ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TEACH ME TO #ฟิคของทีมคุก SEASON 2 : PAINKILLER | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #45 : Season 2 | Painkiller 20 :: Ghost house. (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 49.7K
      248
      10 ส.ค. 60


    ? cactus







     

    CHAPTER 20

    Ghost House

     

     

     

    (CUT) 

    จิง ๆ หน้านี้มีตัวหนังสืออยู่ประมาณ 4 หมื่น 8พันคำ

    แต่คนมีบาปกรรมเท่านั้นที่จะมองเหนแค่คำว่าคัท



    50%




    อาจารย์แต่ละท่านต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับการที่แทอูขออัดวิดีโอการเรียนการสอนในแต่ละวันเพื่อเอาไปให้คนป่วยได้ศึกษา แม้ว่าจะอยู่ในช่วงพักฟื้นแต่จุนมยอนก็ไม่ยอมนั่ง ๆ นอน ๆ เหมือนคนป่วยทั่วไป หมอนั่นเอาแต่อ่านหนังสือเพียงเพราะผอ.จัดการเดินเรื่องให้สอบปลายภาคทีหลังคนอื่นได้ โดยไม่ต้องซ้ำชั้นอย่างที่ใคร ๆ เป็นกังวล

    ทุก ๆ เรื่องกำลังดีขึ้นตามลำดับ ชาร์ลี ฮอปส์เริ่มกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติได้ ไม่สิ... อันที่จริงต้องเรียกว่าใช้ชีวิตใหม่เสียมากกว่า เขาเริ่มมองกว้างขึ้น โดยเริ่มต้นจากการเห็นคนรอบข้างเป็นเพื่อนอย่างสนิทใจ โดยไม่ได้สร้างคำ ๆ นั้นไว้ให้แบคฮยอนกับจุนมยอนเพียงสองคน

    สมุดภาพเล่มตัวอย่างถูกปล่อยออกมาล่อตาล่อใจ เหล่าเด็กสาวที่โอนเงินช้าต่างถล่มเว็บบอร์ดเพื่อร้องขอให้ขายเซ็ตลิมิเต็ดเพิ่มเพียงเพราะอยากได้รูปเซ็ตลับที่มีทั้งเปลือยท่อนบน กล้าม และการสกินชิปแบบที่สาววายชอบ

    ลิตเติ้ลโมจิทำหน้าที่แทนจุนมยอนโดยไม่บ่นสักคำ กระทั่งเขา คิมไค และแทอูยื่นมือเข้าไปช่วยนั่นแหละ การลบกระดาน หอบสมุดการบ้านไปส่ง จึงกลายเป็นเรื่องที่เพื่อน ๆ ในห้องเริ่มคิดกันได้ด้วยตัวเองว่าหน้าที่เหล่านั้นควรช่วยกันไม่ใช่โยนให้ใครคนไหนคนหนึ่งทำ

    ทุกอย่างกำลังดีขึ้นจริง ๆ ดีจนชาร์ลี ฮอปส์ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะเดินมาในทางเส้นนี้ได้ เขาไม่เคยคิดจะอ่านหนังสือสอบ กระทั่งถูกความนุ่มนิ่มอ้อนว่าถ้าได้เทอมนี้ได้คะแนนดีเจ้าตัวจะมีรางวัลให้ ซึ่งเอาเข้าจริงเด็กหนุ่มก็ไม่ได้คาดหวังรางวัลนั่นสักเท่าไหร่ แต่พอคิดว่าน้องน้อยจะเป็นคนให้ แรงบันดาลใจในการอ่านหนังสือจึงพุ่งพล่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

    การสอบปลายภาคสิ้นสุดลง บางคนเอาเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมกลับบ้านตั้งแต่เย็นวันนั้น แต่ก็ยังมีกลุ่มเด็กที่ยังอยากอยู่โรงเรียนประจำมากกว่าให้กลับไปอยู่กับความน่าเบื่อ แน่ล่ะ ก็ไอ้หลังคาสามเหลี่ยมที่เรียกว่าบ้านนั่นไม่ได้ให้ความสุขความสบายใจกับเด็กทุกคน บ้านบางหลังมีพ่อแม่คอยตามใจ เข้าใจ สนับสนุนทุกอย่าง แต่บ้านอีกหลังก็เลือกเชื่อความรู้สึกตัวเองมากกว่าและยัดเยียดสิ่งที่ตนเองต้องการให้กับเด็ก ดังนั้นการอยู่กับเพื่อนในหอตลอดช่วงปิดเทอมจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เด็กหลายคนอยากทำ

     

    หนึ่งในนั้นคือชาร์ลี ฮอปส์

     

    โมจิ

    คับ!” เจ้าของชื่อขานตอบแล้วรีบวิ่งไปหาคนที่ตะโกนออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะพบแฟนหนุ่มในร่างเปลือยเปล่านอนแช่อยู่ในอ่าง พร้อมมองมาด้วยสายตาที่แบคฮยอนพอจะรู้ว่าไม่ได้มีความลามกแฝงอยู่

    ถูหลังให้หน่อยดิ

    ได้ น้องน้อยขานตอบอย่างว่าง่ายพร้อมยกเท้าขึ้นเหยียบขอบอ่างจนเขาผงะเล็กน้อย

    ทำบ้าไร

    พับขากางเกงให้เรา

    “WHAT? ยูก็พับด้วยตัวเองมาทั้งชีวิตแล้วปะวะ อย่ามา --

    ไม่ทำใช่ไหม ได้ชาร์ลได้ เดี๋ยวเราไปเคาะประตูให้คิมไคออกมาพับขากุงเกงให้ก็ได้ กวนตีนไม่พอยังตัดพ้อเก่งอีก ชาร์ลกัดฟันกรอดพร้อมคว้าขาตัวแสบไว้ก่อนที่จะมีโอกาสยั่วโมโหเขาได้มากไปกว่านี้

    เดี๋ยวจะโดนนะโมจิ เตือนไว้ก่อน

    เดี๋ยวจะโดนนะชาร์ล เตือนไว้ก่อน ปากยื่น ๆ ตอนกำลังเลียนเสียงนี่ไม่อยากพูดเลยว่ากระตุกต่อมคนบ้ากามให้ชาร์ลี ฮอปส์แค่ไหน เด็กหนุ่มมองค้อนน้องน้อยพลางพับขากางเกงให้ สุดท้ายคนที่เก่งไม่สุดก็คือคนขี้หึงเหรอวะ

    ไม่พ้งไม่พับแม่งละ

    เป็นอะไรอีกอะ หูย เอาแต่ใจมาก ๆ

    แก้ผ้าลงมาอาบด้วยกันเลยมา

    นึกว่าจะไม่ชวนซะแล้ว ถอยคับถอย ขอพื้นที่หน่อย ลิตเติ้ลโมจิจะลงอ่างแล้ว อะไร ปาร์คแบคฮยอนกลายเป็นคนไม่เขินกับสิ่งไหนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ชาร์ลหรี่ตามองคนที่แทนตัวเองด้วยชื่อที่เขาตั้งให้ด้วยน้ำเสียงชวนบีบเป็นก้อนแล้วกลืนลงคอ ภาพตอนน้องน้อยรีบแก้เสื้อผ้าลงอ่างโดยไม่มีท่าทีว่าจะกลัวโดนปล้ำเลยแม้แต่นิดเดียวนั่นน่ะ

     

    หงุดหงิดแล้วว่ะ แบคฮยอนกำลังทำให้เขาไม่อยากกลับไมอามี่

     

    หันหลังหน่อย

    ถูดี ๆ นะ ห้ามเล่น เขาชี้คาดโทษความนุ่มนิ่มที่หรี่ตาอมยิ้มเหมือนมีแผนอยู่ในใจ

    น้องจะถูให้อย่างตั้งใจเลยคับ

    ...

    อันตรายเกินไปแล้ว ชาร์ลี ฮอปส์รู้สึกเหมือนจะเป็นบ้ากับความน่ารักน่าหยิกของแฟนตัวน้อยที่เอาแต่อ้อนไม่หยุดจนไม่อยากเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้ว เขาต้องห่างจากความนุ่มนิ่มเป็นเดือน และทำได้แค่ฟังเสียงกับเปิดกล้องคุยซึ่งแน่นอนว่ามันไม่พอเยียวยาความคิดถึง

    เมื่อกี้ทำอะไรอยู่ นั่งรอตั้งนาน

    ก็ชาร์ลไม่ชวนเรานี่

    ความผิดฉันหรือไง หัดเดาใจแฟนบ้างสิ โง่จริง ชาร์ลหันไปแยกเขี้ยวใส่คนที่นั่งทำหน้ามุ่งมั่นถูหลังให้อย่างตั้งใจ

    งั้นวันหลังเราจะพังประตูเข้ามาเลย

    แรงเยอะมากมั้ง ตัวก็แค่นี้บ่นอุบอิบพร้อมจีบมือขึ้นเป็นท่าประกอบ แค่คิดสภาพปาร์คแบคฮยอนตอนวิ่งชนประตูก็อยากขำให้ก้องโลกแล้ว ไม่วายคงกระเด็นล้มลงไปกองกับพื้น

    ตัวก็แค่นิ

    ล้อเลียนเหรอ เดี๋ยวเจ็บ

    ทำไมวันนี้ป่าเถื่อนจังอะ คีพลุคคนนิสัยแย่อยู่เหรอหะชาร์ลี ฮอปส์!” ความนุ่มนิ่มขยับเข้ามากอดเขาจากด้านหลังพร้อมเอาคางเกยไหล่อย่างออดอ้อน

    โหดปะล่ะ

    โหดที่สุด ลูกหมาตัวน้อยขมวดคิ้วงับไหล่กว้าง และฟันคม ๆ นั่นก็เรียกรอยยิ้มจากเด็กหนุ่มลูกครึ่งได้มากกว่าจะหันไปแยกเขี้ยวใส่ จุ๊บ

    อย่าทำ เดี๋ยวก็ของขึ้นหรอก

    ทำสิ เราก็ของขึ้นแล้ว

    ว่าไงนะ? ชาร์ลี ฮอปส์หูฝาดไปหรือเปล่า วูบหนึ่งเลยทีเดียวที่เขารู้สึกอยากหยิบไม้เรียวขึ้นมาฟาดความนุ่มนิ่มเหมือนที่พ่อแม่หัวโบราณลงโทษลูกเวลาพูดจาไม่น่ารัก เออ!!! รู้น่าว่าทั้งหมดทั้งมวลที่บ่มเพาะให้น้องน้อยเป็นเด็กแก่แดดแบบนี้ก็เพราะเขา แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ดิ

    ฮึบ!”

    โมจิ?!” เด็กหนุ่มเบิกตากว้างรีบหันไปทั้งตัวเพื่อคาดโทษอีกฝ่าย หลังจากคนที่เป็นรับมาตลอดอย่างน้องน้อยมีความพิเรนทร์ทำท่ากระแทกตุ้งติ้งเล็ก ๆ นั่นใส่ก้นเขาไม่หยุด!!!!!

    คับ!”

    ยังจะคับอีก!!!!”

    ชาร์ลเขินสินะ หน้าแดงมากเลย

    แบบนี้ไม่ใช่เขินโว้ย!!! หัวร้อนอะหัวร้อน!!!” เด็กหนุ่มจับข้อมือคนตัวเล็กที่นั่งหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างนึกสนุก ก่อนจะก้มศีรษะลงเพื่อช้อนตัวความดื้อขึ้นพาดไหล่จนน้ำกระเซ็นออกจากอ่าง

    โอ๊ะ เลือดเรากำลังไหลลงหัว

    แล้วตายยัง?!”

    ยัง แต่ถ้าเป็นผีเมื่อไหร่เราจะมาหลอกชาร์ลเป็นคนแรกเลย

    มาดิ จะปล้ำ จะจูบจนปากเจ่อเลย เด็กหนุ่มตัวสูงวางร่างเปลือยเปล่าลงบนซิงค์อ่างล้างหน้า ก่อนความนุ่มนิ่มจะสะดุ้ง

    เย็นก้นอะ

    โมจิ จะเกินไปละนะ เป็นอะไร ทำไมวันนี้ต้องน่ารัก น่ามันเขี้ยว แม้แต่ตอนยกก้นขึ้นแล้วเงยหน้าทำปากยื่นฟ้องว่าไอ้หินขัดโง่ ๆ นี่มันเย็นมากแค่ไหน อย่าทำแบบนี้ดิ เดี๋ยวก็ทิ้งตั๋วเครื่องบินซะหรอก

    ไม่ได้นะ แม่รอชาร์ลอยู่

    รอเพราะอยากได้เงินจากพ่ออะดิ เขาปล่อยให้มือนุ่ม ๆ ลูบแก้มเบา ๆ ขณะสบตากัน แค่นึกถึงผู้หญิงที่ให้ชาร์ลี ฮอปส์เกิดมาเป็นภาระสังคมก็เหนื่อยขึ้นมาเสียอย่างนั้นทั้งที่แค่ยืนเฉย ๆ ตั้งเดือนนึงเลยนะโมจิ

    เด็กหนุ่มก้มลงหอมแก้มคนรักฟอดใหญ่ ก่อนจะจูบไล่ไปตั้งแต่หน้าผาก ปลายจมูก จนเลื่อนมาจุ๊บปากเหมือนอยากจดจำรายละเอียดแฟนไว้ช่วยตัวเองตอนอยู่ไมอามี่

    ห้ามพูดย้ำ เดี๋ยวเราจะงี่เง่า

    ก็เอาสิ ความจริงนายน่าจะขอเรื่องนี้กับพ่อแม่ ฉันเชื่อว่าอาชานยอลต้องยอมจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้แน่

    อื้อ เรารู้ เราอยากอยู่กับชาร์ลนะ แต่อีกใจเราก็อยากให้ชาร์ลใช้เวลากับที่นั่นให้เต็มที่ อยู่กับเพื่อนกับบรรยากาศเก่า ๆ เพราะถ้าเราไปด้วยชาร์ลก็คงสนใจเราแค่คนเดียว

    ไปหัดเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน? เด็กหนุ่มหรี่ตามองคนตัวเล็กที่อยู่ ๆ ก็เอามือจับแก้มตัวเองอย่างขลาดอาย

    นั่นสิ เราหลงตัวเองมากเลยอะ ทั้งที่ความจริงชาร์ลอาจจะทิ้งให้เรานั่งอยู่กับแพนเค้กแห้ง ๆ ตอนออกไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อนก็ได้

    ใครจะทำอย่างนั้นล่ะ บ้าว่ะ เด็กหนุ่มเอาสบู่มาถูตัวให้คนตรงหน้า ก่อนสองมือจะชะงักไปเพราะศีรษะทุยเอนลงมาซบกับแผงอกของเขา

    หนึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอกันชาร์ลจะได้คิดถึงเรามาก ๆ ไง...

    นายไม่รู้หรอกว่า คิดถึงมาก ๆในแบบของฉันมันเป็นยังไง จูงมือน้องน้อยให้เข้ามายืนอยู่ใต้ฝักบัว ก่อนจะเปิดน้ำล้างตัวให้

    เป็นยังไงเหรอ เล่าให้เราฟังหน่อย แบคฮยอนช้อนตามอง สบตากับคนตัวโตก่อนที่เราต้องแยกกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

    ชาร์ลจะไปขึ้นเครื่องกลับไมอามี่แล้ว และเขาก็จะกลับไปเป็นลูกชายคนโตที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านกับครอบครัวเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาตลอด

    ไว้ถึงตอนนั้นนายก็จะรู้เอง

    คนตัวเล็กหลับตาลงรับจูบอุ่น ๆ ตรงหน้าผาก ต้องคิดถึงมากแน่เลย ชาร์ลก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าความคิดของของปาร์คแบคฮยอนมันเป็นยังไงและมากแค่ไหน แต่ถ้าพูดไปตอนนี้คงไม่ดีแน่ เขาอยากให้อีกฝ่ายกลับไปใช้เวลาอยู่ที่บ้านเกิด ถึงแม้ว่ามันจะน่าอึดอัด แต่อีกใจก็คิดว่าบางทีปาฏิหาริย์อาจจะเกิดขึ้นก็ได้

    ในเมื่อชาร์ลเป็นคนที่ดีขึ้นแล้ว มันจะเป็นไปได้เหรอที่ลุงอี้ฝานจะมองไม่เห็น

    ยังไม่ได้ไปขอบคุณพ่อกับแม่นายเรื่องที่ช่วยจุนมยอนเลย รอก่อนนะ ฉันจะกลับมาพร้อมของฝากกับมารยาทที่ทำให้พ่อแม่นายไม่อึดอัด

    แค่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าน้องน้อย หัวใจที่คิดว่าต้องเหนื่อยเมื่อเท้าเหยียบถึงไมอามี่ก็มีเรี่ยวแรงขึ้นมา ชาร์ลก้มลงจุ๊บเหม่งความน่ารักอีกครั้ง ก่อนทั้งคู่จะสวมกอดกันเพื่อกักตุนความคิดถึงไว้ตั้งแต่ตอนนี้

     

     


    *

     

     


    จริง ๆ นะพ่อจ๋า น้องไม่ได้โกหก

    ครับ พ่อเชื่อ

    พ่อไม่ได้เชื่อ พ่อกำลังมองว่าน้องเป็นคนบ้าเพราะอกหักจากพี่จุนมยอน เด็กสาวเบะปากสะอื้นน้ำตาแห้งเรียกร้องความเห็นใจจากพ่อแม่และพี่ชายอีกสองคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร

    โบยอนทาบมือลงบนหน้าอกข้างซ้ายที่แหลกละเอียดเป็นเศษแก้วโดนรถบดเหยียบจนแทบไม่เหลือชิ้นดีหลังจากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันในวันที่เด็กหญิงคนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี เพื่อให้กำลังใจผู้ชายที่แอบชอบหวังจะให้หายป่วยไว ๆ

    แต่สิ่งที่ปาร์คโบยอนได้รับกลับเป็นภาพพี่จุนมยอนกำลังจับมือผู้หญิงคนหนึ่ง แถมไม่สวยด้วย ผมก็สั้นกว่า ตัวก็ไม่ได้สูง หน้าอกก็เล็ก ตอนนั้นโบยอนรู้สึกเหมือนโลกกำลังจะพังเพราะพ่ายแพ้ผู้หญิงที่ด้อยกว่าเธอทุกอย่าง ทำไมล่ะ เพราะปาร์คโบยอนอายุสิบสองน่ะเหรอ เหตุผลมันฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย

    เธอสบตากับพี่จุนมยอนหวังให้รู้ว่ากำลังรู้สึกอย่างไร ก่อนจะรีบวิ่งออกไปพร้อมเสียงสะอื้นนิด ๆ เพื่อจงใจทิ้งสารให้รู้ว่ากำลังร้องไห้อยู่ แต่สิ่งที่โบยอนได้รับกลับเป็นความว่างเปล่า ไม่มีใครวิ่งตามง้อเพื่ออธิบายเหมือนในนิยายที่ชอบอ่าน พี่จุนมยอนคงนอนอยู่บนเตียงและจับมือยัยไม่สวยคนนั้นต่อไป ทำไมโลกนี้ถึงไม่ยุติธรรม

    น้องอกหัก นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้น้องเห็นผี มันเป็นเรื่องของเซนส์ โบยอนกล่าวตาลอย

    ผีมีจริงที่ไหน มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะเชื่อ เด็กหนุ่มในชุดวอร์มเตรียมพร้อมไปเข้าค่ายส่ายศีรษะมองน้องสาวอย่างเอือมระอา

    ตัวเองไม่เคยเห็นก็เลยคิดว่าไม่มีไง ระวังตัวไว้เหอะ ค่ายที่ตัวเองกำลังจะไปอะ ได้ข่าวว่าเฮี้ยนมาก ๆ โบยอนแค่นยิ้ม สบตากับพี่ชายคนกลางหวังจะขู่ให้กลัว แต่คนขวางโลกอย่างพี่ชานอีกลับทำท่าบีบคอตัวเองแถมปั้นหน้าปั้นตาเหมือนจะขาดใจตายใส่จนน่าหมั่นไส้

    พอเลยทั้งพี่ทั้งน้อง สุดท้ายศึกก็หยุดลงได้เพราะแม่เหมือนกับทุกครั้ง แบคฮยอนยิ้มขำกับบรรยากาศเดิม ๆ ที่คุ้นเคย ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้านก็ไม่เคยมีวันไหนเลยที่โต๊ะอาหารจะเงียบ

    ว่าแต่จุนมยอนเป็นยังไงบ้าง แบคฮยอน?

    พอออกจากโรงพยาบาลก็ทำเรื่องขอสอบย้อนหลังครับพ่อ พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจุนมยอนก็กลับบ้านไปเมื่อวันก่อน

    แล้วที่บ้านเขาว่ายังไงกับเรื่องผ่าตัด? พ่อยังคงถามด้วยความเป็นห่วง อันที่จริงท่านมักจะถามอยู่ตลอด เพราะตั้งแต่พาโบยอนไปเยี่ยมแล้วเจอภาพบาดตา พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ไปเยี่ยมจุนมยอนอีกเลยเพราะน้องงอแง

    ผมยังไม่ได้ถามเพื่อนเลย กะว่าจะโทรหาวันนี้ครับ แต่เห็นจุนมยอนบอกว่าจะเล่าให้พ่อกับแม่ฟังตอนถึงบ้านแล้ว เขาบอกว่าถ้าได้คุยกันต่อหน้าคงดีกว่าบอกผ่านโทรศัพท์ แบคฮยอนเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง จุนมยอนบอกว่าคนเราโกหกกันได้ด้วยเสียงแต่โกหกทางสายตาไม่ได้ เขาไม่อยากโกหกพ่อแม่ว่ากำลังอยู่อย่างสบายตอนที่มีผ้าพันแผลพันรอบหัวอย่างนั้นน่ะ

    วิธีนั้นอาจจะดีสำหรับจุนมยอน แต่เราสามคนอย่าทำแบบนั้นนะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็อย่ากลัวที่จะเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง เพราะถ้าแม่ไปรู้เองทีหลังว่าลูกผ่านมันไปด้วยตัวเองอย่างยากลำบากแม่คงเสียใจมาก

    จ้าคุณนายแบคฮี

    ปาร์คชานอี เวลาแม่พูดช่วยใส่ใจสักยี่สิบวิได้ไหม?

    ให้ยี่บห้าเลย

    แม่ตีพี่ชานอีเลย เอาให้สมองสั่นจนเป็นเด็กเอ๋อ!!!”

    ขี้เสี้ยมนักนะยัยเด็กขี้มโน เด็กหนุ่มยิ้มเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม ส่งสายตาก่อสงครามกับน้องสาวก่อนจะสะดุ้งทั้งคู่เพราะเสียงของแม่อีกครั้ง

    เดี๋ยวจะโดนทั้งคู่นะ

    งั้นจุนมยอนก็มีเวลาอยู่กับครอบครัวได้แค่อาทิตย์กว่า ๆ เองสิ พ่อเริ่มกลับเข้าเรื่องอีกครั้ง และแบคฮยอนก็พยักหน้ารับกับช่วงเวลาปิดเทอมที่ใกล้จะสิ้นสุดลง

    ช่างพี่จุนมยอนสิ สนใจพี่จ๋าดีกว่า พี่แบคฮยอนจะกลับไปอยู่หออีกแล้ว น้องจะกลายเป็นซินเดอเรลล่าที่ถูกหมีป่ารังแก... โบยอนซบหน้าลงกับไหล่พี่ชายคนโต

    เรียกใครหมีป่า?

    ไม่รู้ ใครอยากรับก็รับไปสิ

    น้องอย่ายั่วโมโหพี่นักสิลูก ชานยอลลูบศีรษะเด็กสาว ที่เบะปากส่งสายตาแป๋ว ๆ มาเหมือนอยากจะบอกว่าเพราะโลกใบนี้มีปีศาจอย่างปาร์คชานอี เด็กนิสัยดีอย่างโบยอนถึงได้เป็นคนแบบนี้

    เดี๋ยวพี่ก็กลับมาอีกวันเสาร์อาทิตย์ไง

    แล้ววันจันทร์ถึงศุกร์ล่ะ วันที่น้องได้ยินเสียงผี ใครจะปกป้องน้อง คนเป็นแม่กุมขมับกับลูกสาวคนเล็กที่สุดท้ายก็ดึงกลับมาเรื่องผีอีกจนได้

    บางทีเธออาจจะหูฝาดไปเอง

    บ้านเรามีผีจริง ๆ ทำไมแม่ไม่เชื่อ!”

    อย่าขึ้นเสียงกับแม่สิลูก

    จริง ๆ นะพี่แบคฮยอน อาทิตย์ก่อนน้องได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง เสียงเหมือนจะขาดใจเลย มันดังออกมาจากห้องน้ำตอนดึก ๆ เมื่อคืนก่อนก็เหมือนกัน น้องลุกมาฉี่... แล้วน้องก็ได้ยิน ลูกสาวคนเล็กของบ้านถลึงตาพูดอย่างจริงจัง พยายามอธิบายให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารเห็นภาพว่าสิ่งที่เธอสัมผัสได้มันน่ากลัวแค่ไหน

    อะแฮ่ม ชานยอลกระแอมไอพลางชำเลืองมองลูกชายคนกลางซึ่งทำหน้าไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวกับต้นเหตุที่ทำให้ลูกสาวคนเล็กเชื่ออย่างสนิทใจว่าบ้านนี้มันมีผี

    สองพ่อลูกสบตากัน ปาร์คชานอีรู้สึกได้ถึงใบเหลืองใบที่สองที่พ่อกำลังบอกให้เขารู้ว่า อย่าพาผู้หญิงมาทำเรื่องอย่างว่าให้น้องได้ยินอีก

    พ่อกับแม่ไม่ได้ห้ามเรื่องมีเซ็กส์ แต่ขออย่างเดียวแค่ให้รู้จักป้องกัน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องได้ยินเขาทำเรื่องอย่างว่ากับเพื่อนกลางดึกนั้นก็ต้องโทษยัยตัวแสบที่ออกมาเพ่นพ่านตอนกลางคืนเองไม่ใช่หรือไง เวลาเสียวคนมันก็ต้องร้องเป็นธรรมดา ยัดนิ้วเข้าปากให้อมก็แล้วแต่มันก็ช่วยกักเสียงทั้งหมดไม่ได้อยู่ดี

    อีกอย่าง... การทำในห้องนอนอย่างเดียวมันก็น่าเบื่อ

    คราวนี้เสียงผู้หญิงหรือผู้ชายอะ แบคฮยอนคงเป็นคนเดียวที่ตั้งใจฟังโบยอนมากที่สุด น้องจึงทำตาเป็นประกายก่อนจะหันหน้าเข้าหาพี่จ๋าเต็มตัว

    ไม่รู้อะ แต่น้องได้ยินจริง ๆ นะ เหมือนจะร้องว่า ไม่ไหว ช้าหน่อย จะตายแล้วเสียงหอบ ๆ เหมือนจะขาดใจเลย น้องฟันธงว่าคงโดนเอาเชือกรัดคอจนตายแน่ วิญญาณเลยกลับมาตายด้วยวิธีเดิมซ้ำ ๆ อะ

    แม่อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ยังเรียนมอปลายอยู่ ไม่เห็นจะเจอผีสักตัว

    มีแต่ผีผ้าห่มไรงี้ปะแม่ -- อ๊ากกกก ยอมแล้ว ๆชานอีนั่งหดคอห่อไหล่หลังจากถูกคนเป็นแม่เดินไปหยุดอยู่ข้างหลังพร้อมคว้าต้นคอไว้ด้วยมือเดียว แบคฮยอนมองทั้งคู่ตาปริบ ๆ ส่วนพ่อกางหนังสือพิมพ์อ่านแล้วยกกาแฟขึ้นดื่มเหมือนว่าไม่อยากรับรู้เหตุการณ์ต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้น

    ดูเหมือนว่าวันนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยแล้วล่ะชานอี

    ไว้คุยกันวันหลังดิแม่ วันนี้ผมรีบ เข้าค่ายอะเข้าค่าย

    เดี๋ยวแม่ไปส่งที่โรงเรียนเอง ถึงไวกว่ารถไฟใต้ดินขบวนไหนในโลกอีก

    ไม่!!! อั่ก!!”

    สมน้ำหน้า!!! 55555555”

    ฝากไว้ก่อนเถอะยัยเตี้ย -- อั่ก!! แม่จ๋า -- แม่ -- ยอมแล้ว!!!”

    แบคฮยอนมองสภาพน้องชายที่กำลังโดนแม่ลากออกไปจากโต๊ะอาหาร ก่อนจะหลุดขำออกมาตอนได้ยินเสียงเด็กตัวแสบแหกปากลั่นสวนหน้าบ้านพร้อมวิ่งหลบฝ่ามือแม่ ส่วนโบยอนดูจะมีความสุขกว่าใครหลังจากที่พี่ชายคนกลางถูกทำโทษ เธอยังคงเชื่อเรื่องผี และนั่นทำให้แบคฮยอนนึกถึงใครอีกคนที่ตอนนี้อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโลก

    เชื่อน้องสิ... ว่าบ้านเรามีผีจริง ๆ

     

     

     

    70%

     

     

    ทำไมครูผู้ชายถึงต้องมีเวรเฝ้าโรงเรียนด้วย น้องไม่เข้าใจ ดึกดื่นแบบนี้คนเป็นครูอย่างพ่อจ๋าควรอยู่บ้านเพื่อปกป้องลูกจากผีร้าย ไม่ใช่โรงเรียนที่ไม่มีชีวิต

    ไม่ใช่แค่พ่อเราสักหน่อย ครูคนอื่น ๆ ก็ต้องทำเหมือนกัน แล้วพ่อก็ไม่ได้เข้าเวรทุกวันด้วย

    พ่อจะไปวันไหนก็ได้ แต่ก็ไม่ควรเป็นวันที่ไฟดับทั้งซอยแบบนี้

    มีแค่แสงจากโคมไฟอวกาศเท่านั้นที่ฉายความสว่างให้กับห้องนั่งเล่นมืด ๆ ในเวลาสามทุ่มครึ่ง สองพี่น้องนั่งเอาผ้าห่มคลุมหัวตัวเองแล้วมองหน้ากันหลังจากไฟดับไปเมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว และลวดลายความสวยงามของโคมไฟอวกาศก็ไม่ได้สร้างความบันเทิงใจให้คนที่มีความหวาดกลัวอยู่ในใจอย่างลูกสาวคนเล็ก

    พี่แบคฮยอนคิดดูสิ อยู่ดี ๆ แม่ก็ต้องไปดูร้านที่ปูซาน หมีป่าอย่างพี่ชานอีก็ไปเข้าค่ายกีฬาอะไรนั่นอีก ทุกอย่างเป็นแผนของผี มันถูกวางไว้เป็นอย่างดีแล้ว เหมือนในหนังที่เพื่อนเปิดให้น้องดู

    น้องคิดมากเกินไปแล้ว ถ้าผีมีจริงก็คงไม่มาหลอกเราบ้านเดียวหรอก

    ผีต้องหลอกบ้านหลังแรกก่อนใช่ไหม...

    อื้อ

    กว่าจะมาถึงบ้านเราก็หลังที่ห้า ถ้าหลอกบ้านละยี่สิบนาทีกว่าจะมาถึงเราก็ดึกเลยสิ... พี่แบคฮยอนเคยได้ยินหรือเปล่าว่ายิ่งดึกผีก็ยิ่งเฮี้ยน... โบยอนกำผ้าห่มปลายคางพลางกลอกตามองไปรอบ ๆ ตัวอย่างหวาดระแวง ทำไงดี ตอนนี้เริ่มหิวแล้วด้วย... ถ้าไปเปิดแก๊สชงโกโก้ดื่มตอนนี้น่าจะทันก่อนผีมาหลอก ไม่ได้เด็ดขาด ความหิวก็คงเป็นแผนของผีอีกเช่นกัน มันจงใจจะแยกเธอออกจากพี่จ๋าเพื่อที่จะหลอกรายบุคคล

    พี่จ๋าก็อยู่นี่แล้วไงเล่า!” แบคฮยอนทำปากยื่น นึกน้อยใจตอนเห็นสีหน้าของน้องสาวที่เหมือนกำลังบอกให้รู้โดยไม่ต้องพูดว่าพี่ไม่ได้ทำให้น้องรู้สึกปลอดภัยจากผีเลยแม้แต่นิดเดียวเขาเป็นพี่ชายคนโตนะ ปีนี้สูงขึ้นตั้งสองเซนต์ด้วยอะ คนพี่มั่นใจว่าต้องปกป้องโบยอนได้ในค่ำคืนนี้ที่มีเรากันแค่สองคน

    พี่แบคฮยอนอยู่ข้างล่าง

    อื้อ

    แต่น้องอยู่ข้างบน ถ้าโดนผีหลอกพี่จะวิ่งขึ้นมาทันเหรอ

    ทัน พี่วิ่งเร็ว

    โม้ พี่ชานอีบอกว่าพี่จ๋าวิ่งช้ายิ่งกว่าเต่าอีก ถ้าให้ไปวิ่งแข่งกับหอยทากเป็นอัมพาตก็พนันได้เลยว่าใครจะชนะ

    พี่ชนะแน่นอน!” คนด้อยเรื่องกีฬารีบตอบอย่างมั่นใจ เขาจะไม่ยอมเสียหน้าน้องสาวคนเล็กเด็ดขาดแม้ว่าการวิ่งรอบสนามโรงเรียนก็ยังคงเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสสำหรับปาร์คแบคฮยอน

    ไม่ ยังไงก็ต้องหอยทากเป็นอัมพาต ความจริงน้องก็ไม่อยากเชื่อพี่ชานอีหรอกนะ แต่... อือออ โบยอนมองพี่ชายตั้งแต่หน้าผากจนถึงหัวเข่าแล้วทำปากยื่น น้องเชื่อมั่นในตัวพี่จ๋านะ แต่ความเป็นไปได้ว่าหอยทากเป็นอัมพาตน่าจะถึงเส้นชัยก่อนมันก็มีอยู่สูง

    หูย ดูถูก!” แบคฮยอนตบเข่าดังฉาด โบยอนหรี่ตามองขาพี่ชาย แม้ตรงนี้จะมืดจนมองเห็นแค่แสงสีส้มยิบยับจากโคมไฟอวกาศแต่ก็พอทำให้เห็นริ้วแดง ๆ บนขาที่เกิดจากแรงฟาดเมื่อครู่ได้

    เอาเถอะ น้องไม่อยากทำให้ผีเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต เด็กน้อยไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ อีกอย่าง น้องก็เป็นสาวแล้ว เพราะงั้นน้องจะไม่ขอให้พี่จ๋าขึ้นไปนอนด้วย

    เก่งมาก ๆ นี่สินางฟ้าฟันน้ำนมของพี่แบคฮยอน คนพี่ปรบมือแปะ ๆ  

    แต่ถ้าน้องเจอผีแล้ว --

    กึ่ก!!!

    สองพี่น้องสะดุ้งสุดตัวพลางหันไปทางประตูห้องนอนของลูกชายคนโตซึ่งมันยังคงปิดสนิท ได้ยินพร้อมกันขนาดนี้คาดว่าต้นเหตุของเสียงปริศนาเมื่อครู่มันต้องดังมาจากข้างในแน่ เขาไม่ได้คิดไปเอง โบยอนรีบขยับเข้าไปเกาะแขนพี่ชายทั้งที่อยู่ในสภาพคลุมโปง หวาดกลัวถึงสิ่งลี้ลับซึ่งเพื่อนมักจะเล่าให้ฟังในชั่วโมงเรียนที่น่าเบื่อ

    ไหนบอกว่าผีจะแวะบ้านหลังแรกก่อนไง ทำไมมาถึงมาบ้านเราเร็วจังเลยล่ะ...

    แบคฮยอนไม่ได้ให้ความสบายใจกับน้องสาว เพราะเสียงเมื่อครู่นั้นไม่ได้ทำให้เขานึกถึงผีแต่อย่างใด สิ่งแรกที่ผุดเข้ามาในหัวคือเสียงของตกแต่พอคิดอีกทีคงไม่ใช่ มันน่าจะเป็นเสียงจากความจงใจซึ่งถ้าไม่คิดแง่ร้ายเกินไป... ก็คงเกิดจากการงัดหน้าต่าง

    โจรเหรอ?

    น้องขึ้นไปข้างบน แล้วอย่าลงมาเด็ดขาด

    ไหงงั้น พี่จ๋าจะสู้กับผีคนเดียวเหรอ โบยอนเบิกตาโพลงพร้อมกอดแขนพี่ชายแน่น

    น้องฟังนะ แบคฮยอนโอบแก้มนุ่มนิ่มของเด็กสาวอายุสิบสองเอาไว้พร้อมจ้องตาเพื่อบอกให้รู้ว่าเขากำลังจริงจังมากแค่ไหนน้องเอาโทรศัพท์ไว้กับตัว ล็อกห้องทั้งสามกลอน ถ้าพี่ตะโกนช่วยด้วยเมื่อไหร่ น้องรีบโทรหาตำรวจทันทีเลย โอเคไหม?

    ผีไม่กลัวตำรวจนะพี่แบคฮยอน เด็กน้อยหรี่ตามองอย่างผิดหวัง สองมือกำสมาร์ทโฟนลายโพนี่ไว้แนบอกแน่นตามที่พี่จ๋าบอก

    เชื่อกันหน่อยได้ไหมเล่า!”

    แล้วถ้าพี่จ๋าไม่ร้องน้องต้องทำไง?

    หมายความว่าพี่ไล่ผีไปบ้านอื่นได้แล้ว

    อะไร พี่แบคฮยอนไม่ได้เก่งขนาดนั้นสักหน่อย อย่าทำเป็นเข้มสิ อีกครั้งที่โบยอนมองพี่ชายด้วยแววตาผิดหวัง แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ก็เขาไม่อยากให้น้องกลัวถ้าต้องบอกว่าเสียงนั่นต้องเป็นโจร! ไม่ใช่ผีอย่างที่คิดเลยสักนิด!’ มนุษย์ที่จับอาวุธมีคมได้ย่อมน่ากลัวกว่าสิ่งที่เป็นพลังงาน ถ้าต้องเกิดอะไรขึ้นคนเป็นพี่ชายจะต้องปกป้องน้อง นั่นคือความถูกต้อง

    เบา ๆ นะ ห้ามวิ่ง แบคฮยอนรีบเปิดไฟฉายมือถือแล้ววิ่งไปคว้าไม้แขวนเสื้อมาถือไว้เป็นอาวุธ พร้อมสบตากับเด็กวัยสิบสองขวบที่ยืนคลุมโปงอยู่ปลายบันไดทางขึ้น

    น้องรักพี่นะ

    รักน้องเหมือนกัน

    ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่จ๋าจะอยู่ในนี้ตลอดไป

    เดี๋ยวคนพี่ขมวดคิ้วกับประโยคแปลก ๆ โบยอนทาบมือขวาลงบนอกข้างซ้ายพร้อมมองมาทางเขาราวกับว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเราที่จะได้พูดคุยกัน

    กึ่ก ๆ

    ไป... แบคฮยอนเบาเสียงที่สุดเท่าที่จะเบาได้หลังจากเสียงงัดหน้าต่างดังขึ้นอีกครั้งราวกับเป็นสัญญาณบอกว่าทั้งคู่ต้องรีบ

    โบยอนคลุมโปงขึ้นบันได ก้าวขาทีละสองขั้นเพื่อเร่งความเร็วแต่ขาสั้น ๆ ของเธอก็ช่างเป็นอุปสรรคต่อการหนีผีเหลือเกิน แบคฮยอนรอจนกว่าจะสบายใจว่าน้องเข้าห้องนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจึงปิดไฟฉายมือถือแล้วค่อย ๆ หมุนลูกบิดเข้าไป

    มือขวากำไม้แขวนเสื้อไว้แน่น เขามั่นใจเลยว่าถ้าเป็นฝ่ายได้เปิดการต่อสู้ก่อน โจรที่ฉวยโอกาสปล้นบ้านคนอื่นตอนไฟดับคงมีเสียหลักบ้าง เพราะไม้แขวนเสื้อที่สั่งทำเป็นพิเศษของแบรนด์ร้านแม่มันแข็งแรงและทนทาน โจรหน้าไหนก็ต้องล้มทั้งยืนแน่ ๆ

    แต่ยังไม่ทันได้ง้างมือขึ้นเตรียมฟาดก็ต้องค้างอยู่ท่านั้น เมื่อผู้บุกรุกสาดแสงไฟฉายมาทางนี้จนต้องหรี่ตาลง วูบหนึ่งแบคฮยอนคิดว่าคงพลาดท่าโดนโจมตีก่อนแน่ ๆ แต่ผ่านไปไม่กี่วินาทีก็พบว่าไม่ใช่ พี่ชายที่พยายามปกป้องบ้านด้วยไม้แขวนเสื้อจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเมื่อแสงไฟฉายลดลงต่ำ ก่อนปาร์คแบคฮยอนจะได้เห็นโฉมหน้าคนงัดหน้าต่างได้ชัด ๆ ว่าเป็นใคร

    ชาร์ล?

    “Jesus... นายทำฉันตกใจแทบแย่ คนตัวเล็กเลิกคิ้วมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาขณะมองแฟนหนุ่มที่ยกมือขึ้นทาบอกอย่างโล่งใจราวกับว่าการมาของเขามันน่ากลัว

    เราต่างหากที่ต้องตกใจ มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? มองดูความเปลี่ยนแปลงทางการแต่งตัวที่ดูเป็นผู้ใหญ่และดูดีขึ้นกว่าเดิมของอีกคนแล้วก็ใจเต้นเฉยเลย วันนี้ชาร์ลหล่อจัง ตัดผมใหม่มาแน่ ๆ เมื่อวานยังเห็นยาวกว่านี้

    เมื่อกี้ เด็กหนุ่มตัวสูงเว้นจังหวะไป แบคฮยอนจึงลดระดับสายตามองตุ๊กตาหมีที่อีกคนกอดไว้ด้วยแขนซ้าย และแน่นอนว่ามันไม่ใช่ตุ๊กตาในห้องของเขา นึกว่าจะโดนผีหลอกซะแล้ว

    คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นโจรงัดบ้านวางสมาร์ทโฟนลงบนเตียงเพื่อให้ความสว่างกับห้องมืด มือซ้ายยังคงทาบอกตนเองจากความหวาดกลัวในใจที่ยังคงไม่หายไปไหน

    บ้านเราไม่มีผีสักหน่อย

    นายอยู่ในนี้จะไปรู้อะไร ข้างนอกไฟดับทั้งซอยรู้ไหมว่าคนเดินเข้ามาตอนมืด ๆ มันหลอนแค่ไหน ดูสิ... ไม่ต่างอะไรจากหมู่บ้านผีสิง ชาร์ลกวาดสายตาไปโดยรอบก่อนจะหยุดตรงหน้าต่าง เรื่องหลอนในหนังผีมากมายต่างพร้อมใจกันมาย้ำเตือนความสยอง แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นผู้ชายตัวใหญ่ใจโพนี่ก็รีบหันกลับมาเพราะในมโนความคิดมันจินตนาการไปแล้วว่ามีเงาดำยืนอยู่ข้างนอก

    ไฟดับไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ว่าแต่ทำไมชาร์ลไม่โทรมาเล่า แบคฮยอนทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้าง ๆ แฟนจ๋า เรานึกว่าโจรงัดบ้าน ตกใจแทบแย่

    อะไร อย่าบอกนะว่าที่ถือไม้แขวนเสื้อมาเพราะคิดจะสู้กับโจร

    ก็ใช่น่ะสิ มันแข็งแรงนะ น้องน้อยยื่นอาวุธโง่ ๆ ให้ เขาจึงแย่งมาโยนทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี ตัวนุ่มนิ่มถึงได้เลิกคิ้วมองอย่างเอาเรื่องชาร์ลอะ ไม่อ่อนโยนกับไม้แขวนเสื้อแม่เราเลย

    เป็นบ้าเหรอถึงคิดจะสู้กับโจรในที่มืด ๆ แบบนี้ เกิดมันเอามีดแทงโดนจุดตายขึ้นมาจะทำยังไง? โดนดุจนได้ แบคฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเล็กลงเท่าฝ่ามือเพียงเพราะสายตาคาดโทษของแฟนจ๋า รู้สึกผิดขึ้นมาเพราะมันคงน่ากลัวอย่างที่อีกคนว่าจริง ๆ

    ตอนนั้นเราคิดอะไรไม่ออก กลัวโจรเข้ามาข้างในได้ก่อนที่โบยอนจะขึ้นบ้าน... พี่จ๋าอย่าโกรธนะ

    ไม่ต้องมาอ้อนเลย คราวนี้ฉันไม่ใจอ่อนง่าย ๆ หรอกนะโมจิ

    หูย ดุมาก ในเมื่ออ้อนด้วยคำพูดไม่ได้ก็ต้องใช้ร่างกายเข้าช่วย แบคฮยอนพุ่งเข้ากอดคนตัวโตจนเซ แต่แฟนหนุ่มในโหมดดุก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายโกรธความผิดชาร์ลนั่นแหละที่งัดห้องเราอะ

    ก็ฉันเรียกเท่าไหร่นายก็ไม่ตอบ แถมหน้าบ้านก็ไม่มีรถจอดอยู่เลยคิดว่านายคงออกไปข้างนอกกับครอบครัวไง ถามหน่อยว่าฉันผิดเหรอที่อยากหาทางหลบภัยในห้องนายถ้าข้างนอกจะหลอนขนาดนี้

    หน้าต่างเราจะพังเพราะชาร์ลกลัวผีเนี่ย ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่สามารถกลั้นยิ้มเอาไว้ได้กับการได้ยินเสียงชาร์ลบ่นอุบอิบ และได้มองหน้าในระยะใกล้โดยไม่มีจอโทรศัพท์มากั้นเอาไว้เหมือนกับทุกวัน

    เออ มีเงินจ่ายแล้วกัน

    อี๋ มาถึงก็อวดรวยเลย แบคฮยอนทำปากยื่น ก่อนจะลดระดับสายตาลงมองน้องหมีขนปุยที่อยู่ในอ้อมแขนซ้ายของคนข้าง ๆ อีกครั้ง อันนี้ของเราใช่ไหมอะ

    อะไร

    เอามานะ ถึงในห้องจะมีแค่แสงสว่างจากไฟมือถือ แต่ชาร์ลี ฮอปส์ก็รู้สึกได้ถึงความน่ารักน่าหยิกของความนุ่มนิ่มที่นั่งอยู่ข้างตัว ยิ่งตอนอมยิ้มพร้อมแบมือออกมา ส่งเสียงบังคับกึ่งออดอ้อนนั่นก็ทำให้เขาลืมโกรธ ลืมกลัวผีไปได้ในพริบตาเดียว

    อะไรที่ทำให้คิดเข้าข้างตัวเองว่ามันเป็นของนาย

    ก็ชาร์ลเอามันมาหาเราที่บ้าน เรารู้ เราโตแล้ว มันต้องเป็นของฝากจากไมอามี่แน่ ๆ

    เด็กหนุ่มตัวสูงชำเลืองมองอีกคนพลางเบ้ปาก ก่อนจะยัดตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลเข้มให้ด้วยท่าทีไม่เต็มใจ ผิดแล้ว ฉันเก็บมันได้จากถังขยะก็เลยหยิบติดมือมาให้ต่างหาก  

    ขยะมีกลิ่นบราวด์นี่ด้วย น่ากินจัง พยายามเก๊กหน้าขรึม แต่ปากมันก็พาลจะยกยิ้มออกมาให้ได้ตอนเห็นว่าน้องน้อยกอดหมีโง่ตัวเล็กเอาไว้แนบอกพร้อมกดจมูกหอมไม่หยุด

    เก็บได้จากปากซอยนี่เอง

    “Made in China ด้วย แบคฮยอนพลิกตัวน้องหมีพลางเลิกคิ้วมอง

    เลอะเทอะน่า ตอนเลือกฉันยังเห็นอยู่เลยว่าป้ายมัน Made in Ameri -- ใช่ ชาร์ลี ฮอปส์ไม่ได้ตาลายจนอ่านผิดหรอก เพราะป้ายสีขาวที่เย็บติดข้างตัวไอ้หมีโง่มันเป็นอย่างที่เขาพูดจริง ๆ แต่ในวินาทีนี้ดูเหมือนว่าเรื่องใครผิดใครถูกจะไม่ใช่ประเด็น เมื่อเด็กหนุ่มเพิ่งรู้ตัวว่าประโยคเมื่อครู่มันคือกับดักของความนุ่มนิ่มที่แกล้งให้เขายอมรับ

    หูย อเมริกาจริงด้วย

    ...

    หมีจากถังขยะนี่หอมจังเลยน้า แบคฮยอนเอนศีรษะซบไหล่คนรักที่ไม่ได้เจอกันเกือบหนึ่งเดือนขณะที่สองมือยังคงกอดหมีกลิ่นบราวด์นี่ไว้แนบอก ชาร์ลอมยิ้มพลางยกมือขึ้นลูบศีรษะคนขี้อ้อน ท่ามกลางความเงียบที่มีเพียงเราสองคน

    ก่อนหน้านี้ทำอะไรอยู่?

    ดูซีรี่ส์โรแมนติกเป็นเพื่อนโบยอนอะ ชาร์ลมาถึงตั้งแต่กี่โมงเนี่ย กินข้าวหรือยัง? น้องน้อยช้อนตามอง เขาจึงพยักหน้าทั้งที่ความจริงยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่บ่าย

    มาถึงตั้งแต่หกโมง แต่ฉันแวะเอาของไปเก็บที่บ้านปู่ก่อนเพราะกะจะมาเซอร์ไพรส์คนแถวนี้

    คิดถึงเราล่ะสิ

    อืม มากด้วย พอใจยัง? คนถูกแทงใจดำตอบอย่างไม่กลัวเขิน ทั้งคู่สบตากันอยู่ครู่หนึ่งก่อนแบคฮยอนจะหลับตาลงเมื่ออีกคนเลื่อนมาจุ๊บหน้าผาก แชมพูหอม

    ตัวชาร์ลก็หอม

    งั้นเหรอ

    อือ

    แก้มร้อนผ่าวเพียงเพราะเห็นรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าหล่อของแฟนหนุ่ม เมื่อการทักทายแบบฟอร์มจัดสิ้นสุดลงความคิดถึงจึงทำงานอย่างหนัก ชาร์ลรั้งร่างน้องน้อยเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมหอมกลุ่มผมสีเข้มเสียฟอดใหญ่ก่อนจะหลับตาลงโคลงตัวช้า ๆ เหมือนโอ๋เด็ก ซึ่งความน่ารักก็บดเบียดเข้าหาและกอดตอบแน่น ๆ ไม่แพ้กัน

    คิดถึง

    มาก ๆ เลย

    รู้สึกเหมือนสามอาทิตย์มันนานกว่าสิบปีที่เราไม่ได้เจอกันอีก เขาทั้งจูบ ทั้งหอมเพื่อชดเชยความคิดถึงที่สะสมมานานเกินความจำเป็น แม้ว่าจะเปิดกล้องคุยกันทุกวันแต่มันก็ไม่เหมือนการกอดความนุ่มนิ่มไว้แนบอกอย่างนี้ มันค่อนข้างน่าตลกที่ความคิดถึงไม่ได้ลดหายไปแม้แต่นิด กลับกันแล้วยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก

    คราวหน้าเราจะไม่ให้ชาร์ลกลับแล้วนะ...

    จะงอแงหรือไง? เขาอมยิ้มพลางถอนหายใจอย่างโล่งอกโดยไม่เข้าใจว่าทำไม ทั้งที่รู้ว่าอีกคนต้องปลอดภัย อยู่ดีกินดีเมื่ออยู่กับครอบครัวปาร์ค แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นห่วงจนนอนไม่หลับ

    เราจะขอไปไมอามี่ด้วย...

    รำคาญคนขี้อ้อนว่ะ

    รำคาญเหมือนกันอะ แบคฮยอนซบเหม่งกับแผงอกแฟนจ๋า อมยิ้มเขินกับสิ่งที่ตัวเองแสดงออกไปก่อนเราทั้งคู่จะเอนตัวลงนอนบนเตียงข้าง ๆ กันแม่ชาร์ลดีขึ้นหรือยัง?

    จากที่เปิดกล้องคุยกัน คนตัวเล็กจำได้ว่าหลายวันก่อนคุณแม่ไม่สบาย ทรุดตัวจนต้องนอนอยู่บนโซฟาจนชาร์ลต้องปิดกล้องซึ่งแบคฮยอนได้แต่หวังว่าชาร์ลจะดูแลท่าน แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากสำหรับแฟนหนุ่มที่ปากมักจะพูดอยู่เสมอว่า

     

    เบื่อ กินเหล้ากลับบ้านดึก

    เมื่อไหร่จะไล่ไอ้แมงดานั่นออกไป

    มันต่อยหน้าฉัน แล้วแม่ก็เลือกที่จะห้ามฉันทั้งที่มันเป็นคนเริ่ม

    ที่นี่ไม่ใช่บ้านของฉัน อันที่จริง มันไม่มีที่ไหนเลยที่เรียกว่าบ้านได้ นอกจากหอแรคคูน

    แม่เมา อาละวาดใหญ่เลยที่ฉันขอเงินจากพ่อไม่ได้ ตลกดีนะ ที่ฉันยอมโดนพ่อด่าตลอดเพื่อให้เขาเข้าใจว่าฉันเป็นคนใช้เงินเหล่านั้นเองทั้งหมด

    อยากกลับเกาหลีแล้ว

     

    แม่ออกไปเล่นการพนันตั้งแต่ฉันยังไม่ตื่น แบบนั้นคงเรียกว่าดีขึ้นได้แล้วใช่ไหม? ถึงชาร์ลจะยิ้ม แต่แบคฮยอนก็รู้สึกเจ็บหัวใจแทนเหลือเกิน คนตัวเล็กขยับเข้าไปกอดก่ายเพื่อให้ความอบอุ่น เพื่อให้รู้ว่าเขายังอยู่ตรงนี้

    เรายังไม่ง่วง ถ้าชาร์ลอยากระบายเราก็นั่งฟังได้จนเช้าเลย

    เก่งขนาดนั้นเลยเหรอแฟนฉันน่ะ? เด็กหนุ่มหลุบสายตามองศีรษะทุยที่นอนซบไหล่ของเขาพร้อมพยักหน้าไม่ได้อยากระบาย แต่มีเรื่องอยากเล่าให้ฟังอย่างนั้นได้ไหม?

    เราอยากฟังทุกเรื่องเลย น้องน้อยช้อนตามองจึงอดไม่ได้ที่จะก้มไปจุ๊บเหม่งอีกสักที

    ถ้าฉันบอกว่าเพิ่งเคยเช็ดตัวให้แม่เป็นครั้งแรกตอนอายุสิบเก้า... มันจะฟังดูตลกไหม? คนฟังทำตาโตอ้าปากหวอ กระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำพร้อมจ้องหน้าแฟนหนุ่มเพื่อยืนยันว่าเรื่องที่ได้ยินเป็นเรื่องจริงหรือไม่ถึงสมองจะสั่งการมาตลอดชีวิตว่าไม่ควรรักแม่เพราะความผิดที่เธอทำ แต่หัวใจของฉันมันกลับทำสวนทางกัน

    ชาร์ลหัวเราะในลำคอเมื่อนึกถึงตัวเองตอนยืนอยู่ในห้องน้ำพร้อมถังและผ้าขนหนูผืนเล็กเก่า ๆ สีซีด เขาเงยหน้ามองตัวเองในกระจกระหว่างชกต่อยกับความคิดว่าระหว่างอีโก้หรือความเป็นลูกในไส้จะเป็นผู้ชนะไป ตั้งแต่เกิดมา... หลายครั้งที่แม่ป่วยออด ๆ แอด ๆ และชาร์ลี ฮอปส์ก็เลือกที่จะใส่แจ็คเก็ตกับหมวกออกไปหาเพื่อน ปล่อยให้เธอฝืนดื่มเหล้าเคล้ากลิ่นบุหรี่ที่อบอวลไปทั่วห้องกับสามีคนใหม่ซึ่งเปลี่ยนสองปีครั้ง

    แต่วันนั้นไม่มีใครอยู่กับแม่ ไม่มีคนคอยให้ความรักปลอม ๆ กับผู้หญิงเหลวแหลกที่ใช้ชีวิตในแบบที่พ่อไม่ต้องการ ชาร์ลไม่ได้ถามตัวเองว่าสิ่งไหนหรืออะไรที่เปลี่ยนความคิดเขาไปได้ถึงขนาดนี้ ตอนนั้นเด็กหนุ่มคิดเพียงว่าต้องทำให้ไข้ลดลง แม้ว่าการพูด การเดินเหินของแม่จะเป็นเรื่องที่สร้างความหงุดหงิดให้กับเขา

    การกลับไมอามี่ครั้งนี้ไม่ได้เจอหน้าพ่อเลยสักครั้งเดียว แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เพราะตั้งแต่แยกกันอยู่เขาก็มีโอกาสได้เจอพ่อแค่เดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง ชาร์ลไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้เจอหรือพูดคุยกัน เพราะพ่อคงไม่อยากสนใจเรื่องส่วนตัวของลูกนอกไส้ และเรื่องอาการป่วยออด ๆ แอด ๆ ของอดีตภรรยาที่ใช้ชีวิตอย่างเละเทะ

    ฉันลูบหัวตัวเองเหมือนที่ลุงของนายสอนแล้วนะ ชาร์ลทำท่าประกอบขณะสบตากับคนตัวเล็ก ก่อนจะจับเจ้าหมีกลิ่นบราวด์นี่ขึ้นมาระดับใบหน้าแล้วนี่ก็คือหมีถือดาบล่องหน

    ...

    นายคือหมีถือดาบของฉัน โมจิ คนฟังหัวใจพองโต มองเจ้าของคำพูดพร้อมอมยิ้มก่อนจะขยับเข้าไปจุ๊บปากหมีถือดาบพร้อมพึมพำเบา ๆ ว่าเก่งจังเลยน้าลิตเติ้ลโมจิ

    เราจะนอนกอดน้องทุกคืนเลย

    ได้ไง แล้วฉันล่ะ? คนกำลังจะถูกเมินเลิกคิ้วมองอย่างคาดหวังคำตอบ และความนุ่มนิ่มก็เม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงราวกับว่ากำลังใช้ความคิด

    พี่จ๋าก็กอดลิตเติ้ลโมจิอีกทีไง...

    คำตอบแสนน่ารักมาพร้อมตาแป๋ว ๆ ที่ช้อนมอง ราวกับว่าอยากออดอ้อนเอาจูบหวาน ๆ เป็นรางวัลให้กับความน่ารักที่ต้องใช้ความกล้าในการพูด ชาร์ลี ฮอปส์ไม่ใช่คนเข้าใจความรักดีไปกว่าใคร แต่เขารู้ว่าต้องทำอย่างไรกับแฟนอย่างปาร์คแบคฮยอนในเวลาแบบนี้

    งั้นขยับเข้ามาให้พี่จ๋ากอดหน่อย

    น้องน้อยหลุบสายตาลงอย่างขลาดอายขณะที่เขายันตัวลุกขึ้นพิงกับหัวเตียง ทิ้งจังหวะให้ความเงียบทำงานอยู่แค่ครู่เดียวคนขี้อ้อนก็ขยับเข้ามาใกล้ ทั้งคู่สบตากันเพื่อบอกให้รู้โดยไม่ต้องพูดว่าคิดถึงมากแค่ไหน ผ่านทางแววตาแบบนี้ซึ่งมีแค่คนตรงหน้าเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้ไป

    จูบแรกในรอบสามอาทิตย์เกิดขึ้นอย่างเนิบนาบ อบอุ่น อ่อนโยนขัดกับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ชวนให้นึกถึงเรื่องสยองขวัญ มือนุ่มนิ่มเอื้อมขึ้นโอบแก้มคนตัวโตกว่า คลึงนิ้วหัวแม่มือเบา ๆ ก่อนจะเลื่อนลงถึงสันกรามและปลายคาง รู้สึกได้ถึงตอหนวดตอนเอียงใบหน้าปรับองศา แฟนหนุ่มคงเตรียมหล่อมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นผมเผ้าที่เซ็ทขึ้นและเสื้อผ้าในลุคใหม่

    ทำไมยิ่งจูบก็ยิ่งคิดถึงล่ะ ทั้งที่ชาร์ลก็อยู่ตรงนี้

    อ้าว เรื่องใหญ่แล้วไงโมจิ ในใจนึกขำปนเอ็นดู แต่เด็กหนุ่มกลับปั้นหน้านิ่งสบตากับน้องน้อยที่ทำปากยื่นพร้อมดึงแก้มทั้งสองข้างของเขาเบา ๆ

    เราไม่ได้อยากหายคิดถึงชาร์ลหรอกนะ มันแปลก ๆ อะ เรารู้สึกว่ามันไม่พอ -- คือ เราไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำมากกว่านี้นะห้ามหาว่าเราลามก เราไม่รู้จะอธิบายยังไง... งี่เง่าแล้วอะ... แบคฮยอนเลื่อนเข้าไปจุ๊บปากแฟนจ๋าอีกทีแล้วผละออกมาสบตากัน ทำไมอะ ทำไมถึงยังรู้สึกหนุบหนับอยู่ในใจเหมือนเดิม เขาควรจะโล่งอกที่ได้อยู่ด้วยกันสิ

    ยังไม่ได้พูดอะไรเลย รีบแก้ตัวแบบนี้แสดงว่านั่นคือสิ่งที่นายคิดอยู่ลึก ๆ

    เราเปล่าเลยอะ

    ไหนสารภาพมาซิ ตอนฉันไม่อยู่ช่วยตัวเองไปกี่ครั้ง ชาร์ลชี้หน้าความนุ่มนิ่มเพื่อคาดคั้นเอาความจริง

    เราไม่ได้ทำ น้องจ้องตาเขม็งเพื่อยืนยันว่าไม่ได้โกหก

    “Sure?”

    ที่สุดอะ เราจะทำแบบนั้นทำไมเล่า แบคฮยอนฟาดแผงอกแกร่งเบา ๆ แก้เขิน แค่คิดว่าต้องทำเพราะคิดถึงชาร์ลก็เขินจะแย่แล้ว เราอดทนมาตลอดอะ...

    ตอบน่ารักว่ะ เด็กหนุ่มยิ้มขำพลางคว้าข้อมือเล็กที่ทำท่าจะฟาดเขาอีกครั้งเอาไว้ แต่ฉันอดทนไม่ไหวหรอก ช่วยตัวเองไปก็หลายรอบตอนมองนายหลับ

    ชาร์ลี ฮอปส์ไม่อยากโกหก และเขาอยากให้ลิตเติ้ลโมจิเขินจนหน้าแดงเพราะประโยคนี้ เด็กหนุ่มลูกครึ่งจ้องหน้าความนุ่มนิ่มพร้อมอมยิ้มอย่างมีความหมาย แบคฮยอนจะอดทนเก่งแค่ไหนก็ได้แต่ไม่ใช่เขาคนนี้ เราเปิดกล้องคุยกันเมื่อเกาหลีอยู่ในช่วงกลางคืน คนที่อยู่โซนกลางวันจึงเป็นฝ่ายนั่งดูแฟนหลับ

    น่าน้อยใจจัง นายอดทนเก่งหรือว่าไม่คิดถึงฉันกันแน่โมจิ?

    เราคิดถึงนะ คิดถึงมากด้วย!”

    คงมีแค่ฉันที่ --

    คิดถึงจริง ๆ นะ แบคฮยอนรีบเอามือนุ่มนิ่มปิดปากเขาเพื่อไม่ให้พูดอะไรแบบนั้นอีก ดูสีหน้าน้องตอนนี้สิ กระวนกระวายเสียจนเหมือนว่าอยากจะพ่นคำแก้ตัวเองออกมาให้หมด แต่เราแค่ไม่ชอบทำด้วยตัวเอง...

     

     


    CUT 2

    (WELCOME TO MALINWORLD)

    หรั่งแม่งเกือบได้ทิปเปิ้นคาว

    TBC


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×