ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hemera โหด มันส์ ฮา ภริยาท่านเคาท์!!

    ลำดับตอนที่ #15 : Hemera 13 : ให้ท่านเคาท์เผยความรู้สึกตัวเองบ้างก็ดีเหมือนกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.13K
      3
      12 มี.ค. 58


    Hemera 13 : ให้ท่านเคาท์เผยความรู้สึกตัวเองบ้างก็ดีเหมือนกัน

    รอบข้างเต็มไปด้วยเปลวไฟ เพลิงกาฬโหมไหม้ทุกสิ่ง กลืนกินทุกอย่าง ย้อมโลกให้กลายเป็นทะเลเพลิง

    ที่นั่น บนปล่องภูเขาไฟที่สูงที่สุดในฟานาทอสที่นั่นมีปีศาจร้ายที่เพียงแค่สะบัดกายก็ทำให้แผ่นดินมอดไหม้อาศัยอยู่

    มันทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงฉานเหมือนอาบไปด้วยเลือด ลมหายใจก่อให้เกิดไอร้อนแผ่ขยายไปทั่วบริเวณ เพียงแค่มันขยับตัว เปลวไฟบนร่างของมันก็ลุกโชน ทำลายทุกสิ่งให้กลายเป็นจุณ

    โลกทั้งโลกกำลังถูกแผดเผาด้วยความบ้าคลั่งของปีศาจที่ถูกเรียกขานว่าอสุรกายแห่งไฟ’…

     ‘ไอ้พวกโง่!’

    เปลวไฟยักษ์โหมกระพือ บิดเบี้ยวเป็นรูปลักษณ์ที่น่าสยอง ร่างมโหฬารของมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากมังกรไฟกลายเป็นนกเพลิง จากนกเพลิงกลายเป็นสิงโตยักษ์ ความรุนแรงของไฟทวีมากยิ่งขึ้นจนยากจะหยุดยั้ง เผาผลาญทุกอย่างที่อยู่รอบด้านจนไม่มีเหลือ พร้อมกับส่งเสียงคำรามน่าหวาดหวั่น

    ข้าจะฆ่าพวกเจ้า! ฆ่าไม่ให้เหลือ!!!’

     

    !!

    หญิงสาวสะดุ้งเฮือก ผุดลุกขึ้นจากเตียง ดวงเนตรสีแสดเบิกกว้าง ขณะกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ไม่มีอะไรทั้งนั้น ไม่มีแม้กระทั่งเปลวไฟน่ากลัวนั่น จะมีก็แค่แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างเท่านั้น

    ฝัน

    ใช่ แค่ฝัน

    เพิร์ลลิโซเร่ยกมือขึ้นกุมหน้าผาก หอบหายใจถี่รัว รับอากาศเย็นๆเข้าปอด นึกทบทวนความฝันที่เพิ่งเกิดขึ้นด้วยรู้สึกหนักหน่วงในอก

    อสุรกายแห่งไฟหรือ ปีศาจอัคคีมันคือเปลวไฟที่เปลี่ยนรูปร่างไปได้อย่างไร้ขอบเขต ไม่มีรูปลักษณ์ที่แน่นอน ร่างกายที่ห่อหุ้มไปด้วยเปลวไฟของมันอันตรายกว่าเอาภูเขาไฟทุกลูกมาปะทุพร้อมกันเสียอีก

    มันคือหายนะคือปีศาจที่ปกครองฟานาทอสมาตั้งแต่สมัยโบราณทว่าตายไปแล้ว ตายไปตั้งแต่สงครามก่อตั้งอาณาจักร

    อย่างน้อยทุกคนก็เชื่อแบบนั้น

    เพิร์ลรู้จักมันดี ในสงครามก่อตั้งฟานาทอสเธอก็อยู่ในเหตุการณ์ในฐานะ นักรบแห่งไฟด้วย ตามประวัติศาตร์ฟานาทอสก่อนหน้านี้ถูกปกครองโดยชนเผ่าแห่งหมอกก็จริง แต่นอกจากเผ่านี้แล้วยังมีสัตว์วิเศษอีกสองตัวที่ปกครองพื้นที่นี้อยู่ ซึ่งก็คือนกฟีนิกซ์ แล้วก็ปีศาจอัคคีนี่แหละ

    จริงๆแล้ว ฟานาทอสนับเป็นอาณาจักรที่ใหม่ที่สุดในบรรดาหกอาณาจักรแห่งเฮเมร่า แม้จะเป็นแหล่งพลังธาตุไฟ แต่กลับถูกปกครองโดยคนของเผ่าหมอกมามากกว่าพันปี จึงทำให้การถือกำเนิดในฐานะอาณาจักรแห่งไฟจริงๆ เพิ่งเกิดขึ้นหลังจากสงครามทวงคืนดินแดนเมื่อไม่นานมานี้ แต่ด้วยความที่เสถียรภาพมั่นคง อาณาจักรพัฒนาไว จึงทำให้ฟานาทอสเติบโตทัดเทียมกับอาณาจักรอื่นๆได้ภายในเวลาไม่นาน นี่คือประวัติศาสตร์คร่าวๆของฟานาทอส

    แล้วหลังจากนั้นไม่ถึงปีฟานาทอสก็โด่งดังสุดๆ เพราะว่ามียัยบ้าธาตุไฟคนหนึ่ง เข้าบุกยึดเกาะทางใต้แล้วรวบเป็นอาณานิคมตัวเองหน้าตาเฉย จะใครละ เพิร์ลนี่แหละ!

    เฮ้อเพิร์ลถอนหายใจเฮือกใหญ่ อยากลืมแค่ไหนก็ลืมช่วงที่เป็นเจ้าอาณานิคมไม่ได้จริงๆแฮะ

    ร่างบางผมดำลดมือที่กุมหน้าผากลง ตั้งใจว่าจะไปอาบน้ำ แต่ขณะกำลังมองหาผ้าขนหนู สายตากลับไปสะดุดกับบางสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงแทน มันหน้าตาเหมือนจดหมายที่ถูกม้วนๆ แล้วมีเถาวัลย์กุหลาบตูมพันเอาไว้ ประกายเวทธาตุดินบนจดหมายแผ่ออกมาเต็มที่

    อะไรน่ะ? ดวงตาสีส้มหรี่ลง เลททิต้าธาตุดินเรอะ?

    มองได้ไม่นาน จดหมายธาตุดินฉบับนั้นก็ลอยขึ้นมา กุหลาบที่พันรอบๆเบ่งบาน ก่อนจะคลายตัวออกให้เห็นตัวอักษรสีทองด้านใน

     

              ไปทำพิธีผนึกผลึกวายุที่หอคอย จะรีบกลับมา อย่าลืมกินข้าวเช้านะ

              จาก ซิล

     

    เพิร์ลกวาดสายตาอ่านจนจบ พออ่านเสร็จแล้วก็โบกมือ เปลวไฟเวทเข้าเผาผลาญมันภายในพริบตา แม้จะรู้สึกเสียดายเล็กๆ แต่เพิร์ลก็ไม่รู้จะเก็บมันไว้ทำไม ในเมื่อรับรู้ข่าวสารหมดแล้ว เช่นนั้นเธอจึงก้าวลงจากเตียง ตรงไปที่ห้องอาบน้ำ

    ในเมื่อมีเวลาว่างเธอจะไปไหนดีเนี่ย

    ไปนั่งเล่นแถวๆหอคอยแล้วกัน

     

    ปราสาทแวนเดียร์ถูกสร้างขึ้นให้โอบล้อมปราสาท อันเป็นที่ตั้งของผลึกวายุ ข้างๆหอคอยจะเป็นสวนดอกไม้สวยงาม มีทั้งน้ำพุและสระน้ำไว้ให้พวกผู้ดีในวังพักผ่อนหย่อนใจ มองไปจะเห็นตัวหอคอยตั้งอยู่ไม่ห่าง ด้านล่างมีทหารยามเฝ้ารักษาอย่างเคร่งครัด

    เพิร์ลเลือกนั่งในจุดที่ห่างจากตัวหอคอยพอสมควร เนื่องจากตอนนี้กำลังเป็นเวลาทำพิธี พลังเวททุกธาตุกำลังประสานกันเพื่อเสริมพลังป้องกันแก่ผลึก และหนึ่งในนั้นก็คือกระแสเวทธาตุน้ำที่คนธาตุไฟอย่างเพิร์ลไม่ถูกด้วยมากที่สุด ยิ่งอยู่ใกล้ก็จะยิ่งแย่ พออยู่ในระยะปลอดภัยก็โล่งใจพอสมควร

    วันนี้ปราสาททั้งปราสาทถูกตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสัน ดูมีชีวิตชีวากว่าที่เคย เมื่อกี้ระหว่างทางเดินมา เพิร์ลก็เห็นเถาวัลย์ดอกไม้พันอยู่ตรงบันไดเหมือนกัน อืมได้ยินว่าวันนี้เป็นวันเทศกาล ไม่แปลกถ้าจะมีการตกแต่งแบบนี้ ดูๆแล้วก็สวยไปอีกแบบ โดยเฉพาะตรงยอดน้ำพุที่ทำเป็นรูปเทวดาหัวดอกไม้ชูรักแร้นั่น

    พอนั่งหัวเราะเทวดาชูรักแร้นั่นไปได้สักพัก ก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง พร้อมกับรูปประโยคที่แสนจะคุ้นเคย

    ได้กันแล้วรึ?”

    เฮ้ย!!!”

    อาเถียนเถียนช่างเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

    ประโยคที่สุดแสนจะเป็นเอกลักษณ์ทำให้เพิร์ลเดาได้ไม่ยากว่าผู้พูดเป็นใคร พอหันหน้าไปมอง ก็เห็นร่างในชุดขาวกำลังยกมือขึ้นเท้าม้านั่ง สายตาพราวระยับ จ้องมองมาราวกับจะหาคำตอบ ไม่ช้า เพื่อนนักบวชของเพิร์ลก็พลิกตัวมา หย่อนกายนั่งบนเก้าอี้อย่างคล่องแคล่ว

     “สรุปว่าแกได้กับซิลเวอร์แล้วใช่มะ?” นักบวชแห่งดวงจันทร์ถามย้ำอีกรอบ แล้วก็ตอบเองเสร็จสรรพ เล่นเอาเพ่ยเซียนที่มาด้วยเบือนหน้าหนีด้วยความรับไม่ได้ ก็ว่าแล้วเมื่อคืนก็หลบขึ้นห้องกันไปสองคน อย่าคิดว่าฉันไม่เห็น นี่พวกแกสองคนทนไม่ไหวขนาดนั้นเลยเหรอ?”

    ฮะ…”

    เพิร์ลกำลังจะตอบ แต่ก็โดนแทรกขึ้นมาซะก่อน

    กี่รอบละ?”

    เฮ้ย!”

    ฉันเป็นคนตรง สงสัยอะไรก็ถามตรงๆกี่รอบละ?”

    บอกสิ่งที่คิดอยู่ในใจมากเพื่อน!

    เพิร์ลอ้าปากพะงาบๆ พยายามจะพูดแย้งแต่ก็พูดไม่ออก อำนาจมโนของเถียนเถียนสูงส่งจนเธอไม่สามารถต่อกรอะไรได้ กระทั่งจะพูดยังพูดไม่ออกเลย!

    ต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง เธอไม่เคยมีอะไรกับซิลเวอร์สักครั้งเดียว! กี่รอบงั้นเหรอรอบเดียวก็ไม่เคย! เพิร์ลไม่อยากนอนข้างๆผู้ชายที่ใส่แต่กางเกงในนอนหรอกนะ! แล้วยังมีซิกแพ็คนั่นอาไม่นะ เธอต้องไม่คิดถึงมันสิ

    แต่ทุกสิ่งกลับไม่เป็นไปตามที่หวัง ภาพของซิลเวอร์ตอนที่เปลือยเกือบทั้งตัวแล่นเข้ามาในความคิดทั้งรูปร่างที่ยากจะห้ามใจ กล้ามเนื้อหน้าท้องที่สมบูรณ์แบบ และใบหน้าที่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ

    แกหน้าแดง

    หือ เปล่า!?”

    แย่แล้ว

    แต่เพิร์ลก็รีบเอามือจับแก้ม ท่าทางจะแดงจริงๆด้วย

    นี่แกกำลังคิดถึงคืนนั้นอยู่ใช่มะ? คืนที่ร่างกายเขาเปลือยเปล่า เผยให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบไร้ขีดจำกัด ทุกส่วนสัดวิจิตรน่าตะลึง และความเร่าร้อนที่แฝงมาแบบเนื้อต่อเนื้อฟัดนัวเนีย...”

    เพิร์ลไม่ได้นึกถึงคืนไหนทั้งนั้นแหละ!! เถียนเถียนกำลังจะทำให้บทสนทนาเข้าข่ายสิบแปดบวกเข้าไปทุกทีแล้ว!

    จินตนาการของเถียนเถียนเริ่มจะลึกล้ำเกินขีดจำกัด เพ่ยเซียนที่ยืนอยู่ข้างๆแทบจะหันไปเอาหัวโขกรูปปั้นหินแถวนั้นแก้เครียด เพิร์ลที่รับฟังอยู่ถึงขั้นปั้นหน้าไม่ถูก พยายามอธิบายสุดชีวิต

    ฉันไม่เคยมีอะไรกับมันเว่ยเถียนเพิร์ลหันนิ้วชี้เข้าหาตัวเอง แกมองหน้าฉัน นี่ เป็นไง เห็นความจริงใจในสายตาฉันมะ?”

    นักบวชแห่งดวงจันทร์สวนกลับ แหล วันก่อนฉันยังได้ยินอะไรเมื่อคืนๆ ซิลๆอยู่เลย

    ชะ

    เพ่ยเซียนที่เงียบอยู่นานยกมือขึ้นห้ามทัพ เราเปลี่ยนเรื่องคุยเถอะ คุยเรื่องอะไรดี?”

    นั่นสิ การเปลี่ยนเรื่องก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน ดังนั้นเพิร์ลจึงรีบสนองนโยบาย ทำการเริ่มหัวข้อสนทนาใหม่อย่างรวดเร็ว

    เออ เมื่อวานแกอยู่ในงานเลี้ยงด้วยเหรอเถียน? ทำไมฉันไม่เห็นแกเลย

    แกมองแต่ท่านเคาท์อะดิประโยคนี้ทำให้เพิร์ลผงะ คนพูดค่อยๆ ขยับไม้ขยับมือประกอบ นี่ เมื่อวานฉันใส่เกาะอกสีขาว เดินมากับท่านซันชาริโอ้…”

    เกาะอก?? แกเป็นนักบวชนะ

    เออน่ะ!” เถียนเถียนปัดมือ

    ห้ามมันได้ที่ไหนเพ่ยเซียนเสริมเสียงเหนื่อย มันก็เป็นของมันมาตั้งนานแล้ว

    จริงๆแล้วเพื่อนๆในกลุ่มของเพิร์ลมีสไตล์การแต่งตัวที่ต่างกันออกไป โดยเฉพาะนาซี สาวธาตุมืดที่มักจะแต่งตัวโดดเด่น สวยเฉียบอย่างที่ไม่มีคนคิดว่าจะกล้าใส่เสมอ บวกกับเป็นคนเซ็กซี่ ดึงดูดให้ใครต่อใครเหลียวหลังมองได้ตลอดเวลา

    เพิร์ลน่ะเหรอ? อืม หยิบชุดไหนก็ใส่ตัวนั้น ยิ่งชุดนอนใส่สามวันไม่ซักก็บ่อย ปล่อยตัวตามสบายจนโดนเถียนเถียนที่เป็นเจ้าแม่แฟชั่นบ่นประจำ แต่เธอก็ยังคงยืดอก ใส่ชุดนอนเปื่อยๆ ที่ไม่ได้ซักมาสามวันด้วยความภาคภูมิใจต่อไป

    สรุปแกจะจับท่านซันชาริโอ้ให้ได้ใช่มั้ยเถียน?”

    เออ ฉันจะใช้ความเรียบร้อยไปขอลูกชายเขาแต่งงาน

    เลวว่ะ

    อ้าว…”

    อดีตเจ้าอาณานิคมแห่งไฟนั่งฟังบทสนทนาเงียบๆ คอยแทรกเข้าไปเมื่อมีจังหวะ คำว่าแต่งงานของเถียนเถียนทำให้เธอนิ่งไปเมื่อระลึกได้ว่าเธอก็อาจจะต้องแต่งงานเหมือนกัน

    ปรึกษาเพื่อนหน่อยดีมั้ยนะ?

    เออ นี่พวกแกหญิงสาวเรือนผมสีดำโพล่งขึ้นมา กวาดสายตามองเพื่อนทั้งสองด้วยสีหน้าจริงจัง ถามอะไรหน่อยสิ

    เพ่ยเซียนขมวดคิ้ว หา?”

    เพิร์ลลิโซเร่สูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วเอ่ยออกมาชัดๆ

    ถ้าฉันแต่งงานกับซิลเวอร์ พวกแกจะว่าไง?”

    แล้วเพิร์ลก็ต้องไม่เข้าใจแค่ถามเรื่องแต่งงานกับซิลเวอร์ ทำไมสองคนที่เหลือต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีด้วย? สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจถามซ้ำ

    ถ้าฉันแต่งงานกับซิลเวอร์น่ะ…”

    แต่แม้จะถามย้ำอีกรอบทั้งสองคนก็ยังทำหน้าตาแปลกๆ สักพัก ก็มีเสียงหนึ่งถามขึ้นมา

    อะไรเหรอ?”

    ร่างบางขมวดคิ้ว ด้วยความที่สติยังไม่มาก็เลยตอบเซ็งๆกลับไป

    เอ๊า ก็เรื่องแต่งงานกับซิลเวอร์ไง เนี่ย เดี๋ยวฉันต้องไปขอหมอนั่นแต่งงาน! …หือ?”

    แล้วเพิร์ลก็ชักเอะใจทำไมเสียงนั้นจึงดังมาจากด้านหลัง แถมยังไม่ใช่เสียงเพื่อนเธอ หญิงสาวจึงค่อยๆ หันหลังไปมองตามทิศทางของเสียง ร่างนั้นยืนอยู่ไม่ห่างจากเธอเท่าไหร่นัก สิ่งแรกที่เห็นคือรอยยิ้มมุมปากที่แสนคุ้นตา กับเส้นผมสีเงินที่ล้อมกรอบใบหน้าหล่อเหลานั่น

    ซิล!?”

    เพ่ยเซียนกับเถียนเถียนมองหน้ากันยิ้มๆ ปล่อยให้เธออ้ำอึ้งอยู่คนเดียว ในใจพยายามหลอกตัวเองว่าเขาไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ทั้งๆที่เมื่อกี้เธอนั่นแหละเป็นคนตอบเขาเอง ตอบไปอย่างชัดเจนอีกต่างหาก!

    นักบวชจันทราผายมือ ยิ้มหน้าบานเต็มที่ เชิญตามสบายเลยค่ะท่านเคาท์ ปู้ยี้ปู้ยำมันเลย

    ดวงตาสีแสดตวัดไปยังผู้พูด ไอ้เถียน!”

    ซิลเวอร์ยิ้มขันๆ เอามือวางบนไล่เพิร์ลเบาๆ ยิ่งหันไปเห็นรอยยิ้มบนหน้าเขาแล้วเพิร์ลก็ไม่กล้าตีความ ดูเหมือนซิลเลอร์จะอารมณ์ดีกว่าที่ผ่านๆมาจริงๆ

    อารมณ์ดีเพราะเธอจะขอเขาแต่งงานเนี่ยนะ!?

    สุดท้ายท่านเคาท์ก็ไม่ได้พูดอะไร ก็น่าดีใจในระดับหนึ่งที่เป็นอย่างนั้น โล่งใจไปได้ไม่นาน เถียนเถียนกับเพ่ยเซียนก็หันไปมองหน้ากัน ยิ้มให้กันอย่างรู้ดี จากนั้นก็เดินหนีไปทางอื่น ปล่อยให้เพิร์ลอยู่กับซิลเวอร์สองคน

    นี่มันไม่ดีนะเฟ้ย!!

    เพิร์ลก้าวขา เตรียมวิ่งตาม ทว่ากลับถูกมือแกร่งรวบเอวเข้ามาใกล้ เสียงนุ่มทุ้มกระซิบข้างหู

    แต่งงานกับฉันเหรอ?” ชายหนุ่มเอ่ย เอาสิ

    …..

    เฮ้ยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!

    อ เอาสินั่นคือตกลงใช่มั้ย!? อย่างน้อยก็ช่วยปฏิเสธพอเป็นพิธีสักหน่อยสิ! เธอจะได้เอาเป็นข้ออ้าง ไปบอกเจ้าหญิงฟีนิกเซียได้ว่าอีกฝ่ายไม่เล่นด้วย จากนั้นก็ยกเลิกซะ แล้วตกลงแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?!

    ซิล คือว่านายกำลังเข้าใจผิด…” หญิงสาวพยายามอธิบาย ยกมือยกไม้ประกอบคำพูดรัวๆ แต่กลับไม่มีเสียงอื่นออกจากลำคอนอกจากเสียงอึกอัก ซิลเวอร์หัวเราะ พลางยกมือขึ้นมาสัมผัสแก้มคนตรงหน้าช้าๆ พร้อมกับจ้องไปในดวงตาราวกับจะแกล้งกัน

    เราไปเดินเล่นงานเทศกาลกันก่อน แล้วค่อยคุยเรื่องนี้กันต่อดีมั้ย?”

    คุณพระคุณเจ้า

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยเพิร์ลด้วย

     

    เทศกาลในวันนี้ชื่อว่า ฟลอเรนเดลจัดขึ้นเพื่อระลึกถึงความรักของชายหญิงคู่หนึ่งที่รักกันมาก แต่ฝ่ายชายต้องคำสาปว่าจะต้องตายด้วยน้ำมือของคนรัก มิฉะนั้นแล้วคนที่เขารักต่างหากที่จะต้องตาย

    แต่หัวใจไม่สามารถห้ามไม่ให้ใครเลิกรักใครได้ จนในที่สุด เขาขอให้หญิงคนรักที่เริ่มป่วยหนักเพราะได้รับผลของคำสาปสังหารเขาซะ พร้อมกับขอร้องให้เธอแต่งงานกับคู่หมั้นที่พ่อของเธอจัดหาไว้ให้

    คราแรกหญิงสาวไม่ยอม สุดท้ายเธอก็ต้องจำใจ สองมือกุมมีด สังหารชายคนรักทั้งใบหน้าเปื้อนน้ำตา กล่าวกันว่าหญิงสาวกอดร่างของชายคนรักเอาไว้ หยดเลือดของชายหนุ่มอาบย้อมดอกไม้สีขาวจนกลายเป็นสีแดง ไม่ช้า หญิงสาวก็ตรอมใจตายตามคนรักของเธอไป

    ชาวเทมเพสเทียก็เลยจัดเทศกาลให้เพื่อระลึกถึงรักแท้อันยากจะลืมเลือนของพวกเขา ชื่อฟลอเรนเดลก็มาจากชื่อฝ่ายหญิง ช่วงนี้บ้านเมืองล้วนแต่ถูกประดับด้วยดอกไม้ เน้นหลักๆที่ดอกไม้สีแดงและชมพู เพราะชาวเทมเพสเทียมีความเชื่อว่าดอกไม้สีแดงและสีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ทั่วงานจึงเต็มไปด้วยดอกไม้สองสีนี้ แม้จะมีสีอื่นแซมมาบ้างแต่ก็ไม่มากเท่า เรียกว่าเอาใจคนชอบสีชมพูอย่างเพิร์ลสุดๆ

    อืม เธอชอบสีชมพูจริงๆนะ ถึงมันจะไม่เข้ากับหน้าเลยก็เถอะ

    เสียงดนตรีดังไปทั่วจัตุรัสชวนครึกครื้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ชาวบ้านมากมายในชุดสวยงามเดินขวั่กไขว่เต็มถนน บางครั้งเพิร์ลก็เดินสวนทางกับเอลฟ์ที่มาร่วมงานเหมือนกัน แต่มองหน้าตาไม่ชัดนักเพราะพวกเขาเดินไว เผลอหน่อยเดียวก็มองตามไม่ทันเสียแล้ว

    ถ้าเพ่ยเซียนมาเห็นต้องชอบแน่ๆ ร่างบางคิด ยัยนั่นคลั่งเอลฟ์จะตาย

    เพิร์ล

    เหวอ!”

    หญิงสาวเผลออุทานออกมาเมื่อซิลเวอร์ขยับเข้ามาใกล้ สักพัก ความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาสวมบนหัวก็แล่นเข้ามา ทำให้ร่างบางต้องยกมือขึ้นแตะๆ ก่อนจะพบว่ามันเป็นมงกุฎดอกไม้อีกฝ่ายยิ้มแก้มแทบปริ ดูท่าจะพอใจในผลงานของตัวเองไม่น้อย

    น่ารักดีนะเขาใช้มือจัดมงกุฎบนหัวเธอให้เข้าที่ อย่าถอดละ

    เพิร์ลพยักหน้ารับส่งๆ แอบเอามือเด็ดกลีบดอกไม้บนหัวดูว่าดอกอะไร อืมสีชมพูดอกอะไรละเนี่ย? เธอไม่ค่อยเก่งพฤกษศาสตร์ซะด้วย ขนาดพืชชนิดไหนเป็นใบเลี้ยงคู่ ชนิดไหนใบเลี้ยงเดี่ยวยังไม่ค่อยชัวร์เลย

    ช่างเหอะเรื่องนั้นให้พวกนักเวทพฤกษาเขาศึกษากัน

    ร่างโปร่งจับข้อมือเธอเอาไว้ก่อนจะพาแวะชมจุดต่างๆของงานเทศกาล เพิร์ลเห็นว่ากังหันลมทั่วเมืองถูกทาสีใหม่ ดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม ดอกไม้ประดับดูงามตา แถมยังมีการร่ายรำพื้นเมืองแสดงโชว์เป็นจุดๆ ได้ยินแว่วๆว่าเย็นนี้จะมีพลุดอกไม้ด้วย เป็นงานที่น่ารักจริงๆ

    ความแปลกใหม่ของเทศกาลทำให้เพิร์ลมองซ้ายมองขวาจนเพลิน พอหันกลับมาก็เห็นซิลเวอร์ยิ้มให้เหมือนทุกครั้ง เขายังคงเป็นคนที่ยิ้มเก่งเช่นเคยพอเธอเผลอจ้องรอยยิ้มนั้นจนนิ่งไป ชายผมเงินก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเพิร์ลตกใจ รีบถอยห่าง แต่ก็ถูกเขารั้งเอวเข้ามาชิด

    ระยะสายตาต่อสายตา ซิลเวอร์จับมือเธอเอาไว้ กว่าจะรู้ตัว ดนตรีก็เริ่มบรรเลง

    เต้นรำนี่เอง

    คราวนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ดนตรีที่กำลังบรรเลงอยู่ในตอนนี้เป็นดนตรีพื้นเมือง เล่นกันกลางถนน ไม่เน้นความหรูหราอลังการ ใช้จังหวะที่สนุกสนาน อีกทั้งยังมีหลายคู่ร่วมเต้นด้วย เพิร์ลจึงไม่ค่อยเขินเท่าไหร่ จังหวะกลองหนักๆ ทำให้เธอรู้ว่าต้องขยับตัวแบบไหน ส่วนซ้ายขวาเธออาศัยดูซิลเวอร์เอา

    เก่งแล้วนี่เคาท์หนุ่มเอ่ยชม สนุกมั้ย?”

    เพิร์ลกระทบส้นเท้าลงบนพื้นตามจังหวะกลอง จากนั้นก็สะบัดชายกระโปรง หมุนรอบตัวเองหนึ่งที จังหวะแบบนี้ง่ายกว่าเยอะเลย สนุกดี

    ดนตรีเร่งจังหวะเร็วขึ้น เสียงหัวเราะของคนรอบกายทำให้เพิร์ลเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย พอถึงจังหวะที่ต้องหมุนก็หมุนได้ตรงจังหวะมากขึ้น คนตรงหน้าเธอคลี่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยปากออกมา

    มีอะไรอยากจะบอกเธอสักหน่อย

    คิ้วเรียวขมวดเป็นปม อะไร?”

    ขุนนางหนุ่มดึงตัวเธอเข้ามาหา แรงดึงทำให้หน้าของเพิร์ลชนเข้ากับอกของเขา แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าเขาก้มหน้าลงมาใกล้จนแทบได้ยินเสียงหายใจ มือยังคงจับไว้ไม่ปล่อย

    ชอบเธอนะ ว่าแล้วก็ยิ้มบางๆ “…ชอบตั้งแต่แรกๆที่เราเจอกัน…”

    แค่สองประโยคแค่สองประโยคเท่านั้นแต่ทำให้หญิงสาวหยุดการกระทำทุกอย่าง หัวใจเต้นแรงจนแทบจะออกมานอกอก

    ว่ายังไงนะ??....

    ไม่ปล่อยให้ร่างกายชิดกันนาน เขาเป็นฝ่ายถอยออกพร้อมๆกับเสียงเพลงที่จบลง รอยยิ้มยังคงค้างอยู่บนใบหน้าสมบูรณ์แบบนั่น ไม่เคยมีใครทำให้เธอใจสั่นได้ขนาดนี้ กระทั่งคนรักเก่าอย่างบอเซียสก็ไม่เคย

    ชอบงั้นเหรอ?

    ถ้าเขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เรื่องแต่งงานก็คงดิ้นหลุดยากแล้วละ

     

    ไรท์เตอร์เพิ่งหายไข้ค่ะ พอหายปุ๊บก็ปั่นปั๊บ หวังว่ามันจะออกมาโอเคนะคะ ความจริงตอนนี้จะยาวมากกกกกกก แต่ทบไปเป็นตอนต่อไปแทนแล้วกันเนอะ

    เจอกันตอนต่อไปค่า!
     

    [12/03/2558]

    แอบแวะมารีไรท์กระจึ๋งนึงค่ะ กระจึ๋งนึงจริงๆ (?) ก่อนหน้านี้อาจจะตัดๆไปบ้าง คงเป็นเพราะไรท์เพิ่งฟื้นไข้ด้วยแหละ แฮะๆ ;w; ยังไงก็ตาม ขอขอบคุณคุณ .plawan มากๆเลยค่ะที่ช่วยติติงข้อผิดพลาด ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ขอจุ๊บหน่อยนะคะตัวเอง >3< #ผิดเฟ้ย!

    [12/03/2558]

    แอบแวะมารีไรท์กระจึ๋งนึงค่ะ กระจึ๋งนึงจริงๆ (?) ก่อนหน้านี้อาจจะตัดๆไปบ้าง คงเป็นเพราะไรท์เพิ่งฟื้นไข้ด้วยแหละ แฮะๆ ;w; ยังไงก็ตาม ขอขอบคุณคุณ .plawan มากๆเลยค่ะที่ช่วยติติงข้อผิดพลาด ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ขอจุ๊บหน่อยนะคะตัวเอง >3< #ผิดเฟ้ย!

    ส่วนช่วงอสูรอัคคี ตอนต่อๆไปจะขยายความให้ชัดกว่านี้แน่นอนค่ะ =w=b!

    แล้วเจอกันใหม่นะคะ!

    ☆Holder`
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×