ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "NERDY BOY" มนุษย์แบคฮยอน | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 19 :: My Gift (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.36K
      154
      17 ก.พ. 58

     

     

    Chapter 19

    My Gift

     


     

     

    เสียงน้ำจากก๊อกสลับกับเสียงจานชามกระทบกันนั้นทำลายความเงียบในห้องครัวตอนหัวค่ำหลังจากบ้านปาร์คกินอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย ชานยอลชำเลืองมองอีกคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาขัดกระทะที่เกิดรอยไหม้จากฝีมือเขา เด็กหนุ่มขยับเข้าไปยืนใกล้ ๆ โดยที่ยังคงถู ๆ ฟองน้ำไปกับจานในมือ

     

    ถ้ามันขัดออกยากก็แช่น้ำไว้ก่อนดิ พรุ่งนี้ค่อยล้าง

     

    ไม่เอาอ่ะ ครัวจะเหม็น

     

    เหม็นก็เหม็น เดี๋ยวกูล้างเอง เด็กหนุ่มชำเลืองมองศีรษะทุยที่เอาแต่ส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะหันมาทางเขา

     

    ชานยอลขี้เกียจจะตาย พูดแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ลืม

     

    เอ้า! ถ้ากูลืมก็เตือนดิ มันยากตรงไหน เด็กตัวสูงเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะชะโงกหน้าออกไปดูห้องนั่งเล่น และก็พบว่าลู่หานกำลังพาเพื่อนหอบรายงานขึ้นไปทำบนห้องแล้วปล่อยให้เจโน่นั่งดูทีวีอยู่คนเดียว

     

    อ้อใช่ วันนี้ลู่หานมันพาเพื่อนที่มหาลัยมากินข้าวด้วย ชื่อคิมมินซอก

     

    เดี๋ยวก็เสร็จแล้วน่า ชานยอลได้แต่ขยับปากบ่นอุบอิบแบบไม่มีเสียงก่อนจะเอาศอกสะกิดแขนอีกคนว่าไง

     

    แน่ใจนะว่าไอ้แว๊นหัวส้มเป็นชายแท้

     

    โธ่ชานยอล ถ้าแทฮยองชอบเราจริง ๆ คงไม่มาชอบเอาตอนนี้หรอก เราบอกชานยอลไปแล้วนี่ว่าเขามีแฟนแล้ว แบคฮยอนมองคนคิดมากที่เอาแต่ถามเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนสนิทของเขามาตั้งแต่วินาทีแรกที่แทฮยองปีนรั้วโรงเรียนออกไป ชานยอลเลอะเทอะจริง ๆ อ่ะ คิดว่าผู้ชายในโลกจะต้องตกหลุมรักเขาเหมือนชานยอลทุกคนหรือไง เฮ้อ

     

    ว่าได้เหรอ สายตาไอ้หอกนั่นอย่างกับรู้ว่ากูหึงมึงอ่ะ

     

    ก็ชานยอลแสดงออกชัดเจนขนาดนั้น ขนาดโง่ ๆ อย่างเรายังรู้เลยว่าหึง

     

    อยากมีแฟนเก็บอาการเก่งให้ไปคบกับคิมจงอินค่ะ ไปค่ะ ประตูบ้านอยู่ทางนั้น ชานยอลชี้ออกไปข้างนอก แต่มนุษย์ฮอบบิทกลับทำตาปริบ ๆ อ้าปากทำท่าจะงับมือเขา

     

    แฟนที่ดีต้องไม่ไล่ให้เราไปคบกับคนอื่น

     

    งั้นก็เสียใจด้วยที่มีแฟนเหี้ย ชานยอลแค่นหัวเราะพลางมองอีกคนด้วยหางตา

     

    เหี้ยแต่รักเราคนเดียวก็โอเค

     

    พอเถียงไม่สู้เลยหยอดเหรอวะฮอบบิท? มันจะเกินไปแล้วนะโว้ย! กูกำลังจะโชว์โหดมึงก็พาวกกลับไปสวีทอยู่นั่น แล้วกูจะทำอะไรได้อีก ฟัค!

     

    ชานยอลก็เลิกไล่เราไปหาจงอินสักทีซี่

     

    เสียงงึมงำเหมือนคนบ่นอยู่คนเดียวแต่เสือกน่ารัก ทำให้คนขี้หงุดหงิดเงียบปากได้ ชานยอลได้แต่บอกกับตัวเองว่าให้เชื่อใจไอ้บ้านนอกให้มาก ๆ เพราะถ้าเกิดการระแวงเมื่อไหร่ ชีวิตคู่ก็จะสั่นคลอน ไอ้จงอินบอกไว้อย่างนี้

     

     
     

    นี่กูเป็นแฟนกันหรือคู่ผัวเมียหลังแต่งงานแล้วกันแน่วะ

     

     
     

    ต่อให้ไอ้แทฮยองมีแฟนเป็นผู้หญิงก็เถอะ แต่ขนาดปาร์คชานยอลคนนี้ยังโบกมือลาเส้นทางอดัมกับอีฟมาแล้วนับประสาอะไรกับไอ้แว๊นใจบ้านนอกนั่น แต่การเชื่อใจแฟนมันก็เป็นเรื่องที่ดีนะคุณ เพราะปรบมือข้างเดียวมันไม่ดังอยู่แล้ว แต่ถ้าเอามือกูตบหน้ามันข้างเดียวอันนั้นดังชัวร์

     

    มะรืนก็วันเกิดชานยอลแล้ว

     

    มีของขวัญให้กูยัง

     

    ไม่มีอ่ะ

     

    ทั้งสองคนหยุดมือที่กำลังวุ่นวายอยู่กับจานชามก่อนจะหันมามองหน้ากันและกันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก บรรยากาศเคว้งคว้างแถมยังได้ยินเสียง กา กา กา บินหลอนอยู่บนหัวนี่คืออะไร เหตุใดไอ้บ้านนอกจึงตอบแบบไม่เสียเวลาคิดอย่างนั้น ซึ่งประเด็นหลักของคำถามนี้ปาร์คชานยอลคาดหวังคำตอบไว้อยู่ไม่กี่ข้อเองนะ ยกตัวอย่างเช่น

     

    ก.     ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ  (ยิ้มเขินสุด ๆ เท่าที่มนุษย์เตี้ยคนนึงจะทำได้)

    ข.      ไม่บอก เดาเอาเองนะ คึคึ (ยิ้มตาหยีแต่มีเล่ห์เหลี่ยม)

    ค.     อะไรดีน้า (อมยิ้มอ้อล้อ ลีลาไม่ยอมตอบ)

     

     
     

    หรือถ้าแย่หน่อยก็อาจจะ...

     

     
     

    ง.      ชานยอลคิดว่าเราจะไปหาเงินมาจากไหนอ่ะ (อันนี้เหี้ยมาก ถ้าตอบงี้กูจะงอน)

    จ.      เรายังไม่ได้ซื้อล่ะ นี่แค่ใช้ชีวิตในเมืองกรุงให้ผ่านไปได้ในแต่ละวันก็ลำบากมากพอแล้วนะ วันเกิดยังมีอีกตั้งหลายปีถ้าชานยอลไม่ชิงตายห่าไปก่อนอ่ะ หรือถ้ายังไม่เลิกกันปีหน้าก็ยังมีโอกาส

     

     

    แม่ง...กูว่างองูกับจอจานนี่เสี่ยงสุด ๆ ละ...

     

     

    ชานยอลเป็นคนเกิดเองยังจะมาขอของขวัญจากคนอื่นอีกเหรอ

     

     

    นั่นไงห่าจิก หนักกว่าที่กูคิดไว้อี๊กกก

     

     

    เอาไปให้คุณลุงสิ คุณลุงเป็นคนทำให้ชานยอลหายใจมาได้จนถึงทุกวันนี้นะ แค่บอกว่าพ่อเป็นผู้ให้กำเนิดกูก็พอแล้วป่ะวะไอ้บ้านนอก

     

    ถ้าโรแมนติกไม่เป็นก็เงียบปากไปเลยไป ชานยอลหรี่ตาคาดโทษคนตัวเล็กที่เอาแต่ขมวดคิ้วครุ่นคิดว่าผีห่าซาตานตนไหนที่ดลบันดาลจิตใจปาร์คชานยอลให้มีความคิดเป็นคนเห็นแก่ได้แบบนี้

     

    อะไรอ่ะ แล้วก็มางอนเรา แบคฮยอนเอานิ้วชี้สะกิดแต่อีกคนก็เบี่ยงตัวหลบเราไม่เคยเห็นใครมาทวงของขวัญวันเกิดแบบนี้เลยนะ ชานยอลเป็นคนแรก

     

    ดีแล้ว ถ้าบอกว่าเคยให้คนอื่นแต่ไม่ให้กูนี่จะโมโหจริง ๆ ด้วย

     

    ชานยอลอยากได้ของขวัญจากเราเหรอ แบคฮยอนช้อนตามองแฟนจ๋าตัวโตที่กำลังทำหน้างิดสุดขีด แย่แล้ว ชานยอลกำลังจะทำให้โลกนี้เป็นสีแดง ไม่ได้นะ นี่ไม่ใช่วันอาทิตย์อ่ะ

     

    คนทั้งโลกเขาก็ซื้อของขวัญให้แฟนทั้งนั้นแหละ มึงจะซื้อลูกอมให้แค่เม็ดเดียวกูก็ดีใจแล้ว มึงมันหยาบโลนฮอบบิท ไร้ความโรแมนติก แย่มาก กูขอกดแบนมึง ชานยอลถลึงตามองมนุษย์ฮอบบิทที่เอากระทะวางเก็บที่เดิมก่อนจะเกาหัวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ

     

    “อยากได้ลูกอมก็ไม่บอกเราตั้งแต่แรกอ่ะ”

     

    เดี๋ยวชกหัวหลุด

     

    หูย แบคฮยอนย่นจมูกก่อนจะชำเลืองออกไปข้างนอกห้องครัวเพื่อสังเกตการณ์ว่าจะมีใครได้ยินเรื่องที่เขาสองคนคุยกันอยู่หรือเปล่าจากที่อยู่ด้วยกันมานาน เรารู้สึกว่าชานยอลคงได้รับแต่สิ่งดี ๆ แพง ๆ มาตลอด แล้วเราก็ยังเรียนไม่จบ ไม่มีเงินเดือนเหมือนคนวัยทำงานอ่ะแบคฮยอนพูดเบา ๆ คล้ายกระซิบ

     

    แล้ว

     

    เราจน

     

    อันนี้กูรู้นานแล้ว

     

    ส่วนจงอินกับจื่อเทาคงซื้อของแพง ๆ ให้แน่เพราะสองคนนั้นมีตังค์อ่ะ แม้แต่คุณลุงก็เหมือนกัน เราคิดว่าปีนี้ต้องมีทีเด็ดแน่ ๆ เราแอบได้ยินเขาคุยกับพี่ลู่หานกับเจโน่มา แต่เราจะไม่บอกหรอกนะว่ามันคืออะไร เดี๋ยวชานยอลจะไม่ตื่นเต้น

     

     

    แหม่...เล่นพูดแบบนี้กูคงยังอยากตื่นเต้นอยู่หรอกมั้ง

     

     

    กูก็ไม่อยากให้มึงเสียเงินหรอกนะ แต่กูแค่อยากเห็นว่ามึงใส่ใจ ขอโทษที่ง่าว ชานยอลยีหัวคนตัวเล็กก่อนจะกอดคอให้ออกมาจากห้องครัวด้วยกันทั้งที่อารมณ์ยังคงขุ่นอยู่

     

    พูดก็พูดเถอะว่ะ จะหาว่างี่เง่าก็ได้ที่อยากมีเรื่องงุ้งงิ้งกับแฟนบ้าง ถามว่าคบกันทุกวันนี้มันดีอยู่แล้วหรือเปล่า ปาร์คชานยอลก็คงตอบว่าดีสิ ดีมาก ๆ เลยด้วย แต่เหมือนเขาถูกปลูกฝังทางความคิดมาแบบนั้นว่าวันเกิดจะต้องมีของขวัญจากแฟน หรืออะไรที่พิเศษมากกว่าการมองหน้ากันแล้วบอกว่า สุขสันต์วันเกิดนะ ก็เลยรู้สึกผิดหวังทั้ง ๆ ที่เขาก็เข้าใจไอ้บ้านนอกดี

     

    ชานยอลโกรธเราเหรอ

     

    ไม่ได้โกรธ อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ ยิ่งเห็นแววตาผ่านเลนส์แว่นที่มองมาอย่างจริงใจแล้วก็ยิ่งรู้สึกผิด บางทีปาร์คชานยอลอาจจะงี่เง่าเกินไป เด็กหนุ่มหงุดหงิดตัวเองเหลือเกินที่ทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงเข้าไปทุกวัน

     

    พูดแล้วห้ามคืนคำนะ

     

    เออน่า ชานยอลตอบปัด ๆ เพราะเขาอยากหลุดพ้นอาการเฟลแดกจากเรื่องวันเกิดเฮงซวยที่ใกล้จะมาถึง แต่ถึงอย่างนั้นมนุษย์ฮอบบิทกลับเอาแต่มองมาเป็นระยะ ราวกับว่ารู้สึกผิดที่ไม่มีของขวัญให้กับเขา

     

     
     

     

     

    วันนี้วันที่ยี่สิบเจ็ดพฤศจิกายนและมันคือวันคล้ายวันเกิดของปาร์คชานยอล เช้าวันนี้อากาศดีมาก ดีจนเด็กหนุ่มคิดว่าเขาไม่ควรรู้สึกเอื่อยเฉื่อยเพียงแค่นึกได้ว่าแบคฮยอนเลือกที่จะอยู่บ้านมากกว่าออกมาข้างนอกกับเขา

     

     

    อืม ตอนนี้ปาร์คชานยอลนั่งอยู่ในรถกับพ่อตามลำพังสองคน

     

     

    รถขับเทียบจอดหน้าร้านกาแฟ เราทั้งคู่ลงไปด้วยกันและเลือกเครื่องดื่มในแบบที่ชอบ ชานยอลเลือกโกโก้ร้อนสำหรับวันอุ่น ๆ แทนที่จะเป็นเครื่องดื่มเย็น ส่วนพ่อก็ยังเหมือนเดิม อเมริกาโน่เย็นไม่ใส่ไซรัป

     

    เราเลือกหาที่นั่งในมุมสงบทางด้านใน ชานยอลรู้ว่าที่พ่อพามาที่นี่คงไม่ใช่เพราะอยากดื่มกาแฟตอนสาย ๆ ทั้งที่วันนี้พ่อก็มีงาน สังเกตได้จากมือถือที่สั่นเป็นระยะ แต่พ่อเลือกที่เก็บมันใส่กระเป๋าแล้วเงยหน้าขึ้นมาคุยกัน

     

    พ่อลางานเหรอ

     

    เปล่า นี่ช่วงพัก ยังมีเวลาอีกชั่วโมงครึ่ง ชายวัยกลางคนดึงแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อยเพื่อดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะหันไปทางลูกชายที่มองมาราวกับรู้ทุกอย่าง

     

    ไม่ใช่ตัดภาพมาอีกทีรีบบึ่งไปทำงานจนขับรถชนเสาไฟฟ้าอีกนะ

     

    ปากแกนี่... ปาร์คมองคาดโทษเด็กหนุ่มที่หลุดขำออกมาราวกับไม่รู้สึกผิดที่พูดแบบนั้นกับเขาผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพ่อแท้ ๆ ของมัน

     

    เข้าเรื่องเถอะ ผมรู้ว่าพ่ออยากชวนคุยเรื่องจริงจังเต็มแก่แล้ว ในสายตาคนเป็นพ่อ ตอนนี้ชานยอลวางตัวได้ดีมากกว่าเมื่อปีที่แล้ว เจ้าเด็กนี่โตขึ้น ผิดกับที่คาดเอาไว้ว่าเจ้าตัวอาจจะนั่งกระดิกขาแล้วปั้นหน้าหงิกเพราะเซ็งที่ต้องมานั่งในที่แบบนี้ในวันเกิดของตัวเอง

     

    เรื่องเรียนน่ะ แกเล็งมหาวิทยาลัยที่ไหนไว้บ้างหรือเปล่า?

     

    ไอ้จงอินกับไอ้เทาจะเข้ามหาลัยแห่งชาติโซล ส่วนผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องสถาบัน ถ้าเพื่อนเรียนที่นั่นผมก็คงดูคณะที่น่าเรียนอีกที

     

    เห็นพ่อของจงอินบอกว่าลูกชายเขาอยากเรียนนิติศาสตร์ ก็ดีเหมือนกันนะ แล้วจื่อเทาล่ะ?

     

    มันก็เหมือนผมนั่นแหละ ยังไม่ได้คิดว่าจะเรียนอะไร แต่ที่แน่ ๆ คงไม่เอานิติ

     

    แล้วแกอยากเรียนอะไรล่ะ

     

    ไม่รู้สิ พ่อคิดว่าไง?

     

    อนาคตของแก ฉันอยากให้แกคิดเองก่อนว่าอยากเดินไปในทางไหน จะได้แนะนำถูก คนเป็นลูกนิ่งไปครู่หนึ่งหลังจากได้ยินประโยคนี้ ทั้งที่เคยคิดว่าพ่ออาจจะอยากให้เรียนวิศวะเพื่อที่จบมาจะได้มีงานการที่มั่นคงเหมือนกับพ่อ แต่เขาคิดผิด

     

    ผมยังหาตัวเองไม่เจอเลย ชายวัยกลางคนมองลูกชายที่หลุบสายตาลงมองแก้วกระดาษสีขาวบนโต๊ะไม้ราวกับว่ากำลังใช้ความคิดตอนที่พ่อจะเข้าวิศวะ พ่อคิดอะไรอยู่

     

    สิ้นสุดคำถามคนเป็นพ่อก็หัวเราะในลำคอเบา ๆ ลักยิ้มบนแก้มทั้งสองข้างนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้พ่อดูใจดีขึ้น ถ้าให้เทียบกับตอนปั้นหน้านิ่งจริงจัง ซึ่งพ่อมักจะทำอย่างหลังอยู่เสมอ

     

    ตอนนั้นฉันคิดว่าต้องเลือกอะไรสักอย่างเพื่อเรียนมันให้จบ แล้วเอาไปประกอบอาชีพในอนาคต

     

    นั่นสิ เราก็แค่ต้องเลือกอะไรสักอย่าง เพื่อเรียนมันให้จบ

     

    แต่เอาจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ แค่หรอกชานยอล ตอนนี้เหมือนแกกำลังยืนอยู่ตรงกลาง แล้วมีทางแยกอยู่ข้างหน้ามากมายให้แกตัดสินใจว่าจะเลือกเดินไปทางไหน บางทางแยกก็แคบจนยากที่จะเดินเข้าไป เพราะยังมีคนอายุเท่าแกอีกมากมายที่แย่งกันเข้าไปในนั้น บางทางแยกก็กว้างเกินไปจนดูโล่ง ไม่ค่อยมีคนเลือกเดินทางนั้น ส่วนมากมันจะกลายเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับกลุ่มคนที่ถูกเตะออกมาจากทางแคบ ๆ นั่น

     

    ที่พ่อพูดก็ถูก บางคณะโควตารับคนเข้าน้อย แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังแย่งกันเข้าไป ซึ่งคนเหล่านั้นยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันคือสิ่งที่พวกเขาต้องการจริง ๆ หรือเปล่า หรือพวกเขาเลือกเข้าไปเพราะคิดว่าคณะนี้ดัง เรียนจบไปแล้วต้องได้ดี มีหน้ามีตาในสังคม พูดคุยอวดโวได้ว่าจบมาจากสถาบันนี้ จบจากคณะที่มีชื่อเสียง

     

    แต่พ่อก็เลือกเดินทางแคบมาแล้ว

     

    ฟลุ๊คน่ะ ตอนนั้นฉันดันตัวผอมเลยปีนขึ้นกำแพงข้ามหัวคนพวกนั้นไปได้ง่าย ๆ พ่อหัวเราะตอนนั้นใจนึงก็อยากเรียนสถาปัตย์เพราะชอบวาดรูป แต่พอมาคิดดี ๆ แล้ว วาดรูปจะวาดตอนไหนก็ได้ แต่งานที่มั่นคงและทำให้รู้สึกท้าทายไปด้วยนี่สิคือสิ่งที่น่าสนใจกว่า

     

    เลยเลือกวิศวะสินะ

     

    เลี้ยงลูกสามคนให้อยู่กินอย่างสบายได้ฉันก็พอใจแล้ว

     

    เหมือนว่าบทสนทนาจะสิ้นสุดลงเพราะไม่มีใครพูดอะไรอีก ชานยอลคิดว่าความอึดอัดที่มีต่อพ่อมันจางลงไปมากแล้ว แต่พออยู่ด้วยกันสองคนบรรยากาศมันก็เป็นอย่างนี้เสียทุกที อาจเป็นเพราะเรานิสัยเหมือนกันเกินไปอย่างที่ใคร ๆ ว่าจริง ๆ นั่นแหละ ไม่ค่อยพูด แต่ก็เข้าใจ

     

    ฉันอยากให้แกมีอนาคตที่ดีนะชานยอล

     

    ผมรู้

     

    ถ้าแกยังตัดสินใจไม่ได้ ฉันก็มีตัวเลือกเพิ่มมาให้อีกหนึ่ง

     

    เด็กหนุ่มมองใบโบว์ชัวร์ที่พ่อวางลงบนโต๊ะก่อนจะเลื่อนมาข้างหน้า ตัวหนังสือภาษาอังกฤษกับภาพชาวต่างชาติที่อยู่ปกเป็นภาพประกอบนั้นทำให้เด็กหนุ่มเข้าใจได้ไม่ยากว่าพ่อต้องการสื่ออะไร

     

    ทุกสถาบันสอนดีแต่เราใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างตอนสมัครงานไม่ได้ ชายวัยกลางคนมองลูกชายที่กำลังคลี่โบว์ชัวร์ดูอย่างใจเย็นสมัยนี้เลือกคนเข้าทำงานที่ประวัติการเรียน ทั้งเกรด สถาบัน ประสบการณ์ทำงานก็มีส่วน

     

    ยิ่งจบนอกมา คนยิ่งอยากได้ไปทำงานด้วยสินะ เด็กหนุ่มพูดทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากโบว์ชัวร์ ไม่ต้องถามให้เสียเวลาว่าเพราะอะไรพ่อถึงหยิบยื่นสิ่งนี้ให้กับเขาพ่อเอามาจากไหน

     

    ลูกสาวเพื่อนฉันเอง เธอเรียนอยู่อเมริกามาสองปีแล้ว จากที่ฟังมาเธอก็ดูเต็มใจเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้ถ้าเกิดแกสนใจไปอยู่ที่นั่น ในกรณีอยู่รัฐเดียวกันน่ะนะ

     

    อืม...

     

    แค่ทางเลือกน่ะ ฉันไม่บังคับอยู่แล้ว ปาร์คจองซูกระแอมไอพลางประสานมือไว้บนตัก เขากำลังเป็นกังวลว่าลูกชายจะคิดยังไงกับเรื่องนี้ หลังจากที่เขาใช้เวลาทบทวนอยู่หลายวัน อีกทั้งยังปรึกษาลูกชายคนโตมา และลู่หานก็เห็นด้วย

     

    เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ถ้าถามว่าน่าสนใจไหม แน่นอนมันน่าสนใจมาก แต่ไหนแต่ไรที่ปาร์คชานยอลชอบเดินทางไปเจอสิ่งใหม่ ๆ แต่มันไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่เขามีแฟนอยู่แล้วทั้งคน

     

    ฉันไม่ได้อยากเอาคำตอบตอนนี้ แกเอาโบว์ชัวร์ไปให้แบคฮยอนดูก่อนก็ได้

     

    ...

     

    ลู่หานบอกว่าเพื่อนแกเรียนเก่งแต่อ่อนภาษาอังกฤษ ถ้าจะไปอยู่ที่นั่นก็ต้องติวหนักกันหน่อย ไหนจะคะแนนโทเฟล ไหนจะคะแนนสอบวัดระดับความรู้ทางภาษาอังกฤษกับคณิตศาสตร์ อย่างแบคฮยอนนี่น่าเป็นห่วงเรื่องโทเฟล

     

    เด็กมองพ่ออย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เขาใช้เวลาอยู่เกือบนาทีในการทบทวนสิ่งที่พ่อพูดออกมาทั้งหมด ก่อนจะขมวดคิ้วสงสัยเพื่อให้พ่ออธิบายกับประโยคคลุมเครือนี้อีกครั้ง

     

    หมายความว่าพ่อจะให้ผมกับไอ้บ้านนอก...?

     

    อืม ฉันชอบเด็กขยัน จะส่งลูกไปเรียนนอกทั้งทีถ้ามีเด็กตั้งใจเรียนอย่างแบคฮยอนไปช่วยคุมความประพฤติก็คงดีเหมือนกัน

     

    เออ... ชานยอลอ้าปากค้าง บอกเลยว่าตอนนี้หัวใจกำลังเต้นแรง ราวกับว่าพ่อเพิ่งอนุมัติให้เขาแต่งงานกับไอ้บ้านนอกได้ยังไงอย่างนั้น ไม่จริงน่า...ตาแก่นี่จะส่งเขากับมนุษย์ฮอบบิทไปเรียนเมืองนอกจริง ๆ เหรอ?

     

    ในโบว์ชัวร์มีมหาลัยให้เลือกเยอะมาก จะไปนิวยอร์ค แคลิฟอร์เนีย โอไฮโอ วอชิงตันอะไรก็ลองดูแล้วกัน แต่ละมหาลัยมันบอกไว้ว่าต้องการคะแนนโทเฟลเท่าไหร่ อะไรยังไงก็ลองศึกษาดู ตกลงกันได้แล้วก็บอกพ่อ จะได้บอกครูแจซอกเขียนจดหมายรับรองให้ด้วย เพราะบางมหาลัยต้องใช้มัน

     

    เฮ้ยพ่อ มันจะไม่แพงหูฉีกเหรอ ที่จริงเรียนเกาหลีก็ได้นะ แต่ช่วยออกค่าเทอมให้ไอ้บ้านนอกด้วย ชานยอลอมยิ้มมองพ่อที่ลุกขึ้นยืนกระชับสูทนอกด้วยท่าทางฟอร์มจัดเหมือนอย่างเคย

     

    ก็แล้วแต่แก

     

    โอเค งั้นเดี๋ยวขอไปถามแบคฮยอนก่อนนะว่ามันอยากเรียนที่ไหน เด็กตัวสูงยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นกุมมือพ่อแล้วเขย่ารัว ๆ อย่างดีใจ

     

    อะไรของแก

     

    ความจริงผมตั้งใจไว้ว่าจะส่งข้อความไปขอบคุณพ่อที่ทำให้แม่ท้องผมได้ แต่มันเป็นเรื่องยากมากพ่อเข้าใจใช่ไหม ใจจริงอยากจะหอมแก้มสักฟอดแล้วทำมือเป็นรูปหัวใจบนหัวด้วย แต่ไม่เอาแล้วดีกว่า ผมกลัวพ่ออาย

     

    เออดีที่ยังคิดได้ ปาร์คจองซูมองลูกชายอย่างหวาด ๆ ท่าทางดีอกดีใจจนเวอร์เกินเหตุแบบนี้มันเป็นเรื่องที่เขาคาดไม่ถึงเลยจริง ๆ

     

    ได้เพียงแค่มองตามแผ่นหลังลูกชายที่วิ่งออกจากร้านไปด้วยความเร็วโดยที่ไม่รอให้เขาขับรถไปส่งที่บ้าน วินาทีนั้นปาร์คจองซูได้แต่ถามตัวเองว่ามันควรจะเป็นเขาไม่ใช่เหรอที่ต้องเดินออกไปแล้วปล่อยให้ไอ้เด็กนั่นนั่งใช้ความคิดอยู่ที่นี่ตามลำพังก่อนจะกลับไปปรึกษาเพื่อนที่บ้าน

     

    ชายวัยกลางคนยิ้มขำพลางส่ายหน้าหน่าย ๆ ที่เมื่อกี้บอกว่าลูกชายโตขึ้นน่ะขอเปลี่ยนคำพูดได้ไหม ให้ตายเถอะ ในสายตาคนเป็นพ่อ ต่อให้ลูกจะเรียนจบมีงานทำแล้วยังไงลูกก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ

     

     

     
     

     

    สายตาที่มองไปยังกล่องกระดาษในมือนั้นแน่วแน่ และมือที่กำลังค่อย ๆ ติดสก๊อตเทปก็เช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่บยอนแบคฮยอนกำลังห่อของขวัญให้ใครสักคนถ้าไม่นับเรื่องทำงานบ้าน หรือทำตามคำสั่งทุกอย่างเมื่อถึงวันเกิดของพ่อกับแม่ เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาคิดว่ามันถูกต้องแล้ว การเป็นลูกควรจะตอบแทนผู้ให้กำเนิดเมื่อเวลาวนมาถึงวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด

     

    แบคฮยอนใช้เวลานานกว่าจะเลือกของขวัญได้ อันที่จริงเขาก็ลังเลมาตั้งแต่วันนั้นที่ได้คุยกับจงอินแล้วล่ะว่าควรซื้อของขวัญดีไหม เพราะถ้ามาลองคิดดูดี ๆ ชานยอลก็เคยซื้ออะไรหลายอย่างให้กับเขา แต่พอมาคิดดูอีกที...ชานยอลก็มีเงินมากพอที่จะซื้อสิ่งนั้นถ้าเกิดว่าแบคฮยอนคิดจะซื้อให้

     

     

    กลัวชานยอลเห้นแล้วไม่ดีใจ นั่นแหละที่แบคฮยอนกลัว

     

     

    สุดท้ายเลยตัดสินใจแล้วว่าจะให้ ไม่ว่าชานยอลจะพอใจหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยผู้ชายคนนั้นก็ออกปากมาเองว่าแค่ลูกอมเม็ดเดียวก็ดีใจแล้ว แต่ที่แบคฮยอนกำลังจะให้น่ะราคามันมากกว่าลูกอมตั้งหลายร้อยเท่าเลยนะ เพราะฉะนั้นชานยอลต้องพอใจ

     

    ระหว่างนั่งห่อของขวัญก็วางแผนว่าจะเซอร์ไพรส์แฟนยังไงดี บอกตามตรงเลยว่าแบคฮยอนไม่ใช่คนถนัดเรื่องนี้ แต่ถ้าจะยื่นให้เฉย ๆ ก็กลัวชานยอลจะเซ็งอีกอ่ะ แต่ถ้าจะเอาไปซ่อนชาตินี้ชานยอลคงหาไม่เจอแน่ ทำไมชีวิตถึงยากจังเลยนะ

     

    หรือว่าจะแกล้งหลับแล้ววางของขวัญไว้บนโต๊ะข้างเตียงเหมือนที่ชานยอลเคยทำดีอ่ะ หูย...ถ้าทำแบบนั้นชานยอลต้องด่าหาว่าขี้ก๊อปแน่เลย ไม่เอา ๆ

     

    ไอ้บ้านนอก!”

     

    เสียงตะโกนมาพร้อมเสียงฝีเท้าที่ย่ำตามบันไดขึ้นมาด้วยความเร็ว แบคฮยอนเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะหลุบตาลงมองซากกล่องที่ยังห่อไม่เสร็จกับกระดาษห่อของขวัญที่ปัจจุบันมันยังม้วนไว้เป็นอย่างดี ไหนจะอุปกรณ์บนพื้นอีก

     

    แย่แล้ว! ทำไมชานยอลถึงกลับมาเร็วจังเลยล่ะ ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าคงอีกเป็นชั่วโมงกว่าจะกลับ เขาเลยชะล่าใจไปดูดฝุ่น ถูบ้านให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาห่อของขวัญ
     และตอนนี้ยังทำอะไรไม่เสร็จเลยสักอย่าง ขอเวลาอีกสักสองนาทีไม่ได้เหรอ

     

    สองมือรีบกวาดทุกอย่างยัดเข้าไปใต้เตียงก่อนจะหันซ้ายขวาหาที่ซ่อนกล่องกระดาษที่มีของขวัญชานยอลอยู่ในนั้น ร่างเล็กเดินวนไปวนมาอยู่กับที่พลางกุมขมับ เสียงฝีเท้าก็ดังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ก่อนจะยัดกล่องนั้นใส่เข้าไปในฮู๊ดเสื้อตัวนอกของตัวเอง

     

     

    ปัง!

     

     

    ว่าไง!”

     

    แบคฮยอนยืนตรงเท้าชิดกันพร้อมยกมือขึ้นระดับหัวไหล่ทักทายผู้มาใหม่ที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา รู้สึกตึง ๆ ตรงคอเสื้อเพราะของขวัญที่หน่วงอยู่กับฮู๊ดแต่ก็ไม่กล้าขยับมากเพราะกลัวชานยอลจะรู้ ที่เขาเป็นอยู่มันน่าจับผิดมากเลยนะ แต่ถือว่าโชคดีที่ชานยอลดูเหมือนจะไม่ได้สนใจกับท่าทางแปลก ๆ ของเขานัก

     

    คนตัวสูงยังคงยิ้มเหมือนในทีแรกขณะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา แบคฮยอนทำตาปริบ ๆ ตอนสบตากัน ชานยอลเอาแต่ยิ้มเหมือนคนกำลังจะสำลักความสุขออกมายังไงอย่างนั้น ก่อนที่มือใหญ่ จะเอื้อมมือกุมมือเขาเอาไว้ แล้วจูงมือให้เดินออกไปจากห้องด้วยกัน

     

     

    ไปปั่นจักรยานเล่นกันเถอะ วันนี้อากาศดี

     

     

    50%

     

     

    คนตัวเล็กถูกลากมาถึงลานจอดรถ ดีที่ข้างล่างไม่มีใครอยู่ ไม่งั้นคงเกิดคำถามว่าบยอนแบคฮยอนเป็นบ้าอะไรถึงได้ทำท่าเหมือนคนจะขาดใจตายเพราะคอเสื้อรั้งคอเอาไว้

     

    แต่นับว่าพระเจ้ายังเข้าข้างอยู่ ชานยอลถึงได้ตรงดิ่งเข้าไปเอาจักรยานออกมา แล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เขาขึ้นไปซ้อนข้างหลัง แบคฮยอนจะไม่ยอมให้อีกคนเห็นของขวัญก่อนเซอร์ไพรส์เด็ดขาด เขาตั้งใจไว้อย่างดิบดีแล้ว

     

    เพราะจากที่เห็นอาการงอนตูดบิดของชานยอลเรื่องของขวัญวันเกิด มันคงไม่ดีแน่ถ้าเขาจะถูกกระชากคอเสื้อหาเรื่อง เพราะจับได้ว่าซ่อนกล่องของขวัญไว้ในฮู๊ด แต่ดั๊นลีลาไม่ยอมเอาให้สักที ก็ถ้าของที่อยู่ข้างในมันราคาล้านวอนก็ว่าไปอย่างอ่ะ แบบนั้นชานยอลอาจจะพอใจมากกว่า แล้วก็คงหักลบความผิดหวังเรื่องเซอร์ไพรส์พลาดได้

     

    คนตัวเล็กเดินเฉียงท่าปูไปทางด้านข้างพลางปั้นหน้านิ่ง เขาจำมาจากหนังสายลับเมื่อตอนเป็นเด็ก ว่าการตบตาผู้คนด้วยวิธีเก็บสีหน้านั่นมันเท่สุด ๆ ไปเลย และแบคฮยอนคาดว่าชานยอลต้องจับพิรุธไม่ได้แน่ ๆ

     

    ทำไรของมึงวะฮอบบิท

     

    อุ่ย...

     

    เราสบตากับเคนนี่อยู่อ่ะ เหมือนมันกำลังจะบอกว่า สวัสดีแบคฮยอน วันนี้อากาศสดใสดีนะว่าไหม ถ้าขาของฉันยาวกว่านี้ ฉันก็อยากออกไปปั่นจักรยานสูดอากาศบริสุทธิ์บ้างเหมือนกัน ยังไงอย่างนั้นเลยอ่ะ

     

    แบคฮยอนเหลือบมองแฟนตัวโตแค่ครู่เดียว ก่อนจะหันไปทางเจ้าของชื่อที่เอาคางเกยช่องเหล็กของประตูรั้วหน้าบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ใคร นอกจากหมาพันธุ์เยอรมัน เชฟเฟิร์ดที่กำลังเมาง่วงสุด ๆ และไม่เคยมีความคิดจะย้ายก้นลุกไปไหนทั้งนั้น

     

    ขึ้นมาได้แล้ว

     

    พอถึงวันเกิด ชานยอลก็ใจดีขึ้นมาเลยอ่ะ แบคฮยอนทำตาโตมองขายาวที่วางอยู่บนขั้นบันไดปั่นเตรียมพร้อมออกไปข้างนอก

     

    หรือจะปั่นเอง?

     

    ไม่นะไม่! ชานยอลปั่นแหละดีแล้ว วันนี้เราเจ็บขามากเลยอ่ะ คงปั่นให้ชานยอลนั่งไม่ได้ เราเดินชนประตูมา คนตัวเล็กลนลานโกหกคำโต ในขณะที่อีกคนเพียงแค่ทำหน้าเรียบเฉยราวกับว่าต่อให้ไม่มีคำแก้ตัว ชานยอลก็ไม่ได้สงสัยอะไรขนาดนั้น

     

    เดินชนประตูยังไงให้เจ็บขา มันต้องเจ็บตีนหรือไม่ก็หัวไม่ใช่เหรอวะ?

     

    อุ่ย...

     

    เท้าเราก็เจ็บ แบคฮยอนพยายามทำหน้าให้เป็นปกติที่สุด ก่อนจะเดินท่าปูไปซ้อนท้ายจักรยาน เขาจะไม่ยอมปั่นเองเด็ดขาดต่อให้ชานยอลจะทุ่มท่า เพราะถ้าทำอย่างนั้นของขวัญที่ห้อยต่องแต่งอยู่กับฮู๊ดต้องเปิดเผยแน่!

     

     

     

    ไม่บ่อยนักหรอกที่แบคฮยอนจะมีโอกาสได้กวาดสายตาดูวิวทิวทัศน์รอบข้างแบบนี้ เพราะปกติก็เป็นคนปั่นอยู่ตลอด สายตาก็ต้องมองแต่ถนนข้างหน้า จะหันไปชมวิวก็ไม่ได้เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ ไม่จากทางรถยนต์ก็คงเป็นจากฝ่ามือของชานยอล

     

     

    ตอนที่ชานยอลเกิด อากาศก็คงดีแบบนี้เหมือนกันสินะ

     

     

    ร่างเล็กมองแผ่นหลังกว้างแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม มันทำให้อดคิดถึงเมื่อตอนเรารู้จักกันแรก ๆ ไม่ได้ว่าอีกฝ่ายแสดงออกกับเขาแบบไหน ครั้งหนึ่งชานยอลเคยเป็นเพื่อนสนิทกับตลับเมตร ผู้ชายคนนี้ใช้มันเป็นอาวุธเวลาเขาขยับเข้าไปใกล้ แต่แบคฮยอนชอบนะ สีหน้าชานยอลตอนกำลังกลัวสุดขีดน่ะน่ารักจะตายไป

     

    ชานยอลคงกำลังอารมณ์ดีมากแน่ ๆ ถึงได้ฮัมเพลงจนจบ และต่อด้วยเพลงที่สองอย่างไม่อิดออด แบคฮยอนขยับปากร้องตามโดยไม่ออกเสียง เพราะถ้าชานยอลได้ยินเข้า เจ้าตัวคงเขินจนหยุดร้องเพลงแน่ ๆ

     

    หิวยัง

     

    กระเพาะเราเชื่อมต่อกับกระเพาะของชานยอล มันจะหิวพร้อมชานยอลนะ ประโยคน่ารักทำเอาคนฟังรู้สึกดี อีกทั้งศีรษะทุยที่เพิ่งซบลงกับแผ่นหลังก็เช่นกัน มันทำให้ชานยอลยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้

     

    กูไม่เขินหรอกนะ

     

    จริงเหรอ แบคฮยอนจับเสื้ออีกคนไว้หลวม ๆ พลางชะโงกมอง แต่ก็เห็นเพียงแค่เสี้ยวหน้าของคนตัวสูงเท่านั้น

     

    เออดิ

     

    แน่นะ

     

    เออ ชานยอลปรับเสียงให้เหมือนปกติ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะรู้สึกไม่อยากจะปกติเพราะคนตัวเล็กเอาแขนสั้น ๆ มากอดเอว อีกทั้งยังเอาแก้มแนบหลังเขาเสียอย่างนั้น

     

    ตัวชานยอลหอมจัง

     

    เลิกพูดสักทีดิ๊ ไอ้เตี้ยนี่ก็จะทำให้เขาเขินอยู่นั่น นอกจากปาร์คชานยอลจะไม่ยอมบอกว่าเขินแล้ว เขาก็จะไม่ยอมบอกอีกด้วยว่าจมูกที่กำลังกดหอมเสื้อของเขาอยู่น่ะมัน...

     

     

    เฮ้อ...ทำไมแฟนกูน่ารักอย่างนี้วะ

     

     

    โอ๊ะ!” เด็กตัวสูงหันไปมองคนข้างหลังที่ลงจากเบาะนั่งทันทีที่เขาจอดจักรยานลงข้างสวนสาธารณะ ร่างเล็กถอยไปสามก้าวด้วยท่าทางแปลก ๆ สายตาที่กำลังล่อกแล่กนั่นน่ะมีพิรุธชะมัด

     

    อะไร

     

    ชานยอลมาทำอะไรที่นี่

     

    หาที่นั่งคุยกัน ยังไม่หิวไม่ใช่เหรอ?”

     

    เด็กหนุ่มมองมนุษย์ฮอบบิทที่ยังคงยืนทื่ออยู่ที่เดิม อันที่จริง มันก็แค่ยืนอยู่เฉย ๆ เหมือนกับทุกทีนั่นแหละ แต่สถานการณ์ในตอนนี้มันแปลกไปไหม ทั้งที่เมื่อกี้เจ้าตัวเอาแต่พูดจ้อเจื้อยอย่างกับนกแก้วนกขุนทอง แต่พอเขาจอดจักรยาน ไอ้บ้านนอกก็มีท่าทีเปลี่ยนไป

     

    เป็นไรเปล่า?”

     

    เปล่าอ่ะ

     

    มานี่สิ ชานยอลยื่นมือออกมา เขาเห็นว่าไอ้บ้านนอกหลุบตาลงมองมือเขาราวกับกำลังชั่งใจ

     

    ระหว่างรอให้สมองอันแรมต่ำของคุณแฟนประมวลผล ชานยอลก็ได้เห็นว่าคอเสื้อคนตัวเล็กมันรั้งไปข้างหลังเลยตรงเข้าไปหากะว่าจะช่วยจัดเสื้อให้ แต่อีกฝ่ายกลับผละตัวออก

     

    จะช่วยจัดเสื้อให้

     

    ไม่เป็นไร เราชอบให้คอเสื้อมันขึ้นสูง ๆ แบบนี้ แบคฮยอนทำตาโต แย่แล้ว...จะทำยังไงดีอ่ะ ตอนนี้ชานยอลกำลังทำหน้าเหมือนคนไม่เชื่อคำพูดแฟนเลย นี่เขาไม่เคยโกหกเลยนะ อย่างมากก็แค่ไม่พูดความจริง ชานยอลห้ามมองจับผิดแบบนี้สิ

     

    ...

     

    ...!!!”

     

    แบคฮยอนถอยหลังก้าวหนึ่ง เท่ากับจำนวนที่ชานยอลก้าวเข้าหา สายตาของผู้ชายฉลาดแกมโกงคนนั้นกำลังมองมา และตอนนี้คนตัวเล็กคิดว่าไททันจอมโหดคงรู้แล้วว่าเขาซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง

     

    เอาออกมา

     

     

    นั่นไง...

     

     

    อ...อะไรอ่ะ

     

    นับหนึ่ง

     

    หูย มานับอะไรกัน... แบคฮยอนพึมพำ ขณะที่ขาสั้น ๆ ทั้งสองข้างกำลังเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ

     

    ชานยอลจ้องหน้ามนุษย์ฮอบบิท ชนิดว่าเอาให้สำลักความลับตายกันไปข้าง นี่เป็นแฟนกันมาตั้งหลายเดือน กล้าดียังไงถึงมีความลับกับเขา

     

    เฮ้ยนั่นรถชนกัน!” ชานยอลชี้ไปสุดแขนด้วยสีหน้าตกใจเกินจริง แต่ดูเหมือนว่าวิธีหลอกเด็กของเขาจะใช้กับไอ้บ้านนอกไม่ได้

     

    แบคฮยอนมองมาด้วยสายตาอ้างว้าง ราวกับว่าเจ้าตัวกำลังผิดหวังที่เขาเล่นมุกกะโปกแบบนี้ออกมากลางวันแสก ๆ ได้ยังไง ทั้งคู่ค้างอยู่ท่านั้น ชานยอลรู้สึกเสียฟอร์มเหลือเกินกับความผิดพลาดอันใหญ่หลวงที่เกิดขึ้น และเขาจะไม่ยอมให้คนตรงหน้าพูดอะไรให้เขาต้องอายแน่!!

     

    โอ๊ะ อย่านะชานยอล!”

     

    เจ้าของชื่อไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ชานยอลเข้าไปรวบตัวแฟนจ๋าไว้กันไม่ให้หนี เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้บ้านนอกซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง!!!

     

     

    ตุ่บ!!!

     

     

    เสียงอะไรบางอย่างตกลงพื้นทำให้ทั้งสองคนค้างอยู่ท่านั้น ก่อนจะหันไปมองกล่องกระดาษสีน้ำตาลที่นอนโง่ ๆ อยู่บนพื้นซีเมนต์ แบคฮยอนลนลานจะเข้าไปเก็บ แต่คนตัวสูงกลับออกแรงกอดแน่นยิ่งขึ้นจนดิ้นไปไหนไม่ได้

     

    นั่นอะไร

     

    แบคฮยอนถึงกับตาเหลือก ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรงราวกับว่ามีฆาตกรโรคจิตเย็บปากเขาไว้ด้วยด้ายชนิดขาดยากสุด ๆ ไม่สิ...อันที่จริงเขารู้สึกเหมือนนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะไม้ยาวที่มีหลอดไฟห้อยอยู่บนหัว ก่อนที่ชานยอลในชุดตำรวจนอกเครื่องแบบจะวางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ แล้วมองมาด้วยสายตาดุสุด ๆ ไปเลย

     

     

    บอกความจริงมาซะ โทษหนักจะกลายเป็นเบา

     

     
     

    นั่นคือเสียงในมโนภาพที่แบคฮยอนได้ยิน

     

     

    ที่คอเสื้อมันหน่วงไปข้างหลังเพราะมึงซ่อนมันไว้ในฮู๊ดงั้นเหรอ? แบคฮยอนอยากร้องไห้ เขาจะไม่ใช้คำว่าโง่นะ แต่ชานยอลจะเพิ่งมาฉลาดอะไรเอาตอนนี้อ่ะ...

     

    ร่างเล็กมองไททันตัวโตที่ผละตัวออกแล้วเข้าไปเก็บกล่องกระดาษขึ้นมา คนตัวสูงยืนมองมันแล้วพลิกดูอยู่ในทีก่อนจะเขย่าจนได้ยินของที่อยู่ข้างใน

     

    อย่าเขย่าแรงซี่ แบคฮยอนคว้ามืออีกคนไว้พลางส่ายหน้า ชานยอลหลุบตามองแฟนจ๋าที่กำลังทำหน้าเหมือนคนจะสำลอกความลับออกมาแล้วก็ยิ้มกริ่ม

     

    ให้กูสินะ

     

    ...ถ้าหมายถึงตอนที่ห่อกระดาษห่อของขวัญแล้วก็ใช่อ่ะ... แบคฮยอนทำหน้าเหมือนคนเตรียมพร้อมจะรับเสียงถอนหายใจผิดหวังของอีกฝ่าย ถ้าเปิดกล่องออกมาชานยอลต้องเซ็งแน่ ๆ เลย

     

    เด็กหนุ่มยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก็ดีเหมือนกันที่ไอ้บ้านนอกเอาแต่จดจ่อสายตาอยู่กับกล่องกระดาษ เพราะเขาจะได้ไม่ต้องกลั้นยิ้มให้เมื่อยแก้ม ชานยอลยีผมคนตรงหน้าก่อนจะกดศีรษะทุยให้ซบลงกับอกแล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ

     

    ทำไมมึงน่ารักแบบนี้วะฮอบบิท

     

    จะน่ารักกว่านี้อีกถ้าห่อกระดาษเรียบร้อยแล้วอ่ะ...

     

    กูหมายถึงมึง ไม่ใช่ของขวัญนี่ ชานยอลยิ้มขำที่คนตัวเล็กหูเพี้ยนได้ยินไปอีกอย่างซื้อมาหรือเปล่า?

     

    ซื้อคับ

     

    แพงไหม?

     

    ไม่แพง เราบอกชานยอลแล้วนี่ว่าไม่มีตังค์... เสียงอู้อี้ของคนตัวเล็กเหมือนกำลังรู้สึกผิดอยู่ในใจ ชานยอลมองกล่องของขวัญในมือแล้วผละคนตรงหน้าออกก่อนจะจ้องตา

     

    กลัวกูโกรธเหรอ? แบคฮยอนพยักหน้าเป็นคำตอบ เด็กหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะกอดคอคนตัวเล็กให้เดินไปด้วยกันมึงทำกูรู้สึกผิดเลยนะเนี่ย

     

    รู้สึกผิดทำไมอ่ะ เราสิต้องรู้สึกผิดที่ห่อของขวัญยังไม่เสร็จ

     

    ไหนตอนแรกบอกว่าไม่มีให้ไง

     

    ก็เราไม่มั่นใจว่าควรให้ดีไหม เพราะเราไม่มีเงิน กลัวว่าซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้แล้วชานยอลจะไม่ดีใจอ่ะ

     

    เพ้อเจ้อ เห็นกูเป็นพวกยึดติดขนาดนั้นเลยหรือไง ก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าอะไรก็ตามที่มาจากมึง แค่ลูกอมเม็ดเดียวกูก็ดีใจแล้ว แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังยิ้มให้เขา ผิดจากที่คาดไว้ว่าชานยอลงอาจจะผิดหวัง

     

    ต่อให้เป็นของราคาถูก ชานยอลก็จะดีใจใช่ไหม

     

    ชานยอลยิ้มแล้วพยักหน้าเป็นคำตอบ และมันทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในความกังวลรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง แบคฮยอนจะเลิกคิดมากได้ก็คงเป็นตอนที่ชานยอลเห็นของขวัญที่อยู่ข้างในกล่องนั่นแหละ

     

    เด็กหนุ่มทั้งสองคนนั่งลงบนม้านั่งในสวนสาธารณะ เบื้องหน้าคือแม่น้ำ และฝั่งตรงข้ามคือตึกสูงใหญ่ ตรงนี้มีคนมาเดินผ่านไปมาเป็นระยะ บางคนปูเสื่อนอน บางคนพาหมามาเดินเล่น

     

    ชานยอลวางของขวัญไว้บนตัก ก่อนจะหันไปทางคนรักที่มองของในมือเขาอย่างลุ้น ๆ

     

    กูแกะเลยนะ?

     

    ไม่บ่อยนักที่จะเห็นคนอย่างมนุษย์ฮอบบิทจะมองเขาด้วยสายตาประหม่าแบบนี้ แบคฮยอนพยักหน้าช้า ๆ เป็นคำตอบ ตอนนั้นชานยอลถึงได้ค่อย ๆ ลอกสก๊อตเทปออก

     

    วันนี้ชานยอลจะไปฉลองที่ไหนหรือเปล่า

     

    นัดกับไอ้สองตัวนั้นไว้ตอนทุ่มนึง แล้วมึงก็ต้องไปกับกูด้วย แบคฮยอนพยักหน้าช้า ๆ อีกครั้ง ตอนนี้สายตาของเขายังคงไม่ละออกห่างจากมือใหญ่ที่ยังคงง่วนอยู่กับกล่องของขวัญ

     

    ชานยอล

     

    หืม?

     

    สุขสันต์วันเกิดนะ

     

    ประโยคนี้หยุดเขาไว้ได้ เด็กหนุ่มหันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งทำหน้าอึนพลางยิ้มแห้ง ๆ ชานยอลไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงได้ยิ้ม ดูเหมือนว่าทุกคำพูด ทุกการกระทำของไอ้บ้านนอกมันทำให้เขารู้สึกดีไปหมด แม้ว่าจะไม่มีคำหวานเลยสักนิด

     

    อยากฟัดแก้มมึงจังฮอบบิท แต่กลัวมึงอายคนแถวนี้ ชานยอลพูดไปตามความรู้สึก ถ้ารู้ว่าแฟนจะให้ของขวัญแบบนี้ เขาจะอยู่ในห้องแล้วล็อกกลอนแน่นหนา หลังจากนั้นก็ทำทุกอย่างที่มันควรจะเป็น

     

    หอมสิ จะตรงนี้หรือตรงนี้ก็ได้อ่ะ ไอ้บบ้านนอกหันแก้มพร้อมเปิดเหม่งขึ้น ชานยอลหัวเราะอีกแล้ว เขาได้แต่ส่ายหน้าหน่าย ๆ แล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปหอมแก้มคนช่างพูดก่อนจะผละออกมา

     

    งั้นแกะแล้วนะ

     

    โอเค แบคฮยอนนั่งยืดหลังตรง เพ่งมองไปยังมือแกร่งที่กำลังค่อย ๆ แกะออกอย่าประณีต เขาได้แต่คาดหวังว่าของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตั้งใจเลือก จะทำให้ชานยอลมีความสุข

     

    ...

     

    แบคฮยอนกำมือแน่นจนชื้นเหงื่อไปหมด ชานยอลนิ่งไปเลยหลังจากเห็นของที่อยู่ข้างใน และท่าทางที่เป็นอยู่มันทำให้เขาเป็นกังวลจริง ๆ

     

    ชานยอลอมยิ้มแล้วเอาของขวัญขนาดเล็กกว่าฝ่ามือขึ้นมา เด็กหนุ่มตัวสูงหันไปทางคนรักที่กำลังทำหน้าลุ้นสุดขีด ฟิกเกอร์ไททันหน้าตาขี้โมโหกับฟิกเกอร์บิลโบ แบ๊กกิ้นส์ และฮอบบิทแอนด์ผองเพื่อนอีกสองสามตัวที่กระจัดกระจายอยู่ตามมุมกล่อง

     

    แย่แล้ว โฟรโดแขนขาด!!” แบคฮยอนชะโงกหน้าดูของขวัญในกล่อง คงเป็นเพราะมันตกกระแทกพื้นเมื่อกี้แน่ ๆ เลย ทำไงดี ตัวนี้หลายตังค์ด้วยอ่ะ...

     

    ชานยอลยิ้มขำ ในที่สุดไอ้บ้านนอกก็คลายความจริงออกมาแล้วว่าของขวัญที่อยู่ในกล่องนี้ไม่ได้ราคาถูกอย่างที่ว่าเอาไว้ เด็กหนุ่มวางกล่องของขวัญไว้ข้างตัวก่อนจะลุกขึ้นยืน

     

    ชานยอลจะไปไหน? สีหน้าของคนตัวเล็กในตอนนี้ดูตกใจมากเพียงแค่เขาลุกขึ้นยืน ชานยอลแกะมือเล็กออกจากข้อมือตัวเองแล้วเดินถอยหลังไปทีละก้าว

     

    เดี๋ยวมา

     

     

     

     

    แบคฮยอนนั่งหงอยอยู่ตรงม้านั่งเกือบสิบนาทีแล้ว แต่คนตัวสูงก็ยังไม่กลับมาอีก เขาเอาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบทำแบบนี้ แต่พอคิดมากแล้วก็ทำให้โลกร้อนทุกทีเลยอ่ะ

     

    ชานยอลรีบวิ่งออกไปเพราะอะไร นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นกังวล

     

    แบคฮยอนมองโฟรโดผู้น่าสงสารในมือแล้วก็พยายามหารู เพื่อประกอบแขนใส่เข้าไป แต่ก็เท่านั้น...มันต่อไม่ได้ และถึงต่อได้มันก็กลายเป็นของชำรุดไปแล้ว ชานยอลคงไม่ชอบใจแน่ ๆ ที่รีบวิ่งออกไปแบบนั้นคงเพราะอยากสงบสติอารมณ์หรือเปล่านะ?

     

    ร่างเล็กหลุดออกจากความคิดเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งมาทางนี้ ชานยอลหอบหายใจหนักก่อนจะนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าเขา แบคฮยอนมองคนตัวสูงที่แกะกล่องกาว ดูเหมือนว่าชานยอลจะรู้ว่าเขากำลังคิดมาก ริมฝีปากที่เคยพูดแต่คำหยาบถึงได้ยิ้มตอนที่เราสบตากัน

     

    จับไว้นะ

     

    ...

     

    แบคฮยอนจับคุณโฟรโดไว้ก่อนที่ชานยอลจะแต้มกาวลงตรงข้อต่อระหว่างแขนกับหัวไหล่ของฟิกเกอร์ ที่รีบวิ่งออกไปเมื่อกี้คือไปซื้อกาวเองหรอกเหรอ ชานยอลน่าจะบอกก่อน

     

    ชานยอลพ่นลมหายใจทางริมฝีปากลงรอยข้อต่อ มันแผ่วเบาและอ่อนโยนมากตอนที่โดนมือของเขา แบคฮยอนไม่เคยมานั่งคิดว่าชานยอลเปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน เขารู้แค่ว่าชานยอลเปลี่ยนไปบ้าง อาจเป็นเพราะเราพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นมาตามลำดับ ชานยอลที่เคยเอาแต่โมโหร้าย ถึงได้กลายเป็นผู้ชายแสนดีแบบนี้

     

    มันหักแล้ว ชานยอลเอาไปแค่นั้นก็ได้นะ

     

    ได้ไง อันนี้ก็จะเอาเด็กหนุ่มเงยหน้ามองคาดโทษคนคิดมากที่ยังคงทำหน้าหงอยเหมือนตอนสิบนาทีที่แล้ว แบคฮยอนหลับตาลงเมื่อคนตรงหน้าเลื่อนมือขึ้นมายีหัวเขาเบา ๆ ราวกับอยากปลอบใจ อย่าทำหน้าแบบนั้น นี่วันเกิดแฟนนะ

     

    ชานยอลก็บอกว่าชอบของขวัญของเราก่อนสิ เราจะได้ยิ้มออกสักทีอ่ะ

     

    เออชอบ ไอ้ไททันหัวโปกนี่ก็ชอบ ชอบไปหมดเลย คนให้กูก็ชอบ แบคฮยอนย่นจมูก ทำไมชานยอลต้องมาตะคอกด้วยคำพูดหวาน ๆ แบบนี้ด้วยนะ ไม่เห็นจะโรแมนติกเลยอ่ะ แล้วก็มาว่าเขา

     

    เราเพิ่งเคยซื้อของขวัญเป็นครั้งแรก ชานยอลเก็บไว้ให้ดีนะ อย่าวางไว้ที่สูงมาก ถ้าตกลงมาอีกเดี๋ยวแขนหัก เด็กตัวสูงพยักหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะกดจมูกลงบนมือเรียวเสียฟอดใหญ่ ถ้าของแพงคงไม่พังง่าย ๆ แบบนี้เนอะ

     

    รู้จักคำว่าคุณค่าทางจิตใจไหม มีโฟรโดที่ไหนแขนขาดแบบนี้บ้าง ชานยอลเงยหน้ามองอีกคนที่เริ่มจะยิ้มออกมาได้บ้างแล้ว

     

    ไททันอยู่นอกกำแพง ส่วนฮอบบิทถูกขังอยู่ข้างใน

     

    นั่นหมายความว่าฮอบบิทหนีไปไหนไม่ได้แล้ว มันต้องอยู่กับไททันตลอดไป ชานยอลเงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย แบคฮยอนไม่ได้ตอบอะไร คนที่เคยทำหน้าซน ๆ เพียงแค่ยิ้มตาหยีเท่านั้น

     

     

    น่ารักจังเลยแฟนกูเนี่ย...

     

     

    เรารักชานยอลจัง ขอบคุณที่เกิดมานะ

     

    ชานยอลเพียงแค่ยิ้ม เขาก็อยากขอบคุณแบคฮยอนเหมือนกันที่ทำให้ชีวิตมีอะไรมากกว่าการหายใจทิ้งไปวัน ๆ พอนึกย้อนกลับไปถึงอดีตที่ผ่านมา ชานยอลคิดว่าเราได้อะไรมากมายจากคน ๆ นี้

     

     

    นอกจากความรักแล้ว บยอนแบคฮยอนยังทำให้ปาร์คชานยอลเรียนรู้กับคำว่าความเห็นใจ

     

    ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงมองเห็นแค่ตัวเองที่ถูกครอบครัวทำร้าย ซึ่งพอลองคิดดี ๆ แล้ว มันคือตัวเด็กหนุ่มเองทั้งนั้นที่คิดไปเอง ชานยอลยอมลดทิฐิลงแล้วหันหน้าเข้าหาครอบครัว ตอนนั้นเขาถึงได้รู้ว่าการฟอร์มจัดมันไม่ได้ช่วยให้เราเข้าใจกัน

     

    แบคฮยอน

     

    แทบจะนับครั้งได้ที่ชานยอลยอมเรียกชื่อ ร่างเล็กเลิกคิ้วมองอีกคนที่ยังคงนั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าเขาโดยที่ไม่ยอมลุกขึ้นมานั่งด้วยกัน

     

    ไปเรียนเมกาด้วยกันนะ

     

    หา?

     

    รู้ว่าตกใจ แต่ก่อนจะปฏิเสธนี่ขอให้กูได้พูดก่อน ชานยอลรีบดัก เขาเห็นว่าไอ้บ้านนอกเหวอไปเล็กน้อย ซึ่งมันคงไม่แปลกสำหรับคนที่ใส่ใจกับเรื่องการใช้เงิน พ่ออยากให้กูไปเรียนที่นั่น แล้วเขาก็บอกกูให้มาชวนมึงด้วย ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเขาจะออก ถ้ามึงลำบากใจ ตอนเรียนจบเราค่อยหาเงินมาทยอยคืนเขาก็ได้

     

    ...

     

    แบคฮยอนนิ่งไป เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้ายังไงกับเรื่องที่เพิ่งรับรู้เมื่อครู่นี้ แน่นอนว่าการไปเรียนต่างประเทศมันไม่เคยอยู่ในหัวของเขาเลยสักนิด

     

    ชานยอล นี่มันเรื่องใหญ่มากเลยนะ

     

    รู้ แต่พ่อเป็นคนเสนอเอง กูไม่ได้รบเร้าให้เขาพามึงไปด้วยเลย เด็กตัวสูงรีบอธิบายก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้าใจผิดไป

     

    ก่อนหน้านี้แบคฮยอนแสดงออกให้เห็นว่าคิดมากเรื่องของขวัญ แต่ตอนนี้คงกลายเป็นตัวเขาเองแล้วล่ะ ที่ต้องกลัวคำตอบว่าแฟนจะยอมไปด้วยกันหรือเปล่า

     

    เราพูดภาษาอังกฤษยังไม่ได้เลย มหาลัยจะรับเข้าเหรอ?

     

    ถ้ามึงตกลง กูจะช่วยติวให้เอง

     

    ชานยอล แบคฮยอนวางมือลงบนหน้าขาคนข้าง ๆ ก่อนจะหันไปสบตากันอย่างจริงจัง ไม่ไปได้ไหม?

     

    ...

     

    เราไม่อยากไป แล้วก็ไม่อยากให้ชานยอลไปอยู่ที่ไกล ๆ ด้วยสายตาที่มองผ่านเลนส์แว่นนั้นดูจริงจัง มันทำให้เขาเชื่อแล้วว่าร่างเล็กไม่ต้องการข้อเสนอนี้

     

    ถึงจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่ถ้าแบคฮยอนอยากอยู่ที่นี่ เขาก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น

     

    โอเค ไม่ไปก็ไม่ไป เด็กหนุ่มยิ้มบาง ๆ พลางกุมมืออีกคนที่วางอยู่บนหน้าขาของเขา ชานยอลรู้ว่าแบคฮยอนจริงจังมากแค่ไหน ผ่านมือที่ประสานกันแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหนีไปนั่นน่ะ ชานยอลเข้าใจดี

     

    เราไม่อยากงี่เง่าแบบนี้เลย ขอโทษนะ

     

    คิดมากน่า เรียนที่ไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ กูก็แค่ลองถามดูเผื่อว่ามึงจะสนใจ

     

    ชานยอลโกรธเราไหม เอาความจริงนะ

     

    ชานยอลเหมือนคนโง่ที่เอาแต่ยิ้มเวลามองแฟน ทั้งที่เขาเองก็ผิดหวังอยู่เล็กน้อยกับเรื่องไปเรียนต่อต่างประเทศ ถึงจะเตรียมใจมาบ้างแล้วก็เถอะว่าไอ้บ้านนอกคงไม่อยากไป แต่พอได้ยินคำตอบว่าเจ้าตัวก็ไม่อยากให้เขาไปเหมือนกัน มันก็พอชดเชยกันได้

     

    กูรักมึงมากกว่าจะมานั่งคิดเล็กคิดน้อยว่ะ โทษที ชานยอลไหวไหล่แล้วเอากล่องของขวัญมาวางไว้บนตัก จะว่าไปแล้วไอ้ฟิกเกอร์หน้าโง่ที่นอนแอ้งแม้งอยู่ในกล่องนี่มันเหมือนคนซื้อไม่มีผิด ที่สำคัญ...มันทำให้เขายิ้มได้

     

    ปีหน้าเอาตัวเองผูกโบว์มาก็ได้นะถ้าคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรให้

     

    ไม่เอาอ่ะ ชานยอลคิดเรื่องทะลึ่งอยู่ก็บอกมา แบคฮยอนหรี่ตามองคนตัวสูงที่กำลังยิ้มเจ้าเล่ห์

     

    ไม่คิดก็แปลกแล้ว คบกันมาตั้งกี่เดือนให้แค่จูบเองเหรอ มึงนี่อำมหิตจริง ๆ

     

    พอถึงวันเกิดเราชานยอลก็เอาตัวเองผูกโบว์มาบ้างสิ เราจะได้คิดเรื่องลามก

     

    อ้าวได้...งั้นข้ามไปวันเกิดมึงเลยได้ไหมล่ะ นี่อยากผูกโบว์จนตัวสั่นไปหมดแล้ว ชานยอลแกล้งบิดตัวไปมา

     

    ใส่ชุดสาวใช้ด้วยนะ

     

    อย่ามาตลก เด็กหนุ่มหุบยิ้มมองคนตัวเล็กที่เอาแต่หัวเราะชอบใจ หลังจากบอกให้เขาแต่งตัวเป็นสาวใช้ในวันเกิด

     

    ชานยอลล็อกคอคนตัวเล็กเข้ามาแล้วกดจูบศีรษะทุยอย่างหมั่นเขี้ยว ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากของคนในอ้อมกอดก็ยิ่งอยากทำให้มากกว่านี้ แต่ติดที่ว่าทั้งคู่อยู่ในสวนสาธารณะ ไม่อย่างนั้นมนุษย์ฮอบบิทคงโดนฟัดจนแก้มช้ำแน่ ๆ

     

    เหมือนรอยยิ้มถูกสร้างมาเพื่อชานยอลเลยอ่ะ แบคฮยอนเอานิ้วชี้จิ้มลงบนแก้มเขาเบา ๆ

     

    เราสบตากันอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก เด็กหนุ่มใช้เวลาเพียงแค่ชั่วอึดใจในการคิดทบทวน และก็ได้คำตอบแล้วว่าวันนี้มันก็เหมือนกับทุกวัน ไม่จำเป็นต้องมีเค้กหรือปาร์ตี้ใหญ่โต เพียงแค่ได้อยู่กับคนพิเศษด้วยความที่รู้สึกพิเศษ แค่นั้นมันก็น่าจะเพียงพอแล้ว

     

    ชานยอลยิ้มพร้อมคว้ามือเรียวไว้แล้วจูบลงปลายนิ้วเบา ๆ มือของแบคฮยอนไม่ได้นุ่มเหมือนมือผู้หญิง แต่มันก็อุ่นมากพอที่จะส่งไปให้ถึงหัวใจของเขาได้

     
     

     
     

    ปาร์คชานยอลรักคนนี้...เขารักบยอนแบคฮยอน

     

     


     

    ถ้ามึงคือรอยยิ้ม งั้นมันก็คงถูกสร้างมาเพื่อกูจริง ๆ นั่นแหละ

     

     
     

    TBC

     
     

    ฟิคเรื่องนี้มันก็เนิบ ๆ มาแต่แรกแล้วนะ แบบอ่านเอาฟินอ่ะ ไม่มีอะไรเลย 55555555555555555555 อย่าคาดหวังมากเลยนะคะ


     

    "ความรักเปลี่ยนชานยอล หรือว่าชานยอลเปลี่ยนความรัก เขาถึงได้เปลี่ยนไปถึงขนาดนี้?"


     

    ตอนหน้าไปฉลองปีใหม่กับเพื่อน ๆ ในห้องกันเถอะ!!!

                      


     

    [FANART] ไททันขี้โมโห งานสวย ๆ จากคุณ @blueharo21 เองค่า นั่ลล๊าคคคค kkkkkk
     

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×