ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แม่บ้านทหารบก CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #6 : EP.5 ค่ายสยองขวัญ / คืนแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24.68K
      1.13K
      7 ม.ค. 66

     
    B
    E
    R
    L
    I
    N

     


    ในวันที่การเข้าค่ายมาถึง นักเรียนกว่าครึ่งบนรถบัสกำลังเคาะหน้าต่างร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานโดยที่ไม่ได้รู้ถึงชะตากรรมในภายภาคหน้าของตัวเองเลย เสียงดังโหวกเหวกทำแบคฮยอนนอนไม่หลับ คนตัวเล็กตัดสินใจหยิบเอามือถือขึ้นมาเล่นเกมฆ่าเวลาไปพลางๆ

     

    ค่ายที่จะไปนี่ต้องเดินขึ้นเขาปะวะจาง อี้ชิงเอนตัวลงนอนพิงไหล่เพื่อนตัวเล็กที่นั่งกดเกมอยู่ข้างๆ เขาได้แต่ถอนลมหายใจออกมาอย่างนึกเซ็งกับเพื่อนๆ ในห้องที่ไม่ได้สำเนียกกับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะไปเจอเลย ถ้ามันเป็นแค่การเข้าค่ายสนุกๆ ก็คงดี แต่ถ้าแค่เข้าค่ายสนุกๆ ทำไมต้องไปถึงค่ายทหาร

     

    ไม่รู้ดิ แต่พ่อกูบอกต้องเดิน มันก็คล้ายๆ ไปรด.แหละ แต่ทหารแม่งโหดกว่า

     

    จริงอ่อวะ

     

    เออ เพราะรด.มันฝึกเด็กช้ะ แต่อันนี้มันค่ายทหารของจริง เค้าฝึกกันจริงๆ ซ้อมจริงอยู่ในนี้อะ แต่มันคนละโซนกับที่ทหารอยู่นะ พ่อกูเคยไปฝึกทหารอยู่แบคฮยอนเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วหันมาเมาท์กับเพื่อนแทนถึงความโหดที่พ่อเล่าให้ฟัง เขาเองก็หวังอยู่ในใจลึกๆ ว่ามันจะเป็นแค่คำขู่

     

    พ่อมึงขู่ปะ

     

    ไม่รู้ว่ะ ก็คงไม่ขนาดนั้นหรอก มาเข้าค่ายนะเว้ยไม่ได้มาฝึก แต่ทหารมันอาจจะฮาร์ดคอร์หน่อย

     

    เชี่ย

     

    เสียงพูดคุยเบาๆ ยังคงดังไปตลอดทางขณะที่รสบัสขับมุ่งหน้าเข้าสู่ค่ายฝึกทหารจริงที่ไม่ใช่เพียงศูนย์ฝึกนักศึกษาทหาร ยิ่งรถขับเข้าไปลึกมากเท่าไหร่บรรยากาศรอบข้างก็ยิ่งดูน่ากลัว มองไปทางไหนก็มีแต่ป่า มันไม่ใช่ป่าต้นไม้แห้งแบบเขาชนไหล่แต่เป็นป่าดิบชื้น มองไปไกลๆ เห็นศูนย์ฝึกที่มีลานคอนกรีตตั้งอยู่กับอาคารอีกเล็กน้อย แต่นอกจากนั้นแล้วก็แทบไม่มีสิ่งปลูกสร้างอะไรเลย

     

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

    รถจอดลงที่ลานคอนกรีตซึ่งดูไม่แย่นักนักเรียนชั้นม.5 เดินแบกกระเป๋าไปเข้าแถวตามห้องต่างๆ เพื่อฟังพิธีเปิดค่าย แบคฮยอนแอบรู้สึกไม่ดีอยู่ในใจลึกๆ เพราะมันไม่เหมือนค่ายพักแรมที่เคยไปตอนมัธยมเลย มองไปทางไหนก็มีแต่ทหารๆ เต็มไปหมด แล้วก็ทำให้อดนึกถึงการฝึกรด.อย่างช่วยไม่ได้

     

    ของพวกคุณจะถูกนำไปเก็บไว้ที่โรงนอนก่อน อนุญาตให้เข้าไปหยิบได้เฉพาะตอนอาบน้ำ โทรศัพท์ห้ามใช้ตอนกลางวันหรือระหว่างกิจกรรม ทรัพย์สินของใครรับผิดชอบกันเอง หากมีการสูญหายทางศูนย์ฝึกจะไม่รับผิดชอบ ที่นี่พวกคุณต้องดูแลกัน!

     

    ครับ!!

     

    ใครที่เคยฝึกรด.มาแล้วอย่าคิดว่าที่นี่หมูๆ รด.มันทหารคุณหนู! พวกทหารที่ไปฝึกคุณก็จบมาจากค่ายนี้ทั้งนั้น ผมไม่เคยฝึกเด็ก ผมฝึกแต่ทหาร ถ้าคุณเลือกที่จะมาที่นี่คุณต้องทำใจยอมรับไว้แล้ว ที่นี่ไม่มีผู้หญิง! ไม่มีผู้ชาย! ทุกคนเท่าเทียมกัน! กฎเหล็กมีข้อเดียวคืออย่าอ่อนแอ อย่าเหยาะแยะ อย่าทิ้งเพื่อน! เป็นทหารถ้าเอาศพกลับมาไม่ได้ก็เพิ่มศพเข้าไปอีก! เข้าใจไหม!!

     

    “...............”

     

    พวกคุณเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่!!

     

    ผู้ใหญ่ครับ!!

     

    ดี! งั้นผมจะปฏิบัติกับคุณแบบผู้ใหญ่! แต่ถ้าคุณเป็นเด็กก็ไปสนามเด็กเล่น! ไม่ต้องมาฝึก!!!

     

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

    แม่งค่ายเหี้ยไรวะเนี่ย อย่างกะฝึกทหาร

     

    เวลาสิบโมงเศษๆ ในช่วงพักกินข้าวกินขนมก่อนเริ่มกิจกรรมกลุ่มนักเรียนชายจับกลุ่มกันบ่นอุบเมื่อเริ่มเห็นเค้าลางของการเข้าค่ายที่ดูแล้วไม่น่าใช่การมาเที่ยวสนุกแบบสมัยประถม พวกเขาเห็นทหารจริงๆ วิ่งผ่านหน้าผ่านตาอยู่ตลอด สำหรับเช้าวันแรกที่แสนสบายนักเรียนยังได้รับอนุญาตให้ทานอาหารในโรงอาหารและสามารถเก็บของไว้ในโรงนอนได้ ก่อนที่จะต้องเดินทางต่อไปเพื่อเข้าป่าทำกิจกรรม

     

    นี่แม่งโรงเรียนสหฯ หรือชายล้วนวะ ผู้หญิงน้อยชิบหายอูจินบ่นขณะที่กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็พบเห็นแต่นักเรียนชายนั่งเกาะกลุ่มกันอยู่ ส่วนผู้หญิงที่มีจำนวนเท่าหยิบมือก็แยกตัวกันไปนั่งเล่นอยู่อีกฝั่ง ดูแล้วมันไม่ค่อยจรรโลงใจเลย

     

    ผ้าพันคอแม่งเหมือนของรด.เลย จะให้กูซื้อทำไมวะ กูเอาอันเดิมมาใช้ก็ได้

     

    เสื้อแม่งก็เหมือนกัน

     

    ปรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!

     

    บ่นกันยังไม่ทันไรเสียงนกหวีดเรียกรวมก็ดังขึ้น นักเรียนทั้งหลายลุกขึ้นวิ่งฝุ่นตลบไปรวมแถวอยู่กลางลานคอนกรีต นักเรียนชายหญิงถูกแยกออกเป็นสองฝั่ ก่อนที่การจัดเรียงกลุ่มจะเริ่มเกิดขึ้น แบคฮยอนยืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่ ในใจเขาได้แต่ภาวนาขอให้ได้อยู่กลุ่มกับเพื่อนสนิทห้องเดียวกัน

     

    ปรี๊ด!

     

    เสียงนกหวีดดังขึ้นทุกครั้งที่กลุ่มนับครบถึง 10 เมื่อครูฝึกเดินมาถึงแถวของห้อง 3 แบคฮยอนหัวใจเต้นด้วยความลุ้นระทึก ครูฝึกตัดแถวที่หน้าเขาก่อนจะเดินนับไปจนถึงคนสุดท้ายของแถว แบคฮยอนอดแอบหันไปมองไม่ได้ และเมื่อครูฝึกนับเก้าที่ชานยอลหัวใจดวงน้อยก็ระเบิดฟู่เหมือนมีพลุพุ่งออกมา

     

    กลุ่มของแบคฮยอนประกอบด้วยอินซอง ชานยอล จงอิน จีฮวาน ดงอุน คยองซู ฮันบิน อูจิน ชานซอง และจียอนกะเทยผมยาวที่เป็นตัวแถมจากต่างห้อง การตัดแถวยังคงเป็นไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีนักเรียนหญิงถูกเพิ่มพิเศษมาในกลุ่มทุกคนก็จะส่งเสียงเฮกันใหญ่ เนื่องจากมัธยมโควอนชั้นปีแรกเป็นชายล้วนก็เลยไม่ค่อยมีผู้หญิงนักถึงม.ปลายจะเป็นสหฯ ก็ตาม

     

    ต่อไปจะเป็นการเข้าฐาน ห้องไหนทำเวลาได้ดีที่สุดจะได้พักกินข้าวก่อนเพื่อน! และจำไว้ว่าต้องดูแลกลุ่มให้ดี อย่าแตกกลุ่ม กลุ่มไหนเพื่อนหายจะต้องโดนซ่อม เข้าใจไหม!!

     

    เฮ้!!

     

     

     

    หมู่อื่นเค้าไปกันถึงไหนแล้ว!! ช้าแบบนี้มึงจะตามใครเค้าทัน!!

     

    การแข่งขันเข้าด่านเป็นไปอย่างดุเดือด โดยมีเสียงตะคอกของครูฝึกคอยกดดันอยู่ตลอดเวลา สำหรับนักเรียนชายที่ผ่านการฝึกรด.มาแล้วนั้นถือว่าไม่ยากนักเพราะฐานการฝึกในค่ายทหารไม่ต่างกันเท่าไหร่ เป็นโชคดีของแบคฮยอนที่ยังมีเพื่อนสนิทอยู่ด้วยในกลุ่มด้วยคนนึงไม่นับรวมหัวหน้าหมู่ที่คอยเป็นกำลังใจให้อีก

     

    ปาย!! มึงรออะไรกัน!! ไอ้วกเหยาะแหยะ!!

     

    เสียงตะโกนของครูฝึกดังลั่น เจ้าตัวอ้อแอ้ของทีมรีบกำเชือกแล้วดึงตัวเองขึ้นไปทันทีโดยมีเพื่อนในหมู่คอยรับอยู่ข้างบน การไต่บันไดเชือกเงือนขึ้นราวไม้ทำแบคฮยอนมือแดงเถือกไปหมด พอขึ้นไปได้ก็ต้องวิ่งลงแล้วตั้งหน้าวิ่งๆๆๆ วิ่งกันจนฝุ่นตลบไปคลานรอดใต้เถาวัลย์ลวดหนาม

     

    การทำกิจกรรมเข้าฐานของค่ายสบายกว่ารด.ตรงที่ไม่ต้องแบกกระเป๋ากับกระบอกปืนไปด้วยแต่ระยะห่างระหว่างฐานเยอะมากๆ ทำให้ต้องวิ่งตลอดเวลาเหมือนเป็นการตัดกำลัง

     

    พอคลานพ้นลวดหนามมาได้ทีมฝึกหมู่ 10 ก็ต้องวิ่งกันต่อเพื่อไปไต่เชือกข้ามแม่น้ำ คนตัวเล็กหอบหายใจแฮ่ก ใบหน้าแดงเพราะอากาศที่ร้อนจัด รู้สึกได้เลยว่าขาเริ่มล้าจนสั่นกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็วิ่งช้าจนเกือบรั้งท้ายเพื่อนแล้ว

     

    อย่าหลงหมู่นะ!! อย่าช้า! ไปๆๆๆ!!

     

    เสียงครูฝึกยิ่งสร้างความกดดันให้กับเหล่านักเรียนอย่างมาก แบคฮยอนวิ่งช้าลงเรื่อยๆ แต่ก็ต้องทนต่อไปแม้จะเหนื่อยจนแทบก้าวขาไม่ออก ข้างหน้าเขามีชานยอลที่มักจะคอยหันมามองอยู่เสมอเพื่อเช็คว่าเพื่อนในทีมวิ่งไปพร้อมกันไหม

     

    โอ้ย!

     

    เสียงเล็กๆ ร้องดังลั่นสนาม จียอนหกล้มลงกับพื้นเหมือนสดุดขี้เปียก ทำให้เพื่อนในทีมต้องหยุดวิ่งแล้วหันมามองเป็นตาเดียว ชานยอลที่เห็นว่ามีเพื่อนล้มก็วิ่งเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับส่งมือให้ และภาพที่เห็นทำแบคฮยอนอดหันไปเบะปากใส่เพื่อนรักไม่ได้ เขาส่งเสียงหัวเราะหึออกมาก่อนจะเร่งซอยเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อที่ได้ทันหมู่อื่นๆ โดยที่ในใจก็ได้แต่คิดว่า เอ้อ ไม่ง้อหรอก จะวิ่งให้เป็นลมตกน้ำไปเลย ถึงจะไม่มีชานยอลคอยช่วยแต่แบคฮยอนไม่ยอมแพ้หรอก!

     

     

     

     

     

    ที่หน้าด่านคอมมันโดไต่เชือกข้ามน้ำที่เคยมีภูมิหลังกันมา แบคฮยอนยืนหน้าแดงยู่หลังสุดของแถว มือเขาอ่อนแรงไปหมดหลังจากที่ผ่านทั้งการไต่เชือก ผูกเงื่อน แถมอากาศยังร้อนจนหน้าแดงเห่อขนาดแค่ยืนขายังสั่นพั่บๆ การแข่งขันดุเดือดมากจนผู้หญิงบางคนถึงกับยอมแพ้เพราะไปต่อไม่ไหวทำให้เหลือแต่ทีมผูชายที่ยังแข่งต่ออย่างไม่ไหวหวั่น

     

    เห้ย!! ทีมนั้นอะ อย่ามัวแต่ช้า! ไปไวๆ เพื่อนเค้าไปกันหมดแล้ว!เสียงครูฝึกตะโกนเร่ง จงอินกับอินซองต้องรีบไต่เท้าไปบนเส้นเชือกเพื่อที่จะข้ามผ้าสีแดง แต่แล้วก็เหมือนฟ้าแกล้งเมื่ออยู่ๆ เชือกก็พลิกจนทั้งคู่แทบจะตกลงไปในน้ำ อินซองใช้ขาเกี่ยวเชือกไว้แน่น เชือกเส้นใหญ่โยกหย่อนจนหลังแทบติดผืนน้ำ

     

    เสียงหัวเราะดังครืนเมื่อทั้งสองคนพยายามจะผ่านด้านไปให้ได้ด้วยการห้อยตัวไต่เชือกไปแทนที่จะยืนบนเชือก พอครูฝึกเห็นเข้าก็มาช่วยไกวเชือกอีกแรงจนอินซองแทบจะไปไม่รอด

     

    มึงนึกถึงข้าวไว้ดิวะอินซอง!!อูจินตะโกนเชียร์เสียงลั่น แบคฮยอนถึงกับต้องหัวเราะออกมาเมื่อได้เห็นความพยายามที่แสนทุลักทุเลของเพื่อนร่วมห้อง เขาพยายามสูดลมหายใจให้ลึกเพื่อลดอาการเหนื่อย ตอนนี้มือบางทั้งสองข้างแดงไปหมดจนแบคฮยอนอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองต้องตกน้ำแน่

     

    ไหวเปล่าเสียงทุ้มของหัวหน้าหมู่ที่ดังขึ้นข้างๆ เรียกคนตัวเล็กให้ต้องหันไปมองแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรมาก แบคฮยอนเพียงแค่ส่งเสียงครางอื้อในลำคอเบาๆ ก่อนจะเบือนสายตาหนีแกล้งทำเป็นสนใจมองเพื่อนที่กำลังไต่เชือกอยู่ พอชานยอลเห็นแบบนั้นเขาก็ได้แต่ยกยิ้มจางๆ ก่อนจะเดินกลับไปหาเพื่อนเพื่อที่จะข้ามแม่น้ำเป็นคู่ถัดไป

     

    สถานการณ์ตึงเครียดเกิดขึ้นระหว่างลูกหมู่ตัวเล็กและหัวหน้าอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครรู้ แบคฮยอนไม่ยอมให้หัวหน้าหมู่ช่วยเหลือเขาเหมือนอย่างทุกทีแล้วก็เอาแต่งอนจนร่างกายตัวเองอ่อนล้าเรี่ยวแรงไปหมด

     

     

     

    การแข่งขันผ่านไปอย่างดุเดือดและก็ได้ผู้ชนะที่ไม่ใช่หมู่ 10 เวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งมาถึงช่วงบ่ายแก่ๆ อันเป็นเวลาพัก นักศึกษาของค่ายฝึกความอดทนเอาถาดหลุมไปต่อแถวรับข้าวคลุกฝุ่นกับแกงจืดกระหล่ำและปลาหมึกทอดแห้งๆ ก่อนจะแยกย้ายกันไปหาที่นั่งกินตามพื้น

     

    การต้องใช้แรงอย่างหนักตลอดทั้งวันทำทุกคนต่างก็หิวโซก้มหน้าก้มตากินกันอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าแม่ครัวจะตักกล้วยบวชชีกระฉอกไปรวมกับต้มจืดก็ตาม แต่ก็ถือว่ายังดีที่มีร้านข้าวร้านขนมขายในโรงอาหาร ไม่งั้นพวกเขาคงไม่รอดวันนี้แน่

     

    แม่งเอ้ย อยากกลับว่ะแบคฮยอนบ่นอุบในขณะที่ตักข้าวคลุกฝุ่นราดกล้วยบวชชีเข้าปาก เขาถอนหายใจออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเบื่อหน่ายเนื่องจากตัวแถมของห้องอื่นที่เข้ามาเสนอหน้าอย่างไม่ลดละ แม้ว่าจียอนจะไม่ได้สร้างปัญหานักแต่แบคฮยอนก็ยังหมั่นไส้อยู่ดี

     

    เป็นไร เหม็นอีจียอนอะดิอี้ชิงหัวเราะหึ อย่างแบคฮยอนจะมีสักกี่เรื่องที่ทำให้รำคาญใจถ้าไม่ใช่เรื่องพี่หัวหน้าหมู่สุดหล่อของเขา

     

    เออ รำคาญ

     

    มึงอิจจฉามันอะดิคยองซูกล่าว แน่นอนว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วเพราะแบคฮยอนเคยเป็นน้องเล็กสุดของหมู่ พอมีกะเทยสาวกว่าเข้ามาเขาก็เลยถูกเมินไปซะเฉยๆ คยองซูก็ไม่แปลกใจหรอกถ้าแบคฮยอนจะรู้สึกอิจฉา

     

    กูไม่ได้อิจฉามันสักหน่อยคนตัวเล็กนิ่วหน้าว่าเสียงอ่อย ริมฝีปากบางก็โด่งเชิดขึ้นจนกลายเป็นปากเป็ด แบคฮยอนจะไปอิจฉาอะไรกับแค่กะเทยผมยาวคนเดียว เขาออกจะมั่นใจในผมรองทรงสุดเปรี้ยวและความอ้อแอ้นี้ แบคฮยอนก็แค่เบื่อที่ต้องอยู่รวมกับตัวแถมห้องอื่นเท่านั้นเอง

     

    มึงหวงชานยอลก็บอกมาเหอะ

     

    ปล่อยแม่ง กูโกรธมัน กูไม่คุยกับมันกล่าวออกไปอย่างแสนงอนโดยที่ไม่ได้รู้หรอกว่าอีกฝ่ายรับรู้หรือเปล่าว่าถูกงอนอยู่ ตอนนี้ชานยอลกำลังนั่งกินข้าวอย่างสบายใจกับเพื่อนแก๊งหล่อของเขา ส่วนแบคฮยอนก็ได้แต่แอบงอนเงียบๆ อยู่ตรงนี้แม้จะรู้ว่าหัวหน้าหมู่แค่ทำไปตามหน้าที่ก็ตาม

     

    ถ้าไม่มีจียอนสักคนชานยอลก็คงมาถามแบคฮยอนว่าวิ่งต่อไปไหวหรือเปล่า

     

    มึงทำอย่างกับมันสนใจ

     

    ไอ้พวกผู้ชายก็เหมือนกัน ทำไมต้องไปเรียกมันเธอๆ ด้วย ทีกะกูเรียกอีโล้น อีหัวเขียว แม่ง

     

    ก็อย่างงี้แหละ ไม่มีผมก็ลำบากหน่อยนะอี้ชิงหันไปทำหน้าแหยะใส่เพื่อนก่อนจะลุกขึ้นเตรียมนำถาดไปล้างและซื้อขนมไว้ตุนก่อนที่จะหมดเวลาพัก ทิ้งให้เพื่อนรักนั่งบึนปากอย่างแสนงอนอยู่กับเพื่อนโด

     

    แบคฮยอนได้แต่แอบใช้สายตามองไปยังแผ่นหลังชุ่มเหงื่อของหัวหน้ากองร้อยที่กำลังนั่งแทะไอติมรสสตอว์เบอร์รี่อยู่ สุดท้ายเขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเมื่อคิดได้ว่างอนไปก็เท่านั้นชานยอลคงไม่รู้ตัวหรอก และยังไงคืนนี้จียอนก็ต้องย้ายไปนอนที่ห้องตัวเองอยู่ดี จะสวยยังไงก็ไม่มีทางได้นอนกับหัวหน้ากอง

     

     

     

    ตุ้บ.... ตุ้บ.... ตุ้บ.... ตุ้บๆๆๆ!

     

    เสียงกองหนังถูกตีดังเป็นจังหวะกับการกิจกรรมรอบกองไฟ นักเรียนชั้นม.5 ทั้งห้าห้องมานั่งล้อมรวมกันที่หน้ากองไฟ ทุกคนเปลี่ยนไปใส่เสื้อซับสีเขียวทหารกับกางเกงวอร์ม แบคฮยอนได้นั่งเกือบหลังสุดเพราะมาเข้าแถวช้าตามเคย เขาต้องคอยตบยุงไปด้วยในขณะที่ครูฝึกกำลังพูดเรื่องกิจกรรมเรื่องการแสดงละครคุณธรรม

     

    เราจะให้เวลาเตรียมตัวครึ่งชั่วโมง แล้วมารวมกันตรงนี้ อย่าออกไปนอกบริเวณสนาม ห้ามเข้าป่า ถ้าไปเข้าห้องน้ำให้มาแจ้งครูฝึกแล้วชวนเพื่อนไปด้วย ระหว่างนี้...

     

    ยุงกัดมึงปะวะแบคฮยอนตบมือลงที่ข้างแก้มพลางส่งเสียงจิ๊จ๊ะออกมาเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างบินตอมอยู่รอบตัว เขาใช้มือเกาไปตามแขนที่ขึ้นผื่นและรอยแดงจากสัตว์ตัวเล็กพลางหันไปมองลานว่างที่มีเต๊นท์ใหญ่ถูกปูเรียงกันเป็นตับพร้อมทั้งคิดว่าคืนนี้ต้องนอนกันกลางป่าจริงๆ หรอ

     

    กัดดิ มึงเอายากันยุงมาปะวะ

     

    มีแต่อยู่ในกระเป๋าว่ะ ไม่ได้เอามา

     

    ข้างหน้าเอายากันยุงกันปะ

     

    ราวกับมีเสียงสวรรค์มาโปรด แรงสะกิดจากด้านหลังเรียกแบคฮยอนให้ต้องหันไปมองหัวหน้าหมู่และเพื่อนของเขาที่ถือขวดยาทากันยุงในมือ คนตัวเล็กรีบพยักหน้ารัว เขาเห็นชานยอลบีบโลชั่นกันยุงใส่มือก่อนจะส่งมันมาแล้วบอกให้ส่งต่อไปข้างหน้าเผื่อว่ามีใครต้องการ

     

    ส่งไปข้างหน้าเลย

     

    ขอบคุณ

     

    ความใจดีของหัวหน้าหมู่ยังทำให้คนตัวเล็กเขินได้เสมอ เขารีบบีบยากันยุงใส่มือแล้วถลกขากางเกงวอร์มขึ้นชโลมโลชั่นไปทั่วขาด้วยความสะใจ แต่ก่อนจะได้บีบปรู๊ดใหม่ลงบนมือแรงสะกิดก็เรียกให้แบคฮยอนต้องหันไปมองข้างหลังอีกครั้ง

     

    ห้ะ

     

    ช่วยใช้หน่อย” 


    อยู่ๆ ชานยอลก็เอาเนื้อครีมที่เหลืออยู่บนฝ่ามือเขาไปป้ายลงบนแขนเล็กๆ ของคนตรงหน้าทั้งลูบทาให้เสร็จสรรพโดยไม่ลืมถูมันลงบนหลังมือด้วย พอทาเสร็จแล้วเขาก็หันไปคุยกับเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ด้านหลังต่อ ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้คนถูกหยอดได้แค่นั่งนิ่งเป็นระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลังคอยวันระเบิดตัวเอง

     

    สัมผัสที่หยาบกร้านและอบอุ่นจากฝ่ามือใหญ่หนาบนผิวเนื้อทำแบคฮยอนใจสั่นระรัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ หัวใจเขาเต้นแรงมากๆ และมันเปลี่ยนกลิ่นหอมของยากันยุงธรรมดาให้กลายเป็นกลิ่นหอมพิเศษไปเลย

     

    อาการของโรค chanyeol addict syndrome กำเริบอีกครั้ง ทั้งหัวใจเต้นแรงและหน้าแดงเห่อ แบคฮยอนรีบบีบโลชั่นใส่ฝ่ามือก่อนจะส่งขวดยากันยุงต่อให้เพื่อนข้างหน้าแล้วทามันลงบนแขน เขารู้สึกเหมือนยังสัมผัสได้ถึงความอุ่นจากฝ่ามือเมื่อครู่ เพียงแค่ลูบปลายนิ้วผ่านเบาๆ หัวใจก็เต้นแรงไปหมด

     

    ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ชานยอลตั้งใจหรือเปล่า แต่มันรุนแรงมากจนลืมไปเลยว่าเคยโกรธเขาอยู่ แบคฮยอนกำลังจะทนไม่ไหวแล้ว เขารีบซบหน้าลงกับไหล่เพื่อนรักที่นั่งอยู่ด้านหน้าด้วยความเขินอายพร้อมกับส่งเสียงหวีดเบาๆ ออกมา

     

    มึ๊ง~”

     

    เป็นไรอีกคยองซูเอ่ยถามเสียงนิ่ง แต่ก่อนที่จะได้ใจความอะไรจากเพื่อนซี้เสียงนกหวีดเรียกยืนก็ดังขึ้น เขารีบส่งต่อยากันยุงให้อินซองพร้อมกับบอกให้เขาส่งต่อไปข้างหน้า เสียงตะโกนเฮ้รับคำสั่งดังขึ้นอีกครั้งเมื่อมีการสั่งเลิกแถวเพื่อปล่อยให้นักเรียนไปปรึกษาหารือกันเรื่องการแสดงกัน

     

    นักเรียนห้อง 3 หมู่ 10 ที่ไม่มีข้อมูลอะไรในสมองเลยได้แต่ยืนงงกันเป็นฝูงควาย พวกเขาไม่รู้เลยว่าต้องเริ่มทำอะไรก่อนหรือถูกมอบหมายให้ทำอะไร รู้เพียงแค่ว่าต้องจับกลุ่มกันแล้วก็หาที่นั่ง แต่เนื่องจากไฟส่องสนามที่มีไม่เพียงพอทำให้พื้นที่ว่างซึ่งมีแสงพอหาได้น้อยมาก

     

    เราต้องแสดงอะไรนะดงโฮนิ่วหน้าถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อกี้เขาแทบไม่ได้ฟังอะไรเลยเพราะมัวแต่คุยอยู่กับอินซองเรื่องที่นอนคืนนี้

     

    ก็แสดงละครเรื่องคุณธรรมในอาชีพต่างๆ ไง มึงจะเป็นหมอ เป็นอะไรก็หาบทมาแสดง

     

    เป็นทหารได้ปะวะ

     

    เสียงปรึกษาหารือดังขึ้นเบาๆ แบคฮยอนที่แทบไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนกันได้แต่ยืนฟังอยู่ข้างนอกเงียบๆ ปล่อยให้เพื่อนๆ ช่วยกันหาทางรอดให้กลุ่ม เท้าเล็กๆ เหยียบถูกันไปมาเพื่อบรรเทาอาการคันจากยุงร้าย มือบางตบเข้าบริเวณลำคอเมื่อรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างบินมาเกาะบนผิวหนัง

     

    ยากันยุงไปไหนอะหัวหน้าหมู่ที่เห็นว่าลูกหมู่ของตนยังไม่หยุดทะเลาะกับยุงหันมาถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กเอาแต่ยุกยิกไปมาไม่หยุดแถมยังเกาจนผิวเแดงไปหมด

     

    ไม่รู้อะ หมดแล้วมั้ง

     

    จะเอาอีกปะ เดี๋ยวไปหยิบให้

     

    ไม่ต้องก็ได้มั้ง เดี๋ยวก็นอนและ

     

    อะไรติดหน้า”  อยู่ๆ ชานยอลเอื้อมมือไปจับใบหน้าคนข้างๆ พลางใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือปาดไปบนรอยเลือดเล็กๆ บนโหนกแก้ม พยายามจะเช็ดมันออกด้วยการถูปลายนิ้วให้หนักขึ้นจนอีกฝ่ายหัวเอียง

     

    ทำเอาแบคฮยอนที่ถูกจู่โจมอย่างกระทันหันได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ หัวใจเขาเต้นตึกตักแทบทะลักออกมานอกอก รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากนิ้วมือที่วางอยู่ตรงข้ามแก้ม มันแล่นลามไปถึงขั้วหัวใจ

     

    พอชานยอลใช้นิ้วลบรอยเลือดออกจนหมดจนเขาก็ปัดมือกับกางเกงก่อนจะเดินไปหากลุ่มเพื่อนสนิท ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นปล่อยให้คนตัวเล็กยืนเขินกำหมัดอยู่คนเดียวเหมือนอย่างเคย

     

    พอชานยอลมาทำให้เขินทีไรเขาก็ชอบทำเหมือนไม่มีอะไรทุกที แล้วแบคฮยอนก็อดคิดไปเองไม่ได้ว่ากำลังถูกหยอก

     

    นายทหารตัวน้อยกำมือแน่นด้วยความเขินอาย หัวกะเทียมของเขาแดงจนใกล้ระเบิดเต็มที พอมองเห็นแผ่นหลังของเพื่อนซี้ที่เดินดุ่มอยู่ด้านหน้าแบคฮยอนก็รีบวิ่งไปเกาะพลางซุกหน้าลงกับลาดไหล่ทันทีอย่างไม่สามารถเก็บอาการเขินได้อีกต่อไป 


    มือบางกำชายเสื้อซับไว้แน่น หัวใจดวงเล็กเต้นแรงจนน่ากลัว แบคฮยอนเอาแต่ซุกหน้าลงกับไหล่ เลยไม่ทันเห็นว่าหัวหน้าหมู่ตัวดีที่กำลังหันมามองพร้อมทั้งหัวเราะเบาๆ ด้วยความชอบใจ

     


     

    .

     

    .

     

    .



     

    เวรอยู่ผลัดละ 2 คน เปลี่ยนยามทุกสองชั่วโมง สี่ทุ่มถึงเที่ยงคืนห้ามออกไปเข้าห้องน้ำ ครูฝึกจะมาเดินตรวจเรื่อยๆ เต็นท์ไหนไม่นอนก็ออกไปวิ่ง ห้ามส่งเสียง เข้าใจไหม!!

     

    เวลาสี่ทุ่มเศษๆ เสียงคู่ฝึกทหารเดินตะโกนรอบลานปูเต็นท์ ขณะที่นักเรียนบางส่วนยังจัดที่นอนไม่เสร็จด้วยซ้ำ สิ่งหนึ่งที่ทำให้การเข้าค่ายต่างจากการไปรด.คือพวกเขาต้องพักในเต็นท์ขนาดยาวประมาณ 3.5 เมตร แล้วต้องนอนด้วยกันเป็นหมู่เต็นท์ละ 10 คน แน่นอนว่ามันยิ่งกว่าปลากระป๋องไหนจะกระเป๋าเป้ที่ถูกนำมาใช้แทนหมอนอีก โชคดีที่ยังมีผ้าห่มให้เช่า

     

    เต็นท์ของหมู่ 10 นั้นต้องนอนกัน 9 คนเพราะเพื่อนกะเทยจียอนขอแอบย้ายไปนอนกับเพื่อนร่วมห้องที่อยู่อีกกองหนึ่ง ซึ่งนั่นเหมือนจะเป็นโชคดีแต่ก็ไม่ใช่เลย เนื่องจากห้อง ม.5/3 เต็มไปด้วยนักกีฬาหุ่นล่ำแล้วทุกคนก็มารวมกันอยู่ที่หมู่ 10 หมด ซึ่งแต่ละคนตัวสูงเป็นเปตรแถมหุ่นบึกกันทั้งนั้น เพียงแค่จะจัดโพซิชั่นการนอนยังแทบทำกันไม่ได้

     

    เหี้ย ขาแม่งติดเต๊นท์ว่ะอินซองบ่นอุบ การนอนเรียงกันในแนวขวางของเต็นท์ทำให้เขาไม่สามารถเหยียดขาไปได้สุดเพราะมันติดกับผนังอีกด้าน ส่วนหัวก็เลยออกไปนอกผ้ายางเรียบร้อยแล้ว มันคงตลกพิลึกถ้าครูฝึกมาเดินตรวจแล้วเห็นว่าเต็นท์หมู่ 10 มีหัวเกรียนๆ กับขาโผล่ออกไปนอกผ้ายาง

     

    งั้นนอนเอาหัวชนกันแถวละห้าได้ปะวะดงโฮออกความเห็น

     

    เออ กูว่าอย่างงั้นดีกว่าแบคฮยอนกล่าวสมทบอย่างเห็นด้วย ก่อนที่จะเริ่มจัดตำแหน่งที่นอนใหม่อีกครั้ง พวกเขาย้ายกระเป๋ามากองไว้ตรงกลางเพื่อใช้แทนหมอนหนุน

     

    พวกคนที่อยู่ในเต็นท์ก็เลือกที่กันตามใจชอบ ส่วนคนที่ไม่อยู่ในเต็นท์ก็ถูกจัดเรียงที่นอนให้อย่างช่วยไม่ได้

     

    ให้ชานยอลมันนอนริมแล้วกันอินซองโยนกระเป๋าหัวหน้าหมู่ไปไว้ริมสุดของผ้ายาง แต่ยังไม่ทันจะได้ล้มตัวนอนเขาก็ถูกเพื่อนอีกคนดันตัวให้เขยิบออก

     

    ไม่เอา มึงถอยไป ตรงนี้ให้ไอ้แบ้ก ให้มันนอนกับหัวหน้าจีฮวานทำหน้างอแงพร้อมกับใช้เท้าดันเพื่อนเขาให้ย้ายไปนอนที่อื่นเนื่องจากที่ติดหัวหน้าหมู่นั้นถูกล็อคเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ยังไงก็ไม่ยอมให้ใครเด็ดขาด

     

    โอ้ย ไอ้เหี้ย งั้นก็ให้มันไปนอนฝั่งนู้นอินซองปัดรำคาญด้วยการดันกระเป๋าชานยอลไปทางฝั่งแบคฮยอนแทน ส่วนที่นอนฝั่งริมข้างเขาใครจะนอนก็ช่าง

     

    การจัดเตรียมเต๊นท์ปลากระป๋องเป็นไปอย่างวุ่นวายเมื่อไม่สามารถหาที่นอนอย่างลงตัวได้ซักที จนสุดท้ายก็ต้องจับให้คนเตี้ยนอนด้วยกันโดยแถวบนมีชานซอง ดงโฮ อินซอง จีฮวาน จงอิน และแถวล่างมีคยองซู อูจิน แบคฮยอน ชานยอล

     

    พอจัดที่นอนได้สำเร็จแบคฮยอนก็เอาผ้าห่มคิตตี้ประจำตัวของเขาออกมาเตรียมนอน ก่อนที่เต็นท์จะถูกเปิดเมื่อหัวหน้าหมู่กลับมาจากการถูกเรียกประชุม

     

     

     

     

     

    23:25

     

    แป๊ะ...

     

    ณ ยามดึกที่เงียบสงัดท่ามกลางป่าชื้นอันหนาวเหน็บและเต็นท์ที่แสนอบอ้าว เสียงจิ้งหรีดร้องระงมชวนให้ขนลุก สายตาคู่หนึ่งยังคงลืมมองในความมืด แบคฮยอนยังนอนไม่หลับเนื่องจากบรรยากาศที่เงียบและน่ากลัวเกินไป เขาบอกไม่ถูกว่าบรรยากาศรอบๆ เป็นยังไงมันทั้งเย็นยะเยือกและอบอ้าวไปพร้อมๆ กัน

     

    เสียงตบยุงยังดังให้ได้ยินบ้างประปรายบอกให้รู้ว่ายังมีบางคนนอนไม่หลับ

     

    นอนไม่หลับว่ะ...

     

    มีเสียงนึงดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เสียงกรนที่เคยดังเบาๆ หยุดชะงักลง พอมีใครสักคนพูดขึ้นมาคนที่นอนไม่หลับที่เหลือก็ลืมตาตื่นขึ้นบ้าง

     

    ยุงแม่งเยอะสัส จิ๊จงอินบ่นพลางส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างหงุดหงิดใจ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนแต่ยุงที่ตามกัดไม่เลิกก็ทำให้เขานอนไม่หลับสักที

     

    หิวด้วย

     

    บรรยากาศแม่งน่ากลัวว่ะ

     

    เสียงบ่นยังคงดังเบาๆ แบคฮยอนได้แต่ถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาหันไปมองหัวหน้าหมู่ที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ ด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนจะค่อยๆ แอบขยับตัวเพื่อรูดซิปเปิดกระเป๋าเป้ตัวเองแล้วหยิบเอาของบางสิ่งออกมา

     

    มึง

     

    กรุ่บ... กรั่บ... กรุ่บกรั่บ... กรุ่บกรั่บ...

     

    ไอเหี้ยใครมีมาม่าวะจีฮวานพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเหมือนใครกำลังบดซองมาม่าและมันก็ชวนให้ท้องร้องได้เป็นอย่างดีในค่ำคืนดึกสงัดเยี่ยงนี้

     

    แดกปะเจ้าของบะหมี่เอ่ยถามเสียงกระซิบด้วยความเกรงใจหัวหน้าหมู่ แบคฮยอนซ่อนซองมาม่าไว้ใต้ผ้าห่มแล้วพยายามบีบมันให้เบาที่สุดจนกระทั่งแน่ใจว่าเส้นมาม่าแหลกละเอียดหมดแล้ว

     

    เอามาดิๆ

     

    แป๊บนึง

     

    เสียงใครบางคนลุกขึ้นนั่งก่อนที่แสงจากกระบอกไฟฉายจะสาดส่องไปทั่ว จีฮวานที่ทนความหิวไม่ไหวลุกขึ้นท่ามกลางความเงียบ เขาส่องไฟไปยังเพื่อนตัวเล็กที่กำลังหันหลังรีดน้ำพริกเผาใส่ซองมาม่าพร้อมกับผงเครื่องปรุงก่อนที่เสียงเขย่าจะตามมา

     

    แซ่กๆๆๆ

     

    แดกด้วยดิวะ

     

    ดงโฮลุกขึ้นมานั่งด้วยอีกคนก่อนที่อินซองจะลุกขึ้นตามมา แบคฮยอนเชคมาม่าแห้งในมือดังแซ่กๆๆ ก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำลงหันหัวไปทางเพื่อนๆ ที่รอกินอยู่แล้วแหวกถุงวางลงกลางวงก่อนที่มือทั้งสี่จะจกจ้วงลงไปในซองมาม่าด้วยความหิวโหย

     

    มึงเอามากี่ซองวะ

     

    มีสองซอง อีกซองไว้กินพรุ่งนี้แบคฮยอนใช้นิ้วจกมาม่าบดใส่ปาก จีฮวานทำหน้าที่ถือไฟฉาย พอมีเสียงก๊อกแก๊กดังขึ้นในเต็นท์เพื่อนที่นอนอยู่กันบางคนก็เริ่มขยับตัวแต่ทีมหิวยามดึกก็หาได้สนใจไม่ พวกเขายังคงตั้งหน้าจกมาม่ากันอย่างตั้งใจสลับกับส่งเสียงพูดคุยเบาๆ

     

    เปิดเพลงได้ปะวะ แม่งเงียบว่ะดงโฮบ่น นี่มันก็เกือบสองชั่วโมงแล้วที่เขานอนทนฟังเสียงจิ้งหลีดน่ากลัวกับเสียงลมพัด มันช่างชวนให้รู้สึกสยองพิลึกกับการเข้าค่ายพักแรมกลางป่า

     

    จะเปิดเรียกพ่อมึงมาอ่ออินซองด่า

     

    เปิดวิทยุได้ปะวะ คืนนี้มี the shock อะ

     

    เห้ยๆๆ เปิดๆๆๆ

     

    พอได้ยินชื่อรายการวิทยุเล่าเรื่องผีชื่อดังทุกคนก็รีบเอ่ยปากทันที อินซองล้วงเอามือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วเข้าวิทยุเปิดคลื่นรายการโปรดทันที และก็เหมือนแจ็คพ็อตเมื่อสัปดาห์นี้มีดีเจคนดังมาอยู่จัดรายการเอง

     

    ความคลาสสิคของบรรยากาศท่ามกลางป่าไม้และรายการวิทยุผีกับเสียงจกมาม่าแห้งทำให้ค่ำคืนของการนอนพักแรมไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แบคฮยอนสะบัดผ้าห่มคิตตี้คลุมร่างเขา ถึงจะยังกลัวอยู่บ้างแต่ถ้ามีชานยอลนอนด้วยข้างๆ เขาก็รู้สึกอุ่นใจ

     

    สวัสดีฮะกับผู้รับฟังรายการ The shock ตอนนี้ก็เข้าสู่เรื่องที่สองแล้ว กับเรื่องของคุณฮีชอลที่บอกว่ามีประสบการณ์มาเล่า เกี่ยวกับเรื่องผีป่า เรื่องนี้น่าสนใจมาก เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเข้าป่าล่าสัตว์แล้วก็ไปเจอดี เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้วนะฮะ อ่ะขอเชิญคุณฮีชอลครับ...

     

    สวัสดีครับพี่ป๋อม...

     

    สวัสดีฮะ คุณฮีชอลรับฟังอยู่แถวไหนครับ

     

    แถวรามอินชอนครับพี่

     

    รามอินชอนนะฮะ สัญญาณรับฟังเป็นยังไงบ้างฮีชอล ชัดเจนดีไหม

     

    ชัดเจนดีครับ

     

    อ่า ชัดเจนดีนะครับ งั้นมาเริ่มเล่ากันเลยดีกว่า เรื่องที่ว่าอย่าลองดี เป็นยังไงครับคุณฮีชอล...

     

    มึงทำเหี้ยไรกันวะ

     

    เสียงทุ้มๆ ของหัวหน้าหมู่ที่ดังขึ้นทำเอาคนที่กำลังตั้งใจฟังเรื่องผีสะดุ้งไปตามๆ กัน ชานยอลหยัดตัวลุกขึ้นด้วยท่าทางงัวเงีย เขานิ่วหน้ามองไปยังถุงมาม่าและกลุ่มเพื่อนที่นั่งจับกลุ่มกันเปิดไฟฉายอยู่บนหัวนอนพร้อมกับเสียงจากวิทยุรายการผี

     

    คนตัวสูงส่งเสียงจิ๊จ๊ะออกมาจากในลำคออย่างนึกขัดใจ การถูกรบกวนเวลานอนทำให้ชานยอลหงุดหงิดยิ่งกว่าสิ่งใด

     

    มึงไม่นอนกันวะ

     

    กูนอนไม่หลับดงโฮตอบ

     

    แดกเหี้ยไรกัน เชี่ย เดี๋ยวมดแม่งก็ขึ้นที่นอนหัวหน้าหมู่ทำหน้าหงุดหงิด บ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้ง เขาถอนลมหายใจออกมาอย่างนึกเซ็งก่อนจะก้มลงมองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงคืนเศษแล้ว

     

    หัวหน้าเอาหน่อยไหมครับ

     

    ชานยอลไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้งแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหน้า ปล่อยให้เพื่อนนั่งกันกินกันต่อไปโดยที่เสียงวิทุยก็ยังดังให้ได้ยินอยู่เบาๆ

     

    ผมก็ไปใช่ไหมพี่ แล้วทีนี้พรานเค้าก็ทำพิธีเปิดป่าก็มีกระทงมีเหล้า เค้าก็เอามาวางไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา แล้วพอไหว้เสร็จก็ทำนั่งร้านกัน ผมก็ขึ้นไปกับนายพราน ตอนนั้นมันโพล้เพล้ๆ แล้วใกล้จะค่ำ พรานเค้าก็ย้ำว่าเห็นอะไรได้ยินเสียงอะไรอย่าทัก ถ้าเค้าไม่สั่งห้ามยิง แล้วพวกผมก็นั่งรอกัน นั่งรอไปจนประมาณเกือบสองทุ่ม คือมันไม่มีนาฬิกาแต่ผมรู้สึกว่ามันน่าจะประมาณนี้แหละ ผมก็นั่งกันอยู่บนห้างแล้วสักพักก็มีเสียงดัง...

     

    พรึ่บ!!

     

    เหี้ย!!

     

    เสียงเต็นท์ถูกเปิดดังพรึ่บ แก๊งเรื่องเล่าสยองขวัญอุทานเหี้ยเสียงดังด้วยความตกใจจนเพื่อนที่นอนหลับอยู่สะดุ้งไปตามกัน พอหันไปมองด้านหลังก็เห็นเงาตะคุ่มของร่างสูงใหญ่พร้อมกับแสงจากกระบอกไฟฉายที่สาดเข้ามาในเต๊นท์ก่อนที่เสียงโหดเหี้ยมจะดังขึ้น

     

    มึงทำอะไรกัน!!!

     

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

    หนึ่ง! สอง! สาม! สี่! ห้า!...

     

    เวลาเกือบเที่ยงคืนเสียงนับเลขสก๊อตจั๊มพ์ดังลั่นสนามเมื่อเต๊นท์ของหมู่ 10 ถูกเรียกออกมาลงโทษกันหมดโทษฐานแอบกินขนมยามวิกาลและไม่ยอมหลับนอน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ไม่ได้ร่วมด้วยก็ถูกเรียกออกมากอดคอสก๊อตจัมพ์พร้อมกันด้วย แถมยังถูกสั่งให้อยู่เวรยามทั้งหมู่อีก 2 ชั่วโมง

     

    แบคฮยอนถึงกับหน้าจ๋อยสนิทเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นเหตุให้เพื่อนซวยอีกแล้วถึงแม้ว่าจะมีอินซอง ดงโฮ และจีฮวานร่วมรับผิดชอบด้วยแต่คนที่ไม่ผิดอย่างชานยอลก็ต้องมาลำบากด้วยเหมือนกัน ทว่าถึงอย่างนั้นหัวหน้าหมู่ก็ยังไม่ปริปากบ่น แม้ชานยอลจะทำหน้าหงุดหงิดอยู่บ้างแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากถอนหายใจออกมา

     

    การสก๊อตจัมพ์ยามดึกทำให้เหงื่อเริ่มออกเปียกไรผม พอถูกลงโทษเสร็จพวกเขาก็โดนสั่งให้ไปเฝ้าเวรยามเป็นผลัดสองทั้งแก๊ง ทุกคนต่างเซ็งไม่แพ้กันแต่ก็ไม่มีใครกล่าวโทษใคร

     

    แม่ง ซวยยกหมู่อูจินบ่นอุบ การที่อยู่ๆ ก็ต้องถูกเรียกขึ้นมาลงโทษและถูกสั่งห้ามนอนต่อไปอีกสองชั่วโมงเป็นอะไรที่แย่สุดๆ สำหรับเขาและวันที่ต้องใช้กำลังอย่างหนัก

     

    นักเรียนห้อง 3 หมู่ 10 เดินถือผ้าห่มกันคนละผืนสองผืนไปนั่งรอบกองไฟซึ่งไม่สว่างมากนักแต่ก็มีแสงพอส่องให้เห็นหน้า ทุกคนเลือกนั่งบนพื้นเหยียดขาแล้วเอนหลังพิงขอนไม้แทนที่จะนั่งด้านบน คนที่ยังง่วงค้างจากการตื่นนอนก็ใช้ผ้าห่มรองคอแล้วนอนกันทั้งอย่างนั้นเลย

     

    ส่วนพวกทำผิดก็ต้องนั่งเฝ้าเวรยามอย่างไม่มีการปริปากบ่น อินซองเอายาทากันยุงออกมาทาก่อนจะส่งให้เพื่อนที่ต้องการต่อไป

     

    นอนก็ไม่ได้นอน แล้วพรุ่งนี้แม่งก็ทำกิจกรรมอีกจีฮวานได้แต่ส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจเบาๆ เขาถลกขากางเกงขึ้นแล้วบีบยาทากันยุงผสมกับเคานเตอร์เพนแก้ปวดก่อนจะทามันลงไปบนขาท่ามกลางสายตามึนงงของเพื่อนๆ

     

    มึงทำเหี้ยไรวะ

     

    ทายาไง

     

    แล้วไมมึงไม่ทาเคานเตอร์เพนก่อน

     

    เออ แม่งก็เหมือนกันแหละ

     

    เสียงบ่นดังเบาๆ ไปรอบกองไฟ ทั้งยาทาแก้ปวดและยากันยุงถูกหมุนส่งไปรอบๆ ชานยอลที่เหนื่อยจนแทบจะฝืนตาลืมไม่ไหวเอนหลังพิงลงกับต้นไม้ใหญ่ เขายกมือขึ้นกอดอกแล้วหลับตาลง สายลมที่พัดโชยด้านนอกและอากาศเย็นเยือกทำให้รู้สึกสบายมากกว่าในเต็นท์ที่แสนอบอ้าวมาก

     

    พอมองเข้าไปในป่าก็เห็นแต่ความมืด โรงนอนของอาจารย์และครูฝึกก็อยู่ไกลออกไปอีกหลายร้อยเมตร ท่ามกลางความเงียบมีเพียงแค่เสียงกิ่งไม้ถูกไฟเผาดังเบาๆ แม้แต่จียอนที่ย้ายกลับไปนอนเต๊นท์ห้องตัวเองแล้วก็ยังถูกเรียกออกมาลงโทษร่วมกัน

     

    เสียงจิ้งหรีดเรไรดังระงม แบคฮยอนนึกถึงเรื่องเล่าของพ่อที่บอกว่าเมื่ออยู่กลางป่าอันเงียบสงัดแม้แต่เสียงเข็มตกก็ยังดังจนน่าขนลุก ตอนนี้ขนาดแค่ยุงตัวเดียวบินเข้ามาใกล้แบคฮยอนก็ยังพะวง เขาได้แต่นั่งเปิดๆ ปิดๆ ฝายาทากันยุงเล่นไปมาอย่างไม่มีอะไรทำ

     

    แปะ!

     

    มือบางตบลงบนต้นแขนที่มียุงเกาะ เสียงคนตบยุงมีดังให้ได้ยินเบาๆ คนตัวเล็กหันไปมองเพื่อนร่วมห้องผิวคล้ำของเขาที่นอนขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ ก่อนจะหยิบเอาสเปย์ฉีดกันยุงมาฉีดให้ตรงบริเวณแขนและข้อศอกพร้อมทั้งใช้มือช่วยทาให้

     

    แบคฮยอนแอบเดินย่องไปหาหัวหน้าหมู่ของเขาที่นอนหลับพิงต้นไม้ให้ยุงตอมอยู่ก่อนจะฉีดสเปย์พ่นลงไปบนแขนทั้งสองข้างรวมถึงซอกคอด้วย พอชานยอลได้กลิ่นเหม็นฉุนเขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับทำจมูกฟุดฟิด ขณะที่แบคฮยอนก็แอบเดินย่องไปฉีดยากันยุงให้คนอื่นที่ยังไม่ได้ทายา

     

    ทำไรวะเจ้าของเสียงทุ้มและใบหน้าหงุดหงิดเอ่ยถามขึ้น ชานยอลถลกผ้าห่มขึ้นคลุมร่างพร้อมกับเหยียดขาเข้าหากองไฟ เขาอ้าปากหาวออกมาวอดใหญ่ ศีรษะทุยวางพิงลงกับต้นไม้ใหญ่

     

    เปล่า ฉีดยากันยุงเฉยๆ

     

    มีขนมอีกปะ

     

    มี เอาปะ?” แบคฮยอนหันไปถามหัวหน้าหมู่ของเขาที่นั่งหน้าตึงอยู่ฝั่งตรงข้าม พอชานยอลพยักหน้าเขาก็รีบย่องกลับเข้าไปในเต็นท์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ เพื่อหยิบขนมปังเนยกับนมเปรี้ยวกล่องเล็กออกมา

     

    ความเงียบทำให้บรรยากาศรอบๆ ยิ่งน่าพิศวงไปกันใหญ่ ชานยอลตัดสินใจลุกขึ้นบิดร่างกายเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกง่วงเมื่อเห็นเพื่อนหลับกันหมด ตอนนี้เขามีเพียงแค่แบคฮยอนคอยอยู่เป็นเพื่อน ถ้าหากว่าครูฝึกมาเห็นเวรยามหลับกันหมดหมู่สิบคงได้โดนซ่อมอีกรอบแน่

     

    อ่ะ

     

    ขนมปังรสเนยกับนมเปรี้ยว kids กล่องละห้าบาทถูกส่งให้กับหัวหน้าหมู่ที่กำลังออกกำลังกายเล็กๆ เพื่อกระตุ้นร่างกายตัวเอง ชานยอลรับเอานมกล่องจิ๋วกับขนมปังไปถือไว้พร้อมกับกล่าวขอบคุณ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงพิงต้นไม้อีกครั้ง

     

    ขอบใจ

     

    ไม่เป็นไร มีอีกนะถ้าอยากกินอะ

     

    มานั่งนี่ดิ ตรงนั้นมันมืดอะ เดี๋ยวยุงก็กัดหัวหน้าหมู่ชำเลืองตาขึ้นมองเพื่อนร่วมห้องตัวเล็กของเขาพร้อมกับวางมือลงตรงที่ว่างข้างตัวเมื่อเห็นคนตรงหน้าเอาแต่นั่งตบยุงอยู่ในมุมมืดไม่เลิก

     

    แบคฮยอนเองพอได้ยินอย่างนั้นเขาก็รีบย้ายตัวเองมานั่งข้างชายหนุ่มในดวงใจทันที แสงสีส้มจากกองไฟสาดไหวไปทั่วแต่มันไม่ร้อนเร่าเท่าหัวใจของแบคฮยอนในตอนนี้ เขาใช้ผ้าห่มคิตตี้พันร่างตัวเองไว้แน่น เสียงกองไฟเผาท่อนฟืนดังกร่อบแกร่บท่ามกลางความเงียบ กิ่งไม้เล็กๆ ถูกนำมาใช้แทนดินสอลากขีดเขียนไปบนพื้นดิน

     

    ไม่ว่าจะด้วยความเผลอมือหรือเผลอใจกิ่งไม้เจ้ากรรมก็ขีดวาดออกมาเป็นรูปหัวใจ แบคฮยอนลากคันศรปักลงกลางใจเขาก่อนใช้เท้าลบมันออกเพื่อวาดใหม่ เสียงหัวเราะที่ดังเบาๆ มาจากคนข้างๆ ยิ่งทำให้หัวใจดวงเล็กเต้นตึกตัก

     

    ขำไร

     

    เปล่า

     

    เบื่อเนาะคนตัวเล็กบ่นพึมพำออกมาเบาๆ ในขณะที่ลากไม้วาดตารางเกม XO ลงบนดิน เขาเริ่มเล่นเกมกับตัวเองด้วยการใส่ O ลงไปตรงกลางก่อนจะตามด้วย X แต่เขียนไปได้ไม่กี่ตัวก็ต้องลบออกเพราะไม่รู้ว่าจะแข่งกับตัวเองให้ชนะได้ยังไง

     

    ไม่ลุกขึ้นมาก็ได้นอนแล้ว

     

    ข้างนอกนอนสบายกว่าข้างในอีก ข้างในร้อน ยุงก็กัด

     

    อือ

     

    อยากเข้าห้องน้ำว่ะแบคฮยอนมุ่ยหน้าก่อนจะวางกิ่งไม้ลงข้างตัว เขาหันมองรอบตัวเพื่อหาว่ามีเพื่อนคนไหนตื่นอยู่ไหมแต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครตื่นเลย ทุกคนนอนหลับกรนกันอย่างกับนอนอยู่ในเต็นท์โดยไม่สนใจหน้าที่เฝ้าเวรยามใดๆ แม้แต่คยองซูเองก็ยังหลับ

     

    ไปข้างหลังดิ

     

    คนตัวสูงชี้นิ้วไปยังป่าข้างหลังที่มืดมากพอจะให้ทำธุระได้ แต่พอแบคฮยอนเห็นแล้วเขาก็ส่ายหน้าทันที คนตัวเล็กลุกขึ้นไปปลุกเพื่อนซี้ที่นอนหลับอยู่เพื่อให้ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนด้วยกัน แต่ดูเหมือนว่าความเหนื่อยล้าจะทำให้พวกเขาหลับลึกยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

     

    คยอง... มึง... อีคยอง...

     

    ไปกับกูก็ได้ เดี๋ยวพาไปชานยอลลุกยืนขึ้น เขาวางปืนพิงต้นไม้ไว้พร้อมกับใช้เท้าเตะเพื่อนสนิทที่นอนหลับอยู่ข้างๆ ให้ตื่นขึ้นมาดูยามแทน ก่อนจะคว้าไฟฉายแล้วส่องมันไปยังทางเดินมืดๆ

     

    ท่ามกลางป่ารกที่ไร้แสงไฟ นอกจากแสงของหิ่งห้อยและไฟฉายแล้วก็แทบไม่มีอะไรที่ส่องสว่างเลย...

     

    แบคฮยอนที่เห็นว่าหัวหน้าหมู่อุตส่าห์สละตัวรีบเดินตามไปเกาะชายเสื้อเขาทันทีด้วยความกลัว สี่เท้าย่ำไปตามพื้นดินแห้งๆ ห่างจากกองไฟมาเกือบร้อยเมตรมาจนถึงห้องน้ำที่ถูกเปิดไฟเอาไว้เพียงสองดวง

     

    รอข้างนอกนะคนตัวสูงว่า ชานยอลยืนพิงกำแพงอยู่ด้านนอกพลางสาดไฟฉายส่องไปรอบๆ ระหว่างที่รอให้ลูกหมู่ทำธุระเสร็จ

     

    เมื่อเข้าไปถึงห้องน้ำแบคฮยอนรีบปลดกางเกงออกแล้วทำธุระทันที เขานั่งปลดทุกข์อย่างสบายใจในขณะที่กวาดสายตามองไปรอบห้องน้ำที่มีปากกาเมจิเขียนอยู่ประปราย และในขณะที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หูก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใครเดินเข้ามาก่อนที่เสียงปิดประตูห้องข้างๆ จะดังขึ้น คนตัวเล็กรีบหันไปคว้าขันที่มีอ่างปูนเชื่อมกันกับห้องข้างๆ ทันทีก่อนที่มันจะถูกแย่งไป

     

    ใช้เวลาเพียงแค่ไม่นานการปลดทุกข์ที่รวดเร็วก็เสร็จสิ้น แบคฮยอนรีบจัดการตัวเองอย่างว่องไว และในขณะนั้นเองเสียงบางอย่างก็ดังขึ้นก่อนที่น้ำเย็นๆ จะลอยลงมาใส่หัว

     

    ซ่า!

     

    ไอ้เหี้ยใครสาดน้ำวะ!ด้วยความปากไวแบคฮยอนตะโกนออกไปเสียงดังลั่น เขารีบลุกขึ้นใส่กางเกงราดน้ำเปิดประตูออกไปทันทีแล้วเดินไปดูห้องข้างๆ ทว่าก็ไม่พบใคร

     

    ที่ห้องข้างๆ ไม่มีคนอยู่และไม่มีเสียงใครเลย มีเพียงแค่ชานยอลที่เดินเข้ามาดูพร้อมกับทำหน้าเหมือนต้องการจะถามว่ามีอะไร

     

    มีอะไรวะ

     

    เมื่อกี้มึงเข้าห้องน้ำปะ

     

    หึ เปล่า

     

    แล้วมีคนเข้ามาปะ

     

    ทำไมอะ

     

    ใครไม่รู้สาดน้ำใส่กูคนตัวเล็กบ่นหน้ายุ่ง หัวหน้าหมู่ที่ได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่เงียบไม่พูดอะไร ชานยอลมองรอยเปียกบนเสื้อลูกหมู่ของเขาเหมือนไม่ค่อยเชื่อสายตาก่อนที่จะปรับสีหน้าเป็นปกติทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    เออ เมื่อกี้มีคนมาเยี่ยว ช่างมัน รีบไปเหอะชานยอลเลือกที่จะโกหกออกไปแล้วบอกให้แบคฮยอนรีบกลับทันที แน่นอนว่าเขาไม่เห็นใครมาเข้าห้องน้ำเลยสักคน ขณะที่แบคฮยอนเองก็ดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ 


    พวกเขาสบตากันก่อนที่ต่างคนจะต่างเงียบแล้วรีบพากันเดินออกจากห้องน้ำ วินาทีนั้นเองที่คนตัวเล็กเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป แบคฮยอนเกาะแขนหัวหน้าหมู่ไว้แน่นพร้อมกับรีบซอยเท้าเร็วๆ กลับไปยังเต๊นท์ทันที 


    เสียงลมหนาวหวีดพัดผ่านใบหู มันเย็นยะเยือกราวกับฝ่ามือเย็นๆ ที่สัมผัสไปทั่วร่าง ได้ยินเสียงแว่วคล้ายกับเสียงหัวเราะคิกคักลอยดังมาตามลม

     

    คิกๆ...

     

     

     

     

     

    #แม่บ้านทหารบกcb

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×