ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicEXo]{HunHan}ไม่ว่าจะยังไง...ฉันจะรักนาย

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 89
      1
      24 พ.ค. 57



    Chapter 1

    ผมชื่อ ลู่ฮาน เสี่ยวลู่ฮาน ผมเป็นคนปักกิ่งฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร อันที่จริงก็เคยรวยนะแต่รวยไม่ทันไรก็โดนโกงจนล้มละลายซะก่อน พ่อเครียดหนักจนหัวใจวายตายตอนที่ผมอยู่มอปลายปีหนึ่ง

    .

    .

    ตอนนั้นทุกๆอย่างมันดูแย่ไปหมด แม่เองก็แทบจะฆ่าตัวตายตามพ่อแต่ยังดีที่ท่านคิดถึงผม เราเหลือกันอยู่แค่สองคน ไม่ใช่ว่าผมไม่เสียใจนะแต่ผมเสียใจกับเรื่องนั้นมาเป็นปีๆแล้วจนตอนนั้นผมเรียนไม่รู้เรื่องเลยเกรดตกฮวบจนจะจบจากโรงเรียนแล้ว สุดท้ายพอผมรู้ว่าแม่แทบจะไม่มีเงินส่งผมเรียน ผมจึงตัดสินใจสอบชิงทุน ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าทุนอะไร ฟังดูบ้าป่ะ? ตอนนั้นผมคิดแค่ว่าเรียนอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องให้แม่เสียตังค์ผมก็เรียนได้หมดนะแหละ

    .

    .

    แล้วทุนที่ว่านั่นมันก็ส่งผมเรียนจนจะจบมหาลัยอยู่แล้ว

    .

    และยิ่งไปกว่านั้นมหาลัยที่ว่าก็ไม่ได้อยู่ที่ปักกิ่ง มันอยู่ที่โซล เกาหลี

    .

    ผมมาอยู่ที่นี่สามปีแล้วเรียนนิเทศผมชอบถ่ายภาพตอนแรกก็แค่เรียนๆไปแต่พออยู่กับมันเยอะๆผมก็ตกหลุมรักมันซะแล้ว

    ช่วงแรกๆก็ลำบากหน่อยเรื่องค่าใช้จ่ายที่พักที่กิน

    แต่อาจารย์ที่นี่ใจดีมากจัดสรรให้ทุกอย่าง

    ในมหาลัยมีหอพักนักศึกษา และข้างๆมหาลัยก็เป็นที่ทำงานของผม ร้านชานม ที่อาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำมา ผมทำงานที่นี่มาตั้งแต่ย้ายมาแล้ว ฟังจากชื่อแล้วเหมือนเป็นร้านที่ไม่ค่อยมีคนเข้าและรายได้ไม่ดี แต่เปล่าเลยร้านนี้คนเข้าเช้าสายบ่ายเย็นยันดึกเสาร์อาทิตย์นี่ไม่มีโต๊ะว่างเลยผมเลยไม่ขัดสนเรื่องเงินเท่าไหร่

    .

    .

    ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งเป็นคนเกาหลีแต่หน้าตาตี๋น้อยมากๆ เขาชื่อ มินซอก เป็นคนร่าเริงใจดีและเป็นคุณหนูไฮโซ และอีกคนก็คุณหนูไม่ต่างกันร่าเริงแจ๋มใสกว่ามินซอกซะอีก ชื่อแบคยอน แต่สองคนนี้มักจะทะเลาะกันอยู่เรื่อยแต่เขาก็ดูรักกันดี

    .

    วันนี้เป็นวันเสาร์และแน่นอนสถานที่ๆผมสิงอยู่ก็คือร้านชานม ที่ทำงานของผม

    หลังจากเสริฟเมนูสุดท้ายของลูกค้าวีไอพีเสร็จผมก็ลากเก้าอี้มานั่งที่หัวโต๊ะ

    “เป็นไรว่ะ?ทำหน้าแบบนี้ฝันอีกแล้วอะดิ”มินซอกเอ่ยปากถาม

    เฮ้ออออออออ ผมได้แต่ถอนหายใจ

    “ไม่เห็นต้องถามมากเพื่อนแกมันแปลก ฝันแต่เรื่องเดิมๆมาเป็นเดือนๆนี้คราวนี้มีไรใหม่อีกไหมนอกจากถูกขัง ฆ่าตัวตาย ใกล้วันที่หนึ่งแล้ว เผื่อฟลุ๊ค”แบคยอนทำหน้ารอคอยให้ผมเล่า

    “ไม่อ่ะเหมือนเดิม”

    “อ้าวเซงเลย”แบคยอนทำท่าผิดหวังจนมินซอกอดไม่ได้ที่จะเอ็ด

    “แกก็รวยอยู่แล้วจะเล่นทำไมหวย”

    “แกก็ลองถามแม่แกดูดิจะเล่นทำไม เหตุผลของฉันก็เป็นเหตุผลเดียวกับแม่แกนั่นแหละ”

    เฮ้ออออออออออออ

    คุยกันได้แปบเดียวก็ทะเลาะกันอีกแล้ว

    .

    .

    ผมนั่งเท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่างร้าน เห็นรถวิ่งกันขวักไขว้ไปทั่วท้องถนน เห็นนกบินไปเกาะตรงกิ่งไม้ เห็นใบไม้ร่วงลงพื้น เห็นเด็กวิ่งไล่เตะกัน เห็นคนรวยๆคนหนึ่งกำลังขึ้นรถที่ฝั่งตรงข้าม โดยมีคนขับรถมาเปิดประตูให้มีคนตัวโตๆยืนล้อมหน้าล้อมหลังอย่างกับพวกมาเฟียแหนะ แต่เขาหล่อจังผมเป็นผู้ชายยังคิดว่าเขาหล่อเลย แต่ทำไมหน้าคุ้นๆนะ

    ยังไม่ทันจะคิดออกเขาก็หันมามองทางผมไม่สิร้านนี้ที่ผมนั่งอยู่ เหมือนผมคิดไปเองเขายิ้มให้ผมก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นรถ แล้วยานพาหนะสี่ล้อราคาเป็นสิบล้านก็เคลื่อนตัวออกไปจากบริเวรนั้นตามด้วยรถอีกสามสี่คันคงเป็นบอดี้การ์ดแหละตัวใหญ่ๆใส่ชุดดำๆคอนเซปใช่เลย

    .

    ผมมองตามรถคันนั้นจนมันลับสายตาไป

     

     

    “...........................”

    รู้สึกเหมือนมีใครสะกิด

    “ลู่ฮานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!

    “เฮ้ยอะไร?ตะโกนใส่หูฉันทำไม??”ผมเอามือปิดหูแทบไม่ทัน มินซอกกับแบคยอนเล่นรวมใจกันตะโกนจนขี้หูผมเต้นระบำหมดแล้ว

    “ก็เรียกดีๆไม่ตอบเอง .. จะบอกว่าจะกลับก่อนนะ รายงานยังไม่เสร็จส่วนอิหมินนี่ก็ขอยืมมันหน่อยนะเพราะวิชานี้มันได้เอบวก กลับคนเดียวก็ระวังๆด้วยหละไปละ”แบคยอนพูดๆๆๆๆๆเสร็จก็คว้ามินซอกออกไปด้วย และไม่ลืมที่จะโบกมือบ๊ายๆก่อนขึ้นรถไป

    .

    ผมเก็บแก้วบนโต๊ะแล้วเอาไปไว้หลังร้าน แต่ก่อนหน้าที่ล้างก็เป็นของผมแหละแต่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะผมอยู่ปีสามเกือบจบแล้วและตอนนี้ก็กำลังจะหาที่ฝึกงานเลยไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่แล้วก็โชคดีของป้าเจ้าของร้านที่มีหลานชายมาอยู่ช่วย

    เป็นเด็กผู้ชายน่ารักๆๆคนหนึ่งชื่อ คยองซู นิสัยก็ดี เรียนก็เก่งที่ผมรู้ก็เพราะบางทีน้องเขาก็เอาการบ้านมาถามผม ซึ่งกว่าผมจะคิดออกน้องเค้าก็คิดออกเองก่อน ไม่เข้าใจจะเอามาถามทำไม

    .

    “ป้าครับผมกลับก่อนนะ พอดีต้องไปทำการบ้านหน่อยน่ะ”ผมตะโกนบอกป้าเจ้าของร้านที่อยู่ข้างหน้าร้านก่อนจะหยิบนู้นนี่นั่นของผมใส่กระเป๋าสะพาย

    “อ้าวหรอ งั้นกลับดีๆนะลูก”คุณป้าใจดีและรักผมเหมือนลูกผมก็เห็นท่านเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งในครอบครับเช่นกัน

    “พี่ไปนะ”ผมบอกลาคยองซูก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับกล้องตัวใหญ่ที่ผมสะพายคล้องคอไว้

    .

    .

    .

    การบ้านที่ว่าก็คือถ่ายภาพช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดินในมุมต่างๆให้ได้ความรู้สึก อบอุ่น ลึกลับ น่าค้นหา เฮ้อไม่เข้าใจอาจารย์จะเอาอะไรเยอะแยะแต่ก็ช่างเถอะผมชอบถ่ายรูปหนิ บางทีผมก็ถ่ายรูปขาย รับจ้างถ่ายรูปตามงานต่างๆได้เงินมาพอสมควรก็ส่งให้แม่บ้าง

    .

    ในช่วงที่เดินไปตามถนนทางคนเดินผมก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายโน้นนี่นั่นอีกตามเคยแบบนึกสนุก

    เดินมาสักพักผมก็หยุดอยู่หน้าสวนหย่อมขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยดอกไม้และแสงสีส้มจากพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้าก็ช่วยทำให้บรรยากาศมันโรแมนติก ดูอบอุ่นตรงตามคอนเซปเปะ ยิ่งมองเข้าไปข้างในก็จะเห็นเหมือนเรือนเพาะชำซึ่งดูแล้วลึกลับน่าค้นหาโอ้วเริ่ด

    ผมยกกล้องเตรียมจะถ่ายภาพแต่จู่ๆ

     

     

    เอี๊ยด โครม

     

     

    ก็มีรถพุ่งขึ้นมาบนฟุตบาทชนเข้าที่หลังผมเต็มๆ

     

    ผมล้มลงกับพื้นทันที ชาไปทั้งตัว รู้สึกหนักที่หนังตาจนอยากจะหลับมันลง แต่ก่อนที่ผมจะหลับผมก็ยังพอได้ยินเสียง เสียงทุ้มๆของใครสักคนเอ่ยถามผมว่าเป็นไรไหม

    เสียงคนมากมายวิ่งเข้ามาเหมือนกำลังทำร้ายผู้ชายเสียงทุ้มคนนั้น

    เสียงรถอีกหลายคันที่ตามมาเกิดความวุ่นวายผมคิดว่าพวกเค้าคงกำลังตีกันจน

     

     

    ปังงงง

     

    เสียงปืนหนึ่งนัดที่ดังขึ้นก่อนสติผมจะดับไป

     

    ……………………………………………………………….

     

     

     

     

    เย้ๆในที่สุดเราก็แต่งตอนที่หนึ่งได้#ปรบมือ

    มันสั้้นมากเลยง่ะ

    มันอาจจะยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่

    ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะค่ะ

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน

    ไปอ่านตอนต่อไปกัน



    themy  butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×