ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic KHR X Laflora] revenge of the sun

    ลำดับตอนที่ #43 : บทที่ 34 โรงเรียนมาเฟีย(ครบแล้ว)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.14K
      87
      2 ธ.ค. 60

    มาเติมเพิ่มอีกนิดให้ครบบทคะ!

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ขอโทษด้วยนะทุกคน! ตอนนี้ไรท์ลงได้แค่ตอนพิเศษเท่านั้น แต่บทที่34กำลังปั่นอยู่ อาจจะอัพสัปดาห์หน้าแทน
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    มาอัพแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    โรงเรียนวองโกเล่เดิมทีก็คือโรงเรียนของเหล่าเด็กๆที่เป็นลูกหลานของมาเฟียแฟมิลี่ต่างๆหรือพวกคนที่เกี่ยวข้องกับโลกเบื้องหลัง  แม้จะมีการเรียนการสอนทั่วไปแต่ก็มีสิ่งก่อสร้างหลากหลายที่สร้างขึ้นเพื่อการฝึกต่อสู้และการสอนเรื่องต่างๆในวงการ  


    มักมีการทาบทามให้นักเรียนที่มีความสามารถไปเข้าสังกัดต่างๆอยู่บ่อยครั้ง  เพราะถึงแม้ว่าเด็กพวกนั้นจะเป็นลูกหลานจากแฟมิลี่ต่างๆแต่ก็ยังไม่ใช่คนของแฟมิลี่  พวกเด็กๆเหล่านั้นมีสิทธิที่จะเลือกเข้าแฟมิลี่ที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง


    ด้วยความที่โรงเรียนมาเฟียถูกคุโรยูกิที่เป็นคนของวองโกเล่ยึดไป  ซึ่งเอาจริงๆเดิมทีวองโกเล่ก็เป็นหุ้นส่วนกับโรงเรียนนี้มาตั้งครึ่งหนึ่งอยู่แล้ว  พอคนเก่าออกคุโรยูกิเลยถูกวางตำแหน่งผอ.รอคนใหม่ในอีกหลายปีข้างหน้าเฉยๆ  ตอนแรกๆก็ไม่ได้มีชื่อว่าวองโกเล่หรอกนะ  แต่เพราะมียูกิที่เป็นคนของวองโกเล่แล้วยังโด่งดังสุดๆ  ไปๆมาๆก็เลยถูกเรียกว่าโรงเรียนวองโกเล่เท่านั้นเอง


    “สุดยอด...”

    พวกที่พึ่งได้มาโรงเรียนวองโกเล่เป็นครั้งแรกอย่างพวกกียุลกับพวกนาซิสซ่ามองโรงเรียนที่มาถึงด้วยความทึ่งและตกตะลึง  ต่างคนต่างก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีโรงเรียนที่สุดยอดแบบนี้นอกจากที่ลาฟลอร่าจนหลุดปากพูดออกมากันอย่างเหม่อลอย


    โรงเรียนมาเฟียตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาสูงชันที่ขึ้นมาได้ยาก  อาคารส่วนใหญ่ที่ใช้สำหรับฝึกจะอยู่บนภูเขาทั้งหมดส่วนอาคารที่ใช้เรียนจะอยู่ด้านหน้า  มีร้านค้ามากมายที่เปิดอยู่ในโรงเรียนก็จริงแต่ว่าเลยเขตอาคารเรียนเข้าไปบนภูเขาจะมีร้ายค้าเพียงเล็กน้อยเนื่องจากเป็นจุดที่อันตรายและขนส่งของลำบากสำหรับชาวบ้านทั่วๆไป


    จริงอยู่ที่มีกระเช้าขนส่งไปยังอาคารจุดต่างๆแต่มันมีไว้ใช้แค่ขนส่งคนเท่านั้น  แม้จะมีถนนให้ขับรถขึ้นไปได้แต่การทำแบบนั้นจำเป็นต้องมีบัตรผ่านจึงจะขับขึ้นไปได้  รอบๆภูเขาถูกใช้มายาบดบังไม่ให้มีใครเห็นว่าด้านบนมีอะไรอยู่บ้างจึงไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องจะเป็นที่สนใจ


    “หอนี้จะเป็นที่พักของทุกคนนะจ๊ะ  ถ้ามีเรื่องอะไรสงสัยก็โทรถามได้เลย”

    เคียวโกะที่รับหน้าที่เป็นคนดูแลนักเรียนแลกเปลี่ยนแทนคุโรยูกิที่ยังไม่มาพูดกับพวกนาซิสซ่าก่อนจะส่งกระดาษที่เขียนเบอร์โทรศัพท์ยื่นให้โรซารี่ที่ดูเป็นคนน่าเชื่อถือมากที่สุดในกลุ่มพร้อมรอยยิ้ม  ว่ากันแล้วเคียวโกะก็ไม่ได้เป็นห่วงอะไรพวกนักเรียนแลกเปลี่ยนเท่าไหร่  ก็ในกลุ่มมีแต่พวกมาริโอน่าที่ดังๆกันทั้งนั้นเลยนี่เนอะ  ถึงจะไม่เคยเห็นหน้าแต่แค่ชื่อก็น่าจะรู้ว่าพวกนั้นเป็นใครกันอยู่แล้ว  


    แต่ที่เคียวโกะห่วงก็คือพวกนาซิสซ่ากับพวกกียุล  และเธอก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เดินถเลถไหลไม่เข้าท่าจนเจอพวกนักเรียนกันหรอกนะ....  ถึงเด็กพวกนั้นจะไม่ได้แข็งแกร่งหรือเลวร้ายอะไรมากแต่ถ้าให้พวกกียุลตอนนี้สู้ดูก็คงจะเป็นปัญหาใหญ่เพราะความต่างของพลัง


    เคียวโกะพอจะรู้อยู่ว่าทำไมยูกิถึงพาทุกๆคนมาที่โรงเรียนด้วยข้ออ้างอย่างการแลกเปลี่ยน  การให้คนนอกที่ไม่รู้อะไรเข้ามาอยู่ในสังคมมาเฟียหน่ะมันอันตราย  แต่กับคนที่ในอนาคตจะต้องก้าวขาเข้ามาอยู่ที่นี่ครึ่งตัวมันก็อันตรายไม่แพ้กัน  พวกที่ยูกิพามาแลกเปลี่ยนต่างก็มีครอบครัวอาศัยอยู่กึ่งกลางระหว่างแสงกับความมืดอยู่แล้ว  ในอนาคตก็ต้องถูกพาเข้ามา  สู้ให้รู้ว่าอีกโลกที่ต้องเข้ามาเหยียบมันอันตรายขนาดไหนตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยดีกว่า...


    “สมกับเป็นยูกิจัง  ขนาดตั้งใจมาแกล้งถึงลาฟลอร่ายังเตรียมพันธมิตรในอนาคตให้อีก”

    ถ้าไม่นับไลลาที่ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับโลกเบื้องหลังแล้ว  ไม่ว่าจะใครต่างก็มีครอบครัวที่มีความสำคัญในระดับนึงเลย  แต่คนที่โดดเด่นที่สุดก็คงจะเป็นลิเลีย...  เคียวโกะอ่านข้อมูลของพวกราชาทั้งห้าและพวกนาซิสซ่าที่ยูกิหามาทั้งหมดแล้วถึงได้คิดแบบนั้น


    ธุรกิจการค้าอาวุธของบ้านลิเลียคือครอสเซเรียที่โด่งดังในวงการมาเฟียไม่ใช่น้อยๆ  ทั้งมีนักวิทยาศาสตร์ที่สามารถสร้างอาวุธกล่องได้อีก  เรื่องภายในแม้แต่วองโกเล่ก็ยังสืบไม่ได้ว่าอีกฝ่ายมีอิโนเชนทีหรือเคนิตฮ์เป็นพวก  แต่เทคโนโลยีต่างๆถูกประจักษ์ว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับวองโกเล่และมิลฟิโอเล่


    เป็นคนสำคัญในวงการธุรกิจของมาเฟียไม่ใช่น้อยๆ...


    เคียวโกะคือเพื่อนสนิทคนแรกของคุโรยูกิ  ตั้งแต่ที่ยูกิเปลี่ยนไปใช้ชื่อคุโรยูกิก็มีเพื่อนอยู่ไม่มากเท่านั้น  เพราะเธอไม่อยากจะเจ็บอีก  จึงเว้นคนที่ยุ่งเกี่ยวขึ้นว่าเป็นแค่คนรู้จักเท่านั้น  ดีโน่และสควอโล่คือเพื่อนกลุ่มแรกแต่ไม่ใช่เพื่อนสนิทแบบเคียวโกะ


    สำหรับยูกิแล้วเคียวโกะคือเพื่อนสนิทคนพิเศษ  เป็นคนที่ยูกิสาบานว่าจะปกป้อง  เพราะแบบนั้นเคียวโกะถึงได้รู้หลายๆอย่างมากกว่าคนอื่น  ไม่ใช่ในฐานะบอสของDark moon...แต่เป็นในฐานะเพื่อนสนิทคนสำคัญ


    “จะว่าไป  พวกเราต้องไปเตรียมทดสอบเลือกห้องแล้วก็ระดับให้พวกโรซารี่จังด้วยสิเนี่ย...”

    เคียวโกะคิดพลางถอนหายใจออกมาหลังจากคิดเรื่องต่อจากนี้  ถึงพวกเราจะปราณีให้ในตอนอยู่ลาฟลอร่าก็เถอะ  แต่การทดสอบวัดระดับก็คงต้องดูความสามารถของพวกนั้นกันเองเท่านั้น  ถึงจะฝึกกันมาบ้างแล้วครึ่งปีแต่ก็ต้องวัดดวงกันว่าจะไปอยู่ห้องไหนกันบ้างสินะ


    สำหรับยูกิแล้วคงไม่ได้คิดอะไรมากถ้าพวกโรซารี่ไปอยู่ในกลุ่มระดับกลางๆ  ออกจะวางใจด้วยซ้ำล่ะมั้ง?  เพราะยังไงซะ...ถ้าอยู่ระดับนั้นก็น่าจะมีพวกที่ไม่ได้ร้ายกาจหรืออันตรายเท่าพวกระดับสูงๆหรือว่าต่ำ  เป็นพวกที่ไม่ค่อยน่ายุ่งเกี่ยวซะเท่าไหร่


    “หวังว่าจะไม่มีใครหลุดไปอยู่ระดับพวกนั้นแล้วกัน”

    จู่ๆเคียวโกะก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับพวกนักเรียนแลกเปลี่ยนขึ้นมา  นอกจากพวกมาริโอน่าแล้วก็ยูริที่ถูกส่งไปที่ระดับสูงแน่นอนก็ยังมีอีกสิบคนที่น่ากังวล  นาซิสซ่า  เหมยฮัว  โรซารี่ไม่น่ากังวลเท่าลิเลียกับไลลา  เพราะความสามารถพิเศษที่โดดเด่น


    ถึงจะไม่ได้ชอบอะไรไลลากับลิเลียมากนักแต่เคียวโกะก็ไม่ได้อยากให้มีคนมาตาย  ลิเลียดูไม่น่าเป็นห่วงเท่าไลลาเท่าไหร่เพราะดูเรียบร้อยแต่ไลลามีแววว่าจะไปยั่วโมโหใครเข้าแล้วอาจบาดเจ็บหนักหรือเลวร้ายสุดก็ถูกฆ่า สองคนนั้นไม่ได้เข้าฝึกด้วย แถมยังไมมีความสามารถด้านไหนเป็นพิเศษ  เคียวโกะเลยมั่นใจว่าน่าจะลงไปกลุ่มระดับต่ำๆ







    “ทดสอบเลือกห้อง?”

    เหล่าคนธรรมดา(?)หรือพวกนักเรียนแลกเปลี่ยน(เว้นพวกมาเฟียและนักฆ่าทั้งหลายอย่างพวกยูริ)ทวนคำที่พึ่งได้ยินจากปากของยูกิที่มาหาในตอนเช้าตรู่ในวันต่อมาหลังจากที่มาถึงโรงเรียนวองโกเล่


    ถึงพวกเขาจะตื่นเต้นกับห้องหรูที่เหมือนกับโรงแรมแล้วก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะสังหรณ์ใจไม่ดียังไงก็เถอะนะ...  แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกบังคับให้ตื่นขึ้นมาทั้งๆที่พึ่งจะตีห้าครึ่ง! แถมยังถูกบังคับให้ไปอาบน้ำแต่งตัวเป็นชุดนักเรียน(ที่ถูกโยนให้โดยยูกิ) และมีเวลาจำกัดคือหกโมงเช้า!


    ช่างเป็นการตื่นเช้าที่ชวนให้ตื่นเต้นกันจริงๆ...


    “ปกติแล้วคนที่มาบอกควรจะเป็นอาจารย์ไม่ใช่เหรอขอรับ?  ผู้อำนวยการของที่นี่ทำไมถึงให้นักเรียนมาทำงานแบบนี้ตั้งแต่เช้ากัน?”ฮอรัสเอ่ยถามออกไปหลังจากที่ถูกพาขึ้นรถ(ที่แทบจะถูกโยนขึ้นมากกว่าถ้าเกิดชักช้า)ร่วมกับทุกคน


    พวกมาริโอน่าและยูริเริ่มเหงื่อตกกับคำถามของฮอรัสแล้วแอบเหลือบไปมองยูกิที่ยังดูอารมณ์เหมือนปกติแล้วถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหลังไม่พบว่ามีอารมณ์หงุดหงิดอะไรกับคำถามของฮอรัส  ดูเหมือนการกลับมาได้เจอลูกเนี่ยจะทำให้ยูกิหงุดหงิดง่ายสินะ


    ใครๆที่รู้จักยูกิต่างก็รู้กันดีว่าเจ้าตัวรักและโอ๋ลูกฝาแฝดสองคนมากเพียงไร  ยิ่งต้องจากมานานถึงขั้นไม่ได้เจอกันครึ่งปียิ่งทำให้เจ้าตัวหงุดหงิดและพร้อมจะฆ่ากับทำร้าย(ปางตาย)คนที่มาระรานได้ทันทีเลยด้วยซ้ำ  แต่ยังดีที่ยูกิควบคุมอารมณ์ได้เลยไม่ไปเผลอทำอะไรใครเข้า


    แต่ตอนไลลาที่ถูกเตะกระเด็นไม่นับนะ  เพราะตอนนั้นมันก็สมควรแล้วจริงๆ


    “อ๋อ... ชั้นจะไม่ได้บอกเลยสินะ”

    หลังจากนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเรื่องสำคัญกับพวกที่พึ่งจะเคยเข้ามาในโลกมืดเป็นครั้งแรกแบบพวกนาซิสซ่า  ยูกิเลยยกมือขึ้นมาลูบหัวปอยๆเพราะพึ่งนึกเรื่องนี้ขึ้นได้หลังจากที่ถูกถาม  เอาตามจริงก็ไม่ได้คิดจะปกปิดหรืออะไรหรอกนะ  แต่จะให้พวกนักเรียนธรรมดาๆมารู้เรื่องของโลกเบื้องหลังมันก็คงไม่ดี...


    “ผู้อำนวยการของโรงเรียนหน่ะคือชั้นเองล่ะ  เพราะงั้นไปทานข้าวเช้าเพื่อเตรียมทดสอบได้แล้ว”

    นอกจากไลลาที่ยูกิเลือกมาเพื่อแก้แค้นเล็กๆน้อยๆแล้ว  ทุกๆคนที่ถูกเลือกมาล้วนเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับวงการมาเฟียกันทั้งนั้น  ถึงจะไม่ใช่แบบเปิดเผยก็ตาม  แต่ก็มีแต่พวกครอบครัวที่ก้าวขากันมาแล้วข้างหนึ่ง  แล้วแต่ละคนก็เป็นคนที่น่าจับตามองกันทั้งนั้น...


    ทันทีที่มาถึงโรงอาหาร... หญิงสาวก็พาทุกๆคนมาทานอาหารไว้รองท้องในตอนทดสอบ  ยูกิเอาตารางให้ทุกคนได้ดูกันอย่างชัดๆหลังจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว


    “จะว่าไปแล้วระดับเนี่ยมันคืออะไรกัน?”โรซารี่ผู้สุขุมเอ่ยถามออกไปหลังจากอ่านตารางทดสอบทั้งหมดที่ยูกิส่งมาให้ดู


    “โรงเรียนมาเฟียหน่ะไม่จำกัดอายุของการข้ามชั้นหรอกนะ  ยิ่งระดับสูงมากก็จะยิ่งได้รับอภิสิทธิ์ที่มากขึ้น  ได้เรียนในระดับที่สูงขึ้น”

    ยูกิตอบคำถามของโรซารี่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วหยิบเข็มกลัดส่งให้พวกเขาทั้งหมด  มันเป็นเข็มกลัดรูปแมวสีดำที่มีดวงตาสีแดง  ที่ดวงตาข้างหนึ่งของมันมีรูปร่างคล้ายกับกำลังถูกไฟสีฟ้าสวยเผาอยู่  เข็มกลัดนี้คือสิ่งบ่งบอกว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่ควรหาเรื่อง  เป็นคนของผอ.หรือก็คือนักฆ่าระดับสูงของวองโกเล่ผู้เป็นเจ้าของฉายาเลื่องชื่ออย่าง ‘วิฬาร์เพลิงโลกันต์’


    “ติดมันไว้ตลอดล่ะ  มันจะทำให้พวกเธอไม่ถูกหาเรื่อง”

    “ทำไมถึงไม่มีของพวกมาริโอน่าแล้วก็ของยูริล่ะ?”

    มันเป็นคำถามที่ทำให้ทุกๆคนต่างก็ต้องสงสัย  เพราะคนที่ยูกิส่งเข็มกลัดให้มีแค่นาซิสซ่า  โรซารี่  เหมยฮัว  ลิเลีย  ไลลา  กียุล  ฮอรัส  ดันเต้  อเล็กเซ่และคริสโตเฟอร์เท่านั้น  นอกจากทั้งสิบคนแล้ว  คนอื่นๆกลับไม่ได้รับมันเลย


    “ของแบบนั้นมันไม่จำเป็นกับพวกนั้นหรอก  ไว้ถึงช่วงทดสอบแล้วผ่านไประดับดีๆได้จะบอกเรื่องทุกอย่างแล้วกัน”

    เพราะไม่มีใครรู้เรื่องของโลกเบื้องหลังเลยถึงไม่มีใครรู้จักตัวตนของทั้งห้าคน  ยูกิตั้งใจไว้แล้วว่าจะบอกแต่ก็แค่ช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น  จะว่าไป...คงต้องมีของรางวัลให้ซะหน่อยด้วยล่ะมั้ง?  ยูกิคิดแล้วมองไปยังลิเลียกับคริสโตเฟอร์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย


    ลางสังหรณ์ของเธอไม่มีทางผิดแน่  ทั้งเจ้าห่วยแล้วก็รีบอร์นก็ยังรู้สึกว่าสองคนนั้นปกปิดอะไรบางอย่างอยู่  ยูกิมั่นใจว่าถ้าล่อด้วยรางวัลสองคนนั้นอาจจะเผยธาตุแท้ออกมา  เผยความลับที่เก็บไว้ออกมาอย่างแน่นอน


    “ถ้าใครผ่านไประดับสูงที่สุดจะมอบสิ่งที่ปราถนาให้แล้วกัน  แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่ชั้น...วองโกเล่จะสามารถให้ได้ล่ะนะ”ยูกิพูดออกมาพร้อมกับเหลือบตาไปมองลิเลียที่ดูมีชีวิตชีวาและมีดวงตาเป็นประกายหลังได้ฟังคำพูดเช่นนั้นของเธอ



    _____________________________________________________________________________________________

    ขอโทษที่หายไปนานจริงๆนะคะ!!  แต่ตอนนี้อีกนานเลยกว่าจะมาอัพได้อีกที แต่บทนี้ยังไม่จบนะ  บทนี้ไรท์แค่เอามาลงเท่าที่เขียน(มโน)ได้เท่านั้นเอง

    ปล.ไรท์ติดงานโปรเจ็คของโรงเรียนเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทิ้งนิยายเรื่องนี้ไปนะคะ! จะพยายามเพ้อให้ได้แล้วเอามาลง ไม่ทิ้งแน่นอนคะ!

    ปลล. ไรท์รู้สึกว่ามันติดกันเกินไปเลยเว้นบรรทัดเพิ่ม ถ้ายังไงก็ช่วยบอกหน่อยนะคะว่ามันดีขึ้นหรือไม่ดี

    __________________________________________________________________________________

    มาต่อให้จบบทนี้แล้วคะ


    ยูกิลอบมองใบหน้าของลิเลียที่ไม่ได้ปิดบังความดีใจด้วยความสงสัยและระแวงอยู่ลึกๆ  แม้ว่าลางสังหรณ์ของเธอจะบอกว่าลิเลียไม่เป็นอันตราย  แต่อย่างไรซะก็อดระแวงไม่ได้อยู่ดี  อีกอย่าง...แม้จะไม่อันตรายก็จริง  แต่การอยู่ในวงการนี้ทำให้ไม่ว่าใครต่างก็จำเป็นต้องระวังตัวตลอดเวลา  แม้ในแฟมิลี่จะไม่จำเป็นเท่าไหร่  แต่ตอนนี้มันไม่ใช่!


    หรือว่าข่าวที่ได้มาจะผิดกัน?


    ข่าวที่ลิเลีย  อัลเฟรดนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกมาเฟีย ไม่รู้ถึงธุรกิจอีกด้านที่บ้านทำนั้นอาจจะผิดไปก็ได้  หรือไม่ก็...


    เมื่อยูกิคิดได้เช่นนั้นแล้ว  ใบหน้าที่มักสงบนิ่งก็เผยให้เห็นถึงความแปลกใจไม่ใช่น้อยๆเมื่อได้ลองเปรียบเทียบความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้น  เธอจ้องไปยังลิเลียก่อนจะค่อยๆกระตุกยิ้มที่ชวนให้คนที่รู้จักเธอดีต้องรู้สึกขนลุกออกมาด้วยความสนใจ


    ตายแน่ๆ  ลิเลียตายแน่ๆ...

    เอสเมอรันด้าที่บังเอิญไปเห็นรอยยิ้มเช่นนั้นเข้าก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา  เธอล่สายตามองไปทางเหยื่อของการเล่นสนุกที่ทำให้ยูกิสนใจเข้าจนมาพบกับลิเลีย  หญิงสาวหันไปมองทางเพื่อนของตนที่คาดว่าคงจะเห็นรอยยิ้มที่ชวนวิบัตินั่นเข้าด้วยสีหน้าที่แลดูหวาดผวาสุดหัวใจ


    และเป็นดังที่เอสเมอรันด้าคาดไว้  มาริโอน่าและซาวาดะ  สึนะโยชิ บอสรุ่นที่10ของวองโกเล่และอดีตที่รองมือรองเท้าเพื่อความสนุกของยูกิ...  สีหน้าของมาริโอน่าแสดงความสงสารต่อลิเลียก็จริง  แต่ใบหน้าของเดชิโม่นั้นเป็นสีขาวซีดและแลดูลุกลี้ลุกลนแบบสุดๆ


    เอสเมอรันด้าไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือสงสารกับท่าทางหวาดผวาต่อตัวยูกิที่เป็นทั้งอาจารย์อีกคนและลูกน้องของบอสวองโกเล่คนนี้ยังไงดี 


    เพราะดูท่าเจ้าตัวคงเจอมาหนักมากจริงๆ...


    ขอให้โชคดีนะครับลิเลียซัง..../โชคดีนะลิเลีย/ขอให้ไปสบายนะลิเลีย...

    ด้วยความบังเอิญหรืออะไรซักอย่างที่ทำให้พวกเธอทั้งสามพูดออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันราวประสานเสียง  เสียงแรกนั้นเป็นของสึนะโยชิที่อวยพรแด่คนร่วมชะตาเดียวกับตนในอดีต แม้ปัจจุบันจะม่ได้โดนแกล้งเท่าแต่ก่อน  แต่มันก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย


    ส่วนเสียงที่สองและเสียงที่สามนั้นก็เป็นของเอสเมอรันด้าและมาริโอน่า เอสเมอรันด้าหน่ะไม่เท่าไหร่  เพราะเจ้าตัวอวยพรให้กับเด็กน้อยผู้น่าสงสารอย่างลิเลียไป  แต่มาริโอน่านั้นคงตั้งใจว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้มีชีวิตรอดจากการกลั่นแกล้งของยูกิเป็นแน่


    เอสเมอรันด้าและสึนะโยชิไม่กล้าถามถึงสาเหตุที่มาริโอน่าเอ่ยถามเช่นนั้น  แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ความคิดของพวกเขาจึงได้เหลือบตามามองแล้วเบนสายตาไปยังอีกมุมหนึ่งที่ไม่ได้ไกลจากกันมากเท่าไหร่


    เมื่อพวกเขาทั้งสองได้เห็นใบหน้าของคนที่มาริโอน่าเหลือบตาไปมองเหมือนจะบอกถึงสาเหตุ  ในหัวของทั้งสองก็มีความคิดที่ตรงกันอย่างไม่นัดหมาย...


    บรรลัย​แล้วไง!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×