ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานผู้พิทักษ์ดาบศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #75 : บทที่ 74 : อันนิรอส

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 193
      1
      26 เม.ย. 48

    อันนิรอส  

    _________________________



    ทั้ง ๆ ที่เห็นตั้งแต่เพิ่งจะรุ่งเช้า…แต่จริง ๆ แล้วอันนิรอสยังอยู่อีกห่างไกลนัก

        

    “ถึงแล้ว ๆ”



    เสียงเฟย์เนี่ยนร้องอย่างตื่นตาตื่นใจ   มองบ้านเรือนนับร้อยที่ตั้งเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ   ร้านรวงขวักไขว่ไม่ต่างจากทวีปอื่น   แต่ที่นี่กลับดูสวยงามและหรูหรากว่ามากนัก

        

    “โห…กว่าจะถึง” เฟตบ่นอุบ   แต่จ้องมองสภาพเมืองด้วยสายตาไม่ต่างกัน

        

    แสงแดดแผดจ้าของยามบ่ายไม่ทำให้อากาศที่หนาวเย็นของที่นี่อุ่นขึ้นเลย   ปุยหิมะจับอยู่ทั่วไปจนดูราวกับเป็นเรื่องปกติ



    “แคสเปอร์เรียน…เมืองที่เก่าแก่ที่สุดของอันนิรอส” เฟย์ไนท์เอ่ย   หรี่ตาฝ่าเปลวแดดที่สะท้อนจากหิมะสีขาวเป็นประกาย



    “ชักหนาวแหะ” เฟตพึมพำเสียงเบา    ลมเย็นวูบหอบเอาลมหนาวจากแผ่นดินเข้าใส่ลำเรือ



    “เมืองนี้จะไปถึงเซเรียได้ไวที่สุด” จินไนน์เอ่ยเสียงเย็นพอ ๆ กับอากาศภายนอก “ข้ามภูเขาพาร์เรเนียไปก็ถึง”

        

    “ครับ..พักที่นี่ซักสองคืน” เคออสพูด   ยิ้มเช่นเคย   นัยน์ตาสีส้มมองข้ามภูเขาสีเทาขมุกขมัวไปยังขอบฟ้าเบื้องหลัง

        

    …นครเซเรีย…

        

    ซ่า!!!

        

    เสียงเรือแหวกน้ำดังต่อเนื่อง   ละอองน้ำเย็นเฉียบพุ่งเข้าปะทะผิวหน้า

        

    “อือ…” เกรย์คราง   เม้มปากอย่างหงุดหงิดน้อย ๆ

        

    “ท่านเกรย์ขอรับ ๆ…มีหิมะด้วยล่ะ” ริสเปลล์พูดรัวเร็วราวกับเด็กไม่เคยเห็นหิมะ

        

    “ชั้นเห็นแล้ว” พูดห้วน ๆ    ก่อนกอดอกแน่น

        

    ตึง!!!

        

    เสียงเรือปะทะสะพานไม้ที่ยื่นออกสู่ทะเลดังแว่วผ่านเสียงคลื่นที่ทยอยซัดเข้าสู่ฝั่ง   อากาศเย็นเยียบพร้อม ๆ กับไอหิมะพัดกรูเข้าใส่ผู้มาใหม่ราวกับจะทักทาย

        

    กึก…

        

    ร่างของนักฆ่าสาวสะดุดกึกกับระดับความเย็นที่ปะทะใบหน้า   เม้มปากเน้นอย่างหงุดหงิด

        

    “หนาวรึเปล่า” เสียงเรียบ ๆ ถามขึ้น   เกรย์ตวัดสายตามอง

        

    “เปล่าซะหน่อย” ดวงตาสีน้ำเงินทอประกายราวกับจะยิ้มขำ   แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา   นัยน์ตาสองสีกวาดมองไปรอบ ๆ เมือง

        

    …ไม่น่ามาที่นี่เลย…

        

    คิดอย่างอารมณ์เสียในใจ  

        

    “ท่าทางต้องหาที่พักก่อนแล้วละมั้ง” เฟย์ไนท์พูดเบา ๆ   ไอสีขาวลอยออกจากปากในทุกคำพูดที่เอ่ยออกมา   ปกติพวกเอล์ฟมีระบบการปรับตัวที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว

        

    …ยิ่งมีเวทย์มนต์ด้วยอย่างนี้   เรื่องหนาวแทบไม่ต้องพูดถึง…

        

    แต่คนไม่มีเวทย์มนต์น่ะสิ..

        

    “ฮัดชิ้ว!!!” เฟตจามเสียงดังสนั่น   สั่นกึก

        

    “น..หนาวชะมัดเลยอ่ะ”

        

    “นี่…นายช่วยทำตัวให้มันเข้าหูเข้าตาชั้นหน่อยได้มั้ยยะ…ขอร้องเหอะ” เฟย์เนี่ยนขอด   เพราะสำหรับเธอนั้น…อากาศแบบนี้แทบจะเย็นสบายเลย

        

    “อืม…นี่เป็นเมืองเหนือสุดของทวีปน่ะครับ   หนาวหน่อยก็คงเป็นเรื่องธรรมดา” เคออสพูด   ยิ้มอย่างไม่ยี่หระต่อความหนาว   ถ้าไม่ใช่เพราะความเคยชินก็คงเพราะ…ไอ้ลูกแดง ๆ ที่เจ้าตัวกำลังจับมันยัดใส่ขวดอยู่นั่นแหละ

        

    “นายขี้โกงอ่ะ…เล่นมีไฟผิงอย่างนี้” เฟตโวย   ก็อบลินหนุ่มยิ้ม

        

    “อ้าว…ไม่ใช้ก็ได้ครับ” เปลวเพลิงในขวดแก้วดับวูบลงตามคำสั่ง   ริสเปลล์มองรอบ ๆตัวอย่างสนใจ

        

    “นครที่เทพเซียร์สร้าง…สวยไม่เปลี่ยนเลยนะขอรับ”

        

    “ยังไง ๆ ก็ต้องหาที่พักก่อน…แล้วค่อยว่ากันต่อไป” จินไนน์พูดเสียงเย็นพอ ๆ กับอากาศรอบๆ ตัว   ท่าทางไม่หนาวเลยซักกะนิด   ผิดกับคนที่ไม่น่าจะหนาว…

        

    ดวงตาสีน้ำเงินมองร่างบางที่กอดอกนิ่ง   ไม่พูดอะไรตั้งแต่ลงจากเรือแล้ว…ถึงเจ้าตัวจะปากแข็งว่าไม่หนาว   แต่ดูท่าทางแล้ว…

        

    “เอ้า!” นัยน์ตาสองสีตวัดมองเสื้อตัวหนาที่ถูกส่งมาให้   ก่อนมองหน้าคนส่ง

        

    “ชั้นบอกแล้วไงว่า  ไม่ –หนาว” ย้ำอย่างอวดดี   ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้มือชาดิกจนไร้ความรู้สึกไปซะแล้ว

        

    “ใส่ซะ…เดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นมาใครจะมีเวลามานั่งดูแล” เมื่อเจ้าของเสื้อเค้าพูดมาอย่างนี้   พร้อมสำทับด้วยดวงตาดุ ๆ อีก    คนอวดดีก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องรับมาใส่แต่โดยดี

        

    …อุ่น…

        

    เสื้อขนสัตว์เนื้อดีช่วยไม่ให้ลมหนาวพุ่งกระทบร่างจัง ๆ    ความรู้สึกอุ่นขึ้นเยอะ

        

    …ถ้าไม่ใช่ของหมอนั่นคงจะดีกว่านี้…

        

    คิดพลางดึงเสื้อคลุมให้กระชับตัว    ก่อนปรายตามองหน้าเจ้าของเสื้อที่กำลังยิ้มน้อย ๆ

        

    “มีอะไรน่าขำรึไง !?!” ว่าเสียงเย็น   แต่คนถูกว่ากลับตอบกลับหน้าตาเฉย

        

    “เปล่า…เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่านักฆ่าน่ะกลัวความเย็น”

        

    “นี่นาย!!!~” ขึ้นเสียง   ก่อนสูดหายใจลึก ๆ   ระงับอารมณ์อย่างยากเย็น

        

    “มีอะไรฝังใจรึเปล่า ?”



    มองรอยยิ้มของคนถามแล้วแทบอย่างจะชักดาบออกมาตอนนี้เลยจริง ๆ    ถ้าไม่ติดว่ามีคนเป็นสิบที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่ตอนนี้

        

    “ก็ได้ ๆ…ตอนห้าขวบชั้นโดนอาจารย์สั่งให้ไปนั่งใต้น้ำตกกลางฤดูหนาวในป่ามาราเพีย   ปีนั้นหิมะตกด้วย…แล้วก้อ…”

        

    เกรย์ลากเสียง   ใบหน้าขึ้นสีเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากต้องไปนั่งให้น้ำเย็นเจี๊ยบไหลผ่านร่างตลอดเวลา

        

    “แล้วไง ?” คนฟังถามต่อด้วยเสียงเรียบเฉย   เกรย์แยกเขี้ยว

        

    “ชั้นก็ตกลงไปในน้ำน่ะสิ…อาจารย์ไปเจอชั้นหลังจากนั้นสองวัน    ไกลจากน้ำตกนั่นตั้งครึ่งป่า”

        

    “หรอ…” จินไนน์เลิกคิ้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์

        

    “อือ” เกรย์พึมพำรับ    ทำท่าเหมือนไม่สนใจอะไร

        

    “นี่..สองคนนั้นน่ะ   มาทางนี้หน่อยสิ” เฟย์เนี่ยนตะโกนเรียก    พลางกวักมือหยอย ๆ

        

    “ไปนอร์ทฮิลล์ครับ” เคออสพูดกับคนขับรถม้าคนหนึ่ง   เกรย์เลิกคิ้ว

        

    “เราน่าจะหาที่พักก่อนแล้วค่อยไปหาข่าวที่หลัง…ไม่รู้สิ   ยัยเฟย์ไนท์เค้าบอกว่างั้น”



    เฟย์เนี่ยนพึมพำ   แต่ไม่รอดหูของพี่สาว

        

    “ใครยะ…เรียกให้มันดี ๆ หน่อย!!!”

        

    “อืม” พึมพำเบา ๆ   เฟย์เนี่ยนเบิกตาขึ้นอีกหน่อย

        

    “ไปเอาเสื้อคลุมมาจากไหนอ่ะ ?”

        

    “เออ…” เกรย์เหลือบมองเจ้าของเสื้อ   ก่อนตอบเรียบ ๆ “คนแถวนี้แหละ”

        

    “อ๋อ…” เอล์ฟสาวยิ้มขำอย่างรู้ทัน  

        

    “รีบไปเถอะ…ชั้นรู้สึกว่าแถวนี้คงจะไม่ใช่ที่ปลอดภัยสักเท่าไหร่” นัยน์ตาสองสีเอ่ยเสียงเรียบ    กวาดสายตามองไปยังพื้นน้ำเงียบสงบอย่างไม่ไว้ใจ   ก่อนที่เสียงของเฟย์ไนท์จะดังขึ้นจากด้านหลัง

        

    “นี่!!!ยัยน้องบ๊อง!!!…อยากตกรถรึไง   รีบขึ้นมาเร็ว!!!”

        

    “หวา!?!”



                                                                        @@@@@@@@@@@@@@@

        

    “ชิ…”

        

    พึมพำอย่างหงุดหงิด   โบกมือสะบัดหมอกจางที่ทำหน้าที่ไม่ต่างจากกล้องส่องทางไกลตรงหน้าให้กระจายหายไป

        

    “รู้ดีนักนะ”  ริมฝีปากสีแดงสดเอ่ย   ไกวขาน้อย ๆ จากระดับความสูงของยอดเสากระโดงไล่ความหงุดหงิดออกไป   ลมทะเลที่พัดอยู่สูงขนาดนี้แรงไม่ใช่ย่อย   แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนอย่างเธอ

        

    “แต่รู้แล้วจะทำอะไรได้”

        

    สะบัดมืออีกครั้ง   กระจกบานน้อยปรากฏขึ้นในมือ   ดวงตาสีเงินมองลงไปในกระจก    มันสะท้อนใบหน้าสวยคมอยู่ชั่วครู่   ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าขาว ๆ กับดวงตาสองสีที่จ้องมองกลับมา

        

    “หึ…เอมมิเกรย์   คัลมาเนทแล้วเราจะรู้กันว่าผู้พิทักษ์ดาบไพออซจะแน่ได้สักแค่ไหน”

        

    เปรี๊ยะ!!!~

        

    กระจกทั้งบานแตกกระจาย    ก่อนร่วงลงสู่พื้นน้ำสีฟ้าเข้ม   ริมฝีปากสีกุหลาบนั้นคลี่รอยยิ้มเย้ยหยัน   พึมพำเสียงแผ่วเบา

        

    “แล้วเราจะได้รู้กัน!!!”

    ________________________________



    มาอัพแร้วเจ้าค่า



    ข้าน้อยกำลังปั่นๆๆๆๆๆๆๆอย่างด่วนมากมายเลยเจ้าค่า   ใจเย็นๆหน่อยเน้อ ^ ^



    ช่วงนี้ก็เลือดสาดกันไปก่อน...เดี๋ยวข้าน้อยจารีบเอาแซนวิชมาเสริฟนะเจ้าค้า



    (มีคนมาถามข้าน้อยว่าคำว่าแซนวิชนี้ท่านได้แต่ใดมาด้วยล่ะ...หุหุหุ)



    ไปล่ะเจ้าค่า   แล้วข้าน้อยจารีบเอามาลงนะเอ้อ



    บายเจ้าค่า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×