ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TEACH ME TO #ฟิคของทีมคุก SEASON 2 : PAINKILLER | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #34 : Season 2 | Painkiller 09 :: Your fault.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.71K
      292
      8 เม.ย. 60


    ? cactus

     

     

    Chapter 09

    Your fault

     

     

     

    โบยอนตามติดจุนมยอนแทบจะตลอดทั้งวัน ชวนคุยตามประสาเด็กที่ไม่เคยตกหลุมรักอย่างจังตั้งแต่แรกพบ แม่จึงดุเพราะกลัวทำให้เพื่อนของเขาอึดอัด แม้จุนมยอนจะยิ้มและบอกว่าไม่เป็นไรครับ โบยอนยังเด็กอยู่ อีกสักสองปีเธอคงเข้าใจได้ด้วยตัวเองส่วนคุณพ่อขี้หวงที่เคยไว้หนวดจนถูกแม่จับโกนไปหลายรอบก็ได้แต่ขมวดคิ้วมองราวกับจะแสกนดูว่าจุนมยอนดีอย่างที่พูดหรือแค่ประดิดประดอยคำให้สวยหรูเท่านั้น

    อันที่จริงพ่อเป็นคนใจกว้างและเข้าใจอะไรง่าย แต่พอเป็นเรื่องลูกสาวคนเล็กทีไรก็กลายเป็นคนไม่อยากเข้าใจโลกขึ้นมาเสียอย่างนั้น แน่ล่ะ... แบคฮยอนรู้ว่าสมัยเป็นหนุ่มสาวพ่อกับแม่ผ่านอะไรมาบ้าง ทั้งเรื่องเกือบไม่ได้คบกันเพราะความเข้าใจผิด หรือวีกรรมที่เขาและชานอีแอบขำอยู่เล็ก ๆ ตอนท่านเล่าให้ฟังพร้อมกำชับว่า

    ถ้าเป็นไปได้พ่อกับแม่ก็อยากให้ลูกเริ่มต้นกับแฟนจากความชอบมากกว่าเซ็กส์ แต่พ่อไม่ได้หมายความว่าการมีเซ็กส์มันแย่นะ สิ่งสำคัญที่สุดคืออะไรลูกรู้ใช่ไหม? ความสนุกมันอาจทำลายชีวิตเรากับแฟนได้ถ้าเกิดอีกฝ่ายท้องขึ้นมา

    ตอนนั้นแบคฮยอนแค่พยักหน้าฟังอย่างตั้งใจ แต่ในวันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว พ่อกับแม่คงไม่ต้องกังวลว่าลูกชายคนนี้จะไปทำใครท้อง ไม่ใช่เพราะยังไม่เจอผู้หญิงที่ชอบหรือห่วงเรื่องเรียนมากกว่า แต่เป็นเพราะปาร์คแบคฮยอนกำลังหวั่นไหวกับเพื่อนวัยเด็กที่เป็นผู้ชายเหมือนกันและทำเรื่องไม่สมควรไปแล้ว

    ทั้งที่ใจร้ายและเอาแต่ใจขนาดนั้น แต่ทำไมลึก ๆ ถึงยังรู้สึกดีก็ไม่รู้

    ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะนอนน้อยหรือคิดมากเรื่องคำพูดและการกระทำของชาร์ลเกินไปเขาถึงเหม่อลอยจนใส่สูตรขนมผิด ๆ ถูก ๆ แบคฮยอนรู้สึกผิดที่น้ามินซอกกับจุนมยอนต้องคอยเรียกสติอยู่หลายครั้งจนแม่ต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

    ไม่ชอบความรู้สึกแบบไหนทั้งนั้น ทั้งการยอมรับความจริงว่ารู้สึกกับอีกฝ่ายมากกว่าเพื่อนเพราะเรื่องเลยเถิดที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ทั้งจูบที่ควรทำกับแฟนแต่เรากลับใช้คำว่าเพื่อนมาเป็นข้ออ้าง ทุกอย่างมันบีบบังคับให้หัวใจเขาเปิดรับความรู้สึกที่คงเกิดขึ้นฝ่ายเดียว

    มันช่างน่าตลกเมื่อความตั้งใจแรกคือการพยายามช่วย แต่ตอนนี้แบคฮยอนกลับพยายามหาข้อเสียของอีกฝ่ายมากลบความรู้สึกเพื่อที่จะเดินกลับไปหาคำว่าเพื่อน คนเอาแต่ใจที่คิดจะทำเรื่องแบบนั้นที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้นั่นน่ะไม่เห็นจะน่าชอบตรงไหนเลย

    ไม่อยากยอมรับหรอกว่าไม่พอใจที่ชาร์ลจะทำแบบนั้นกับใครก็ได้ มันทำให้แบคฮยอนคิดว่าที่อีกฝ่ายพูดหวาน ๆ ก็เพราะความต้องการไม่ได้ใช้ความรู้สึกเข้าร่วม เขาไม่อยากรู้สึกแบบนี้แต่ก็รู้สึกไปแล้ว มันน่าหงุดหงิดมาก ๆ เลยที่ในหัวมีแต่เรื่องของคนใจร้าย

    ชาร์ลกับชานอีออกไปซุปเปอร์กับพ่อเพื่อเลือกซื้อวัตถุดิบมาทำมื้อเย็นซึ่งรับผิดชอบโดยแม่กับน้ามินซอก คนตัวเล็กแอบได้ยินแม่กับเพื่อนสนิทสมัยเรียนคุยกันเรื่องปัญหาครอบครัวของชาร์ลที่ตอนนี้ทุกคนต่างก็ช่วยกันพยายามแก้ไข แม้ว่าลุงอี้ฝานจะไม่เห็นด้วยและไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิดก็ตาม

    สถานการณ์ที่มินิมาร์ทตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง แต่แบคฮยอนคิดว่าพ่อคงไม่ได้ชวนคุยมากมายเพราะกลัวชาร์ลอึดอัด สำหรับเด็กที่มีกำแพงสูงอย่างชาร์ลคงบุ่มบ่ามยัดเยียดความคิดและคำถามให้มากเกินไปไม่ได้ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป พ่อบอกอย่างนั้น

    การฝึกทำขนมผ่านไปได้ด้วยดีเพราะมีจุนมยอนคอยเก็บรายละเอียดและจดสูตรทุกอย่างไว้ในสมุดเป็นที่เรียบร้อย เด็กทั้งสามชิมขนมที่ช่วยกันทำยังไม่ทันหมดชิ้นก็ต้องหันไปทางประตูบ้านเมื่อได้ยินเสียงปึงปังจากลูกชายคนกลาง

    ชานอี?

    เจ้าของชื่อไม่แม้แต่จะหยุดตามเสียงเรียกของพี่ชาย แบคฮยอนมองตามอีกฝ่ายที่รีบเดินขึ้นบันไดบ้านพร้อมสีหน้าไม่สบอารมณ์ ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นจึงตกอยู่ในความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งพ่อกับชาร์ลเดินเข้ามาด้านในเราจึงได้คำตอบเป็นรอยฟกช้ำตรงมุมปากของเด็กหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน

    เกิดอะไรขึ้นคะ?

    เรามีเรื่องไม่เข้าใจกันนิดหน่อยน่ะครับ ไม่มีอะไร ลูกชายเพื่อนสนิทชิงตอบก่อนที่ปาร์คชานยอลจะได้ปริปากเสียอีก แบคฮยอนมองหน้าเพื่อนสนิทวัยเด็กกับพ่อสลับกันพร้อมนึกไปถึงน้องชายซึ่งอยู่บนชั้นสอง เพราะอะไร? นั่นคือคำถามที่เขาอยากได้คำตอบ

    แม่จะขึ้นไปดูชานอีหน่อย

    บรรยากาศรอบข้างถูกกลืนกินโดยความเงียบโดยไม่มีใครถามว่าต้นเหตุเกิดจากอะไร ชานยอลมองหน้าลูกชายเพื่อนที่ไม่ได้แสดงออกถึงความเจ็บปวดหรือโมโหเลยสักนิดหลังจากเกิดเรื่องกลางซุปเปอร์มาเก็ตขณะที่เขากำลังเลือกวัตถุดิบอยู่ พอหันไปอีกทีก็เห็นชานอีซัดหมัดใส่หน้าชาร์ลีจนล้มลงไปกับพื้นเสียแล้ว

    เด็กหนุ่มตัวสูงยืนพิงผนังพร้อมล้วงกระเป๋ากางเกง ก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟนโดยไม่อธิบายใด ๆ นอกเหนือจากประโยคนั้น ไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร เขายังคงใช้เวลาไปกับความน่าเบื่อหน่ายในบ้านหลังนี้เพื่อข้อแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจของลิตเติ้ลโมจิ

    พี่ชาร์ลีตีพี่หนูเหรอคะ... เสียงของโบยอนแผ่วเบาจนคนถูกถามต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อส่งสายตาบอกให้รู้ว่าเขาต้องการฟังทวนอีกครั้ง แต่เธอกลับหลบอยู่ข้างหลังความนุ่มนิ่มซึ่งมองเขาด้วยแววตาที่เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าชาร์ลเป็นคนผิดใช่ไหม?

    ใครจะกล้าหือกับนักกีฬาเทควันโด้กันล่ะ แบบนั้นฆ่าตัวตายชัด ๆแบคฮยอนคงเชื่อถ้าหากสีหน้าอีกฝ่ายส่งไปทางเดียวกับคำพูด ไม่ใช่การอมยิ้มเล็ก ๆ พร้อมสายตาแบบนั้นไม่ไปดูน้องหน่อยเหรอ บางทีหมอนั่นอาจจะรอคำปลอบใจจากนายอยู่

    แบคฮยอน ไปเอาน้ำแข็งมาให้เพื่อนประคบ คนเป็นพ่อตัดบทสนทนานี้ด้วยตัวเอง คนตัวเล็กจึงเข้าไปในห้องครัวพร้อมความอึดอัดในใจที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ ในเมื่อพ่อเลือกที่จะเงียบโดยไม่กล่าวถึงเรื่องนี้ แบคฮยอนก็คงไม่สร้างคำถามขึ้นมาให้ชาร์ลตอกกลับด้วยคำพูดที่เขาพอจะรู้ว่ามันไกลจากคำตอบที่ต้องการมากแค่ไหน เด็กหนุ่มลูกครึ่งไหวไหล่พลางเดินไปนั่งบนโซฟาท่ามกลางสายตาเพื่อนอาแบคฮี จุนมยอน และลูกสาวคนเล็กของบ้าน

    เดี๋ยวผมผมช่วยล้างผักให้นะครับจุนมยอนช่วยรับถุงจากมือเจ้าของบ้าน ในเวลาแบบนี้มันคงดีกว่าถ้าหากเขาจะใช้เวลาอยู่ในครัว

    ปะโบยอน ไปช่วยน้าทำซุป

    ค่ะน้ามินซอก

    พ่อกำลังเดินขึ้นไปบนชั้นสอง ตอนนี้ในห้องนั่งเล่นจึงเหลือชาร์ลอยู่คนเดียว แบคฮยอนยื่นผ้าห่อน้ำแข็งให้เพื่อนวัยเด็กทุเลาความเจ็บ คนที่กำลังให้ความสนใจกับโทรศัพท์มือถือจึงชำเลืองมองด้วยหางตาก่อนจะได้รู้ว่าความนุ่มนิ่มเลือกมองผนังโง่ ๆ มากกว่ารอยแผลตรงมุมปากเขาที่ไอ้เด็กเวรนั่นเป็นคนสร้างเอาไว้

    ไม่คิดจะทำให้กันหน่อยหรือไง?

    ชาร์ลคงทำเองได้อยู่แล้ว

    เสียงเขียวเชียว กำลังคิดว่าฉันเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้สินะ? อย่าคิดที่จะทำให้เขาไม่พอใจจะดีกว่าปาร์คแบคฮยอน ถ้าฉลาดก็ควรคิดให้ได้ว่าต้องทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้

    ชานอีเป็นคนขี้โมโหก็จริง แต่เด็กคนนั้นไม่ใช่คนที่จะลงไม้ลงมือกับใครก็ได้หรอกนะ

    จริงด้วย งั้นรอยแผลตรงนี้มันคงเกิดขึ้นตอนฉันเดินชนบอลลูนลมหน้าซุปเปอร์ล่ะมั้ง? ชาร์ลขมวดคิ้วแสร้งทำเป็นจริงจัง ชี้รอยบวมช้ำตรงมุมปากเพื่อยืนยันว่าชานอีเป็นเด็กขี้โมโหที่จ้องจะหาโอกาสเอาคืนอริวัยเด็กตลอดเวลา

    ตอบตามความจริงได้ไหมว่าชาร์ลยั่วโมโหน้องเราหรือเปล่า ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางเสียงก๊อกน้ำในครัวพร้อมความเงียบที่ทิ้งจังหวะไปหลายวินาที วูบหนึ่งแบคฮยอนรู้สึกว่าแววตาของชาร์ลเปลี่ยนไป แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นความเจ้าเล่ห์ก็กลับมาสร้างความปวดหัวให้เขาอีกครั้ง

    มีคำตอบในใจอยู่แล้วจะถามไปเพื่ออะไรกันล่ะโมจิ? เด็กหนุ่มตัวสูงเลื่อนหน้าเข้าใกล้แต่คราวนี้แบคฮยอนไม่ได้เบือนหลบอย่างขลาดอายเช่นทุกครั้งคิดว่าฉันจะสลดจนอยากสารภาพผิดเหรอ บ้าไปแล้ว ถ้าอยากเข้าข้างไอ้เด็กเหลือขอนั่นก็ตามใจเลย

    อย่าเรียกน้องเราแบบนั้นนะ

    ทำไม? จะต่อยหน้าฉันอีกคนหรือไง เอาเลยสิ Do it. ชาร์ลยิ้มมุมปากอย่างพอใจพร้อมจับมือเล็กนุ่มนิ่มขึ้นมาตบแก้มตัวเองเบา ๆ

    อธิบายความจริงให้เราฟังไม่ได้เหรอ เราก็แค่อยากรู้ ถ้าชานอีผิดเราก็จะได้ตักเตือนน้อง... แบคฮยอนพูดอย่างอ่อนใจ พยายามยื้อไว้แต่อีกฝ่ายก็บังคับมือเขาให้ตบแก้มตัวเองเบา ๆ ราวกับว่าเรากำลังเล่นกันอยู่

    ตักเตือนงั้นเหรอ กับเด็กที่ตะคอกนายต่อหน้าพ่อแม่ได้โดยไม่แคร์ว่าใครเกิดก่อนน่ะนะ? ชาร์ลหัวเราะ

    มันก็แค่ไม่กี่ครั้งเอง ชานอีไม่ได้โมโหตลอดเวลาสักหน่อย... คนตัวเล็กเม้มริมฝีปากพลางช้อนตามองอีกฝ่าย เล่าให้เราฟังได้ไหม?

    ไปถามน้องชายที่รักของนายสิ หมอนั่นคงพร้อมพ่นความในใจออกมาถ้าเป็นเรื่องความเกลียดที่มีต่อฉัน

    เมื่อก่อนชานอีก็ไม่ยอมเล่นกับลูกชายน้ามินซอก แต่พออยู่ด้วยกันบ่อย ๆ ก็สนิทกันได้นะ เขาไม่ได้เกลียดชาร์ลแน่ ๆ อันที่จริงน้องก็แค่ยังไม่สนิทใจ...

    ไม่สนิทใจ... รวมถึงนายด้วยหรือเปล่า? เด็กหนุ่มยิ้มขำกับความโลกสวยไม่รู้เรื่องของคนตัวเล็กเด็กเปรตก็คือเด็กเปรต ชอบสร้างประเด็นเพื่อเรียกร้องความสนใจคงคิดว่าคูลตายห่า

    ...

    โกรธเหรอ ร้องไห้เลยสิ แววตาของแบคฮยอนตอนนี้เต็มไปด้วยความตัดพ้อ เขารู้สึกได้เป็นอย่างดี แต่คำพูดแย่ ๆ ก็ถูกพ่นออกมาเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้จักเหนื่อย เพียงเพราะเห็นคนตัวเล็กมีท่าทีว่าอยากเข้าข้างน้องชายมากกว่าตน ความน้อยใจจึงถูกแสดงออกมาเป็นความหยาบคายอย่างเช่นเมื่อครู่

    ทั้งที่บอกว่าจะอ่อนโยนกับเราแท้ ๆ ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ...

    เมื่อคืนก็ส่วนเมื่อคืน ถ้าอยากให้อ่อนโยนก็แก้ผ้าแล้วทำให้ฉันของขึ้นตอนนี้ซะเลยสิชาร์ลมองความนุ่มนิ่มที่ก้มหน้าหลบตาเขาและพยายามยื้อข้อมือไว้จนข้อมือขาวขึ้นริ้วแดง

    แบคฮยอน!” เด็กหนุ่มปล่อยข้อมือคนตัวเล็กทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก แบคฮยอนจึงหันไปทางจุนมยอนที่ยืนอยู่หน้าห้องครัว มาช่วยหาทัปเปอร์แวร์หน่อยสิ น้ามินซอกหาไม่เจอน่ะ

    อะ... อ้อ ได้สิ

    กลิ่นหอมอ่อน ๆ ยังคงลอยอยู่ใต้จมูกแม้เจ้าตัวจะเดินเข้าครัวไปแล้ว ชาร์ลี ฮอปส์มีความสุขในความหัวเสียที่ได้แกล้งแบคฮยอนให้รู้สึกแย่ เขาบอกตัวเองว่าก็สมควรแล้วที่ทำอย่างนั้น คนที่พยายามทำเป็นเข้าใจแต่ไม่เคยเข้าใจอะไรแบบนั้นน่ะน่าหงุดหงิดเป็นบ้า

    เด็กหนุ่มลูกครึ่งดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มลิ้มรสคาวเลือดจาง ๆ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิต หลายหนที่เขามีเรื่องชกต่อยกับเด็กในโรงเรียนเก่า ทั้งเรื่องไร้สาระและเรื่องจริงจังจนเลือดขึ้นหน้า ดังนั้นการโดนปาร์คชานอีซัดหมัดใส่ปากแค่ครั้งเดียวจึงเป็นเรื่องธรรมดาจนไม่คิดจะอ้าปากร้องขอความเป็นธรรมจากใคร

    ความเย็นจากน้ำแข็งทะลุผ่านผ้าผืนเล็กออกมาเป็นหยด ซึมลงกางเกงยีนส์สีซีดขาดเข่าจนรู้สึกชาหน้าขา ชาร์ลโยนผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งลงบนโต๊ะแล้วเดินเข้าไปในห้องคนตัวเล็ก ปล่อยให้ความหวังดีครึ่ง ๆ กลาง ๆ ของปาร์คแบคฮยอนละลายเลอะเทอะตรงนั้นอย่างไม่ใยดี

     

     

    *

     

     

    พ่อกับแม่แค่พยักหน้าตอนเห็นชานอีสะพายกระเป๋าเป้แล้วบอกว่าจะไปค้างบ้านเพื่อน แบคฮยอนได้สบตากับน้องแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้นก่อนอีกฝ่ายจะหันหนี ชานอีคงอารมณ์ไม่ดีจนทนอยู่บ้านหลังเดียวกับชาร์ลไม่ไหวจึงระเห็จไปนอนบ้านเพื่อน มันทำให้เขาต้องทบทวนเรื่องนี้ว่าการพาเพื่อนวัยเด็กมาที่นี่มันคุ้มแล้วหรือ?

    จริงอยู่ที่บ้านเราต้องการลบช่องว่างที่ชาร์ลมีให้ออกไปทีละนิด ทุกคนต้องการขัดเกลาเด็กผู้ชายคนหนึ่งให้กลายเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้างสักนิดก็ยังดี แต่พอเอาเข้าจริงแล้วมันก็เป็นเรื่องยากจนอยากจับเข่าคุยกับพ่อแม่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ชาร์ลี ฮอปส์ยังคงเป็นคนมนุษย์สัมพันธ์แย่ นอกจากจะไม่สนใจใครชาร์ลก็ยังพร้อมจะเล่นสงครามประสาทกับอริวัยเด็กอย่างชานอีอีกด้วย

    พ่อแม่กับแบคฮยอนรู้ดีว่าเด็กคนนั้นเป็นอย่างไร และก็พอจะรู้ว่าเรื่องนี้ชาร์ลต้องมีส่วนครึ่งหนึ่ง ไม่อย่างนั้นชานอีคงไม่โมโหจนลงไม้ลงมืออย่างนั้น แต่การถามเพื่อหาคนผิดคงไม่ได้อะไรขึ้นมา เพราะเราทุกคนตั้งใจช่วยไม่ใช่ตั้งแง่หาเรื่องดัดนิสัย

    แบคฮยอนต้องหาเรื่องโกหกจุนมยอนเพื่อที่จะได้นอนห้องเดียวกับชาร์ลอย่างที่ตกลงกันไว้เมื่อคืน แต่เพื่อนใหม่ขอไม่นอนห้องชานอีเพราะเกรงใจเจ้าของห้องที่ไปค้างบ้านเพื่อนจึงเลือกนอนโซฟาแทน

    คนตัวเล็กเข้านอนตั้งแต่สามทุ่มเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับเพื่อนวัยเด็กทั้งที่ยังรู้สึกแย่อย่างนี้ ระหว่างชาร์ลใช้เวลาอาบน้ำเป็นชั่วโมงเขาก็ส่งข้อความและโทรหาชานอี แต่เด็กคนนั้นกลับปิดโทรศัพท์ราวกับว่าไม่ต้องการคุยกับเขา

    น่าโมโหชะมัด... ทั้งที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ แต่กลับช่วยอะไรน้องไม่ได้เลย ถึงชานอีจะเป็นคนผิดแต่แบคฮยอนคิดว่าเรื่องแบบนี้ทั้งคู่สามารถทำความเข้าใจและแก้ไขมันได้ เราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ ทำไมชานอีถึงเห็นเพื่อนเป็นความสบายใจมากกว่าเขากันล่ะ

    ...

    แสงสว่างจากหน้าจอโทรศัพท์มาพร้อมข้อความในโปรแกรมแชทจากเพื่อนสุดฮอตประจำหอแรคคูน ตั้งแต่แลกเบอร์โทรกันไปนี่ก็เป็นครั้งแรกที่คิมไคติดต่อมา

     

    KK.: ฝึกทำขนมเป็นไงบ้าง ได้เรื่องไหมลิตเติ้ลบันนี่?

    Me: ได้ ๆ เรามีรูปด้วยนะ

    Me: คุณได้ส่งรูปภาพให้ KK.

    KK.: โอ้โห น่ากินกว่าที่จินตนาการไว้เยอะเลย ไหนบอกมาซิว่าทำเองหรือฝีมือเพื่อนสนิทคุณแม่ㅋㅋ

    Me: อันทางซ้ายฝีมือเรา มันเบี้ยวนิดนึงเราเลยจำได้

    KK.: โธ่ กะจะแซวเล่นดันตอบความจริงซะได้ มีใครเคยบอกไหมว่านายเป็นคนตลก

    Me: ไม่เลยอะ คิมไคเป็นคนแรก ;_;

    KK.: ห่อกลับมาให้ชิมด้วยนะ จะรอ (:

    Me: ได้เลย เราทำเยอะมาก ถ้าให้เพื่อน ๆ ที่หอช่วยชิมหลาย ๆ คนจะได้รู้ว่าควรปรับรสชาติตรงไหนอีกไหม

    KK.: ลำบากหน่อยนะ เด็กหอเราไม่ค่อยอินกับงานโรงเรียนสักเท่าไหร่

    Me: เป็นเพราะไม่มีแรงจูงใจหรือเปล่า เราเห็นแจวอนบ่น ๆ ว่ามันน่าเบื่อ เราว่าถ้าลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่ยากเกินไป แก๊งนั่นอาจจะยอมเข้าร่วมด้วยก็ได้นะ

    KK.: อืม... แล้วมันอะไรกันล่ะที่จะกระตุ้นพวกนั้นได้

    KK.: ไว้นายกลับหอแล้วเรามาคุยเรื่องนี้กันดีไหม?

    Me: ได้เลย แล้วเจอกันเย็นพรุ่งนี้นะ

    KK.: ㅇㅋ ฝันดีนะลิตเติ้ลบันนี่ของฉัน

     

    ขยับเข้าไป

    โทรศัพท์ในมือถูกคว่ำลงกับเตียงพร้อมตาที่รีบปิดลง ชาร์ลเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

    แบคฮยอนถูกดันให้ขยับเข้าไปจนปากแทบจูบกับผนัง เขาดึงผ้าห่มขึ้นถึงคอโดยไม่หันไปต่อล้อต่อเถียงกับอีกคนซึ่งมาพร้อมกลิ่นสบู่ที่ใช้ขวดเดียวกัน แอร์ในห้องเย็นฉ่ำ บรรยากาศเดิม ๆ ที่เคยคุ้นควรทำให้แบคฮยอนหลับอย่างสบายใจแต่ตอนนี้เขากำลังกังวลถึงบางอย่าง

    กลัวเรื่องอย่างว่าจะเกิดขึ้นขณะอีกใจก็คิดว่าคงไม่มีทางที่ชาร์ลจะคิดเรื่องลามกหลังจากมีปากเสียงกันไปเมื่อตอนเย็น เรียกว่าทะเลาะได้ไหมนะ หรือควรเรียกว่าเราไม่เข้าใจกัน แบคฮยอนถอนหายใจเบา ๆ กับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในวันนี้

    ยังไม่หลับเหรอ?

    ...

    คนตัวเล็กนอนตัวเกร็งเมื่ออยู่ ๆ คนที่นอนอยู่ข้างตัวก็ขยับเข้ามากระซิบข้างหูจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ แบคฮยอนรีบหลับตาแน่นแกล้งไม่ได้ยิน หัวใจเต้นตุบตับแปลก ๆ กับความรู้สึกมากมายที่ประเดประดังเข้ามาพร้อมกัน หนึ่งคือความรู้สึกแย่ ๆ ที่ยังไม่ได้รับการไขข้องใจเรื่องทะเลาะกับน้องชายของเขา สองคือตามข้อตกลงของเราคือเรื่องอย่างว่าจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อกลับถึงโรงเรียนแล้วเท่านั้น

    แต่ตอนนี้มันอะไรกัน... มือเย็น ๆ ที่กำลังสอดเข้ามาใต้ผ้านวมทำร่างกายของแบคฮยอนเกร็งยิ่งขึ้นไปอีก เขายังทำเป็นหลับเพื่อให้อีกฝ่ายคิดได้ว่าต่อให้พยายามแกล้งไปก็เท่านั้น แต่แบคฮยอนคิดผิดมหันต์เมื่อเพื่อนวัยเด็กกลับสนุกไปกับมันยิ่งกว่าเดิม

    หลับให้ถึงเช้าล่ะ... เพราะถ้าตื่นตอนนี้นายเจ็บหนักแน่




    CUT

    (WELCOME TO MALINWORLD)

    เบามาก แต่ลงในนี้ไม่ได้ ชั้นกลัวบทความบิน

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×