ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic KHR X Laflora] revenge of the sun

    ลำดับตอนที่ #48 : บทที่ 37 ปกป้อง...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.81K
      72
      14 มี.ค. 61

    คริสโตเฟอร์เบิกตากว้างด้วยความตกใจระคนไม่เข้าใจ  เขามองร่างของลิเลียที่ค่อยๆล้มลงไปเพราะความเจ็บปวดจากการถูกฟันโดยดาบของยูริที่หลุดออกมาจากการถูกตรึงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ  คริสไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมลิเลียถึงต้องเอาตัวเองมาบังดาบให้เขาแบบนี้


    ทั้งๆที่การปกป้องบอสเป็นหน้าที่ของผู้พิทักษ์อย่างเขาแท้ๆ... ทำไมลิเลียถึงได้ยอมบาดเจ็บเพื่อปกป้องเขาแบบนี้กัน?  ไม่เข้าใจเลย...เขาไม่เห็นจะเข้าใจเลยจริงๆ!


    ไม่เป็นไรใช่มั้ยลิเลีย!?”


    เขาค่อยๆประคองร่างของเด็กสาวขึ้นมาวางไว้บนตักของตัวเองอย่างทะนุถนอมด้วยความสั่นกลัว  คริสโตเฟอร์กลัวว่าหากจับร่างบอบบางตรงหน้าแรงเกินไปมันจะทำให้เธอต้องแตกสลาย  เขาไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ที่ปะทุออกมาในตอนนี้ได้เลย  ไม่สามารถแม้แต่จะเข้าใจว่าทำไมเขาถึง...


    เจ็บที่หัวใจขนาดนี้


    ดีจัง...


    เสียงที่เอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาของลิเลียทำให้คริสโตเฟอร์ต้องหยุดไม่ให้ตัวเองหุนหันพลันแล่นเข้าไปโจมตียูริที่ถอยห่างออกไปเตรียมพร้อมสู้  เขามองลิเลียด้วยความไม่เข้าใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่นี้  ดีงั้นเหรอ?  สภาพโชกเลือดแบบนี้ยังมาบอกว่าดีอีกงั้นเหรอ!?


    คริสโตเฟอร์รู้สึกว่าตัวเองกำลังโกรธกับคำพูดแผ่วๆที่บอกว่าดีของลิเลีย  ในตอนแรกเขาเกือบจะตวาดใส่เด็กสาวไปแล้วด้วยซ้ำไป


    รอยยิ้มของลิเลีย...  ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้สวยงามราวภาพวาดก็จริง  แต่ว่ารอยยิ้มในตอนนี้ของลิเลียกลับทำให้คริสทำตัวไม่ถูก  มันเป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนและเหมือนกับว่าเธอกำลังมีความสุขมากยิ่งกว่าครั้งไหนๆ


    มันเป็นรอยยิ้มที่เหมือนกับบอกว่าตัวเองมีความสุขที่สุดในโลกก็ไม่ปาน...


    ทำไมถึงยิ้มทั้งๆที่กำลังเจ็บหนักกันล่ะ?  ทำไมถึงได้ดูมีความสุขขนาดนั้นทั้งๆที่ตัวเองมีสภาพแบบนั้นกันล่ะลิเลีย....?


    ตลอดเวลาที่คริสโตเฟอร์ได้อยู่กับลิเลียก็มักจะเต็มไปด้วยความสงสัย  เขาไม่รู้และไม่สามารถเข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าทำไมลิเลียถึงได้ทำตัวแบบนั้น  พอจะถามดูก็ไม่กล้าเพราะได้เห็นรอยยิ้มนั่น...รอยยิ้มที่งดงามมากเสียจนไม่กล้าที่จะทำลายมันลงเพราะคำถามพวกนั้น...


    เขาแก้ตัวซ้ำไปซ้ำมากับเรื่องที่ตัวเองไม่เข้าใจด้วยสาเหตุจากเรื่องในอดีต  เรื่องในตอนที่เขาได้ตายไปแล้วครั้งหนึ่งในวันนั้น  แต่เขารู้ดีว่าในใจลึกๆแล้ว  เขาเข้าใจในการกระทำเช่นนั้นของลิเลียดี  ถึงจะปกปิดมันไว้ยังส่วนลึกของจิตใจขนาดไหนแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ตลอดไป


    ทำไม...ทำไมต้องมาปกป้องชั้นด้วยลิเลีย?


    เสียงที่เอ่ยออกไปนั้นสั่นเครือมากขนาดไหน ในตอนนี้คริสโตเฟอร์ก็ไม่อาจทราบได้  ภายในหัวของชายหนุ่มในตอนนี้เต็มไปด้วยคำถามอันมากมายที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้และรอคอยให้เด็กสาวที่กำลังนอนอยู่บนตักของเขาเองได้เป็นผู้ตอบ


    ชายหนุ่มเชื่อว่าการแสดงออกทุกสิ่งที่ลิเลียทำกับเขาคือการรับผิดชอบกับการเปลี่ยนไปของตัวเขาเอง  เขาเคยเชื่อว่าความเป็นห่วง ความกังวลและความอ่อนโยนที่ลิเลียแสดงให้เขานั้นมีผลมาจากเรื่องในวันนั้นเท่านั้น แต่พอมาตอนนี้เขากลับต้องเปลี่ยนความคิดทั้งหมด


    เพราะดูเหมือนว่าความจริงมันจะไม่ใช่สินะ...


    การปกป้องคนที่รักได้...ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่ามีความสุขที่สุดในโลกเลยเหรอคะคริส?ลิเลียพยายามพูดออกมาแม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดที่แผ่นหลังมากขึ้นทุกๆครั้งที่ขยับตัวและพูดก็ตาม


    เด็กสาวค่อยๆเอื้อมมือข้างขวาขึ้นไปเพื่อสัมผัสใบหน้าของอดีตคนรักหนุ่มที่แม้จะบอกขอเลิกไปแล้วในวันนั้นแต่ว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังรักอยู่เสมอ  เธอรู้ดีว่าคริสโตเฟอร์ยังชอบยูริอยู่แม้ว่าเรื่องมันจะผ่านมานานมากแล้วก็ตาม  เธอเคยเกลียดยูริยิ่งกว่าใครเพราะว่าคริสชอบเธอมาตลอด  ชอบมากเสียจนเธอยังรู้ตัวเลยว่าตัวเองแพ้ไปตั้งแต่เริ่มแล้ว


    ตั้งแต่เริ่มต้นมาเธอก็หลอกลวงคริสมาตลอด  แม้แต่ความรักที่เคยได้มา...หรือว่าจะฐานะแฟนที่เคยได้รับ...ทั้งหมดก็เคยแค่สิ่งที่เกิดมาจากคำลวงของเธอทั้งนั้น


    ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะบอกว่าตัวเธอเองกำลังถูกเผา  ถูกแผดเผาโดยไฟที่เรียกว่าคำโกหก  ถูกเผาด้วยการกระทำของตัวเอง  เธอโกหกคริสโตเฟอร์...เพราะแบบนั้นเธอถึงได้รับความรักมาจากเขา  เธอหลอกลวงคริสโตเฟอร์...เพราะแบบนั้นถึงได้กลายเป็นคนรักของเขา 


    เธอทำลายยูริ...ทำลายและแย่งชิงของที่เคยเป็นของคนอื่น...ของยูริ  ดังนั้นทุกๆอย่างที่เธอเคยเชื่อว่าเป็นของเธอถึงได้เป็นแค่ภาพลวงตาทั้งหมด


    น่าหัวเราะที่ตัวเธอในตอนนั้นดันไปขอโทษยูริจริงๆนั่นล่ะนะ... ก็จำไม่ได้หรอกว่าตอนนั้นไปใจกล้ามาจากไหนถึงได้กล้าไปขอโทษคนที่ตัวเองทั้งทำร้ายและแย่งทุกสิ่งทุกอย่างมาแบบนั้น ความผิดบาปในอดีตที่ยังคงไม่เลือนหายไป...


    ดังนั้นจุดมุ่งหมายในการมีชีวิตอยู่ทั้งหมดในตอนนี้ของลิเลียคือการปกป้องสถานที่กลับไปของเธอ สิ่งเพียงสิ่งเดียวที่เหนี่ยวรั้งไม่ให้เธอจากไปก็คือ....ครอสเซเรียกับคริสโตเฟอร์เท่านั้น


    ต่อให้เขาไม่รู้ก็ไม่เป็นไร...


    ต่อให้เขาเข้าใจว่าการกระทำของเธอที่ทำกับเขาเป็นการรับผิดชอบกับเรื่องในตอนนั้นก็ไม่เป็นไร...


    ต่อให้เขาคิดว่าการที่เธอรักเขาในช่วงเวลาก่อนที่จะเลิกกันเป็นเพราะเธอถูกไลลาบอกก็ไม่เป็นไร...


    ถึงแม้ความรักที่เธอมีให้จะไม่ถูกรับรู้หรือเข้าใจก็ไม่เป็นไรหรอก...  ขอให้เธอได้อยู่ข้างๆคริสไปจนกว่าแผนการนี้จะสำเร็จก็พอแล้ว เธอเห็นแก่ตัวมามากแล้วที่หวังอยากจะให้เขาหันมารักเธอบ้าง  ดังนั้นในตอนนี้เธอจึงอยากจะเห็นแก่ตัวอีกซักนิดก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีก


    นี่รอส...ชั้นเป็นคนบาปหนามากเลยสินะคะ?


    เป็นคำถามที่ผู้ตอบไม่อาจตอบได้อีกต่อไป  สำหรับลิเลียแล้วรอสก็เป็นเหมือนกับพี่ชายคนนึงที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน  เป็นคนที่เชื่อว่าถ้าหากตัวเธอจากไปจะต้องฝากฝังครอสเซเรียได้แน่ๆ


    แต่โชคชะตาก็มักโหดร้ายกับลิเลียเสมอ... เด็กสาวเคยวาดฝันถึงครอบครัวที่แสนอบอุ่น มีท่านพ่อที่ยิ้มและเรียกชื่อของเธอ มีท่านแม่และท่านพี่เอมิเลียแล้วก็เธออยู่กันสี่คนในคฤหาสน์เหมือนกับเมื่อวันวาน  แต่แน่นอนว่ามันเป็นได้เพียงแค่ฝันเท่านั้น


    สำหรับคริสโตเฟอร์แล้วเธออาจจะเป็นแฟนเก่า บอสหรือแม้กระทั่งน้องสาว  แต่สำหรับเธอแล้วคริสคือทุกอย่างในชีวิต ลิเลียในตอนนี้มีสิ่งสำคัญมากๆอยู่สองอย่างที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องปกป้องให้ได้


    หนึ่งคือ ครอสเซเรียที่ได้รับมาจากท่านพ่อและสองคือ คริสโตเฟอร์....


    ดังนั้นต่อให้ต้องบาดเจ็บแค่ไหน  แต่ถ้าเพื่อปกป้องสองสิ่งนั้นแล้วเธอก็ยินดี  ความสุขในตอนที่เห็นว่าคริสไม่ต้องบาดเจ็บมันมากจนแทบลืมแผลข้างหลังไปเลยล่ะ ถ้าเพื่อปกป้องเขาแล้วต่อให้ต้องเจ็บตัวมากกว่านี้...มีบาดแผลมากกว่านี้ก็ไม่เป็นไร


    ต่อให้ต้องเจ็บไปมากกว่านี้ก็ไม่เป็นไร!!

     

     



    ดวงตาของคริสโตเฟอร์จ้องมายังลิเลียอย่างสับสนและไม่เข้าใจก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานมือที่เคยเอื้อมไปจับใบหน้าของตัวเขาเองจะตกลงไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว


    ขอโทษนะ...


    ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเบาๆขณะที่กำลังจัดท่านอนให้กับลิเลียที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บ คริสขอโทษลิเลียเพราะสาเหตุที่เธอต้องมาเจ็บตัวเป็นเพราะตัวเขาเอง  ถ้าหากว่าเขารีบจัดการยูริก่อนที่อีกฝ่ายจะหลุดออกมาได้มันก็คงจะจบไปแล้วแท้ๆ


    ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเกิดลังเลขึ้นมาระหว่างที่กำลังสู้กับยูริ...ถ้าไม่ใช่เพราะเขาที่ไม่กล้าฟันยูริล่ะก็...เรื่องทุกอย่างคงจบลงไปแบบที่ลิเลียไม่ต้องเจ็บตัวแล้วแท้ๆ...


    ใช่...เขาก็แค่ต้องจบการทดสอบก่อนที่ลิเลียจะไม่ไหวเท่านั้น


    คริสโตเฟอร์อาจจะไม่รู้ตัวว่าในตอนนี้ตัวเขากำลังจ้องไปยังยูริด้วยสายตาแบบไหนกันแน่  ดวงตาสีเหลืองอำพันดุจดั่งสัตว์ป่ากำลังจ้องไปยังยูริด้วยความโกรธเกรี้ยวอันเยือกเย็น  มันเป็นดวงตาที่ราวกับเพชรฆาตที่กำลังเตรียมจะฆ่าใครซักคนก็ไม่ปาน


    ซึ่งมันน่าขนลุกมากเสียจนแม้กระทั่งยูริที่กำลังบุกเข้ามาต้องหยุดชะงักและถอยหลังออกไปเพราะรับรู้ได้ถึงความอันตรายผ่านสัญชาตญาณในตัว


    นั่นมัน!?”ยูริเอ่ยขึ้นมาอย่างตกตะลึงหลังเห็นสิ่งที่คริสโตเฟอร์เอาออกมา


    มันคือกล่อง...กล่องและแหวนที่ถูกจุดไฟธาตุวายุขึ้นมา มันเป็นเรื่องที่ยูริไม่อยากจะเชื่อว่าคริสโตเฟอร์จะมีมันเช่นเดียวกับเรื่องที่คริสโตเฟอร์เป็นคนของโลกเบื้องหลังเช่นเดียวกันกับเธอ!


    เปิดกล่องชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบขณะที่สายตายังคงจ้องไปยังยูริที่อยู่เบื้องหน้าไม่วางตา


    เปลวเพลิงสีแดงถูกใส่เข้าไปในกล่องพร้อมกับปรากฏมีดสั้นธาตุวายุอยู่หนึ่งคู่ คริสปล่อยเปลวไฟดับเครื่องชนของตัวเองเพิ่มเข้ากับมีดสั้นที่ในตอนแรกมีไฟอยู่เล็กน้อยแล้วใช้ปาเข้าใส่ยูริ  แต่จริงอยู่ที่คริสโตเฟอร์นั้นเป็นผู้พิทักษ์วายุ


    นี่มันไฟธาตุเมฆา!?”


    แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้แต่ไฟธาตุวายุเท่านั้นซักหน่อย


    ยูริพูดออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อหลังเห็นมีดที่ถูกปามานั้นกลายเป็นสอง...สี่...และแปดเล่มหลังจากที่ถูกปามายังเธอ หญิงสาวจะหลบมันไม่ได้ยากเลยถ้าหากว่ามันเป็นแค่มีดธรรมดาๆที่เสริมแค่ไฟธาตุวายุที่มีคุณสมบัติแตกแยกและทำลาย


    ความอันตรายของมีดเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณอย่างมากในยามที่มันมีไฟธาตุเมฆาเพื่อเพิ่มรัศมีในการทำลายล้างของมัน


    พื้นรอบข้างเป็นหลุมจากมีดที่ถูกคลุมไว้ด้วยธาตุวายุ ในเวลานั้นยูริเข้าใจในทันทีว่าคริสโตเฟอร์ในตอนนี้ได้ละทิ้งความลังเลทั้งหมดไปแล้ว เหมือนกับเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้...ผู้ชายตรงหน้าเธอตั้งใจจะฆ่าเธอจริงๆ


    หญิงสาวมั่นใจ...มั่นใจอย่างถึงที่สุดว่าคริสโตเฟอร์ในตอนนี้กับคริสโตเฟอร์ที่เธอเคยรู้จักนั้นเป็นคนละคนอย่างแท้จริง  คริสที่ยูริรู้จักนั้นไม่ใช่คนที่มีสายตาของเพชรฆาตที่น่าหวาดกลัวเหมือนกับในตอนนี้  ไม่ใช่คนที่สามารถฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตาเหมือนกับนักฆ่ามืออาชีพอย่างเธอ


    แต่ถึงอย่างงั้นแล้วมันยังไงล่ะ?


    ยูริไม่ได้รู้สึกแย่อะไรอยู่แล้วด้วยซ้ำไป  ความจริงออกจะรู้สึกโล่งใจด้วยซ้ำ  เธอก็ไม่รู้หรอกนะว่าคริสไปเรียนรู้วิธีการใช้แหวนกับไฟดับเครื่องชนมาจากไหน  แต่ว่าพอเห็นคริสให้ความสำคัญกับลิเลียขนาดนั้นแถมยังเก่งขึ้นพอจะอาศัยอยู่ในโลกมาเฟียได้อย่างไม่กลัวใครแบบนี้ก็รู้สึกโล่งขึ้นมาจริงๆ


    ยูริถึงจะเรียกว่าเป็นเพื่อนสนิทกับลิเลียก็คงจะเรียกได้ไม่เต็มปากนัก แต่หลังจากปรับความเข้าใจกันก็มักจะมาเล่าเรื่องหนักใจของตัวเองให้ต่างคนต่างฟังกันอยู่บ่อยๆ  บางครั้งยูริยังเคยมอมเหล้าลิเลียจนได้ฟังเรื่องในอดีตของเจ้าตัวด้วยซ้ำไป


    เด็กน่าสงสาร... บางทีนั่นอาจจะเป็นนิยามแทนตัวตนของลิเลียได้ดีที่สุดก็ได้  ลิเลียเป็นเด็กน่ารักที่ชวนให้ใครๆต่างก็เอ็นดูไม่แพ้ยุยจังที่เป็นลูกสาวของยูกิเลยจริงๆ


    อย่ามัวแต่เหม่อสิชายหนุ่มกล่าวเรียกสติให้กับยูริในขณะที่กำลังใช้มีดสั้นดันดาบที่ฟาดใส่ออกจากตัว


    การต่อสู้กับยูริเป็นไปอย่างยากลำบากพอสมควรเพราะหลังจากที่คริสโตเฟอร์ใช้ไฟดับเครื่องชนไปยูริก็เริ่มใช้ไฟธาตุสายหมอกมาคลุมดาบของตัวเองเพิ่มความแข็งและคมให้กับดาบของตัวเองยิ่งขึ้นไปอีก  ยังดีที่ชายหนุ่มเคลือบไฟธาตุวายุไว้ทำให้มีดสั้นไม่ถูกตัดไปซะก่อน


    คริสมีดวงตาที่พิเศษดังนั้นทันทีที่ถอดคอนแทคเลนส์ออกไปเมื่อไหร่  โลกทั้งใบของเขาก็จะเปลี่ยนไปในทันที  โลกที่เขามองเห็นเป็นโลกที่ไม่ว่าจะพยายามทำใจให้ชินกี่ครั้งๆก็ทำใจไม่ลงทุกที...


    เพราะเป็นดวงตาที่ไม่ใช่ของตัวเองมาตั้งแต่เริ่มดังนั้นกว่าที่เขาจะทำใจชินและมองภาพที่แตกต่างจากในความทรงจำได้มันก็คงอีกนานโขเลยจริงๆ  ก่อนที่คอนแทคเลนส์จะสร้างเสร็จเขาก็ต้องมองเห็นภาพโลกที่เต็มไปด้วยจุดตายบนร่างกายและพลังไฟมาตลอด  ดวงตาที่ทำให้คริสโตเฟอร์ไม่พ่ายแพ้ต่อพลังภาพมายาทั้งมวล


    ชายหนุ่มพุ่งเข้าโจมตีในระยะประชิด  ยูริที่เห็นว่าหากใช้ดาบยาวอยู่อีกต่อไปคงแพ้แน่ๆจึงตัดสินใจชักดาบสั้นที่อยู่ในกระเป๋าหลังออกมาเพื่อใช้ต่อกรกับมีดสั้นทั้งสองที่กดน้ำหนักและแรงลงมาเรื่องๆจนดาบแทบหักลง หากไม่ใช่ว่าคลุมไฟไว้ทัน


    หญิงสาวมองใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ใดๆของคริสแล้วก็อดนึกถึงยูกิไม่ได้  ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายมีดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเธอก็คงอาจคิดว่าเจ้าตัวเป็นฝาแฝดของยูกิไปแล้วแน่ๆ


    และในระหว่างที่ไม่มีใครทันสังเกต...


    อะ-อะไร...กัน?


    ยูริมองดาบที่จ่ออยู่ที่ลำคอของตัวเองอย่างไม่คาดคิดด้วยความตกใจ  คนที่อยู่ข้างหลังกดใบดาบลงให้มันสัมผัสกับผิวของหญิงสาวก่อนจะปรากฏเลือดไหลออกมาเล็กน้อยพอให้รู้สึกเสียวคอขาดเล่น(?)เป็นการบ่งบอกถึงความคมของดาบ


    พวกเราชนะแล้วนะคะ


    ____________________________________________________________________________________________


    กลับมาแล้วค่าาา~! เนื่องด้วยเพราะเราไม่รู้ว่าจะเขียนไปต่อยังไงดีบทนี้มันจึงค้างมาจนถึงตอนนี้  ไรต์ก็ไม่รู้ล่ะนะคะว่าจะอัพอีกทีเมื่อไหร่  แต่ว่าพอห่างจากเครื่องมานานก็เลยอาจจะเขียนไม่เหมือนแต่ก่อน และที่สำคัญก็คือไรต์พล็อตตันแล้วคะ หากมีรีดคนใดมีพล็อตอะไรแจ่มๆให้เราก็รบกวนคอมเม้นมาหน่อยนะ


    ปล. เขียนฉากต่อสู้ไม่เป็นคะ(แต่ก็ยังอุตส่าห์พยายามจนจบบทได้)

    ปลล. ใครเป็นติ่งเซนต์เซย่าเหมือนเราบ้าง? เรากำลังตามหาฟิควายเซนต์เซย่าอยู่(แบบว่าอยากอ่านสุดๆ) ถ้าหากมีรีดคนใดรู้จักและกรุณาก็อยากจะขอให้ช่วยแบ่งปันกันบ้าง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×