ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TEACH ME TO #ฟิคของทีมคุก SEASON 2 : PAINKILLER | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 01 :: Teach me to know. (ภาค 1 เป็นชายหญิง)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 46.41K
      477
      6 มี.ค. 60

     

    ? cactus

     CHAPTER 01

     

    Teach me to know

    ความอยากรู้อยากเห็นมักนำความยุ่งเหยิงมาด้วยเสมอ


     

     

     

     

    เอาจริงนะ ถ้าฉันต้องเสียพรหมจารีให้ใคร คน ๆ นั้นก็ต้องเป็นอาจารย์ชานยอล

    ถามอาจารย์ก่อนมะว่าเขาอยากได้หล่อนหรือเปล่า สวยก็จะไม่ว่าหรอก หน้าอย่างกะเห็บตากแดดทำเพ้ออยากได้เขาเป็นผัว

    เอ้า แล้วฉันผิดอะไรเหรอ ก็อาจารย์ทั้งหล่อ นิสัยดี สุภาพอ่อนโยน เป็นใครก็อยากได้ทั้งนั้น

    หล่อนไปได้ยินมาจากไหนว่าอาจารย์เป็นอย่างนั้น

    ก็ฟังเขาเล่ามาอีกทีอะ

    หึ พวกห้องซีเม้าท์กันให้แซ่ดว่าตั้งแต่อาจารย์ชานยอลย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ฟันนักเรียนไปหลายคนแล้ว นี่แค่เทอมเดียวเองนะ ที่เห็นทุกวันนี้ก็แค่สร้างภาพ

    จริงอะ...

    เออดิ พูดแล้วขนลุกเลย เห็นว่าที่โรงเรียนเก่าเคยทำนักเรียนท้อง เรื่องนี้รู้กันลับ ๆ แต่ทางผู้ใหญ่ไม่อยากตัดอนาคตก็เลยย้ายอาจารย์ชานยอลมาที่นี่

    จริงเหรอ...

    เห็นว่าเด็กผู้หญิงต้องลาออกเพราะท้องเริ่มโต หมดอนาคตเลยเธอเอ๋ย

    โอ๊ย แบดเวอร์ รักเลยอะ

    บยอนแบคฮีมองเพื่อนในกลุ่มที่ยังคงสนุกอยู่กับการพูดถึงอาจารย์หนุ่มผู้เลื่องชื่อทั้งด้านดีและด้านแย่ บางคนเลือกที่จะเชื่อว่าอาจารย์ปาร์คชานยอลเป็นเทพบุตรผู้แสนดี แต่บางคนก็เลือกที่จะเชื่อว่าเป็นผู้ชายเจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ และพร้อมที่จะฟันนักเรียนหญิงทุกคนที่ให้ท่า

     

     

    ซึ่งเรื่องเหล่านั้นต่างถูกเล่าปากต่อปากกันมา จนแยกแยะไม่ออกว่าเรื่องไหนเรื่องจริง

     

     

    แบคฮี เธอว่าไง?

    ว่า... ว่าอะไร? เด็กสาวขมวดคิ้วมองรอยยิ้มของเพื่อนที่ไม่สามารถเรียกว่าเพื่อนสนิทได้ แต่ก็มีเพียงสามคนนี้ที่รับเธออยู่ในกลุ่ม

    ถ้าอาจารย์ชานยอลขอมีอะไรด้วย เธอจะยอมไหม? อันยูจินยิ้มอย่างมีความหมาย และไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสามคนมองเห็นความท้าทายเกี่ยวกับบยอนแบคฮีเป็นเรื่องตลก

    ฉันต้องตอบกับสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือเปล่าด้วยเหรอ?

    แหม พวกหล่อนก็ อย่าแซวนักสิ แบคฮีมีหนุ่มในใจอยู่แล้วนะจ๊ะ เสียงหัวเราะกระแนะกระแหนช่างบาดหูจนรู้สึกรำคาญ คนตัวเล็กเพียงแค่นหัวเราะในลำคอเบา ๆ พลางรูดซิปกระเป๋าเป้

    เด็กสาวมอปลายปีสามได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมต้องสนใจเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนเอง แต่ความย้อนแย้งก็เกิดขึ้นเมื่อสายตาของเธอมักจะมองออกไปนอกหน้าต่างทุกครั้งที่เห็นว่าผู้ชายชุดวอร์มสีดำหุ่นผอมสูงดูดีกำลังสอนนักเรียนเล่นบาสท่ามกลางแสงแดดอ่อน ๆ

     

     

    ผู้ชายที่เจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ตอนหกโมงเช้าจะร้ายได้ขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?

     

     

    ครั้งหนึ่งเราเคยสบตากัน เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้นที่บยอนแบคฮีรู้สึกว่าโลกหยุดหมุน ก่อนเธอจะเบือนสายตาหันไปสนใจกระดานดำหน้าห้อง และปล่อยให้เรื่องเมื่อครู่เป็นเพียงความบังเอิญที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องตั้งคำถามให้ตัวเอง

     
     

    คุณได้รับข้อความจาก...

    โอเซฮุน

    [ เย็นนี้ไปเที่ยวกัน ]


     

    เด็กสาวมองสมาร์ทโฟนในมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของข้อความที่ยืนอยู่หน้าห้องกับเพื่อนผู้ชายหน้าโง่ที่คิดว่าตัวเองเจ๋งเสียเต็มประดา เสียงแซวไม่ได้ทำให้แบคฮีรู้สึกขลาดอายเลยสักนิด กลับกันแล้วเสียงผิวปากของเด็กผู้ชายเหล่านั้นยังทำให้โอเซฮุนดูโง่ยิ่งกว่าเดิมที่เลือกคบเพื่อนไม่เป็น

     

     

    ซึ่งเราคงเหมือนกันตรงนี้ เพราะแบคฮีก็ไม่ถนัดเรื่องเลือกคบเพื่อนสักเท่าไหร่

     

     

    ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเรียกว่าแฟนก็ไม่ใช่ เพราะเธอไม่ได้ตอบตกลงคบกับอีกฝ่ายอย่างเป็นทางการ โอเซฮุนเป็นผู้ชายร้ายกาจเกินกว่าที่จะเอาหัวใจไปผูกไว้ บยอนแบคฮีฉลาดมากพอที่จะปกป้องหัวใจจากความรัก แต่กลับไม่เคยฉลาดที่จะปกป้องมันจากเรื่องเซ็กส์

    ทั้งคู่มีอะไรกันไม่บ่อยนัก ถ้านับในหนึ่งสัปดาห์ก็ราว ๆ ครั้งสองครั้ง เพราะเดทแรกที่พังตั้งแต่การดูหนังน่าเบื่อ และคาราโอเกะที่ไม่มีใครอยากเสียเวลาไปกับการนั่งเปล่งเสียง ทุกอย่างเหมือนแพลนทางการโง่ ๆ ที่ถูกวางไว้ว่าต้องทำอย่างนั้นในเดทวันแรก

    เซฮุนเป็นคนมือไว และเธอก็รู้สึกง่ายจนการถูกปลุกอารมณ์ในรถต้องจบลงในโรงแรมในที่สุด หลังจากนั้นผู้ชายหน้าโง่ก็ได้ใจ คิดว่าจะแสดงความเอาแต่ใจอย่างไรก็ได้แต่คงไม่ใช่กับบยอนแบคฮี ซึ่งมันคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เซฮุนยังคงสนใจเธอมาจนถึงทุกวันนี้โดยไม่เบื่อไปก่อนเหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ

     

     

    เราไม่จำเป็นต้องรักกัน แบคฮีบอกตัวเองอย่างนี้มาตลอด

     

     

    คุณกำลังส่งข้อความถึง...

    โอเซฮุน

    [ ไม่ดีกว่า วันนี้พ่อฉันมารับ ]

     

     

     

     

    *

     

     

     

    แบคฮีโกหกจนเหมือนเป็นเรื่องปกติ เธอทำอย่างนั้นทุกครั้งที่รู้สึกต่อต้านกับสิ่ง ๆ หนึ่ง เด็กสาวในชุดนักเรียนกระโปรงสั้นเลยเข่าเดินไปตามฟุตปาธอย่างไม่เร่งรีบ สายตาทอดมองออกไปยังถนนกว้างที่มีรถขับผ่านอยู่ตลอด

    แสงจากเสาไฟข้างทางติดพร้อมกันเมื่อท้องฟ้าถูกความมืดกลืนกิน ดวงตาเรียวรีเงยขึ้นมองดวงจันทร์ที่วันนี้มีเพียงเสี้ยวเดียว แต่มันยังคงสวยแม้จะบิดเบี้ยวเหมือนใจของเด็กผู้หญิงอย่างเธอ

    โทรศัพท์ยังคงเงียบเหมือนกับทุกวัน ไม่มีใครโทรตามให้รีบกลับบ้านไปกินข้าว หรือไถ่ถามว่าตอนนี้ลูกสาวของตนอยู่ไหน มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แบคฮีจำความได้ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังเพราะพ่อแม่หย่าร้างกัน ซึ่งพ่อก็เลือกเทส่วนหนึ่งในชีวิตให้งานกับเมียน้อยเลขา และทิ้งเธอไว้กับแม่บ้านซึ่งเลี้ยงดูตามหน้าที่

    ด้วยความที่พ่อเป็นคนมีฐานะและชื่อเสียงด้านการเมืองในระดับหนึ่ง จึงเป็นปัญหาเล็ก ๆ ที่เริ่มใหญ่โตขึ้น สำหรับเด็กผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงดูด้วยเงินมาตลอด แบคฮีไม่รู้วิธีการพูดที่ถนอมน้ำใจคนหรือวิธีเข้าหาเพื่อนที่ถูกต้องนัก มันคงดีถ้าหากมีคนเตือนบ้างว่าบยอนแบคฮีทำอะไรผิด แต่สิ่งที่ได้รับก็เป็นเพียงคำแก้ตัวที่บอกว่าฉันไม่อยากให้เธอรู้สึกแย่ ก็เลยไม่อยากพูด

    มีอยู่สองอย่างที่เกิดขึ้นอย่างจำเจ ถ้าไม่ถูกปอกลอกเงินทองก็กลายเป็นขี้ปากเพื่อนที่เลือกมองเพียงภายนอก แต่จะว่าคนเหล่านั้นก็ไม่ได้ ในเมื่อบยอนแบคฮีเลือกแสดงออกให้เห็นอย่างนั้นเพราะไม่อยากเป็นคนอ่อนแอที่น่าสมเพช ดังนั้นเธอจึงต้องแลกความเข้มแข็งที่มองเห็นด้วยตา และสูญเสียโอกาสที่จะได้ความจริงใจไป

    เพื่อนที่คบด้วยทุกวันนี้ก็ใช่ว่าจะแสนดีจนต้องหลั่งน้ำตา แบคฮีเข็ดแล้วกับการไว้ใจคนอื่น แต่โชคดีหน่อยที่พ่อเป็นคนใหญ่คนโต ชีวิตของเด็กผู้หญิงคนนี้จึงไม่จบลงด้วยการโดนจับขังในห้องน้ำและถูกสาดน้ำถูพื้นใส่ อย่างมากก็แค่ถูกมองด้วยสายตาแปลก ๆ กับรอยยิ้มเย้ยหยันรังเกียจ ในทีแรกมันช่างเจ็บปวด แต่พอเวลาผ่านไปความรู้สึกเหล่านั้นก็ได้กลายเป็นเกราะคุ้มกันให้กับเธอในที่สุด

    เด็กผู้หญิงที่เคยเป็นสีขาวเริ่มมีจุดดำแต่งแต้มในหัวใจ มันเริ่มต้นจากการมีรักครั้งแรกกับรุ่นพี่ทีมฟุตบอลชื่อคิมจงอิน ผู้ชายคนนั้นช่างเอาอกเอาใจและดีกับเธอ ต่างจากคนอื่นที่เข้ามาเพื่อหวังประโยชน์ แต่เพราะแบคฮีไม่เคยได้รับความรักความใส่ใจ เด็กสาวจึงแสดงความเอาแต่ใจมากเกินไปจนอีกฝ่ายอึดอัดทนไม่ไหวและเลิกรากันไปในที่สุด

    เราจบกันด้วยดี... แม้แต่วินาทีสุดท้ายที่พี่จงอินบอกเลิก เขาก็ยังกอดเธอเอาไว้และอวยพรว่า...

     

     

    สักวันหนึ่งแบคฮีจะเจอใครสักคนที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ...บ้านที่ทำให้แบคฮีรู้สึกปลอดภัย และอยู่ที่นั่นได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม

     

     

     

    เด็กสาวเพียงแค่นหัวเราะก่อนปล่อยให้ผู้ชายแสนดีหายไปจากชีวิต โทษว่าเป็นเพราะทำตัวเองทั้งนั้นพี่จงอินถึงได้ทิ้งไป บยอนแบคฮีไม่กล้ารักใครอีก เธอกลัวการผูกมัดจนสุดท้ายก็จบลงที่อีกฝ่ายทนไม่ไหวและทิ้งเธอไว้ทั้ง ๆ ที่ยังรักอยู่เต็มหัวใจ

    ถ้าใจกล้ากว่านี้หน่อยคงเดินไปขอให้ใครสักคนซื้อบุหรี่ให้สักซอง แต่บยอนแบคฮีดันเกลียดกลิ่นบุหรี่นี่สิ...


    RRRrrrrr!!!


    ว่าไง?

    ( ฟรายเดย์ไนท์ ไปปาร์ตี้กัน )

    เอาสิ ที่เดิมเหรอ?

    ( โนจ้ะ เป็นผับเปิดใหม่ย่านคังนัม ฉันพอจะรู้จักคนที่จะพาเข้าได้ )

     อาฮะ

    ( แต่อาจต้องใช้เงินนิดหน่อยน่ะ เธอออกให้เราสามคนก่อนได้ใช่ไหมแบคฮี? )

     

     

    ที่โทรมาชวนก็เพราะเหตุผลนี้สินะ

     

     

    ...!!!”

    ฝีเท้าหยุดกึกพร้อมหัวใจที่เหมือนจะหล่นลงไปกับพื้นแล้วหลังจากรู้ตัวว่าเดินใจลอยข้ามถนนทั้งที่ยังไม่ขึ้นสัญญาณสีเขียว เด็กสาวชะงักพร้อมมองไปยังเจ้าของรถที่เกือบชนเธอ

    นัยน์ตาคู่สวยมองเข้าไปในฟิล์มมืด ก่อนไฟสีส้มบนเพดานรถจะสว่างขึ้นจนเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ดูแปลกตาไปเมื่ออยู่ในชุดเชิ้ตดำและปัดผมขึ้นจนเห็นหน้าผากกับโครงหน้าหล่อได้รูป ตรงเบาะข้างคนขับมีผู้หญิงผมยาวปากแดงกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งเหมือนว่ามันจะตกลงไปตรงที่วางเท้า

     

     

     

    อาจารย์ชานยอล...

     

     

    อาจารย์กำลังมองมาทางนี้โดยที่เธอไม่สามารถรับรู้ได้ว่าภายใต้ดวงตาคู่นั้นกำลังคิดอะไรอยู่ แบคฮีไม่ได้กล่าวขอโทษหรือโค้งศีรษะให้กับสถานการณ์ที่ยังเรียบเรียงสติไม่ได้ เธอจึงรีบวิ่งข้ามถนนไปเมื่อขึ้นสัญญาณสีเขียว

    โอเค... แล้วเจอกันที่นั่น

     

     

     

    *

     

     

     

    เด็กสาวก้าวออกมาจากโรงแรมหลังจากจองห้องพักและอาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว เธอก้มลงมองหน้าอกที่คับแน่นเดรสสีเลือดนกไร้สาย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเพื่อพบว่าผู้ชายที่เดินผ่านไปต่างมองเธอด้วยสายตาลามก

     

     

    แต่จะห้ามไงได้แต่งตัวแบบไหนก็ย่อมเรียกคนแบบนั้น

     

     

    เรียวขาก้าวเข้าร้านทำผม ดัดผมตรงให้เป็นลอนพร้อมแต่งหน้าจนไม่เหลือคราบเด็กมอปลาย ที่เปิดห้องในโรงแรมเพราะไม่คิดจะกลับบ้านด้วยสภาพดูไม่ได้อย่างนี้ ป้าแม่บ้านคงช็อกที่เห็นคุณหนูกลายเป็นเด็กใจแตกทั้ง ๆ ที่บยอนแบคฮียังหาคำตอบให้กับคำ ๆ นี้ไม่ได้ 

    เด็กสาวมองความแก่แดดในกระจกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะโบกแท็กซี่ไปผับย่านคังนัมตามที่นัดกับเพื่อนเอาไว้ เธอใช้เวลาเดินทางไม่มากนัก พอไปถึงก็พบว่าเพื่อนกำลังรออยู่แล้วและดูเหมือนว่าจะไม่พอใจสักเท่าไหร่

    แบคฮีไม่รู้ว่ายัยหน้าโง่ทั้งสามคนกำลังหัวเสียเพราะเธอมาถึงช้า หรือเป็นเพราะเดรสสีแดงตัวนี้มันโป๊แย่งซีนจนทำให้เกิดความอิจฉากันแน่

    เสียงเพลงดังกึกก้องชวนให้ลุกขึ้นไปเต้น เด็กสาวนั่งดื่มเงียบ ๆ บนโซฟาพร้อมมองไปยังผู้คนที่กำลังเต้นเบียดเสียดกันอยู่กลางฟลอร์ แบคฮีไม่ใช่คนดื่มเก่งนัก ดังนั้นเธอจึงมึนได้ง่าย ๆ ทั้งที่ดื่มค็อกเทลไปเพียงสองแก้ว

    แบคฮี เห็นโต๊ะนั้นไหม?

    อืม ทำไม?

    นั่นรุ่นพี่ซงมินโฮ เรียนอยู่มหาลัยยอนเซ รายนั้นน่ะฮอตบ้านแตกเลย ทั้งรวยทั้งหล่อ อันยูจินยิ้มอย่างมีความหมายพร้อมเอาแก้มแนบกับแก้มแบคฮีถ้าเธอพาเขากลับห้องได้ ฉันจะยอมคลานเป็นหมาแล้วเห่ารอบสนามหญ้าให้ดูเลย...

    ฮ่า ๆ หล่อนนี่ร้ายจริง ๆ

    แบคฮีอีกแล้วเหรอ ฉันก็อยากได้พี่เขาเหมือนกันนะ

    แบคฮีสบตากับชายหนุ่มเจ้าของชื่อที่กำลังยิ้มมุมปากพร้อมยกแก้วขึ้นทักทาย เธอไม่ได้อยากล่าแต้มอย่างที่ใคร ๆ เข้าใจ แต่การเห็นอันยูจินคลานรอบสนามหญ้าพร้อมเห่าเหมือนหมามันก็น่าสนุกดีเหมือนกัน

    เอาจริงเหรอ?คิมพาดาเบิกตาโพลง มองตัวตลกในกลุ่มซึ่งกำลังเดินไปเต้นกลางฟลอร์และยั่วยวนซงมินโฮทั้งที่ไม่ได้เดินไปหาที่โต๊ะ ทั้งสามคนเบ้ปากมองความดัจริตเกินหน้าเกินตาของเพื่อนที่ไม่เรียกว่าเพื่อน

    เพียงครู่เดียวก็รู้สึกได้ถึงสองมือที่วางลงบนเอวคอด ดวงตาคู่สวยปิดลงพร้อมรอยยิ้ม สองมือลูบไปตามแขนแกร่งก่อนจะเอียงศีรษะเล็กน้อยเมื่อคนที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังกำลังคลอเคลียกับซอกคอของเธอ

    เด็กแก่แดด

    ...

    แบคฮีขมวดคิ้วก่อนจะเอี้ยวหน้าหันไปพบว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังตอนนี้คืออาจารย์ชานยอล เด็กสาวเบิกตาโพลงอย่างตกใจ พอจะก้าวออกจากตรงนี้ร่างของเธอก็ถูกรั้งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มตัวสูงเสียแล้ว

    ใบหน้าหล่อมาพร้อมกลิ่นน้ำหอมในแบบผู้ใหญ่ แบคฮีกลอกตามองซ้ายขวาเพื่อดูว่าตอนนี้เพื่อนของเธอกำลังมองอยู่หรือไม่ ก่อนใบหน้าเรียวจะถูกบีบคางเบา ๆ ให้หันมาเผชิญหน้ากัน

    คิดจะทำอะไร?

    นั่นควรเป็นคำถามของผมหรือเปล่าว่านักเรียนอายุไม่ถึงอย่างคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? เสียงทุ้มต่ำที่เคยได้ยินไกล ๆ ตอนสอนว่ายน้ำกำลังกระซิบอยู่ข้างหูจนรู้สึกขนลุก

    หนูก็แค่มาเที่ยวเหมือนเด็กคนอื่น ๆ

    ครับ ผมคงไม่คิดว่าคุณแต่งตัวแบบนี้มานั่งอ่านหนังสือหรอก เด็กสาวขมวดคิ้วมองอย่างไม่สบอารมณ์กับคำตอบ ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าอาจารย์ปาร์คชานยอลเป็นคนช่างประชดประชัน

    กำลังจะทำตัวเป็นครูที่ดีเหรอคะ? แบคฮีก้มลงมองมืออีกฝ่ายที่ยังโอบเอวเธอไว้ ถ้าใช่ก็ระวังหน่อย

    ระวัง? อ่า โทษที พอดีหน้าอกของคุณมันบังจนผมมองไม่เห็นว่าตอนนี้วางมือไว้ที่ไหน ชายหนุ่มยกสองมือขึ้นปั้นหน้าตาย ก่อนจะเซไปข้างหลังเล็กน้อยเพราะถูกผลักออกอย่างแรง

    ชานยอลยิ้มขำกับท่าทางหัวเสียของเด็กสาวตรงหน้า ทั้งคู่สบตากันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนชายหนุ่มจะยักคิ้วและปล่อยให้เธอกลับไปหาเพื่อนที่โต๊ะ

     

     

     

    *

     

     

    พี่นึกว่าแบคฮีจะไปกับผู้ชายคนนั้นแล้วซะอีก

    คะ? อ้อ... เด็กสาวเพียงหัวเราะเบา ๆ กับคำถามที่ทำให้นึกถึงหน้าอาจารย์คนนั้นอีกครั้ง ให้ตายเถอะ แค่คิดก็หัวเสียจะแย่

    เดินไหวไหมคะคนดี?

    ไหวค่ะ แบคฮีหันไปยิ้มและปล่อยให้รุ่นพี่มินโฮโอบเอวเดินออกมานอกผับหลังจากที่ผู้ชายคนนี้เป็นฝ่ายเข้าหาเธอเสียเอง

    เพื่อน ๆ ค่อนข้างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ ตอนนี้ประเด็นหลักบนโต๊ะเหล้าคงไม่พ้นการนินทาบยอนแบคฮี ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เด็กสาวส่ายศีรษะเบา ๆ ไล่อาการมึนงง ระหว่างเดินไปที่รถก็ต้องเอียงคอเล็กน้อยเพราะถูกคลอเคลีย หมอนี่ใจร้อนจริง ๆ รอให้ถึงโรงแรมก่อนไม่ได้หรือไงกัน

    โทษทีนะ นั่นรถฉัน หลีกทางหน่อย

    เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองร่างผอมสูงที่ยืนกอดอกพิงกับรถราคาแพง พอเพ่งสายตาก็พบว่าชายหนุ่มที่ยืนขวางประตูรถรุ่นพี่มินโฮก็คืออาจารย์ชานยอลที่เธอคิดว่าน่าจะไปผุดไปเกิดได้แล้ว

    ผมจะไปหลังจากที่คุณคืนนักเรียนคนนั้นให้ผมแล้ว

    นักเรียน? นายเป็นครูงั้นเหรอ?

    ชายหนุ่มเชิ้ตดำยิ้มมุมปากก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ แบคฮีเบือนสายตาหลบไปอีกทางพลางถอนหายใจ ผู้ชายคนนี้คิดจะจองล้างจองผลาญเธอไปจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยหรือไงกัน?

    จริงเหรอคะแบคฮี?

    ค่ะ เด็กสาวตอบขณะสบตากับอาจารย์หนุ่ม

    มันคงดีนะถ้าหากว่าคุณสองคนยืนห่างกันสักหน่อย พอดีว่าผมอยากพาเธอไปปรับทัศนคติมากกว่าพาคุณไปโรงพักข้อหาพานักเรียนอายุไม่ถึงเข้าผับน่ะ

    ฉันไม่ได้พาเธอมาสักหน่อย อย่ามั่วสิวะ

    ใครจะรู้ ชานยอลยิ้ม ก่อนจะลดระดับสายตามองเจ้าของสีหน้าหงุดหงิดว่าไง?

    ...

    ทั้งคู่หันไปสบตากัน ซึ่งซงมินโฮก็ไม่คิดจะเอาตัวเองเข้าไปแลกกับกฎหมายที่อาจทำให้เขาได้เงินใช้น้อยลงถ้าหากเป็นเรื่องใหญ่โตจนถึงหูพ่อแม่ ชายหนุ่มปล่อยมือออกจากเอวคอดอย่างเสียดาย แม้จะไม่ได้หิ้วกลับวันนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสอีกเสียเมื่อไหร่

    งั้นไว้เจอกันคราวหน้านะคะแบคฮี

    ค่ะ เด็กสาวตอบเสียงแข็ง พลางมองรอยยิ้มแห้ง ๆ ของผู้ชายปอดแหก ที่ไม่กล้าสู้กับอาจารย์ที่น่าจะดูออกว่าไม่ใช่คนดีอย่างที่พยายามแสดงออก

     

    สุดท้ายก็เหลือเพียงอาจารย์กับนักเรียน ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิงซึ่งชานยอลรู้สึกสนุกขึ้นมาเพียงเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังต่อต้านเขา ชายหนุ่มพยักหน้าไปทางรถของตนเองซึ่งจอดอยู่ไม่ห่างจากจุดนี้มากนัก และเด็กสาวก็เดินตามมาโดยไม่ตั้งคำถามให้เราเสียเวลาถกเถียงกันเล่น ๆ ทั้งที่รู้แก่ใจว่ายังไงเสียผู้ชนะก็คืออาจารย์อยู่วันยังค่ำ

    บีเอ็มสีดำขับไปบนถนนซึ่งไม่รู้ว่าเป้าหมายคือที่ไหน แบคฮีชำเลืองมองคนข้างกายที่ยังคงทำตัวสบาย ๆ เหมือนว่าเหตุการณ์นี้มันไม่แปลก ...ซึ่งก็อาจเป็นอย่างนั้นถ้าหากว่าเรื่องเล่าทั้งหมดที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริง

     

     

    ปาร์คชานยอลคือเสือผู้หญิงที่ชอบฟันนักเรียน

     

     

    ไม่ต้องหาโรงแรมนะ หนูเปิดห้องไว้แล้ว ...โอ๊ย!” แบคฮีมองค้อนอาจารย์หนุ่มที่ดึงแก้มเธออย่างแรง

    แก่แดด

    อาจารย์ก็ไม่ได้ดีไปกว่าหนูนักหรอก

    แต่งตัวแบบนั้นไม่กลัวถูกลากไปรุมโทรมหรือไง?

    กลัวอะไรในเมื่อคนที่ลากหนูออกมาก็คืออาจารย์ เด็กสาวย้อนถามอย่างไม่กลัว ชานยอลจึงชำเลืองมองเจ้าของความดื้อที่ทั้งน่ามันเขี้ยวและน่าดุในเวลาเดียวกัน

    ถ้าอยากเที่ยวกลางคืนก็ควรระวังตัวให้มากกว่านี้

    อาจารย์คิดว่าตัวเองเป็นใคร ครูที่ปรึกษาก็ไม่ใช่ พ่อแม่ยังไม่บ่นขนาดนี้เลย

    คุณอยากให้ผมโทรหาท่านหรือเปล่าล่ะ?

    โทรสิ เด็กสาวโยนสมาร์ทโฟนใส่หน้าขาอีกฝ่ายก่อนจะสบตากันโทรให้ตายยังไงพ่อก็ไม่สนใจหรอกว่าหนูอยู่ไหน

    ...ฮะ แบคฮีขมวดคิ้วเมื่ออยู่ ๆ อาจารย์หนุ่มก็หลุดขำพร้อมเลื่อนหน้าจอมือถือของเธอเล่น

    มีอะไรน่าขำ?

    ทำตัวเป็นเด็กใจแตกแล้วคิดว่าจะเอาชนะโลกนี้ได้หรือไง?

    หนูไม่ได้คิดจะเอาชนะใคร หนูก็แค่อยู่กับสิ่งที่ทำให้มีความสุข

    อย่างเช่นอะไรล่ะที่คุณเรียกว่าความสุข? ชายหนุ่มยังคงให้ความสนใจอยู่กับโทรศัพท์มือถือของเด็กสาวขณะที่รถกำลังจอดติดไฟแดง แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นเสียงหัวเข็มขัดก็ดังขึ้นตามด้วยเสียงรูดซิปกางเกง

    แบบนี้มั้ง

     

     

     CUT

    (Welcome To Malinworld อีกแล้วเหรอวะ)



    TBC

     

     

    คิดว่าจะเขียนหลายตอน  เห็นมีคนบอกว่าอยากได้ครูพละกับเด็กหงิญแบคฮีก็จัดให้เรย เบา ๆ ก่อนนะ ถ้าแรงกว่านี้เด่วรถโยกเยกเอยน้ำท่วมเมฆกระต่ายลอยคลอง

     

     

     

      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×