ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "FREAK BOY" มนุษย์จงอิน | KAIHUN FEAT.TAO

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 05 :: Your Friends

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.91K
      81
      12 ก.พ. 58

    ’ cactus

     

     

     

    Chapter 5

    Your Friends

     



     

    เสียงเพลงจากฝั่งนั้นไม่ได้ถึงขั้นทำให้เขาหูดับ ภาพหนุ่มสาวเต้นท่ามกลางแสงไฟวาววับอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก จะว่าไปแล้วเสียงเพลงนั้นเบาหวิวเหมือนเสียงยุงบินผ่านหูเสียมากกว่า ดีที่ว่าที่นี่ถูกแบ่งออกเป็นสองโซน เด็กหนุ่มเลยไม่ต้องทนปวดหัวกับการปล่อยให้เสียงเพลงอึกทึกดังกรอกหู

     

    จื่อเทาชอบนั่งอยู่เงียบ ๆ หน้าเคาน์เตอร์บาร์ แล้วมองภาพเหล่านั้นโดยที่ไม่คิดจะเข้าไปร่วมแจมด้วย เหตุผลข้อที่หนึ่งคือเขาชอบความรู้สึกตอนสนุกสุดเหวี่ยงหลังจากเมาแล้วมากกว่า และคาดว่าเบียร์ขนาดเหมาะมืออีกสองขวดคงพาเขาไปถึงจุดนั้นได้ไม่ยาก

     

     

    ส่วนเหตุผลข้อที่สอง...

     

     

    หันไปทางด้านข้างแล้วมองผู้ชายร่างเล็กที่ถือขวดเบียร์ขนาดเหมาะมือไว้เช่นกัน เสื้อเชิ้ตสีดำตัวนั้นขัดกับสีผิวขาวสะอาดนั้นอย่างสิ้นเชิง นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาไม่อยากลุกไปไหน เพราะเป็นห่วงว่าอีกคนจะเมาฟุบหลับไปก่อน ซึ่งมันคงเป็นเรื่องยากที่จะเป็นอย่างนั้น

     

    จื่อเทาชอบนั่งมองรุ่นพี่ตัวเล็กที่ยังคงจ้องมองดีเจหนุ่มบนชั้นลอยอย่างไม่ละสายตา ใช่...เขาสังเกตมาสักพักแล้ว จากระยะเวลาหลายเดือนที่รู้จักกันมา เด็กหนุ่มมั่นใจว่าเขาพอจะเดาทางพี่มินซอกออกอยู่บ้าง

     

    ชอบหรือไง

     

    หมายถึงใครล่ะ

     

    ดีเจคนนั้น ผมเห็นพี่มองตั้งนานแล้ว

     

    ทันทีที่พูดจบสายตาเฉียบคมก็หันมาทางนี้ ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะคลี่ยิ้มบาง ๆ ราวกับว่าเรื่องที่หวงจื่อเทาคาดเดามันน่าตลก เด็กหนุ่มไม่ได้รบเร้าขอคำตอบ เขาเพียงแค่มองรุ่นพี่เชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยพร้อมแลบลิ้นออกมารับปากขวดเบียร์ ก่อนที่มันจะโดนริมฝีปากบน

     

    จื่อเทาจะละสายตาออกไปทางผู้หญิงอกโตที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้ก็ได้ แต่สายตาของพี่มินซอกที่มองมาทั้งที่ยังไม่ละปากขวดเบียร์ออกจากริมฝีปากนั่นน่ะ... เจ้าตัวกำลังแกล้งเขาอยู่ชัด ๆ

     

    จื่อเทาเคยมีเซ็กส์กับผู้หญิงมาแล้วหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้องใส ๆ ไร้เดียงสา เพื่อนรุ่นเดียวกันที่ยังเฮฮาได้แม้ว่าเราจะเคยนอนด้วยกันมาแล้ว หรือรุ่นพี่มหาลัยที่แรงสุด ๆ แต่ถ้าพูดถึงผู้ชาย พี่มินซอกคือคนแรก และทำให้เขารู้สึกว่านี่แหละคือเซ็กส์ที่สนุก

     

    เปล่า

     

    แล้วพี่มองอะไร

     

    พี่มินซอกยิ้มอีกแล้ว หลายครั้งที่อีกฝ่ายทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นเด็กขี้สงสัย จื่อเทายกเบียร์ขึ้นดื่มบ้าง ก่อนจะเอนตัวเข้าหาอีกคนที่กำลังกระดิกนิ้วชี้เรียกให้เข้าใกล้ ๆ

     

    เห็นผู้ชายแจ็คเก็ตสีดำที่เต้นอยู่กับผู้หญิงเสื้อกล้ามสีขาวตรงนั้นไหม?

     

    ตรงไหน?

     

    นั่นน่ะ พี่มินซอกใช้นิ้วชี้เกี่ยวคอเสื้อเขาให้ขยับเข้าไปอีกจนศีรษะของเราชนกัน แต่เชื่อเถอะว่ามันได้ผล ตอนนี้หวงจื่อเทาเห็นอย่างเต็มตาแล้วว่าคู่ชายหญิงที่อีกฝ่ายพูดถึงยืนอยู่ตรงไหน เพราะฝ่ายชายก็มองมาทางนี้เช่นกัน แต่พอรู้ว่ากำลังถูกมองอยู่เจ้าตัวถึงได้หันหนีไปอีกทาง

     

    ไอ้หมอนั่น

     

    อืม

     

    เหรอ?

     

    อืม

     

    พี่ชอบมันหรือไง

     

    อย่าถามเหมือนคนกำลังหึงสิ พี่มินซอกหัวเราะแล้วหมุนเก้าอี้หันเข้าหาเคาน์เตอร์บาร์

     

    ผมกำลังแยกแยะระหว่างหึงกับหวงอยู่ แต่พี่เชื่อเถอะว่ามันเป็นอย่างหลัง

     

    ถ้าพี่เป็นสาว ๆ คงเบะปากร้องไห้แน่ถ้าได้ยินนายพูดแบบนี้ คนตัวเล็กเรียกบาร์เทนเดอร์แล้วสั่งเบียร์เพิ่มมาอีกสองขวด

     

    ผมรู้ว่าต่อให้ผมชุ่ยแค่ไหนพี่ก็ไม่เสียดายหรอก

     

    นี่กำลังตัดพ้ออยู่เหรอ? พี่มินซอกไม่ได้รู้สึกผิด หรืออันที่จริงอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย หวงจื่อเทารู้ดีว่าเขายังเด็กเกินไปที่จะเล่นโต้ตอบบทสนทนากับอีกฝ่ายแบบนี้

     

    ผมแค่จะบอกว่าผมคงทำให้พี่เสียใจไม่ได้อยู่แล้ว และผมก็ไม่อยากให้เรา คนใดคนหนึ่งต้องเสียใจ

     

    ใกล้เที่ยงคืนแล้ว โอเค ดราม่าได้ คนตัวเล็กมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเอาขวดเบียร์มาชนกับขวดเบียร์ของรุ่นน้องเป็นเชิงบังคับให้ดื่ม จื่อเทาหัวเราะในลำคอเบา ๆ เขาชอบพี่มินซอกก็เพราะแบบนี้

     

    พี่เป็นผู้ชายคนแรกของผม ผมต่างหากที่ต้องเสียใจ

     

    พูดแบบนี้หมายความว่ามีผู้ชายคนที่สองแล้วหรือไง? มินซอกหันตัวเข้าหาอีกคนพลางเลิกคิ้ว

     

    จื่อเทารู้ว่าคนตัวเล็กแค่ถามเล่น ๆ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมภาพของโอเซฮุนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วถึงลอยเข้ามาในหัว เพียงแค่ได้ยินคำว่าผู้ชายคนที่สอง จากปากพี่มินซอก

     

    ที่ไม่ตอบนี่คือเรื่องจริงเหรอ? ร่างเล็กเบิกตากว้าง แน่นอนว่าเขากำลังตกใจถ้ามันเป็นเรื่องจริง

     

    เพราะค่ายกีฬาเมื่อตอนนั้น ที่รุ่นพี่โทรมาชวนให้เขาไปช่วยดูแลนักเรียนอีกแรง ด้วยความที่ว่าง ๆ ไม่ได้ทำอะไร คิมมินซอกเลยกะว่าจะไปเปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อย แต่ใครจะรู้ว่าจะไปสปาร์คเข้ากับหวงจื่อเทาซะได้

     

    ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อ และเราสองคนก็ชอบที่จะเป็นแบบนี้ ทั้งมินซอกและจื่อเทาไม่ได้รู้สึกต่อกันชนิดที่ต้องตกลงปลงใจเป็นแฟน เด็กคนนี้กำลังสนุกกับสิ่งแปลกใหม่ที่เพิ่งได้ลิ้มลอง ส่วนตัวเขาก็ไม่ใช่พวกคิดมากที่ต้องมาปั้นหน้าจริงจังแล้วถามว่าตกลงระหว่างเราคืออะไร

     

    จื่อเทาไม่ใช่พวกชอบไม้ป่าเดียวกัน เรื่องนี้วัดได้จากการมีเซ็กส์ครั้งแรก แต่พอมันมีครั้งที่หนึ่ง...ก็ต้องมีครั้งที่สอง ยิ่งพอเป็นเด็กวัยอยากรู้อยากลองแล้วก็ยิ่งสนุกกับสิ่งใหม่ ๆ และนั่นเป็นเหตุที่ทำให้เขาทั้งคู่ติดต่อกันมาตั้งแต่ตอนนั้น

     

    ไม่รู้สิ แต่ผมกำลังสนใจคน ๆ นึงอยู่มั้ง ความจริงต้องเรียกว่าเพิ่งสนใจถึงจะถูก จื่อเทาไหวไหล่แล้วยกเบียร์ขึ้นดื่ม

     

    อ่าฮะ

     

    เขาเป็นคนที่ผมกับเพื่อนไม่ชอบขี้หน้ามาก ๆ เลยนะ แต่ไม่รู้ดิพี่ พอได้คุยกันจริง ๆ จัง ๆ แล้วหมอนั่นมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่ใคร ๆ ว่านี่หว่า

     

    เข้าเรื่องแล้วบอกด้วยนะ

     

    มินซอกยิ้มขำ ซึ่งดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มจะเสียฟอร์มอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่รู้จักกันมา นี่เป็นครั้งที่สองที่จื่อเทาแสดงออกให้เห็นว่าเขากำลังอาย ส่วนครั้งแรกคือตอนที่เจ้าตัวเงอะงะเพราะไม่เคยมีเซ็กส์กับผู้ชายด้วยกัน

     

    พี่ เขาน่ารักว่ะ

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ มินซอกเท้าคางมองอีกคนยิ้ม ๆ อย่างเอ็นดู

     

    ก่อนผมมาหาพี่

     

    ไวไฟ

     

    ถ้าเทียบกับพี่ ระหว่างผมกับหมอนั่นช้ายิ่งกว่าเต่าเป็นอัมพาตอีก

     

    เหรอ มีรูปไหม?

     

    ผมไม่ได้ถ่ายไว้ แต่ถ้าพี่อยากดูก็หาได้ไม่ยากจื่อเทาล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดเข้าอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าการหารูปโอเซฮุนขวัญใจสาว ๆ มันไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิด

     

    อืม... มินซอกมองหน้าจอสมาร์ทโฟนที่อีกคนเอาให้ดูก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากัน เขารู้ว่าตอนนี้จื่อเทากำลังต้องการความเห็น ว่าเจ้าของใบหน้าสี่อารมณ์ในรูปสี่ช่องนี้เป็นยังไง

     

    จะว่าหล่อก็หล่อ แต่พอยิ้มแล้วก็ให้อีกความรู้สึกนึง เด็กตัวขาวยิ้มตาหยีคนนี้น่ารักใช้ได้เลยล่ะ หน้าตาแบบนี้คงป๊อปในหมู่สาว ๆ ไม่แปลกถ้าไอ้เด็กขี้เห่อจะสนใจกับสิ่งใหม่ที่เขาเพิ่งสอนให้เมื่อไม่นานมานี้

     

     

    ไม่อยากเรียกว่าสอนเลย เอาเถอะ...อยากเรียกอะไรก็เรียกไปแล้วกัน

     

     

    ชื่อ?

     

    โอเซฮุน

     

    เขาเป็นเหมือนพี่เหรอ? มินซอกเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายที่กำลังยิ้มอย่างพอใจอยู่

     

    ไม่รู้สิ แต่ผมว่าจะลองดู

     

    ไปจีบชายแท้ระวังแห้วล่ะ

     

    ขอบคุณที่เป็นห่วง ผมเชื่อคนเจอประสบการณ์ตรงอยู่แล้ว จื่อเทาหัวเราะพลางงอตัวเล็กน้อยเมื่อถูกรุ่นพี่ชกอกเข้าไปเต็มแรงหลังจากถูกจี้ใจดำเข้าไป

     

     

    .

    .

     

     

    เช้าวันนี้พ่อกับแม่มาส่งที่โรงเรียน เนื่องจากวันนี้พ่อมีประชุมช่วงสายเลยไม่ต้องรีบออกจากบ้านแต่เช้าเหมือนกับทุกวัน

     

    เด็กหนุ่มโค้งศีรษะก่อนจะเดินถอยหลังออกมาสองก้าวแล้วมองรถยนต์ของพ่อที่กำลังขับออกไปจนลับสายตา เซฮุนชอบที่จะให้พ่อกับแม่มาส่ง ชอบที่จะยืนมองรถขับออกไป เพราะมันคือช่วงเวลาที่ทำให้เขาได้อยู่กับครอบครัวนานที่สุด

     

    ขายาวก้าวไปตามฟุตปาธอย่างใจเย็น อีกแค่ไม่กี่เมตรก็จะถึงหน้าประตูโรงเรียนแล้ว เด็กหนุ่มสาวมากมายกำลังทยอยเข้าไปข้างใน ทุกคนดูไม่รีบเพราะยังมีเวลาอีกสี่สิบนาทีก่อนที่ประตูจะจะปิดลง

     

    แต่พอเดินมาถึงหน้าประตูฝีเท้าก็หยุดยืนอยู่กับที่เมื่อพบว่าใครคนหนึ่งเดินอยู่บนฟุตปาธฝั่งตรงข้าม และทันทีที่อีกฝ่ายรู้ตัวว่ากำลังถูกมอง ผู้ชายที่เดินล้วงกระเป๋ากางเกงก็หยุดอยู่ตรงนั้นเช่นกัน

     

    เซฮุนเลียริมฝีปากคลายอาการประหม่า มันเป็นเรื่องไม่คาดคิดที่ได้เห็นคิมจงอินในช่วงแรกของวัน ซึ่งเด็กหนุ่มคิดว่ามันเป็นเรื่องดีมาก ๆ

     

    ทั้งคู่ปล่อยให้คนอื่น ๆ เดินผ่านไปโดยที่ไม่มีใครกล่าวทักทายก่อน เราเพียงแค่สบตากันอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งจงอินเดินเข้าไปข้างใน ตอนนั้นโอเซฮุนถึงนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ควรยืนทื่ออยู่ตรงนี้โดยที่ไม่คิดทำอะไรสักอย่าง

     

    เราเดินจังหวะเดียวกันแต่อยู่คนละฝั่ง เซฮุนชำเลืองมองคนผิวแทนที่ม้วนหูฟังเก็บใส่ในซองกำมะหยี่ที่เขาเคยให้ไปก่อนจะลอบยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

     

    เซฮุนปล่อยให้หัวใจเต้นแรงกว่าจังหวะปกติเพียงแค่ครู่เดียว ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงเอาสมาร์ทโฟนขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงสั่น พอปลดล็อกหน้าจอก็พบข้อความเข้า ซึ่งเป็นของคนที่เขาคาดไม่ถึงอีกแล้ว

     

     

    คุณได้รับข้อความจาก...

    ซอนแซงนิม

    [ ไส้กระเป๋ากางเกงโผล่ออกมาข้างนอกแล้ว ]

     

     

    ทันทีที่อ่านจบคนถูกท้วงก็เบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะลนลานก้มลงมองกระเป๋ากางเกงตัวเองทั้งสองข้าง แต่มันก็ไม่เห็นเป็นอย่างข้อความที่ส่งเข้ามา

     

    ...

     

    เซฮุนหันไปทางคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม แน่นอนว่าตอนนี้คิมจงอินไม่ได้ปั้นหน้านิ่งทำเหมือนไม่สนใจเขา แต่ผู้ชายคนนั้นกำลังกำมือป้องปากขำราวกับว่าสิ่งที่โอเซฮุนเป็นอยู่มันตลกเสียเต็มประดา

     

     

    คุณกำลังส่งข้อความถึง...

    ซอนแซงนิม

    [ นี่คือวิธีบริหารเสียงหัวเราะตอนเช้าของนายเหรอ - - ]

     

     

    รอไม่ถึงห้าวินาที คนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามก็สไลด์หน้าจอมือถือเปิดอ่านข้อความที่เขาเพิ่งส่งไป เพียงแค่ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นจงอินก็เงยหน้าขึ้น ก่อนจะหมุนสมาร์ทโฟนเล่นระหว่างมองมายังเขา

     

    อรุณสวัสดิ์

     

    ...

     

    ทำไมคิมจงอินถึงเป็นคนแบบนี้นะ พอแกล้งเสร็จแล้วก็ยิ้มน้อย ๆ เหมือนผู้ชายใจดี และตบท้ายด้วยการเอ่ยทักทายตอนเช้าจากฝั่งนั้น ซึ่งบอกตามตรงเลยว่าประโยคเมื่อครู่มันไม่ได้ดังและก็ไม่ได้เบาเกินไป แต่ที่สุดแล้วมันทำให้โอเซฮุนพูดอะไรไม่ออก

     

    มาเช้าจัง

     

    ก็มาเวลานี้ทุกวัน แล้วนายล่ะ

     

    อะไรนะ? เด็กตัวผอมขมวดคิ้วพลางยกมือขึ้นป้องหูกับประโยคที่เบาจนเขาจับใจความไม่ได้

     

    จงอินไม่ได้ทวนคำพูดในทันที ผู้ชายคนนั้นถูปลายจมูกเบา ๆ ก่อนจะก้าวข้ามมาทางนี้แล้วหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เขา

     

    ฉันถามนายว่ากินข้าวหรือยัง?

     

    อ๋อ ข้าว เซฮุนยิ้มเก้อเขินเพราะทำตัวไม่ถูก ที่อยู่ ๆ จงอินก็ข้ามมาฝั่งนี้โดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

     

    วันนี้แม่ฉันอยู่บ้าน เธอเลยตื่นมาทำข้าวกล่องมื้อเช้าให้ลูกชาย ไอ้ครั้นจะรอเพื่อนอีกสองคนก็ไม่รู้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไหร่ ฉันไม่อยากอดตายก่อนถึงสิบเอ็ดโมง เพราะงั้นกินด้วยกันไหม?

     

     

    จงอินกำลังชวนไปกินข้าว...

    คิมจงอินชวนเขาไปกินข้าวด้วยกัน...

     

     

    แน่นอนอยู่แล้ว นี่ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย ลาภปากชัด ๆ

     

    เซฮุนรู้สึกได้ว่ากำลังเกร็งริมฝีปากให้ยิ้ม และภาพที่ออกมามันคงตลกสุด ๆ จงอินถึงได้มองริมฝีปากเขาตอนนี้ แต่จะให้ทำยังไง ถ้าตอบเฉย ๆ ก็กลัวผู้ชายคนนี้คิดว่าเขาไม่อยากกิน แต่ถ้ายิ้มแปลก ๆ ก็กลัวถูกจับได้ว่ากำลังฝืนยิ้มโง่ ๆ อยู่

     

    เซฮุนลูบท้องขณะสบตาอีกคน เชื่อเถอะว่าคนอย่างเขาน่ะเก่งได้แค่สามวิเท่านั้นแหละ พอหลังจากนั้นก็หลบสายตาหนีอยู่ดี

     

     

    .

    .

     

     

    บนดาดฟ้าคือที่เงียบสงบและลับสายตาผู้คนที่สุด ทั้งจงอินและเซฮุนไม่อยากให้มีใครเกิดคำถามว่าทำไมคิมจงอินกับโอเซฮุนถึงมานั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบ

     

    เด็กหนุ่มทั้งสองคนนั่งพิงหลังแทงค์น้ำสีน้ำเงินท่ามกลางสายลมอ่อน ๆ ยามเช้า ตรงนี้มองเห็นอาคารพาณิชย์ ต้นไม้ สวนสาธารณะ และบ้านช่องได้ไปจนสุดสายตา เซฮุนรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออีกคนไม่ได้เอาแต่เงียบอย่างที่คิด

     

    จงอินวางฝาข้าวกล่องไว้อย่างเป็นระเบียบก่อนจะยื่นตะเกียบให้คนข้าง ๆ เด็กตัวผอมเพียงแค่มองอีกคนจัดแจงทุกอย่างให้

     

    ฉันชอบไข่ม้วน แม่นายทำเก่งจัง

     

    ฉันก็ทำเก่งนะ พูดแล้วเดี๋ยวหาว่าโม้

     

    ก็ต้องโม้อยู่แล้ว กับสิ่งที่เห็นด้วยตา ลิ้มรสด้วยลิ้นฉันถึงจะเชื่อ

     

    งั้นเหรอ ไว้วันหลังไปที่บ้านฉันสิ แล้วจะทำให้กิน จงอินหันมามองยิ้ม ๆ  

     

    พูดงี้อีกแล้ว นายชวนทุกคนไปที่บ้านแบบนี้ตลอดเลยเหรอ

     

    ยังไง? เด็กหนุ่มผิวแทนถามอย่างไม่ยี่หระก่อนจะคีบคิมบับเข้าปากทั้งที่ไม่มองหน้าอีกคน

     

    ตั้งแต่เรื่องสอนเปียโน ตอนนี้ก็มาเรื่องไข่ม้วนอีก

     

    ฉันดูเหมือนคนที่พร้อมจะชวนใครก็ได้ไปนั่งกระดิกเท้าที่บ้านระหว่างรอกินข้าวหรือไง

     

    ก็นายชวนฉัน จะให้คิดแบบไหนล่ะ

     

    คิดแบบที่อยากคิดนั่นแหละ ไม่เห็นจะยากตรงไหน เซฮุนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเอาปลายตะเกียบเคาะหัวเขาเบา ๆ

     

    เดี๋ยวก็หาว่าคิดไปเองอีก

     

    ก็ถามสิ จะได้ตอบ

     

    ทำไมจงอินต้องสวนกลับมาได้ทุกครั้งที่เขาพยายามเถียงด้วยนะ สายตาของผู้ชายคนนี้เจ้าเล่ห์จริง ๆ พอรู้ว่าเขากำลังแพ้เจ้าตัวก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ

     

    ฉันไปได้เหรอ

     

    ผมคงไม่แบกเปียโนทั้งหลังไปบ้านนักเรียนนะครับ ต่อให้รวยมากก็ตาม เซฮุนเบือนหน้าหลบไปย่นจมูกยิ้ม ๆ ก่อนจะหันกลับมามองอีกคนที่กำลังตั้งใจกินข้าว แต่ก็ยังดูมีระเบียบไม่มูมมาม

     

    ไปวันเสาร์นี้เลยได้ไหม นายติดธุระหรือเปล่า

     

    ฉันว่างตลอดขอแค่นัดก่อน พอได้ยินแบบนี้แล้ว เซฮุนก็รู้สึกว่าจงอินคงมีเรื่องให้ทำอีกเยอะแยะ และคาดว่าผู้ชายคนนี้คงจัดเวลาในการทำแต่ละอย่างไว้เป็นอย่างดี

     

    นายมีตารางเวลาหรือเปล่า แบบว่าตอนจะกินข้าวก็ต้องใช้เวลาเท่านี้นะ นอนกี่ชั่วโมง เล่นกี่ชั่วโมง อ่านหนังสือกฎหมายกี่ชั่วโมง อยากรู้ก็ต้องถาม เซฮุนบอกตัวเองในใจแบบนี้ เพราะถ้ามัวแต่กลัวว่าอีกฝ่ายจะมองไม่ดี ชาตินี้เขาก็คงไม่ได้คำตอบ

     

    ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่การจัดแจงเวลาในการทำแต่ละอย่างมันจะทำให้ฉันไม่ต้องรีบ จงอินยื่นขวดน้ำให้ พอเซฮุนรับไว้แต่มือหนากลับไม่ยอมปล่อย

     

    เด็กตัวขาวเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม แต่อีกคนกลับพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าจะช่วยจับขวดไว้และให้มืออีกข้างของเขาที่ว่างอยู่ช่วยเปิดฝาอีกที

     

    เซฮุนหมุนฝาขวดออกแล้วมองคนข้าง ๆ ที่ยกน้ำขึ้นดื่มโดยที่ไม่ให้ปากขวดโดนริมฝีปากตัวเอง ถึงจะเหวอไปแป๊บนึงเพราะคิดว่าจงอินหวังดีเอาน้ำให้ดื่ม ซึ่งความจริงแล้วเจ้าตัวก็แค่ให้เขาช่วยเปิดฝา แต่มันก็ทำให้ยิ้มได้อยู่ดี

     

    อ่านหนังสือเรียนบ้างนะ หนังสือเกมมันแค่ช่วยให้นายผ่านด่านได้ เซฮุนหันมาทั้งที่คิมบับยังอัดแน่นอยู่ในปากพลางกระพริบตาปริบ ๆ

     

    ฉันไม่ได้อ่านเพื่อให้ผ่านด่านนะ ฉันแค่ดูว่าแต่ละคนมีวิธีเล่นยังไง มันต่างจากฉันตรงไหนหรือเปล่าเด็กตัวผอมเอนตัวไปเล็กน้อยเมื่อถูกอีกคนผลักหัวเบา ๆ แล้วรู้ได้ไงว่าฉันอ่านแต่หนังสือเกม

     

    เดาเอา

     

    โม้

     

    คงเป็นเพราะเรียนเสริมภาคค่ำมันเลยทำให้ฉันฉลาดขึ้นล่ะมั้ง จงอินมองอีกคนที่มองมาราวกับกำลังจับผิด อีกทั้งแก้มทั้งสองข้างที่บวมป่องเพราะคิมบับนั่นน่ะ...

     

    ไม่อยากรู้ก็ได้

     

    ในร้านหนังสือวันนั้น

     

    ...

     

    ฉันเห็นตั้งแต่นายเดินเข้ามา

     

    ความรู้ใหม่วันนี้คือ คิมจงอินเป็นคนร้ายกาจ ผู้ชายคนนี้รู้ว่าจะทำยังไงให้คนฟังรู้สึกดีได้ และมันได้ผล เซฮุนนิ่งไปราวกับถูกสาปให้เป็นหิน ในขณะที่มนุษย์เข้าใจยากกำลังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน กินข้าวเช้าต่อไปอย่างสบายใจ

     

    ตอนแรกรู้สึกเหมือนถูกผลักลงเหว เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมคลายความสงสัยให้ เซฮุนเห็นเหวมืดเบื้องล่างเพียงแค่ครู่เดียว ความรู้สึกหวิวก็หายไปเมื่อรู้ว่าจงอินคว้ามือเขาเอาไว้ และฉุดให้กลับมายืนที่เดิม

     

    เพราะเหตุผลนั้น จงอินถึงได้เข้าใจไปเองว่าเขาชอบอ่านหนังสือเกมสินะ

     

    กินสิ ชอบไม่ใช่เหรอ? เด็กตัวผอมมองคนข้าง ๆ ที่คีบไข่ม้วนมาวางไว้มุมกล่องฝั่งนี้ โอเซฮุนอยากชมตัวเองที่สามารถฝืนยิ้มเอาไว้ได้มาจนถึงวินาทีนี้ และเขาตั้งใจว่าจะฝืนต่อไปจนกว่าเราจะแยกกันไปเรียน

     

    มันเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่คนอื่นอาจจะมองข้าม แต่พอเป็นสิ่งที่จงอินมอบให้ มันเลยเป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกดี เซฮุนกินไข่ม้วนชิ้นที่สามแล้ว เขาเป็นคนกินเก่ง แต่จากอาหารเช้าที่กินไปพร้อมพ่อแม่ ก็ทำให้อิ่มยาวไปจนถึงตอนเที่ยง ซึ่งเด็กหนุ่มไม่รู้สึกผิดกับกระเพาะตัวเองเลยสักนิดที่เลือกมานั่งอยู่ตรงนี้

     

    นายทำกับข้าวเก่งไหม

     

    ถ้าทำกินเองก็อร่อย แต่ไม่รู้จะถูกปากคนอื่นหรือเปล่า... ทำไม? ถามแบบนี้อยากกินฟรีอีกงั้นสิ?

     

    ฉันแค่อยากรู้ว่านายจะทำอะไรเป็นบ้างนอกจากไข่ม้วน ก็แค่นั้น เซฮุนกำลังรู้สึกดีสุด ๆ ไปเลยที่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับคนข้าง ๆ แน่นอนว่าเขาชอบให้เราทั้งคู่อยู่ในบรรยากาศแบบนี้มากกว่าต้องนั่งเรียบเรียงคำพูดเป็นไหน ๆ

     

    วันเสาร์จะทำให้กิน

     

     

    คิมจงอินกะเอาให้โอเซฮุนตายวันนี้เลยสินะ...

     

     

    แล้วจะเตรียมยาแก้ท้องเสียไปด้วย...

     

    เสียงของเขาแผ่วลงกว่าประโยคก่อนหน้านี้เป็นไหน ๆ เซฮุนกลัวว่าคนข้าง ๆ จะจับได้เหลือเกิน ว่าเขากำลังเขินมากแค่ไหนที่ถูกฮุคหมัดตรงนับครั้งไม่ถ้วนแบบนี้ตั้งแต่หน้าประตูโรงเรียน

     

    .

    .

     

     

     

    เสียงออดบ่งบอกเวลาพักเที่ยงดังไปทั่วอาคาร เซฮุนไม่ได้เดินออกไปข้างนอกเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่เขาเลือกที่จะนั่งอยู่ตรงนี้เป็นคนสุดท้ายเหมือนกับทุกวัน และปล่อยให้ความเงียบโรยตัวอยู่โดยรอบ

     

    เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองกระดานดำที่ยังคงเปื้อนชอร์คสีขาวอยู่เต็มไปหมด เขาได้แต่ถามตัวเองว่าความรู้สึกเฉาในตอนนี้มันคืออะไร ทั้ง ๆ ที่มันก็เป็นแบบนี้เหมือนเมื่อวานและวันก่อน ๆ

     

    อยู่คนเดียวในเวลาพักเที่ยง นั่นคือสิ่งที่เซฮุนเป็นมาตลอด แต่อยู่ ๆ เขากลับเหงาและคิดถึงการนั่งกินมื้อเช้ากับจงอินขึ้นมาเสียอย่างนั้น

     

    มันคงเป็นเพราะได้รับในสิ่งที่ห่างหายไปนาน ก็เลยรู้สึกโหยหามันมากขึ้น ซึ่งถ้าถามว่าดีไหม เซฮุนก็คงตอบว่ามันดีมาก ๆ กับการที่เขาได้นั่งกินข้าวกับคนที่ชอบ แต่มันก็ทำให้เขาโลภมาก อยากทำอย่างนั้นอีกทุกวัน

     

    ตอนนี้จงอินคงอยู่โรงอาหาร และเลือกนั่งโต๊ะติดหน้าต่างเหมือนอย่างเคย ถ้าเขาไม่รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้น เชื่อเถอะว่าตอนนี้โอเซฮุนคงพาตัวเองกับขนมปังไปหาม้านั่งตัวเดิมที่เขานั่งเป็นประจำแล้ว

     

    ได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอาขนมปังกับนมออกมาวางไว้บนโต๊ะ ก็แค่กินมันให้อิ่มนั่นแหละไม่เห็นจะยากอะไร เด็กหนุ่มมองซองขนมปังแล้วฉีกมันออก ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อใครอีกคนแย่งมันไปจากมือเขา

     

    ไง

     

    หวงจื่อเทา?

     

    ขนมปังไส้ครีมด้วย ของโปรดเลยนะเนี่ย ขอคำนึงได้ไหม? คนตัวสูงทำ หน้ากวนประสาทขณะมองมายังเขาก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะ

     

    จะเอาก็เอาไปทั้งหมดนั่นแหละ

     

    โธ่ ดูพูดเข้าสิ จื่อเทาหัวเราะแล้วยื่นซองขนมปังคืน เขาเห็นว่าเซฮุนมองมาราวกับกำลังจับผิดว่าเขาจะมาไม้ไหน ก่อนจะรับขนมปังกลับคืนไปผ้าขนหนูฉันล่ะ

     

    อ้อ ใช่ เซฮุนดูตกใจที่ถูกทักแบบนี้ ซึ่งมันโคตรน่ารัก น่าเอ็นดูเป็นไหน ๆ จื่อเทายิ้มพอใจขณะที่คนตัวผอมกำลังรูดซิปกระเป๋าเป้แล้วเอาผ้าขนหนูออกมาคืนเขา

     

    อะไรกัน ซักให้เรียบร้อยแล้วแต่ไม่ยอมเอามาคืนงั้นเหรอ

     

    ฉันลืมน่ะ แต่นายก็มาเอาเองแล้วนี่ ชอบเหลือเกินเวลาอีกคนทำหน้าเรียบเฉย แต่สายตาเหมือนกำลังคาดเดาความคิดเขาไปด้วย จื่อเทาไหวไหล่แล้วมองอีกคนที่กำลังจะกินขนมปัง แต่พอจะเอาเข้าปากแล้วก็ค้างอยู่ท่านั้น ก่อนจะเงยหน้ามองเขามีอะไรอีกหรือเปล่า

     

    ถ้าไม่มีอยู่ที่นี่ไม่ได้หรือไง เหงาอ่ะ นั่งด้วยคนดิ

     

    อย่ามากวนประสาทน่า เสียงเซฮุนดูติดรำคาญนิด ๆ แต่จื่อเทารู้ว่ามันไม่ได้อยู่ในระดับที่ต้องการไล่ให้เขาไปไกล ๆ หรอก

     

    นายกินแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ

     

    หมายถึงขนมปังหรือสถานที่ล่ะ เซฮุนมองอีกคนที่เดินไปนั่งเก้าอี้ตัวหน้าเขาก่อนจะเอาคางเกยท่อนแขนตัวเอง

     

    ทั้งสองอย่างเลย

     

    นี่นายไม่ไปกินข้าวหรือไง

     

    ตอบคำถามก่อนสิ อย่าเปลี่ยนเรื่อง คนชอบกวนประสาทยังคงตื๊ออย่างไม่ลดละ เซฮุนถอนหายใจแล้วกัดขนมปังโดยไม่สนใจคนที่เอาแต่นั่งจ้องเขาอยู่

     

    กินแบบนี้ทุกวัน ส่วนสถานที่ก็แล้วแต่อารมณ์น่ะ

     

    ไม่เบื่อแย่เหรอ ไปกินข้าวยำกันเถอะ

     

    ห๊ะ?

     

    ป่ะ กินข้าวยำกัน วันนี้ฉันเลี้ยง ไม่พูดอย่างเดียว จื่อเทาเดินอ้อมมาข้างหลังแล้วจัดการเอาซองขนมปังออกจากมือให้เสร็จสรรพ ก่อนจะคว้าแขนเขาให้ลุกขึ้นเดินออกไปด้วยกัน

     

    เซฮุนเบิกตาอย่างตกใจ เขาได้แต่ปล่อยให้ร่างกายเดินไปตามแรงดึงของอีกฝ่าย จื่อเทาไม่ได้ออกแรงมาก แต่ก็รู้สึกได้ว่ามันแรงกว่าที่คนปกติเขาจะทำกัน อาจเป็นเพราะผู้ชายคนนี้เป็นนักกีฬาด้วยล่ะมั้ง

     

    ทั้งคู่ตกเป็นเป้าสายตาในโรงอาหาร เขาเห็นว่าทั้งหญิงและชายต่างเอนหัวเข้าหากันกระซิบกระซาบ ซึ่งคนตัวสูงไม่ได้แคร์สายตาผู้คนเหล่านั้นเลย เมื่อกี้ได้ยินว่าหวงจื่อเทามีเรื่องกับโอเซฮุนเหรอ เขาจะต่อยกันใช่ไหม? และนั่นเป็นต้นเหตุที่ทำให้หมอนี่คลายมือออกแล้วเปลี่ยนมากอดคอเขาแทน

     

    เยด ๆๆ

     

    เสียงของปาร์คชานยอลมาพร้อมกับสีหน้าตื่น ๆ เมื่อเราทั้งคู่เดินเข้าไปใกล้ เซฮุนยังคงพยายามแกะแขนแกร่งออกให้พ้นจากคอเขา แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่หวงจื่อเทาก็ยิ่งออกแรงมากขึ้น แต่มันก็ไม่ถึงกับเจ็บ

     

    ...

     

    ไม่ใช่แค่ผู้ชายหูกางที่กำลังตกใจ ตอนนี้จงอินก็เช่นกัน ทันทีที่หัวไหล่ทั้งสองข้างถูกกดให้นั่งลงข้างปาร์คชานยอล เซฮุนก็นั่งตัวแข็งเมื่อคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามคือใครอีกคนที่เขาใช้เวลาเกือบสี่สิบนาทีไปกับการนั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน

     

    จงอินคงกำลังสงสัยว่าเพราะอะไรจื่อเทาถึงได้ลากเขามาที่นี่ด้วยท่าทางสนิทสนมเกินเหตุ ซึ่งมันคงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ถ้าหากเซฮุนจะอ้าปากบอกไปว่าฉันเปล่านะ หมอนี่ลากมาเอง เพราะเขาเองก็ยังหาเหตุผลที่จะพูดแก้ตัวออกไปไม่ได้ทั้งที่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน

     

    อะไรล่ะเนี่ย อะไรล่ะเนี่ย อะไร อะไร อะไร... ชานยอลรัวลิ้นพูดทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกห่าง ตอนนั้นจื่อเทาถึงได้หยัดตัวนั่งลงข้าง ๆ เซฮุนพร้อมรอยยิ้ม

     

    โอเซฮุนไง

     

    กูได้เกรดสี่ภาษาอังกฤษ ไม่ได้โง่ ชานยอลก้มหน้าลงสวนกลับไป ตอนนี้มีเพียงแค่จงอินเท่านั้นที่ยังไม่ปริปากพูด ผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยังคงเอาแต่จ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้น

     

    เฮ้ยจงอิน

     

    ว่า

     

    มึงอย่ามองแบบนั้นดิวะ จื่อเทาหัวเราะแล้วหันหน้าเข้าหาคนตัวผอมที่กำลังนั่งเกร็ง ก็รู้ว่าตอนนี้เซฮุนกำลังรู้สึกไม่ดี และเขากำลังจะช่วยทำให้มันดีขึ้นเซฮุนไม่ได้แย่อย่างที่คนอื่นว่าหรอกนะเว้ย

     

    นี่มึงไปรู้จักมักจี่กันตั้งแต่เมื่อไหร่ สอยดาวตามงานวัดแล้วได้ซองมาม่าเป็นรางวัลเหมือนกันงี้เหรอ ปากชานยอลยังคงไม่สงบ แต่ทุกคนก็ไม่ได้สนใจนัก

     

    เซฮุนกำลังอึดอัด ยิ่งจื่อเทาพูดมันก็ยิ่งไปกันใหญ่ จากที่เห็นก็พอจะรู้ได้ไม่ยากว่าจงอินไม่ได้เล่าเรื่องเขาให้เพื่อน ๆ ฟัง

     

    เอาเป็นว่ากูรู้แล้วกัน เดี๋ยวมาคุยต่อ ไปซื้อข้าวกันเถอะเซฮุน เจ้าของชื่อเลิ่กลั่กเงยหน้าขึ้นก่อนจะหันไปทางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เด็กตัวผอมลุกขึ้นตามแรงดึงของอีกฝ่ายก่อนจะเดินไปกับหวงจื่อเทาอย่างปฏิเสธไม่ได้

     

     

    .

    .

     

     

    กูว่าเชี่ยเทาโดนน้ำมนต์มาแน่ ๆ

     

    อาจเป็นงั้น จงอินหัวเราะในลำคอ แล้วกลับมาสนใจกับอาหารเที่ยงอีกครั้ง หลังจากใช้เวลาเกือบนาทีในการเรียบเรียงความคิด

     

    เดี๋ยวนะ

     

    อืม

     

    เดี๋ยวเลยเดี๋ยว นะนะนะน๊าน... จงอินเงยหน้ามองเพื่อนตัวสูงที่กำลังยิ้มอย่างมีเลศนัย อีกทั้งยังชี้หน้าเขาราวกับมีเรื่องจะพูดกูเพิ่งนึกได้

     

    อะไร

     

    ซอนฮวาเคยบอกกูว่ามึงกับไอ้เทาผลัดกันควงโอเซฮุน ไอ้ห่า...ถ้ามันไม่พาหมอนั่นมาวันนี้ กูคงตายไปพร้อมกับความคาใจนี้แน่ ๆ

     

    ...

     

    ช้อนในมือค้างอยู่ในระดับเดิมก่อนที่มันจะถูกวางลงในจานอาหาร เขารู้ว่าโซลแคบนิดเดียว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีคนเห็นเข้า โดยเฉพาะคนใกล้ตัวอย่างฮันซอนฮวา ซึ่งการที่เขากับเซฮุนเจอกันมันก็ไม่ได้แย่ แต่ที่จะแย่ก็ตอนที่ไอ้ห่าเทาพาหมอนั่นมาแนะนำให้รู้จักทั้ง ๆ ที่เขากับเซฮุนไม่ได้คุยกันครั้งแรกนี่แหละ

     

    จงอินมองไปทางเพื่อนสนิทที่กำลังพาอีกคนเลือกเมนูมื้อเที่ยง ก่อนจะหันหน้าเข้าหาเจ้าหนูจำไมตัวเท่าควาย ที่กำลังสงสัยจนเรียกได้ว่าเสือก

     

    มึงรู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ

     

    เหยียบ? นี่หมายความว่าที่ฮันซอนฮวาพูดเป็นเรื่องจริงงั้นดิ? ชานยอลเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง นี่เขาเชื่อในอุดมการณ์กะโปก ๆ ของเพื่อนทั้งสองคนมาตลอดเลยนะ ว่าต่อให้ตายยังไงมันก็คงไม่มีทางเข้ากับมนุษย์โอเซฮุน ผู้หลงใหลในความวัลลาบีได้แน่ ๆ แล้วนี่มันอะไรกัน!

     

    ไม่ถึงขั้นควงหรอก แต่ตอนนี้มึงอย่าพูดอะไร ไว้กูเล่าให้ฟัง

     

    ถ้าจะบอกไอ้เทาว่าเขารู้จักเซฮุนมาสักพักแล้ว งานนี้คงมีคำถามอีกยาวเหยียด และอาจจะเกิดการเสียฟอร์มที่แนะนำตัวว่าว ๆ ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างรู้จักกันอยู่แล้ว อีกทั้งเรื่องที่ไอ้ห่าเทาอาจจะหยิบขึ้นมาน้อยใจว่า ทำไมเป็นเพื่อนกันแล้วถึงไม่เล่าให้ฟังบ้าง ซึ่งเขาไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้น

     

    เล่าตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ ต่อมเสือกกูดิ้นพั่บ ๆ แล้วเนี่ย ชานยอลประสานมือไว้ใต้คางทำท่าเหมือนตุ๊ด เรื่องเสือกนี่ขอให้ไว้ใจผม ไอ้สัด

     

     ไว้เดี๋ยวเล่า มันไม่มีอะไรลึกซึ้งอย่างที่มึงคิดแล้วกัน

     

    นิดนึงก็ได้ แง้มหน่อย ชานยอลจีบมือทำท่าประกอบ

     

    กูแค่บังเอิญเจอเซฮุนตอนมันโดนรุมกระทืบ

     

    มึงเลยไปช่วยว่างั้น

     

    ไม่ได้ช่วย ตอนนกูเจอ พวกมันก็อัดเซฮุนจนพอใจแล้ว

     

    โหย มึงนี่ไม่พระเอกเลยห่า คนจริงต้องเอาตีนไปจูบหน้าเรียงตัว แล้วหันไปยักคิ้วให้โอเซฮุนพร้อมปิดท้ายด้วยคำว่ามาแค่นี้ไม่คณาตีนกูหรอกนะ หึอะไรอย่างนั้นดิ

     

    ปัญญาอ่อน มึงเอามุกนี้ไปหยอดใส่แบคฮยอนเถอะ จงอินส่ายหน้าหน่าย ๆ

     

    ให้หยอดมันเหมือนไล่กูไปตาย ทุกครั้งที่กูทำอย่างนั้นเหมือนสายตาของมันกำลังถามว่าชานยอลเป็นส้นตีนอะไรอ่ะทุกครั้งเลยห่า

     

    ก็สมควรแล้ว

     

    มันสองคนมาแล้ว ทำตัวให้เป็นปกติเร็ว!” ชานยอลนั่งยืดหลังตรง วางมือทั้งสองข้างไว้บนโต๊ะอาหารก่อนจะชำเลืองมองโอเซฮุนที่หยัดตัวนั่งลงที่เดิมข้าง ๆ เขา และตามด้วยไอ้เทาน่ากินจังเนอะ

     

    ไปซื้อสิ

     

    ...

     

    จงอินหลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ได้ นอกจากแบคฮยอนที่ทำให้ไอ้ชานยอลหน้าสั่นได้แล้ว ก็คงมีเซฮุนอีกคนนี่แหละ

     

    ไหนมึง เล่ามาเลย ไปรู้จักกันได้ไงวะ ชานยอลถามแก้เขินหลังจากถูกเบรกจนดริ๊ฟท์โค้งลงเหว แต่จื่อเทาเลือกกินข้าวก่อนที่จะตอบคำถามเพื่อนนี่เซฮุน นายรู้ไหมว่าไอ้เทามันเหม็นขี้หน้านายมาก

     

    รู้ แต่เขาก็ยังลากฉันมาที่นี่

     

    เหยดแหม่...มึงไปลากเขามาทำไมห๊ะ!!! ไอ้ชาติชั่ว!!! มึงมันมือถือสากปากถือตีน!!! ตอนนินทาเขานี่น้ำลายฟุ้งเลยไอ้ห่า แล้วตอนนี้คืออะไร!!!” ชานยอลลุกขึ้นโน้มตัวข้ามหัวเซฮุนไปทุบจื่อเทา เด็กตัวผอมงอตัวลงเพื่อหลงองศามือนั้น ก่อนจะสบตากับใครอีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

     

    ห่า กูขอแดกข้าวก่อนได้ไหมล่ะ

     

    ไม่ได้ มึงไม่มีสิทธิ์ทำให้กูค้างคาใจนะเทา

     

    ก็เมื่อวานกูไล่บี้ไอ้พวกแก๊งสวะที่นินทาว่ากูได้เหรียญทองเพราะแข่งว่ายน้ำสองคน แต่ตอนนั้นพวกมันกำลังจะเล่นเซฮุน เลยเป็นโชคของหมอนี่ที่กูเข้าไปจังหวะนั้นพอดี จื่อเทาอธิบายแล้วหันมายิ้มให้คนข้าง ๆ

     

    นี่ไง มึงดูไว้ พระเอกตัวจริง!!!” ชานยอลบอกจงอินพร้อมชี้นิ้วไปทางเพื่อนเจ๊กที่นั่งอยู่ทางสุดขวามือ ตอนนั้นเขาถึงได้รู้ตัวว่าหลุดพูดออกมาเมื่อจงอินถลึงตาใส่

     

    เซฮุนมานั่งกินข้าวกับเราได้ใช่ไหมวะ? จื่อเทาถามความเห็นเพื่อนอีกสองคน ซึ่งชานยอลแบมือออกทั้งสองข้างแล้วยักไหล่เป็นเชิงบอกว่าก็แล้วแต่ ส่วนอีกคนยังเงียบอยู่แล้วมึงล่ะจงอิน

     

    ก่อนตัดสินใจทุกอย่าง มึงถามความสมัครใจเขาหรือยัง

     

    เออว่ะ พอได้ยินแบบนี้จื่อเทาเลยนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหันหน้าเข้าหาเซฮุนนายอยากมานั่งกินมื้อเที่ยงกับพวกเราไหม?

     

    เด็กตัวผอมไม่ได้ตอบคำถามในทันที เซฮุนเอาแต่มองหน้าจงอินระหว่างใช้ความคิด ตอนนั้นเขาได้แต่คิดว่าถ้าอ่านใจอีกฝ่ายผ่านทางสายตาได้ก็คงดี และเขาจะทำตามทุกอย่างที่จงอินอยากให้ทำ

     

     

    แต่เขาก็อ่านใจจงอินไม่ออกอยู่ดี

     

     

     

    ฉัน...

     

    หืม?

     

    ฉันชอบกินคนเดียวมากกว่า

     

    นั่นไง มึงนี่มันเผด็จการจริง ๆ หวงจื่อเทา ถามหน่อยครับ พี่มาจากชิงเต่าหรือโซเวียต ชานยอลดูจะสะใจมากที่สุด ซึ่งจื่อเทาดูผิดหวังกับคำตอบนี้ แต่มันคงดีกว่าถ้าเขาจะรักษาระยะห่างเอาไว้

     

    ไอ้จงอิน มึงอ่ะทำให้เซฮุนอึดอัด ลดอคติบ้างดิวะ จื่อเทาโบ้ยให้เพื่อนสนิทที่ชี้หน้าตัวเองพร้อมเลิกคิ้วขึ้นเมื่ออยู่ ๆ ความผิดเสือกมาอยู่ที่เขา

     

    กู?

     

    ใช่ ก็มึงไม่ชอบขี้หน้าเซฮุน

     

    มึงก็พอกันเลยค่ะ ไม่ต้องปาขี้ให้เพื่อน ชานยอลว่า

     

    ก็คงงั้นมั้ง จงอินมองมายังเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยถ้ามึงไม่อคติก็ดีแล้ว

     

    คงงั้นหมายความว่ายังไง เซฮุนอดไม่ได้ที่จะถาม จื่อเทาเห็นว่าท่าไม่ดีเลยวางมือลงบนไหล่คนข้าง ๆ เพื่อบอกให้ใจเย็น

     

    ฉันไม่บอกนายหรอก สายตาของจงอินที่มองมาเหมือนกับว่าอยากพูดอะไรอีก และเขาก็ต้องการที่จะรู้

     

    แล้วนายล่ะเซฮุน หมั่นหน้าพวกเราสามคนเหมือนพวกห้องอื่นหรือเปล่า ชานยอลถาม เพราะเขาก็พอจะรู้อยู่ว่านักเลงกลุ่มอื่นก็เหม็นหน้าพวกเขาอยู่ไม่น้อย

     

    ฉันเฉย ๆ กับนาย...แต่กับคิมจงอิน ประโยคหลังมองไปยังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาจริงจัง ท่ามกลางความสงสัยของชานยอลและจื่อเทาก็คงงั้นมั้ง

     

    ควรดีใจไหมเนี่ย มีคนแสดงออกว่าไม่ชอบต่อหน้าแบบนี้ จงอินพูดด้วยท่าทางสบาย ๆ ก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อหลังจากทิ้งช่วงไปพักหนึ่ง

     

    ไม่เอาน่าเซฮุน ไอ้จงอินไม่ได้แย่อย่างที่คิดหรอก มันแค่เป็นคนไม่ค่อยพูดน่ะ จื่อเทาพยายามแก้ต่างให้เพื่อนสนิท ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกผิดที่แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันมาก่อน

     

    ไม่รู้มาก่อนเลยนะ คิดว่าเป็นคนคุยเก่งซะอีก ทั้งสองคนยังไม่ละสายตาออกจากกันและกัน คงมีเพียงแค่จื่อเทาและชานยอลที่กำลังเป็นกังวลว่าสองคนนี้จะขบหัวกันเมื่อไหร่

     

    อยากให้คุยด้วยหรือไง

     

    ที่ถาม เพราะหวังคำตอบหรือเปล่า

     

    เหยดแหม่... ชานยอลอุทานเบา ๆ พลางมองจงอินกับเซฮุนสลับกันไปมา

     

    ไอ้จงอินก็เป็นงี้แหละ ต้องมีคนชวนคุยมันถึงจะคุยด้วย จื่อเทายังคงพยายามช่วย เพราะไม่อยากให้เซฮุนรู้สึกไม่ดีกับเพื่อนสนิทของเขา

     

    ก็ตามนั้น จงอินมองหน้าจื่อเทาก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่คนตัวผอมอีกครั้งถ้าอยากให้คนพูดน้อยคุยด้วย ก็ชวนคุยให้มากขึ้นสิ ไม่เห็นจะยากตรงไหน...

     

    ประโยคเมื่อครู่ก็ยังคงสบาย ๆ เหมือนอย่างที่เจ้าตัวชอบทำ เซฮุนกำลังพยายามกลั้นยิ้มกับประโยคที่ราวกับจะบอกว่าฉันคุยไม่เก่ง เพราะงั้นนายต้องชวนฉันคุยให้มากกว่าเดิมนะรู้ไหม

     

    ไปไหนคะที่รัก ชานยอลเงยหน้ามองอีกคนที่ลุกขึ้นพร้อมจานอาหารที่กินหมดแล้ว จงอินค้างอยู่ท่านั้นก่อนจะมองทั้งสามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

     

    อาจารย์นัดกูไปคุยเรื่องเข้านิติฯ ไว้เจอกันคาบบ่าย

     

    เซฮุนได้เพียงแค่มองตามแผ่นหลังอีกคนที่กำลังเดินออกไปจากโรงอาหาร ตอนนี้เด็กหนุ่มอยากรู้เหลือเกินว่าจงอินกำลังคิดอะไรอยู่ เรื่องที่เขารู้จักหวงจื่อเทาตั้งแต่เมื่อคืน แต่กลับไม่ได้เล่าให้จงอินฟังเมื่อเช้า

     

    แต่พอมานึกดูแล้ว บางทีเซฮุนอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้ เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจงอินสนใจเรื่องนี้หรือเปล่า

     

    กินข้าวได้แล้ว เสียงของจื่อเทาเรียกให้หลุดออกจากความคิด เซฮุนพยักหน้าก่อนจะหันมาสนใจกับมื้อเที่ยงของโรงเรียนที่ไม่ได้กินมานานอย่าคิดมากนะ ไอ้จงอินมันนิสัยดีจริง ๆ ฉันคอนเฟิร์ม

     

    ไม่คิดมากหรอก ขอบใจนะ ทั้งคู่มองหน้ากันครู่เดียวก่อนจะหลุดยิ้มออกมา

     

    ถึงตอนแรกเขาจะไม่ค่อยชอบการแสดงออกของจื่อเทา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้เซฮุนกำลังรู้สึกอิจฉาจงอินที่มีเพื่อนแบบนี้ มันจะมีสักกี่คนที่คอยพูดแก้ต่างให้เพื่อนอยู่ตลอดเวลา เพราะกลัวว่าคนอื่นจะมองเพื่อนไม่ดี นี่เป็นข้อดีอีกข้อที่เซฮุนมองเห็นในตัวจื่อเทา

     

    แรงสั่นของสมาร์ทโฟนขัดจังหวะการกินมื้อเที่ยง เซฮุนล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเปิดดู แล้วก็พบว่าข้อความนี้มาจากคน ๆ เดียวกับเมื่อตอนเช้า

     

    เซฮุนไม่สามารถกลั้นยิ้มได้อีกต่อไป เขาต้องก้มหน้าลงแล้วเม้มริมฝีปากก่อนจะเก็บมือถือใส่กระเป๋าเพราะกลัวจื่อเทาหรือชานยอลเห็นเข้า เด็กหนุ่มรู้สึกร้อนไปทั้งหน้าและใบหู หัวใจที่เคยเต้นเป็นจังหวะปกติกลับเร็วแรงยิ่งขึ้นเพราะตัวหนังสือแค่ไม่กี่ประโยค

     

     

    คุณได้รับข้อความจาก...

    ซอนแซงนิม

    [ วันเสาร์มีการบ้านต้องส่ง 1 ข้อคือ... อธิบายเรื่องของนายกับไอ้เทามาให้หมด พร้อมบอกความรู้สึกที่มีต่อมัน ข้อนี้ 5 คะแนน ถ้าตอบดีอาจมีจิตพิสัยเพิ่ม ]

     

     

     

     

    TBC

     

     

    เห็นผมนิ่ง ที่จริงผมหึงนะครับ

     

     

     หมายเหตุ :: ฉากที่ชานยอลคึยกับจงอินว่า ซอนฮวาเล่าเรื่องจงอินกับจื่อเทาผลัดกันควงเซฮุน เราเขียนหลงทามไลน์ฟิคนะคะ เพราะจากที่ชานยอลคุยกับซอนฮวาใน #มนุษย์แบคฮยอน เป็นฉากที่ชานยอลทำงานพิเศษอยู่ในร้านกาแฟค่ะ (ในวันหยุด) แต่ในตอนนี้ที่เราเขียน ชานยอลพูดเหมือนได้ฟังเรื่องนี้มานานแล้ว (ทั้งๆที่จื่อเทาเพิ่งเจอเซฮุนเมื่อวานเอง) อันนี้เราพลาดเองค่ะ มึนสุด หลงทามไลน์เอง ต้องขอโทษแฟนฟิคทุกท่านที่เราไม่ละเอียดเองนะคะ ครั้นจะเข้าไปแก้ฉากก็แก้ไม่ได้แล้ว เราเลยขออนุญาตใช้วิธีชุ่ยๆ คือการแถในตอนต่อไปนะคะ ว่าซอนฮวาเข้าใจผิด คิดว่าที่ไปด้วยคือจื่อเทา แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ (ขอโทษจริงๆค่ะ รู้สึกผิดมากที่เขียนทามไลน์ผิด)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×