ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END) ก็คนมันชอบ...좋아해 ♡ - KAISOO

    ลำดับตอนที่ #20 : CHAPTER 18

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.4K
      106
      14 มิ.ย. 59











    18




     “ หึ่ย! ชานยอลมึงไม่น่าห้ามกูไว้เลย กูเกือบจะได้แสดงฝีมืออยู่แล้ว ” แบคฮยอนพูดไปก็ทำท่าชกอากาศไปมาพลางรู้สึกเสียดาย นี่ถ้าเมื่อกี้ไอ้ชานยอลมันไม่มาขวางเอาไว้ก่อน คงจะได้เห็นหน้าหล่อๆของเซฮุนเละเทะกันไปข้างหนึ่ง

     

                    “ พอเหอะ ตัวก็เท่าลูกหมา

     

                   โห.. ”

     

                   หนอยย ไม่รู้จักแบคฮยอนศิษย์มวยไทยซะแล้ว

     

                   ยังไม่ทันจะได้แสดงท่าแทงเข่าให้ไอ้คนชอบดูถูกได้เห็นก็โดนชานยอลผลักที่หัวเข้าให้ ถึงมันจะไม่แรงมากแต่ก็ทำให้แบคฮยอนหันไปหมายเอาเรื่องอยู่ดี ถ้าไม่ติดว่าใบหน้าชานยอลพยักเพยิกไปทางคนตัวเล็กอีกคนที่ตั้งแต่เข้ามาในห้องซ้อมก็เอาแต่นั่งเงียบจ้องมองโทรศัพท์ตัวเองไม่ยอมพูดจา

     

                    โธ่ คยองซูของพี่แบค

     

                   “ คยองซู อยากโทรก็โทรไปหามันสิ เราเห็นนั่งมองโทรศัพท์จนมันจะเปื่อยติดมือแล้วนะ ” เสียงของแบคฮยอนทำให้คยองซูต้องละสายตาจากโทรศัพท์ไปมองคนพูดแทน มือเล็กกำโทรศัพท์มือถือของตัวเองเอาไว้แน่น ริมฝีปากรูปหัวใจถูกเจ้าของเม้มเข้าหากันแน่น

     

                    อยากโทรไปหาจงอิน

     

                    แต่ก็ไม่มีความกล้าเลยสักนิด

     

                   เมื่อครู่เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก จนคยองซูทำได้แค่ยินนิ่งอยู่กับที่ นัยต์ตาคมที่ไม่แสดงอารมณ์ทำให้คยองซูเดาไม่ออกเลยว่าจงอินกำลังคิดอะไรอยู่ ความรู้สึกในขณะนั้นคล้ายหัวใจมันหยุดเต้น คยองซูไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะเห็นดวงตาคมคู่นั้นของจงอินหรือเพราะมือของจงอินที่กำลังจับกับพี่ลู่หาน

     

                    คยองซูไม่รู้เลยจริงๆ

                     

     

                   “ ร..เรา ไม่กล้า

     

    คยองซูกลัว กลัวว่าโทรไปจงอินจะตัดสาย ถ้าโทรไปแล้วจงอินไม่อยากคุยกับคยองซู แล้วคยองซูจะทำยังไง และที่สำคัญคยองซูกลัวว่าจงอินอาจจะกำลังอยู่กับพี่ลู่หานแล้วไม่อยากให้เขาโทรไปขัดก็ได้

     

    ก็คยองซูเห็นจับมือกันแน่นขนาดนั้น

     

                 อ่า

                     

                 ทำไมคยองซูถึงต้องคิดเรื่องนี้ตลอดเวลาด้วยนะ

     

                  “ ลองโทรไปก่อน แล้วมันจะรับหรือไม่รับก็อีกเรื่องเพราะเมื่อกี้มันมาลาหยุดเพราะมีงานกระทันหันหน่ะ ” ชานยอลที่เดินไปหยิบเบสมานั่งเกาอยู่ตรงโซฟามุมห้องพูดออกมาโดยที่แบคฮยอนก็พยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ชานยอลบอก

     

     

                  ถ้าเป็นคยองซูมีหรือที่จงอินมันจะไม่รับ

     

                  .แต่

     

                  ไม่มีแต่ หรือจะให้เราโทรไปให้ไหม

     

                  กลุ่มผมนุ่มสะบัดไปมาเร็วๆ คล้ายจะบอกว่าทำยังไงๆ คยองซูก็ไม่กล้าโทรไปอยู่ดีถึงแม้ว่าจะพยายามพูดยังไงก็ไม่แน่ๆ จนแบคฮยอนได้แต่มองหน้ากับชานยอลแล้วก็ถอนหายใจออกมา ก็อยากจะช่วยนะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยยังไงให้คยองซูกล้าโทรไปหาจงอิน  

     

                   เอ๊ะ แต่เดี๋ยวนะ

     

                  งั้นเอางี้! ” อยู่ๆแบคฮยอนก็เดินตรงไปยังตู้แช่เย็นก่อนจะเปิดและค้นหาอะไรบางอย่างก่อนจะหยิบมันออกมาและเดินเอามาวางไว้บนโต๊ะท่ามกลางสายตาสงสัยของคยองซูและชานยอล

     

                  สิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะมันเริ่มทำให้ชานยอลเดาอะไรได้บางอย่าง

     

     

                  ...ไวน์เคียนติคลาสสิโก้ (Chianti Classico)

                     

                     

                 แบคฮยอน ” ชานยอลปรามเสียงเข้มเมื่อรู้ว่าแบคฮยอนคิดจะทำอะไร แววตาของไอลูกหมาเต็มไปด้วยความซุกซน แบคฮยอนฉีกยิ้มกว้างมาให้ชานยอลอย่างจะบอกว่าเอาน่าไม่เป็นไรหรอก โดยที่มีคนตัวเล็กเอียงคอมองอย่างสงสัย

     

     

                  “ เอาน่า แค่จิบๆไม่เป็นไรหรอก ” บอกปัดๆไปเมื่อเห็นสายตาห้ามของชานยอลที่ยังมองมาไม่หยุด ก่อนจะทำการเปิดขวดแล้วรินใส่แก้วที่หยิบติดมือมาด้วยแล้วเดินเอาไปวางไว้ข้างหน้านกตัวน้อยของเพื่อนรัก

                     

     

                   “ ร..เรากินไม่เป็นหรอกแบคฮยอน ” คยองซูไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดไม่รู้ว่าที่แบคฮยอนเอามาวางไว้ตรงหน้าเขามันคืออะไร ไม่เคยกินแต่ก็รู้ว่ามันไม่ดี มันทำให้คนขาดสติและคยองซูก็ไม่คิดจะลองด้วย

     

                  โหย รับรองไม่เมา

     

                  แต่ว่า… ”

     

                 งั้นเราให้คยองซูเลือกว่าจะกดโทรไปหาไอ้จงอินตอนนี้หรือจะให้เราจับคยองซูกินไวน์แก้วนี้

     

     

    แล้วก็นั่นแหละ คยองซูเลยยอมหลับตากลั้นใจกดเบอร์ของจงอินให้เปลี่ยนเป็นสายกำลังโทรออก

     

     

     

    ตู๊ด…   ตู๊ด…   ตู๊ด…

     

                      เสียงสัญญาณดังขึ้นเป็นจังหวะไปพร้อมความกลัวของคนที่ถือสายรอ ความกลัวความกังวลมันทำให้คยองซูแทบจะอยากกดวางเสียเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ใช่ว่า…

     

                      กึก!

     

                      ปลายสายรับแล้ว

     

                      […]

     

    แต่กลับไม่มีเสียงอะไรพูดออกมา

     

                      ..จงอิน จงอินหรอ

     

                      [ อืม ]

     

     ใจมันชื้นขึ้นมาบ้างที่ได้ยินเสียงของจงอิน

     

                      “ … ”

     

                      “ … ”

     

                      แต่แล้วก็ต้องห่อเหี่ยวลงเหมือนเดิมเมื่อทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

     

                      เหมือนกับว่าจงอิน …ไม่อยากคุยกับเขาเลย

     

         ถึงจะรู้สึกได้ว่าปลายสายมีแต่ความเงียบตอบกลับมาแต่คยองซูก็ยังอยากหาประโยคอะไรก็ได้ให้พอที่จะไม่ทำให้จงอินเงียบอยู่แบบนี้

     

                      “ จ..จงอินคงยุ่งแน่ๆเลยวันนี้ เย็นนี้จงอินจะกลับกี่โมงหรอ อยากกินอะไรหรือเปล่าเราจ 

     

                      [ ไม่ต้องรอ ]

     

                      !!!

     

                      “ …ทำไมหรอ ” คยองซูพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น มันเลยออกมาแผ่วเบาจนแบคฮยอนที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะลูบไหล่เล็กไปมา

     

                      [ กูจะกลับหรือไม่กลับก็ไม่ต้องรอ เข้าใจหรือเปล่า ….จงอิน อยู่กับพี่เลิกคุยโทรศัพท์ได้แล้ว ]

     

                      !!!

     

                      ร่างเล็กนิ่งงันทันทีเมื่อได้ยินเสียงของใครอีกคนที่ไม่ใช่จงอินดังรอดออกมา มือของคยองซูกำโทรศัพท์ของตัวเองแน่น

     

                      จงอินอยู่กับพี่ลู่หาน

     

                      จงอินไม่ได้อยากคุยกับเขาแล้ว

     

                      “ … ”

     

                      [ฮัลโหล]

     

                      งั้น ร..เราว่าเราวางก่อนดีกว่า เราไม่กวนจงอินแล้ว

     

                      [ ตอบก่อนว่าเข้าใจไหมว่าไม่ต้องรอ ก…. ]

     

     

                      กึ่ก!

     

                      เป็นคยองซูเองที่วางสายก่อนที่จงอินจะพูดจบ

     

     

                      “ ตกลงไอ้ดำมันว่าไงบ้า.. เห้ย!! คยองซู ด..เดี๋ยวสิ หมดแก้วเลยหรอ ” แบคฮยอนยังไม่ทันจะได้ไถ่ถามอาการก็ต้องร้องออกมาอย่างตกใจ ก็จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงอยู่ๆคยองซูก็เล่นคว้าแก้วไวน์มากระดกรวดเดียวจนหมดแบบที่ไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว

     

                      ชิบหายแล้ว

     

                      มือที่กำลังจะยกห้ามก็ถูกชานยอลที่เลิกจับเบสตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้จับรวบเอาไว้ ก่อนจะเห็นว่าเป็นชานยอลเองที่หยิบขวดไวน์มารินลงในแก้วให้คยองซูใหม่ ไม่สนใจตาตี่ๆของแบคฮยอนที่แทบจะเบิกโตเท่าไข่ห่าน

     

                      “ ชานยอล มึงทำอะไรเนี่ย ”

     

                      “ ปล่อยให้กินไป ”

     

                      เมื่อกี้มึงยังห้ามกูอยู่เลยนะ! จะเอาช่ะ! ”

     

                      ที่ห้ามเพราะไม่อยากให้บังคับ

     

                      “…”

     

          “แต่ถ้าคยองซูอยากกินเองก็จะให้ลอง

     

                     

     

     

     

     

                     

                  เวลาผ่านไปจนตอนนี้มันก็เย็นมากแล้ว จงอินเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะยื่นเสื้อที่ใช้ถ่ายแบบส่งคืนให้กับมือของลู่หานที่รอรับอยู่ก่อนแล้ว มือใหญ่ยกขึ้นขยี้ผมของตัวเองมืออีกข้างก็แบและยื่นออกไปตรงหน้าผู้จัดการคนเล็ก ที่ก็เหมือนจะรู้ความหมายวางเครื่องมือสื่อสารของอีกคนที่ตนเก็บไว้ให้ส่งคืนให้เจ้าของ

     

                  เสร็จงานแล้วจะกลับเลยก็ได้นะ กลับคนเดียวแล้วกันวันนี้พี่มีนัด ” ลู่หานพูดกับจงอินระหว่างที่ทั้งสองเดินออกมายังลานจอดรถ ร่างสูงพยักหน้ารับเป็นเชิงเข้าใจว่าเขาจะต้องนั่งรถกลับคอนโดคนเดียวโดยที่ลู่หานไม่ได้ไปส่งแต่ให้คนขับรถของเอเจนซี่ไปส่งแทน แต่พอจะแยกมือของลู่หานก็รั้งเอาไว้จนจงอินต้องหันไปมองใบหน้าสวยอีกรอบ

     

                  มีอะไร

     

                  จะยั่วโมโหเซฮุนน่ะทำมากกว่าจับมือก็ได้ พี่ไม่ว่าอะไรหรอก ” รอยยิ้มสวยๆถูกประดับบนใบหน้าของลู่หาน เจ้าตัวคงจะไม่รู้ว่าถึงมันจะสวยแค่ไหนแต่ก็เต็มไปด้วยความเย็นชาจนจงอินเค้นหัวเราะออกมาเบาๆ

     

                 “ ไว้จะดูอีกที หึ สงสารมันบ้างก็ดีนะลู่หาน ”

     

                 “ ต้องสงสารด้วยหรอ ” คำตอบที่ได้มาจงอินคิดว่าถ้าเซฮุนมาได้ยินคงจะปวดใจไม่น้อยเลย

     

                 โอเคเอาเป็นว่าแยกกันตรงนี้นะ ผมรีบ

     

                 ไม่หายหรอกมั้งเด็กคนนั้นน่ะ  ” เสียงตะโกนดังไล่หลังมาแต่ร่างสูงทำเพียงโบกมือลาทั้งๆที่ยังหันหลังเดินมาขึ้นรถให้เท่านั้น  และพอขึ้นรถมาก็ไม่รอช้ากดต่อสายไปที่เบอร์ของไอ้มิทันที เขาคิดว่าตอนนี้ไอ้มิมันคงกลับมารอที่คอนโดแล้ว

     

    และไม่นานปลายสายก็รับ

     

                 ไอ้มิ

     

                 [ โนว! กูแบคฮยอนคนดีคนเดิม เพิ่มเติมคืออยากด่ามึงไอ้ดำ ]

     

    ไอ้มิล่ะ… ”

     

    [หยุดอย่าเพิ่งพูดกูว่ามึงคงอยากรู้ว่าทำไมคนรับสายมึงถึงเป็นกู และตอนนี้มีกู ชานยอล แล้วก็น้องมิของมึงอยู่ที่ห้องมึง ]

     

                 นี่กูกำลังจะกลับไปคอนโด แล้วพวกมึงไปทำอะไรห้องกูไม่ทราบ ”

                     

    [ เผื่อมึงจะอยากรู้  คยองซูของมึงเมาว่ะ  ]

     

    “ อะไรนะ!

     

    [คยองซู..คยองซู คุยกับจงอินไหม ]

     

    พอได้ยินแบคฮยอนพูดแบบนั้นจงอินก็เลือกที่จะเงียบเพื่อฟังเสียงคุยกันจากปลายสายทั้งๆที่ใจตอนนี้มันเริ่มจะไม่สงบ พูดเลยว่าเป็นห่วง นี่มันเรื่องอะไรกันวะ ไอ้มิเมา แล้วเมาได้ยังไง โว้ย!

     

    [ไม่เอาา ]

     

    เสียงของไอ้มิที่มันแผ่วเบาเหลือเกินมันทำให้จงอินใจกระตุก มันเหมือนกับว่าคนตัวเล็กไม่อยากคุยกับเขาอย่างที่พูดจริงๆ

     

     ทำไมล่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น

     

    [ อ่าา เพื่อนดำมึงโดนน้องมิเมินก็คราวนี้แหละครับ รีบกลับมานะ บั้ย! ]

    แล้วไอ้เพื่อนตัวเล็กก็วางสายใส่เขาทันที

     

    “ บ้าเอ้ย!”

     



     

     

     

     

      ปัง!!

     

                      ไอ้มิอยู่ไหน! ” พอเข้ามาในห้องได้นายแบบหนุ่มก็เอ่ยถามกับแบคฮยอนและชานยอลที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าโซฟา แต่ยังไม่ทันจะมีใครตอบจงอินก็เดินมาถึงโซฟาตัวใหญ่กลางห้องที่มีร่างของคนตัวเล็กที่เขากำลังตามหานอนหลับตาพริ้มไม่รับรู้อะไรจนจงอินต้องถอนหายใจออกมา

     

                      “ กินอะไร? แล้วกี่แก้ว? ” เอ่ยถามเพื่อนทั้งสองก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาตัวเดียวกันกับที่คนตัวเล็กนอนอยู่ มือใหญ่เลื่อนไปปัดผมที่มันเกะกะใบหน้าของอีกคนออก เช็ดเหงื่อที่ซึมอยู่ที่ไรผมให้เบาๆก่อนจะอังไปที่หน้าผากให้แน่ใจว่าอุณหภูมิของไอ้มิไม่ได้สูงเกินจนอาจจะเป็นไข้ได


                      จริงๆ เลย

     

                      ไวน์ หมดขวดคนเดียว ” แบคฮยอนตอบเสียงเบา

     

                      ความจริงก็อยากจะห้ามอยู่หรอกแต่ชานยอลไม่ให้ห้ามนี่หน่า

     

                      บ้าเอ้ย! แล้วทำไม… ” ยังไม่ทันจบประโยค ดูเหมือนว่าเสียงของจงอินจะดังรบกวนไปถึงคนตัวเล็กที่เริ่มขยับตัว

     

                      หื้อ

         ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรต่อคนตัวเล็กก็เหมือนจะรู้สึกตัวปรือตาขึ้นมาพอดี พอคยองซูได้เห็นหน้าเท่านั้นแหละคนตัวเล็กก็ลุกขึ้นมากอดหมับซุกคอเขาแน่นไม่ยอมปล่อยส่งเสียงเรียกชื่อเขาพร้อมทั้งหัวเราะคิกคักจนจงอินต้องรีบกอดเอาไว้เพราะอีกนิดเดียวก็จะตกโซฟาอยู่แล้วได้มองใบหน้าหวานผ่านแว่นใกล้ถึงได้เห็นว่ามันแดงระเรื่อดวงตากลมโตปรือลงคล้ายจะหลับอีกรอบ

     

                      นัยต์ตาคมตวัดมองไปที่เพื่อนทั้งสองคนเพื่อจะให้ใครสักคนอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง

     

                      ทำไมไอ้มิมันเมาขนาดนี้


                    เอ่อ ไอ้ชานยอลเลย! มันเลย กูไม่เกี่ยว ” เพื่อนตัวเล็กพูดจบก็รีบวิ่งไปหลบอยู่ที่แผ่นหลังกว้างของชานยอลเผื่อถ้าไอ้จงอินเกิดอยากฆ่าใครสักคน คนแรกก็จะต้องเป็นชานยอลก่อนตัวเองแน่นอน รู้ยังบยอนแบคฮยอนเก่งแต่ในโทรศัพท์นะ ถ้าตัวจริงก็ขอบายอ่ะบอกเลย ถ้าจงอินตบทีเดียวเขาคงปลิ่วไปติดกำแพงห้อง

     

     

                      “ มันไม่ใช่เพราะพวกกู…แต่เป็นเพราะมึง ”

     

                      “…”

     

         คำพูดของชานยอลทำให้จงอินนิ่ง ก้มมองคนในอ้อมกอด

     

                      ก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าถ้ามันเป็นเพราะเขาก็คงจะไม่พ้นตอนที่คุยโทรศัพท์กันแน่ๆ ความจริงตั้งใจจะพูดต่อแต่ไอ้มิมันดันชิงตัดสายไปเสียก่อนและก็พอดีกับที่โดนเรียกคิวให้ไปถ่ายงานเลยเลือกที่จะทำงานให้มันเสร็จก่อนแล้วค่อยกลับมาหาไอ้มิมันทีเดียว

     

                      พวกกูกลับก่อนแล้วกันถ้างั้น ” ชานยอลพูดก่อนจะจูงมือลูกหมาของตัวเองที่ดูก็รู้ว่าคงเป็นห่วงนกน้อยของเพื่อนเพราะยังคงคอยมองคยองซูอยู่เหมือนจะไม่ยอมกลับให้เดินตามตัวเองไปยังหน้าประตูโดยที่ก็มีจงอินที่ลุกขึ้นจากโซฟาเดินตามมาส่ง หมดหน้าที่ของพวกเขาแล้ว จะอยู่ทำไมอีก

     

                      ขอบใจพวกมึงมาก

     

                      “ มึงอย่าใจร้ายกับคยองซูอีกนะ เห็นคยองซูรู้สึกไม่ดีกูก็รู้สึกแย่ไปด้วย เข้าใจไหม! ผิดหวังจริงๆ ” กำลังจะเดินออกไปจากประตูแบคฮยอนก็ยังไม่วายหันมาชี้หน้าไอ้เพื่อนดำเป็นเชิงสั่งแล้วหันขวับเดินฉับๆออกจากห้องไปด้วยความเคืองแทนคยองซู

     

           “ แบคฮยอนมันทีมน้องมิว่ะ เข้าใจมันหน่อยชานยอลหัวเราะพร้อมตบบ่าจงอินอย่างให้กำลังใจ จนจงอินต้องพยักหน้ารับก่อนจะพูดบอกให้กลับบ้านกันดีๆ

     

     

           เอาหล่ะ ถึงเวลาจัดการนกตัวน้อยของตัวเองแล้ว

     

     

                      ไงขี้เมา

          พอกลับมาคนขี้เมาที่เมื่อกี้นอนอยู่บนโซฟาก็ลุกขึ้นมานั่งแถมยังนั่งกอดอกทำหน้าบูด ตาปรือๆ จ้องค้อนมองมายังจงอินช้าๆเมื่อเขาพูดจบ มันทำให้จงอินรู้ว่าคยองซูยังมีสติรับรู้อยู่บ้างถึงแม้จะน้อยนิดก็ตามที นึกขอบคุณที่ในห้องซ้อมของพวกเขาไม่ได้มีอะไรที่หนักไปกว่าไวน์

     

                      พูดด้วยทำเป็นไม่ตอบ ” พูดไปก็ยิ้มไปเมื่อเห็นคนขี้เมาหันหน้าไปทางอื่นแล้วยกมือปิดหูคล้ายไม่พอใจที่โดนเรียกว่าขี้เมา ก่อนจะล้มตัวลงไปนอนบนโซฟาเหมือนเดิม 

     

                      ไปนอนบนเตียงดีๆไหม เดี๋ยวอุ้มไป ” เดินไปนั่งยองๆข้างๆโซฟาโน้มหน้าไปใกล้ๆให้หน้าอยู่ระดับเดียวกับไอ้มิที่ทำท่าจะหลับอีกรอบจนเปลือกตาสีมุกปรือมองมาที่เขาอีกครั้ง…

     

                      “ จงอิน...หล่อจัง ” นิ้วเล็กๆถูกยกขึ้นแตะเบาไปทั่วใบหน้าของจงอิน เริ่มจากที่ดวงตาไล่มาจมูกโด่งเป็นสันมาจบลงที่ริมฝีปากโดยที่เขาไม่ได้ขัดอะไร ทุกสัมผัสมันทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็ว

     

                      ยามสายตาของทั้งสองสบประสานก็เหมือนเวลาจะหยุดนิ่ง เสียงของความเงียบทำให้จงอินได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเองได้ดังที่สุด รู้สึกได้ว่าอีกคนดูจะชอบที่ได้จ้องมองใบหน้าของเขาใกล้ขนาดนี้  และจงอินเองก็เหมือนกัน

     

                      ระยะห่างที่มีน้อยนิดจงอินกลับยิ่งทำให้มันน้อยลงไปอีก หวังจะได้ทำตามที่หัวใจและสมองมันสั่งตรงกันว่าตอนนี้เขาอยากจูบริมฝีปากสีสดรูปหัวใจนั่นเหลือเกิน คล้ายความคิดถูกส่งผ่านถึงกัน คนตัวเล็กหลับตาลงคล้ายยินยอมให้เขาทำในสิ่งที่คิด หวังให้ไอ้มิคิดเหมือนกันโดยที่มันเรียกร้องมาจากหัวใจไม่ใช่เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์

     

         ว่ากันว่าเวลาร่างกายคนเราได้รับแอลกกอฮอล์เข้าไปในเส้นเลือด การกระทำหรือความรู้สึกมีอยู่ก็จะถูกเผยออกมาได้ง่ายขึ้น

     

                      เพราะงั้น…

     

     

                      “ …แต่ใจร้ายย

     

                      งั่บ!!

     

                      โอ้ยย!! ”

                      แล้วจงอินก็ต้องร้องออกมาเมื่ออยู่ๆ คนตัวเล็กที่เหมือนจะยอมให้เขาทำตามใจกลับใช้ตอนที่เขาเผลอกัดเข้าที่ปลายจมูกของเขา ถึงมันจะไม่ได้แรง แต่มันก็ไม่ได้เบาเลยสักนิด มือใหญ่ถูกยกขึ้นจับที่หลายจมูกของตัวเองที่จงอินคิดเอาไว้แล้วว่าตอนนี้มันคงต้องแดงมากแน่ๆเพราะแรงกัด และพอผละออกมาก็เห็นว่าใบหน้าสวยของไอ้มิเต็มไปด้วยน้ำตา

     

                      ร้องทำไม ไม่เอาไม่ร้องดิ

     

                      ฮึก ก็จงอินเจ็บบ ” ไม่ร้องเปล่าคนขี้เมาก็ซบหัวเข้ากับอกเขา จะว่าก็ทำไม่ลง ตกใจก็ตกใจที่คนตัวเล็กเริ่มสะอื้นออกมาไม่หยุดแบบนี้

     

                      อะไรคือร้องไห้เพราะเห็นเขาเจ็บ ทั้งๆที่ตัวเองนั่นแหละเป็นคนทำ

     

                      ตามไม่ทันจริงๆ ตัวแสบเอ้ย!!

     

     

    ไม่ต้องร้อง กูไม่เจ็บแล้ว อย่าขยี้ตาด้วย ” จับคนตัวเล็กให้นั่งพิงโซฟาดีๆก่อนจงอินจะค่อยๆปาดน้ำตาให้เด็กขี้แงที่ตอนนี้สอดนิ้วเข้าไปใต้แว่นตาแล้วขยี้ตาตัวเองไม่หยุดเป็นเด็กๆ จงอินไม่เคยต้องมานั่งดูแลใครแบบนี้พูดเลย จะมีบ้างก็ไอ้แบคยอน แต่รายนั้นก็ไม่ต้องดูแลอะไรมากเพราะมันมีคนดูแลดีอยู่แล้ว ไอ้มิคือคนแรกในหลายๆเรื่องของเขาจริงๆ

     

    “ มิ …อย่ากัด ” จงอินต้องเอ็ดอีกครั้งเมื่อมือที่กำลังเช็ดน้ำตาให้ถูกคนขี้เมาคว้าไปกัด แต่พอพูดไปแบบนั้นก็เหมือนจะไปสะกิดต่อมน้ำตาของคนตัวเล็กขึ้นมาอีก

     

    “ ...ออกไปเลฮึก ” พอถูกดุคนตัวเล็กก็พยายามผลักไหล่จงอินด้วยใบหน้าบูดบึ้งแบบที่เห็นแล้วไม่ได้ทำให้อยากออกห่างเลยสักนิด น่ารักไปหรือเปล่าวะ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามันยิ่งทำให้จงอินอยากจับมาฟัดมากขึ้นไปอีก

     

    แบบนี้…

    ฟอด!

     

    โอ้ย! เมาแล้วชอบกัดหรอเราอ่ะมันอดไม่ไหวจริงๆเลยทำให้เขาต้องรวบไอ้มิเอาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะแกล้งก้มลงไปฟัดแก้มนิ่มฟอดใหญ่อย่างหมั่นเขี้ยวโดยที่คนตัวเล็กก็พยายามดิ้นขืนตัวเองให้หลุดออกจากเขาแต่พอดิ้นไม่หลุดก็งับลงมาที่ไหล่ของเขาแทน

     

                 ปล่อยย อย่ามายุ่งง! อือ จาเดินเองง ” เสียงยานๆของเด็กขี้เมาแถมดื้อดังงุ้งงิ้งอยู่ข้างหูของจงอินทันทีที่ร่างสูงเปลี่ยนเป็นอุ้มคนตัวเล็กขึ้นพาดบ่า ขายาวๆของจงอินก้าวฉับสองสามทีก็เดินมาถึงห้องนอน วางร่างเล็กไว้บนเตียงก่อนจะเดินไปเอาผ้าชุบน้ำหมายจะเช็ดตัวให้ไอ้มิสบายตัวขึ้น แต่พอจะจับไอ้มินอนให้เช็ดตัวดีๆไอ้มิก็ตั้งท่าจะงั่บเขาท่าเดียว

     

                 เมาแล้วทั้งชอบกัด ทั้งดื้อ

     

    “ ยืนเองยังยืนไม่ได้เลย อย่าดื้อได้ไหม มิ..กูบอกว่าอย่ากัดไง…”

     

    “…”

     

    เดี๋ยวถึงตากูกัดคืนบ้างอย่ามาร้องนะ ” พูดแล้วก็ยังไม่หยุดกัด มันเลยต้องมีขู่กันบ้าง

     

    กัดแบบที่ไอ้มิกัด ไม่เหมือนแบบที่เขาจะกัดแน่นอน

     

    “…”

    แปลกที่พอพูดไปแบบนั้นไอ้มิก็บุ้ยปากแล้วหันหน้าไปทางอื่นยอมให้จงอินเช็ดตัวแบบไม่งอแงอะไรทั้งที่เมื่อกี้ดิ้นจนแทบจะเอาไม่อยู่

     

    พอเช็ดตัวให้เสร็จก็เอาไอ้มิเข้าไปนอนในผ้าห่ม อ่อ ที่เช็ดตัวน่ะ เช็ดให้แค่ช่วงบนเท่านั้นแหละเพราะแค่เห็นผิวเนื้อขาวเนียนของไอ้มิที่อยู่ใต้เสื้อ มือเขาก็แทบสั่น อย่าไปคิดถึงท่อนล่าง ยังทำใจไม่ให้ไม่คิดอะไรไม่ได้จริงๆ

     

    นอนได้แล.. ”

     

    ปุก!

     

    ออกไปเลยนะ ” ยังพูดไม่ทันจบประโยคหมอนบนเตียงก็ถูกโยนตรงมาปะทะที่หน้าของจงอินเต็มๆและเน้นๆ

     

    ไม่รอให้หมอนใบที่สองตรงเข้ามาปะทะหน้าอีก พอเห็นว่าร่างบางที่ลุกขึ้นยืนบนเตียงเอื้อมคว้าหมอนตั้งท่าจะปา ขายาวๆของจงอินก็เดินไปถึงเตียงก่อนจะจับคนตัวเล็กที่เมาแล้วฤษธิ์เยอะให้ล้มลงไปนอนบนเตียงโดยที่มีเขาคร่อมอยู่ด้านบน จับข้อมือเล็กทั้งสองข้างให้ตรึงอยู่กับเตียงจนอีกคนขัดขืนไม่ได้

     

    “ กูเจ็บนะรู้ไหม ไม่พอใจอะไรหรือรู้สึกอะไรก็พูดดิวะ จะได้รู้ ” ยิ่งเห็นไอ้มิทำแบบนี้เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจ ตอนแรกก็ว่าจะรอให้สางเมาก่อนแล้วค่อยพูดกัน แต่ดูเหมือนว่ายิ่งปล่อยไว้ไอ้มิก็ยิ่งดื้อ เขาไม่ใช่คนใจเย็น ยอมรับว่าตอนนี้เขากำลังเริ่มหงุดหงิด บอกไม่ถูกว่าหงุดหงิดอะไรว่ะ แต่ก็แค่รู้สึกว่าถ้าไม่เค้นให้คยองซูพูดเขาก็ไม่ได้รู้สักทีว่าร่างเล็กรู้สึกอย่างไร

     

    เขาปล่อยให้ความสัมพันธ์ของทั้งเขาและไอ้มิคลุมเครือมาตลอด เพราะเขาอยากมั่นใจว่าไม่ได้มีแค่เขาที่ชอบหรือรู้สึกดีกับอีกฝ่ายไปคนเดียว กับไอ้มิจงอินบอกเลยว่าเขาจริงจัง อยากเรียกไอ้มิว่าแฟนได้อย่างเต็มปากแต่เขาก็ไม่อยากรวบรัดหรือไปรุกเร้าถามหาความรู้สึกจากคยองซูมากนักเพราะเขาอยากให้เวลาคยองซูได้ตัดสินใจและชอบเขาเอง แต่ถึงมันจะมีบ้างที่คิดว่าคยองซูเริ่มมีใจให้เขาแล้ว แต่มันก็ยังไม่ชัดเจนในความรู้สึกของเขาอยู่ดี

     

    อยากรู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย อยากชัดเจนและเขาก็ไม่อยากคิดเองเออเองคนเดียวว่าที่ไอ้มิมันเป็นแบบนี้เพราะเห็นเขาจับมือกับลู่หานเมื่อตอนเช้าหรือเปล่า ถามให้มันรู้เรื่องทั้งๆที่เมาแบบนี้เนี่ยแหละ!

     

    ไม่รู้ เราไม่รู้  

     

    ชอบใช่ไหมที่วันนี้กูอยู่กับลู่หาน ” ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนจงอินได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคยของคนตัวเล็กแต่คราวนี้กับปนผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์เพิ่มมาด้วย จ้องประสานตากันสักพักก็ไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากของอีกฝ่าย และเมื่อเห็นว่าไอ้มิไม่ตอบ จงอินจึงพูดต่อไปเรื่อยๆ

     

    “…”

     

    ชอบหรอที่กูจับมือเขา ” พูดเบาๆก่อนจะปล่อยมือที่จับไอ้มิไว้ข้างนึงแล้วยกขึ้นปัดไรผมที่ปรกหน้าของอีกคนออกตามด้วยเลื่อนริมฝีปากหยักขึ้นจรดเข้าที่หน้าผากเนียนโดยที่คนตัวเล็กก็ไม่ได้คิดจะขัดขืน

     

    “ ฮึก ไม่ชอบบ เราไม่ชอบ ”  แต่พอผละออกมาไม่ทันไรภาพที่เห็นคือตอนนี้คนตัวเล็กกำลังร้องไห้ น้ำใสไหลอาบเลอะแก้มไปหมดจมูกเล็กแดงระเรื่อรวมไปถึงดวงตากลมโตเริ่มบวมนิดๆจนน่าสงสาร แต่จงอินก็ทำแค่ฝืนใจตัวเองไม่ให้ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่าย บอกเลยว่าแพ้น้ำตาของไอ้มิเหลือเกินแต่ถ้าเขาไม่ใจแข็งความสัมพันธ์ของเขากับไอ้มิก็จะไม่คืบสักที

     

    “ รู้สึกอะไรบ้างไหม ”

     

    ฮือ ร..เรา.. ”

     

    “ รู้สึกอยากจะเข้ามาดึงกูออกจากลู่หานเหมือนที่กูอยากเข้าไปดึงมึงออกมาจากเซฮุนไหม ”

     

    “ ฮึก อือ รู้สึก ” ไอ้มิพยักหน้าตอบรับในสิ่งที่เขาถามและคำตอบของไอ้มิทำให้หัวใจของจงอินค่อยๆพอง

     

    รู้สึกไม่อยากให้กูอยู่ใกล้ใครนอกจากตัวเองเหมือนที่กูไม่อยากให้มึงใกล้ใครนอกจากกูหรือเปล่า

     

    “…”

     

      เรารู้สึกเหมือนกันใช่ไหม

     

    อื้อ ”เสียงตอบรับที่เบาแผ่วหลุดออกมาจากปากของร่างบางอีกครั้ง ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้หัวใจของคิมจงอินพองโตเสียจนถ้าเกิดมีเข็มตรงเข้ามาทิ่ม มันก็คงจะระเบิดแตกออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้เพียงแค่ได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้จากปากคนตรงหน้า พอได้รู้ว่าไอ้มิก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากเขาเท่านั้นก็พอจะทำให้เขารู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ

     

    ถึงเรื่องวันนี้จะยังไม่เคลียร์ยังต้องอธิบาย แต่แค่รู้แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว

     

     รู้ไหมว่าเมื่อเช้ากูหึงจะบ้าอยู่แล้ว ” พูดไปสลับกับกดจูบซับรอยน้ำตาให้ร่างเล็กอย่างถะนุถนอม ภาพในหัวก็คิดไปถึงตอนนั้นตอนที่เห็นเซฮุนกำลังก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูไอ้มิ ดูก็รู้ว่าไอ้เซฮุนมันจงใจยั่วโมโหเขาและมันก็เกือบจะสำเร็จแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดจนมาถึงตอนนี้

     

    ขอลงโทษหน่อยแล้วกัน...”

     

    !!


    “ อื้..เจ็บ ” คนตัวเล็กดิ้นเล็กน้อยก่อนจะร้องออกมาทันทีที่ริมฝีปากร้อนจรดลงที่ลำคอขาวเนียน ขบกัดสลับเม้มสร้างรอยกุหลาบไปทั่ว เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าไอ้มิมันเป็นของเขาได้คนเดียว คนเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมของคนตรงหน้าทำให้มือใหญ่เผลอเลื่อนสอดเข้าไปใต้เสื้อนักเรียนเพื่อหวังสัมผัสกับผิวเนื้อนิ่ม จงอินมั่นใจว่าเมื่อครู่เขามีสติเต็มร้อยแต่ไม่รู้ทำไมในเวลานี้เขากลับควบคุมตัวเองไม่ได้ ยิ่งได้สัมผัสยิ่งยากจะหยุดยั้ง ร่างสูงจูบเบาๆไปทั่วแผ่นอกขาวที่ตอนนี้มันมีรอยแดงช้ำที่เกิดจากฝีมือของเขาเอง  และก็ต้องหยุดเมื่อร่างที่เคยดิ้นอยู่เมื่อกี้กลับนิ่งเงียบ

     

    ไอ้มินิ่งไปแบบนี้คงจะไม่ใช่…

     

    ใบหน้าคมตัดสินใจค่อยๆผละออกมาดูว่ามันใช่อย่างที่เขาคิดเอาไว้หรือไม่

     

    ฟี้~ ” เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของอีกคนทำให้จงอินรู้ทันทีว่าไอ้มิมันหลับไปแล้วเรียบร้อยอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ

     

    “ ชิงหลับแบบนี้ก็ได้หรอหะ ขี้เมา ” โชคยังเข้าข้างไอ้มิที่เขาไม่ชอบทำอะไรใครโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว   ก้มมองร่างเล็กที่หลับตาพริ้มอย่างสบายใจก็อดส่ายหน้าพร้อมถอดหายใจออกมาไม่ได้ จงอินจัดการถอดแว่นให้คยองซูก่อนจะจับห่มผ้าให้เรียบร้อยโดยที่เขาก็ตามขึ้นมานอนบนเตียงด้วย

     

    นอนมันทั้งยังไม่ได้อาบน้ำเนี่ยแหละ ขี้เกียจแล้ว

     

    พอสอดตัวเข้าไปนอนบนเตียงได้ ไอ้มิก็เขยิบเข้ามาซุกลงในอ้อมกอดทันทีแบบที่เวลาปกติไม่เคยคิดจะทำ จงอินซะอีกต้องเป็นฝ่ายเนียนๆรอให้ไอ้มิมันหลับไปก่อนถึงจะคว้ามากอด นานๆทีจะโดนอ้อนแบบนี้ จงอินเลยรีบกอดกระชับคนตัวเล็กเข้ามาไว้ให้ชิดตัว อย่างที่ชอบทำ ก่อนจะนอนก็ไม่วายก้มลงฟัดแก้มนิ่มของคนขี้เมาสักทีสองทีอย่างหมั่นเขี้ยว

     

      ถ้าเช้ามาแล้วจำอะไรไม่ได้นะ น่าดู

     

               

     


               

     

               

     





    คนเมาทำอะไรก็อย่าไปถือสาค่ะ
    น้องมิคะ แสบนะบอกเลย *เจ็บจมูกแทนจงอิน*
    5555555555555555555555

     น้องมิชิงหลับก่อนไม่ดีนะคะ จงอินอดเลย

    เอาล่ะ เรามาแล้วววววว ปิดเทอมแล้วเฟร้ยย
    จริงๆแล้วปิดเทอมตั้งนานแล้วแต่เพิ่งจะได้มาปั่นน้องมิอย่างจริงๆจังๆ
    คือวันนี้มีไลฟ์วีแอฟของคยองใช่ป่ะ แล้วพอเปิดกล้องมาคือแบบเฮ้ยย นี่มันน้องมิ
    ถถถถถถถถ หัวใจจะวาย ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้ ในทวิตเราหวีดอย่างบ้าคลั่ง
    เลยคิดถึงและรีบปั่นๆและเอามาลงให้โดยด่วน

    เอาเป็นว่าเราจะมาให้บ่อยและถี่กว่านี้แล้วกันนะคะ
    ขอแอบกระซิบว่าเราจะรีไรท์เนื้อหาใหม่แบบว่าขอเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางอย่าง
    รอติดตามกันด้วยนะคะ คิดถึงนะ รักนะะะะะ จุ๊บบบ!


    เออออ เกือบลืมไปแหน่ะ เรามีแฟนอาร์ตจะมาอวด




    วาดน่ารักมากกกกกกก ชอบมว๊ากกกกกก
    ต้องขอขอบคุณ คุณ @Maxxnum2916 มากๆเลยนะคะ
    เห็นแล้วชื่นหัวใจ ชอบมากกกก 55555

    ไปจริงๆและ
    รักจากมิช



    (c)  Chess theme
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×