คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : บทที่ 24 มิเอล?
บ้านพักของพวกเอส...
หลังจากที่เอสพาทุกคนมาที่บ้านเพื่อคุยกันโดยมีเบียคุรันนัวเนียอยู่จนโดนพวกคนอื่นๆอิจฉาจนโดนถีบแยกจึงเสียเวลานานกว่าปกติ
ปัง!!
“กลับมาแล้ว!!”
เอสเปิดประตูเสียงดังลั่นเมื่อเข้ามาถึง
“ไง
กลับมาแล้วเหรอ
แล้วนั่นพาใครมาด้วยล่ะเอส?”
มารินถามพร้อมจิบกาแฟดำฝีมือเรนี่โดยไม่หันมามองจึงไม่รู้ว่าใครมาด้วย
“สามีเธอไง...”
พรู่ดดด!!
เอสพูดออกมาด้วยเสียงนิ่งๆแต่อีกคนพ่นกาแฟออกมาทางปากด้วยความตกใจก่อนจะหันมามองทางเอสอย่างตกใจ
“สควอโล่มางั้นเหรอ!!”
“เออสิโว้ยย!!!
จะให้รอจนกว่าเธอจะปิดเทอมไม่ไหวหรอก!!”
มาถึงก็โวยใส่ทันที
“อ้าว? วันนี้มีแขกมาเพิ่มเยอะเลยนี่คะ
มีพวกท่านซันซัสมาเพิ่มอีกก็คงต้องทำเยอะด้วยแน่ๆเลย”
เรนี่ที่ได้ยินเสียงเอะอะในห้องนั่งเล่นจึงเดินออกมาดูนอกครัว
“ใครมางั้นเหรอเรนี่? อ้าว? พวกคุณมุคุโร่มาถึงแล้วหรอกเหรอคะ
งั้นเรารีบทำอาหารเย็นกันเถอะเรนี่”
“ท่านซันซัสกับทุกท่านไปนั่งตรงนั้นก่อนนะคะเดี๋ยวรอซักครู่อาหารก็จะเสร็จแล้วละคะ”
เรนี่พูดแล้วชี้ไปทางโต๊ะอาหารที่ใหญ่กว่าสำหรับกินกันแค่4คน
มองดูแล้วน่าจะใช้กินได้เกือบ20คนเพราะเมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นห้องประชุมมาก่อนจึงมีโต๊ะใหญ่อยู่(เอาออกไม่ได้เพราะมันใหญ่เกินแถมฝังอยู่กับพื้นอีกต่างหาก)
“รอซักแปบนะคะคุณมุคุโร่ อ๊ะ แล้วก็จะมีคนมาที่นี่อีกยังไงก็อย่ารุนแรงกันนักนะ”
ยูริพูดแล้ววิ่งเข้าไปช่วยเรนี่ทำอาหารต่อ
“ใครจะมางั้นเหรอครับมารินซัง?”
สึนะถามคนที่คุยรู้เรื่องที่สุดตอนนี้
“ความลับคะ
อีกอย่างทุกคนน่าจะเคยเจอกันมาแล้วด้วย”
ติ่งต่อง~!
มารินพูดออกมาแบบนั้นก่อนจะมีเสียงกดกริ๊งที่หน้าประตู
“น่าจะมาถึงกันแล้วล่ะ รอซักครู่นะคะบอส”
มารินเดินไปเปิดประตูก่อนที่จะปรากฏร่างของใครอีกคนที่ทุกๆคนรู้จักกันดี
ตุบ...
“เฮ้อ ~ เล่นใช้งานกันหนักเลยนะเรนี่...”
เสียงหวานของหญิงสาวร่างผอมสมส่วนกำลังพอดีดังขึ้นจากหน้าประตูพร้อมๆกับเสียงวางของจำนวนมหาศาล ร่างนั้นมีเส้นผมสีทองตัดสั้นประบ่า ดวงตาสีท้องฟ้าอันสดใส
“มิอุ!?”ทุกคนต่างตะโกนออกมาอย่างตกตะลึงเป็นเสียงเดียวกันเมื่อพบว่าใครเป็นคนที่เหล่าผู้หญิงพูดถึงกัน
“ว-วองโกเล่!? วาเรียก็มาด้วย!?! อธิบายมาซะดีๆเลยพวกตัวแสบ!!!”
แน่นอนว่าเด็กสาวที่ถูกเรียกว่ามิอุต้องอุทานออกมาอย่างตกตะลึงก่อนจะทิ้งของที่เอามาไว้หน้าประตูแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปจับไหล่เขย่าตัวของมารินด้วยสีหน้าที่กักเก็บความไม่พอใจไว้ พวกผู้ชายที่เห็นแบบนั้นต่างก็ได้แต่งุนงงและไม่เข้าใจกัน
และแน่นอนว่าพอพวกผู้หญิงมาเห็นฉากนี้กันก็ต้องรีบจับแยกคนคู่นี้ทันที
“เอ้า…
ไหนอธิบายมาซิ?”มิอุนั่งบนเก้าอี้มองหน้าเพื่อนสาวอย่างเอาเรื่อง
เธอไม่ได้ปรายสายตามองผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียวด้วยซ้ำ
“อะ-เออ... ค-คือว่า...”
“เล่ามาเดี๋ยวนี้....”มิอุสั่งเสียงเย็นเมื่อเห็นว่าแต่ละคนทำท่าทางอึกๆอักๆกันอยู่ได้จนน่ารำคาญ
โฮฮฮฮ! หนูจะไม่ทำให้มิเอลโกรธแล้ว!! นี่คือเสียงกรีดร้องในใจของแต่ละคน
เพราะในตอนนี้สายตาของมิอุหรือว่ามิเอลมันช่างน่าหวาดกลัวเหลือเกิน ถึงแม้จะไม่เท่ายูกิตอนโกรธแต่ก็น่ากลัววอยู่ดี!
“ยูริเล่าเองก็ได้คะ! มันเป็นแผนกระชับมิตรและสร้างความคุ้นเคยก่อนจะรวมโรงเรียนกันระหว่างโรงเรียนเรากับของโรงเรียนโนอาห์หน่ะ โดยมีการแข่งขันกระชับมิตรและแลกเปลี่ยนระหว่างโรงเรียนวาโกเนลที่ยูกิเป็นผู้อำนวยการ แต่ความจริงแล้วมันเป็นแผนแก้แค้นของยูกิหน่ะคะ
โดยตอนแรกจะส่งผู้ชายมาในโรงเรียนหญิงและผู้หญิงในโรงเรียนชายเพื่อแสร้งทำความคุ้นเคยกัน แล้วก็เพื่อความปลอดภัยและความยุติธรรมของนักเรียนที่เป็นแค่คนธรรมดาเลยต้องส่งครูมาฝึกไว้ก่อน...”
ยูริเป็นเพียงคนเดียวที่กล้าเล่าในสภาพพกดดันอึดอัดพวกนี้ เพราะฝึกตัวต่อตัวกับพวกที่มีสายตากดดันยิ่งกว่านี้อีกมาไม่รู้เท่าไหร่และยังผ่านสายตาพวกนั้นมานานจึงทำให้กล้าพูดได้เต็มปากว่าคนที่มีความกล้าและความสามารถในการต่อต้านความกดดันของพวกเก่งๆได้ก็มียูริเนี่ยแหล่ะที่เก่งกว่าคนอื่นๆ(แน่นอนว่าแค่พวกเอส
เรนี่ มารินและเดลเท่านั้น)
หงึกๆ
“เข้าใจล่ะ”มิเอลพยักหน้าและบอกกับทุกคนก่อนจะเก็บความกดดันพวกนั้นลงถัง
“ดูเหมือนชั้นจะห่างหายจากโลกมืดไปนานพอดู
ยูกิเลยไม่บอกเรื่องแผนการทั้งๆที่รู้ว่าชั้นต้องเข้าร่วมแน่ๆเลยงั้นสิ?”
“ยูกิบอกไว้ว่าอยากเซอร์ไพรส์มิเอลหน่ะ แล้วก็ขี้เกียจทนดูคนปากแข็งนั่งซึมกระทือเลยไม่ให้บอก”ครั้งนี้เอสเป็นคนตอบบ้าง
“เหรอ... ยังชั้นก็เอาของที่ฝากซื้อมาแล้วก็ขอตัวกลับเลยแล้วกันนะ”มิเอลลุกขึ้นเดินโดยไม่ฟังคำทัดท้วงอะไรจากเหล่าเพื่อนสาว
หมับ!
“เอามือออกไปเดี๋ยวนี้...”มิเอลมองมือหนาของใครซักคนที่จับเธอไว้ก่อนที่จะเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาที่หนาวจัดไม่แพ้คุโรยูกิที่เป็นเพื่อนสาวเวลาพูดกับพวกศัตรูหรือเวลาพูดถงพวกไลลา
“หายหน้าไปหลายปี...คิดว่าชั้นจะปล่อยให้เธอรอดไปรึยังไง?”
เสียงทุ้มต่ำกระซิบเข้าไปที่หูของคนที่เตี้ยกว่าอย่างมิเอล
มันฟังดูจั๊กจี้และทำให้ใจของมิเอลสั่นได้อย่างบอกไม่ถูก
จากตอนแรกที่เขาจับแขนของมิเอลไว้ก็กลายมาเป็นว่าเขากำลังกอดเธออยู่ซะงั้น?
“ยัยเจ้าหญิง...”
งับ...
เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบเบาๆที่ข้างหูของหญิงสาวก่อนที่หลังจากนั้นมิเอลจะถูกงับหูเข้า สัมผัสอุ่นร้อนจากปาดที่งับหูของเธออยู่ทำให้มิเอลหูเริ่มที่จะแดงขึ้นก่อนที่มันจะลามไปถึงใบหน้า
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มิเอเล่ พลอบโพลิสหรืออดีตเจ้าหญิงมิเอเล่แห่งอาณาจักรพลอบโพลิสหน้าแดงขนาดนี้
หากไม่ใช่ชายคนนี้ที่กำลังกอดเธออยู่เธอออกจะยินดีด้วยซ้ำที่ได้พบรักครั้งใหม่แต่ว่านี่มันไม่ใช่...
เพียะ!
“ไป-ตาย-ซะ-เจ้า-บ้า!!”
เธอตะโกนออกมาด้วยใบหน้าอันแดงก่ำหลังจากตบหน้าเจ้าหมอนั่นไปหนึ่งที แน่นอนว่าหลังจากนั้นเธอรีบวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิตเลยทีเดียว
หลังจากหยุดวิ่งถึงได้รู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้อยู่....
_____________________________________________________________________________________________________
ต้องขอโทษรีดทุกๆท่านจริงๆเลยนะคะ! ไรต์สมองตันไม่มีพล็อตอะไรเหลือเลย(แถมช่วงนี้ยังติดอนิเมะเรื่องใหม่อีก)
แต่ที่รู้ๆคือไรต์ไม่สามารถคิดฉากทำร้ายไลลาแบบสะใจไม่ได้เลย! แบบว่าพออ่านหนังสือแล้วมันอดสงสารไม่ได้ แถมท้ายตอนยังไล่ยูกิกับคนอื่นๆไปให้บทกับมิเอลไปซะ...
ไรต์ต้องขอโทษทุกๆคนจริงๆนะคะ แต่ถ้าใครพอจะช่วยออกความเห็นเรื่องของฉากที่ทำให้ไลลาหน้าแตกหรือล้างแค้นได้ก็ช่วยเขียนมาด้วย
ไรต์คิดว่ากว่าจะอัพอีกทีก็อีกซักพัก แถมช่วงนี้ยังติดfateอีก(ติดกิลกาเมซสุดๆเลยขอบอก) ถึงขนาดแต่งเรื่องนั้นแบบพยายามสนองตัณหาของตัวเองสุดๆ ไม่อิงเนื้อหาในเรื่องเอามาแต่ตัวละครล้วนๆ!
สุดท้ายก็ขอความกรุณาช่วยกันคิดฉากกลั่นแกล้งไลลากันทีนะคะ!!
นี่คืออิมเมจมิเอเล่ที่คิดไว้(แน่นอนว่านิสัยดูคนละเรื่อง)
ความคิดเห็น