ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [sf exo] ❥ hello love stories ( chanbaek )

    ลำดับตอนที่ #52 : [SF] KISS ME AGAIN : CHANBAEK

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.87K
      29
      9 พ.ค. 59

    KISS ME AGAIN

     

    AUTHER : KYUTY
    COUPLE : CHANYEOL x BAEKHYUN
    RATE : PG-18
    NOTE :
    ไฟนอลไง ทำทุกอย่างที่ไม่ใช่อ่านหนังสือ 55555555555555555555555

















     

    “ชานยอล น้ำ” ขวดน้ำขนาดพอดีมือถูกส่งให้ หยดน้ำจากขวดกระเด็นโดนคนที่เพิ่งนั่งพักได้ไม่ถึงห้าวินาที เจ้าของชื่อมองขวดน้ำจากมือเล็กก่อนจะคว้ามาโดยไม่เอ่ยคำขอบคุณหรือแม้แต้มองหน้าด้วยซ้ำ

     

    ก็รู้อยู่ว่าใครเอามาให้ ผู้จัดการซื่อบื่อประจำชมรมนั่นแหละ

     

    “โฮซอก น้ำ”

     

    “นัมจุน น้ำ”

     

    แล้วก็จะได้ยินรูปประโยคเดิมๆไปจนครบทั้งทีม ผู้จัดการเสียงแจ๊วไม่มีตกบกพร่อง ไม่รู้จะต้องพูดชื่อทุกคนพร้อมคำว่า น้ำ ด้วย ทั้งที่ยื่นให้ก็จบ

     

    “วันนี้พอแค่นี้ ฝนจะตกแล้ว ไปๆกลับบ้าน” เสียงโค้ชดังมาจากทางหน้าประตูโรงยิม เห็นไกลๆว่าแกสะพายกระเป๋าเรียบร้อย สงสัยเมียโทรตามให้รีบกลับบ้าน

     

    ทุกคนที่ได้ยินก็ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องล็อคเกอร์ ตัวเขาก็ด้วย เดินไปจนถึงประตูก็ไม่วายหันกลับไปมองผู้จัดการตัวเล็กในเสื้อสีส้มแปร๊ดที่เดินเก็บลูกบาสอยู่

     

    “ไม่เรียกพวกนั้นมาเก็บ”

     

    จนแล้วจนรอดก็เดินกลับมาแล้วก็หยิบลูกบาสที่อยู่ใกล้ที่สุดขึ้นมาแล้วโยนใส่รถเข็น บยอนแบคฮยอนเห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มขึ้นมา มือก็เก็บไปเรื่อยๆ มองชานยอลช่วยเก็บไปเรื่อยๆ

     

    “ไม่ต้องช่วยก็ได้ พวกนายซ้อมเหนื่อยแล้ว นี่หน้าที่เรา” ยกลูกบาสขึ้นมาโชว์แล้วโยนใส่รถเข็นเหมือนที่ชานยอลทำ แต่มันดันกระเด็นไปที่อื่นแทน

     

                “แหะ แค่นี้ยังโยนไม่เข้าเลย นายไปเถอะ ฝนจะตกแล้ว ดูนู่นสิ” ชี้ไปที่ท้องฟ้าสีครึ้ม กลิ่นดินเริ่มมาตามลมบ่งบอกว่าฝนใกล้จะเข้ามาแล้ว

     

                ชานยอลเลยยอมให้อีกคนเก็บต่อไป เขาเหนื่อยจริงๆนั่นแหละ วันนี้โค้ชให้เขาเล่นทั้งเกมส์ไม่ยอมให้เปลี่ยนออกเลย ตอนนี้ล้าไปทั้งตัว

     

               

     

     

     

    KISS ME AGAIN

     

     

     

     

     

                “วันนี้ซ้อมถึงหนึ่งทุ่มพอ แล้วก็น้ำบริการตนเอง อ้อ เก็บลูกบาสด้วยนะ” ยังไม่ทันได้วางกระเป๋านักเรียนดีเสียงโค้ชก็ตะโกนเข้ามาให้ห้องล็อคเกอร์ ชานยอลขมวดคิ้วทันทีที่ฟังจบ นั่นมันหน้าที่ผู้จัดการไม่ใช่เหรอ

     

                “โค้ชครับ ทำไมพวกผมต้องทำเองหมดเลยครับ”

     

                “แบคฮยอนไม่สบาย วันนี้มาไม่ได้ ท่าทางจะหนักอยู่ เอ้อชานยอล ครูฝากไปดูแบคฮยอนด้วยนะ”

     

                “อ้าวโค้ช ไมต้องผมล่ะ”

     

                “นายเป็นบัดดี้แบคฮยอนนี่ กฎว่าไง บัดดี้ต้องดูแลกันและกัน เลิกซ้อมแล้วรีบไปดูเลย รู้ที่อยู่ใช่มั้ย”

     

                ชานยอลพยักหน้ารับ มันมีกฎว่าทุกคนต้องมีบัดดี้กันและต้องรู้ทุกเรื่องของบัดดี้เผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้ช่วยกันทัน สร้างความสนิทและกลมเกลียวกันในทีม ไม่ว่าจะนักกีฬาด้วยกันหรือผู้จัดการก็ตาม รวมถึงโค้ชด้วยนะ ยังดีที่เขาจับฉลากไม่ได้คู่กับโค้ช รายนั้นคู่กับนัมจุน ก็ซวยกันไป แต่เขาก็ถือว่าซวยนะ ดันจับได้ชื่อบยอนแบคฮยอน ตัวอันตรายอันดับ 1 ของเขาเลย ทำไมน่ะเหรอ...

     

                ก็เขาดันไปแอบชอบแบคฮยอนน่ะสิ ชอบแบบคลั่งไคล้เลยด้วย แต่ไม่กล้าบอก ให้ตายยังไงก็ไม่กล้า

     

                “มึงๆ ของใหม่ครับ กูโหลดลงเครื่องเรียบร้อย” ช่วงพักที่โค้ชปล่อยฟรี 20 นาที จองโฮซอกตั้งไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดของตัวเองไว้แล้วกวักมือเรียกเพื่อนให้มานั่งดูอย่างที่ทำบ่อยๆ

     

                ของใหม่ที่ว่าก็คือพวกหนังติดเรทอะไรแบบนั้น ไอ้นี่เซียนของแบบนี้เลย มีมาอัพเดทใหม่ตลอด ซึ่งเพื่อนก็ชอบกัน ของหาดูยากของแรร์แบบนี้ มีเหรอจะพลาดกัน

     

                “ห่าชานยอล อย่าลีลา มานั่งๆ ก่อนโค้ชจะเข้ามา”

     

                ตามนั้น ใครๆก็ดูกัน

     

     

     

     

     

    KISS ME AGAIN

     

     

     

     

     

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก

               

                เงียบ

     

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

                แอด....

     

                “ใคร...ครับ”

     

                “ฉันเอง...เข้าไปได้...มั้ย”

     

                “หื้อ...อือ...” คนตัวเล็กตอบเนือยๆพลางขยี้ตาไปด้วย มือเล็กปล่อยลูกบิดประตูให้อีกคนเข้ามาแล้วตัวเองก็เดินโงนเงนแล้วก็ฟุบลงไปบนเตียง

               

                ปาร์คชานยอลมีอาการประหม่าแบบเห็นได้ชัด แต่ใครจะเห็นก็ในเมื่อเจ้าของห้องหลับไปแล้ว หลับไปทั้งแบบนั้นแหละ แบบไหนรู้มั้ย แบบที่ใส่เสื้อบาสของทีมเขาที่มันตัวใหญ่เกินไซต์เจ้าของเพราะสั่งมาผิดเบอร์ แขนกว้างจนแทบจะถึงเอว ปลายเสื้อยาวคลุมกางเกงขาสั้นใส่นอนเกือบมิด ใบหน้าหวานที่เคยซีดก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ ปลายจมูกแดงก่ำ ยังไม่รวมริมฝีปากที่ฉ่ำวาวเพราะพิษไข้ จากที่เคยเห็นแบบขาวๆตอนนี้แดงทั้งตัว

     

                จะ-บ้า-ตาย

     

                ยกมือขึ้นลูบอกตัวเองแล้วถอดกระเป๋าวางไว้แถวนั้น โค้ชบอกให้มาดูแบคฮยอน งั้นเริ่มจากการวัดไข้ก่อนแล้วกัน ดูแล้วคงไม่สบายหนักจริงๆ

     

                เห็นซองยากับแก้วน้ำที่วางอยู่ข้างเตียงก็คิดว่าที่แบคฮยอนสลบไปขนาดนี้คงเพราะฤทธิ์ยา ถึงได้ดูอึนๆมึนๆ ถ้าเกิดว่ามีคนอื่นมาเคาะประตูมันจะเป็นยังไง ป่วยจนไม่ระวังตัวเองเลย

     

                “อื้อ” ปัดสิ่งที่รบกวนตัวเองออกอย่างรำคาญ ร่างเล็กบิดกายไปมา คิ้วขมวดเพราะรู้สึกไม่สบายตัว ร้อนจนคนที่นั่งอยู่ที่ข้างเตียงต้องหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้

     

                “เวร...” เช็ดได้ไม่ถึงไหนก็ต้องรีบหยุดตัวเอง หยุดสมองตัวเองให้เลิกคิดอะไรแปลกๆ ก็ร่างกายแบคฮยอนมันโคตรของโคตรน่ามอง ตัวเล็กตัวบางแถมตอนนี้ยังเปร่งฟีโรโมนส์ออกมาจนหน้ามืดตามัว หัวคิดไปถึงหนังของไอ้โฮซอกที่เพิ่งดูเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา นางเอกดันตัดผมซอยสั้นเหมือนแบคฮยอนตอนนี้อีก เมื่อกี๊เขาจินตนาการถึงร่างกายใต้เสื้อบาสนี้ไปแล้วด้วย...

     

                “ช...ชาน...” เสียงแหบพร่าเอ่ยเบาๆ ดวงตาเรียวปรือขึ้นมองแบบคนไม่ค่อยมีแรง ฝ่ามือร้อนของคนป่วยยกขึ้นมาวางทับมือชานยอลที่ยังจับผ้าชุบน้ำอยู่ตรงลำคอขาว เผยอปากเล็กน้อยเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่ภาพนั้นทำเอาสติของใครบางคนขาด...

     

                “โทษนะ” พูดจบก็โน้มตัวลงปิดกลีบปากบางที่อ้าออก ไอร้อนในโพรงปากแผ่เข้าหาจนอดใจไม่ไหว เรียวลิ้นกวาดต้อนอย่างจาบจ้วง รู้สึกได้ถึงแรงสั่นน้อยๆของคนใต้ร่าง มือหนาไล่ลงไปจนถึงขอบเสื้อ จัดการดึงมันขึ้นช้าๆ สัมผัสเข้ากับร่างกายร้อนผ่าวที่เนียนละเอียด

     

                “อือ” เสียงครางเบาๆของคนป่วยทั้งที่ยังหลับตา ลิ้นเล็กเกี่ยวตวัดกลับไปตามสัญชาตญาณ เสียงจ๊วบดังจนสมองเบลอ ชานยอลดูดดันลิ้นเล็กไม่หยุด ขบเบาๆที่ริมฝีปากล่างแล้วก็ส่งลิ้นเข้าไปอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

                แบคฮยอนขยับตัวหนีฝ่ามือที่เย็นเฉียบที่กำลังลูบขึ้นมาเรื่อยๆ รู้สึกหนาวนิดหน่อยเหมือนกับร่างกายไร้สิ่งปกปิด ริมฝีปากผละออกอย่างอ้อยอิ่งพร้อมน้ำลายที่ติดมุมปาก กดจูบลงไปที่คางไล่ลงมาจนถึงลาดไหล่ อดไม่ได้ที่จะขบกัดเบาๆจนเป็นรอยจางๆ แล้วกลับขึ้นไปขโมยลมหายใจคนป่วยอีกรอบ รอบนี้ทั้งดุดันทั้งร้อนจนมือเล็กขยำผ้าปูเตียงแน่น

     

                “ฮะ...” หลังจากได้รับอิสระโดยที่ใบหน้าอีกฝ่ายยังไม่ห่างออก ร่างเล็กยังคงไม่มีสติมากพอจะพูดหรือทำอะไร ได้แต่มองแล้วหอบหายใจอย่างหนักหน่วง

     

                “เวร เวร เวร” เหมือนกับพอได้มองหน้าสบตาแล้วสติกลับมา ชานยอลลุกขึ้นยืนอย่างไว ส่วนแบคฮยอนก็หลับไปอีกรอบเพราะความเหนื่อย ทิ้งไว้แต่คนที่ยืนอึ้งแดกกับการกระทำตัวเอง

     

                “กู...กู....เหี้ย....ไอ้เหี้ย”

     

                แค่เขาพูดว่าชานบวกกับทำตาปรือๆเผยอปากนิดหน่อยนี่ถึงกับไปปล้ำจูบเขาเลยเหรอวะ!!

               

     

     

     

     

    KISS ME AGAIN

     

     

     

     

     

                “อ้าวแบคฮยอน หายแล้วเหรอ”

     

                “ครับ ไม่รู้เหมือนว่าทำไมหายไว”

     

                “ดีแล้วๆ อ้าวเฮ้ยไอ้พวกนั้นน่ะ ห้ามอู้ วิ่งต่อ” แล้วโค้ชก็หันไปสนใจคนอื่นต่อ แบคฮยอนเลยเดินมานั่งที่สแตนเชียร์ในโรงยิม

     

                “สวัสดีชานยอล”

     

                “อืมสวัสดี” พูดจบก็รีบลุกขึ้น ให้ตายยังไงก็ไม่กล้าสู้หน้า แบคฮยอนไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไงถึงได้ทักทายเขาหน้าตาเฉยแบบนี้

     

                “เดี๋ยวชานยอล เราขอถามไรหน่อยดิ” ร่างเล็กรีบเดินไปตัดหน้า เขามีข้อสงสัยนิดหน่อยที่ติดในหัวตั้งแต่ตื่นมา ต้องถามให้รู้เรื่อง

     

                “อะ...อะไร”

     

                “เมื่อวานชานยอลได้มาหาเรามั้ย...”

     

                “...”

     

                “คือเราจำไม่ได้อะ ไม่รู้ว่าฝันหรือเรื่องจริง”

     

                แบคฮยอนบอกว่าฝันเหรอ...แสดงว่าตอนนั้นไม่ค่อยมีสติสินะ...งั้นหมายความว่า...

     

                “นายจำอะไรได้บ้าง”

     

                “อืม...เราคิดว่าเราเห็นชานยอลมาห้องเราอะ อ่า จำได้แค่นี้”

     

                “ฉันว่านายจำผิดแล้วล่ะ ฉันไม่ได้ไป”

     

                แบคฮยอนไม่รู้ว่าเขาทำอะไรลงไป! ฉะนั้น! กูรอด!

     

                “เหรอ แล้วรอยที่ไหล่นี่มาไงอะ” แบคฮยอนก้มหน้าแล้วพูดเบาๆกับตัวเอง

     

                “อะไรนะ”

     

                “เปล่าๆ นายไปซ้อมเหอะ”

     

                หลังจากคุยกันเสร็จ ชานยอลคิดว่าจะรอดตัวแล้ว แต่เปล่าเลย เขาคิดผิดถนัด เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะไม่ว่าชานยอลจะทำอะไร เดินไปทางไหน หรือวิ่งรอบโรงยิม ก็ถูกสายตาของแบคฮยอนจับจ้องไม่มีขาดตกบกพร่อง มองตลอดเวลา มองตาใสด้วยนะ มองเหมือนสงสัย บางก็มองไปขมวดคิ้วไปเหมือนคิดอะไรอยู่ เรียกได้ว่าสร้างความหวาดระแวงให้แก่คนถูกมองเป็นอย่างยิ่ง ขนาดว่าแกล้งจ้องกลับแบบไม่พอใจแบคฮยอนยังไม่สะทกสะท้าน ยังคงมองต่อไป แล้วไงล่ะ เขาไม่กล้าถามแน่ๆว่ามองอะไร กลัวคำตอบมันโยงกลับไปหาเรื่องเมื่อวาน ฉะนั้นจะขอไม่เสี่ยงถามดีกว่า

     

                “มึงไปทำไรแบคฮยอนวะ” พอมีโอกาสพัก เขาก็รีบเดินหนีไปทางหลังโรงยิม ก่อนเดินมามองอย่างเรียบร้อยแล้วว่าแบคฮยอนไม่เห็นแน่ๆ แล้วไอ้นัมจุนก็เดินตามมานั่งด้วย

     

                “ไรของมึง”

     

                “ก็ดูดิ จ้องมึงจนท้องจนคลอดแล้วมั้ง ไปทำไรมา หรือว่า มึงไปข่มขืนเขามา!

     

                “เหี้ย! กูไม่ได้ทำ!!

     

                “โอ่ยเบาๆ ถ้ามึงจะพิรุธขนาดนี้ ไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำ หูจะแตก” ว่าแล้วเพื่อนเขาก็เดินไป

     

                “สะดุ้งแรงเนาะ”

     

                “เฮ้ย” แล้วก็สะดุ้งอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงจากข้างหลัง หันมาเจอแบคฮยอนยืนเอียงคอมองเขาอยู่

     

                “มา...มาตั้งแต่เมื่อไร”

     

                “ตั้งแต่นัมจุนถามว่า มึงไปทำไรแบคฮยอนวะ” อ่อ ตั้งแต่แรก ถุ้ย!

     

                “เอ่อ..”

     

                “นายไปหาเราเมื่อวานใช่รึเปล่า”

     

                “เปล่า บอกแล้วไงว่าไม่ได้ไป”

     

                “เหรอ แล้วนี่...มาอยู่ในห้องเราได้ไง” กำไลข้อมือสีดำที่สลักชื่อว่า PCY อยู่ในมือแบคฮยอนที่ชูขึ้นมา

     

                ฉิบ-หาย

     

                “...นายเอาไปตอนไหน” เออ กูหน้าด้าน กูจะไม่ยอมรับจนกว่ากูจะหมดหนทาง

     

                “ไม่รู้ดิ ตอนที่นายขึ้นมาบนเตียงเรารึเปล่า”

     

                ตรงประเด็นจังครับแบคฮยอน ไหนบอกจำไม่ได้ครับผม

     

                “โกหกเราทำไม มาก็บอกดิว่ามา” ปากก็บ่นไป ส่วนกำไลก็ใส่เข้าข้อมือตัวเองเหมือนจะไม่ยอมให้คืนจนกว่าจะพอใจ ก่อนจะยกขึ้นมากอดอกแล้วจ้องหน้าอีกครั้ง คราวนี้ทำหน้าดุแถมมาด้วย

     

                “ชานยอลทำอะไรเราบ้าง”

     

                “ทำอะไร ไม่เข้าใจ” เออ กูจะยอมรับว่าไปหาจริง แต่เรื่องอื่นยังไม่ยอมเว้ย

     

                “เราป่วย เรากินยาแล้วง่วงสุดๆเลย อย่างกับยานอนหลับ แต่เราก็พอจำได้ลางๆนะว่าชานยอลขึ้นเตียงเราอะ”

     

                “อ๋อ เช็ดตัวไง ตัวนายร้อยเลยเช็ดให้”

     

                “แล้วหลังจากนั้น...” หลังจากนั้นก็มันส์เลยครับ...

     

                “ฉันก็กลับ”

     

                “ถ้าเช็ดแล้วกลับเลยแล้วรอยที่ไหล่เรามาไงอะ ชานยอลบิดเนื้อเราเล่นเหรอ”

     

                เอ่อ หมั่นเขี้ยวไง เลยบิดอะ ถุ้ย

     

                “ทำรอยเราถูกมั้ย ใช้ปากทำใช่มั้ย”

     

                “เฮ้อ...ใช่...” ยอมแพ้ก็ได้ ถ้าจะไล่ต้อนและพูดตรงขนาดนี้ กูยอมมมมมมมมมมม

     

                “แล้วทำไรอีก เราตื่นมาปากบวมเจ่อเลย”

     

                “เออจูบ”

     

                “จูบไง” เปิดมางี้พี่มีจัดให้นะครับ

     

                “ให้ทำให้ดู?” แกล้งเดินเข้าไปประชิดตัว แล้วแบคฮยอนที่ยืนวางท่าอยู่ก็รีบถอยหลังจนไปชนผนังตึก เหมือนคดีพลิกวะ...

     

                “ถอยเลย”

     

                “ไม่ แล้วที่ถามๆมาทั้งหมดจะเอาไงต่อ”

     

                “..”

     

                “เอาเรื่องมั้ย ก็ไม่เห็นโวยวายนี่ เอ จะว่าไป ตอนที่เราจูบกันนายก็จูบตอบฉันนี่ หรือว่ารู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก”

     

                “เราเพิ่งนึกออก...เถอะ...” เงยหน้ามาเถียงก็เจอใบหน้าหล่อคมเข้ามาซะใกล้ รู้ตัวว่าเสียท่าอีกฝ่ายก็กลับลำไม่ทัน แบคฮยอนได้แต่ยืนตัวแข็งเป็นหิน

     

                “คราวที่แล้วน่ะลักหลับ คราวนี้ต่างหากของจริง”

     

                ร่างเล็กหลับตาปี๋เมื่อโดนจู่โจมทันที ไม่ต้องออกแรงกลีบปากบางก็เปิดออกให้อีกฝ่ายได้ลุกล้ำเข้าไป รสชาติเมื่อวานกลับมาอีกครั้ง เสื้อบาสตรงอกถูกขย้ำจากฝ่ามือเล็ก จับเรียวหน้าเล็กให้เอียงรับรสจูบมากขึ้นจนแบคฮยอนคล้อยตามจนได้ ถึงจะจูบไม่เก่งแต่ก็ทำให้ชานยอลมีความสุขได้ แค่ยอมให้จูบก็สุขจะตาย นี่จูบตอบด้วย อย่าหวังว่าต่อจากนี้จะรอดจากเงื้อมือชานยอลอีกเลยแบคฮยอน

     

                “กำไลก็ใส่ไว้งั้นแหละ จะได้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ”

     

                “อื้อ” ยังทำหน้าค้อนไม่เสร็จก็โดนจูบอีกรอบ

     

                ตอนแรกคิดว่าการคาดคั้นแบบนี้จะทำให้ชานยอลสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำไป แล้วทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ล่ะ!!

     

     

     

     

     

     

     



















    100%


    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×