ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END) ก็คนมันชอบ...좋아해 ♡ - KAISOO

    ลำดับตอนที่ #27 : CHAPTER 23 (THE END)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.73K
      104
      4 พ.ย. 59








    23



     

    ตั้งแต่วันที่คยองซูถูกขังเอาไว้ในห้องน้ำ จงอินก็ยิ่งทำตัวติดกับเขาตลอดเวลาเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าอยู่ไม่ได้ก็ฝากให้คนอื่นอยู่แทนจนคยองซูอดว่าจงอินเว่อร์ไม่ได้ เขาก็รู้นะว่าจงอินห่วงเขา หลังจากวันนั้นที่จงอินจะพูดอะไรบางอย่างกับเขาแต่แบคฮยอนกับชานยอลก็เข้ามาเพราะงั้นจงอินกับคยองซูก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ต่อ ถึงไม่พูดก็เหมือนว่าความสัมพันธ์ของเขากับจงอินมันเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปแล้วแต่ก็แค่ไม่มีใครพูดอะไรยืนยันให้ชัดเจนเท่านั้นเอง

     

                “ แบคฮยอน แล้วจงอินกับชานยอลไปไหนหรอ ”

     

                เอ๋ แปลกจัง

     

                พอผลักเข้ามาในห้องซ้อมคยองซูก็มองกวาดไปทั่วห้อง แต่มองไปก็เจอแต่แบคฮยอนที่กำลังนั่งซ้อมเพลงอยู่ในห้องแค่คนเดียว ช่วงนี้จงอินต้องอยู่ซ้อมเพลงเพื่อขึ้นงานโรงเรียนจนดึก มันเลยทำให้พอเลิกเรียนคนตัวเล็กจึงต้องมาที่นี่เพื่อมารอจงอินกลับคอนโดพร้อมกัน แล้ววันนี้จงอินก็โทรบอกให้เขาเข้ามาที่ห้องซ้อมเร็วกว่าปกติโดยที่ก็ไม่ได้บอกอะไรต่อมันเลยทำให้คยองซูสงสัยนิดหน่อยว่ามันมีเรื่องอะไรหรือเปล่า

     

                “ เห็นหายไปด้วยกันนานแล้วนะคยองซู แต่มันบอกว่าถ้าคยองซูมาก็ให้รอกับแบคก่อน คยองซูมานั่งนี่เร็ว มาช่วยฟังหน่อยว่าเราร้องท่อนนี้เพี้ยนหรือเปล่า ” คยองซูเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆแบคฮยอนอย่างว่าง่าย แบคฮยอนยิ้มจนเห็นฟันเขี้ยวน่ารักก่อนจะเริ่มร้องเพลงที่ต้องใช้ขึ้นแสดงในวันพรุ่งนี้ให้คยองซูฟัง คยองซูว่าแบคฮยอนน่ะร้องเพราะจะตายไม่เห็นเพี้ยนอย่างที่เจ้าตัวกลัวเลย  

     

                พรึบ!

     

                นั่งฟังแบคฮยอนซ้อมไปสักพักก่อนเสียงเปิดประตูห้องจะเรียกให้คยองซูและแบคฮยอนหันไปมอง แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นจงอินกับชานยอลพากลุ่มรุ่นพี่ผู้หญิงที่เขารู้เพราะดูจากแถบสีตรงปกเสื้อสี่ห้าคนเข้ามาในห้อง แต่ละคนมีสีหน้าซีดและถอดสีจนคยองซูลุกขึ้นเดินไปจับที่แขนของจงอิน

     

                “ จงอิน ให้พวกพี่เขามาทำไมหรอ ”

     

                “ นั่นสิ มึงพาใครมาวะจงอิน ชานยอล? ” ไม่ได้มีแค่คยองซูคนเดียวที่สงสัย แบคฮยอนลุกขึ้นวางโน็ตเพลงลงกับโต๊ะก่อนจะเดินมาหยุดยืนข้างๆชานยอลที่ยืนอยู่หน้าประตู

     

                แล้วแบคฮยอนก็ต้องร้องแบบถึงบางอ้อเพราะว่าเขาเคยเห็นและจำได้แล้วว่าพวกรุ่นพี่กลุ่มนี้คือใคร สี่ห้าคนนี้เป็นกลุ่มแฟนคลับของจงอิน รักมากจนแฟนคนอื่นๆเรียกว่าเป็นตัวแม่ แบคฮยอนว่าถ้าเขาเดาไม่ผิดมันต้องเกี่ยวกับเรื่องในห้องน้ำที่คยองซูโดนขังแน่ๆ

     

                “ พวกพี่ขอโทษคยองซูซะ! ” จงอินไม่ได้หันมาตอบคำถามของคนตัวเล็ก เสียงนิ่งเรียบเลือกที่จะพูดกับกลุ่มหญิงสาวที่พามาแทน

     

                น..นี่มันอะไรกัน

     

                “ พวกเราผิดไปแล้ว พวกเราขอโทษนะ พวกเราเองแหละที่เป็นคนขังคยองซูไว้ในห้องน้ำวันนั้น ” เสียงสั่นๆของรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นก่อนที่เหลือจะเอ่ยคำขอโทษตามมา ทั้งกลุ่มมองมาทางคยองซูด้วยแววตาสำนึกผิดมันทำให้ร่างบางที่มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกสงสารและไม่คิดจะติดใจอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้วจับเข้าที่แขนของจงอิน

     

                “ ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เป็นไร…จงอิน พวกพี่เขาขอโทษเราแล้ว เพราะงั้นปล่อยพวกเขาไปได้แล้วนะ ” ฝ่ามือเล็กของคยองซูยังคงกำกระชับปลายเสื้อนักเรียนของจงอินเอาไว้แน่น เพื่อหวังจะให้จงอินใจเย็นลง ตอนนี้เสี้ยวหน้าของจงอินไม่เหลือบมองมาที่คยองซูเลยสักนิดดูก็รู้ว่าจงอินไม่แค่พามาขอโทษเขาอย่างเดียวแน่ๆ 

     

                คยองซูไม่อยากให้จงอินทำอะไรใครเพราะเขา

     

                “ ใครทำอะไรก็ต้องได้ในสิ่งที่ตัวเองทำกลับคืน ”

     

                ซ่าาาา!!

     

                “ กรี๊ดดดด ” เสียงร้องของกลุ่มเด็กนักเรียนหญิงดังขึ้นทันทีเมื่อจงอินเอื้อมหยิบถังน้ำที่ชานยอลยื่นมาให้ที่ข้างในบรรจุน้ำเอาไว้เต็มเปี่ยมถูกจงอินยกขึ้นเทราดไปบนหัวของหญิงสาวทีละคน

     

                “ ถ้าพวกพี่บอกว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะชอบผม...ชอบแล้วทำตัวแบบนี้อย่าชอบผมเลยดีกว่า ผมไม่ใช่คนดีอะไรและพวกพี่ก็น่าจะรู้ว่าผมทำได้มากกว่าเทน้ำใส่ด้วยซ้ำ

     

                ณ เวลานี้จงอินไม่แคร์อะไรทั้งนั้น ไม่สนว่าหากเหตุการณ์นี้จบเขาจะทำให้แฟนคลับทั้งโรงเรียนเกลียดเขา ไม่สนแม้ว่าใครจะมองว่าเขาปกป้องคยองซูจนเกินเหตุ คยองซูไม่ควรจะมาโดนทำอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ มันเป็นเพราะเขาเอง เรื่องนี้เขาต้องจัดการ ถึงคยองซูจะบอกว่าไม่เอาเรื่องแต่เขาคิดว่าเขาคงปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เลยให้ชานยอลช่วยตามสืบโดยดูจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียนก็ถึงรู้ว่าคนที่ทำก็คือพวกเดียวกับที่เรียกว่าเป็นแฟนคลับของเขา ตอนนี้เขาแค่อยากให้คนพวกนี้ได้รู้ว่าการล้ำเส้นและมาทำร้ายคนที่เขารักมันเป็นยังไง

     

     

                “ สั่นทำไมครับ แค่นี้สั่นแล้วที่พี่ขังคนคนหนึ่งไว้ในห้องน้ำทั้งคืนพี่คิดว่าคนนั้นเขาจะรู้สึกยังไง ”

     

                เนื้อตัวของหญิงสาวทุกคนสั่นเทาไปหมด ทั้งกลัว ทั้งหนาวเพราะตัวที่เปียกปอน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้พวกเธอก็คงไม่ทำแบบนี้ คิมจงอินตรงหน้าพวกเธอน่ากลัวจนแทบอยากจะร้องไห้

     

                “ ให้เกียรติคนที่ผมเลือกบ้าง คยองซูน่ะผมเข้าหาเขาก่อนเอง ถ้าจะโกรธแค้นก็มาลงที่ผม อย่ายุ่งกับคยองซู ผมก็แค่คนคนหนึ่ง มีหัวใจที่ไว้รักใครสักคนเหมือนพวกพี่นั่นแหละ แล้วถ้ามีใครสักคนมาทำอะไรคนที่พี่รักพวกพี่ก็คงยอมไม่ได้จริงมั้ยครับ และคนที่พวกพี่จับขังไว้ในห้องน้ำวันนั้นคือคนที่ผมรัก 

     

                “ จงอิน…เราขอร้อง ยังไงพวกพี่ๆเขาก็เป็นคนที่รักจงอินเหมือนกันนะ เราไม่เป็นอะไรแล้วไงก็ไม่เห็นต้องทำกับพวกพี่เขาขนาดนี้เลยนี่หน่า ” เสียงของคยองซูเรียกให้จงอินหันหน้าไปสบตากับดวงตากลมโตนั่น คยองซูส่ายหน้าเป็นเชิงขอร้องว่าให้เขาพอได้แล้ว ให้ตายสิ! เพราะแบบนี้ไงเลยไม่อยากจะมองหน้านานๆ ใจอ่อนทุกทีสิหน่า


                “ รู้เอาไว้ด้วยว่าผมไม่ทำอะไรพวกพี่ไปมากกว่านี้เพราะว่าคยองซู ”


                “ พวกเราเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะคยองซู พวกเราผิดไปแล้ว ย..อย่าเกลียดพวกเราเลยนะ ”


                “ ครั้งนี้ผมจะไม่เอาเรื่องอะไรใครทั้งนั้นแต่ถ้าผมเห็นใครทำอะไรคยองซูอีกผมไม่ปล่อยเอาไว้แน่ ”


                “ จงอิน..” เสียงของไอ้มิมันทำให้จงอินถอนหายใจ


                “ เอออๆ ชานยอล แบคฮยอนกูฝากพวกมึงดูด้วย ” ชานยอลพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูพากลุ่มหญิงสาวที่เปียกปอนเดินออกจากห้องไปพร้อมกับแบคฮยอนที่ต้องไปช่วยชานยอลดูแลหาเสื้อผ้าแห้งๆให้รุ่นพี่กลุ่มนี่ยกใหญ่

     

                “ ห่วงแต่คนอื่น คิดบ้างหรือเปล่าว่าถ้าตัวเองเป็นอะไรไปขึ้นมาจะทำยังไง ” พออยู่กันสองคนจงอินก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้ คยองซูน่ะมองโลกในแง่ดีีมากเกินไปจนเขาเป็นห่วง เพราะแบบนี้ไงเขาเลยต้องคอยดูแลอยู่ใกล้ๆไม่ให้ห่างตัว


                “ ก็เราไม่เป็นอะไรนี่หน่า จะคิดเผื่อทำไมกัน ”

                “ แล้วถ้าเจอเหมือนวันนั้นอีกจะทำยังไง ”

                “ เรามีจงอินอยู่ทั้งคน จงอินมาช่วยเราทันอยู่แล้ว ” คยองซูยิ้มจนตาหยีทำเอาจงอินอดยกมือขึ้นขยี้ผมนิ่มไม่ได้

                “ พูดแบบนี้จะอ้อนหรอ ”

                “ อือ เราแค่ไม่อยากให้จงอินคิดมากเรื่องเรา ”

                “ น่ารักไปแล้วนะรู้ไหม ”

                “ ฮึ ไม่รู้ เพิ่งรู้ตอนที่จงอินบอก ” คยองซูยิ้มกว้างและหัวเราะออกมาเมื่อพูดจบประโยค จะกวนอะไรขนาดนี้นะไอ้มิ แต่มันโคตรน่ารักเลย ให้อภัย

     

                เมื่อกี้ตอนออกไปมันล็อกประตูห้องกันหรือเปล่าวะ ถ้าเขาจะจับไอ้มิฟัดจะมีคนเข้ามาขัดจังหวะอีกหรือเปล่าวะ แต่ที่แน่ๆหลังจากวันนั้นเขาก็เปลี่ยนรหัสห้องเรียบร้อยไอ้อีหน้าไหนก็จะไม่ได้เข้าออกห้องของเขาตามอำเผลอใจได้อีกแล้ว

     

                “ ที่กูทำไปทั้งหมดมันก็เพราะเป็นห่วงนะรู้ไหม กูไม่อยากให้ใครมาทำอะไรมึงอีก ” จงอินยกมือขึ้นไปประคองที่ข้างแก้มของคยองซูอย่างทะนุถนอม จะให้เขาอยู่เฉยได้ยังไง ถึงไอ้มิมันจะทนให้คนแกล้งเพราะเขาได้ แต่สำหรับเขา เขาอยากปกป้องคยองซู จะให้เขาทนเฉยให้คนอื่นดูถูกหรือทำอะไรคนที่เขารัก

    แบบนี้น่ะหรอ เขาทำไม่ได้

     

                “ รู้ เรารู้ แต่เราก็เข้าใจนะว่าทำไมทุกคนต่างพากันบอกว่าเราไม่เหมาะกับจงอินบางทีเราก็แอบเห็นด้วยกับคนอื่นเหมือนกัน ” ถ้อยคำนินทามากมายที่คยองซูได้ยินมาคยองซูไม่เคยโกรธ ทุกคนต่างพากันบอกว่าคนอย่างเขาไม่เหมาะสมที่จงอินจะมายุ่งด้วยซึ่งมันก็คือความจริง มันไม่ใช่แค่คนพวกนั้นที่คิด เขาเองก็คิดมาเสมอเหมือนกัน เขายอมรับว่าถ้าเทียบในเรื่องรูปร่างหน้าตาเขาอาจจะไม่เหมาะสมหรือคู่ควรกับจงอิน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่รู้มันคือความรู้สึกที่เขามีให้จงอินที่คยองซูคิดว่าถ้าเอามาเทียบกันเขาก็มีสิทธิ์จะได้รักและคอยห่วงใยจงอินไม่แพ้ใคร

     

                “ มันไม่เกี่ยวกับคนอื่นมิ มันอยู่ที่เรา ความรู้สึกเราตรงกันแค่นั้นมันพอแล้ว ” จงอินตรงเข้ามากดจูบที่หน้าผากของคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบา

                “ … ”

                “ ไม่มีใครจะมาคิดแทนกูได้ทั้งนั้นว่ากูสมควรจะคู่กับใคร กูเลือกแล้ว มั่นใจตัวเองหน่อยสิ ”

                “ … ”

                “ คนที่กูให้หัวใจกูไปอยู่ด้วยมันคือมึง รู้ตัวได้แล้ว ”

     



     

     

     



                แล้ววันงานโรงเรียนก็มาถึง หลังจากหลายวันที่ผ่านมาจงอินชานยอลและแบคฮยอนตั้งหน้าตั้งตาซ้อมเพลงจริงๆจังๆเพื่อจะมาขึ้นเล่น  ทั่วทั้งโรงเรียนเต็มไปด้วยความครึกครื้น บ้างก็ทำซุ้มขายอาหาร ขายเสื้อผ้า หรือทำกิจกรรมเล่นเกมส์ก็แล้วแต่ว่าชมรมไหนอยากจะทำอะไรโดยที่ส่วนกลางของงานถูกจัดเป็นเวทีสูงขึ้นมาไว้สำหรับวงดนตรีที่จะมาขึ้นเล่นในวันนี้ วงของพวกเขาได้แสดงปิดท้ายและในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็จะถึงคิวที่พวกเขาได้ขึ้นแสดง ด้านหลังเวทีชานยอลกับแบคฮยอนกำลังเตรียมเช็คเครื่องดนตรีเช็คความเรียบร้อยอีกรอบเพื่อที่เวลาขึ้นไปจะได้ไม่ผิดพลาดแต่ก็มีแค่ไอ้เพื่อนดำเท่านั้นที่พอเช็คกีต้าร์ของมันเสร็จก็ลากคยองซูนกน้อยของมันไปนั่งจู้จี้กันให้พวกเขาแล้วก็คนทำงานด้านหลังเวทีมดกัดกันเล่นๆ เห็นแล้วแบคฮยอนแทบอยากจะอ้วกใส่หน้าจงอินจริงๆ แหม ทีตอนทะเลาะกันนี่จะเป็นจะตาย คืนดีกันได้ก็หวานกันซะจนเลี่ยนคอไปหมด

     

                “ มิ ” มือกีต้าร์ของวงลากเสียงเรียกคนในอ้อมกอดของตัวเองก่อนจะเอ่ยต่อ “ ออกไป ไปอยู่ข้างหน้าเวทีเลยนะ”


                “ เรายืนดูอยู่ข้างหลังไม่ได้หรอ คนเบียดกันจะตาย ”


                “ ไม่ได้ ”


                “ ทำไมล่ะจงอิน ” จงอินหัวเราะออกมานิดกับหน้าตาบูดบึ้งของคยองซูที่ดูยังไงก็โคตรน่ารัก ถึงยังไงเขาก็อยากให้ไอ้มิไปอยู่ในที่ๆเขาจะสามารถหาเจอได้เวลาอยู่บนเวที


                “ กูจะได้มั่นใจว่ามึงอยู่ดูจนจบไม่หนีไปไหนก่อนไง แค่นี้ทำให้ไม่ได้? ”


                “ ก็ได้ เรายอมแล้ว เดี๋ยวถ้ามีโอกาสเราจะปีนขึ้นไปนั่งบนเวทีให้จงอินเห็นชัดๆเลยดีไหมล่ะ ”


                “ ทำได้จะดีมาก งั้นก่อนไปขอกำลังใจหน่อย ” จิ้มๆไปที่ริมฝีปากของตัวเองก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ไอ้มิที่เริ่มโวยวายเพราะรู้ว่าเขาอยากได้กำลังใจยังไงจนจงอินต้องส่งเสียงเร่งแล้วรวบเอวคยองซูให้เข้ามาชิดตัว “ เร็วๆ ”


                “ ม..ไม่เอาหรอก คนอื่นอยู่กันเต็มเลย ”


                “ แคร์ทำไม หลับตาจูบกันก็ไม่เห็นแล้ว ”


                “ จ..จงอินน! ”


                 “ ไอ้จงอิน ให้น้อยๆหน่อย อย่าหวานมากกูอิจฉา ยังไม่อยากดูหนังสดตอนนี้ครับเพื่อนรัก อ้าวไอ้เซ! ” แบคฮยอนที่กำลังวอร์มเสียงอยู่ไม่ไกลตะโกนมาอย่างจงใจจะขัดจังหวะเขากับไอ้มิให้ถึงที่สุดแต่ก็ต้องร้องออกมาอย่างแปลกใจที่อยู่ๆร่างสูงของโอเซฮุนก็เดินมาจากประตูเข้าหลังเวทีโดยที่ชานยอลก็ยักคิ้วเป็นเชิงทักทายไปให้จนเซฮุนต้องยิ้มออกมานิดๆ

     

                คือก็พอรู้เรื่องว่าเข้าใจไอ้เซฮุนผิดแบคฮยอนก็ไม่นิ่งนอนใจ เจอไอ้เซฮุนมันมาคุยกับชานยอลเรื่องคลิปว่าได้มาได้ยังไงก็ไม่วายเข้าไปคุยเพื่อปรับความเข้าใจจนดีเหมือนเดิม ยังไงเซฮุนมันก็เป็นเพื่อนของเขาคนหนึ่งเหมือนกัน ยิ่งรู้ว่าเข้าใจมันผิดเขาก็รู้สึกแย่


                “ ไง ” เซฮุนเอ่ยทักทุกคนก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่จงอินกัยคยองซู


                “ ลมอะไรหอบมึงมาได้ล่ะ ” จงอินเอ่ยทักเซฮุนด้วยเสียงสบายๆ ตอนนี้เขากับเซฮุนไม่มีอะไรติดค้างกัน ไม่มีเรื่องที่ต้องให้ผิดใจกันเหมือนเมื่อก่อนมันก็ไม่มีความจำเป็นที่จงอินจะต้องโกรธแค้นเซฮุนต่อไป

     

                เพื่อนยังไงมันก็คือเพื่อนไปจนวันตาย

     

                “ ก็ไม่ได้อยากจะมา แค่มาดูพวกมึงตามคำขอของลู่หาน ลู่หานติดงานงอแงกับกูใหญ่ว่าอยากมาดู ” ไม่จำเป็นต้องถามอะไรไปมากกว่านี้ เขาเดาว่าเซฮุนคงคืนดีกับผู้จัดการส่วนตัวของเขาเรียบร้อยแล้วล่ะมั้งมันถึงยิ้มไม่หุบเวลาที่พูดถึงลู่หานแบบนี้ ซึ่งเอาจริงๆมันก็ดีที่ทั้งสองคนปรับความเข้าใจกันได้ ลู่หานรักเซฮุนมากและไอ้เซฮุนก็รักลู่หานไม่แพ้กัน หลังจากวันนั้นเขาก็ได้ข่าวจากชานยอลว่ามันเป็นคนส่งคลิปไปให้ลู่หานด้วยเพราะลู่หานก็เป็นอีกคนที่สมควรจะรู้ความจริงแล้วก็นั่นแหละสงสัยคงจะกลับมารักกันเหมือนเดิมแล้ว

     

                “ ได้สร้อยแล้วนี่ จงอินตอนมึงขึ้นไปเล่นดนตรี คยองซูเนี่ยกูดูแลให้ได้นะ ” เซฮุนพูดกับจงอินจบก็เลื่อนสายตาไปมองคยองซูที่จงอินกำลังกอดเอาไว้ เหลือบมองไปที่ข้อมือเล็กที่มีสร้อยข้อมือคล้องอยู่ก็ต้องหัวเราะออกมานิดๆ โดยไม่วายแกล้งแหย่เพื่อนตัวเองด้วยความสนุก

     

                “ ถ้าอยากกินหมัดกูจนอิ่มอีกมึงก็ลองดู ”

     

                “ โอเคเข็ด หึ ” เซฮุนยกมือขึ้นเป็นเชิงว่ายอมแพ้ ก็แค่แหย่ไอ้จงอินมันนิดหน่อย จริงๆแล้วไม่ใช่แค่เพราะลู่หานบอกให้มาหรอก เขาก็อยากมาหาทุกคนด้วยนั่นแหละ

     

                “ เอ่อ ได้เวลาแล้วค่ะ จงอิน แบคฮยอน ชานยอล สแตนบายไว้เลยนะ ” เสียงหญิงสาวสต๊าฟที่เดินเข้ามาหลังเวทีเอ่ยบอกให้ทั้งสามคนเตรียมตัวเพราะวงบนเวทีกำลังจะเสร็จในอีกไม่ช้า

     

                “ กูฝากเอาคยองซูไปอยู่หน้าเวทีด้วย เสร็จแล้วมึงจะไปไหนก็ไป ”

     

     

     

     



                พอมายืนอยู่ที่หน้าเวที รอเพียงไม่กี่อึดใจเสียงของแบคฮยอนก็ดังขึ้นมาอย่างสดใส ทั้งสามคนเดินขึ้นเวทีมาเพื่อเซ็ทเครื่องดนตรีเตรียมเล่นคอนเสริต์ คยองซูยิ้มขำให้กับมุกตลกที่แบคฮยอนปล่อยออกมาเพื่อสร้างบรรยากาศให้ทุกคนไม่เบื่อเวลารอบนเวทีเช็คเสียง ก่อนจะเริ่มร้องเพลงที่ซ้อมกันมา ด้วยความที่คนเยอะ


               คยองซูเห็นว่าจงอินพยายามมองกวาดไปทั่วด้านล่างเวที แต่ก็หยุดแล้วยิ้มขำออกมาเมื่อคนตัวเล็กที่ร่างสูงตามหาส่งยิ้มน่ารักมาให้ก่อนจะพยายามยกมือทั้งสองข้างโบกไปมาพร้อมกระโดดโหยงเหยงให้จงอินเห็นว่าตัวเองอยู่ตรงนี้

     

                เวลาแห่งความสนุกบนเวทีดำเนินต่อไปเรื่อยๆ บทเพลงที่คยองซูเคยฟังในห้องซ้อมมันเทียบไม่ได้กับการเล่นจริงบนเวที แบคฮยอน จงอิน ชานยอลสามารถทำให้คนฟังมีความสุขและสนุกไปด้วยได้ไม่มีเบื่อ เสน่ห์ที่มีกันไม่น้อยทำให้ได้รับเสียงกรี๊ดของเด็กนักเรียนหญิงไม่ขาด นักเรียนชายก็โยกตัวสนุกไปกับจังหวะกลองของชานยอลด้วยความมันส์

     

                สมแล้วที่วง KCB เป็นวงที่มีแต่คนชอบและรักเยอะแยะมากมาย

     

                เมื่อเล่นเพลงที่เป็นเพลงสุดท้ายที่ซ้อมกันมาจบ แบคฮยอนก็เดินไปข้างๆเวทีเพื่อรับขวดน้ำจากสต๊าฟแล้วโยนไปให้จงอินกับชานยอลแล้วค่อยเปิดดื่มเอื้อกใหญ่เพื่อดับกระหายพร้อมพูดใส่ไมค์ไปด้วย “ สนุกกันไหมครับผมมม~ ”

     

                “ สนุกกกค่าาาาาาาาา กรี๊ดดดดดดดด~ ”

     

                คยองซูยิ้มเมื่อแบคฮยอนโบกมือมาให้เขา พร้อมใช้ผ้าเช็ดเหงื่อของตัวเองไปด้วย นี่คงจบแล้วสินะเพราะเท่าที่คยองซูดูจงอินซ้อมมาเขาก็จำได้ดีว่ามีกี่เพลงและเพลงอะไรบ้าง แฟนๆคงเสียดายกันไม่น้อยเลยทีเดียว

     

                “ จะว่าไป..จริงๆแล้วเพลงที่เพิ่งจบไปมันคือเพลงสุดท้ายแล้วล่ะครับทุกคน ” สิ้นเสียงแบคฮยอนทุกคนต่างพากันร้องไม่อยากให้จบจนแบคฮยอนต้องยิ้มขำ

     

                “ แต่…มันมีเพลงสุดท้ายกว่านั้นอีกเพลงหนึ่ง ซึ่งเพื่อนของผมจะเป็นคนร้องเอง อยากฟังกันไหมครับบ ” แบคฮยอนยื่นไมค์ไปให้ผู้คนด้านล่างเวทีเพื่อฟังคำตอบ ซึ่งไม่ต้องเดาว่าแบคฮยอนได้รับเสียงกรี๊ดเป็นคำตอบเต็มๆ นักเรียนหญิงกรีดร้องกันอย่างบ้าคลั่งเมื่อเห็นว่าร่างสูงของจงอินเดินไปเปลี่ยนจากกีต้าร์ไฟฟ้าเป็นกีต้าร์โปร่งพร้อมถือขาไมค์และเก้าอี้นั่งแล้วเดินมายังกลางเวที

     

                “ กรี๊ดดดดดดด จงอินนนนนนนนนนน ~ ”

     

                “ โห นี่ขนาดยังไม่ได้ร้องเสียงยังมาเต็มขนาดนี้ ไปๆ ชานยอลมึงกับกูลงจากเวทีได้แล้ว ปล่อยให้พี่ดำเขาฉายเดี่ยวไปครับ มาเร็วที่รัก อ่ะจงอินเวทีเป็นของคุณแล้วครับ บัยส์! ” แบคฮยอนแกล้งพูดแซวจงอินก่อนจะเดินอ้อมไปจูงมือชานยอลให้ลุกขึ้นมาจากกลอง เสียงเรียกของแบคฮยอนที่เรียกชานยอลว่าที่รักมันทำให้แฟนๆที่จิ้นชานยอลแบคฮยอนต้องกรี๊ดกันสลบ แต่คนที่ฟินหนักก็คงไม่พ้นร่างสูงที่ปล่อยให้แบคฮยอนจูงมือลงจากเวทีนั่นแหละ ยิ้มจนหูกางไปหมดแล้วล่ะตอนนี้

     

                คยองซูที่กำลังยืนงงเพราะเข้าใจว่าคอนเสริต์มันน่าจะจบลงได้แล้วจ้องมองไปที่ร่างที่อยู่บนเวทีกับกีต้าร์โปร่งตัวหนึ่งที่สะพายอยู่บนบ่า           

                ทำไมคยองซูไม่รู้มาก่อนว่าจงอินจะร้องต่อ

                จงอินไม่เห็นเคยซ้อมเลยนี่หน่า

     

                “ ขอบคุณสำหรับเวทีนะครับแบคฮยอน อ่า ทุกคนเคยมีความรักกันไหมครับ ” จงอินมองมาที่คยองซูครู่นึงก่อนเสียงอบอุ่นของจงอินจะเอ่ยถามคนดูอย่างเป็นธรรมชาติ เสียงตอบรับจากคนดูด้านล่างมันทำให้จงอินยิ้มขึ้นมานิดๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ที่เตรียมมา


                “ ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าความรักของเรามันจะหน้าตาเป็นแบบไหน  เขาเป็นคนยังไง ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเราเหมาะที่จะรักใครถูกไหมครับ? ”

     

                “ ถูกค่าาาาาาาาาาาาา ”

     

                “ เห็นดอกกุหลาบในมือผมไหมครับ ” จงอินหยิบเอาดอกกุหลาบสีขาวที่เจ้าตัวซ่อนเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาชูให้ทุกคนดู

     

                “ เห็นนนนนนค่าาาา ”

     

                “ ผมกำลังจะเอามันไปสารภาพรักกับคนที่ผมชอบครับ ”

     

                “ กรี๊ดดดดดดดดดดดด ”

     

                “ ผมอยากให้ทุกคนยอมรับและช่วยเป็นกำลังใจให้ผม คนที่จะได้ดอกกุหลาบดอกนี้ไปคือคนที่หัวใจของผมเลือก ”

                เสียงฮือฮาจากด้านล่างเวทีที่สงสัยและกรีดร้องกันว่าคนที่จงอินพูดถึงคือใครดังระงมไปทั่วบริเวณ คยองซูยังคงจ้องมองไปยังจงอินที่รอให้เสียงพวกนั้นเงียบลงแล้วพูดต่อ

     

                “ บางทีความรักมันก็ไม่ต้องใช้คำว่าเหมาะสม ไม่ต้องการคำว่าคู่ควร ถ้าหัวใจมันเรียกร้องอยากจะรักใครก็แค่ปล่อยให้มันรักไปดีไหมครับ? ผมอยากร้องเพลงนี้ให้คนที่จะได้ดอกกุหลาบดอกนี้ไปครับ ใครร้องได้ช่วยกันร้องด้วยนะ ”

     

                “ กรี๊ดดดดดดดดดดดด ”

     

                สิ้นเสียงเกริ่นนำเข้าเพลง เสียงกีต้าร์ก็ถูกดีดออกมาเป็นทำนองเพลง They don’t know about us ของ One Direction ผู้คนรอบๆบริเวณส่งเสียงร้องครางกันอืออึงให้กับความอบอุ่นของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ล้นเหลืออย่างจงอิน รวมทั้งคยองซูที่ยืนนิ่งราวกับถูกสะกดเมื่อเสียงทุ้มนุ่มเริ่มร้องเพลง

     

    People say we shouldn’t be together

    We’re too different to know about forever

    I say they don’t know what they talk talk talkin’ about

    (ทุกๆคนต่างมองว่าเราไม่ควรจะอยู่ด้วยกัน)

    (เราแตกต่างกันเกินไปที่จะรู้ว่าความรักที่คงอยู่ตลอดไปมันเป็นยังไง)

    (แต่ผมก็พูดกลับไปว่า พวกเขาไม่ได้รู้อะไรเลยในสิ่งที่เขากำลังพูดกัน)

     

    Cause this love is only getting stronger

    So I don’t wanna wait any longer

    I just wanna tell the world that you’re mine

    (เพราะรักครั้งนี้จะมีแต่แข็งแกร่งขึ้น)

    (แล้วผมเองก็ไม่อยากรอคอยไปนานกว่านี้แล้ว)

    (ผมแค่ต้องการบอกคนทั้งโลกว่าคุณเป็นคนของผม)


                ท่ามกลางผู้คนนับร้อยคยองซูไม่ได้คิดไปเองว่าตาของจงอินมองและหยุดลงที่เขา ยามสายตาประสานกันคล้ายกับห้วงเวลามันหยุดลง เสียงผู้คนรอบข้างกลายเป็นเพียงเสียงอากาศ คยองซูไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นนอกจากเสียงของจงอินที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีราวกับว่า ณ ตอนนี้มีเพียงเขากับจงอินเท่านั้น

     

    They don’t know about the things we do

    They don’t know about the “I love you”’s

    But I bet you if they only knew (they don’t know)

    They would just be jealous of us,

    They don’t know about the up all nights

    They don’t know I’ve waited all my life

    Just to find a love that feels this right

    Baby they don’t know about, they don’t know about us

     

    (เขาไม่ได้รู้ในสิ่งที่เราทำ)

    (คนพวกนั้นไม่รู้ถึงความรักที่ผมมีต่อคุณเลยสักนิด)

    (ผมพนันไว้เลยว่าถ้าพวกเขารู้)

    (พวกเขาก็จะอิจฉาในเราความรักของเราสองคน)

    (พวกเขาไม่รู้ว่าเราอยู่ด้วยกันตลอดทั้งคืน)

    (พวกเขาไม่รู้หรอกว่าผมได้รอคอยมาตลอด)

    (ที่จะหาความรักที่รู้สึกว่านี่แหละใช่)

    (ที่รัก พวกเขาไม่รู้อะไร เขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องของเรา)

     

                เสียงทุ้มนุ้มนั้นเปล่งเสียงร้องออกมาสะกดคนดูเอาไว้ให้อยู่กับตัวเอง แต่ในตอนนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คิมจงอินมองเห็นและต้องการอยากให้เนื้อร้องที่เขาร้องออกมาส่งไปให้ถึงหัวใจของคนฟัง ร่างเล็กคนที่กำลังส่งรอยยิ้มแสนน่ารักมาให้เขาตลอดเวลาที่สายตาสบกัน มันทำให้หัวใจของเขาเต้นถี่ขึ้นจนคล้ายจะระเบิด              

           

                ....คยองซู....

     

     

    They don’t know how special you are

    They don’t know what you’ve done to my heart

    They can say anything they want

    ‘Cause they don’t know us

    (พวกเขาไม่รู้เลยว่าคุณน่ะพิเศษอย่างไร)

    (พวกเขาไม่รู้เลยว่าหัวใจของผมสยบให้คุณถึงเพียงใด)

    (พวกเขาก็แค่พูดในสิ่งที่พวกเขาอยากจะพูด)

    (นั่นมันเพราะว่าพวกเขาไม่รู้จักเราเลย)

     

    They don’t know what we do best

    That’s between me and you our little secret

    But I wanna tell they

    I wanna tell the world that you’re mine

    (พวกเขาไม่รู้ในสิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำให้กัน)

    (มันเป็นเรื่องระหว่างผมกับคุณ ความลับเล็กๆระหว่างเรา)

    (แต่ผมอยากจะบอกพวกเขาว่าผมอยากจะบอกให้ทั้งโลกรู้ว่าคุณเป็นของผม ที่รัก)

     

                จนเพลงดำเนินมาจนจบ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดจงอินลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ของตัวเองช้าๆก่อนจะเดินลงเวทีโดยที่ไม่ลืมถอดกีต้าร์ที่สะพานบนไหล่ออกแล้วฝากชานยอลที่ยืนรออยู่ด้านข้างเวที ไม่รอให้ทุกคนสงสัยนานร่างของนายแบบหนุ่มก็มาปรากฎตัวอยู่ด้านล่างเวทีตรงหน้าร่างเล็กที่ใส่แว่นตาหนาเตอะที่มันทำให้ทุกคนต้องพากันมองภาพตรงหน้าอย่างที่อยากจะรู้ว่าจงอินจะทำอะไรต่อไป ดอกกุหลาบสีขาวถูกยื่นไปให้ร่างเล็กด้วยที่ทุกคนรอบข้างจ้องมองการกระทำของคิมจงอินตาไม่กระพริบ แล้วก็ต้องกลั้นหายใจกันไปตามๆกันเมื่อเห็นว่าไม่ใช่แค่ดอกกุหลาบที่ถูกเตรียมมาให้สำหรับเด็กเนิร์ดๆอย่างคยองซู

     

           ฟอด!

                !!!

     

                ‘ กรี๊ดดดดดดดด โอ้ยชั้นจะเป็นลม รุ่งพี่จงอินของฉันนน!! ’

                ‘ เซอร์ไพร์สว่ะ จงอินกับคยองซูเนี่ยนะ ’

                ‘ ฮื่ออออออ ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ’

     

                เสียงหวีด ร้องครางระงมไปทั่วบริเวณ จงอินฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กที่ในมือก็ถือดอกกุหลาบของเขาเอาไว้ทำตาโตค้างแล้วยืนจับแก้มที่แดงระเรื่อของตัวเองนิ่ง ตอนนี้เขาต้องการบอกให้ทุกคนรู้ว่าคนที่เขาเลือกคือใคร มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องปกป้องและทำอะไรเพื่อคยองซูบ้าง

     

                เขาต้องการบอกทุกคนว่าโดคยองซู เด็กเนิร์ดๆคนนี้แหละคือคนที่เขาเลือก

     

                พรึ่บ!

                ก่อนจงอินจะดึงให้ร่างเล็กเดินตามตัวเองออกจากบริเวณนี้ไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองคนนี้ไปไหน รวมถึงเพื่อนสนิทของจงอินเองอย่างแบคฮยอนและชานยอล

     

                “ อ้าวๆ โหไปไม่บอกกันอย่างงี้เลยครับพี่น้อง เอ่อ อย่าอึ้งกันสิครับ ปล่อยจงอินมันไปครับ มามา มาอยู่กับชานยอลและแบคฮยอนสุดหล่อต่อดีกว่า ”

     

                “ หล่อแบบนี้จีบได้ไหมค้าาาา~ ” เสียงของหญิงสาวที่ทำให้ทุกคนในที่นี่ส่งเสียงหัวเราะและกลับมากรี๊ดกันเหมือนเดิม

     

                “ โห ตะโกนมาแบบนี้ก็เขินแย่เลย หวั่นไหวเลยนะเนี่ยย ”

     

                “ แล้วว่าไงค้าา จีบได้มั้ยยยยยย ”

     

                “ จีบได้ครับ ”

     

                “ … ” แบคฮยอนเหลือบไปมองมือกลองข้างๆตัวก่อนจะหันกลับมายิ้มสดใสให้คนดูหน้าเวที ก่อนจะตัดสินใจกอดคอร่างสูงที่ยืนทำหน้าเครียดเพราะได้ยินคำตอบของเขาเมื่อกี้นี้ก่อนจะพูดประโยคถัดไปที่ทำให้เสียงร้องกรี๊ดของบรรดาแฟนคลับดังขึ้นจนโรงเรียนแทบแตก

     

                “ แต่ถ้าจะจีบผม ต้องขอคนนี้ก่อนนะครับว่าเขาจะให้หรือเปล่า ให้มั้ยครับคุณ ”


                “ กรี๊ดดดดดดดดด~!! ชานแบคค!! น่ารัก!!! 

     

                “ ว่าไงครับ ให้หรือไม่ให้ ” แบคฮยอนเลิกคิ้วกวนๆส่งไปให้แฟนตัวสูงที่ตอนนี้เริ่มเผยรอยยิ้มขึ้นมาบ้างแล้ว

     

                “ ไม่ให้ครับ…แฟนใครใครก็หวง ”

     

                “ กรี๊ดดดดดดดดดดดด!! ”

     

     

                “ ได้ยินแล้วนะ งั้นตามนั้นแล้วกันครับ! บยอนแบคฮยอนขอปิดรับสมัครคนรู้ใจชั่วคราวครับผม ”

     



     

     

     

     


                จงอินเดินจูงมือคยองซูและพามาหยุดอยู่ที่ก๊อกน้ำตรงข้างๆสนามโรงเรียน ตรงนี้ไม่ค่อยมีคนใช้เพราะมันอยู่ใกล้เกินกว่าจะเดินมา สถานที่แห่งนี้มันเป็นที่ๆจงอินตั้งใจจะพาคยองซูมา มันเป็นที่ๆเขาไม่มีวันลืมและเหมาะที่สุด

     

                “ จ..จงอิน ทำไมจงอินถึงพาเรามาที่นี่ล่ะ ” คยองซูดันแว่นขึ้นชิดสันจมูกแล้วเอ่ยถามจงอินอย่างสงสัย คยองซูงงไปหมดแล้วว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อกี้จงอินร้องเพลงให้เขาแถมยังหอมแก้มเขาต่อหน้าทุกคนแล้วก็พาเขามาที่นี่อีกต่างหาก ฮื่อออ คยองซูตามจงอินไม่ทันแล้วจริงๆ รู้สึกเหมือนหัวใจของตัวเองทำงานหนักมากจนกลัวว่าอีกนิดหนึ่งมันจะหยุดเต้นถ้าจงอินทำอะไรแบบนั้นอีกแม้แต่นิดเดียว

     

                “ จำได้ไหมว่าเราคุยกันครั้งแรกที่นี่ ” คนตัวเล็กพยักหน้าตอบเป็นเชิงว่าเขาจำได้


                ความทรงจำในหัวฉายภาพความทรงจำของเขาที่ทั้งตัวและหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำแดง จงอินเป็นคนเดียวที่ไม่คิดจะหัวเราะเยาะเขาเหมือนอย่างที่คนอื่นทำแต่กลับออกตัวปกป้องคนธรรมดาๆไม่มีอะไรอย่างเขา แถมตอนนั้นเขายังรบกวนให้จงอินเช็ดแว่นให้ตัวเองอีกต่างหากและนั่นแหละมันครั้งแรกที่เขากับจงอินได้พูดคุยกัน


                “ อีกอย่าง…ที่มึงอาจจะไม่เคยรู้ ”

     

                “…”

     

             “ ที่นี่…มันก็เป็นที่ๆคิมจงอินคนนี้ตกหลุมรักคนที่ชื่อโดคยองซูครั้งแรก ”

                !!!

     

                 “ … ”

     

                “ เป็นที่ๆกูหลงรักตาโตๆคู่นี้ ”

     

                “ หลงรักรอยยิ้มใสซื่อแบบนี้ ”

     

                “ หลงรักทุกอย่างที่เป็นโดคยองซู ”

     

                มือใหญ่ที่กุมมือเล็กของคยองซูเอาไว้ยกขึ้นสัมผัสไปตรงบริเวณที่ร่างสูงพูดถึง ลูบเบาๆที่โหนกแก้มข้างใต้ดวงตาเลื่อนมายังริมฝีปากรูปหัวใจ คำพูดที่ทำให้คยองซูพูดไม่ออก ความรู้สึกตอนนี้เหมือนว่าหัวใจของเขามันเต้นถี่เสียจนน่ากลัว นัยน์ตาของจงอินเต็มไปด้วยความรู้สึก จ้องมองผ่านเข้าไปก็เห็นว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในนั้น จงอินไม่ได้โกหก สิ่งที่จงอินพูดคยองซูสัมผัสมันได้จากความรู้สึกของเขาเอง ตลอดเวลาความรักความห่วงใยที่จงอินมีให้คยองซูสัมผัสมันได้ทั้งหมดสิ่งที่เห็นมันทำให้รู้ว่าจงอินรักที่ตัวเขาเป็นเขาจริงๆ และมันก็เหมือนกับความรู้สึกของเขาที่ตอนนี้หัวใจของเขาก็ต้องการจงอินหมดทั้งหัวใจเช่นกัน

     


                “ มิ คบกับจงอินนะ เป็นแฟนกันนะครับ ”

     

                น้ำเสียงอบอุ่นที่เอ่ยมามันทำให้ใจของคยองซูเต้นถี่และรัวยิ่งกว่าเดิม ดวงตาคมที่สบประสานกันมีแววจริงจังและอ่อนโยนอยู่ในนั้นจนคยองซูต้องเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น ปล่อยให้ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบและการรอคอยคำตอบของร่างสูง

     

                “ เราข..ขอโทรศัพท์จงอินหน่อย ” และเสียงของคยองซูที่พูดออกมาแผ่วเบานั่นทำให้จงอินต้องหยิบโทรศัพท์ให้ตามคำขออย่างว่าง่าย ก่อนจะมองตามอย่างสงสัยเมื่อคยองซูหยิบเอาสิ่งเดียวกันออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นมันมาให้จงอินถือเอาไว้ โทรศัพท์ของคยองซูอยู่ในมือของจงอินอย่างงงๆแต่ก็ไม่ได้คิดจะพูดอะไรออกไป เขาเลือกที่จะเงียบรอดูต่อไปว่าอีกคนจะทำอะไร

     

                Rrrr RrrrR

     

                ไม่นานนักแรงสั่นพร้อมกับเสียงเพลงเรียกเข้าจากสิ่งที่อยู่ในมือทำให้จงอินต้องเหลือบลงไปมองที่หน้าจอ สาบานได้เขาไม่เคยใจเต้นแรงขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต บางสิ่งบางอย่างในตัวกำลังตีกันวุ่นวายราวกับตอนนี้จงอินกำลังยืนอยู่ในทุ่งดอกไม้สีสันสวยงามหลายสีหลายกลิ่นตีกันไปหมด มันเพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะชื่อที่ถูกเมมไว้ที่มันกำลังโชว์อยู่ตรงหน้ามันทำให้เขาแทบบ้า

     

     

                !!!

     

     

     

     

     

    종인 (남자친구)

    ‘ จงอิน (นัมจาชินกู)’

     

     

                งั้นก็แสดงว่า…

     

    รอยยิ้มสดใสที่ใครๆอาจมองว่ามันเฉิ่มเชยแต่กลับทำให้จงอินตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นส่งยิ้มมาให้เขาพร้อมคำตอบที่จงอินไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะทำให้เขาดีใจจนเนื้อเต้นหัวใจพองโตไปหมดแบบนี้

     

     

                “ เราเป็นตั้งแต่ก่อนจงอินจะขออีก…ก็คนมันชอบนี่หน่า ”

     

     





     

    - The End -

     








    แฮปปี้เอนดิ้ง!
    มาลงให้จนจบแล้วนะคะทุกคนนนนน
    อยากให้มีภาคสองกันมั้ย ขอเสียงหน่อยยย
    อยากทำเหมือนกันแต่โอกาสน้อยมากๆเลย แหะๆ

    ไม่รู้ใครจะชอบเหมือนที่เราชอบมั้ย แต่เราชอบตอนที่จงอินร้องเพลงให้มิ
    ฮื่อออ เขินจุง

    เอาเป็นว่า ขอบคุณทุกๆคนเลยนะคะที่เดินข้างๆกันจนมาถึงตอนจบ
    ขอบคุณจริงๆ ทั้งคนที่เม้นหรือคนที่เป็นนักอ่านเงา
    มิชขอบคุณมากจริงๆค่ะ ไม่รู้มีคำไหนที่สื่อได้มากกว่าคำว่าขอบคุณอีกมั้ย

    ถึงเรื่องนี้จะจบแล้วแต่เราก็หวังว่าน้องมิและจงอินอยู่ในความทรงจำ
    ซอกเล็กๆในหัวใจของทุกคนนะคะ ไม่มากก็น้อย

    สำหรับรูปเล่ม เราได้ทำการจัดส่งให้ครบหมดทุกคนแล้วนะคะ
    มีหลายคนเลยที่จองไม่ทันและรอรอบสอง

    ถ้าอยากได้กันจริงๆ หลังคอนเอ็กโซเราจะสำรวจให้นะคะ
    แต่ขอบอกก่อนว่าถ้าน้อยเราขอไม่เปิดรีปริ๊นเน้อะะ

    รักทุกคนจริงๆค่ะ
    ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แฮ่~
     อย่าลืมกันก็พอออ จุ๊บบบ

    มิช








     


      Chess theme  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×