มันหมายความว่ายังไงกัน!!!!

เมื่อวานไปสอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัยอ่า....

ติดแอด ศิลปศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่น

รอตั้งนาน...แบบว่า...นานโฮก!!!!!
 

แล้วคนที่สัมภาษณ์ก่อนหน้านั้นก็ออกมา  แล้วเราก็ได้ยินเค้าพูดคุยกัน!!!!

(ปล. คือ...ไปคนเดียว...หัวเดียวกระเทียมลีบล่ะก๊า)

เพื่อนๆ (คนอื่น) พูดว่าโดนให้แนะนำตัว ร้องเพลง หรือถามตอบเป็นภาษาญี่ปุ่น ห๊า!!!!

แล้วเราจะโดนด้วยมั้ยหว่า?  แต่ในใจก็คิด เอาเหอะๆ ซ้อมมาบ้างแล้ว

ทั้งการแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งญี่ปุ่น มันก็พอได้บ้างล่ะน้า  (แต่มันก็กลัวอยู่ดี)

ยิ่งฟังคนอื่นที่โดนสัมภาษณ์แล้วคุยกัน มันก็เริ่มใจเสียแฮะ....


ได้บัตรคิวตั้งที่ 27 แน่ะ เอาวะๆ

ใกล้ๆเที่ยง ก็มาถึงคิวเรา....อ๊ากกกกก  แม่เจ้า  นั่งรอพวกที่กำลังสัมภาษณ์อยู่หน้าห้อง

แล้วเราก็จะไปโดนจารย์เชือดเป็นคนต่อไปเร้อออ

บางคนโดนสัมภาษณ์นานเกือบครึ่งชั่วโมง บางคนก็ 10-20 นาที

แล้วตูที่ไม่ได้เรียนศิลป์-ญี่ปุ่นมาเลยจะรอดมั้ยนี่?

+
+
+

และแล้วก๋เข้าไป สวัสดีอาจารย์งามๆหนึ่งรอบ

แล้วยื่นเอกสารให้ดู อาจารย์ก็ดู (ขอบอกไม่มีผลงานอะไรหรอก แค่ผลการเรียนกะผลตรวจร่างกาย55+) แล้วก็เริ่มคำถาม

อาจารย์: คิดไง ถึงอยากมาเรียนสายนี้

เรา: ชอบภาษาญี่ปุ่นค่ะ

อาจารย์: เหตุผล ให้ชัดกว่านี้ (อาจารย์หมายถึงสิ่งจูงใจ ที่ทำให้อยากเรียน)

เรา: ชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น และนิยายแปลญี่ปุ่นค่ะ

อาจารย์: เรียนจบแล้วคิดว่าจะประกอบอาชีพอะไร

เรา: นู๋อยากเป็นนักแปล และไกด์ (ห๊า...ตรงนี้เราพูดไปแล้ว แต่ที่คิดมาคืออยากเป็นนักเขียนต่างหากเล่า)

อาจารย์: รู้จักอะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นบ้าง อย่างเช่นวัฒนธรรม บอกด้วยว่าเกิดขึ้นในช่วงเดือนอะไร

เรา: กิอง มัตสึริ (เริ่มคิด) เราเลยตอบไปตรงๆว่า นู๋ลืมแล้วค่ะ แล้วก็ยิ้มงามๆให้อาจารย์ไป

อาจารย์: (ไม่พูดอะไร ประมาณว่าทำหน้าไม่มันมาตั้งแต่ต้นแล้ว)

อาจารย์: แล้วรู้จัก ที่นี่ได้ยังไง มหาลัยนี้ไม่ได้ไปแนะแนวที่โรงเรียนเธอนิ

เรา: รู้จักมาจากเพื่อน และหาข้อมูลในเน็ตอีกทีค่ะ

อาจารย์: ไม่ได้เรียนศิลป์ญี่ปุ่นมาเหรอ

เรา: (น่าน...โดนแล้วตู) ไม่ค่ะ ที่โรงเรียนไม่เปิดสอน

อาจารย์: แล้วเธอใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องมั้ย? (อันนี้สงสันอาจารย์เห็นเราเรียน อังกฤษ-คณิตมาแน่ๆเลย) เราก็เลยตอบอย่างภาคภูมิใจ

เรา: ไม่เลยค่ะ...นู๋ไม่เก่งภาษาอังกฤษ

อาจารย์: (อาจารย์เริ่มมองหน้า) บ้านก็อยู่ไม่ไกลนี่ เดินทางคงสะดวกสินะ

เรา: ค่ะ

อาจารย์: แล้วเธอสนใจข่าวเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านบ้างรเปล่า?

เรา: (ในใจคิด มันเกี่ยวกันป่ะหว่า แต่ก็ตอบ)...ตอนนี้นู๋ตามข่าวแผ่นดินไหวที่จีน และเหตุการณ์พายุเข้าที่พม่าอยู่ค่ะ

อาจารย์: งั้นเหรอ

เรา: ค่ะ

อาจารย์:  อืมๆ ได้ๆๆ

เรา:  คะ?...จะ...จบแล้วเหรอค่ะ?

อาจารย์ก็พยักหน้าแล้วยิ้มให้ แล้วเราก็ได้ยินเค้าพูดได้ๆๆ อีก เราสวัสดีอาจารย์ แล้วเดินออกมาจากห้องสัมภาษณ์



ดูนาฬิกา เฮ้ย!!!!! ใช้เวลาไม่ถึง5นาที

แล้วไอ้ที่นู๋เตรียมมาทั้งคืนล่ะค่ะ? คำทักทาย แนะนำตัวเป็นภาษาญี่ปุ่น....

น่าน...ไอ้เทศกาลก็ดันมาคิดออกตอนเดินมาถึงชั้นล่างสุด

คิดออกตั้งหลายเทศกาล....

แง๊ๆ ขอสัมภาษณ์ใหม่ได้มั้ยอ่า แง๊ๆ จารย์ขรา++++


แต่ที่งงสุดๆ ไอ้คำว่าได้ๆ แล้วยิ้มแบบเจ้าเล่ห์นี่มันอารายกันหา?


ตกลงเข้าได้หรือไม่ได้ ได้นี่ หมายถึงได้อะไร 


แต่คะแนนที่เราได้ก็ พอสมควร เลือกไว้เป็นอันดับหนึ่ง เกรดเฉลี่ย 3.35 คะแนนห่างจากสูงสุด-ต่ำสุดปีที่แล้ว 753 คะแนน เอาเป็ฯว่าอยู่ตรง

กลางเป๊ะๆ  แล้วมันได้อะไรน้อ อยากรูจัง

++
++
++
++
เหมือนจะเป็นเรื่องแถม  อาถรรเลข 27 ลำดับที่ 27 ที่เราได้เป็นบัตรคิวรอสัมภาษณ์ 55+

แล้ววันนั้น ตังค์ที่เหลือในกระเป๋าก็ 27 บาท (ดีนะพาแม่ไปด้วยไม่งั้นกลับไม่ถึงบ้าน)

ถ้าสัมภาษณ์ผ่าน ไปลงทะเบียนเรียน วันที่ 27 พ.ค. นี้

27 พ.ค. นี้ เอสเจมานี่หว่า แง๊ๆ อดไปดูเลย

น่าน...และแล้วก็คิดได้อีกข้อนึง วันที่ 27 ที่จะถึง มันวันคล้ายวันเกิดตู กะ เรย์ตะคุง นี่หว่า...

เอาฟระ...เพื่อเรื่องเรียน เอสเจไว้ก่อน...ไงๆก็รักอิเจ๊เสมอ..




สุดท้ายก่อนถึงวันประกาศผลวันที่ 23 

ข้าน้อยก็ต้องมานั่งลุ้นกับคำพูดของอาจารย์ท่านนั้น จารย์ !!!!!! นู๋อยากให้ไอ้คำว่าได้ๆ เนี่ย ได้เข้าจัง