คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : Scene 05 :: เรามันชอบทำให้หึง
Scene 05
เรามันชอบทำให้หึง
“ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไร”
“ขอโทษจริง ๆ อะ คือ -- เมื่อคืนฉันดูควายมาก ควายแบบชุบแป้งทอดเลยด้วย”
“ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง อย่าคิดมากสิ” พระเอกหนุ่มชาวจีนพูดกลั้วหัวเราะ พร้อมถอดหมวกอีกคนออกแล้วยีผมเจ้าของสีหน้าจริงจังที่กำลังแสดงออกให้เขาเห็นว่ารู้สึกอย่างที่พูดจริง ๆ
ลู่หานอยู่ในชุดนักเรียนมอปลาย ในกองถ่ายละครซึ่งเริ่มเป็นวันแรก ทั้งคู่ยืนสบตากันนิ่งระหว่างสไตล์ลิสต์ช่วยแต่งเติมแป้งและจัดเผ้าผมให้พระเอกหนุ่ม แบคฮยอนกลอกตาลอกแลก พร้อมภาวนาให้หญิงสาวออกไปไว ๆ กระทั่งตรงนี้เหลือเพียงเขาสองคน
“กับรุ่นพี่ชานยอลน่ะ ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
“โธ่ รายนั้นสบายมาก” แบคฮยอนหัวเราะพลางโบกมือปัดปฏิเสธราวกับเป็นเรื่องตลก
ห่าจิก เมื่อเช้ากูแทบคลานลงจากเตียง แต่พ่อพระเอกคนเก่งนี่เดินตัวเบาไปอาบน้ำเตรียมพร้อมออกไปทำงานโดยไม่มีทีท่าว่าจะทรุด แถมยังตามมาฟัดแก้มฟอดใหญ่ และชี้นิ้วลงบนปลายจมูกเขาปิดท้ายด้วยคำว่า
‘อย่าดื้อกับพี่อีกนะครับ’
ห้าปีบ้าบอไรไม่เห็นจะหายเขินเลย แบคฮยอนได้แต่มองผู้ชายหุ่นดีที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์ก่อนออกไป ได้ยินแว่ว ๆ ว่า ‘ช่างภาพคนนั้นเหรอ? จัดการเลยสิครับ ไม่เห็นต้องคิดเยอะเลย’ พี่พระเอกพูดกลั้วหัวเราะ
จุดนั้นต่อมเสือกทำงานตุบ ๆ จึงทิ้งเวลาห่างไปสิบห้านาทีแล้วค่อยโทรถามพี่อี้ฝาน สรุปได้ใจความว่าพี่ชานยอลปิดปากช่างภาพที่ตามไปถ่ายรูปเขากับลู่หานเมื่อคืน ซึ่งพระเอกคนเก่งก็มีเส้นสายมากพอที่จะจัดการอย่างง่ายดายโดยไม่ปล่อยให้ฝ่ายนั้นเอาเรื่องได้
แต่ตอนนี้แบคฮยอนพอจะเดาออกว่าลู่หานคงไม่แฮปปี้สักเท่าไหร่
“แปลกหรือเปล่า ถ้าฉันจะบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายกับรุ่นพี่ชานยอลมันดู...” หนุ่มชาวจีนเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งระหว่างสบตากับอีกฝ่ายที่กำลังยิ้มตาเหลือก
ฉิบหายแล้ว... อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกขนลุกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก เมื่อคืนก็พอจะจำได้อยู่ว่าเมาหนัก และตอนเช้าพี่ชานยอลก็เล่าแค่ว่าลู่หานหิ้วเขาออกมาและจะพาไปส่ง แต่พี่เขาไปเจอตอนขึ้นรถพอดีก็เลยรับช่วงต่อ ตอนนั้นก็ไม่แปลกใจอะไร แต่ตอนนี้ทำไมถึงสังหรณ์ใจแปลก ๆ ว่าพี่พระเอกนางจะเล่าไม่ครบ
แบคฮยอนกลืนน้ำลายเอื้อก ถ้าถูกยิงคำถามเชิงเฮอเร่อขึ้นมาจะตีหน้ามึนสู้เลยนะ เหมือนที่เคยทำมาตลอดอะ นอกจากไอ้เตี้ยมะขามป้อมแล้วใครโลกนี้ก็จะไม่มีวันได้รู้เรื่องที่เขาคบกับพี่ชานยอลอีก
ท่ามกลางสายลมหนาวช่วงสิ้นปี ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกและปล่อยให้สายตาเป็นตัวช่วย ลู่หานจ้องตาเขาราวกับจะบอกว่า ‘จับได้แล้ว’ ซึ่งแบคฮยอนก็ได้แต่ยิ้มสู้ เอาดิ ถ้าลั่นมาเดี๋ยวจะแถกลับให้ดู!
“โบรแมนซ์มาก ๆ”
สึด... กูก็ลุ้นอยู่ตั้งนาน
“ใช่ปะ ใคร ๆ ก็พูดงี้” แบคฮยอนยิ้มพร้อมระเบิดหัวเราะออกมา “แหม่ ก็คนมันสนิทกันอะเนอะ พี่ชานยอลแกไม่มีพี่น้องไง ก็เลยเอ็นดูฉันมากกว่าคนอื่นหน่อยอะ แค่นิดเดียวนะ” คนตัวเล็กจีบนิ้วชี้เป็นท่าประกอบ “แมน ๆ คุยกัน” พูดจบก็ขมวดคิ้วปากยื่น ทำท่าชกมวย แต่ลู่หานกลับยิ้มบาง ๆ คล้ายว่าไม่ตื่นเต้นห่าเหวอะไรในคำตอบเขาเลยสักนิด
“อธิบายซะเห็นภาพเลยนะ” หนุ่มชาวจีนดึงปีกหมวกอีกคนเบา ๆ จนปิดดวงหน้าขาว แบคฮยอนขยับปากบ่น ก่อนจะดึงหมวกออกมาแล้วใส่เข้าไปอีกครั้ง
“นายเป็นนักเรียนนะไป๋เฟยเถา เล่นหัวรุ่นพี่ได้ไง เดี๋ยวเหอะ” เจ้าของบทพระเอกที่ถูกข่มกำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดี ลู่หานยังไม่ละสายตาจากความมีเสน่ห์ของคนตรงหน้า และเขาอยากจะมองแบบนี้ต่ออีกสักหน่อยระหว่างพักกอง
“พูดแบบนี้อยากเดินด้วยไม้เท้าใช่ไหมไอ้หน้าจืด?” ลู่หานเลื่อนใบหน้าเข้าไปสบตากับคนสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครนี้พร้อมยักคิ้วกวน
“โอ้โห อย่างกะหลุดมาจากตัวหนังสือที่ฉันเขียน ไป๋เฟยเถานี่มันน่า --” แบคฮยอนต้องยั้งปากไว้เพราะระดับความสนิทกับลู่หานยังไม่หยาบกระด้างเท่าโดคยองซูที่คบหากันมาหลายปี
หนุ่มชาวจีนกำมือป้องปากขำอย่างกลั้นไม่อยู่ ก่อนจะงอตัวลงเพราะถูกอีกคนต่อยท้องเบา ๆ แต่ถึงอย่างนั้นแบคฮยอนก็ไม่สามารถทำลายรอยยิ้มจากใบหน้าเขาไปได้
“วันนี้ฉันมีความลับมาแลก สนใจไหม?”
“ไม่ล่ะ เรื่องแบบนั้นมันควรตายไปพร้อม ๆ กับฉัน” แบคฮยอนปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
“ถือว่าแชร์กันไง”
“ถ้าเล่าให้คนอื่นฟังได้แล้วมันจะเรียกว่าความลับได้ไงเล่าเอ้อออ” แบคฮยอนจิ๊ปากพลางส่ายหน้า
“ฉันยังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับนายก็เลยรู้ความลับไม่ได้สินะ” มาว่ะ ลู่หานมันเล่นลูกไม้ตัดพ้อ คนตัวเล็กขมวดคิ้วหรี่ตามองเจ้าของใบหน้าตีบทแตก ที่กำลังใช้ดวงตาใส ๆ ดราม่าความสัมพันธ์ของเรา ซึ่งมันก็ไต่ระดับมาตามความน่าจะเป็นแล้วปะวะ!!!
“ไม่ใช่งั้นดิ”
“งั้นเดี๋ยวฉันเล่าก่อน” หนุ่มชาวจีนยิ้ม แบคฮยอนอ้าปากเตรียมจะขัดแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ทันแล้ว “ที่จริงฉันก็เป็นนักเขียนเหมือนกัน”
“หะ?!”
“ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ?” ลู่หานยิ้มขำกับสายตาอีกคนที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ายังไงก็ไม่เชื่อ
“ฉันเคยเสิร์ชชื่อนายในอินเทอร์เน็ต เจอแต่เล่นหนัง ละคร ร้องเพลง แล้วก็ถ่ายแบบ ไม่เห็นจะมีหนังสือเล่มไหนขึ้นในหน้าค้นหาเลย ไม่ขี้โม้ดิ” จะผิดไหมถ้าลู่หานรู้สึกดีเพราะคำพูดอีกฝ่าย ซึ่งไม่ว่าเหตุผลจะเป็นเพราะความสนใจหรือแค่อยากรู้เฉย ๆ ก็ตาม
“ถ้าเจอสิแปลก เพราะฉันใช้นามปากกาอื่นที่ไม่มีใครรู้ว่านักแสดงที่ชื่อลู่หานเป็นคนเขียน”
“...”
“ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ก็ต้องหาความลับเด็ด ๆ มาแลก ตกลงไหม?” หนุ่มชาวจีนล้วงมือเข้าในไปกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทีสบาย ๆ ขณะที่อีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในสภาวะคาใจและอยากได้คำตอบอย่างถึงขีดสุด
“ขี้โม้ก็บอก”
“หรือจะไม่ใช่เรื่องความลับก็ได้ แต่เล่าเรื่องระหว่างนายกับรุ่นพี่ชานยอลให้ฉันฟังอย่างละเอียดแทน”
“เดี๋ยว ๆ ไอ้ความลับกับเรื่องพี่พระเอกนี่มันโยงกันไง” แบคฮยอนหรี่ตา
“ถ้านายตกลง ฉันจะแปลหนังสือทุกเล่มเป็นภาษาเกาหลีด้วยตัวเองและตีพิมพ์ให้”
“...”
คนตัวเล็กยืนนิ่งเมื่ออีกคนเลื่อนใบหน้าเข้ามาจนแก้มของเราเกือบชนกัน เสียงกระซิบของลู่หานนั้นเบาหวิว ราวกับว่าอยากให้เขาได้ยินคนเดียว
“แค่นายคนเดียว”
ถ้ารวมพี่พระเอกเข้าไปด้วย ลู่หานก็เป็นคนที่สองที่พูดจาชวนขนลุกใกล้หูแบบนี้ แบคฮยอนเอนตัวออกข้างเล็กน้อยเพื่อสร้างระยะห่าง ถลึงตายิ้มแห้งแล้วกวาดสายตาไปรอบข้างเพราะกลัวจะมีใครเห็นและจับภาพได้อีก ซึ่ง --
เจ็ทเข้! ตรงนอกรั้วนั่นมีแม่ ๆ แฟนไซต์จากจีนตั้งลำกล้องมาทางนี้กันเต็มเลยซั้ซซซซซ!!!
“คุณลู่หาน ไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันนะ” นางเอกสาวในชุดนักเรียนผู้รับบทอันจีมินเดินมาทางนี้พร้อมขวดน้ำดื่มในมือ
“อ้อ ได้ครับ”
“คุณแบคฮยอนก็ไปด้วยกันนะคะ” เธอหันมายิ้มอย่างเป็นมิตร ซึ่งนักเขียนวัยยี่สิบสองก็ตอบรับตามมารยาทก่อนสายตาจะหยุดอยู่ที่ขวดน้ำในมือเธอ ซึ่งสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ข้างขวดนั้น --
เดี๋ยว...
“เอ่อ ขวดน้ำนั่น --” แบคฮยอนยิ้มเจื่อน เขาพยายามชะเง้อมองผ่านซอกนิ้วเล็ก ๆ ของหญิงสาวซึ่งปิดบังสติ๊กเกอร์ที่ปิดข้างขวดน้ำไว้ ก่อนเธอจะโชว์ให้เขาได้เห็นกับตาว่า...
“อ๋อ อันนี้เหรอคะ” นางเอกสาวยิ้ม “เป็นฟู้ดซัพพอร์ทจากรุ่นพี่ชานยอลค่ะ เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เลย”
ว้อททททททททททททททท?!
“ฟู้ดซัพพอร์ท?” คนเป็นนักเขียนทวนคำพูด พร้อมชี้นิ้วลงบนพื้นเป็นเชิงถามว่าพระเอกสุดหล่อของโลกใบนี้อย่างปาร์คชานยอลเกี่ยวเชี่ยไรกับละครที่ตัวเองไม่ได้แม้แต่จะเป็นตัวประกอบเดินผ่านฉาก?
“ช่าย ยังมีอีกเยอะเลยนะ ทั้งของคาว ของหวาน คนในกองคอนเฟิร์มมาแล้วว่าอร่อยม๊าก”
“แต่นี่มันเป็นกองถ่ายของ --” แบคฮยอนยังคงงงตาแตก ถ้าเป็นของแฟนคลับก็จะไม่แปลกใจเลย แต่นี่คื้อออออออออออออออ
“เห็นคนในกองบอกว่ารุ่นพี่ชานยอลสนิทกับคุณลู่หานก็เลยอยากให้กำลังใจและสนับสนุนนักแสดงรุ่นน้องน่ะค่ะ เฮ้อ เขาน่ารักจัง ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณแบคฮยอนกับรุ่นพี่ถึงสนิทกันมาจนถึงตอนนี้ได้ เพราะเขาเป็นคนอ่อนโยนแบบนี้นี่เองสินะคะ” เจ้าของบทนางเอกขี้กลัวแต่ตัวจริงเอ๋อแดกกำลังเพ้อถึงพระเอกหนุ่มสุดฮอตของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนนั้นน่ะร้ายกาจแค่ไหน
พี่ชานยอลสนิทกับลู่หานเหรอค๊า
หนุ่มชาวจีนไม่ได้ฉายแววตาสงสัยอะไรอีก เพียงครู่เดียวที่คนรับบทเป็นพระเอกใช้เวลาไปกับการครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้าเรียกให้เราไปกินมื้อเที่ยงด้วยกัน ซึ่งแบคฮยอนก็เดินตามไปอย่างงง ๆ แม้ว่าจุดนั้นจะไม่ได้หิว แต่กูอยากรู้ว่าพี่พระเอกนางกำลังเล่นอะไร
พอเดินไปถึงก็ต้องผงะถอยหลัง กับฟู้ดซัพพอร์ทมากมายที่มาเป็นโทนเหลืองดำพร้อมแบนเนอร์ขนาดใหญ่ประหนึ่งจะให้คนทั้งโลกได้รู้ได้เห็นว่าปาร์คชานยอลเป็นคนรับผิดชอบปากท้องคนทั้งกองถ่ายนี้โดยไม่มีท่าทีว่าจะสะเทือนวงเงินในกระเป๋าเลยสักนิด
“ถ้าไม่ติดว่าต้องเข้าถ่ายละครต่อ... ฉันคงคะยั้นคะยอขอให้นายเล่าเรื่องผู้ชายคนนั้นเดี๋ยวนี้” ลู่หานไม่ได้ยิ้มเหมือนก่อนหน้านี้ ไม่แม้แต่จะฉายแววตาใส ๆ แบบที่ใคร ๆ ต่างก็ชื่นชม แบคฮยอนเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจดจ้องสายตาอยู่กับแบนเนอร์ผืนนั้น ที่มีรูปพี่ชานยอลพร้อมคำประกอบว่า
‘ช่วยรักลู่หานเหมือนที่ผมรักด้วยนะครับ~’
“ขอตัวห้านาที” แบคฮยอนชูนิ้วชี้ขึ้นพร้อมเดินถอยหลังออกมาจากตรงนั้น ซึ่งหนุ่มคนรับบทเป็นพระเอกก็ไม่ได้ห้ามหรือขอตามมาด้วย
คนตัวเล็กขยับปากบ่นอุบอิบขณะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกหาแฟนหนุ่มที่เคยบอกว่าเขาเอาแต่ใจ นี่ก็ไม่เคยย้อนมองดูตัวเองเล๊ย... มาเต็มสุด ทั้งฟู้ดซัพพอร์ททั้งแบนเนอร์ แน่จริงก็จ้างฟู้ดทรั๊กซ์เผื่อแผ่แฟนคลับลู่หานที่ถ่อหน้าบินมาจากปักกิ่งด้วยเลย --
ไหม...
“เชี่ย!!!” คนตัวเล็กผงะทันทีที่เห็นฟู้ดทรั๊กซ์รูปหน้าพี่ชานยอลเด่นหราจอดอยู่หลังกลุ่มแม่ ๆ แฟนไซต์กลุ่มนั้นที่เปลี่ยนจากถือกล้องเป็นถือของกิน หลังจากนักแสดงผู้เป็นที่รักหายลับเข้าไปด้านในแล้ว
อีฟู้ดทรั๊กซ์นี่มึงกระโดดออกมาจากความคิดกูเรอะ!!!!
( จ๋าที่รัก )
“มาจ๋งมาจ๋าอะไร อธิบายเรื่องฟู้ดซัพพอร์ทกองถ่ายมาเลยนะ!” พอพี่พระเอกรับสายก็โซโล่ทันที แบคฮยอนใช้มือซ้ายป้องปาก กวาดสายตามองไปรอบข้างอย่างระมัดระวังเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน
( รู้ได้ยังไงครับ? )
“ผมก็ไม่ได้ตาบอดปะ” แบคฮยอนเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม นี่อายุยี่สิบสองแล้วไม่ใช่สองสามขวบ
( อ้อ... นั่นคงเป็นประโยคขยายความว่าตอนนี้เราอยู่กองถ่ายกับลู่หานสินะครับ? )
“ไม่นอกประเด็นดิ อธิบายมาเลย”
( ต้องไปให้กำลังใจกันถึงกองถ่ายเลย แบบนี้ลู่หานคงถ่ายต่อถึงมะรืนได้โดยไม่ต้องนอนแน่ ๆ )
“อย่าพูดออกทะเลได้ปะ”
( พี่ก็แค่อยากเป็นกำลังใจให้พระเอกคนโปรดของเราก็แค่นั้นเอง ต้องทำเสียงบึ้งตึงใส่พี่แบบนั้นด้วยเหรอครับ เจ็บหัวใจเลย เด็กขี้อ้อนที่ขอให้พี่จูบไม่หยุดคนเมื่อคืนหายไปไหนแล้วนะ )
“ย่าห์! มันใช่เวลาเอาเรื่องนั้นมาพูดไหม?!” โว้ยยยยยยยย กูอยากฆ่าแฟนตัวเอง!
( ว่าแต่ลู่หานทานหรือยังครับ อาหารเกาหลีถูกปากถูกใจเขาหรือเปล่า? )
“ไม่ได้ถามไง แต่ขอเดาว่าไม่ชอบ” แบคฮยอนเชิดหน้าถลึงตาเถียงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เห็นหน้าเขา
( จะสื่อว่ารู้ใจกันดีสินะครับ? )
“ถ้าใช่แล้วจะทำไมเหรอ”
( พี่ก็จะจับเรากดลงกับเตียง แล้วทำแบบเมื่อคืนจนกว่าเราจะขอร้องให้หยุดไงล่ะครับ... )
“ไรอะ ลามกว่ะ” คนฟังถึงกับหน้าขึ้นสีจัด กับเสียงกระซิบแหบพร่าที่รู้สึกเหมือนว่าอีกฝ่ายยืนอยู่ตรงนี้ เป็นครั้งแรกหรือเปล่าที่เขาได้ยินพี่พระเอกพูดกึ่ง ๆ เซ็กส์โฟน แถมยังกลางวันแสก ๆ อย่างนี้
( เฟซไทม์หน่อยครับ อยากเห็นหน้า )
“NO”
พรึ่บ!
แบคฮยอนผละสมาร์ทโฟนออกมาเพื่อพบว่าอีกฝ่ายตัดสายไปกลางอากาศอย่างหน้าตาเฉย คนตัวเล็กเหลือกตามองอย่างหัวเสีย แต่ไม่ถึงเสี้ยววิก็ขึ้นหน้าจอเฟซไทม์เข้า บ้าเอ๊ย! เดี๋ยวนี้ไม่เคยถามเรื่องความสมัครใจหรอก นางทำเลย!
( เป็นไปตามที่คาด หน้าบึ้งเหมือนเด็กไม่ได้ของเล่น แบบนี้ต้องแคปรูปไว้ )
“อย่านะ!” คนตัวเล็กแยกเขี้ยวใส่เจ้าของใบหน้าหล่อซึ่งกำลังหัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่แกล้งเขาได้ พี่ชานยอลเอาแต่นับหนึ่งสองสามสี่ห้าระหว่างแคปรูปเขา และนั่นมันทำให้แบคฮยอนเดือดดด “พี่แม่ง!!!”
( ปากน่าจูบจังครับ )
“แต่ปากพี่น่าเตะ”
( พูดไม่เพราะ เดี๋ยวคืนนี้จะกัดให้ร้องไม่หยุดเลย )
“อี๊ แก่แล้วยังลามกอีก”
( จะให้ละมุนนุ่มลิ้นเหมือนพระเอกคนโปรดของเราก็คงไม่ได้ พี่ไม่ชอบซ้ำคาแรกเตอร์กับใครซะด้วยสิ )
“รู้เหรอว่าลู่หานละมุนแค่ไหน?”
( เป็นนักแสดงก็ต้องศึกษาคนที่ทำงานสายเดียวกันบ้าง )
“เขาบอกว่าจะแปลหนังสือเป็นภาษาเกาหลีให้ผมแค่เล่มเดียวอะ ละมุนเบอร์ใหญ่ปะ” คนตัวเล็กยักคิ้วถาม ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
( จงใจจะยั่วโมโหพี่เหรอครับ พรุ่งนี้อยากนอนเฉย ๆ บนเตียงทั้งวันใช่ไหม? )
แบคฮยอนแค่นหัวเราะ แลบลิ้นปลิ้นตาใส่คนขี้หวงที่กำลังขยับปากบ่นอย่างหัวเสียที่ไม่สามารถกระชากเขาไปดัดนิสัยได้
“พี่เคยคุยกับลู่หานถึงสิบประโยคเปล่าเถอะถึงไปเที่ยวบอกคนอื่นว่าสนิทกันอะ?”
( ถ้ายังยุ่งกับแฟนพี่ไม่เลิกเดี๋ยวก็สนิทกันเองแหละครับ )
แบคฮยอนทำปากยื่นสบตากับคนที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เขาเห็นว่าตอนนี้พี่อี้ฝานกำลังมาเรียกให้ไปถ่ายทำต่อ ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณว่าพี่ชานยอลต้องวางสายแล้ว
“อย่าบอกนะว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะหึงผม”
ทั้งคู่สบตากันผ่านหน้าจอมือถือ สายตาเฉียบคมคู่นั้นที่มองมาทำให้คนตัวเล็กอ้าปากด่าไม่ออก วันนี้พระเอกหนุ่มก็ยังหล่อเหมือนกับทุกวัน หล่อจนอยากรู้ว่าเคยเหนื่อยไหม พี่ชานยอลยังคงยิ้มซึ่งเขาไม่รู้ว่าควรดีใจดีไหมที่อีกฝ่ายไม่ขมวดคิ้ว ปั้นหน้าหงุดหงิดเพราะพิษรักแรงหึง
( เขียนนิยายรักมาตั้งกี่เรื่อง ถ้าเดาใจพระเอกที่คบกับแฟนมาห้าปีไม่ออกก็ให้รู้ไปครับ )
ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้และจูบหน้าจอจนเกิดเสียง ‘จุ๊บ’ ก่อนจะตัดสายและทิ้งให้เด็กน้อยวัยยี่สิบสองปียืนโง่ ๆ อยู่ตรงนี้พร้อมความร้อนวูบวาบที่เกิดขึ้นกับแก้มทั้งสองข้าง
บ้าเอ๊ย... จุดประสงค์หลัก ๆ คือต้องโทรไปเอาเรื่องปะวะ ไหงสุดท้ายกลายเป็นว่าบยอนแบคฮยอนต้องวางสายลงพร้อมความเขินสุดพลังติ่งแบบนี้ ‘คบกันมาห้าปีแล้ว แถมยังเกือบเลิกกันเพราะความเสร่อของตัวเองด้วย’ คนตัวเล็กพยายามบอกตัวเองเพื่อให้ชินกับผู้ชายคนนั้น แต่ก็ไม่ได้ผล
เด็กน้อยถอดหมวกออกพร้อมพ่นลมขึ้นจนหน้าม้าปลิว พลางหันไปมองเจ้าของรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนแบนเนอร์ฟู้ดทรั๊กซ์ ไอ้พี่พระเอกคนนิสัยไม่ดี ทำตัวเอาแต่ใจแล้วจะกลบความผิดตัวเองด้วยวิธีทำให้แฟนเขินแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนวะ!!!
TBC
ที่รักจ้า ตอนก่อนมี cut 2 ตอนน้า ใครยังไม่ได้อ่านยกสองก็เชิญเด้อ 5555555555
ความคิดเห็น