ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SS x HP] แค้นร้าย ศาสตราจารย์ที่รัก [ Snape x Harry ]

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนพิเศษ Harry's part / chapter 1 [Pain and Realization]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.49K
      33
      18 ต.ค. 59


    เปิดเพลงกันไประหว่างอ่านนะคะ ได้อารมณ์สุดๆ ^^






    ตอนพิเศษ ความเจ็บปวดและความเข้าใจ (Harry’s part)



     

    ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น หลังจากที่ผมได้เห็นไดอารี่เล่มนั้น ความคิดของผมในหัวก็ตีกันวุ่นไปหมด คำด่าทอของคนตรงหน้าทำให้รู้สึกหวาดผวา รู้ได้ในทันทีว่าผมไปรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้



    ผู้ชายร่างสูงตรงหน้าขยับเข้ามาใกล้ ขณะที่ผมเดินถอยหลังเพราะไม่รู้ว่าควรจะตอบโต้ออกไปยังไง ในเมื่อผมทำฝืนคำสั่งไปจริงๆ



    ดวงตาสีดำคู่นั้นมืดสนิท มือทั้งสองข้างของเขาสั่นระริกด้วยความโกรธเคือง ทั้งยังกำแน่นเพื่อยับยั้งอารมณ์ สายตาที่จ้องลงมาที่ผมมีแต่ความโกรธแค้นและเกลียดชัง



    ที่ผมเคยพูดกับรอนไปว่า มันไม่เหมือนกับว่าสเนปเกลียดผม แต่เหมือนกับว่าเขาแค้นผมต่างหาก นั่นพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนในตอนนี้



    ก่อนหน้านี้ที่ห้องพยาบาล ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่ผู้ชายคนนี้จะต้องเอายามาให้ผม ด้วยเพราะเห็นชัดๆ ว่าสเนปไม่เคยหวังดีกับผมอยู่แล้ว คำด่าทอต่อว่า สายตา การกระทำ ทุกๆ คำพูด ไม่มีอะไรที่จะไปแย้งในข้อนั้นได้



    กริยาที่หยาบคายเมื่อครั้งที่สเนปกรอกยาผม ทุกวินาทีนั้นผมยังจำได้ดี ถึงแม้เค้าจะทำเพื่อไม่ให้ผมตาย แต่ก็ทำไปด้วยความเกลียดชัง



    เสียงของเขาตวาดดัง ย้ำเตือนถึงข้อห้ามที่ผมไม่ควรทำ เหมือนกับว่านี่เป็นความผิดร้ายแรง เรื่องที่ผมไม่ควรรู้



    ผมก้าวถอยหลัง จ้องไปที่ใบหน้าของร่างสูง ไม่สามารถควบคุมสีหน้าตัวเองได้ หลังของผมชนกับโต๊ะ ของบางอย่างหล่นลงพื้น เหมือนเจ้าของพึ่งหยิบมันออกมาแล้วไม่ได้เก็บเข้าที่



    สายตาผมก้มลงไปมองตามสัญชาตญาณเมื่อได้ยินเสียง สร้อยคอที่ถูกทำจากเงินปรากฎตรงหน้า อัญมณีสีขาวที่ประดับอยู่สะท้อนสายตาให้ความรู้สึกแปลกประหลาด



    และรูปถ่าย ของสเนป คู่กันนั้น เป็นของผู้ชายคนที่หน้าเหมือนผม ทุกอย่างบนใบหน้า ยกเว้นดวงตา



    ...พ่อ



    สเนปก้มลงไปคว้าทุกอย่างไว้ในมือ กำแน่น แล้วเก็บเข้าไปในที่ๆ มันควรอยู่



    ร่างสูงหันกลับมาจ้องหน้าผม คำด่าทอสอดเสียดที่เอาผมไปเปรียบเทียบกับพ่อทำให้ผมรู้สึกเหมือนอกจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงด้วยความโกรธเคือง



    ผมมั่นใจว่าพ่อผมเป็นคนดี คนที่ปกป้องผมไว้ด้วยชีวิต คำพูดเหล่านั้นที่ออกมาจากปากสเนปจึงทำให้ผมทนไม่ได้ที่จะเก็บอาการหรือคำพูดด่าทอเอาไว้กับตัวเอง วินาทีนั้นผมรู้ว่าความโกรธแล่นขึ้นมาตามเส้นประสาท มือผมกำแน่นโดยอัตโนมัติและสั่นระริกไม่แพ้กัน



    ถึงแม้ว่าผมจะเห็นไดอารี่นั่น สร้อยคอ หรือแม้แต่รูปภาพที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็ยังทำให้ผมไม่เข้าใจในการกระทำของเขาอยู่ดี



    คำพูดที่ทั้งโมโห เต็มไปด้วยคำถาม และแน่นอน ผมใส่ความโกรธและเกลียดลงไปเต็มที่ในน้ำเสียงนั้น ประโยคที่ผมอยากได้คำตอบ พ่อผมไปทำอะไรให้เขา เขาถึงได้เกลียดผมขนาดนี้



    คำด่าทอที่ว่าพ่อของผมโง่ เย่อหยิ่ง ทำให้ความโกรธของผมยิ่งแล่นขึ้นเป็นริ้ว แต่ไม่เท่ากับความตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ตรงหน้าเดินเข้ามาประชิด มือหนาๆ นั่นบีบไหล่จนผมเจ็บ



    เขาเอาแต่พูดว่าผมโง่ ปิดหูปิดตาไม่ยอมรับความจริง และถึงแม้ผมจะพยายามดันร่างสูงให้ปล่อย ถึงแม้ผมจะบอกเขาว่าผมเจ็บอย่างที่รู้สึก มือนั่นกลับออกแรงมากกว่าเดิมเหมือนกับจะบดกระดูกผมให้แตกออกเป็นเสี่ยง



    วินาทีนั้นริมฝีปากของเขาทาบทับลงมาบนริมฝีปากผม รุนแรง แม่นยำ ผมรู้ในวินาทีนั้นว่ามันไม่ใช่การจูบเหมือนคู่รัก แต่เขาต้องการให้ผมรู้ถึงความเจ็บปวด เขาอยากให้ผมเจ็บเหมือนที่เขากำลังรู้สึก ทรมาณเหมือนที่เขากำลังเป็น



    ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ นี่เป็นครั้งที่สอง แต่ครั้งนี้ต่างออกไปมาก มากตรงที่ผมรับรู้ได้ถึงความโกรธแค้น เกลียดชัง และความรู้สึกที่ผมจะต้องกวาดกลัว



    ยิ่งผมดิ้น แขนของเขายิ่งรัดแน่น ถึงแม้ผมจะต่อต้าน พยายามดันเขาออก มันก็ยิ่งดูไร้ผล แรงผมดูเหมือนจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย



    ผมพยายามจะด่าออกไปด้วยความเกลียดที่มีให้เขา แต่เหมือนนั่นเป็นการเปิดทางให้ร่างสูงดูดกลืนริมฝีปากและรสชาติของผมมากกว่าจะเป็นการขัดขืน ทุกการขยับริมฝีปากแสดงความเป็นเจ้าของจนผมไม่อาจต่อต้าน มือของเขารั้งตัวผมเข้าไปชิดกว่าเดิม



    ผมเกลียดตัวเองที่สู้เขาไม่ได้ เกลียดตัวเองที่เถียงเขาไม่ได้ ต่อต้านเขาไม่ได้ ซ้ำยังเผลอให้ความร่วมมือเมื่อเขาทำให้ผมลืมตัว กลิ่นที่ดึงดูดของเขา และสัมผัสนั่น



    น้ำตาที่ผมพยายามกลั้นเอาไว้ยิ่งทำให้เสียงผมรวดร้าวจนแสดงความเจ็บปวดออกไปอย่างชัดเจน เมื่อเขาถอนริมฝีปากออก คำถามแรกของผมคือ ทำไม?



    ถึงแม้จะมีน้ำอยู่ในดวงตา แต่ชั่ววินาทีนั้นผมเห็นถึงความรู้สึกผิดที่แล่นผ่านบนดวงตาคู่สีดำสนิท เพียงชั่ววินาทีเดียวจริงๆ ที่ผมเห็นมัน



    คำพูดของสเนปไม่ได้คลายความกระจ่างให้ผมเลย วินาทีหนึ่งที่ตัวผมลอยขึ้นไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา อีกวินาทีหนึ่งที่ผมรับรู้ได้ว่าผมอยู่บนเตียง ไม่ใช่ด้วยความอ่อนโยน แต่สเนปโยนผมลงมาโดยไม่สนใจว่าผมจะเจ็บหรือไม่



    ผมรู้ชะตากรรมตัวเอง ผมไม่ใช่เด็กที่จะตีโพยตีพาย หรือไม่รู้เรื่องรู้ราว ที่สำคัญ ผมรู้ตัวเองแล้วว่าผมไม่ได้เกลียดเขาจริงๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมกลัวที่สุด



    ผมบอกตัวเองว่าผมต้องหนี แต่ให้ตาย เวลาที่ผมกลัว ร่างกายผมขยับไม่เร็วอย่างที่ใจต้องการเลย ผมพลิกตัวกลับ มองไปที่ประตู ตะเกียกตะกายเพื่อลงจากเตียง



    แรงรั้งจากมือหนาบนข้อเท้าทำให้ตัวผมถูกลากไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่ผมพยายามจะไป สเนปรั้งมือผมเอาไว้ทั้งสองข้าง กดทับตัวผมเอาไว้ด้วยร่างสูงใหญ่ของเขาโดยไร้ซึ่งทางหนี ไม่แม้แต่จะฟังคำขอร้องที่ผมเอ่ยขอออกไป



    วินาทีหลังจากนั้น ผมรู้แล้วว่า ต่อให้ผมจะดิ้น หรือหนี หรือแม้แต่พยายามแค่ไหนก็ตาม ผมก็ไม่สามารถสู้แรงเขาได้เลย



    ความเจ็บปวดแล่นวนในอกเมื่อเขาทาบทับริมฝีกปากลงมาอีกครั้ง ไม่มีความอ่อนโยนในนั้น



    ผมเคยจูบมาก่อน แต่ทุกอย่างนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง ผู้ชายคนนี้ครอบครองผมอย่างถือดี ไร้ซึ่งการยับยั้งอารมณ์



    มือและสัมผัสของเขาให้ความรู้สึกเหมือนผมกำลังลอยอยู่ในอากาศ จากความรุนแรงและไร้การทะนุถนอม ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหยอกเย้า เมื่อผมเผลอให้ความร่วมมือ ถึงแม้ผมจะพยายามห้ามเขา หรือตัวเองก็ตามที



    ความเจ็บปวดในตอนเริ่มต้นค่อยๆ ผ่านไป สิ่งที่ผมจำได้รางๆ คือเสียงของร่างสูงที่กระซิบแผ่วเบา ริมฝีปากและฟันของเขาที่ให้ความรู้สึกดีบนผิวของผม



    และผมรู้ว่าผมทำร้ายเขา แต่ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้ฝังรอยเล็บลงไปบนผิวเขาได้ เมื่อผมทั้งเจ็บปวดและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน

                


                  ร่างสูงเอ่ยให้ผมเรียกชื่อของเขา เซเวอรัส... ผมเอ่ยออกไปทันทีโดยที่ไม่ต้องยับยั้งความรู้สึก ทุกอย่างดูรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ผมเอื้อมมือขึ้นไปรั้งสเนปลงมาเมื่อริมฝีปากหนานั่นให้ความรู้สึกที่ดีบนริมฝีปากผม เพราะลำคอของร่างสูงเต็มไปด้วยรอยจ้ำและรอยฟันเพราะผม ซึ่งไม่รู้ว่าเขาเจ็บแค่ไหน



    อากาศที่เย็นจัดกลับไม่เหมือนแบบนั้นเมื่อผมอยู่ในอ้อมแขนนี้ ผมควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว



    ความรู้สึกเติมเต็มที่ผมเองก็ไม่เข้าใจ หลังจากนั้น ทุกอย่างสงบนิ่ง ผมรู้ว่าผมร้องไห้ นี่มันบ้าแท้ๆ เพราะผมเจ็บปวดและเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองหรือต่อต้านเขาได้



    ทุกอย่างมืดไปหมด ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับ ผมได้แค่หลับตา ปล่อยให้น้ำตาไหล รับรู้ได้ถึงนิ้วมือที่ไล้บนใบหน้าของผม และจูบเบาๆ ที่สัมผัสลงมาอย่างปลอบประโลม



    ผมตัวสั่น ไม่แน่ใจว่าจากสิ่งที่เกิดขึ้น หรืออุณหภูมิรอบๆ ที่กลับมารับรู้ได้อีกครั้ง



    วินาทีต่อมาสเนปดึงผมเข้าไปในอ้อมแขน ผมไม่ได้ต่อต้านหรือตอบรับ ปล่อยให้เขาทำแบบนั้น ผมสูดจมูกและซุกเข้าหาความอบอุ่น หลายวินาทีผ่านไปอย่างเชื่องช้า เขากอดผมเอาไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง อีกข้างลูบบนแผ่นหลังผมเบาๆ สัมผัสนั้นทำให้ผมเข้าสู้ห้วงนิทราได้อย่างง่ายดาย



    สิ่งต่อมาที่ผมรับรู้คือภาพของคนสองคนคุยกัน หัวเราะ ถกเถียง ร้องไห้ การลาจาก ทุกคำพูดและทุกสถานการณ์เหมือนกับว่าผมอยู่ตรงนั้น โดยที่รู้ว่าจริงๆ แล้วนี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เรื่องของสเนปและพ่อของผม



    ความเจ็บปวดในอกแล่นขึ้น ผมรู้สึกเหมือนพยายามตะกายขึ้นเหนือน้ำเพื่อหายใจ ตัวกระตุกเล็กน้อยเมื่อสะดุ้งตื่น



    ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ เมื่อรับรู้ว่านั่นคือความฝัน และความจริงในเวลาเดียวกัน ถอนหายใจและทำแบบนั้นอยู่หลายครั้ง เพื่อไล่ความเจ็บปวดในอกออกไป



    แสงสว่างเพียงเล็กน้อยจากเทียนที่ยังติดอยู่ทำให้ผมเห็นใบหน้าเขารางๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมอง ชายหนุ่มดูนิ่งและไร้ซึ่งความเกลียดชัง ต่างจากที่แสดงออกต่อหน้าเขาทุกครั้ง หลับสนิทโดยมีลมหายใจสม่ำเสมอ



    มือผมวางอยู่บนร่างหนาๆ นั่น และตัวผมก็ซุกอยู่ในอ้อมแขนนั้น



    ผมถอนหายใจอีกครั้ง ทบทวนเรื่องราวทุกอย่าง รับรู้ในความเป็นจริงวินาทีนั้นว่าพ่อและสเนปเคยมีอดีตบางอย่างที่เจ็บปวด ให้ตาย ฝันร้ายนั่น ผมสัมผัสได้ทุกความรู้สึกถึงมันว่าสเนปทรมาณแค่ไหน เจ็บปวดเพียงใดกับเรื่องที่เกิดขึ้น หรือบางที ที่ผมรู้สึกอาจไม่ถึงครึ่งกับที่ร่างสูงข้างๆ ผมเคยเจ็บปวดด้วยซ้ำ



    ผมสูดหายใจเพื่อผ่อนความรู้สึกอึดอัดในอกออกไป แย่จริง การที่ทำแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าลมหายใจตัวเองกลายเป็นสะอื้นทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากจะร้องไห้ ความเข้าใจที่หลั่งใหลเข้ามาทำให้ผมห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ



    สเนปรักพ่อ และเป็นแบบนั้นมาตลอด ถึงแม้เขาจะพูดว่าโกรธเกลียดมากแค่ไหนก็ตาม



    และสายตาที่สเนปมองผมมันไม่ใช่ความเกลียด แต่เป็นความเจ็บปวดต่างหาก ความทรมาณที่ต้องเห็นหน้าของคนที่ตัวเองรักจากใบหน้าของผม ที่เหมือนกันแทบทุกกระเบียดนิ้ว



    ผมเข้าใจแล้ว



    และผมอาจเป็นเพียงแค่ตัวแทนของพ่อเท่านั้นเอง



    ผมซุกเข้าหาอ้อมกอดนั้นแน่นขึ้น ความเข้าใจ หวาดหวั่น อึดอัด และทรมาณแบบแปลกๆ มันทำให้ผมรู้สึกแย่ไปหมด



    วินาทีนั้นเขาขยับตัวเล็กน้อย กระชับตัวผมแน่นขึ้น และลูบแขนผมเบาๆ ขึ้นลง อาการสั่นและความรู้สึกแย่ในอกผมผ่อนคลายลง สเนปยังคงหายใจสม่ำเสมอ เขายังหลับสนิท แต่คงทำตามสัญชาตญาณ



    ผมเข้าใจเขาแล้วในตอนนี้ สิ่งที่ผมอยากทำคือแก้ไขทุกอย่าง ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นเลย แต่ที่ผมแน่ใจคือผมไม่ได้คิดแบบนั้นเพราะความรู้สึกผิด 



    แค่อยากลบความเจ็บปวดของคนที่ผมอยู่ในอ้อมกอดตอนนี้ให้หายไป ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม



    ผมขยับซุกเข้าไปในอ้อมกอดนั้นอีกครั้ง แล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ผมคิดเยอะไปแล้ว น้ำตาที่ไหลทำให้ทุกการหายใจเข้าออกมีแต่เสียงสะอื้น ผมเหนื่อยและหลับอีกครั้งอย่างง่ายดาย







    >>> Harry's part <<<

    เป็นตอนพิเศษที่เขียนขึ้นมาเพื่อเอาใจรีดเดอร์(ส์) ทุกท่านนะคะ

    ในตอนนี้เป็นมุมมองของแฮร์รี่ เป็น Chapter 1 และยังจะมีตอนหน้าอีกเป็น Chapter 2 ซึ่งจะเป็นในมุมมองของแฮร์รี่เช่นกัน (ทั้งยังเป็นตอนพิเศษด้วยค่ะ)

    หลังจากนั้นที่วางพล๊อตเค้าโครงเรื่องเอาไว้ก็จะเป็นในส่วนของ Snape's part ซึ่งจะมาจากมุมมองของสเนปล้วนๆ

    ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนเลยที่ยังคงติดตาม และขอให้ติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ น้าาา _/\_ <3


     

     

     

     

      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×