คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2:intro (KS part)
Chapter2: intro (KS part)
16:00 น.
ณ สนามบิน
มีชายหนุ่มหน้าใสในชุดคลุมกันหนาวสีดำที่คอคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรือง มองเผินๆจะว่าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งมาหาเสียงก็คล้ายอยู่ กำลังหอบข้าวของพะรุงพะรังออกมาจากประตูทางออกสนามบิน
ไอ้เด็กคนนี้
มันคือ....
...น้องส้ม
ให้น้องเค้าแนะนำตัวเองดีกว่า
สวัสดีครับทุกคน
ผมชื่อ แกงส้ม ครับ ชื่อจริง ธนทัต ชัยอรรถ อายุ 18 ปี เป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด แต่ต้องนั่งเครื่องบินเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลมาที่นี่ เพราะอะไรรู้มั้ยครับ
(ไรท์ : มาเรียนต่อใช่มะ)
อ้าว...รู้ได้ไงอ่ะครับ ถูกแล้ว ผมกำลังจะเป็นนักศึกษาใหม่ คณะสถาปัตย์ที่มหาลัยชื่อดังของจังหวัดนี้ พ่อแม่พี่น้องผมภูมิใจในตัวผมมากครับ ดูนี่สิครับ ก่อนขึ้นเครื่องยังอุตส่าห์หาดอกดาวเรืองมาคล้องเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เล่นเอาผมยิ้มไม่หุบตั้งแต่ขึ้นเครื่องยันลงเครื่องเลยล่ะครับ
ตอนนี้ผมกำลังรอคนมารับอยู่ครับ รู้สึกว่าจะชื่อ ฮั่น เป็นลูกชายน้าเอม เพื่อนแม่ผมครับ น้าเอมเป็นเจ้าของบ้านที่แม่ผมฝากฝังให้ไปอยู่ด้วย เพราะแม่บอกไม่อยากให้ไปอยู่หอพักกับคนแปลกหน้า มันอันตราย อยู่บ้านเพื่อนแม่นั่นแหละปลอดภัยสุด
ผมลากสัมภาระทั้งหมดมาที่จุดนัดพบของเรา ป้อมยามร้างหน้าสนามบินครับ (แม่บอกว่ามันสะดุดตา จะได้หากันได้ง่ายๆ)
ฟู่ว! เหนื่อยเหมือนกันแฮะ
ก็ไม่แปลก เพราะสัมภาระของผมที่ขนมาน่ะน้อยๆซะที่ไหน มีกระเป๋าเดินทางแบบลากใบใหญ่มากกกก(คือใหญ่พอที่ผมจะขนคีย์บอร์ดของผมมาด้วยได้) กระเป๋าสะพายหลังแบบแบ็กแพ็กเกอร์อีกหนึ่งใบ แล้วก็กระเป๋ากีตาร์อีกหนึ่งใบ เล่นเอาเหงื่อแทบหมดตัว
แหมะ แหมะ
เสียงเหงื่อหยดครับ
อากาศร้อนเนอะ ไม่เห็นเหมือนที่ครูสปช.เคยสอนเลยว่า ภาคเหนือจะมีภูมิอากาศหนาวเย็น (ไรท์ : ตอนนี้มันฤดูร้อนก็ต้องร้อนสิแกงเอ๊ยยย)
จริงๆแล้วก็คิดอยู่นะครับว่าแต่งตัวไม่เหมาะกับสภาพอากาศ ไอ้เสื้อกันหนาวสีดำที่ผมใส่อยู่นี่ดูเหมือนจะใส่ไปเดินเล่นแถวลอนดอนได้สบายเลย แต่ผมไม่ถอดหรอก เพราะแม่บอกว่าห้ามถอดจนกว่าจะถึงบ้านน้าเอม แม่เป็นห่วง กลัวผมไม่สบาย ผมเป็นเด็กดี ผมต้องเชื่อฟังแม่ (ไรท์ : ชั้นว่าบางทีแกก็เป็นเด็กดีเกินไปนะแกง ) อีกอย่าง ถ้าถอดแล้วผมจะเก็บไว้ไหนล่ะ กระเป๋าเดินทางถูกล็อคด้วยแม่กุญแจสี่ตัว ซึ่งแม่ผมก็บอกว่าห้ามเปิดจนกว่าจะถึงบ้านน้าเอมอีกเช่นกัน เดี๋ยวของหาย (ไรท์ : ....เฮ้อ...เพลีย)
ว่าแต่ลูกน้าเอมทำไมยังไม่มาอีกนะ
รอ
รอ
รอ
และรอ ...เบื่ออ่ะ บอกได้คำเดียวว่า เบื่อมากกก นั่งบวกเลขทะเบียนรถที่วิ่งผ่านมาจะเป็นร้อยคันอยู่แล้ว เฮ้อ...เอาไอโฟนมาเล่นฟรุ๊ตนินจาดีกว่า เย่ ฟรุ๊ตนินจา ฟรุ๊ตนินจา (ไรท์ : อันนี้แม่ไม่ห้ามใช่มั้ย) อ๋อ ครับ แม่จะห้ามเฉพาะแองกรี้เบิร์ด แม่บอกว่าเดี๋ยวมาทำลายสถิติแม่ แม่ไม่ยอม (ไรท์ : เอิ่ม...)
18:00 น.
ว้าาา... แบตหมดซะแล้ว
ลูกชายน้าเอมก็ยังไม่มา เงียบฉี่ ไร้ร่องรอย
ทำไมถึงขาดวินัยทางเวลาแบบนี้นะ ฮึ่ย นึกแล้วเริ่มโมโห นี่ผมต้องไปอยู่บ้านเดียวกับคนไร้ความตรงต่อเวลาแบบนี้เหรอ กะอีเรื่องแค่นี้ยังผิดคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ร่วมกัน แล้วต่อจากนี้จะสามารถอยู่โดยไม่ก้าวก่ายในสิทธิส่วนบุคคลซึ่งกันและกันได้ยังไง ไม่รู้รึไงว่าคุณค่าของเวลาเนี่ย...บลาๆบลาๆบลาๆ....
ว่าแต่...
จริงๆเราควรจะโทรหาแม่ให้แม่ช่วยตามใช่มั้ย
แต่แบตมันหมดแล้วอ่ะ แกงส้มมันโง่! ฮือออ (T-T)
จริงสิ! เราจดที่อยู่บ้านหลังนั้นไว้นี่ หารถรับจ้างไปส่งก็สิ้นเรื่อง ไชโย! แม่ครับ แกงส้มทำได้แล้ว ไม่ง้อไอ้ลูกน้าเอมแล้ว วะฮ่าๆๆ
19:30 น.
ฮึ่ย ฮึ่ย ฮึ่ย
สงสัยมั้ยครับว่าผมกำลังทำอะไร จะตอบให้เลยว่า ผมกำลังเดินแบกกระเป๋าสัมภาระของผมขึ้นเขา! ชีวิตอัปยศมาก ก็รถสองแถวสีแดงนั่นเค้าไม่ยอมไปส่งผมให้ถึงที่ เค้าบอกว่าถ้าจะให้ขับไปส่งถึงตัวบ้านที่อยู่บนเขามันจะเสียเวลาผู้โดยสารคนอื่น ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ ผมหล่ะสงสารตัวเองเหลือเกินนนน จากที่ผมเคยคิดว่ากระเป๋าของผมหนักมาก ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้วครับ กระเป๋าของผมมันหนักเห้ๆเลยครับ แต่นั่นแหละครับ มันไม่ใช่ความผิดผมซักหน่อย ผมจะไปรู้ได้ไงว่าต้องแบกขึ้นเขาเอง ก็คิดไว้ว่าจะมีรถมารับนิ ฮึ่ย ฮึ่ย ฮึ่ย
20:00 น.
แฮ่กๆๆๆๆ
ผมมาถึงจนได้ แม่ต้องภูมิใจในตัวผมแน่ๆ บ้านหลังนี้แหละบ้านน้าเอม ‘บ้านภัทรมานพ’
ไม่ผิดหลังแน่ๆ เพราะเท่าที่ถามรถสองแถวมาเค้าบอกว่าเป็นบ้านหลังเดียวที่มาสร้างไว้บนเขาลูกนี้ แถมป้ายบ้านเลขที่ก็บอกชัดเจนว่า ‘208’ ตามที่ผมจดมา เป็นบ้านไม้สองชั้นขนาดกลางๆ สวยดีครับ เหมือนพวกบ้านพักตากอากาศของคนรวยที่เคยเห็นในละครเลย เอ...ทำไมไม่มีรั้วเลยแฮะ สงสัยไม่กลัวขโมย แต่จริงๆไม่ต้องมีก็ได้เนอะ ก็บ้านมันมีอยู่หลังเดียวนี่
หันไปมองด้านข้างที่โรงรถมีรถกระบะจอดวางอยู่หนึ่งคันเต็มโรงรถพอดีๆ แสดงว่าป่านนี้ไอ้ลูกน้าเอมมันยังไม่คิดจะไปออกไปรับผมใช่มั้ยครับ นี่เห็นผมเป็นลูกหมู ลูกแมว ลูกหมารึไงครับ เลยจะทิ้งให้รอไว้ที่ไหนก็ได้ ถึงจะเป็นลูกเจ้าของบ้านที่ผมจะมาขออาศัยก็ตาม แต่ก็ควรจะให้ความเห็นอกเห็นใจกันตามหลักการอยู่ร่วมกันขั้นพื้นฐานของมนุษย์สิครับ ถ้าสังคมเรามีคนแบบนี้เยอะๆมันจะพากันเสื่อมถอยนะครับ ....บลาๆบลาๆบลาๆ.... (ไรท์ : บ่นตรงนี้หมีมันจะได้ยินมั้ยฮะ แล้วไหนบอกเหนื่อย เข้าบ้านไปเซ่!!!)
กิ๊งก่อง! ผมกดออดหน้าประตูไปแล้วครับ
แอ๊ดดดด
ประตูเปิดออก
เผยให้เห็น
แองกรี้เบิร์ด... ผมนึกในใจไอ้หมอนี่หน้าคล้ายแองกรี้เบิร์ดมากๆเลยครับ นี่คงเป็นลูกน้าเอมสินะ คิ้วเข้มๆ ตาตี่ๆคมๆ ดูไปดูมาก็จัดว่าหน้าตาหล่อในระดับนึง แต่สู้แกงส้มไม่ได้หรอก เพราะแม่ผมเคยบอกว่า แกงส้มลูกแม่หล่อที่สุดในโลก
ว่าแต่ นี่น่ะหรอการแต่งกายเพื่อต้อนรับแขกต่างถิ่น ไอ้ลูกชายเพื่อนแม่คนนี้มันใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงบ๊อกเซอร์ครับ แถมในมือยังถือแปรงขัดส้วมอีก (ไรท์ : นี่อิหมีมันยังขัดส้วมไม่เสร็จหรอเนี่ย!?!) ทำไมไม่แต่งกายให้มันมิดชิดดูเป็นสุภาพชนหน่อยนะ อื้อหือ...เห็นหมดเลยว่ากล้ามแขนมีกี่มัด (ไรท์ : มองอารายยย แกงส้ม) แล้วทำไมเค้าต้องจ้องผมแบบงงๆอย่างนั้นด้วย
ช่างเถอะ ผมเริ่มรู้สึกมึนๆหัว รีบขอให้เค้าพาเข้าบ้านดีกว่า
“สวัส...” โครมมมม!!! อ๋อ ไม่ต้องตกใจครับ ผมแค่เป็นลม... อ้าวว ผมต้องเป็นลมหรอเนี่ย งั้นเดี๋ยวคุยกันใหม่ตอนผมฟื้นนะครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เย่ จบบทสอง
พิมพ์คอมนี่ยากเนอะอยากอัพเร็วๆ แต่พิมพ์ไม่เก่งเลย
ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น