คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Wild flower l 2
ผ่านไปหลายเดือนแล้วกับการเดินหน้าสู่การเป็นชายหนุ่มเต็มตัว
ภายในช่วงเวลาสั้นๆ
ชานยอลต้องตัดชุดใหม่เปลี่ยนไปหลายขนาดเพราะไหล่ที่ขยายกว้างมากขึ้น
น้ำเสียงที่เคยหวานแหบพร่าราวกับเด็กเพิ่งแตกหนุ่ม
แม้ว่าคุณหนูของบ้านจะยังคงกิริยางดงามที่ต้นตระกูลได้สั่งสอนมา
แต่ภายในจิตใจของเขาไม่ใช่หญิงสาวเลย
“แบคฮยอนไปไหน”
“คุณท่านไม่ให้แบคฮยอนมาเข้างานค่ะคุณหนู”
คำตอบของสาวใช้ทำชายหนุ่มต้องแอบลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เครื่องประดับไข่มุกถูกสวมลงบนลำคอระหงส์
คุณหนูคนงามได้แต่ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายจ้องมองมัน
พร้อมกับคิดว่าของจุ๊บจิ๊บพวกนี้มันควรจะไปอยู่บนตัวสาวสวยเสียมากกว่าตัวเขา
“งั้นบอกแบคฮยอนว่าข้าเรียก” มือเรียวเอื้อมไปหยิบถ้วยยามากรอกลงปากก่อนจะแสร้งทำเป็นดื่มน้ำตาม
พอสาวใช้เอมิเรียเดินออกไปชานยอลก็คายเอาเม็ดยาที่ซ่อนไว้ใต้ลิ้นออกมา
เขาซุกซ่อนมันไว้ในกระเป๋ากระโปรงตัวบาน
ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังรูปโฉมที่ปรากฏอยู่ในกระจกบานใหญ่
ชานยอลกำลังมองเห็นทั้งหญิงสาวและชายหนุ่ม
เขากำลังคิดว่าเธอที่อยู่ในกระจกนั้นเป็นใคร และชานยอลที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นใคร...
ตั้งแต่เกิดมาก็ถูกเลี้ยงประดุจหญิงสาวตั้งแต่จำความได้
ชานยอลซึมซับมันมานานเกินกว่าจะต่อต้าน จนกระทั่งตอนนี้ที่ความเป็นชายของเขากำลังปะทุขึ้น
มันมากขึ้น มากขึ้นทุกวัน ขนตรงนั้นเริ่มงอกดกดำ
แผ่นหลังกว้างใบหน้าที่เคยเรียวและมีแก้มก็ขยายใหญ่ขึ้นจนเห็นกรามและสันจมูกโด่ง
ทุกครั้งที่ชานยอลมองตัวเองเขาหลงใหลในรูปกายของชายหนุ่มที่สะท้อนออกมาจากในกระจก
หลายครั้งชานยอลยกกรรไกรขึ้นมาเตรียมตัดผมแต่ก็ต้องถอดใจ
เพราะเขาจะปล่อยให้ความแตกไม่ได้
“คุณหนู แบคฮยอนบอกว่าจะแอบเข้าไปในงานค่ะ
คุณหนูจะลงไปเลยไหมคะ งานเลี้ยงกำลังเริ่มแล้ว”
“เดี๋ยวข้าลงไป” คนตัวสูงถอนลมหายใจก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูง
ร่างกายที่เริ่มสูงใหญ่ถูกอำพรางดวยเสื้อผ้าพองหนา
ชานยอลหันไปส่งยิ้มให้กับสาวใช้คนสนิทเหมือนอย่างทุกที
ทว่าคราวนี้เธอกลับต้องหลบตาด้วยความเขินอายเมื่อรู้สึกได้ว่าสายตาของคุณหนูเริ่มเปลี่ยนไป
เอมิเรียหน้าแดงเห่อ เธอเดินตามคุณชายออกจากห้องนอนไปติดๆ
งานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของนักเดินสมุทรเทอร์เนอร์กำลังเป็นไปได้สวย
ภายในคฤหาสน์หรูของท่านผู้พิพากษา
แขกเหรื่อมากหน้าหลายตาเดินขวักไขว่ไปมา
ลูกสาวท่านเจ้าบ้านพยายามจะมองหาเด็กรับใช้คนสนิทที่อาจจะแอบอยู่มุมไหนในบ้านแต่ก็ไม่พบ
ชานยอลเดินหนีผู้คนยั้วเยี้ยออกไปหน้าประตูคฤหาสน์
เขาเห็นแบคฮยอนกำลังยืนทำลับๆ ล่อๆ
อยู่ที่ข้างเสาต้นใหญ่
ท่าทางซุกซนของเขาเรียกรอยยิ้มจากคุณหนูของบ้านได้เป็นอย่างดี
“คุณหนู!” แบคฮยอนกระโดดโหยง
คนตัวเล็กหันซ้ายหันขวาก่อนจะกวักมือเรียกคุณหนูคนสนิทให้เดินมาหาตน
เมื่อชานยอลเห็นแบบนั้นเขาก็ใช้มือยกชายกระโปรงทั้งสองข้างแล้วรีบเดินออกไปทันที
ที่หลังเสาต้นใหญ่
แบคฮยอนเปิดห่อผ้าออกแล้วหยิบเอากล่องเหล็กบรรจุยาส่งให้กับคนตรงหน้า
เขาทำท่าทางลับๆ ล่อๆ ก่อนจะรีบเก็บห่อผ้าใส่กระเป๋ากางเกง
“ข้าอยู่นานไม่ได้ เดี๋ยวคุณท่านมาเจอข้าจะถูกเฆี่ยนเอา”
“คืนนี้เจ้าจะไปหาข้าไหม” ชานยอลยัดกล่องเหล็กเสื้อตัวหนา
เขาเอื้อมมือไปจับแขนเล็กๆ เอาไว้ก่อนที่คนตัวเล็กจะวิ่งหนีไปเสียก่อน
“วันนี้ข้ามีนัดกับพี่ชายท่าน” เด็กรับใช้จอมแก่นพูดแล้วก็ยิ้มออกมา
แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำให้คนฟังไม่ค่อยพอใจนัก ชานยอลย่นคิ้วในขณะที่มือยังจับท่อนแขนบางไว้มั่น
“ไหนเจ้าบอกจะมาหาข้า”
“ข้าเคยพูดหรอ? วันนี้ข้าจะออกไปกับคริสติน
ท่านอย่าบอกแม่ข้าแล้วกัน”
“ข้าไม่อยากให้เจ้าไป” เอ่ยออกไปด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง
ชานยอลไม่ยอมปล่อยมือ เขาไม่อยากให้แบคฮยอนออกไปดื่มกับคริสตินขี้เมาแถมยังไปเจอกับพี่ชายด้วย
พวกเขาต้องทำอะไรกับแบคฮยอนแน่ “ถ้าเจ้าออกไปข้าจะบอกแม่เจ้า”
“ท่านทำอย่างกับหึงข้า” คนตัวเล็กกว่ายักไหล่ ก่อนจะพูดต่อ “แล้วยานั่นข้าก็ได้มาจากพี่ชายท่าน ท่านควรกินซะ
ตอนนี้ท่านเริ่มดูเหมือนผู้ชายแล้ว พวกคนรับใช้พูดกันทั่วว่าท่านจะเหมือนพี่ชาย
พวกเค้าเขินท่าน”
“งั้นหรอ... แล้วเจ้าล่ะ”
“หื้อ ข้าหรอ ข้าทำไม?”
“เจ้าเขินข้าหรือเปล่า”
“พูดเป็นเล่นไปคุณหนู ท่านหล่อขนาดนี้” แบคฮยอนว่าพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาทำเป็นพูดด้วยสีหน้าทีเล่นทีจริง
คุณหนูของเขาดูดีจะตายไม่ว่าเป็นเจ้าสาวหรือเจ้าบ่าว
แต่แบคฮยอนคงชอบกว่านี้ถ้าคุณหนูจะมีอกแน่นๆ กับสีผิวที่เข้มลงหน่อย “ข้าจะไปก่อน ไว้คืนนี้ข้าจะแวะไปหาท่าน”
ได้ยินเพียงเท่านั้นชานยอลก็สบายใจ
เขายอมปล่อยมือให้แบคฮยอนเป็นอิสระ รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นจางๆ ที่มุมปาก
ถึงจะเป็นเพียงแค่คำพูดหยอกเอินจากเด็กรับใช้แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดีมาก
อยากจะเป็นผู้ชายมากกว่านี้
อยากให้แบคฮยอนชื่นชมมากกว่านี้...
คุณหนูคนสวยหันหลังเดินกลับเข้าคฤหาสน์ไปโดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าใครแอบลอบมองอยู่ห่างๆ
ในความเงียบ
.
.
.
“นี่ถุงน้ำร้อนค่ะคุณหนู”
สาวใช้เอมิเลียนำถุงน้ำร้อนไปส่งให้คุณหนูที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
ชานยอลเหลือบตามองเธอครู่หนึ่งก่อนจะระบายรอยยิ้มออกมาเป็นการขอบคุณเหมือนอย่างทุกที
แต่เอมิเลียกลับหลบหน้าด้วยความเขินอาย
“ทำไมเดี๋ยวนี้เจ้าเอาแต่หลบหน้าข้า” มือเรียวเอื้อมไปคว้าท่อนแขนสาวใช้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินหนีออกไป
ชานยอลเลิกคิ้วถามเธอที่เอาแต่ก้มหน้างุด ใบหน้าที่อาบแสงเทียนขึ้นสีแดงเห่อ
หญิงสาวเอาแต่หลุบตาลงมองพื้นด้วยท่าทีประหม่า
“ค... คุณหนูไม่รู้ตัวหรือคะ”
“เจ้าไม่พูดข้าจะรู้ได้ไง”
“มีแต่คนบอกว่าคุณหนูโตแล้ว ข้าก็คิดเช่นนั้น” เธอกล่าวด้วยท่าทีเคอะเขิน
ฝ่ามือที่เคยบอบบางของคุณหนูดูมีแรงขึ้นมากกว่าทุกที
แม้แต่ท่าทางและสีหน้าของเขาก็ยังดูเหมือนเด็กชายวัยเติบใหญ่
กับเอมิเลียที่แทบไม่เคยได้เข้าใกล้ผู้ชายเลยตลอดชีวิต
มันทำให้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะ
“งั้นหรอ...” ชานยอลไม่ได้ว่าอะไร เขาปล่อยสาวใช้ให้เป็นอิสระก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ
ที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้า
ทันทีที่เสียงปิดประตูดังขึ้น
ใครบางคนที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงก็กลิ้งออกมาพร้อมกับหอบหนังสือในอ้อมกอด
แบคฮยอนปัดฝุ่นออกจากตัว แล้วโยนกองหนังสือลงบนที่นอนก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบไม้มาขัดประตูห้องไว้
คนตัวเล็กรอจนกระทั่งเสียงยามเฝ้าระวังเดินผ่านไปถึงได้วิ่งกลับไปนอนบนเตียงข้างๆ
คุณหนูคนโปรด
“คืนนี้หนาวคุณหนูว่าไหม” แบคฮยอนซุกตัวลงใต้ผ้าห่มที่มีถุงน้ำร้อนซุกอยู่ภายใน
วันนี้ที่ห้องคนรับใช้หนาวอย่างกับอะไรดี ผ้าห่มผืนเล็กผืนน้อยไม่พอให้ความอบอุ่นได้
แถมเตาผิงยังมีแต่กลิ่นขี้เถ้าเต็มไปหมด
“ข้าไม่หนาวเท่าไหร่ เจ้าอยากดื่มชาไหม”
“ของโปรดข้า!” เมื่อพูดถึงชาคาโมมายชั้นดีในคืนอันหนาวเหน็บแบคฮยอนก็รีบดีดตัวขึ้นทันทีด้วยท่าทางกระตือรือร้น
เขาหันไปคว้าถ้วยชามาประคองไว้ในมือเพื่อให้ความอบอุ่นแก่มือน้อยๆ
ก่อนจะก้มลงสูดกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
สีของมันนวลใสและหอมจนแทบจะอดใจรอไม่ไหว แบคฮยอนก้มลงซดชารสจืดจางที่ไม่ฝาดเหมือนกับชาราคาถูกที่เรือนคนใช้
เขาดื่มมันจนเกือบหมดแล้วนำไปวางคืนบนจานที่เดิมก่อนจะเอนหลังลงนอนบนเตียงนุ่มๆ
อีกครั้ง
คนตัวเล็กหันไปส่งยิ้มให้กับคุณหนูคนสนิทอย่างอารมณ์ดี
หนังสือปกสีน้ำเงินถูกยกขึ้นเปิดไปยังหน้าที่ถูกอ่านค้างไว้
ภาพวาดอีโรติกภายในทำแบคฮยอนตื่นเต้นมากกว่าทุกที
“ทำไมเจ้าถึงได้ชอบอ่านหนังสือพรรณนี้นัก” คนตัวสูงว่าพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
มือหนาวางลงบนกลุ่มเส้นผมสีดำขลับด้วยความเอ็นดู
ตั้งแต่รู้จักแบคฮยอนมาชานยอลแทบไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้ของเขาอ่านหนังสืออย่างอื่นนอกจากเรื่องพวกนี้เลย
“ก็ข้าหามาได้แค่นี้” เด็กรับใช้จอมแก่นตอบโต้อย่างอวดดี
แบคฮยอนชอบอ่านหนังสือ
เขาขอให้คุณหนูคนก่อนช่วยสอนอ่านหนังสือทว่าหนังสือที่มีให้อ่านมันก็ไม่ได้มีมากนัก
แบคฮยอนค้นเจอมันในห้องทำงานของพ่อเขา เก่าบ้างใหม่บ้างแต่ก็พอทำให้วันคืนที่แสนน่าเบื่อผ่านไปได้
“ทำไมเจ้าไม่ขอยืมข้า”
“ถ้าคุณท่านรู้ข้าถูกเฆี่ยนตาย”
การอ่านหนังสือหาความรู้เป็นเรื่องต้องห้ามของข้าทาสและคนรับใช้
อันที่จริงแบคฮยอนเองก็ถูกห้ามเรียนหนังสือ เขาไม่ได้มีโอกาสที่ดีเหมือนคุณหนู
มีห้องสมุดสูงใหญ่ท่วมฟ้ามีแต่หนังสือดีๆ ที่อ่านสนุกไม่รู้จบ
แบคฮยอนชอบนิทานเรื่อง eleven swans เขาเคยเปิดเจอมันในห้องสมุด
แต่ก็ไม่เคยได้อ่านอีกเลย
“ข้ามีเล่มนึง” คุณหนูคนงามล้วงมือเข้าไปใต้หมอนแล้วหยิบเอาหนังสือนิทานพร้อมภาพประกอบออกมา
พอเจ้าเด็กรับใช้เห็นเข้าก็ทำสีหน้าตื่นเต้นดีใจใหญ่จนชานยอลอดรู้สึกมีความสุขไปด้วยไม่ได้
เขารู้อยู่แล้วว่าแบคฮยอนจะต้องชอบ
“โอ้โห! ข้าชอบเรื่องนี้! คุณหนูอ่านให้ข้าฟังที” คนตัวเล็กตื่นเต้นอย่างออกหน้าออกตา
แบคฮยอนเบียดกายเข้าไปใกล้คนข้างๆ มากขึ้น
ดวงตาเรียวรีจับจ้องไปยังหนังสือนิทานที่กำลังถูกเปิดออกด้วยความตื่นเต้น
นอกจากจะเป็นนิทานแล้วมันก็ยังมีภาพวาดประกอบอีกด้วย
“ทำไมเจ้าไม่อ่านเอง”
“ก็ข้าชอบฟังเสียงคุณหนูอ่านนี่นา
ข้าฟังแล้วหลับปุ๋ย”
ชานยอลไม่ได้ว่าอะไร
เขาเพียงแค่ระบายยิ้มออกมาก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขยับอ่านตัวหนังสือบนหน้ากระดาษเก่าๆ
แสงเทียนจากโป๊ะอาบไล้ผิวกายและหน้ากระดาษเป็นสีเหลืองอ่อน
ภายในค่ำคืนที่อากาศหนาวเหน็บ
ความสุขกำลังทะลักล้นออกมานอกหัวใจคุณหนูผู้เหี่ยวเฉา
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...”
จังหวะการเล่านิทานและน้ำเสียงที่สม่ำเสมอของคนข้างตัวทำเจ้าหนูแบคฮยอนเริ่มง่วงซึม
ดวงตาเรียวรีหรี่ปรือใกล้หลับเต็มที
เสียงนุ่มทุ้มที่ดังอยู่ข้างหูกับฝ่ามือของคุณหนูที่ลูบอยู่บนศีรษะกล่อมแบคฮยอนจนลืมตัวว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของเขา
แต่กว่าจะรู้ตัวก็ลุกไม่ไหวซะแล้ว
ชาคาโมมายที่มีฤทธิ์เป็นยานอนหลับอ่อนๆ
ทำแบคฮยอนหมดแรงหลับปุ๋ยไปคาอ้อมกอดของคุณหนูคนงาม
“แต่หงส์ตัวสุดท้ายก็...” ยังไม่ทันที่นิทานหน้าสุดท้ายจะได้อ่านจบ
เสียงครางหงุงหงิงของเจ้าจอมแก่นก็เรียกสายตาของชายหนุ่มให้ละออกจากหน้าหนังสือ
ดวงตากลมโตหลุบลงมองแพขนตาและพวงแก้มที่ต้องล้อแสงเทียน
ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยปอยเส้นผมสีเข้มขึ้นไปทัดกับใบหู
ริมฝีปากบางขยับขมุบขมิบอย่างน่ารัก
ใบหน้าเรียวขยับเคลื่อนเข้าใกล้ลงเรื่อยๆ ลมหายใจอุ่นเป่ารินรดปลายจมูก
ปังๆๆๆ!!!
เสียงทุบประตูไม้ทำชานยอลถึงกับผงะรีบชักใบหน้าออก
แม้แต่แบคฮยอนเองก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยท่าทีตกใจ
พอเสียงทุบประตูดังขึ้นอีกครั้ง
คนตัวเล็กถึงได้รีบคว้าหนังสือแล้วคลานไปซ่อนที่ใต้เตียงทันที
“ชานยอล! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”
“ข้ากำลังไป!”
เสียงเข้มของผู้เป็นแม่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงทุบประตูถี่ๆ
ชานยอลรีบลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูด้วยความประหลาดใจ และทันทีที่ไม้ขัดหลุดออก
ประตูบานใหญ่ก็ถูกผลักเข้ามาอย่างแรง
นายหญิงใหญ่ของบ้านเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้และยามหนุ่มอีกสองนาย
ใบหน้าของเธอโกรธจัด ริมฝีปากบึ้งตึง
“ท่านแม่มีเรื่องอะไร” ชานยอลเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล แต่ก็ไม่มีคำตอบใดจากหญิงตรงหน้า
ยามหนุ่มสองคนเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและม่านออกอย่างแรง
หัวใจคุณหนูเต้นตึกตักด้วยความระทึกจนกระทั่งชายคนหนึ่งตรงมาเปิดชายผ้าปูสีขาวออก
“ปล่อยข้า!” เสียงแบคฮยอนร้องลั่น เมื่อเท้าเล็กๆ
ถูกจับกระชากออกมาจากเตียง คนตัวเล็กพยายามจะซ่อนหนังสือไว้แต่มันก็ถูกดึงติดออกมาด้วย
ทั้งแขนและขาบิดส่ายไปมาแต่ถึงแม้ว่าจะพยายามดิ้นรนสุดขีดแค่ไหนก็ไม่อาจสู้แรงชายฉกรรจ์ได้
“ปล่อยแบคฮยอน!” คุณหนูชานยอลหันไปตวาดใส่คนรับใช้เสียงแข็งแต่ชายหนุ่มทั้งสองก็ยังนิ่งเฉย
มีเพียงแค่แบคฮยอนที่ยังเอาแต่พยายามบิดตัวไปมาเพื่อดิ้นรนให้หลุดจากการเกาะกุม
“เจ้าคิดว่าแม่ไม่รู้หรอ” หญิงวัยกลางคนกล่าวเสียงเหี้ยม
นัยน์ตาของเธอจับจ้องไปยังใบหน้าของลูกชายคนเล็กก่อนจะหลุบลงมองหนังสือกามโลกที่ตกอยู่บนพื้น
ไม่มีความลับใดที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์แล้วหล่อนไม่รู้
“แบคฮยอนแค่มานอนเป็นเพื่อนข้า” เด็กหนุ่มเอ่ยออกไปด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจแม้น้ำเสียงจะฟังดูนุ่มนวลแค่ไหน
ชานยอลพยายามออกข้อแก้ตัวแทนเด็กรับใช้คนสนิทที่กำลังตกที่นั่งลำบาก
เขารีบเอาตัวบังแบคฮยอนเอาไว้
“งั้นหรอ เค้าบอกให้เจ้าขัดขืนคำสั่งแม่ด้วยหรือเปล่า”
“แบคฮยอนไม่ได้ทำอะไรผิด ข้าชวนเค้ามาเอง!”
“หึ...
ข้าไม่ยักรู้ว่าเจ้าคิดอะไรเป็นได้ด้วยตัวเอง
ตั้งแต่วันแรกที่ข้าเห็นมันข้าก็รู้ว่ามันจะเป็นตัวปัญหา เอาตัวไป!”
“ไม่!! ปล่อยข้า! คุณหนูช่วยด้วย!” พอได้ยินคำว่าเอาตัวไปแบคฮยอนก็ทั้งดิ้นทั้งถีบ
ร้องเสียงเอะอะโวยวายไปทั่ว
แต่เมื่อชานยอลจะเข้ามาช่วยเขาก็ถูกชายอีกคนตรงเข้าล็อคตัวเอาไว้แน่น
“ข้าสั่งให้ปล่อยไง!
ถ้าแม่จะลงโทษแม่ก็ลงโทษข้าแทนแบคฮยอน” คุณหนูคนงามพยายามฝืนตัวอย่างสุดความสามารถทว่าก็ไม่อาจสู้แรงคนม้าร่างใหญ่ได้
ยิ่งดิ้นแขนทั้งสองข้างก็ยิ่งถูกล็อคแน่นขึ้น
“หึ เจ้าถูกลงโทษแน่ แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีนี้...
เอามันไปเฆี่ยน...”
“ไม่! คุณหญิงอย่าตีข้า! คุณหนูช่วยด้วย!!
คุณหนูช่วยข้าด้วย! อย่าให้เค้าตีข้า!” แบคฮยอนทั้งร้องทั้งดีดดิ้นไปตลอดทางจนเสียงดังไปทั่วทางเดินส่วนชานยอลเองก็ได้แต่ยืนบิดตัวไปมาถึงแม้ว่าแขนของเขาจะแดงช้ำไปหมด
ดวงตากลมโตจ้องลึกลงไปในสายตาของผู้เป็นแม่และพบเห็นเพียงแค่ความเย็นชาที่เคลือบแฝงไปด้วยความโหดร้าย
“ท่านแม่ได้โปรดลงโทษข้าแทนแบคฮยอนเถอะ”
“ข้าไม่เฆี่ยนให้ผิวเจ้าลายหรอก แต่ไม่ต้องห่วง
ไอ้ลูกขี้ครอกนั่น ข้าจะจัดการให้มันเข็ดหลาบเอง...” ว่าแล้วนายท่านใหญ่และสาวใช้ก็เดินถือตะเกียงออกไปจากห้อง
ปล่อยให้คุณหนูชานยอลได้แต่พร่ำคำอ้อนวอนขอให้ผู้เป็นแม่ช่วยเห็นใจลงโทษตัวเองแทนเด็กรับใช้
เสียงร้องของแบคฮยอนยังดังก้องไปตลอดทางเดิน
ร่างผอมๆ ถูกเหวี่ยงลงบนเตียงอย่างแรง คนม้าหนุ่มใช้สายตานิ่งเรียบจ้องมองไปยังชายหนุ่มในร่างหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
เสียงลงไม้ขัดดังขึ้นจากด้านนอก
ชานยอลวิ่งไปเขย่าประตูแต่ก็พบว่ามันถูกล็อคจากด้านนอกเรียบร้อยแล้ว
ไม่ว่าจะพยายามทุบ เอ่ยคำอ้อนวอนหรือข่มขู่เท่าไหร่ ก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมาเลย
ชายหนุ่มทรุดร่างลงนั่งหน้าประตูด้วยความคับแค้นใจ
หยดน้ำตาหลั่งหยดลงบนชุดนอนสีขาว
มันเป็นเพราะชานยอลเองที่ไม่เข้มแข็งและแข็งแรงมากพอที่จะช่วยแบคฮยอนเอาไว้ได้
เพราะชานยอลเองที่อ่อนแอ เขามันไม่ต่างจากผู้หญิงพวกนั้น
และไม่เคยเป็นชายในฝันของแบคฮยอนได้เลย ไม่เคยทำให้แบคฮยอนชื่นชมได้เลย...
“อึก... ฮึก...”
.
.
.
แกร๊ก...
เสียงบานประตูไม้ถูกเปิดออก
ชานยอลที่เอาแต่ยืนมองหน้าต่างมาทั้งวันรีบหันไปมองสาวใช้คนสนิทด้วยความดีใจ
แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อเห็นว่ามีใครเดินมากับเอมิเลียด้วย
สาวใช้คนเดิมเดินนำเอาถาดข้าวไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงโดยมีชายหนุ่มคอยเดินคุมอยู่ด้านหลังเพื่อดูแลทุกกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นภายในห้องนี้
“แบคฮยอนล่ะ” ชานยอลเอ่ยถาม
แต่หญิงสาวก็ไม่สามารถกล่าวตอบอะไรได้
เธอทำได้เพียงแค่ส่งสายตาแห่งความเห็นใจมาให้ก่อนที่จะเดินกลับออกไปพร้อมกับชายหนุ่ม
คนตัวสูงได้แต่ถอนลมหายใจออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ชานยอลเดินกลับไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอีกครั้ง
ดวงตากลมโตหลุบลงมองถาดข้าวและยาด้วยความรู้สึกแสนทรมานใจ
พอหันไปมองกระจกที่อยู่ตรงปลายเตียงก็เห็นเพียงแค่ร่างกายที่หน้าสมเพศของตัวเอง
ชานยอลลุกขึ้นเดินไปยืนอยู่หน้าบานกระจก
ดวงตากลมโตกวาดมองร่างกายที่เริ่มผอมแห้งของตัวเอง มือเรียวยกขึ้นแกะปมเชือกสีขาวออกช้าๆ
ทันทีที่ผ้าเนื้อบางหลุดออกจากไหล่ ร่างกายสมกับเป็นชายก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
ชายหนุ่มที่ถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยเปลือกของหญิงสาว
ไม่ว่าจะด้วยเสื้อผ้า ความคิด หรือแม้แต่ถูกหลอกให้เชื่อว่าตัวเองเป็นหญิงสาว
ชานยอลไม่รู้ว่าเสื้อผ้าเหล่านี้กักขังตัวตนเขาหรือเขากันแน่ที่กักขังตัวเอง...
เพราะชานยอลเอาแต่อ่อนแอ เอาแต่ทำตัวเป็นผู้หญิง
ถึงได้ไม่เคยเป็นชายหนุ่มอย่างแท้จริงสักที
คนตัวสูงเดินเปลือยร่างกลับไปยังเตียงนอนอีกครั้ง
ดวงตากลมโตจ้องมองถาดอาหารก่อนที่จะเจอเข้ากับกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในถ้วยยา
เขารีบหยิบมันออกมาแล้วเปิดอ่านทันที
‘แบคฮยอนออกไปจากคฤหาสน์แล้ว’
ราวกับหัวใจได้พังสลายลงอีกครั้งเมื่อได้รู้ว่าดวงใจของตนเองได้หลุดลอยออกไปนอกคฤหาสน์แล้ว
การถูกเฆี่ยนตีอาจทำร้ายแบคฮยอนได้ไม่พอเท่าที่แม่ต้องการ
พอก้มลงมองตัวเองก็เห็นเพียงแค่ร่างกายผอมบางและผิวขาวเนียน
ไม่มีแม้แต่กล้ามเนื้อเพราะแทบไม่เคยได้ใช้แรงงาน
การถูกเลี้ยงแบบผู้หญิงมาทั้งชีวิตขังชานยอลเอาไว้ในกรอบความคิดเดิมๆ
ปลายนิ้วยกมือขึ้นลูบปลายคางที่เริ่มสากอีกแล้ว
เดี๋ยวไม่นานคนใช้ก็คงจะมาบริการให้เหมือนทุกที
จะต้องไปตามหาแบคฮยอน... เป็นชานยอลในแบบที่แบคฮยอนคาดหวัง
และใช้ชีวิตอย่างอิสระสักที
กล่องเหล็กที่บรรจุยาหลายสิบเม็ดถูกนำออกมาจากใต้หมอน
ชานยอลหยิบมันมาตบเข้าปากแล้วดื่มน้ำตาม เขาเทยาในถ้วยทิ้งลงลิ้นชักเหมือนทุกที
มือเรียวยกขึ้นลูบผมที่ถูกตัดจนเกือบสั้นกุด
สำหรับหญิงสาวการถูกก้อนผมสั้นเป็นเรื่องน่าอับอาย
พวกเขาตัดผมผู้หญิงเหล่านั้นเพราะไม่อยากให้เธอออกนอกบ้าน
แต่สำหรับชานยอลแล้วเขาไม่รู้สึกแบบนั้น
คนตัวสูงเอนตัวล้มลงนอนบนเตียงด้วยความเหนื่อยใจ
ถ้าเมื่อใดสักวันได้เจอแบคฮยอนอีก
ถึงวันนั้นชานยอลคงเป็นชายชาตรีที่สมบูรณ์แบบดังหวัง...
.
.
.
จากวันเดือนเคลื่อนเข้าสู่แรมปี
คฤหาสน์ท่านผู้พิพากษาได้ถูกรับเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงต้อนรับการเลื่อนตำแหน่งอีกครั้ง
คุณหนูของบ้านถูกจับแต่งองค์ทรงเครื่องตั้งแต่ตีห้า
วิกผมสีดำถูกสวมลงบนศีรษะพร้อมกับสร้อยเพชรจุกจิกก่อนที่หมวกใบเล็กจะถูกติดลงบนวิกอีกครั้ง
ชานยอลนั่งนิ่งมองตัวเองในกระจก ใบหน้าของเขาเรียบเฉยเหมือนอย่างทุกที
“วันนี้ข้าต้องรีบลงไปหรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น
ชานยอลมองดูชุดทรงพุ่มที่ห่อหุ้มร่างกายเขาอย่างกับเป็นกล่องของขวัญ
เพื่อปิดบังสัดส่วนที่เก้งก้างและมัดกล้ามเล็กๆ บนแขน
น้ำเสียงที่ฟังลื่นหูเริ่มแตกพร่าเมื่อยาไม่สามารถกดฮอร์โมนเพศตามธรรมชาติได้อีกต่อไป
ไม่นับรวมยากระตุ้นที่ถูกกินเข้าไปทุกวัน
ชานยอลเริ่มเข้าใกล้ความเป็นผู้ชายมากขึ้นทุกทีจนแม่แทบจะไม่มองหน้าเขา
แถมสาวใช้ก็เอาแต่หลบตา
มีเพียงแค่เอมิเลียที่ยังปฏิบัติกับชานยอลเหมือนกับเป็นคุณหนูคนเดิม
“คุณหนูลงไปหลังงานเริ่มก็ได้ค่ะ”
“งั้นเจ้ากับข้าก็มีเวลา” มือหนาคว้าเกี่ยวเอวสาวใช้ร่างน้อยให้เข้ามาใกล้
เอมิเลียหน้าแดงเห่อ
เธอก้มหน้างุดหัวใจเต้นตึกตักเมื่อฝ่ามือของผู้ชายที่ไม่เคยได้สัมผัสลูบไล้ไปทั่วเอวขอด
ชานยอลก้มลงกระซิบคำพูดลงที่ข้างใบหูหญิงสาวในขณะที่มือเขาลูบลากไปทั่วเรือนร่างของเธอ
“ป่านนี้คนใช้คงเตรียมงานกันอยู่”
“คุณหนู...”
behide curtain
“เจ้ารีบแต่งตัวซะ ข้าจะลงไปก่อน” กระซิบคำพูดลงที่ข้างใบหูก่อนจะปล่อยให้หญิงสาวล้มพับลงกับพื้น
ชานยอลมองดูตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก
ชุดกระโปรงผู้หญิงฟูฟ่องและหมวกน่ารักแทบจะไม่สามารถปกปิดความเป็นชายหนุ่มของเขาได้อีกต่อไป
เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันจนแทบจะลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยใส่เสื้อผ้าเบอร์ 17
และรองเท้าเบอร์ 8
ยังไม่ลืม...
ชานยอลไม่เคยลืมคนที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
ไม่เคยลืมความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นในหัวใจก่อนจะรู้จักคำว่าเพศหรือคำว่ารักซะอีก
ไม่ว่ายังไงก็ไม่เคยลืมแบคฮยอนและยังรอวันที่จะได้พบเจออย่างมีหวังเสมอ
ตอนนี้จะอยู่ที่ไหนกัน
ยังซุกซนเหมือนเดิมหรือเปล่า คิดถึงกันบ้างไหมหรือว่าลืมไปแล้ว
แบคฮยอนคนนั้นยังเหมือนเดิมอยู่ไหม
ยังรอชานยอลเหมือนอย่างตัวเขาที่เอาแต่เฝ้ารออย่างนี้หรือเปล่า…
#myfablecb
ความคิดเห็น