวบ้านไปเจอกันในห้องน้ำ

     

    กรณีนี้สมควรโดนตีนนะ ชานยอลมองหน้าอีกคน

     

    กูกระดกเบียร์บิวท์ตัวเองแล้วดับไฟรอชนิดว่าถ้าเข้ามาปุ้บต้องใส่กันอย่างดุเดือดอ่ะ

     

    ต่อเลย ๆ <- จื่อเทา

     

    นั่นแหละ คนมันเมาอ่ะนะ พอประตูเปิดออกกูก็ไม่สนหรอกว่ามีหูมีหางตรงไหนมั่ง เลยไม่ทันดูว่าคนที่เข้ามานัวกับกูคือใคร

     

    อ้าว? มึงพูดเหมือนว่าไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น?

     

    เออดิ

     

    ไอ้ชิบหาย...

     

    ทั้งสองคนอุทานออกมาพร้อมกัน ไม่อยากจินตนาการต่อเลยจริง ๆ ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับไอ้เตี้ยขี้หม้อคนนี้ ในหัวของชานยอลเต็มไปด้วยภาพสารพัดตีนที่กระหน่ำแจกอย่างไม่หยุดยั้ง

     

    แล้วมึงได้กันไหม?

     

    จะเหลือหรือ

     

    ...

     

    แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นวะ จื่อเทาถามแล้วลู่หานก็ถอนหายใจ จากสีหน้าแล้วหนุ่มชาวจีนขาสั้นคงเครียดกับเรื่องนี้ไม่น้อยพี่แกถึงกับต้องล้วงเอาซองบุหรี่ออกมาจุดสูบย้อมใจ

     

    ที่เข้ามาน่ะ...ผู้ชาย

     

    ...

     

    ...

     

    ผัวผู้หญิงคนนั้นแหละ อืมลู่หานอัดบุหรี่เข้าปอดหนัก ๆ แล้วปล่อยควันออกมาพร้อมกับถอนหายใจ สองหนุ่มทำตาเหลือกแล้วหันไปมองกันอย่างไม่ได้นัดหมายก่อนที่ชานยอลจะขยับเข้าไปนั่งใกล้ ๆ แล้วมองหน้าอีกฝ่ายอย่างจริงจัง

     

    มึงพูดจริงพูดเล่น?

     

    หน้ากูเหมือนคนเอาเรื่องประตูหลังมาโพนทะนาตัวเองมากไหมล่ะครับห่า? จังหวะนั้นตื่นมาแล้วเจอผู้ชายนอนอยู่ข้าง ๆ กูนี่แทบหาทางกลับบ้านไม่ถูก คำถามแรกคือพวกกูนัวกันไปจนถึงห้องนอนเพื่อนได้ยังไง

     

    ใครเมะใครเคะวะ... จื่อเทากระซิบถามราวกับกลัวว่าใครจะได้ยิน ซึ่งคำถามนี้ชานยอลก็นึกรำคาญอยู่เล็ก ๆ เพราะไม่วายไอ้ห่าเทาคงโยงเข้าเรื่องฟิคกับการ์ตูนอีก แต่เอาเถอะ ตอนนี้เขาก็อยากรู้เหมือนกัน

     

    อะไรคือเมะเคะ? ลู่หานขมวดคิ้วสงสัยกับคำพูดของหวงจื่อเทา

     

    มันถามว่ามึงเป็นรุกหรือเป็นรับ จากประสบการณ์ที่นั่งฟังไอ้ห่าเทาเล่าเรื่องฟิควายมานานเป็นปีปาร์คชานยอลเลยต้องเป็นคนอธิบายเรื่องนี้ให้ลู่หานฟัง แต่กูว่ารับ

     

    ถึงโครโมโซมกูจะไปทางนั้นแต่เชื่อเถอะว่าอีตุ๊ดนั่นบอกเลิกเมียมาหากูแล้วบอกว่า เป็นแฟนกันไหมเตง คืนนั้นนายเก่งมากเลย อันที่จริงเราแอบชอบนายมานานแล้ว ที่คบชะนีก็เพื่อบังหน้า แถมยังกัดปากใส่กูอีก จะกระทืบตรงนั้นก็กลัวเพื่อนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเลยซิ่วอีกรอบย้อมใจซะเลย สัดเอ้ย

     

    มึงเมาขนาดนั้นเลยเหรอวะเฮีย เด็กเขียวมองอย่างระอาขณะที่คนถูกถามได้แต่อัดควันเข้าปอดจนบุหรี่หมดมวนแรก

     

    เออดิ คือตอนนั้นกูก็รู้สึกแหละว่ามันแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ผู้หญิง แต่เหล้ามันเข้าปากก็ไม่ได้แยกแยะหรอกมึง คือรู้ว่าทำอะไรแต่มันหยุดไม่ได้ ลู่หานพยายามอธิบาย วัดใจกันไปเลยว่าไอ้รุ่นน้องสองคนนี้จะอยู่หรือจะไป นี่เสี่ยงนะเนี่ย มันจะเอาเรื่องกูไปขายป่ะวะ

     

    จะบอกว่าขอแค่มีรูพี่ก็เสียบได้หมด <- ชานยอล

     

    อ่ะมึงพูดถูก...ถุ้ย!” <- ลู่หาน

     

    ทุกคน!!!” ทั้งสามหนุ่มหันไปตามเสียงแล้วก็เห็นโฉมหน้าสาวสวยที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังโบกมือให้ ชานยอลพยักหน้ารับก่อนที่จียอนจะวิ่งข้ามถนนมา เป็นไงมั่ง? โทษทีเรามัวแต่คุยกับน้องปีหนึ่งอยู่เลยมาช้า จะไปกินอะไรกันดีอ่ะเราหิวแล้ว

     

    อยากกินอะไรล่ะ ชานยอลถอดเสื้อตัวนอกคลุมหน้าขาให้หญิงสาวที่เพิ่งนั่งลงข้าง ๆ เขา จียอนขมวดคิ้วทำหน้าคิดแล้วหันไปขอความเห็นเพื่อนอีกสองคน

     

    เราคิดไม่ออกอ่ะจื่อว่าไง?

     

    กินไรก็กินเหอะชั่วโมงนี้ พี่อิ่มทองแล้ว ลู่หานว่าแล้วอัดบุหรี่ตัวใหม่ย้อมใจอีกตัว ห่าเอ้ย นึกถึงเรื่องนั้นแล้วก็ขนลุกชูชัน นี่ไม่ได้โศกเพราะมันเป็นผู้ชายด้วยกันนะ แต่มันเป็นเรื่องเศร้าตรงที่กูก็เตี้ยแค่นี้แต่เสือกฟันอีแอบหุ่นเท่าเกย์ในฟิตเนสเนี่ยแหละ ฟั้ค ๆ ๆ

     

    คนนั้นเลิกสูบบุหรี่ทีได้ป่ะ หัวเราจะเหม็น จียอนแอบค้อนเพื่อนใหม่ที่เอาแต่สูบบุหรี่ตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอกัน

     

    พี่ขอโทษค่ะนางงาม ว่าแล้วก็ทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้รองเท้าขยี้จนดับ ทั้งสี่คนนั่งเงียบไปพักนึงให้ความว่างเปล่าครอบงำเพราะคิดไม่ออกว่าบ่ายนี้จะกินอะไรกันดีจนกระทั่งเสียงโทรศัพท์มือถือชานยอลดังขึ้น

     

    ทั้งสามคนหันไปมองคนตัวสูงซึ่งกำลังยิ้มจนปากจะฉีกถึงใบหูจนอดไม่ได้ที่จะเสือกว่าใครโทรมา และคนที่ทำหน้างงและไม่เข้าใจโลกที่สุดในตอนนี้ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากหวงจื่อเทา มึงมีความสุขอะไรขนาดนั้นกะอีแค่น้าแบคโทรมา

     

    ฮัลโหลแบคฮยอน

     

    ( ปฐมนิเทศเสร็จหรือยัง? )

     

    เรียบร้อยแล้ว แบคฮยอนล่ะไม่มีสอนเหรอ จนถึงตอนนี้สีหน้าของเด็กหนุ่มก็ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พูดก็พูดเถอะ ถึงจะคุยกันที่บ้านทุกวันแต่การที่น้าชายของเขาเป็นฝ่ายโทรหาก่อนมันไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ เพราะงั้นกูขอฟินที

     

    ( มีสอนอีกคาบนึงก็เลยจะถามว่าเย็นนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม น้าจะได้แวะซุปเปอร์ไปซื้อผักซื้อหมู )

     

    กินอะไรเหรอ... เด็กหนุ่มขมวดคิ้วทำหน้าคิด

     

    น้าแบค ๆ หวัดดี จื่อเทาตะโกนข้ามหัวคนขาสั้นมาทักทายคนในปลายสาย จียอนได้ยินอย่างนั้นเลยเลิกคิ้วพร้อมกับขยับปากถามว่า นั่นน้าหรอกเหรอ?

     

    ( อยู่กับเทาใช่ไหม? ชวนมันมากินข้าวด้วยกันก็ได้นะ ไม่ได้เจอนานแล้ว )

     

    เอางั้นเหรอ? เด็กหนุ่มหันไปทางขวา ซึ่งก่อนจะเห็นเบ้าหน้าเขียว ๆ ของไอ้เทาก็ต้องผ่านหน้าไอ้ลู่หานไปก่อน ตอนนี้ผมอยู่กับเพื่อนอีกสามคนอ่ะ พาไปบ้านได้ไหม?

     

    ( เอาสิ งั้นไว้เจอกันตอนเย็นนะ )

     

    ครับ เด็กหนุ่มอมยิ้ม ตั้งใจสอนเด็กนะคุณครู

     

    ทั้งสามคนได้แต่นั่งมองประโยคแปลก ๆ ที่หลุดออกมาจากปากเพื่อนตัวสูงทั้งที่คนในปลายสายนั้นก็ไม่ใช่ใครนอกจากญาติตัวเอง ลู่หานขมวดคิ้วแล้วหันไปถามคนข้าง ๆ ย้ำอีกครั้งแทนจียอนว่า มันคุยกับน้าจริง ๆ น่ะเหรอ? แล้วจื่อเทาก็พยักหน้ารัว ๆ เพื่อยืนยันแทนเพื่อน

     

     

     

     

     

    กว่าจะเย็นก็อีกหลายชั่วโมง ทั้งสี่คนเลยนั่งแท็กซี่ไปหาของหวานกินกันรองท้องที่ร้านลุงชิน ระหว่างนั้นก็นั่งคุยกันเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน และที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็คงไม่ใช่ใครนอกจากเพื่อนใหม่อย่างลู่หานที่เป็นรุ่นพี่พวกเขาถึงสามปี

     

    เด็กหนุ่มพูดติดตลกว่า ถ้ามึงคิดจะซิ่วอีกก็บอกล่วงหน้าสักสองเดือนนะกูจะได้ตีตัวออกห่าง ไม่อยากซึมซับความรู้สึกของจียอนที่ต้องเหงาเพราะเพื่อนซิ่วไปเรียนคณะอื่น ซึ่งก็ได้รับเสียงหัวเราะตอบกลับมา

     

    ลู่หานให้เหตุผลที่อยากเรียนครูเพราะอยากเต๊าะเด็กมัธยม ความฝันสูงสุดของมันในตอนนี้คือการทำตัวหล่อ ๆ เป็นครูห้องพยาบาลแล้วคอยแจกยาแก้ปวดท้องเมนส์ให้เด็กผู้หญิงโรงเรียนสตรีล้วน นั่นแหละคือความสุขที่แท้จริง

     

    เด็กตัวสูงหยิบมือถือขึ้นมาดูนาฬิกาแล้วก็นึกได้รู้ว่าตอนนี้แบคฮยอนน่าจะกลับถึงบ้านแล้ว และมันคงจะดีถ้าเขากลับไปช่วยน้าชายทำอาหารแล้วปล่อยให้เพื่อนนั่งฝอยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นระหว่างรอ

     

    ชานยอลและลู่หานกลับไปเอารถที่มหาลัย ส่วนจื่อเทานั่งแท็กซี่เป็นเพื่อนจียอน หญิงสาวบ่นอุบอิบว่าจะซื้อมอเตอร์ไซค์ทั้งทีทำไมต้องซื้อแบบเห็นแก่ตัว เบาะข้างหลังรถชานยอลนี่ก็นั่งได้ครึ่งตูด ส่วนสี่สูบลู่หานก็ไม่อยากซ้อน เสียงท่อมันดัง อายเขา

     

    ขับรถโต้ลมหนาวตามกันมาจนถึงบ้านแล้วก็เห็นเพื่อนทั้งสองคนยืนรออยู่แล้ว ชานยอลเปิดประตูรั้วและเชิญเพื่อนทั้งสามคนเข้ามา เด็กหนุ่มยิ้มเพียงแค่พบว่ารถของน้าชายจอดอยู่ข้างใน พอเข้าไปก็พบว่ามีอาหารสองสามอย่างวางรออยู่แล้ว

     

    นั่งรอก่อนนะ เด็กตัวสูงว่าแล้วเพื่อน ๆ ก็พยักหน้ารับก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในครัว ชานยอลย่องเข้าไปข้างหลังคนที่ยืนอยู่หน้าซิงค์ก่อนจะสวมกอดเอวจากข้างหลังแล้วขโมยหอมแก้มฟอดใหญ่

     

    แบคฮยอนสะดุ้งสุดตัวพลางหันไปข้างหลังแล้วก็เห็นใบหน้าซน ๆ ของหลานชายที่วันนี้มันดูหล่อเป็นพิเศษหรืออาจเป็นเพราะว่าชานยอลอยู่ในชุดนักศึกษา น้าชายตัวเล็กมองออกไปข้างนอกแล้วหันมามองค้อนไอ้เด็กตัวแสบที่ยังคงไม่ปล่อยมือออกจากเอวเขาก่อนจะผลักหัวไปทีนึง

     

    ทำอะไรของแก

     

    ก็คิดถึงอ่ะ ขออีกทีได้ไหม?

     

    มะเหงกสิ ถอยออกไปห่าง ๆ เลยฉันจะทำกับข้าวต่อ แบคฮยอนง้างมือขึ้นอีกแต่หลานชายตัวดีกลับส่ายหน้าเป็นคำตอบ

     

    ไม่ได้เหรอ

     

    ไม่ ได้ แบคฮยอนขมวดคิ้วแล้วยื้อตัวออกแต่ก็เหมือนเดิม ชานยอลยังคงทำตาปริบ ๆ ขอความเห็นใจจากเขาอยู่อย่างนั้น

     

    งั้นแบคฮยอนหอมผมแทน

     

    ตลกมากไหม เดี๋ยวเพื่อนแกเข้ามาเห็นจะทำไง?

     

    บอกว่าน้าร้อนจนเกือบเป็นลมผมเลยต้องกอดไว้แบบนี้ไง... เด็กหนุ่มกระซิบจนน้าชายตัวเล็กต้องหดคอลง แบคฮยอนดันแผงอกแกร่งออกแต่ชานยอลกลับกอดแน่นยิ่งขึ้น

     

    เอ่อ...โทษนะไม่ได้อยากเข้ามาขัดจังหวะแต่ว่าจียอนหิวน้ำน่ะ... เสียงของผู้มาใหม่ทำให้สองน้าหลานผละตัวออกจากกันเหมือนกับโมเสกแยกทะเลแดง

     

    ชานยอลปั้นหน้านิ่งเกาท้ายทอยแก้โง่ก่อนจะหันกลับไปมองเพื่อนใหม่ที่โผล่แค่หน้าเข้ามาในห้องครัว ไม่อยากพูดถึงสีหน้าของมันที่กำลังมองเขาในตอนนี้เลยให้ตายเถอะ รอยยิ้มแบบนั้นเหมือนกำลังจะบอกว่า กูเห็นมึงแล้ว

     

    เดี๋ยวกูเอาออกไปให้

     

    ไม่เป็นไร กูหยิบเองก็ได้เว้ยมึง ตู้เย็นตรงนั้นนะ? หน้าของลู่หานตอนนี้ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มกวนส้นตีน ชายหนุ่มเดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าตู้เย็นทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกจากเพื่อนก่อนจะกลอกตาไปทางคนตัวเล็กที่ตั้งหน้าตั้งตาหั่นแครอทจนผิดวิสัย

     

    กูหยิบแก้วให้

     

    เหย...เดี๋ยวกูจัดการเอง... ลู่หานยกมือห้ามเพื่อนตัวสูงที่กำลังทำหน้ามึนใส่เขาเพราะทำตัวไม่ถูก ไปช่วยทำกับข้าวต่อเถอะ...ว่าแต่นั่นน่ะ...น้ามึงใช่ป่ะวะ? คนถูกพาดพิงถึงกับหน้าสั่นไปแปดริกเตอร์

     

    จากน้ำเสียงและการทิ้งจังหวะของประโยคเมื่อครู่ทำให้แบคฮยอนรู้สึกเสียวสันหลังแปลก ๆ มือข้างที่จับมีดถึงกับชะงัก ร่างเล็กได้แต่หวังว่าชานยอลจะแถเรื่องนี้ให้เนียน ๆ เหมือนกับที่เคยแถกับเขามาตลอดชีวิต

     

    สวัสดีครับ มันก็ไม่แปลกหรอกที่เพื่อนหลานจะทักทายเขา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่บยอนแบคฮยอนอยากจะกลายเป็นวิญญาณแพะที่ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้นอกจากเจน ญาณดริฟท์หลังจากมีคนเห็นฉากเมื่อกี้นี้ น้าแบคฮยอนใช่ไหม เมื่อกี้จื่อเทาเล่าให้ฟัง

     

    มึงไปนั่งข้างนอกไป

     

    ไรวะ ให้กูทักทายน้ามึงก่อนดิ ลู่หานยักคิ้วกวนก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างซิงค์พร้อมกับมองเสี้ยวหน้าอีกฝ่ายให้ชัด ๆ ว้าว หน้ายังเด็กอยู่เลย น้าอายุเท่าไหร่แล้วครับเนี่ย?

     

    แก่กว่ากูเจ็ดปี นับเอา แบคฮยอนยังไม่ทันได้ตอบคำถามเสียงของหลานชายตัวโตก็โพล่งขึ้นมาก่อน ร่างเล็กยิ้มแหย ๆ ให้เด็กหนุ่มก่อนจะหันไปมองหลานชายที่ยืนอยู่ข้างหลัง

     

    งี้ก็เป็นพี่แค่สี่ปีเองสิ งั้นผมเรียกว่าพี่แบคฮยอนได้ใช่ไหม?

     

    ไอ้ห่าพี่หาน จียอนรอน้ำอยู่

     

    พี่มีแฟนยังครับ?

     

    เฮียไปเอาน้ำถึงประเทศไหนเนี่ย เรารอนานแล้วนะเว้ย จียอนเดินมุ่ยหน้าเข้ามาในครัวแล้วก็เห็นภาพบรรยากาศกึ่ม ๆ ของสามหนุ่มที่มันน่าจะดูปกติแต่มันกลับให้ความรู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก อุ้ย! ขอโทษค่ะหนูไม่รู้ว่าคุณน้าอยู่ในนี้

     

    นั่นไง มาแล้ว

     

    โธ่ ยังคุยกับพี่แบคฮยอนไม่ถึงไหนเลย ลู่หานยิ้มขณะมองหน้าเพื่อนตัวสูงก่อนจะตบบ่าเบา ๆ แล้วยื่นหน้าเข้าไปกระซิบ และประโยคนั้นมันทำให้ปาร์คชานยอลถึงกับพูดอะไรไม่ออก

     

     

     

    กูรอคำอธิบายเรื่องนี้จากปากมึงอยู่นะเพื่อน...

     

     

     

     

     

     

    50%

     

     

      

     

    พอลู่หานเดินออกมาจียอนก็ผินหน้าไปข้างหลังเป็นเชิงบอกว่าให้เอาน้ำไปไว้ในห้องนั่งเล่นเลยเดี๋ยวเธอจะอยู่ตรงนี้ก่อน หญิงสาวเม้มริมฝีปากแล้วเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ เพื่อนตัวสูงก่อนจะสะกิดแขนเบา ๆ

     

    นั่นน้าแบคฮยอนใช่ไหม เรียกให้หน่อยดิเรายังไม่ได้หวัดดีเขาเลย... จียอนกระซิบ พอได้ยินอย่างนั้นชานยอลเลยวางมือลงบนไหล่เล็กพลางบีบเบา ๆ แล้วน้าชายตัวเล็กก็หันมาสวัสดีค่ะคุณน้า หนูชื่อปาร์คจียอนนะคะเป็นเพื่อนชานยอลตั้งแต่ตอนเรียนวิศวะ หญิงสาวโค้งหัวอย่างมีมารยาทและแบคฮยอนก็โค้งตอบ

     

    ...ตามสบายเลยนะ ร่างเล็กยิ้มแล้วหันไปหั่นแครอทต่อ

     

    ดูเหมือนจียอนจะคาดหวังไว้เยอะว่าจะได้พูดคุยกับอีกฝ่ายมากกว่านี้เธอเลยดูงง ๆ กับบรรยากาศมาคุหลังจากที่น้าชายเพื่อนตัดจบบทสนทนาโดยการหันไปทำกับข้าวต่อ

     

    ชานยอลเคยเล่าให้ฟังว่าคุณน้าทำกับข้าวทุกวันเลย ชอบทำอาหารเหรอคะ? เห็นจียอนเดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ น้าชายของเขาแล้วก็แทบจะกุมขมับ จะสร้างงานให้กูอีกคนไหมเนี่ย

     

    ไม่ได้ชอบหรอก แต่ว่าต้องทำถ้าไม่อยากออกไปเสียเงินข้างนอก แล้วที่บ้านหนูล่ะทำกินเองหรือเปล่า? หญิงสาวยิ้มเมื่ออีกฝ่ายถามกลับมา เธอพยักหน้าเป็นคำตอบแล้วหลุบสายตาลงมองผักที่ถูกแยกไว้

     

    ไว้สอนหนูบ้างได้ไหมคะ?

     

    น้าไม่เก่งขนาดจะสอนให้ได้หรอกนะ ฝีมือก็งั้น ๆ เอง คนตัวเล็กหัวเราะ ชานยอลยืนพิงกับโต๊ะในครัวแล้วก็ยิ้มกับสีหน้าท่าทางของแบคฮยอนที่กำลังพูดคุยกับจียอนซึ่งมันต่างจากตอนเขาพาจองซูจองมาที่บ้านเมื่อคราวนั้น

     

    ไม่จริงหรอก ดูจากอาหารบนโต๊ะข้างนอกแล้วหนูว่าฝีมือคุณน้าต้องอร่อยมากแน่ ๆจียอนยกนิ้วโป้ง

     

    ไว้ลองกินก่อน ถ้าถูกปากแล้วค่อยว่ากันอีกทีดีไหม?

     

    ดีค่ะ เธอยิ้มกว้างแล้วหยิบแครอทที่ถูกหั่นเป็นลูกเต๋าขึ้นมาป้อนให้เด็กตัวสูงที่อยู่ข้างหลัง และเขาจะไม่มีวันรู้เลยถ้าไม่ได้ยินเสียงนี้อ้าม...

     

    อะไรเนี่ย?

     

    อ้าปากสิ เราอุตส่าห์ป้อนตัวเลยนะ

     

     

     

     

    ตัวงั้นเรอะ...

     

     

     

     

    ชานยอลเอนตัวไปข้างหลังเพราะคนตรงหน้ายังคงพยายามยัดเยียดให้เขากินผักที่ไม่ชอบ เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแล้วจับข้อมือเล็กไว้ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่น้าชายตัวเล็ก ใช่...ตอนนี้แบคฮยอนกำลังมองเขาอยู่ด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์นักและแบคฮยอนก็คงไม่รู้ตัว

     

    เด็กหนุ่มยิ้มในใจเมื่อคิดอะไรดี ๆ ออก ทั้งคู่สบตากันแค่ครู่เดียวเท่านั้นชานยอลก็ก้มลงไปกินแครอทจากมือเล็กและไม่ลืมที่จะสบตากับหญิงสาว จียอนหน้าขึ้นสีจัด เธอยืนแข็งทื่ออยู่ท่านั้นแล้วก็รู้สึกเหมือนโดนสาปเพราะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มที่เธอชอบมาเป็นปี

     

    เอ่อ...ตัว

     

    หวาน ได้ยินคำนี้ออกมาจากปากไอ้เด็กตัวสูงแล้วเส้นเลือดตรงขมับก็เต้นตุบ ๆ แบคฮยอนหันหน้าเข้าหาเขียงกับมีดแล้วหั่นผักอย่างรวดเร็วในขณะที่เด็กสองคนยังคงงุ้งงิ้งกันอยู่ข้างหลัง

     

    อย่าสิ น้าตัวอยู่ตรงนี้นะ...

     

    ไม่เห็นต้องอายเลย น้าฉันไม่สนใจหรอก ดูสิ

     

    คนบ้า ๆ

     

    ฮะ ๆ

     

    แบคฮยอนแค่นยิ้ม เขาได้แต่บอกกับตัวเองว่าอย่าไปหลงกลปาร์คชานยอลเป็นอันขาด จากที่เห็นดูยังไงก็รู้ว่ามันจงใจปั่นให้หึง ซึ่งถ้าเขาแสดงออกไปก็ต้องเข้าแก๊บมันแน่ แต่ไอ้เสียงจู๋จี๋ข้างหลังนี่มันน่ารำคาญจริง ๆ ให้ตายสิ...

     

     

     

     

    ใช้เวลาทำกับข้าวไม่นานทุกคนก็นั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต๊ะอาหาร แน่นอนว่าตอนนี้ปาร์คชานยอลนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและมีปาร์คจียอนนั่งขนาบข้าง ทั้งสองคนผลัดกันคีบนู่นนี่นั่นให้กันกิน ระหว่างนั้นไอ้เด็กกะโปกก็หันมายิ้มใส่เขาเป็นระยะจนกระทั่งเสียงของลู่หานพูดขึ้นมาหลังจากเงียบมานาน

     

    จื่อแลกที่กันได้ป่ะวะเด็กเขียวเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับชี้หน้าตัวเองอย่างไม่เข้าใจแล้วลู่หานก็พยักหน้ากูถนัดซ้ายแถมแขนสั้นด้วย นั่งตรงนี้แล้วกินลำบากอ่ะ แลกกันนะ

     

    เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่หัวโต๊ะพูดพร้อมกับทำท่าประกอบว่ายืดแขนไม่ถึงจนต้องลุกขึ้นยืน พอเห็นอย่างนั้นจื่อเทาก็นึกสมเพชปนเห็นใจเลยสลับที่ให้ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าลู่หานได้ย้ายมานั่งข้าง ๆ แบคฮยอนแล้ว

     

    อันนี้พี่คิดสูตรใหม่ป่ะ ผมว่ามันไม่เค็มเหมือนที่เคยกิน เสียงของลู่หานที่กำลังพูดคุยกับน้าชายของเขานั้นไม่ได้ดูน่ารำคาญเท่ากับรอยยิ้มบนใบหน้ามัน ชานยอลเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มขณะมองทั้งสองคน แบคฮยอนเลิกคิ้วขึ้นแล้วพยักหน้า

     

    อ่าใช่...รสชาติมันแย่เหรอ?

     

    โธ่ แย่อะไรกันล่ะ อร่อยมากเลยต่างหาก ลู่หานหัวเราะแล้วคีบหมูเข้าปากทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกจากดวงหน้าขาวของอีกฝ่าย

     

    จียอนมองคนข้าง ๆ ที่เอาแต่ขมวดคิ้วมองภาพตรงหน้าโดยที่มือข้างหนึ่งถือช้อนค้างเอาไว้ เธอยกมือขึ้นปาดไปมาตรงระดับสายตาเพื่อนตัวสูงแล้วก็มองหน้าอีกคนเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ แต่จื่อเทาก็เอาแต่กินอยู่นั่น

     

    ชานยอลมันชอบกินหวานน่ะ นี่ก็ลดลงมาเยอะแล้วนะ

     

    ถึงว่าล่ะ หวานไปหมดเลย ลู่หานกัดปลายช้อน

     

    ปาร์คชานยอลต้องอธิบายสายตาของไอ้เพื่อนใหม่หัวทองขาสั้นชาวจีนคนนี้ไหมครับว่ามันกำลังมองแบคฮยอนด้วยสายตาแบบไหน? ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นระเบิดเวลา ไม่สิ...เหมือนกาน้ำที่กำลังเดือดสุด ๆ จนควันออกหูต่างหากถึงจะถูก

     

     

     

    ปัง!!

     

     

     

    ทุกคนสะดุ้งสุดตัวทันทีที่ได้ยินเสียงทุบโต๊ะ ไม่ต้องพูดถึงหน้าจื่อเทาตอนนี้ จากแรงสั่นสะเทือนทำให้ข้าวที่อยู่ในช้อนกระเด็นโดนหน้าจนเกือบเข้าจมูกจนจียอนต้องรีบตะกุยดึงทิชชู่ออกมาให้ เด็กเขียวมองเพื่อนงง ๆ แล้วก็เห็นว่าชานยอลกำลังลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างถึงขีดสุด ซึ่งตอนม.ปลายเขาเห็นแบบนี้อยู่บ่อย ๆ แต่นั่นก็นานมาแล้ว

     

    เห็นมึงบอกว่าอยากดูสเปคคอมพ์กู ไปตอนนี้เลยไหมพี่หาน?

     

    ไม่เห็นเหรอว่าเพื่อนกินข้าวอยู่ ไว้กินเสร็จค่อยไปดูก็ได้นี่ แบคฮยอนมองคาดโทษหลานชายแล้วก็ได้คำตอบเป็นสายตาดุ ๆ กลับมา

     

    นั่งกินข้าวไปเลย วัยรุ่นขี้เกมเขาจะคุยกัน

     

    อ้าว ไอ้เด็กนี่

     

    ลุก ชานยอลมองหน้าเพื่อนใหม่ที่ดูจะไม่สะทกสะท้านอะไรนัก หนำซ้ำมันยังหันไปยิ้มใส่แบคฮยอนอีกดอกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนลุกขึ้นอีกต่างหาก

     

     

     

     

    โว้ว ห้องน่ารักนะเนี่ย สิ้นเสียงประตูปิดลงลู่หานก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้องก่อนจะเก็บลูกบาสขึ้นมาชู้ทแล้วก็เสือกแม่นอีกด้วยนะ สัดนี่ถ้าไม่เตี้ยคือมึงชนะกูทุกอย่างไหนว่ามา

     

    สิ่งหนึ่งที่ชานยอลคิดว่าไอ้เชี่ยเพื่อนใหม่ดูน่ากลัวคือมันสามารถรู้ความคิดของเขาได้เพียงแค่มองหน้ากัน ลู่หานยังคงสนุกอยู่กับการชู้ทบาสลงแป้นก่อนจะหันมายิ้มให้กับเขา

     

    มึงจงใจกวนตีนกูใช่ไหม

     

    นั่นไม่ได้เรียกกวนตีน เขาเรียกเช็คเพื่อให้แน่ใจ ชายหนุ่มเดินไปเก็บลูกบาสขึ้นมาอีกครั้งแล้วหมุนมันด้วยปลายนิ้วชี้ก่อนจะโยนใส่เพื่อนตัวสูงและอีกฝ่ายก็รับได้พอดีว่ามึงกับพี่คนนั้นน่ะ...แค่น้ากับหลานกันจริง ๆ น่ะเหรอ?

     

    ...

     

    แนะนำให้ล็อกประตูก่อนเล่า ลู่หานนั่งลงบนเก้าอี้ล้อหน้าโต๊ะคอมพ์พร้อมกับยกขาทั้งสองข้างขึ้นแล้วหมุนเล่นเหมือนกับเด็ก ๆ ตอนนี้ปาร์คชานยอลรู้สึกเหมือนกำลังถูกปั่นประสาทอย่างหนัก ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเขาไม่พูดอะไรสักอย่างไอ้ห่านี่ต้องทำให้เขาหงุดหงิดตายเพราะมันเข้าไปวุ่นวายกับแบคฮยอนแน่

     

    เด็กหนุ่มล็อกประตูแล้วเดินไปนั่งบนเตียงก่อนจะเขวี้ยงลูกบาสใส่ซึ่งลู่หานก็รับได้ ถึงมันจะทุลักทุเลเพราะความแรงก็เถอะ ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วชานยอลก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ และลู่หานก็พอจะเดาออกว่าเรื่องนี้เพื่อนใหม่ของเขาคงลำบากใจที่จะเล่าอยู่พอสมควร

     

    เขาเป็นน้าส่วนกูเป็นหลาน แต่ก็อย่างที่มึงเห็นนั่นแหละ

     

    อ่า...

     

    เราไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน แต่พูดไปก็เท่านั้นเพราะสายตาคนในสังคมกูกับแบคฮยอนก็ไม่พ้นพวกรักร่วมเพศ

     

    ว่าไป ลู่หานโยนลูกบาสไปอีกครั้งและอีกฝ่ายก็โยนกลับมา พวกเขาทำอยู่อย่างนั้นระหว่างพูดคุยกันเพื่อทำลายความอึดอัดที่เด็กหนุ่มค่อย ๆ คลายออกมาทีละนิด

     

    ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ มึงคือคนแรก

     

    แม้แต่ไอ้จื่อ?

     

    บางเรื่องเพื่อนสนิทก็เข้าใจยากที่สุดป่ะวะ กูไม่ได้อยากปิดบังแต่ถ้าอธิบายไปแล้วมันไม่เข้าใจกูก็ไม่อยากเล่า ชานยอลพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ถ้ากูชอบผู้ชายด้วยกันมันก็คงเป็นเรื่องที่น่ารับได้ขึ้นมาหน่อย แต่นั่นเป็นน้า

     

    ไม่แน่นะ บางทีจื่อมันอาจจะเข้าใจ

     

    กูรู้จักมันมานาน กูรู้ว่ามันเข้าใจยากหรือไม่ก็เข้าใจไปอีกอย่าง

     

    แล้วมึงจะปิดเป็นความลับไปถึงเมื่อไหร่ อย่าว่างั้นงี้เลยนะ แต่กูไม่คิดว่ามึงจะหยุดอยู่ที่พี่เขา ลู่หานพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ พร้อมกับหมุนลูกบาสด้วยปลายนิ้ว ซึ่งชานยอลก็เข้าใจความหมายนี้

     

    มันคือสิ่งที่มึงคิด แต่ไม่ใช่สิ่งที่กูเป็น

     

    ก็เลยจะเก็บเป็นความลับไปเรื่อย ๆ ว่างั้น

     

    ยังไงก็ได้ขอแค่แบคฮยอนสบายใจ ลูกบาสหยุดหมุนก่อนจะร่วงลงไปบนพื้นหลังจากที่อีกฝ่ายพูดจบ สีหน้าของชานยอลในตอนนี้ดูจริงจังมากเกินกว่าที่เขาจะพูดตรง ๆ จนหักหาญน้ำใจอีกฝ่ายต่อไปได้อีกกูเป็นอะไรก็ได้ยกเว้นการเป็น คนอื่น กูขอแค่นั้น

     

    ...

     

    กูก็ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกแบบนี้กับน้าตัวเอง คนที่กูบอกตัวเองมาตลอดว่าน่ารำคาญ คนที่กูไม่อยากอยู่ด้วย แต่ตอนนี้มันกลับกันหมดเลยว่ะ ลู่หานไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่มองเพื่อนตัวสูงระบายความในใจออกมาเท่านั้น และจากที่เห็นมันก็บอกได้ดีว่าชานยอลอึดอัดกับความสัมพันธ์ลับ ๆ แบบนี้มากแค่ไหน

     

    กูเคยเชื่อว่าเกลียดอะไรแล้วจะได้อย่างนั้น แล้วมันก็จริง หนุ่มชาวจีนพูดเสียงเรียบแต่ยิ่งกว่าได้ในสิ่งที่ไม่ชอบคือเราเสือกชอบแม่งขึ้นมาจริง ๆ นี่แหละ

     

    ...

     

    ถึงกูจะไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกันแต่กูพอจะเข้าใจความรู้สึกนั้นนะ น้ามึงไม่ได้น่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง ไม่ได้มีอะไรพิเศษชนิดว่าถ้าเจอแว้บแรกแล้วต้องหลง แต่พอคุยแล้วกูถึงได้รู้ ลู่หานยิ้มก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ไปหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อน ว่าน้ามึงน่ารักเพราะเขาเป็นแบบนั้นโดยที่ไม่ต้องทำอะไร

     

     

     

     

    ไปส่งที่รักกูให้ถึงบ้านนะมึง

     

    เออ รู้แล้ว จื่อเทาว่าแล้วโบกมือให้ ก่อนที่ทั้งคู่จะโค้งหัวลาน้าชายของเพื่อน ส่วนลู่หานกำลังสตาร์ทสี่สูบเพราะจื่อเทากับจียอนจะนั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง

     

    ขับดี ๆ ล่ะมึง สิ้นเสียงของชานยอลลู่หานก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ชายหนุ่มยักคิ้วแล้วสวมหมวกกันน็อกเต็มใบก่อนจะขับออกไปก่อน

     

    หลังจากที่เด็กทั้งสามคนกลับไปแล้วแบคฮยอนก็เดินเข้าไปในบ้านโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำนั่นทำให้เด็กตัวสูงต้องรีบเดินตามเข้าไป สองขาหยุดยืนอยู่หน้าทางเข้าครัวเมื่อคนตัวเล็กกำลังสวมถุงมือยางเตรียมล้างจาน ชานยอลเดินไปซ้อนอยู่ข้างหลังพร้อมกับสวมกอดเอวน้าชายแล้วโยกตัวไปมาช้า ๆ

     

    งอนผมเหรอ

     

    ฉันควรจะตอบยังไงแกถึงจะไม่ได้ใจกันล่ะ

     

    หรือว่าหึง? เด็กหนุ่มมองใบหูคนตัวเล็กก่อนจะจุ๊บเบา ๆ และมันได้ผล แบคฮยอนยอมหันมามองหน้าเขาแล้ว ถึงสีหน้าคนตัวเล็กจะเหวี่ยงอยู่นิด ๆ ก็เถอะบ่นสิ ผมอยากฟัง

     

    ประสาทหรือไง อยู่ดี ๆ แล้วอยากโดนบ่น

     

    นั่นสิ ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เด็กหนุ่มยิ้มขำแล้วกระชับกอดแน่นยิ่งขึ้น ผมช่วยไหม?

     

    ไม่ต้อง

     

    ทำไมล่ะ ช่วยกันล้างจะได้เสร็จเร็ว ๆ ไง

     

    ทำเองได้

     

    โอเค งั้นผมจะยืนเป็นกำลังใจให้แล้วกัน ชานยอลยิ้มพอใจแล้วโน้มหน้าลงไปขโมยหอมแก้มทีนึง ถึงอีกฝ่ายจะเบี่ยงตัวหลบก็เถอะแต่มันก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงเขานักหรอก นี่แบคฮยอน น้องคุมะผมยังอยู่ไหม?

     

    ในลิ้นชักข้างเตียง

     

    ห้องน้าเหรอ? ผมเข้าไปเอานะ?

     

    อือ

     

    ชานยอลคลายอ้อมกอดแล้วเดินเข้าไปในห้องน้าชายของเขาพร้อมกับตรงไปยังเป้าหมาย และสิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกทันทีที่ดึงลิ้นชักออกก็คือตุ๊กตาสวมมือ แต่สิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มชะงักก็คือกล่องของขวัญเล็ก ๆ ที่วางอยู่ข้างในสุด ถึงมันจะไม่เด่นแต่ก็สร้างความสงสัยให้เขาอยู่พอสมควร

     

    กล่องของขวัญสีดำถูกผูกด้วยโบว์สีน้ำตาลอ่อนถูกหยิบขึ้นมาดูใกล้ ๆ แล้วก็พบการ์ดสีครีมเหน็บอยู่ใต้โบว์ เด็กหนุ่มหันกลับไปมองข้างหลังเป็นระยะ เขากำลังระลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของแบคฮยอนจนต้องแอบทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ

     

    ชานยอลยืนชั่งใจอยู่หลายนาทีสุดท้ายแล้วความอยากรู้อยากเห็นก็เอาชนะความถูกต้อง เด็กหนุ่มดึงการ์ดออกมาจ้องอยู่อย่างนั้น และคำว่า Happy Birthday ที่อยู่ข้างหน้าทำให้เขาหวั่นใจอยู่ไม่น้อย บางทีข้อความข้างในอาจจะเป็นลายมืออ่านง่าย ๆ และปิดท้ายด้วยคำว่า อู๋อี้ฟาน เพราะช่วงที่ไปอยู่หอเขาก็ไม่รู้ว่าแบคฮยอนฉลองวันเกิดกับใคร

     

    เปลือกตาปิดลงแล้วสูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ จะทำยังไงดีถ้าเกิดเห็นข้อความเลี่ยน  ๆ ของไอ้ครูนั่นแล้วจบด้วยการสารภาพรัก ถ้าเป็นอย่างนั้นปาร์คชานยอลมั่นใจว่าวันนี้ทั้งวันคงไม่มีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าเขาอีกแน่ แต่พอเปิดออกเด็กหนุ่มก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อพบว่าข้างในนั้นมันเป็นลายมือของแบคฮยอน

     

     

    สุขสันต์วันเกิดปาร์คชานยอล

     

    แกคงรู้ว่าฉันไม่ใช่คนที่จะพูดอะไรดี ๆ เป็น เพราะตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันถ้าไม่ทะเลาะก็คงนั่งกินข้าว แต่ช่วงหลัง ๆ แกรู้สึกเหมือนกันไหมว่าทุกอย่างกำลังดีขึ้น เมื่อก่อนฉันคิดว่าเด็กเล่นดนตรีเป็นอะไรที่ไร้สาระ แต่พอไปดูแกแข่งแล้วถึงต้องคิดใหม่ มันเยี่ยมมากเลยนะสำหรับการแสดงวันนั้น น้ารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้สนับสนุนแกตั้งแต่แรก และถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็คงอยู่ด้วยกันอย่างสันติ(ใช่ไหม?) ไม่ใช่การแสดงออกว่าไม่ชอบขี้หน้ากันและกันอย่างที่เคยเป็น (ขำ)

     

    แล้วก็เรื่องเกม หลังจากได้เล่นกับแกวันนั้นฉันก็รู้สึกว่ามันสนุกดีเหมือนกัน มันก็เป็นเรื่องปกตินั่นแหละที่เด็กผู้ชายจะเล่นเกม ก็มีแค่น้าที่นอกคอกออกมา ไอ้จงอินกับไอ้เซฮุนก็พูดอยู่บ่อย ๆ ว่าฉันทำตัวเหมือนคนแก่ แต่ฉันก็เถียงกลับไปนะว่ามันเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของคนเราต่างหาก (อ่านมาถึงตอนนี้แกคงแอบด่าว่าน้าแถอยู่แน่ ๆ ใช่ไหม หยุดเลยนะ)

     

    เอาล่ะ ก็ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้วเพราะงั้นขออวยพรเลยแล้วกัน ขอให้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตแก ขอให้โตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ขอให้ประสบความสำเร็จในทุก ๆ เรื่อง แต่คำอวยพรทั้งหมดจะสำฤทธิ์ผลได้มันก็อยู่ที่ความพยายามของแกด้วย ที่น้าบังคับด้วยวิธีผิด ๆ ก็เพราะอยากให้แกมีอนาคตที่ดี

     

    เพราะทุกวันตอนเช้าที่ดวงอาทิตย์ขึ้นนั่นหมายความว่าแกโตขึ้นอีกหนึ่งวันแล้ว เพราะงั้นของขวัญชิ้นนี้น่าจะเหมาะที่สุด

     

     

    น้าแบคฮยอน

     

     

     

    สายตาของเด็กหนุ่มยังคงจับจ้องอยู่กับการ์ดอวยพรสีครีม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมันทำให้เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่อีกฝ่ายตั้งใจเลือกให้กับเขา จากวันที่ ๆ ระบุตรงมุมกระดาษทำให้รู้ว่าของขวัญในกล่องนี้ถูกห่อไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว...ซึ่งมันเป็นวันที่...

     

     

     

    ผมอยากเกลียดน้าจริง ๆ แบคฮยอน...

     

    ผมไม่อยากเจอน้าอีกแล้ว

     

     

     

    ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาไม่หยุด ปาร์คชานยอลรู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมาเพราะเรื่องราวในอดีตที่เขาเป็นคนสร้างแล้วก็พังมันเองกับมือ แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กที่อยู่ข้างนอกก็ยังเลือกที่จะยิ้มให้เขาแล้วก็บอกว่า ไม่เป็นไร

     

    ริบบิ้นสีน้ำตาลถูกดึงออกอย่างง่ายดายและตามด้วยฝากล่องสีดำที่ค่อย ๆ บรรจงเปิด หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นเร็วแรงขึ้นเพราะอยากรู้ว่าของขวัญที่แบคฮยอนตั้งใจซื้อให้เขาคืออะไร มันอดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าถ้าตอนนั้นปาร์คชานยอลไม่ใจร้อนแล้วยอมกลับบ้านแต่โดยดี ของขวัญชิ้นนี้มันคงอยู่ในมือเขาตั้งนานแล้ว

     

    ...

     

    นาฬิกาข้อมือ Casio สีดำเรือนสวยสำหรับผู้ชายตั้งอยู่ในฐานวางกำมะหยี่ ข้างในนั้นมีกระดาษแผ่นเล็กอยู่อีกใบซึ่งเด็กหนุ่มค่อนข้างที่จะมั่นใจว่าเขาต้องเป็นบ้ากับข้อความนั้นแน่...

     

     

     

    โตไปพร้อม ๆ กับนาฬิกาเรือนนี้นะ A

     

     

     

    ชานยอลเก็บทุกอย่างใส่ในกล่องของขวัญยกเว้นนาฬิกาแล้วมองหน้าปัดที่เข็มสั้นและเข็มยาวยังคงเดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ เหมือนกับลมหายใจของเขาในตอนนี้ เด็กตัวสูงเลียริมฝีปากที่แห้งผากแล้วถอดนาฬิกาข้อมือเรือนเก่าออกและใส่เรือนใหม่เข้าไปแทน

     

    เด็กหนุ่มวางกล่องของขวัญลงแล้วเดินออกมาอย่างไม่เร่งรีบ ตุ๊กตาริลัคคุมะสวมมือถูกวางไว้บนโต๊ะ เขาลืมแม้กระทั่งเป้าหมายที่เข้ามาในห้องนี้ แต่สิ่งไหนในโลกก็ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคนตัวเล็กที่กำลังล้างจานอยู่

     

    จียอนน่ารักดีนะขายาวหยุดยืนอยู่ข้างหลังอีกฝ่ายทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ ดูเหมือนว่าแบคฮยอนจะรู้ว่าเขากลับมาแล้ว

     

    อืม น่ารักชานยอลมองน้าชายของเขาจากข้างหลัง มีเพียงแค่เสียงน้ำที่ไหลออกมาจากก๊อกกับเสียงจานกระทบกันเท่านั้นที่เด็กหนุ่มได้ยิน

     

    แล้วแกรู้สึกยังไงกับเธอ เสียงของแบคฮยอนแผ่วลงราวกับไม่แน่ใจว่าคำถามที่พูดออกมามันสมควรแล้วหรือยัง ชานยอลยิ้มบาง ๆ แล้วปล่อยให้ความเงียบโรยตัวอยู่ชั่วอึดใจ เขาไม่ได้เจตนาให้แบคฮยอนต้องรอคำตอบนี้

     

    ถ้าไม่มีน้า ผมก็อาจจะชอบเธอ

     

    ...

     

    ร่างเล็กยืนนิ่งเมื่อถูกกอดจากข้างหลังอีกครั้ง วงแขนแกร่งที่อยู่ใต้คางของเขานั้นไม่น่าตกใจเท่ากับนาฬิกาสีดำที่สวมอยู่กับข้อมือเด็กตัวสูง บยอนแบคฮยอนรู้สึกได้ถึงความอุ่นของแก้มอีกฝ่ายที่ทาบอยู่กับแก้มเขา อีกทั้งลมหายใจที่กำลังผ่อนเข้าออกเป็นจังหวะนั่นอีก

     

    ขอบคุณนะแบคฮยอน

     

    อ่ะ...อ้อ... คนตัวเล็กยิ้มเจื่อนก่อนจะหันหน้าเข้าหาเด็กหนุ่มเล็กน้อย เขาเห็นว่าตอนนี้ชานยอลกำลังจ้องเขาอยู่ด้วยแววตาที่ไม่สามารถอ่านออกได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ และสุดท้ายแบคฮยอนก็แพ้สายตาของอีกฝ่ายจนต้องหันหน้าหนี ใส่ได้พอดีใช่ไหม ต้องเจาะรูเพิ่มหรือเปล่า

     

    ผมใส่ได้พอดี เด็กหนุ่มกระชับกอดแน่นยิ่งขึ้น ตอนนี้บยอนแบคฮยอนได้เพียงแต่ปล่อยให้กระแสน้ำไหลออกมาจากก๊อกโดยที่มือทั้งสองข้างแช่อยู่ในซิงค์ล้างจาน ยังมีอะไรที่ผมยังไม่รู้อีกไหม?

     

    ทำไมถามแบบนี้ล่ะ คนตัวเล็กถามเสียงแผ่ว อันที่จริงเรื่องของขวัญก็ตั้งใจว่าจะให้อีกทีตอนครบรอบวันเกิดอายุสิบเก้าซึ่งก็อีกแค่เดือนเดียวเท่านั้น แต่เขาจะไม่บอกว่าของขวัญชิ้นนี้ซื้อไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว

     

    ถ้ามีก็รีบบอกมาเถอะ อย่าให้ผมบังเอิญรู้เองเลย

     

    เพราะมันให้ความรู้สึกต่างจากตอนที่รู้จากปากอีกฝ่ายมากกว่าเป็นไหน ๆ ซึ่งมันทำให้ปาร์คชานยอลรักน้าชายตัวเล็กมากขึ้นยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ และเขาไม่มั่นใจว่าความรักของเขามันจะสร้างผลเสียให้กับอีกฝ่ายหรือเปล่า

     

    ทำไมถึงทำเพื่อผมขนาดนี้แบคฮยอน... เด็กหนุ่มกระซิบข้างหูแล้วปล่อยให้เสียงน้ำจากก๊อกทำลายความเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพลิกตัวน้าชายให้หันมามองหน้ากัน ถ้าผมมากมายไปกว่านี้จะทำยังไง? ยิ่งมันมากขึ้นเท่าไหร่ความงี่เง่า ความหึงหวงมันก็มากขึ้นเรื่อย ๆ จนผมกลัวไปหมดแล้วว่าน้าจะอึดอัด

     

    ... แบคฮยอนพูดไม่ออก เขาได้เพียงแค่มองเด็กตัวสูงที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้นฉันจะรู้ไหม...ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะอยากทำ

     

    ...

     

    แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรให้เลยไม่ใช่เหรอ แบคฮยอนหลุบตาลงพร้อมกับถอดถุงมือยางออกเพราะทนสบตากับหลานชายต่อไปไม่ไหว มันคงจะดีกว่านี้ถ้าชานยอลพูดจากวนประสาทแล้วบอกกับเขาว่า โหย ซื้อของขวัญให้ผมไว้เป็นปี ๆ แล้วไม่ยอมเอาให้งี้กะจะดองเค็มเป็นฟรอสซิลเลยไง?

     

    น้าพูดถูก เด็กหนุ่มเว้นจังหวะไว้ชั่วอึดใจก่อนจะเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากันอีกครั้ง งั้นต่อไปนี้ผมจะไม่สนแล้วนะว่าน้าจะอึดอัดกับสิ่งที่ผมทำมากแค่ไหน

     

    ...

     

    มองตาผมแล้วก็ฟังที่ผมพูดให้ดีนะแบคฮยอน

     

     

     

    ตึกตึก...ตึกตึก...

     

     

     

    ตอนนี้ผมมองเห็นแค่น้าคนเดียว ต่อให้มีคนที่ดีกว่าน้ามันก็ไม่มีผลกับผมเลยสักนิด ชานยอลมองคนตรงหน้าด้วยแววตาจริงจัง หัวใจของเขากำลังเต้นแรงเพราะไม่เคยพูดแบบนี้กับใครมาก่อนแม้ว่าจะเคยคบกับผู้หญิงมาแล้วนับไม่ถ้วน 

     

    ...

     

     

     

     

    ถ้าย้อนเวลากลับไปตอนอายุเจ็ดขวบ...ผมก็รักน้าอยู่ดี

     

     

     

     

     

     

     

    TBC

     

     

     

    ไหน ใครบอกว่าพี่หานหล่อกว่าพระเอกมาเคลียร์กับมิสเตอร์ชาร์ลพาร์ทสุดท้ายของตอนหน่อยดิ๊ออนนี่!
     

    อันนี้สติ๊กเกอร์ของแถมฟิคค่ะ น่ารักไหม ใครจะสั่งซื้อฟิคกดเข้าไปดูในนี้ได้เลยนะคะ 
    http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1042230&chapter=29

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×