ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ฟิคเสื่อม] กวาง The series - Chanbaek

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4.2 : พักยก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 46.73K
      447
      21 พ.ย. 62



    ภายในห้องนอนสีเทาห้องเดิม บนเตียงนอนสีน้ำเงินเข้ม เจ้าของห้องยังเอาแต่นอนพลิกตัวไปมาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ความเห็นหลากหลายจากในทุก sns ถูกปัดผ่านอย่างไร้ความหมาย


    เบื่อ...


    ชานยอลกำลังเบื่อ...


    Na Nayeon : น่ารักอะ

    Jin mijin : หล่ออะ คึคึ

    K twenty : เพลงนี้เพราะว่ะ อัดจริงเมื่อไหร่

    Song naae : ทำไรอยู่

    Song naae : หลับยัง

    BB g23 : ทำเพลงอีกแล้ว เมื่อไหร่จะได้ฟังของจริง

     

    เบื่อ... มีแต่คำว่าเบื่อเต็มไปหมด...


    ชานยอลไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ความสนใจต่อสิ่งต่างๆ ของเขาเริ่มหมดลง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เริ่มรู้สึกเหงาและเห็นผู้คนรอบข้างเป็นสิ่งแปลกปลอม ชานยอลไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้คนมากมายที่เข้ามาห้อมล้อม


    ทุกอย่างมันน่าเบื่อไปหมด... มองไปทางไหนก็เจอแต่อะไรซ้ำๆ เดิมๆ เพื่อนในสังคมเดิมๆ ปาร์ตี้ เดิมๆ ของชิ้นเดิมๆ หรือแม้แต่ผู้หญิงคนเดิมๆ


    มันเป็นความเบื่อที่แม้แต่เงินทองก็ไม่สามารถเยียวยาได้ ความสุขของชานยอลเริ่มตันขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องการมากขึ้น แต่ไม่รู้ว่าต้องหาอะไรมาเติมเต็ม


    อะไรที่ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อ อะไรก็ได้ที่ทำให้ชานยอลรู้สึกสนุกหลังจากที่ไม่ได้หัวเราะจริงๆ มานานหลายปี...


    อีอี้ มึงดู มึงดูกูก่อน~ กูบอกให้มึงถ่ายกูก่อน กูจะจับอีจีจี้เต้น มึงคอยดู~


    แม่ เนี่ย วันเนี้ยเหมือนจะได้งานก็ไม่ได้ ดันเผลอไปด่าลูกเจ้านาย ไปแช่งแม่เค้าตายอีก เค้าเลยเลื่อนวันทำงานเลย หนูล่ะเซ๊งเซ็ง อยากกลับบ้านแล้วเนี่ย อยู่นี่เจอแต่อะไรก็ไม่รู้ โทรศัพท์ที่โดนขโมยก็ไม่ได้คืน


    เน็ตมันไม่ดีอะ คอลวิดีโอไม่ได้ วันนี้นอนที่หอแหละ แม่เอาอีมงรยงมาคุยหน่อย จะร้องเพลงให้มันฟังก่อนนอน


    안녕 내게 다가와 ~

     


    เสียงร้องเพลงจากข้อความที่อัดในวิดีโอวอยซ์ดึงความสนใจของชานยอลออกจากมือถือที่น่าเบื่อ เขาลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์เคสสีฟ้าไปที่โต๊ะคอมฯ ก่อนจะจัดการต่อสายมันเข้ากับโน๊ตบุ้ก


    ชานยอลย้ายไฟล์เสียงที่ดูดมาจากแอพสนทนาเข้าไปในเครื่องคอมฯ แล้วเปิดโปรแกรมตัดเสียงขึ้นมา เขาเริ่มจากการขยายเสียงร้องเพลงของแบคฮยอนขึ้น แล้วตัดเสียงรบกวนอย่างเสียงพัดลมออกไป ก่อนจะใช้โปรแกรมปรับแต่งเสียงอีกเล็กน้อย


    เพียงไม่นานไฟล์เสียงร้องเพลงใสแจ๋วก็พร้อมให้นำไปใส่กับดนตรี ชานยอลจัดการพิมพ์คำค้นหาซาวด์แทร็คลงในอินเตอร์เน็ต พอค้นเจอเขาก็ดาวน์โหลดมันลงเครื่องแล้วกลับไปที่โปรแกรมอีกครั้งเพื่อนำเสียงเพลงกล่อมหมาของแบคฮยอนที่ได้รับการขัดเกลาแล้วไปใส่กับดนตรี

     



    안녕 내게 다가와

    수줍은 향기를 안겨 주던

    희미한 꿈속에서

    눈이 부시도록 반짝였어

     

     

    ชานยอดกดปลุ่มเพลย์ให้เสียงร้องและดนตรีเล่นพร้อมกันอีกครั้งเพื่อฟังความสอดคล้อง เขาเคาะนิ้วลงบนโต๊ะไม้เป็นจังหวะพร้อมกับโครงหัวไปมาเบาๆ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือเคสสีฟ้าเครื่องเดิมขึ้นมากดดูอย่างอื่นต่อ


    Bhxx0506 : เซ็ง จะได้งานก็ไม่ได้ มีใครสนใจจ้างไปกวาดขี้ปะ


    ข้อความที่ถูกโพสต์ลงทวิตเตอร์พร้อมภาพถ่ายวาบหวิวที่ไม่สอดคล้องกันทำชานยอลถึงกับต้องหัวเราะออกมา นี่มันก็เกือบ 3 ชั่วโมงที่ชานยอลนั่งรอข้อความตอบกลับจากรับตัวเล็กบางบูชอน เห็นได้ชัดว่าแบคฮยอนไม่ยอมตอบข้อความเขา ทั้งๆ ที่ยังตอบทวิตคนอื่นตามปกติ


    ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าโดนโกรธเห็นๆ...


    ชานยอลไม่อยากมีค่ำคืนที่เงียบเหงา เขาหยิบเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวหลวมที่แนบลงกับความเป็นชายจนเห็นเป็นลำ ก่อนจะส่งมันไปในข้อความส่วนตัวของ Bhxx0506


    พอส่งรูปไปแล้วชานยอลก็วางโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้แล้วหันไปสนใจเพลงของเขาต่อ


    ติ๊ง!


    ยังไม่ทันที่จะได้กดเมาส์คลิ๊กอะไร เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ทำให้คนตัวสูงต้องยิ้มออกมา ชานยอลรีบคว้าโทรศัพท์ตัวเองมาเปิดเข้าทวิตเตอร์ แล้วตรงไปยังกล่องข้อความทันที


    Bhxx0506 : ต้องการไรอะ


    Cyyyyyxx : แลกรูปกัน


    Bhxx0506 : ในโทรศัพท์ไม่พอไง


    Cyyyyyxx : อยากดูรูปอื่น


    Bhxx0506 : ไปดูของคนอื่นดิ

    Bhxx0506 : ไม่ให้ดู

    Bhxx0506 : กูโกรธ


    Cyyyyyxx : 5555


    Bhxx0506 : ขำไร


    Cyyyyyxx : ขอโทษ


    Bhxx0506 : ไม่ทันละ


    Cyyyyyxx : ส่งรูปภาพ

    Cyyyyyxx : หายกัน


    Bhxx0506 : ไม่พอ เอามาอีก


    Cyyyyyxx : แลกกันดิ


    Bhxx0506 : บอกแม่ให้เอาเข้าทำงานหน่อยดิ

    Bhxx0506 : เดี๋ยวโชว์ให้ดู


    Cyyyyyxx : เดี๋ยวบอก


    Bhxx0506 : มึงหลอก มึงไม่บอกหรอก

    Bhxx0506 : ถามจริง

    Bhxx0506 : เอาโทรศัพท์เราไปทำไรอะ

    Bhxx0506 : เอาไปว่าวอ่อ

     

    คำถามที่ไม่มีคำตอบทำชานยอลนิ่งชะงักไปครู่ใหญ่ แต่เขาก็พิมพ์ตอบกลับไป


    Cyyyyyxx : ไม่เอาไปขายหรอก


    Bhxx0506 : แล้วเอาไปทำไมอะ มีไรน่าสน

    Bhxx0506 : คอลได้ปะ ขี้เกียจพิมพ์


    สียงเตือนจากนาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะบอกชานยอลว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนตรงแล้ว เขานั่งมองข้อความที่คนตัวเล็กส่งมาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจคว่ำหน้าจอโทรศัพท์แล้วกลับไปสนใจโน๊ตบุ้กของตัวเองต่อ...

     


    .


    .


    .


     

    Rrrrrrrrrrrrrr


    “อิแบ้ก โทรศัพท์”


    เสียงแจ้งเตือน Calling จากแอพพลิเคชั่น Kakaotalk ปลุกแบคฮยอนที่กำลังจะหลับให้ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง เขาคลานตัวไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จแบตอยู่ปลายเตียงมาดูชื่อจากสายเรียกเจ้า ก่อนจะกดรับแล้วคลานกลับไปนอนที่เดิม


    “ฮัลโหล”


    [..........]


    “ได้ยินปะ ยังไม่นอนอีกแงะ”


    [ยัง ยังไม่ง่วง]


    “บอกให้โทรมาตั้งนานแล้วไม่โทร จะหลับอยู่แล้วเนี่ย”


    [………]


    “รอจนหายโมโหและ”


    [หรอ]


    “เออ ตอนแรกก็ว่าจะโทรไปด่า แต่ไม่ด่าแล่ว เซ็ง แล้วนี่ทำไมไม่นอนอะ หาแลกรูปอยู่อ่อ”


    [เปล่า]


    “หรอ... ไม่นอนแล้วทำไร ชัxว่าวกับรูปเราอยู่ปะ”


    [ฮ่ะๆๆๆ เปล่า]


    “แล้วทำไรอยู่อะ เล่นโทรศัพท์เราอยู่ปะ”


    [ไม่ได้เล่น วางไว้เฉยๆ]


    “อย่าเอาไปรีทวิตผิดอีกนะ เดี๋ยวโดนจับได้”


    แบคฮยอนเสียบหูฟังกับมือถือแล้วทิ้งตัวนอนลงบนหมอนอีกครั้ง เขาไม่ลืมที่จะแดกดันไอ้หัวขโมยเรื่องโทรศัพท์ที่ถูกขโมยไปด้วย


    [ไม่ให้โดนจับได้หรอก]


    “อือ... แล้วตกลงจะไม่คืนโทรศัพท์ให้จริงใช่ปะ”


    [ยัง ตอนนี้ยังไม่คืน]


    “งั้นขอรูปที่อยู่หลังเคสได้ไหมอะ ไม่อยากได้แล้วอะโทรศัพท์”


    [ไม่ให้]


    “แล้วจะเก็บไว้ทำไมวะ มันเอาไปทำอะไรได้”


    [เก็บไว้เฉยๆ น่ารักดี]


    “แล้วตอนโตไม่น่ารักอ่อ”


    [หึๆ]


    การสนทนาแบบถามคำตอบคำทำให้แบคฮยอนอดคิดไม่ได้ว่านายชานยอลนี่ช่างระวังตัวเหลือเกิน เขาพูดอย่างกับกลัวว่าใครจะไปล่วงรู้ความคิด หรือเข้าถึงตัวตนได้อย่างนั้นแหละ ไม่รู้ว่าเป็นคนลึกลับหรือแค่กวนประสาทกันแน่


    “ถามอะตอบดิ อุตส่าห์ยกโทรศัพท์ให้แล้วนะ”


    [ไม่รู้]


    “อย่าตอบกั๊กเดะ... เสียงอะไรอะ ฟังเพลงอยู่อ่อ”


    [อื้อ ทำเพลง]


    “ทำเพลงด้วยอ่อ แบบแต่งเพลงอะหรอ หรือเอามามิกซ์เฉยๆ”


    [ความลับ]


    “ทำไมความลับเยอะจังวะ ทีตัวเองรู้เรื่องของคนอื่นอะ”


    [ทำไมไม่นอนครับ]


    คนปลายสายไม่ยอมตอบคำถาม ชานยอลยังคงพูดน้อยเหมือนเดิม และมันก็ทำให้แบคฮยอนหงุดหงิดได้เสมอ


    “นอนไม่หลับ อยากดูรูปอะ ขอดูรูปหน่อยดิ”


    [ไม่ถ่ายแล้ว ขี้เกียจถ่าย]


    “ไม่อยากฟังครางอ่อ เดี๋ยวครางให้ฟังสดๆ”


    [ลองครางให้ฟังก่อนดิ]


    “ตอนนี้ไม่มีอารมณ์อะ”


    [งั้นก็ไม่ต้องคราง]


    แบคฮยอนไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ดวงตาเรียวรีหลับลง ในขณะที่ริมฝีปากก็ยังขยับบ่นพึมพำไปอย่างไร้จุดหมาย


    “วันไหนว่างนัดกันอีกปะ”


    [หื้อ อะไรนะ]


    “ถามว่าวันไหนว่างนัดกันอีกปะ ไม่เอาแล้วโทรศัพท์อะ อยากได้อย่างอื่น” พูดแล้วก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา แบคฮยอนไม่ได้กำลังเห็นว่าอย่างอื่นสำคัญกว่าทรัพย์สินของตัวเองหรอก เขาแค่รำคาญที่จะพูดถึงมันแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งอยากได้คืนยิ่งไม่ได้ พอคิดว่ากำลังจะได้ทีไรก็ต้องมีเรื่องให้ซวยทุกที ก็เลยคิดว่าบางทีปล่อยเอาไว้แบบนี้ก็น่าจะดีแล้วล่ะ


    [ว่างวันไหนอะ]


    “ก็ว่างทุกวันแหละ ไม่ได้ทำงานแล้วอะ”


    [ฮ่ะๆๆ เดี๋ยวก็ได้ทำ]


    “ไม่ต้องมาขำเลย นี่ไม่ได้ไม่โกรธนะเนี่ย”


    [ถ้าทำตัวดีๆ ก็ได้คืนไปนานแล้ว]


    “นี่ยังไม่ดีอีกอ่อ บอกให้ทำอะไรก็ทำให้ทุกอย่างแล้วอะ”


    [แล้วใครเป็นคนด่าว่าแม่มึงตาย?]


    “ก็กูโมโหอะ คนอุตส่าห์รอปะ ถ้าบอกไม่คืนก็ไม่คืนจะได้ไม่รอ ทำแบบนี้มันเสียความรู้สึกนะเว้ย เหมือนมาให้ความหวังแล้วก็หักหลังกันอะ” แบคฮยอนบ่นอุบ ริมฝีปากบางงอคว่ำอย่างแสนงอน


    [ก็ไม่ได้บอกว่าจะคืนโทรศัพท์ให้นี่]


    “ก็ทำเหมือนจะคืนให้ปะ? นี่ก็ยังไม่หายโกรธนะ? แล้วยังส่งฮอลล์มากวนตีนอีก คิดว่าควรโมโหปะ?”


    [อ่า ขอโทษครับ ฮ่ะๆ]


    “ไม่ต้องมาพูดดีเลยว่ะ แล้วก็เป็นเรื่องเป็นราว แทนที่จะได้ทำงานก็ไม่ได้” ฟันซี่เล็กขบลงบนริมฝีปากบางเบาๆ อยู่ๆ ก็รู้สึกเขินขึ้นมากับแค่คำขอโทษและเสียงหัวเราะทุ้มๆ ที่ข้างหู แบคฮยอนกำลังถามตัวเองว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ คุยโทรศัพท์คลายเหงากับหัวขโมยโรคจิตอย่างงั้นหรอ? หรือว่าแค่กำลังจีบเด็กหนุ่มรูปหล่อที่พ่วงตำแหน่งโจร? หรือว่ากำลังทำการเจรจาต่อลองอย่างนุ่มนวล?


    [ยังไม่เลิกโกรธอีกไง]


    “ยังโกรธอยู่ แต่ไม่โมโหละ”


    [หึ]


    “แล้วทำอะไรอะ ได้ยินเสียงเพลงด้วย ทำเพลงอยู่อ่อ”


    [อือ]


    “ฟังเพลงนี้ด้วยหรอ นี่เพิ่งร้องให้หมาฟังไปเมื่อตอนค่ำเอง”


    [เพลงไร]


    “เพลงประกอบละครอะ ที่พระเอกหล่อๆ”


    [ไม่รู้จัก]


    “ก็ได้ยินเสียงเปิดอยู่เมื่อกี้”


    [แทร็คเมื่อกี้อะนะ]


    “อื้อ ดู ดู ดู รู รู รู ซอลเรยอ~


    [ร้องเป็นด้วยอ่อ]


    “โคตรชอบแหละ ฟังทุกวันเลย ร้องทุกวัน”


    [ลองร้องให้ฟังหน่อยดิ]


    너의 미소에 마음이 녹아내려 눈이 마주쳤을땐 두근거 ~ แล้วใจฉันก็สั่นระรัวไปหมด ~”


    “มึงคุยกะใครอยู่วะ?” อี้ชิงที่กำลังนั่งตัดเล็บอยู่ปลายเตียงหันไปนิ่วหน้าถามเพื่อนตัวเล็กด้วยความสงสัย เมื่อแบคฮยอนเริ่มร้องเพลงและพูดจาหงุงหงิง อี้ชิงก็ไม่แน่ใจแล้วว่าเพื่อนเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับหัวขโมยที่ตัวเองเพิ่งด่าสาปส่งไปเมื่อตอนบ่าย


    “ชานยอลแงะ จำไม่ได้แงะ” แบคฮยอนหันมาตอบพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะหึในลำคอ


    “เอ้า? มึงญาติดีกับมันแล้วหรอ?” ยิ่งได้ฟังคำตอบอี้ชิงก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ถ้าเขาเข้าใจไม่ผิดแบคฮยอนกำลังร้องเพลงให้โจรที่ขโมยของตัวเองฟังอยู่ใช่ไหม?


    “ยัง”


    “แล้วทำไมมึงคุยกับมันอะ?”


    คนตัวเล็กไม่ยอมตอบคำถาม แบคฮยอนแค่ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะถลกผ้าห่มขึ้นคลุมร่างแล้วกลับไปสนทนากับคนในสายต่อ


    [เสียงใครอะ]


    “อ๋อ อยู่กับเพื่อน”


    [อือ]


    “ตกลงว่างมานัดกันอีกปะ”


    [ขอดูก่อน]


    “ดูไรอีกอะ ยังดูไม่พออีกแงะ”


    [ขอดูวันว่างก่อน]


    “พรุ่งนี้ว่างปะ”


    [ไม่รู้]


    “ไม่ต้องกลัวแจ้งตำรวจจับหรอก บอกว่าไม่อยากได้มือถือคืนแล้ว”


    [ฮ่ะๆๆๆ]


    “ก็แดะ จะนอนยังอะ อย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์นะ”


    [บอกว่าไม่ได้เล่น]


    “ถามหน่อยดิ ในบริษัททำตำแหน่งอะไรอะ ทำไมห้อยป้ายไอทีอะ”


    [ก็ทำทุกตำแหน่งที่อยากทำ]


    “โอ้ยยยย~ หมั่นไส้ว่ะ”


    [ฮ่าๆๆ ดูแลเว็บบริษัทกับคอมฯ]


    “แล้วทำไรอีกอะ”


    [ทำแค่นี้แหละ]


    “แล้วตามสัญญาณโทรศัพท์ได้ปะ โทรศัพท์หายอะ โดนขโมย”


    [ไม่ได้]


    “แหม ทีนี้รีบตอบไวเลยนะ แล้วเป็นลูกประธานจริงปะอะ”


    [อือ]


    “ฮ่าๆๆๆๆๆ งั้นสงสัยคงไม่ได้งานละ” แบคฮยอนหัวเราะร่า และในเสียงหัวเราะฮ่าๆๆๆ นั้นก็มีน้ำตาซ่อนอยู่ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าต่อให้ถามยังไงคำตอบก็ไม่เปลี่ยนไป แต่แบคฮยอนก็ยังหวังว่าชานยอลอาจจะเป็นแค่หลานหรือญาติห่างๆ ของท่านประธาน


    [เดี๋ยวก็ได้ทำ]


    “ไว้จะรอดู ทำงานไอทีแสดงว่าเก่งคอมฯ ใช่ปะ”


    [ก็พอทำได้]


    “มือถือเรามันชอบดับบ่อยอะ ชอบรีสตาร์ทเอง ซ่อมให้หน่อยดิ”


    [ซ่อมให้แล้ว]


    “ใจดีจัง ขโมยไปแล้วยังซ่อมให้อีก”


    [อือ]


    “แล้วโกงเกมได้ปะ แบบเติมเงินปลอมๆ แบบที่เค้าทำในเน็ตอะ”


    [เกมไร ทำไมต้องโกง]


    “ก็ไม่อยากเติมเงินอะ แล้วทำได้ปะล่ะ”


    [เกมไรอะ]


    “เกมเศรษฐีอะ”


     [ได้]


    “จริงปะ ทำแล้วเราจะเล่นในเครื่องใหม่ด้วยได้ปะ” แบคฮยอนที่กำลังตาปรือใกล้หลับถึงกับหูผึ่ง คนตัวเล็กดีดตัวลุกขึ้นนั่งเหมือนหลังติดสปริง เมื่อได้ยินว่าคนที่ตัวเองกำลังคุยสายด้วยสามารถโกงเงินในเกมได้


    [ทำไม จะให้ทำไง]


    “ทำได้ก็ทำให้หน่อยดิ ถือว่าจ่ายค่าโทรศัพท์ นะๆๆๆ” รบเร้าออกไปด้วยความกระตือรือร้นก่อนจะคลานไปสะกิดเพื่อนซี้ให้มาร่วมฟังการสนทนาที่น่าตื่นเต้นด้วยกัน แบคฮยอนที่แสนอ่อนไหวดีใจจนตาสว่าง เขาแทบจะลืมความโกรธที่เคยมีไปเลย ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้เป็นคนที่มีความสุขง่ายแบบนี้


    [มีอะไรมาแลก]


    “ก็โทรศัพท์ไง ก็ให้ไปแล้วอะ”


    [……….]


    “นะๆๆๆๆ”


    [อือ เดี๋ยวทำให้]


    “เย้!!” แค่ได้ยินอีกคนรับปากแบคฮยอนก็ดีใจจนเนื้อเต้น เขาระบำส่ายเอวไปมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะกลิ้งตัวกลับไปนอนที่เดิม


    [ดีใจอะไร]


    “ก็ได้เงินเล่นเกมฟรีแงะ เติมให้เยอะๆ เลยนะ มันจะไม่โดนแบนใช่ปะ”


    [ไม่โดน]


    “แล้วทำเกมอื่นด้วยได้ปะ”


    [ต้องบอกชื่อมา]


    “พวกคุ้กกี้รัน เพนต้าสตอร์มอะ”


    [แค่นี้ก่อนนะ]


    “เอ้า ไปไหนอะ”


    [จะทำงานต่อ ถ้าว่างเดี๋ยวบอก]


    “อะไรวะ แล้วจะเติมเกมให้เลยปะเนี่ย”


    [อีกสิบนาทีลองเช็ค]


    “ห้ามหลอกนะ คราวนี้อะ”


    [ครับ แค่นี้ก่อนนะ]


    “โอเค... เดี๋ยว...”


    ไม่ทันจะได้กล่าวลาคนทางปลายสายก็รีบกดวางไปซะดื้อๆ แบคฮยอนที่อยู่ๆ ก็ถูกตัดสายใส่ได้แต่นิ่วหน้ามองโทรศัพท์เครื่องเก่าที่เป็นเครื่องใหม่ด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะคลานตัวนำมันกลับไปชาร์จไว้ที่เดิมที่ปลายเตียง


    “มึงคุยกับชานยอลอ่อ?” อี้ชิงที่ยังไม่หายสงสัยหันกลับไปถามเพื่อนตัวเล็กอีกครั้งอย่างไม่ค่อยเชื่อหู นี่แบคฮยอนกำลังเป็นบ้าอะไรอยู่ เขาลืมไปแล้วหรอว่าเมื่อตอนบ่ายตัวเองโศกเศร้าแค่ไหน


    “เออ ก็จะด่ามันแต่ขี้เกียจพิมพ์ เลยบอกให้มันโทรมา” คนตัวเล็กตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย เหมือนไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรใดๆ เลยกับสิ่งตัวเองทำอยู่


    “นั่นคือด่า? กูเห็นมึงนอนคุยงุ้งงิ้งกับมันอย่างกับเด็กเห่อ-มอย”


    “ก็อยากด่าแต่ไม่รู้จะด่าอะไรอะ ด่าไปมันก็ไม่คืนโทรศัพท์กูอยู่ดี” แบคฮยอนยักไหล่ ที่จริงเขาไม่ได้จะด่าชานยอลหรอก ก็แค่อยากลองพูดดีด้วยๆ เผื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมใจอ่อนคืนมือถือให้


    “ก็เลยใช้วิธีอ่อยล่อ?”


    “ไม่รู้อะ กูก็คุยไปเรื่อยเปื่อย”


    “แล้วเมื่อกลางวันมึงด่าเค้าไว้ซะแรง ไปปากเก่งใส่เค้า พอตกกลางคืนมึงก็มางุ้งงิ้งกัน? มึงมันใช่หรอวะ?” อี้ชิงถามเสียงสูง คิ้วเขาขมวดยุ่งเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นโบว์


    “ก็มาลองนึกๆ ดูแล้วกูก็ผิดด้วยแหละ แบบอยู่ที่ทำงานกูก็ไม่น่าทำงั้นอะ แล้วมันก็ช่วยแก้ตัวให้ด้วย ถ้าไม่งั้นกูคงพูดไรไม่ออก”


    “มึง ถ้ามันทำความผิดจริงมันก็สมควรโดนปะวะ แบบเนี้ยเหมือนมึงเสียเปรียบเค้าเลยนะ ไม่ได้ทำผิดอะไรสักอย่าง แต่ต้องมาซวยรับเคราะห์แทนทุกอย่าง แล้วมึงจะเห็นใจมันเพราะแค่มันช่วยมึงแก้ตัวเนี่ยนะ?” เลิกคิ้วถามย้ำกับคำถามที่โคตรจะเข้าใจง่าย อี้ชิงรู้ว่าแบคฮยอนมันหมาอ่อน แต่เขาควรจะปรับปรุงตัวได้แล้ว ไม่อย่างงั้นคงใช้ชีวิตในเมืองหลวงไม่ได้แน่


    “ก็รู้~ แต่มึงจะให้กูทำไงอะ กูไม่อยากขี้ฟ้องอะ มีอะไรกูอยากเคลียร์กับมันเอง กูไม่ได้ปกป้องมันนะ กูแค่ไม่อยากให้มันกระทบงานอะ มึงก็รู้ว่ากูอยากได้งานขนาดไหน กูจะรู้ปะว่าแม่มันอวยลูกตัวเองขนาดนั้นอะ แล้วพูดมาแบบ ลูกชั้นอย่างงั้นอย่างงี้ เป็นมึงจะทำไงอะ เค้าทำเหมือนมึงพูดอะไรไปเค้าก็พร้อมจะเชื่อลูกเค้ามากกว่าอะ หรือต่อให้ลูกเค้าผิดยังไงคนที่ซวยก็เป็นกูอยู่ดีอะ มันพูดยากมึง” แบคฮยอนพยายามทำหน้าอ้อนวอนร้องขอความเห็นใจจากเพื่อนซี้ เขาเองก็ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นหรอก


    “แต่สุดท้ายมึงก็ซวยอยู่ดีปะ แถมไม่ได้อะไรคืนมาเลย?”


    “ก็รอดูก่อนดิ ถ้าได้งานนี้อย่างน้อยก็ได้เงินค่าหอที่จ่ายไป ถ้าหลังจากนั้นมันไม่โอเคก็ค่อยย้าย โปรไฟล์อย่างกูหางานในบริษัทใหญ่มันไม่ง่ายนะเว้ย อิเหี้ย กูไม่ได้จบจากอ๊อกฟอร์ด”


    “มึงอะเก่งแต่ปากนะอิแบ้ก พอโกรธเค้าก็มาด่าๆ โดนเค้าหลอกก็มานั่งเจ็บใจ แล้วก็ไม่ยอมทำอะไร พอเค้าเอาอะไรมาล่อมึงก็วิ่งตามหางสั่นดิ๊กๆ ใจอ่อนไปหมด แล้วนี่ก็เกมอีก มึงคิดว่ามันจะทำให้มึงจริงๆ หรอวะ? ไม่ใช่มันเอาบัญชีไปเติมเงินแล้วมาหลอกมึงอีกหรอ” อี้ชิงผู้ไม่ยอมใครกล่าวอย่างไม่ไว้วางใจ


    “มันจะหักจากบัญชีไหนได้วะ ทั้งบัญชีกูมีอยู่ 30 บาท?”


    “มึงหัดเลิกมองโลกในแง่ดีได้และ ไม่งั้นมึงจะโดนเค้าเอาเปรียบนะเว้ย ที่นี่มันเมืองหลวงไม่ใช่บูชอนบ้านเรา” สุดท้ายก็ได้แต่กล่าวออกมาเสียงอ่อยด้วยความเหนื่อยใจ


    แบคฮยอนจะเป็นเด็กบ้านนอกที่ดีแต่วางท่าก๋ากั่นไม่ได้แล้ว เพราะคนในเมืองหลวงไม่ได้ใจดีอย่างที่คิด เขาจะต้องเป็นผู้ใหญ่แล้วก็หัดดูแลตัวเองได้แล้ว ไม่ใช่คิดว่าแต่ว่าไม่เป็นไร โกรธไปด่าไปเดี๋ยวก็หาย พอหายแล้วก็ลืม


    นี่ไม่ใช่ว่าเห็นดีเห็นงามกับคนไม่ดีหรอกนะ แต่อี้ชิงไม่แปลกใจเลยที่ชานยอลเลือกแกล้งแบคฮยอน


    “รู้แล่ว มึงชอบบ่นอะ” คนตัวเล็กมุ่ยหน้าพลางเอื้อมมือไปหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นกดเข้าเกมที่ตัวเองเพิ่งจะขอให้คนรู้จัก(?)โกงไปเมื่อครู่


    “มึงยอมรับเหอะว่ามันหล่อ มึงก็เลยยอมอรุ่มอร่วยให้มัน โปรไฟล์มันก็ดีด้วยหนิ แหม อิสัส ไล่จับกันอย่างกะหนังอินเดีย มึงลองนึกว่าเป็นคนอื่นที่ทำดิ แบบเป็นยามหน้าเหี้ยๆ งี้อะ”


    “กูฟาดหัวแตกอะ”


    “เห็นแมะ?”


    “มึงก็รู้อะ~” แบคฮยอนลากเสียงยาว พร้อมกับหันไปทำหน้าแบบเหยาหมิงใส่เพื่อนรัก สื่อเป็นนัยว่าก็รู้ๆ กันอยู่ เขาได้แต่ส่งเสียงหัวเราะออกมา ก่อนที่จะต้องเงียบเสียงลงเมื่อได้เห็นยอดเพชรของเกมที่ปรากฏในมือถือ


    ดูเหมือนว่าคราวนี้แบคฮยอนจะไม่ได้ถูกหลอก... เขามีเพชรในเกมเกือบ 5,000 รวมมูลค่าแล้วมันน่าจะเกือบหมื่นได้เลย...


    “มึง... มันเติมให้จริงว่ะ” พึมพำออกมาเหมือนไม่ค่อยอยากจะเชื่อสายตานัก ก่อนที่จะกดเข้าไปในร้านค้าเพื่อลองซื้อของอื่นๆ และพบว่ายอดเพชรที่เติมมานั้นใช้ได้จริง แบคฮยอนกำลังอึ้ง แล้วก็คิดว่าเขาต้องฝันไปแน่ๆ ไม่ใช่ว่าหลังจากนี้จะถูกแบนออกจากระบบเกมหรอ?


    “อะไร? เพชรในเกมอะหรอ?”


    “เออ มันเติมได้จริงด้วยว่ะ ซื้อของได้ด้วย โห... ถ้าเป็นเงินนี่เกือบหมื่นเลยมั้ง เกือบแปดพัน”


    “หรอ ทำไมมันเก่งจังวะ”


    “เชี่ย... แม่ง...”


    ติ๊ง!


    ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นก็เรียกแบคฮยอนให้ต้องละความสนใจออกจากจอเกม เขารีบเปิดแอพฯ ทวิตเตอร์ขึ้นมาทันทีเพื่ออ่านข้อความจากนาย Cyyyyxx และก็ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันจะไม่ได้ทำให้แบคฮยอนหงุดหงิดใจเหมือนอย่างทุกที



    Cyyyyyxx : หายกัน



    .


    .


    .

     


    บัตรเติมเงินใบสุดท้ายถูกขยำทิ้งลงถังขยะใบเล็กที่วางอยู่ข้างเก้าอี้ ชานยอลปิดโน๊ตบุ้กของเขาลงก่อนจะถอดสายโทรศัพท์ออกจากเครื่อง แล้วหยิบทั้งมือถือของตัวเองและของคนอื่นพร้อมหูฟังกลับไปยังเตียงนอน


    ติ๊ง!


    Bhxx0506 : จะไม่โดนแบนใช่เปล่า


    ข้อความที่ให้ความรู้สึกซื่อๆ เด๋อๆ จากรับบางบูชอนทำชานยอลอดที่จะหัวเราะไม่ได้ เขาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงพร้อมกับเสียบหูฟังเข้าหูแล้วเปิดเพลง Beautiful ที่เพิ่งจะทำเสร็จเมื่อครู่ฟัง ก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป


    Cyyyyyxx : ไม่โดน


    Bhxxx0506 : ชัวร์นะ


    Cyyyyyxx : ชัวร์


    Bhxx0506 : คราวหน้าเติมเพนต้าสตอร์มให้หน่อย


    Cyyyyyxx : เล่นเป็นหรอ


    Bhxx0506 : อยากเล่น


    Cyyyyyxx : ไว้พรุ่งนี้


    ตอบไปแค่นั้นก็ปิดโทรศัพท์ตัวเองลง ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์อีกเครื่องขึ้นมากดเข้าแอพฯ ทวิต ชานยอลใช้มือถือของแบคฮยอนเข้าทวิตเตอร์ แล้วตรงไปที่หน้าโปรไฟล์เพื่อเปลี่ยนภาพดิสฯ สุดยั่วยวนให้กลายเป็นภาพเด็กชายตัวน้อยที่กำลังอมนิ้วมือ


    พอเปลี่ยนเสร็จแล้วชานยอลก็วางโทรศัพท์เคสสีฟ้าเอาไว้บนหัวเตียง ก่อนจะหลับตาลงนอนอย่างอารมณ์ดี...








    #ฟิคกวาง



    อันยองแนแกทากวาวา~ ฮ่าาา น่ารักจัง พักยกก่อนเดี๋ยวเหนื่อย ☺️☺️  อย่าลืม #ฟิคกวาง นะคะ เอ็นจอยรีดดิ้ง :D 






    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×