คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : บทที่ 34 โรงเรียนมาเฟีย(ครบแล้ว)
โรงเรียนวองโกเล่เดิมทีก็คือโรงเรียนของเหล่าเด็กๆที่เป็นลูกหลานของมาเฟียแฟมิลี่ต่างๆหรือพวกคนที่เกี่ยวข้องกับโลกเบื้องหลัง แม้จะมีการเรียนการสอนทั่วไปแต่ก็มีสิ่งก่อสร้างหลากหลายที่สร้างขึ้นเพื่อการฝึกต่อสู้และการสอนเรื่องต่างๆในวงการ
มักมีการทาบทามให้นักเรียนที่มีความสามารถไปเข้าสังกัดต่างๆอยู่บ่อยครั้ง เพราะถึงแม้ว่าเด็กพวกนั้นจะเป็นลูกหลานจากแฟมิลี่ต่างๆแต่ก็ยังไม่ใช่คนของแฟมิลี่ พวกเด็กๆเหล่านั้นมีสิทธิที่จะเลือกเข้าแฟมิลี่ที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง
ด้วยความที่โรงเรียนมาเฟียถูกคุโรยูกิที่เป็นคนของวองโกเล่ยึดไป ซึ่งเอาจริงๆเดิมทีวองโกเล่ก็เป็นหุ้นส่วนกับโรงเรียนนี้มาตั้งครึ่งหนึ่งอยู่แล้ว พอคนเก่าออกคุโรยูกิเลยถูกวางตำแหน่งผอ.รอคนใหม่ในอีกหลายปีข้างหน้าเฉยๆ ตอนแรกๆก็ไม่ได้มีชื่อว่าวองโกเล่หรอกนะ แต่เพราะมียูกิที่เป็นคนของวองโกเล่แล้วยังโด่งดังสุดๆ ไปๆมาๆก็เลยถูกเรียกว่าโรงเรียนวองโกเล่เท่านั้นเอง
“สุดยอด...”
พวกที่พึ่งได้มาโรงเรียนวองโกเล่เป็นครั้งแรกอย่างพวกกียุลกับพวกนาซิสซ่ามองโรงเรียนที่มาถึงด้วยความทึ่งและตกตะลึง ต่างคนต่างก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีโรงเรียนที่สุดยอดแบบนี้นอกจากที่ลาฟลอร่าจนหลุดปากพูดออกมากันอย่างเหม่อลอย
โรงเรียนมาเฟียตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาสูงชันที่ขึ้นมาได้ยาก อาคารส่วนใหญ่ที่ใช้สำหรับฝึกจะอยู่บนภูเขาทั้งหมดส่วนอาคารที่ใช้เรียนจะอยู่ด้านหน้า มีร้านค้ามากมายที่เปิดอยู่ในโรงเรียนก็จริงแต่ว่าเลยเขตอาคารเรียนเข้าไปบนภูเขาจะมีร้ายค้าเพียงเล็กน้อยเนื่องจากเป็นจุดที่อันตรายและขนส่งของลำบากสำหรับชาวบ้านทั่วๆไป
จริงอยู่ที่มีกระเช้าขนส่งไปยังอาคารจุดต่างๆแต่มันมีไว้ใช้แค่ขนส่งคนเท่านั้น แม้จะมีถนนให้ขับรถขึ้นไปได้แต่การทำแบบนั้นจำเป็นต้องมีบัตรผ่านจึงจะขับขึ้นไปได้ รอบๆภูเขาถูกใช้มายาบดบังไม่ให้มีใครเห็นว่าด้านบนมีอะไรอยู่บ้างจึงไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องจะเป็นที่สนใจ
“หอนี้จะเป็นที่พักของทุกคนนะจ๊ะ ถ้ามีเรื่องอะไรสงสัยก็โทรถามได้เลย”
เคียวโกะที่รับหน้าที่เป็นคนดูแลนักเรียนแลกเปลี่ยนแทนคุโรยูกิที่ยังไม่มาพูดกับพวกนาซิสซ่าก่อนจะส่งกระดาษที่เขียนเบอร์โทรศัพท์ยื่นให้โรซารี่ที่ดูเป็นคนน่าเชื่อถือมากที่สุดในกลุ่มพร้อมรอยยิ้ม ว่ากันแล้วเคียวโกะก็ไม่ได้เป็นห่วงอะไรพวกนักเรียนแลกเปลี่ยนเท่าไหร่ ก็ในกลุ่มมีแต่พวกมาริโอน่าที่ดังๆกันทั้งนั้นเลยนี่เนอะ ถึงจะไม่เคยเห็นหน้าแต่แค่ชื่อก็น่าจะรู้ว่าพวกนั้นเป็นใครกันอยู่แล้ว
แต่ที่เคียวโกะห่วงก็คือพวกนาซิสซ่ากับพวกกียุล และเธอก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เดินถเลถไหลไม่เข้าท่าจนเจอพวกนักเรียนกันหรอกนะ.... ถึงเด็กพวกนั้นจะไม่ได้แข็งแกร่งหรือเลวร้ายอะไรมากแต่ถ้าให้พวกกียุลตอนนี้สู้ดูก็คงจะเป็นปัญหาใหญ่เพราะความต่างของพลัง
เคียวโกะพอจะรู้อยู่ว่าทำไมยูกิถึงพาทุกๆคนมาที่โรงเรียนด้วยข้ออ้างอย่างการแลกเปลี่ยน การให้คนนอกที่ไม่รู้อะไรเข้ามาอยู่ในสังคมมาเฟียหน่ะมันอันตราย แต่กับคนที่ในอนาคตจะต้องก้าวขาเข้ามาอยู่ที่นี่ครึ่งตัวมันก็อันตรายไม่แพ้กัน พวกที่ยูกิพามาแลกเปลี่ยนต่างก็มีครอบครัวอาศัยอยู่กึ่งกลางระหว่างแสงกับความมืดอยู่แล้ว ในอนาคตก็ต้องถูกพาเข้ามา สู้ให้รู้ว่าอีกโลกที่ต้องเข้ามาเหยียบมันอันตรายขนาดไหนตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยดีกว่า...
“สมกับเป็นยูกิจัง ขนาดตั้งใจมาแกล้งถึงลาฟลอร่ายังเตรียมพันธมิตรในอนาคตให้อีก”
ถ้าไม่นับไลลาที่ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับโลกเบื้องหลังแล้ว ไม่ว่าจะใครต่างก็มีครอบครัวที่มีความสำคัญในระดับนึงเลย แต่คนที่โดดเด่นที่สุดก็คงจะเป็นลิเลีย... เคียวโกะอ่านข้อมูลของพวกราชาทั้งห้าและพวกนาซิสซ่าที่ยูกิหามาทั้งหมดแล้วถึงได้คิดแบบนั้น
ธุรกิจการค้าอาวุธของบ้านลิเลียคือครอสเซเรียที่โด่งดังในวงการมาเฟียไม่ใช่น้อยๆ ทั้งมีนักวิทยาศาสตร์ที่สามารถสร้างอาวุธกล่องได้อีก เรื่องภายในแม้แต่วองโกเล่ก็ยังสืบไม่ได้ว่าอีกฝ่ายมีอิโนเชนทีหรือเคนิตฮ์เป็นพวก แต่เทคโนโลยีต่างๆถูกประจักษ์ว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับวองโกเล่และมิลฟิโอเล่
เป็นคนสำคัญในวงการธุรกิจของมาเฟียไม่ใช่น้อยๆ...
เคียวโกะคือเพื่อนสนิทคนแรกของคุโรยูกิ ตั้งแต่ที่ยูกิเปลี่ยนไปใช้ชื่อคุโรยูกิก็มีเพื่อนอยู่ไม่มากเท่านั้น เพราะเธอไม่อยากจะเจ็บอีก จึงเว้นคนที่ยุ่งเกี่ยวขึ้นว่าเป็นแค่คนรู้จักเท่านั้น ดีโน่และสควอโล่คือเพื่อนกลุ่มแรกแต่ไม่ใช่เพื่อนสนิทแบบเคียวโกะ
สำหรับยูกิแล้วเคียวโกะคือเพื่อนสนิทคนพิเศษ เป็นคนที่ยูกิสาบานว่าจะปกป้อง เพราะแบบนั้นเคียวโกะถึงได้รู้หลายๆอย่างมากกว่าคนอื่น ไม่ใช่ในฐานะบอสของDark moon...แต่เป็นในฐานะเพื่อนสนิทคนสำคัญ
“จะว่าไป พวกเราต้องไปเตรียมทดสอบเลือกห้องแล้วก็ระดับให้พวกโรซารี่จังด้วยสิเนี่ย...”
เคียวโกะคิดพลางถอนหายใจออกมาหลังจากคิดเรื่องต่อจากนี้ ถึงพวกเราจะปราณีให้ในตอนอยู่ลาฟลอร่าก็เถอะ แต่การทดสอบวัดระดับก็คงต้องดูความสามารถของพวกนั้นกันเองเท่านั้น ถึงจะฝึกกันมาบ้างแล้วครึ่งปีแต่ก็ต้องวัดดวงกันว่าจะไปอยู่ห้องไหนกันบ้างสินะ
สำหรับยูกิแล้วคงไม่ได้คิดอะไรมากถ้าพวกโรซารี่ไปอยู่ในกลุ่มระดับกลางๆ ออกจะวางใจด้วยซ้ำล่ะมั้ง? เพราะยังไงซะ...ถ้าอยู่ระดับนั้นก็น่าจะมีพวกที่ไม่ได้ร้ายกาจหรืออันตรายเท่าพวกระดับสูงๆหรือว่าต่ำ เป็นพวกที่ไม่ค่อยน่ายุ่งเกี่ยวซะเท่าไหร่
“หวังว่าจะไม่มีใครหลุดไปอยู่ระดับพวกนั้นแล้วกัน”
จู่ๆเคียวโกะก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับพวกนักเรียนแลกเปลี่ยนขึ้นมา นอกจากพวกมาริโอน่าแล้วก็ยูริที่ถูกส่งไปที่ระดับสูงแน่นอนก็ยังมีอีกสิบคนที่น่ากังวล นาซิสซ่า เหมยฮัว โรซารี่ไม่น่ากังวลเท่าลิเลียกับไลลา เพราะความสามารถพิเศษที่โดดเด่น
ถึงจะไม่ได้ชอบอะไรไลลากับลิเลียมากนักแต่เคียวโกะก็ไม่ได้อยากให้มีคนมาตาย ลิเลียดูไม่น่าเป็นห่วงเท่าไลลาเท่าไหร่เพราะดูเรียบร้อยแต่ไลลามีแววว่าจะไปยั่วโมโหใครเข้าแล้วอาจบาดเจ็บหนักหรือเลวร้ายสุดก็ถูกฆ่า สองคนนั้นไม่ได้เข้าฝึกด้วย แถมยังไมมีความสามารถด้านไหนเป็นพิเศษ เคียวโกะเลยมั่นใจว่าน่าจะลงไปกลุ่มระดับต่ำๆ
“ทดสอบเลือกห้อง?”
เหล่าคนธรรมดา(?)หรือพวกนักเรียนแลกเปลี่ยน(เว้นพวกมาเฟียและนักฆ่าทั้งหลายอย่างพวกยูริ)ทวนคำที่พึ่งได้ยินจากปากของยูกิที่มาหาในตอนเช้าตรู่ในวันต่อมาหลังจากที่มาถึงโรงเรียนวองโกเล่
ถึงพวกเขาจะตื่นเต้นกับห้องหรูที่เหมือนกับโรงแรมแล้วก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะสังหรณ์ใจไม่ดียังไงก็เถอะนะ... แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกบังคับให้ตื่นขึ้นมาทั้งๆที่พึ่งจะตีห้าครึ่ง! แถมยังถูกบังคับให้ไปอาบน้ำแต่งตัวเป็นชุดนักเรียน(ที่ถูกโยนให้โดยยูกิ) และมีเวลาจำกัดคือหกโมงเช้า!
ช่างเป็นการตื่นเช้าที่ชวนให้ตื่นเต้นกันจริงๆ...
“ปกติแล้วคนที่มาบอกควรจะเป็นอาจารย์ไม่ใช่เหรอขอรับ? ผู้อำนวยการของที่นี่ทำไมถึงให้นักเรียนมาทำงานแบบนี้ตั้งแต่เช้ากัน?”ฮอรัสเอ่ยถามออกไปหลังจากที่ถูกพาขึ้นรถ(ที่แทบจะถูกโยนขึ้นมากกว่าถ้าเกิดชักช้า)ร่วมกับทุกคน
พวกมาริโอน่าและยูริเริ่มเหงื่อตกกับคำถามของฮอรัสแล้วแอบเหลือบไปมองยูกิที่ยังดูอารมณ์เหมือนปกติแล้วถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหลังไม่พบว่ามีอารมณ์หงุดหงิดอะไรกับคำถามของฮอรัส ดูเหมือนการกลับมาได้เจอลูกเนี่ยจะทำให้ยูกิหงุดหงิดง่ายสินะ
ใครๆที่รู้จักยูกิต่างก็รู้กันดีว่าเจ้าตัวรักและโอ๋ลูกฝาแฝดสองคนมากเพียงไร ยิ่งต้องจากมานานถึงขั้นไม่ได้เจอกันครึ่งปียิ่งทำให้เจ้าตัวหงุดหงิดและพร้อมจะฆ่ากับทำร้าย(ปางตาย)คนที่มาระรานได้ทันทีเลยด้วยซ้ำ แต่ยังดีที่ยูกิควบคุมอารมณ์ได้เลยไม่ไปเผลอทำอะไรใครเข้า
แต่ตอนไลลาที่ถูกเตะกระเด็นไม่นับนะ เพราะตอนนั้นมันก็สมควรแล้วจริงๆ
“อ๋อ... ชั้นจะไม่ได้บอกเลยสินะ”
หลังจากนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเรื่องสำคัญกับพวกที่พึ่งจะเคยเข้ามาในโลกมืดเป็นครั้งแรกแบบพวกนาซิสซ่า ยูกิเลยยกมือขึ้นมาลูบหัวปอยๆเพราะพึ่งนึกเรื่องนี้ขึ้นได้หลังจากที่ถูกถาม เอาตามจริงก็ไม่ได้คิดจะปกปิดหรืออะไรหรอกนะ แต่จะให้พวกนักเรียนธรรมดาๆมารู้เรื่องของโลกเบื้องหลังมันก็คงไม่ดี...
“ผู้อำนวยการของโรงเรียนหน่ะคือชั้นเองล่ะ เพราะงั้นไปทานข้าวเช้าเพื่อเตรียมทดสอบได้แล้ว”
นอกจากไลลาที่ยูกิเลือกมาเพื่อแก้แค้นเล็กๆน้อยๆแล้ว ทุกๆคนที่ถูกเลือกมาล้วนเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับวงการมาเฟียกันทั้งนั้น ถึงจะไม่ใช่แบบเปิดเผยก็ตาม แต่ก็มีแต่พวกครอบครัวที่ก้าวขากันมาแล้วข้างหนึ่ง แล้วแต่ละคนก็เป็นคนที่น่าจับตามองกันทั้งนั้น...
ทันทีที่มาถึงโรงอาหาร... หญิงสาวก็พาทุกๆคนมาทานอาหารไว้รองท้องในตอนทดสอบ ยูกิเอาตารางให้ทุกคนได้ดูกันอย่างชัดๆหลังจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
“จะว่าไปแล้วระดับเนี่ยมันคืออะไรกัน?”โรซารี่ผู้สุขุมเอ่ยถามออกไปหลังจากอ่านตารางทดสอบทั้งหมดที่ยูกิส่งมาให้ดู
“โรงเรียนมาเฟียหน่ะไม่จำกัดอายุของการข้ามชั้นหรอกนะ ยิ่งระดับสูงมากก็จะยิ่งได้รับอภิสิทธิ์ที่มากขึ้น ได้เรียนในระดับที่สูงขึ้น”
ยูกิตอบคำถามของโรซารี่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วหยิบเข็มกลัดส่งให้พวกเขาทั้งหมด มันเป็นเข็มกลัดรูปแมวสีดำที่มีดวงตาสีแดง ที่ดวงตาข้างหนึ่งของมันมีรูปร่างคล้ายกับกำลังถูกไฟสีฟ้าสวยเผาอยู่ เข็มกลัดนี้คือสิ่งบ่งบอกว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่ควรหาเรื่อง เป็นคนของผอ.หรือก็คือนักฆ่าระดับสูงของวองโกเล่ผู้เป็นเจ้าของฉายาเลื่องชื่ออย่าง ‘วิฬาร์เพลิงโลกันต์’
“ติดมันไว้ตลอดล่ะ มันจะทำให้พวกเธอไม่ถูกหาเรื่อง”
“ทำไมถึงไม่มีของพวกมาริโอน่าแล้วก็ของยูริล่ะ?”
มันเป็นคำถามที่ทำให้ทุกๆคนต่างก็ต้องสงสัย เพราะคนที่ยูกิส่งเข็มกลัดให้มีแค่นาซิสซ่า โรซารี่ เหมยฮัว ลิเลีย ไลลา กียุล ฮอรัส ดันเต้ อเล็กเซ่และคริสโตเฟอร์เท่านั้น นอกจากทั้งสิบคนแล้ว คนอื่นๆกลับไม่ได้รับมันเลย
“ของแบบนั้นมันไม่จำเป็นกับพวกนั้นหรอก ไว้ถึงช่วงทดสอบแล้วผ่านไประดับดีๆได้จะบอกเรื่องทุกอย่างแล้วกัน”
เพราะไม่มีใครรู้เรื่องของโลกเบื้องหลังเลยถึงไม่มีใครรู้จักตัวตนของทั้งห้าคน ยูกิตั้งใจไว้แล้วว่าจะบอกแต่ก็แค่ช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น จะว่าไป...คงต้องมีของรางวัลให้ซะหน่อยด้วยล่ะมั้ง? ยูกิคิดแล้วมองไปยังลิเลียกับคริสโตเฟอร์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ลางสังหรณ์ของเธอไม่มีทางผิดแน่ ทั้งเจ้าห่วยแล้วก็รีบอร์นก็ยังรู้สึกว่าสองคนนั้นปกปิดอะไรบางอย่างอยู่ ยูกิมั่นใจว่าถ้าล่อด้วยรางวัลสองคนนั้นอาจจะเผยธาตุแท้ออกมา เผยความลับที่เก็บไว้ออกมาอย่างแน่นอน
“ถ้าใครผ่านไประดับสูงที่สุดจะมอบสิ่งที่ปราถนาให้แล้วกัน แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่ชั้น...วองโกเล่จะสามารถให้ได้ล่ะนะ”ยูกิพูดออกมาพร้อมกับเหลือบตาไปมองลิเลียที่ดูมีชีวิตชีวาและมีดวงตาเป็นประกายหลังได้ฟังคำพูดเช่นนั้นของเธอ
_____________________________________________________________________________________________
ขอโทษที่หายไปนานจริงๆนะคะ!! แต่ตอนนี้อีกนานเลยกว่าจะมาอัพได้อีกที แต่บทนี้ยังไม่จบนะ บทนี้ไรท์แค่เอามาลงเท่าที่เขียน(มโน)ได้เท่านั้นเอง
ปล.ไรท์ติดงานโปรเจ็คของโรงเรียนเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทิ้งนิยายเรื่องนี้ไปนะคะ! จะพยายามเพ้อให้ได้แล้วเอามาลง ไม่ทิ้งแน่นอนคะ!
ปลล. ไรท์รู้สึกว่ามันติดกันเกินไปเลยเว้นบรรทัดเพิ่ม ถ้ายังไงก็ช่วยบอกหน่อยนะคะว่ามันดีขึ้นหรือไม่ดี
__________________________________________________________________________________
มาต่อให้จบบทนี้แล้วคะ
ยูกิลอบมองใบหน้าของลิเลียที่ไม่ได้ปิดบังความดีใจด้วยความสงสัยและระแวงอยู่ลึกๆ
แม้ว่าลางสังหรณ์ของเธอจะบอกว่าลิเลียไม่เป็นอันตราย แต่อย่างไรซะก็อดระแวงไม่ได้อยู่ดี อีกอย่าง...แม้จะไม่อันตรายก็จริง แต่การอยู่ในวงการนี้ทำให้ไม่ว่าใครต่างก็จำเป็นต้องระวังตัวตลอดเวลา แม้ในแฟมิลี่จะไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่!
หรือว่าข่าวที่ได้มาจะผิดกัน?
ข่าวที่ลิเลีย อัลเฟรดนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกมาเฟีย ไม่รู้ถึงธุรกิจอีกด้านที่บ้านทำนั้นอาจจะผิดไปก็ได้ หรือไม่ก็...
เมื่อยูกิคิดได้เช่นนั้นแล้ว ใบหน้าที่มักสงบนิ่งก็เผยให้เห็นถึงความแปลกใจไม่ใช่น้อยๆเมื่อได้ลองเปรียบเทียบความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้น เธอจ้องไปยังลิเลียก่อนจะค่อยๆกระตุกยิ้มที่ชวนให้คนที่รู้จักเธอดีต้องรู้สึกขนลุกออกมาด้วยความสนใจ
“ตายแน่ๆ ลิเลียตายแน่ๆ...”
เอสเมอรันด้าที่บังเอิญไปเห็นรอยยิ้มเช่นนั้นเข้าก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา เธอล่สายตามองไปทางเหยื่อของการเล่นสนุกที่ทำให้ยูกิสนใจเข้าจนมาพบกับลิเลีย หญิงสาวหันไปมองทางเพื่อนของตนที่คาดว่าคงจะเห็นรอยยิ้มที่ชวนวิบัตินั่นเข้าด้วยสีหน้าที่แลดูหวาดผวาสุดหัวใจ
และเป็นดังที่เอสเมอรันด้าคาดไว้ มาริโอน่าและซาวาดะ สึนะโยชิ บอสรุ่นที่10ของวองโกเล่และอดีตที่รองมือรองเท้าเพื่อความสนุกของยูกิ...
สีหน้าของมาริโอน่าแสดงความสงสารต่อลิเลียก็จริง
แต่ใบหน้าของเดชิโม่นั้นเป็นสีขาวซีดและแลดูลุกลี้ลุกลนแบบสุดๆ
เอสเมอรันด้าไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือสงสารกับท่าทางหวาดผวาต่อตัวยูกิที่เป็นทั้งอาจารย์อีกคนและลูกน้องของบอสวองโกเล่คนนี้ยังไงดี
เพราะดูท่าเจ้าตัวคงเจอมาหนักมากจริงๆ...
“ขอให้โชคดีนะครับลิเลียซัง..../โชคดีนะลิเลีย/ขอให้ไปสบายนะลิเลีย...”
ด้วยความบังเอิญหรืออะไรซักอย่างที่ทำให้พวกเธอทั้งสามพูดออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันราวประสานเสียง
เสียงแรกนั้นเป็นของสึนะโยชิที่อวยพรแด่คนร่วมชะตาเดียวกับตนในอดีต
แม้ปัจจุบันจะม่ได้โดนแกล้งเท่าแต่ก่อน
แต่มันก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย
ส่วนเสียงที่สองและเสียงที่สามนั้นก็เป็นของเอสเมอรันด้าและมาริโอน่า
เอสเมอรันด้าหน่ะไม่เท่าไหร่
เพราะเจ้าตัวอวยพรให้กับเด็กน้อยผู้น่าสงสารอย่างลิเลียไป แต่มาริโอน่านั้นคงตั้งใจว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้มีชีวิตรอดจากการกลั่นแกล้งของยูกิเป็นแน่
เอสเมอรันด้าและสึนะโยชิไม่กล้าถามถึงสาเหตุที่มาริโอน่าเอ่ยถามเช่นนั้น แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ความคิดของพวกเขาจึงได้เหลือบตามามองแล้วเบนสายตาไปยังอีกมุมหนึ่งที่ไม่ได้ไกลจากกันมากเท่าไหร่
เมื่อพวกเขาทั้งสองได้เห็นใบหน้าของคนที่มาริโอน่าเหลือบตาไปมองเหมือนจะบอกถึงสาเหตุ
ในหัวของทั้งสองก็มีความคิดที่ตรงกันอย่างไม่นัดหมาย...
บรรลัยแล้วไง!!
ความคิดเห็น