ลำดับตอนที่ #75
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #75 : บทที่ 74 : อันนิรอส
อันนิรอส 
_________________________
ทั้ง ๆ ที่เห็นตั้งแต่เพิ่งจะรุ่งเช้า แต่จริง ๆ แล้วอันนิรอสยังอยู่อีกห่างไกลนัก
   
“ถึงแล้ว ๆ”
เสียงเฟย์เนี่ยนร้องอย่างตื่นตาตื่นใจ  มองบ้านเรือนนับร้อยที่ตั้งเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ  ร้านรวงขวักไขว่ไม่ต่างจากทวีปอื่น  แต่ที่นี่กลับดูสวยงามและหรูหรากว่ามากนัก
   
“โห กว่าจะถึง” เฟตบ่นอุบ  แต่จ้องมองสภาพเมืองด้วยสายตาไม่ต่างกัน
   
แสงแดดแผดจ้าของยามบ่ายไม่ทำให้อากาศที่หนาวเย็นของที่นี่อุ่นขึ้นเลย  ปุยหิมะจับอยู่ทั่วไปจนดูราวกับเป็นเรื่องปกติ
“แคสเปอร์เรียน เมืองที่เก่าแก่ที่สุดของอันนิรอส” เฟย์ไนท์เอ่ย  หรี่ตาฝ่าเปลวแดดที่สะท้อนจากหิมะสีขาวเป็นประกาย
“ชักหนาวแหะ” เฟตพึมพำเสียงเบา    ลมเย็นวูบหอบเอาลมหนาวจากแผ่นดินเข้าใส่ลำเรือ
“เมืองนี้จะไปถึงเซเรียได้ไวที่สุด” จินไนน์เอ่ยเสียงเย็นพอ ๆ กับอากาศภายนอก “ข้ามภูเขาพาร์เรเนียไปก็ถึง”
   
“ครับ..พักที่นี่ซักสองคืน” เคออสพูด  ยิ้มเช่นเคย  นัยน์ตาสีส้มมองข้ามภูเขาสีเทาขมุกขมัวไปยังขอบฟ้าเบื้องหลัง
   
นครเซเรีย
   
ซ่า!!!
   
เสียงเรือแหวกน้ำดังต่อเนื่อง  ละอองน้ำเย็นเฉียบพุ่งเข้าปะทะผิวหน้า
   
“อือ ” เกรย์คราง  เม้มปากอย่างหงุดหงิดน้อย ๆ
   
“ท่านเกรย์ขอรับ ๆ มีหิมะด้วยล่ะ” ริสเปลล์พูดรัวเร็วราวกับเด็กไม่เคยเห็นหิมะ
   
“ชั้นเห็นแล้ว” พูดห้วน ๆ    ก่อนกอดอกแน่น
   
ตึง!!!
   
เสียงเรือปะทะสะพานไม้ที่ยื่นออกสู่ทะเลดังแว่วผ่านเสียงคลื่นที่ทยอยซัดเข้าสู่ฝั่ง  อากาศเย็นเยียบพร้อม ๆ กับไอหิมะพัดกรูเข้าใส่ผู้มาใหม่ราวกับจะทักทาย
   
กึก
   
ร่างของนักฆ่าสาวสะดุดกึกกับระดับความเย็นที่ปะทะใบหน้า  เม้มปากเน้นอย่างหงุดหงิด
   
“หนาวรึเปล่า” เสียงเรียบ ๆ ถามขึ้น  เกรย์ตวัดสายตามอง
   
“เปล่าซะหน่อย” ดวงตาสีน้ำเงินทอประกายราวกับจะยิ้มขำ  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา  นัยน์ตาสองสีกวาดมองไปรอบ ๆ เมือง
   
ไม่น่ามาที่นี่เลย
   
คิดอย่างอารมณ์เสียในใจ 
   
“ท่าทางต้องหาที่พักก่อนแล้วละมั้ง” เฟย์ไนท์พูดเบา ๆ  ไอสีขาวลอยออกจากปากในทุกคำพูดที่เอ่ยออกมา  ปกติพวกเอล์ฟมีระบบการปรับตัวที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว
   
ยิ่งมีเวทย์มนต์ด้วยอย่างนี้  เรื่องหนาวแทบไม่ต้องพูดถึง
   
แต่คนไม่มีเวทย์มนต์น่ะสิ..
   
“ฮัดชิ้ว!!!” เฟตจามเสียงดังสนั่น  สั่นกึก
   
“น..หนาวชะมัดเลยอ่ะ”
   
“นี่ นายช่วยทำตัวให้มันเข้าหูเข้าตาชั้นหน่อยได้มั้ยยะ ขอร้องเหอะ” เฟย์เนี่ยนขอด  เพราะสำหรับเธอนั้น อากาศแบบนี้แทบจะเย็นสบายเลย
   
“อืม นี่เป็นเมืองเหนือสุดของทวีปน่ะครับ  หนาวหน่อยก็คงเป็นเรื่องธรรมดา” เคออสพูด  ยิ้มอย่างไม่ยี่หระต่อความหนาว  ถ้าไม่ใช่เพราะความเคยชินก็คงเพราะ ไอ้ลูกแดง ๆ ที่เจ้าตัวกำลังจับมันยัดใส่ขวดอยู่นั่นแหละ
   
“นายขี้โกงอ่ะ เล่นมีไฟผิงอย่างนี้” เฟตโวย  ก็อบลินหนุ่มยิ้ม
   
“อ้าว ไม่ใช้ก็ได้ครับ” เปลวเพลิงในขวดแก้วดับวูบลงตามคำสั่ง  ริสเปลล์มองรอบ ๆตัวอย่างสนใจ
   
“นครที่เทพเซียร์สร้าง สวยไม่เปลี่ยนเลยนะขอรับ”
   
“ยังไง ๆ ก็ต้องหาที่พักก่อน แล้วค่อยว่ากันต่อไป” จินไนน์พูดเสียงเย็นพอ ๆ กับอากาศรอบๆ ตัว  ท่าทางไม่หนาวเลยซักกะนิด  ผิดกับคนที่ไม่น่าจะหนาว
   
ดวงตาสีน้ำเงินมองร่างบางที่กอดอกนิ่ง  ไม่พูดอะไรตั้งแต่ลงจากเรือแล้ว ถึงเจ้าตัวจะปากแข็งว่าไม่หนาว  แต่ดูท่าทางแล้ว
   
“เอ้า!” นัยน์ตาสองสีตวัดมองเสื้อตัวหนาที่ถูกส่งมาให้  ก่อนมองหน้าคนส่ง
   
“ชั้นบอกแล้วไงว่า  ไม่ หนาว” ย้ำอย่างอวดดี  ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้มือชาดิกจนไร้ความรู้สึกไปซะแล้ว
   
“ใส่ซะ เดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นมาใครจะมีเวลามานั่งดูแล” เมื่อเจ้าของเสื้อเค้าพูดมาอย่างนี้  พร้อมสำทับด้วยดวงตาดุ ๆ อีก    คนอวดดีก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องรับมาใส่แต่โดยดี
   
อุ่น
   
เสื้อขนสัตว์เนื้อดีช่วยไม่ให้ลมหนาวพุ่งกระทบร่างจัง ๆ    ความรู้สึกอุ่นขึ้นเยอะ
   
ถ้าไม่ใช่ของหมอนั่นคงจะดีกว่านี้
   
คิดพลางดึงเสื้อคลุมให้กระชับตัว    ก่อนปรายตามองหน้าเจ้าของเสื้อที่กำลังยิ้มน้อย ๆ
   
“มีอะไรน่าขำรึไง !?!” ว่าเสียงเย็น  แต่คนถูกว่ากลับตอบกลับหน้าตาเฉย
   
“เปล่า เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่านักฆ่าน่ะกลัวความเย็น”
   
“นี่นาย!!!~” ขึ้นเสียง  ก่อนสูดหายใจลึก ๆ  ระงับอารมณ์อย่างยากเย็น
   
“มีอะไรฝังใจรึเปล่า ?”
มองรอยยิ้มของคนถามแล้วแทบอย่างจะชักดาบออกมาตอนนี้เลยจริง ๆ    ถ้าไม่ติดว่ามีคนเป็นสิบที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่ตอนนี้
   
“ก็ได้ ๆ ตอนห้าขวบชั้นโดนอาจารย์สั่งให้ไปนั่งใต้น้ำตกกลางฤดูหนาวในป่ามาราเพีย  ปีนั้นหิมะตกด้วย แล้วก้อ ”
   
เกรย์ลากเสียง  ใบหน้าขึ้นสีเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากต้องไปนั่งให้น้ำเย็นเจี๊ยบไหลผ่านร่างตลอดเวลา
   
“แล้วไง ?” คนฟังถามต่อด้วยเสียงเรียบเฉย  เกรย์แยกเขี้ยว
   
“ชั้นก็ตกลงไปในน้ำน่ะสิ อาจารย์ไปเจอชั้นหลังจากนั้นสองวัน    ไกลจากน้ำตกนั่นตั้งครึ่งป่า”
   
“หรอ ” จินไนน์เลิกคิ้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์
   
“อือ” เกรย์พึมพำรับ    ทำท่าเหมือนไม่สนใจอะไร
   
“นี่..สองคนนั้นน่ะ  มาทางนี้หน่อยสิ” เฟย์เนี่ยนตะโกนเรียก    พลางกวักมือหยอย ๆ
   
“ไปนอร์ทฮิลล์ครับ” เคออสพูดกับคนขับรถม้าคนหนึ่ง  เกรย์เลิกคิ้ว
   
“เราน่าจะหาที่พักก่อนแล้วค่อยไปหาข่าวที่หลัง ไม่รู้สิ  ยัยเฟย์ไนท์เค้าบอกว่างั้น”
เฟย์เนี่ยนพึมพำ  แต่ไม่รอดหูของพี่สาว
   
“ใครยะ เรียกให้มันดี ๆ หน่อย!!!”
   
“อืม” พึมพำเบา ๆ  เฟย์เนี่ยนเบิกตาขึ้นอีกหน่อย
   
“ไปเอาเสื้อคลุมมาจากไหนอ่ะ ?”
   
“เออ ” เกรย์เหลือบมองเจ้าของเสื้อ  ก่อนตอบเรียบ ๆ “คนแถวนี้แหละ”
   
“อ๋อ ” เอล์ฟสาวยิ้มขำอย่างรู้ทัน 
   
“รีบไปเถอะ ชั้นรู้สึกว่าแถวนี้คงจะไม่ใช่ที่ปลอดภัยสักเท่าไหร่” นัยน์ตาสองสีเอ่ยเสียงเรียบ    กวาดสายตามองไปยังพื้นน้ำเงียบสงบอย่างไม่ไว้ใจ  ก่อนที่เสียงของเฟย์ไนท์จะดังขึ้นจากด้านหลัง
   
“นี่!!!ยัยน้องบ๊อง!!! อยากตกรถรึไง  รีบขึ้นมาเร็ว!!!”
   
“หวา!?!”
                                                                    @@@@@@@@@@@@@@@
   
“ชิ ”
   
พึมพำอย่างหงุดหงิด  โบกมือสะบัดหมอกจางที่ทำหน้าที่ไม่ต่างจากกล้องส่องทางไกลตรงหน้าให้กระจายหายไป
   
“รู้ดีนักนะ”  ริมฝีปากสีแดงสดเอ่ย  ไกวขาน้อย ๆ จากระดับความสูงของยอดเสากระโดงไล่ความหงุดหงิดออกไป  ลมทะเลที่พัดอยู่สูงขนาดนี้แรงไม่ใช่ย่อย  แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนอย่างเธอ
   
“แต่รู้แล้วจะทำอะไรได้”
   
สะบัดมืออีกครั้ง  กระจกบานน้อยปรากฏขึ้นในมือ  ดวงตาสีเงินมองลงไปในกระจก    มันสะท้อนใบหน้าสวยคมอยู่ชั่วครู่  ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าขาว ๆ กับดวงตาสองสีที่จ้องมองกลับมา
   
“หึ เอมมิเกรย์  คัลมาเนทแล้วเราจะรู้กันว่าผู้พิทักษ์ดาบไพออซจะแน่ได้สักแค่ไหน”
   
เปรี๊ยะ!!!~
   
กระจกทั้งบานแตกกระจาย    ก่อนร่วงลงสู่พื้นน้ำสีฟ้าเข้ม  ริมฝีปากสีกุหลาบนั้นคลี่รอยยิ้มเย้ยหยัน  พึมพำเสียงแผ่วเบา
   
“แล้วเราจะได้รู้กัน!!!”
________________________________
มาอัพแร้วเจ้าค่า
ข้าน้อยกำลังปั่นๆๆๆๆๆๆๆอย่างด่วนมากมายเลยเจ้าค่า  ใจเย็นๆหน่อยเน้อ ^ ^
ช่วงนี้ก็เลือดสาดกันไปก่อน...เดี๋ยวข้าน้อยจารีบเอาแซนวิชมาเสริฟนะเจ้าค้า
(มีคนมาถามข้าน้อยว่าคำว่าแซนวิชนี้ท่านได้แต่ใดมาด้วยล่ะ...หุหุหุ)
ไปล่ะเจ้าค่า  แล้วข้าน้อยจารีบเอามาลงนะเอ้อ
บายเจ้าค่า
_________________________
ทั้ง ๆ ที่เห็นตั้งแต่เพิ่งจะรุ่งเช้า แต่จริง ๆ แล้วอันนิรอสยังอยู่อีกห่างไกลนัก
   
“ถึงแล้ว ๆ”
เสียงเฟย์เนี่ยนร้องอย่างตื่นตาตื่นใจ  มองบ้านเรือนนับร้อยที่ตั้งเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ  ร้านรวงขวักไขว่ไม่ต่างจากทวีปอื่น  แต่ที่นี่กลับดูสวยงามและหรูหรากว่ามากนัก
   
“โห กว่าจะถึง” เฟตบ่นอุบ  แต่จ้องมองสภาพเมืองด้วยสายตาไม่ต่างกัน
   
แสงแดดแผดจ้าของยามบ่ายไม่ทำให้อากาศที่หนาวเย็นของที่นี่อุ่นขึ้นเลย  ปุยหิมะจับอยู่ทั่วไปจนดูราวกับเป็นเรื่องปกติ
“แคสเปอร์เรียน เมืองที่เก่าแก่ที่สุดของอันนิรอส” เฟย์ไนท์เอ่ย  หรี่ตาฝ่าเปลวแดดที่สะท้อนจากหิมะสีขาวเป็นประกาย
“ชักหนาวแหะ” เฟตพึมพำเสียงเบา    ลมเย็นวูบหอบเอาลมหนาวจากแผ่นดินเข้าใส่ลำเรือ
“เมืองนี้จะไปถึงเซเรียได้ไวที่สุด” จินไนน์เอ่ยเสียงเย็นพอ ๆ กับอากาศภายนอก “ข้ามภูเขาพาร์เรเนียไปก็ถึง”
   
“ครับ..พักที่นี่ซักสองคืน” เคออสพูด  ยิ้มเช่นเคย  นัยน์ตาสีส้มมองข้ามภูเขาสีเทาขมุกขมัวไปยังขอบฟ้าเบื้องหลัง
   
นครเซเรีย
   
ซ่า!!!
   
เสียงเรือแหวกน้ำดังต่อเนื่อง  ละอองน้ำเย็นเฉียบพุ่งเข้าปะทะผิวหน้า
   
“อือ ” เกรย์คราง  เม้มปากอย่างหงุดหงิดน้อย ๆ
   
“ท่านเกรย์ขอรับ ๆ มีหิมะด้วยล่ะ” ริสเปลล์พูดรัวเร็วราวกับเด็กไม่เคยเห็นหิมะ
   
“ชั้นเห็นแล้ว” พูดห้วน ๆ    ก่อนกอดอกแน่น
   
ตึง!!!
   
เสียงเรือปะทะสะพานไม้ที่ยื่นออกสู่ทะเลดังแว่วผ่านเสียงคลื่นที่ทยอยซัดเข้าสู่ฝั่ง  อากาศเย็นเยียบพร้อม ๆ กับไอหิมะพัดกรูเข้าใส่ผู้มาใหม่ราวกับจะทักทาย
   
กึก
   
ร่างของนักฆ่าสาวสะดุดกึกกับระดับความเย็นที่ปะทะใบหน้า  เม้มปากเน้นอย่างหงุดหงิด
   
“หนาวรึเปล่า” เสียงเรียบ ๆ ถามขึ้น  เกรย์ตวัดสายตามอง
   
“เปล่าซะหน่อย” ดวงตาสีน้ำเงินทอประกายราวกับจะยิ้มขำ  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา  นัยน์ตาสองสีกวาดมองไปรอบ ๆ เมือง
   
ไม่น่ามาที่นี่เลย
   
คิดอย่างอารมณ์เสียในใจ 
   
“ท่าทางต้องหาที่พักก่อนแล้วละมั้ง” เฟย์ไนท์พูดเบา ๆ  ไอสีขาวลอยออกจากปากในทุกคำพูดที่เอ่ยออกมา  ปกติพวกเอล์ฟมีระบบการปรับตัวที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว
   
ยิ่งมีเวทย์มนต์ด้วยอย่างนี้  เรื่องหนาวแทบไม่ต้องพูดถึง
   
แต่คนไม่มีเวทย์มนต์น่ะสิ..
   
“ฮัดชิ้ว!!!” เฟตจามเสียงดังสนั่น  สั่นกึก
   
“น..หนาวชะมัดเลยอ่ะ”
   
“นี่ นายช่วยทำตัวให้มันเข้าหูเข้าตาชั้นหน่อยได้มั้ยยะ ขอร้องเหอะ” เฟย์เนี่ยนขอด  เพราะสำหรับเธอนั้น อากาศแบบนี้แทบจะเย็นสบายเลย
   
“อืม นี่เป็นเมืองเหนือสุดของทวีปน่ะครับ  หนาวหน่อยก็คงเป็นเรื่องธรรมดา” เคออสพูด  ยิ้มอย่างไม่ยี่หระต่อความหนาว  ถ้าไม่ใช่เพราะความเคยชินก็คงเพราะ ไอ้ลูกแดง ๆ ที่เจ้าตัวกำลังจับมันยัดใส่ขวดอยู่นั่นแหละ
   
“นายขี้โกงอ่ะ เล่นมีไฟผิงอย่างนี้” เฟตโวย  ก็อบลินหนุ่มยิ้ม
   
“อ้าว ไม่ใช้ก็ได้ครับ” เปลวเพลิงในขวดแก้วดับวูบลงตามคำสั่ง  ริสเปลล์มองรอบ ๆตัวอย่างสนใจ
   
“นครที่เทพเซียร์สร้าง สวยไม่เปลี่ยนเลยนะขอรับ”
   
“ยังไง ๆ ก็ต้องหาที่พักก่อน แล้วค่อยว่ากันต่อไป” จินไนน์พูดเสียงเย็นพอ ๆ กับอากาศรอบๆ ตัว  ท่าทางไม่หนาวเลยซักกะนิด  ผิดกับคนที่ไม่น่าจะหนาว
   
ดวงตาสีน้ำเงินมองร่างบางที่กอดอกนิ่ง  ไม่พูดอะไรตั้งแต่ลงจากเรือแล้ว ถึงเจ้าตัวจะปากแข็งว่าไม่หนาว  แต่ดูท่าทางแล้ว
   
“เอ้า!” นัยน์ตาสองสีตวัดมองเสื้อตัวหนาที่ถูกส่งมาให้  ก่อนมองหน้าคนส่ง
   
“ชั้นบอกแล้วไงว่า  ไม่ หนาว” ย้ำอย่างอวดดี  ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้มือชาดิกจนไร้ความรู้สึกไปซะแล้ว
   
“ใส่ซะ เดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นมาใครจะมีเวลามานั่งดูแล” เมื่อเจ้าของเสื้อเค้าพูดมาอย่างนี้  พร้อมสำทับด้วยดวงตาดุ ๆ อีก    คนอวดดีก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องรับมาใส่แต่โดยดี
   
อุ่น
   
เสื้อขนสัตว์เนื้อดีช่วยไม่ให้ลมหนาวพุ่งกระทบร่างจัง ๆ    ความรู้สึกอุ่นขึ้นเยอะ
   
ถ้าไม่ใช่ของหมอนั่นคงจะดีกว่านี้
   
คิดพลางดึงเสื้อคลุมให้กระชับตัว    ก่อนปรายตามองหน้าเจ้าของเสื้อที่กำลังยิ้มน้อย ๆ
   
“มีอะไรน่าขำรึไง !?!” ว่าเสียงเย็น  แต่คนถูกว่ากลับตอบกลับหน้าตาเฉย
   
“เปล่า เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่านักฆ่าน่ะกลัวความเย็น”
   
“นี่นาย!!!~” ขึ้นเสียง  ก่อนสูดหายใจลึก ๆ  ระงับอารมณ์อย่างยากเย็น
   
“มีอะไรฝังใจรึเปล่า ?”
มองรอยยิ้มของคนถามแล้วแทบอย่างจะชักดาบออกมาตอนนี้เลยจริง ๆ    ถ้าไม่ติดว่ามีคนเป็นสิบที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่ตอนนี้
   
“ก็ได้ ๆ ตอนห้าขวบชั้นโดนอาจารย์สั่งให้ไปนั่งใต้น้ำตกกลางฤดูหนาวในป่ามาราเพีย  ปีนั้นหิมะตกด้วย แล้วก้อ ”
   
เกรย์ลากเสียง  ใบหน้าขึ้นสีเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากต้องไปนั่งให้น้ำเย็นเจี๊ยบไหลผ่านร่างตลอดเวลา
   
“แล้วไง ?” คนฟังถามต่อด้วยเสียงเรียบเฉย  เกรย์แยกเขี้ยว
   
“ชั้นก็ตกลงไปในน้ำน่ะสิ อาจารย์ไปเจอชั้นหลังจากนั้นสองวัน    ไกลจากน้ำตกนั่นตั้งครึ่งป่า”
   
“หรอ ” จินไนน์เลิกคิ้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์
   
“อือ” เกรย์พึมพำรับ    ทำท่าเหมือนไม่สนใจอะไร
   
“นี่..สองคนนั้นน่ะ  มาทางนี้หน่อยสิ” เฟย์เนี่ยนตะโกนเรียก    พลางกวักมือหยอย ๆ
   
“ไปนอร์ทฮิลล์ครับ” เคออสพูดกับคนขับรถม้าคนหนึ่ง  เกรย์เลิกคิ้ว
   
“เราน่าจะหาที่พักก่อนแล้วค่อยไปหาข่าวที่หลัง ไม่รู้สิ  ยัยเฟย์ไนท์เค้าบอกว่างั้น”
เฟย์เนี่ยนพึมพำ  แต่ไม่รอดหูของพี่สาว
   
“ใครยะ เรียกให้มันดี ๆ หน่อย!!!”
   
“อืม” พึมพำเบา ๆ  เฟย์เนี่ยนเบิกตาขึ้นอีกหน่อย
   
“ไปเอาเสื้อคลุมมาจากไหนอ่ะ ?”
   
“เออ ” เกรย์เหลือบมองเจ้าของเสื้อ  ก่อนตอบเรียบ ๆ “คนแถวนี้แหละ”
   
“อ๋อ ” เอล์ฟสาวยิ้มขำอย่างรู้ทัน 
   
“รีบไปเถอะ ชั้นรู้สึกว่าแถวนี้คงจะไม่ใช่ที่ปลอดภัยสักเท่าไหร่” นัยน์ตาสองสีเอ่ยเสียงเรียบ    กวาดสายตามองไปยังพื้นน้ำเงียบสงบอย่างไม่ไว้ใจ  ก่อนที่เสียงของเฟย์ไนท์จะดังขึ้นจากด้านหลัง
   
“นี่!!!ยัยน้องบ๊อง!!! อยากตกรถรึไง  รีบขึ้นมาเร็ว!!!”
   
“หวา!?!”
                                                                    @@@@@@@@@@@@@@@
   
“ชิ ”
   
พึมพำอย่างหงุดหงิด  โบกมือสะบัดหมอกจางที่ทำหน้าที่ไม่ต่างจากกล้องส่องทางไกลตรงหน้าให้กระจายหายไป
   
“รู้ดีนักนะ”  ริมฝีปากสีแดงสดเอ่ย  ไกวขาน้อย ๆ จากระดับความสูงของยอดเสากระโดงไล่ความหงุดหงิดออกไป  ลมทะเลที่พัดอยู่สูงขนาดนี้แรงไม่ใช่ย่อย  แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนอย่างเธอ
   
“แต่รู้แล้วจะทำอะไรได้”
   
สะบัดมืออีกครั้ง  กระจกบานน้อยปรากฏขึ้นในมือ  ดวงตาสีเงินมองลงไปในกระจก    มันสะท้อนใบหน้าสวยคมอยู่ชั่วครู่  ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าขาว ๆ กับดวงตาสองสีที่จ้องมองกลับมา
   
“หึ เอมมิเกรย์  คัลมาเนทแล้วเราจะรู้กันว่าผู้พิทักษ์ดาบไพออซจะแน่ได้สักแค่ไหน”
   
เปรี๊ยะ!!!~
   
กระจกทั้งบานแตกกระจาย    ก่อนร่วงลงสู่พื้นน้ำสีฟ้าเข้ม  ริมฝีปากสีกุหลาบนั้นคลี่รอยยิ้มเย้ยหยัน  พึมพำเสียงแผ่วเบา
   
“แล้วเราจะได้รู้กัน!!!”
________________________________
มาอัพแร้วเจ้าค่า
ข้าน้อยกำลังปั่นๆๆๆๆๆๆๆอย่างด่วนมากมายเลยเจ้าค่า  ใจเย็นๆหน่อยเน้อ ^ ^
ช่วงนี้ก็เลือดสาดกันไปก่อน...เดี๋ยวข้าน้อยจารีบเอาแซนวิชมาเสริฟนะเจ้าค้า
(มีคนมาถามข้าน้อยว่าคำว่าแซนวิชนี้ท่านได้แต่ใดมาด้วยล่ะ...หุหุหุ)
ไปล่ะเจ้าค่า  แล้วข้าน้อยจารีบเอามาลงนะเอ้อ
บายเจ้าค่า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น