ฟาเรนจิก้า สถาบันมือปราบ (ปิดเรื่อง รีไรท์)

ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ ( แก้ไขแล้ว )

 
          ณ โลกคู่ขนานใบหนึ่ง สิ่งต่างๆได้หลอมรวมกัน ทีละนิด ทีละน้อย เกิดเป็น
ผืนทวีปกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยมหาสมุทรอันไพศาลและแผ่นฟ้า
สีคราม ด้วยสภาพแวดล้อมอันสุดแสนจะวิเศษนี้ หลังจากนั้นชีวิตแรกก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

               วันเวลาผ่านไปสิ่งมีชีวิตเริ่มการ วิวัฒนาการ จนเกิดเป็นเผ่าพันธุ์นับหมื่นนับแสน แต่ที่สุดแล้วก็เกิดเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงขึ้น

           เผ่าพันธ์แรกคือ กูรันต์ เผ่าพันธุ์นี้กำเนิดในอาณาเขตที่แร้นแค้นในทะเลทราย ด้านตะวันออกของทวีป พวกเขานั้นมีผิวหนังที่เป็นเกล็ดบางๆเพื่อรักษาน้ำในร่างกายเอาไว้และผิวหนังมีสีออกแทนหรือแดง พวกเขามีร่างกายที่แข็งแรงทนทานที่สุดในบรรดาเผ่าชั้นสูงอื่นๆ เห็นจะมีผิวหนังของมังกรเท่านั้นที่พวกเขายังเทียบทานไม่ติด

           สองคือ เคออส เผ่าพันธุ์แห่งความมืด ซึ่งอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีป พวกเขานั้นจะมีพลังมากมายหมาศาลเมื่ออยู่ในที่มืดหรือในช่วงเวลากลางคืน เผ่าพันธุ์นี้มีผิวหนังสีเทา ซึ่งทำให้พวกเขา แนบเนียนไปกับโลกในยามรัตติกาล 

               สามคือ เอลฟ์ เผ่าพันธุ์ที่กำเนิดทางตอนกลางของทวีป อันอุดมด้วยป่าไม้เขียวขจี พวกเอลฟ์มี่ผิวขาวเนียน,รูปร่างสูงเพรียว,มีมันสมองอันดีเยี่ยม ทำให้พวกเขาเป็นพวกที่ชาญฉลาดที่สุด แต่ต้องแลกกับร่างกายที่อ่อนแอที่สุดเช่นกัน

          สี่คือ เลฟ เผ่าพันธุ์ที่แสนแคล่วคล่องว่องไวพวกเขากำเนิดมาเพื่อเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่แสนวิเศษ เผ่านี้อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของทวีปซึ่งเป็นที่ราบสูง

          และสุดท้ายคือ มนุษย์ เผ่าพันธุ์ที่มีรูปร่างหลากหลายและมีจำนวนมากกว่าทุกๆเผ่าที่กล่าวมา เผ่าพันธุ์นี้มีพัฒนาด้อยที่สุดและดูเหมือนจะไร้ความสามารถพิเศษที่สุดทำให้พวกเขาตกเป็นเบี้ยล่างและเย้ยหยันเรื่อยมา มีอาณาจักรขนาดใหญ่อยู่ทางตอนใต้



           หลายพันปีต่อมาวิทยาการทางเวทย์มนต์ และเทคโนโลยีต่างเจริญรุ่งเรืองอย่างมากจนกระทั่งเกิดการรบพุ่งเพื่อแย่งชิงดินแดนโดยเผ่าเคออส กองทัพของพวกเขานั้นบุกถล่มและทำลายข้าศึกแม้ยามราตรีซึ่งผู้คนนั้นหลับไหล แต่เคออสกลับเปี่ยมพลังยิ่งนักในยามราตรี ผู้นำของเคออสในตอนนั้น ฮาเดส หวังจะครอบครองดินแดนทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียวเขานำกองทัพบุกทะลวงไปกว่าครึ่งของโลก

           สงครามแพร่กระจายไปทุกหย่อมหญ้า ผู้นำของเอลฟ์เรียกเผ่าต่างๆที่เหลือมาชุมนุมกัน เพื่อหาทางป้องกันการบุกถล่มอันบ้าคลั่งนี้ ท่ามกลางการถกเถียงยืดยาวเนื่องด้วยความหยิ่งผยองในตนเองของเผ่าต่างๆ กลับมีมือหนึ่งยื่นขึ้นขออาสาเป็นกองหน้าออกต้านทาน ราชาแห่งมนุษย์ยกมือขึ้นท่ามกลางความขบขัน แต่ราชาแห่งเอลฟ์กลับเห็นหนทางแห่งชัยชนะ   

           ราชาแห่งเอลฟ์ซึ่งเป็นที่เคารพด้วยคุณธรรมอันงดงาม โน้มน้าวเผ่าต่างๆจนบังเกิดซึ่งสามัคคีให้ถ่ายทอดวิทยาการให้มนุษย์  แม้จะไม่มั่นใจนักเผ่าต่างๆก็ยอมทำตามประสงค์ของผู้นำเอลฟ์ กูรันต์ถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้และการตีโลหะและแร่ชั้นสูง เลฟถ่ายทอดวิทยาการทางเครื่องกลและกลยุทธ์ทางการรบของพวกเขาและเอลฟ์ได้ถ่ายทอดมนต์คาถาแก่มนุษย์

           ด้วยความสามารถอันน้อยนิดในทางตรงข้ามมนุษย์กลับเรียนรู้และพัฒนาตนเองด้วยความเร็วจนหน้าตกใจ บวกกับจำนวนอันมหาศาลทำให้มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์  

           จนวันที่ 13 เดือน 4 กองทัพของ เคออส และ พันธมิตรสี่เผ่าซึ่งมีทัพหลักคือมนุษย์ ได้เข้าปะทะกันอย่างรุนแรง เป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่ แม้เคออสจะแข็งแกร่งเพียงใด แม้พวกเขาสู้ได้ตลอกทั้งวันคืน แต่ด้วยจำนวนอันมากมายมหาศาลของมนุษย์ เคออส กลับพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในหลายๆสมรภูมิด้วยกองหน้าเผ่ามนุษย์เท่านั้น

           สุดท้ายพันธมิตรสี่เผ่าได้รับชัยชนะ

           เคออสถูกที่ประชุมลงโทษด้วยการส่งผู้แทนของทั้งสี่เผ่า ไปควบคุม ดินแดนเคออสและขับไล่พรรคพวกของกษัตริย์ฮาเดสอันชั่วร้ายไปยังสุดขอบโลกและผนึกวิญญาณของพวกเขาเอาไว้ไม่ให้ได้ผุดได้เกิดตลอดกาล  ในโอกาศนั้นมนุษย์จึงได้ถือโอกาศตั้งตนเป็นใหญ่ และยกฐานะของตนเอง

           200 ปีผ่านไปหลังสงครามได้มีการตั้งองค์กรหนึ่งขึ้นมาเพื่อถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกันของแต่ละเผ่า รวมทั้งเคออส ที่ได้ผู้นำที่รักสงบซึ่งเห็นด้วยกับเรื่องนี้

           องค์กรนั้นคือหน่วยมือปราบ ซึ่งทุกเผ่าพันธุ์ล้วนเป็นสมาชิกในนี้ทั้งสิ้น มันมีหน้าที่คอยช่วยเหลือเหล่าพลเมืองจากปัญหาต่างๆ มันถูกนับเป็นอาชีพที่มีเกียรติมากและมันยังเป็นอาชีพที่โด่งดังที่สุดใน เวลาต่อมาจนถึงทุกๆวันนี้......