ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Yaoi) What is love? รักวุ่นวายร้ายเกินพิกัด (End)

    ลำดับตอนที่ #1 : -00-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.01K
      4
      21 ม.ค. 58




     -00-




     

              ร่างสูงโปร่งค่อยๆก้าวเข้ามาภายในร้าน ใบหน้าคมสวย รับกับผิวขาว บวกกับผมสีน้ำเงินเข้มที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก ทำให้บุคคลตรงหน้าดูโดดเด่นและตกเป็นเป้าสายตาได้ไม่ยาก แม้จะมีสายตานับสิบคู่กำลังจ้องมอง แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจ เพราะมีบางสิ่งที่สำคัญกว่ากำลังรอเขาอยู่
              มือเรียวถือช่อดอกไม้ในมืออย่างทะนุถนอม ดอกกุหลาบสีแดงสดถูกมัดรวมกันสองสามดอกด้วยโบน่ารัก เป็นดอกไม้โปรดของแฟนสาวของเขา แม้จะรู้ว่าถ้าแวะซื้ออาจจะมาช้า แต่กว่าจะได้เจอกันแต่ละครั้งนั้นช่างยากลำบาก เขาจึงอยากจะทำให้แฟนของเขาประทับใจทุกครั้งที่เจอกัน

              “ไอรีน” น้ำเสียงนุ่มเอ่ยออกมาอย่างโล่งใจ เมื่อเห็นร่างเล็กที่กำลังนั่งทำหน้างออยู่บนโต๊ะ ขายาวก้าวฉับๆไปที่โต๊ะนั้น นั่งลงฝั่งตรงข้าม ก่อนจะยื่นช่อดอกไม้แสนสวยให้คนตรงหน้า
              “รอนานรึเปล่า จินขอโทษนะ จินแวะซื้อดอกไม้ให้ไอรีนด้วย ดูสิ สวยเหมือนกันเลย” พูดพลางคลี่ยิ้มสดใส นัยน์ตาเรียวทอดมองไปที่หญิงสาวด้วยความรักใคร่อย่างไม่ปิดบัง
              “นี่ คุยกับจินหน่อยสิ จินรีบสุดๆเลยน้า แต่พอดีวงขะ...” ไม่ทันที่ร่างสูงจะพูดจบประโยค หยดน้ำเย็นๆก็พุ่งมากระแทกใบหน้า ความแสบและน้ำแข็งที่เข้ามากระทบ ทำให้นัยน์ตาเรียวเบิกกว้างอย่างตกใจ ไม่แพ้ลูกค้าโต๊ะอื่นๆที่เผลอมองตามชายหนุ่มตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามา

              บรรยากาศในร้านเงียบลงทันที ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังคู่รักที่นั่งอยู่กลางร้าน

              “ไอรีน ทำไมทำอย่างนี้ล่ะครับ” น้ำเสียงนุ่มเอ่ยอย่างใจเย็น วางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะ แล้วค่อยๆยื่นมือไปหยิบกระดาษทิชชู่บนโต๊ะมาเช็ดหน้า ความซ่าจากน้ำอัดลมทำให้เขาแสบหน้าไม่น้อย แต่มือบางของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขากลับปัดมือเขาอย่างแรง จนต้องเผลอปล่อยทิชชู่หลุดมือ
              “จินรู้มั้ยว่าไอรีนรอจินนานแค่ไหน” น้ำเสียงหวานใสตวาดกร้าวอย่างไม่อายใคร ใบหน้าหวานราวกับตุ๊กตานั้นบึ้งตึงฉายแววโกรธเกรี้ยว ทำเอาเขาใจกระตุกวูบ
              “จินขอโทษครับ พอดีมันเป็นธุระสำคัญจริงๆ” แต่ชายหนุ่มก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นเดิม มือเรียวเลื่อนไปกุมมือของหญิงสาวเบาๆ ก่อนจะออกแรงเล็กน้อยพยายามดึงร่างบางให้นั่งลง แต่เธอกลับปัดมือเขาออก
              “จินก็รู้ว่ากว่าพวกเราจะมีเวลามาเจอกันมันลำบากแค่ไหน แต่จินก็ยังมาสาย!!” ไอรีนตะคอกใส่แฟนหนุ่มของตัวเอง นัยน์ตากลมโตนั้นมีน้ำระรื้นที่ขอบตาฉายแววน่าสงสาร ทำเอาบรรดาคนนอกที่กำลังยืนดูเหตุการณ์ไม่รู้จะสงสารใครดี
              “จินขอโทษครับ ไอรีนใจเย็นๆน้า วันนี้ไอรีนอยากทำอะไร อยากได้อะไร จินตามใจไอรีนทุกอย่างเลย” เด็กหนุ่มพูดพลางคลี่ยิ้มหวานเอาใจเด็กสาวที่เขารัก หวังให้คนตรงหน้ายกโทษให้ แต่เธอก็ยังคงทำหน้าบึ้งตึง ไม่มีทีท่าว่าอารมณ์จะเย็นลงเลย
              “นี่จินเห็นไอรีนเป็นคนยังไง ดูเหมือนเป็นคนเห็นแก่ของขนาดนั้นเลยงั้นหรอ!!” น้ำเสียงใสแหวกลับจนคนรักของเธอหน้าเสีย แต่เพียงชั่วขณะชายหนุ่มกลับฝืนยิ้มให้เธอเช่นเคย
              “โธ่ ไอรีนครับ จินไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะ จินแค่อยากจะเอาใจไอรีนเป็นการไถ่โทษที่มาสายไง” พูดพลางคลี่ยิ้มอ้อนๆ ที่ถ้าสาวๆเห็นไม่ว่าใครก็ต้องใจอ่อน

              แต่ไม่ใช่กับหญิงสาวตรงหน้า ที่อารมณ์กำลังเดือดปุดๆ

              “ไอรีนแค่อยากมีเวลาอยู่กับจิน จินไม่เข้าใจความรู้สึกของไอรีนหรอก” ก่อนจะก้มลงหยิบกระเป๋าสะพายข้างของตัวเองขึ้นมา ปล่อยให้แฟนหนุ่มมองตามด้วยสายตาเป็นกังวล
              “ไอรีนจะไปไหนครับ เดี๋ยวจินไปด้วย” ก้มลงหยิบกระเป๋าของตัวเองบ้าง ไม่ลืมที่จะเก็บดอกไม้แสนสวยติดมือมาด้วย 

              ไอรีนที่เห็นร่างสูงก้าวตามตนมาก็ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันไปผลักไหล่กว้างแรงๆ จนคนที่ไม่ได้ตั้งตัวเซไปชนโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างๆ
              ช่อดอกไม้หล่นลงที่พื้น โดนเท้าบางของหญิงสาวเหยียบซ้ำอย่างน่าสงสาร ใบหน้าคมเบ้น้อยๆ อย่างเจ็บปวด เจ็บปวดทั้งกายและใจ แต่ก็ไม่สามารถเรียกความสนใจจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนสาวของเขาเลย
              “ไอรีนจะกลับบ้านแล้ว จินอย่าพึ่งมายุ่งกับไอรีนตอนนี้ ไอรีนไม่อยากพูดกับจิน ไม่อยากได้ยินเสียงจิน เข้าใจมั้ย!!!” ใบหน้าหวานหันมาตะโกนใส่คนรัก ก่อนจะก้าวฉับๆออกจากร้านไป ไม่ได้สนใจร่างโปร่งที่ยืนมองตามอยู่ข้างหลังเลย
              จินก้มลงเก็บดอกไม้ที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นอย่างน่าสงสาร มือเรียวกำแน่นเข้าหากัน เขาไม่เข้าใจเลยว่า การมาสายเพียงแค่สิบยี่สิบนาที จะทำให้แฟนสาวของเขาโกรธได้ขนาดนี้ รู้สึกขอบตาของตัวเองร้อนผะผ่าว แต่ก็ทำได้เพียงฝืนทนเอาไว้ เพราะเพียงแค่นี้เขาก็อับอายจะแย่อยู่แล้ว

              มีอะไรบางอย่างในตัวคนรักของเขากำลังเปลี่ยนไป อะไรบางอย่างที่เชื่อมหัวใจของเขาทั้งสองคนกำลังจะขาดสะบั้นลง อะไรบางอย่างที่เขาไม่อยากจะยอมรับมันเลย



              เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้เด็กหนุ่มต้องจำใจละมือออกจากเครื่องเล่นเกมของตัวเอง แต่คิ้วเข้มก็ต้องเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา
              “ว่าไงวะไอ้จิน ไหนมึงบอกว่ามีเดทกับไอรีนไง” เสียงทุ้มกรอกลงโทรศัพท์ ก่อนจะหนีบโทรศัพท์เครื่องบางไว้กับไหล่และคางของตัวเอง แล้วหันกลับมาสนใจเกมในมือต่อ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อปลายสายตอบกลับมา
              [มึง ไอรีนโกรธกูว่ะ] น้ำเสียงนุ่มที่แฝงไปด้วยแววกังวลของเพื่อนสนิท ทำให้สไปรท์เลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย ก่อนที่ตัดสินใจเลิกเล่นเกมก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนดีๆ
              “ทำไมวะ เล่ามาดิ๊” เพราะเขารู้ดีว่าเวลาอย่างนี้ เวลาที่กำลังเผชิญปัญหาที่แก้ไม่ตก ไอ้เพื่อนตัวดีอย่างจินต้องการคำปรึกษาจากเขามากที่สุด ได้ยินเสียงทุ้มถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเริ่มเปิดปากเล่า
              [กูไปสายว่ะ ไอรีนก็เลยโกรธกู สาดน้ำโค้กใส่กูด้วยเนี่ย ไม่รับฟังอะไรเลย อย่าให้กูพูดรายละเอียดเลย กูว่าจะไปซื้อต่างหูมาง้อว่ะ มึงช่วยแนะนำร้านให้กูหน่อย] คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ประมวลผลคำพูดที่เพื่อนสนิทเล่าให้เขาฟังสักครู่ แต่ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจ
              “มึงไปสายมากเลยหรอวะ” เพราะตอนที่แยกออกจากกันก็ยังพอมีเวลาเหลือ ถ้านับเวลาเดินทางก็ไม่น่าจะสายเกินสิบนาที 
              [ก็ประมาณยี่สิบนาทีว่ะ พอดีกูแวะซื้อดอกไม้ที่ไอรีนชอบไปด้วย ร้านที่กูไปกับมึงตอนนั้นอยู่ไหนวะ] พูดอธิบายเหมือนไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก ก่อนจะเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง ฟังจากเสียงที่ลอดมาตามโทรศัพท์ คิดว่าเพื่อนของเขาคงกำลังเดินอยู่ที่ศูนย์การค้าที่ใดที่หนึ่ง
              “มึง อย่าพึ่งสนใจต่างหูสิวะ กูว่ามันชักจะแปลกๆนะเว้ย แฟนมึงอ่ะ เดี๋ยวๆ แล้วมึงไปทั้งที่โดนน้ำโค้กสาดหน้าอ่ะนะ” พอไอ้เพื่อนตัวดีตอบอือออกลับมาก็ทำเอาเขาแทบจะเอามือตบหน้าผากตัวเอง ก็เข้าใจอยู่นะว่ามันรักแฟนมันมาก แต่ช่วยรักตัวเองด้วยจะได้มั้ย
              “ไอ้เชี่ยจิน มึงเลิกเดินดูของแล้วกลับบ้านไปอาบน้ำเลย” นี่พูดเพราะความเป็นห่วงล้วนๆเลยนะ แต่ดูเหมือนไอ้เพื่อนจอมเอาแต่ใจจะไม่สนใจคำพูดของเขาเลย
              [เฮ้ย ขอกูซื้อของให้ไอรีนก่อน ไอ้สไปรท์อย่าลีลา ร้านอยู่ตรงไหนบอกมาเร็วๆ กูจะได้รีบซื้อรีบกลับ] พอได้ยินแบบนี้สไปรท์แทบอย่างจะเดินไปตรงหน้าแล้วลากตัวไอ้เพื่อนโง่นี่กลับมาให้รู้แล้วรู้รอด สำหรับจินที่รักไอรีนมากอาจจะไม่ทันสังเกต แต่สำหรับเขาที่เป็นคนนอก เขาเริ่มรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันเริ่มแปลกๆ

              ดูระหองระแหง หาเรื่องชวนทะเลาะแม้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย อย่างกับ...พยายามจะตีตัวออกห่างยังไงยังงั้น

              “เออๆ มึงอยู่แถวที่พวกเราชอบไปใช่ป่ะ บล็อกบีร้านหัวมุมสุดถนน” เมื่อเพื่อนของเขาไม่อยากพูดถึง เขาก็คงทำได้เพียงแค่เลยตามเลย จะให้พูดกับเพื่อนมันตรงๆเลยคงจะทำไม่ได้ โดยเฉพาะกับไอ้จินที่หน้ามืดตามัวรักแฟนจนเกินเหตุ เอาไว้เขามีหลักฐานอะไรชัดเจนก่อนค่อยบอกมันจะดีกว่า




              “จิน มึงช่วยมีสมาธิซ้อมหน่อยได้มั้ยวะ” สไปรท์แทบจะตะโกนใส่หูเพื่อนสนิทของตัวเองอยู่แล้ว แต่ไอ้หนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มป๊อบอันดับหนึ่งของโรงเรียนกลับไม่ได้ยิน เอาแต่เหม่อลอยจ้องไปที่โทรศัพท์ของตัวเองอยู่อย่างนั้น
              “สไปร์ทกูว่าพักก่อนเหอะ สงสารไอ้จินมันอยู่หรอก” ดินหนึ่งในสมาชิกของวงผู้รับผิดชอบตำแหน่งมือกลองพูดพลางคล้องคอสไปรท์ ให้สไปรท์ใจเย็นๆลงหน่อย เพราะไอ้เหตุการณ์ที่จินโดนแฟนสาวสาดน้ำใส่นั้น มีคนมือดีอัดคลิปก่อนโพสลงเว็บแฟนคลับของจินจนเรื่องมันดังไปทั่ว เป็นเขาก็คงจะกังวลเหมือนกับจินนั่นแหละ

              สไปรท์ถอนหายใจหนักๆ รู้สึกสงสารเพื่อนตัวเองใจจะขาด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะช่วยมันยังไง

              “ไปร้องเกะกันเหอะ!!!” น้ำเสียงสดใสของเพื่อนคนหนึ่งดังขึ้น ทุกคนต่างหันไปมองก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย เพราะในเวลาแบบนี้ควรจะหาเรื่องทำให้ไอ้นักร้องของวงเลิกหมกมุ่นกับโทรศัพท์ของตัวเองไปบ้าง
              “กูผ่านว่ะ” แต่ไอ้เพื่อนตัวดีกลับไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเพื่อนคนอื่นๆเลยนี่สิ!!!!
              “เชี่ยจิน มึงเลิกจ้องโทรศัพท์แล้วทำหน้าเหมือนหมาถูกทิ้งได้แล้ว มึงออกจะหล่อเลือกได้ ทำไมต้องมาจมปลักกับผู้หญิงที่ไม่เห็นค่าของมึงด้วยวะ” สไปรท์โพล่งอย่างเหลืออด เขาทนรับสภาพเหมือนจะขาดใจตายของไอ้เพื่อนคนนี้ไม่ได้จริงๆ สมาชิกในวงพากันเงียบกันไปเป็นแถบๆ เพราะถึงแม้ทุกคนจะคิดแบบนั้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะพูดออกมาหรอกนะ

              จินลุกขึ้นจ้องหน้าเพื่อนเขม็ง นัยน์ตาเรียวเป็นประกายกร้าว ไม่บอกก็รู้ว่ากำลังหงุดหงิด แต่มีหรือ สไปรท์จะยอม ทั้งคู่จ้องหน้ากันสักพัก ก่อนที่ร่างโปร่งจะลุกขึ้น สะพายกระเป๋า และเดินออกจากห้องซ้อมไป ไม่สนใจเพื่อนสนิทของตัวเองที่กำลังทำหน้ายุ่งอย่างขัดใจเลยสักนิด
              “โธ่เว้ย ไอ้โง่เอ๊ย” สไปรท์ตะคอกออกมาอย่างหงุดหงิด จนเพื่อนในวงต้องช่วยกันปลอบให้อารมณ์เย็นลง


              หลังจากแผนการซ้อมล่ม สมาชิกที่เหลือเลยตัดสินใจมาหาอะไรกินกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ รวมถึงต้องการจะปรึกษากันเรื่องปัญหาของนักร้องรูปหล่อประจำวงด้วย
              “ขนาดเด็กสามขวบยังดูออกเลย ว่าไอรีนมันหาเรื่องเลิกกับไอ้จินอ่ะ” และเป็นสไปรท์ที่เป็นคนเปิดประเด็นคนแรก ทันทีที่ก้นแตะกับเก้าอี้ เพื่อนคนอื่นๆต่างมองหน้ากันอย่างลำบากใจ แม้จะเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับ เพราะจินนั้นทั้งหล่อ รวย เสียงดี นิสัยอาจจะอันธพาลไปบ้าง แต่ก็โคตรจะรักแฟน ใครจะไปคิดว่าจะมีคนที่คบกับมันแล้วอยากจะเลิก
              “แต่จินไม่ยอมรับหรอก ก็เล่นรักไอรีนขนาดนั้น” การ์ตูน มือเบสของวงเอ่ยแย้ง และนั่นทำให้ทุกคนในโต๊ะเงียบลงทันที เพราะทุกคนรู้ดีว่าเพื่อนสนิทของเขารักหญิงสาวคนนั้นขนาดไหน
              “งั้นก็หาหลักฐานสิวะ” สไปรท์โพล่งขึ้นอย่างหัวเสีย ดูเหมือนเจ้าตัวจะปักใจเกลียดแฟนสาวของเพื่อนไปเรียบร้อยแล้ว ทุกคนในวงมองหน้ากันนิดหน่อย แม้จะรู้สึกผิดที่ต้องทำให้เพื่อนเลิกกับแฟน แต่ก็มีบางคนที่พยักหน้าเห็นด้วย
              “พูดง่ายนะมึง จะไปหามาจากไหน” ดินเอ่ยขัด แต่สไปรท์กลับทำหน้าไม่หยี่ระ ก่อนจะหยิบมือถือเครื่องบางสวยของตัวเองออกมา กดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเอาแนบเข้ากับหู
              “ฮาโหล อื้ม สไปรท์เอง ตอนนี้เอแคลร์อยู่ไหนอ่ะ นัดเจอกันหน่อยได้รึเปล่า อืมๆ ร้านแมคเจ้าประจำอ่ะ โอเคๆ รีบมานะ” เสียงทุ้มพูดอยู่สักพัก ก่อนจะวางสายไป เพื่อนๆที่ได้ยินบทสนทนาพากันหลุดคลี่ยิ้มออกมาทันที เพราะรู้ดีว่าคนที่สไปรท์คุยด้วยนั้นสามารถพึ่งพาได้มากแค่ไหน

              ไม่นานร่างเพรียวในชุดนักเรียนมัธยมเอกชนชื่อดังก็เปิดประตูร้านเข้ามา เดินตรงมายังโต๊ะที่มีหนุ่มๆนั่งอยู่ ไม่ได้สนใจสายตาที่มองมายังเธอแปลกๆเลย เอแคลร์วางกระเป๋า ก่อนจะนั่งลงตรงที่ว่างที่สไปรท์เว้นไว้ให้
              “ในที่สุดพวกนายก็ตาสว่างซะที” เสียงหวานเอ่ยฉายแววดีใจ นัยน์ตากลมสวยเป็นประกายวาววับ ทุกคนต่างรู้ดีว่าเอแคลร์นั้นเกลียดไอรีนเข้าไส้มาแต่ไหนแต่ไร เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทวัยเด็กของจิน จะว่ายังไงดี คงจะหวงของของตัวเองล่ะมั้ง
              “ยังซะหน่อย แค่สงสัยเฉยๆ” แอนดี้ มือคีย์บอร์ดของวงเอ่ยแย้ง จนเอแคลร์หันมาถลึงตาใส่
              “เออๆ ฉันก็ไม่อยากให้พวกนายเห็นว่าฉันมองไอรีนในแง่ลบหรอกนะ ตอนหลังๆฉันก็ทำใจยอมรับยัยนั่นได้แล้วแหละ”
              “หรอ” ทุกคนในวงพูดออกมาพร้อมกันจนเอแคลร์ต้องกลอกตาไปมาด้วยความรำคาญ
              “ตกลงนายต้องการความช่วยเหลือจากฉันรึเปล่าฮะ” น้ำเสียงหวานฉายแววหงุดหงิดจนหนุ่มๆต้องรีบง้อกันเสียยกใหญ่ เธอล่ะเอือมกับนิสัยของเจ้าพวกนี้จริงๆ เอแคลร์ตัดสินใจเมินเรื่องเมื่อครู่ก่อนจะพูดต่อ
              “อันที่จริงฉันได้ข่าวเรื่องไอรีนมาสักพักแล้วแหละ แต่ไม่เห็นพวกนายพูดอะไร ยิ่งจินที่เหมือนจะรักยัยนั่นสุดหัวใจขนาดนั้น ฉันก็เลยคิดว่ามันเป็นแค่ข่าวลือ” เอแคลร์พูดพลางเอามือเท้าคางลงกับโต๊ะ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดอยู่พักหนึ่ง
              “ข่าวอะไรงั้นหรอ” สไปรท์ถามฉายแววสนใจ เอแคลร์แค่นยิ้มนิดหน่อยก่อนจะยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้สไปรท์ดู

              ภาพของหญิงสาวหน้าตาน่ารักที่พวกเขาคุ้นตาดี ก็เธอคือแฟนของเพื่อนสนิทของพวกเขานั่นเอง กำลังยื่นขวดน้ำให้ชายหนุ่มที่โคตรของโคตรหล่อ กำลังยืนเอาเสื้อเช็ดเหงื่อโชว์กล้ามหน้าท้องสุดเซ็กซี่อยู่ ดูจากชุดที่ใส่ดูเหมือนจะเป็นนักกีฬาบาส

              “เขาว่าไอรีนกำลังตามจีบพี่คนนี้ พี่แอสตัน มอปลายปีสาม กัปตันทีมบาสของโรงเรียนฉัน จริงๆข่าวนี้ประมาณสามอาทิตย์แล้วล่ะ” เพียงเท่านั้นแหละ สไปรท์ตบเข่าตัวเองอย่างมั่นใจ ไม่สนใจสายตาเอือมๆของเพื่อนร่วมโต๊ะเลยแม้แต่น้อย เขาว่าแล้ว มิน่าช่วงหลังๆมานี้ ไอรีนกับจินถึงได้มีเรื่องทะเลาะกันแทบจะตลอดเวลา
              “แล้วไงต่อ” เอแคลร์ถามพลางรับโทรศัพท์ตัวเองกลับมา สมาชิกในวงต่างมองหน้ากัน สีหน้าฉายแววลำบากใจอย่างไม่ปิดบัง ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าควรจะทำยังไง

              “เฮ้ยๆ เดี๋ยวดิ เอาจริงหรอ” เอแคลร์โพล่งออกมาอย่างตกใจ เมื่อรับรู้แผนการต่อไปของพวกเพื่อนตัวแสบ
              “เออดิ หรือเธอจะปล่อยให้จินสุดที่รักของเธอโง่ต่อไปล่ะ” การ์ตูนพูดอย่างฉายแววลำบากใจอยู่บ้าง แต่เป็นลูกผู้ชายก็ควรจะยอมรับความจริงให้ได้ จริงไหมล่ะ ก่อนจะหยิบแก้วเป็บซี่ขึ้นดูดอย่างไม่ค่อยทุกข์ร้อนอะไร เอแคลร์ส่ายหน้าเบาๆ แต่ถึงยังไงเธอก็ยังเป็นห่วงสภาพจิตใจของจินอยู่ดี เพราะดูจินจะรักไอรีนมาก มากจนเธอหมั่นไส้ก็เถอะ
              “ฉันรู้ว่ามันลำบากใจ แต่เราจะปล่อยให้ไอ้จินโดนไอรีนหลอกแบบนี้ต่อไปไม่ได้หรอก” สไปรท์เอ่ยขัด นัยน์ตาคมหม่นหมองไปชั่วครู่ เมื่อนึกภาพเพื่อนตัวดีที่โดนความรักปิดตาจนหน้ามืดตามัวแล้วไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี
              “มันทุ่มสุดตัวเลยนะ ซื้อของแพงๆให้ เอาอกเอาใจสารพัด แม้จะต้องตามง้อในเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ผิด แล้วเท่าที่ฉันดูนะ ไอรีนเองก็คงอยากจะจับปลาสองมือด้วยล่ะมั้ง” สไปรท์ยังคงพูดต่อ อาจจะดูเป็นการพูดที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิง แต่หลังจากที่เขาสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนเขามาสักพัก เขาก็ไม่รู้จะสรุปเป็นอย่างอื่นได้ยังไง

              เพราะทุกครั้งที่ทะเลาะกัน พอจินซื้อของแพงๆที่ถูกใจไอรีนไปให้ สาวเจ้าก็ยอมดีด้วยประมาณสองสามวัน แล้วก็ทะเลาะกันใหม่ สุดท้ายก็ต้องซื้อของง้ออีก วนไปวนมาอีหรอบเดิม

              “เฮ้อ เป็นไงก็เป็นกัน ฉันเองก็ไม่อยากจะเห็นจินต้องมาทำหน้าอมทุกข์อีกแล้วล่ะ” เอแคลร์เอ่ยอย่างปลงๆ พานนึกไปถึงเพื่อนวัยเด็กของตัวเอง ในใจก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้


              หลังจากคุยตกลงกันสักพัก ทั้งห้าก็ตัดสินใจว่าจะสังเกตพฤติกรรมของทั้งคู่ไปก่อน สไปรท์วานให้เอแคลร์ช่วยดูพฤติกรรมของไอรีนที่โรงเรียน และสืบว่าข่าวที่ได้ยินมานั้นจริงเท็จแค่ไหน ส่วนสไปรท์กับเพื่อนที่เหลือ จะคอยดูท่าทีของจินกับไอรีนอยู่ห่างๆ ถ้าจินกับไอรีนยังคงทะเลาะกันบ่อยๆ จนเพื่อนสนิทของพวกเขาต้องเจ็บซ้ำๆ ความจริงก็ควรจะถึงหูของจินเสียที




              นี่ก็เกือบสองอาทิตย์แล้วที่อาการของจินยังไม่ดีขึ้น ท่าทางเหงาหงอยเศร้าซึมของเพื่อน ทำเอาสมาชิกในวงซึมลงไปด้วย ไม่ต้องไปพูดถึงพวกแฟนคลับหรอกนะ ตั้งเพจแอนตี้ไอรีนไปเรียบร้อยแล้ว
              “ฉันว่าคงถึงเวลาที่ต้องบอกความจริงกับจินแล้วล่ะ” สไปรท์พูดอย่างปลงๆ สมาชิกคนอื่นต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างลำบากใจ แม้จะพยายามหลอกตัวเองมากแค่ไหนว่าเพื่อนของพวกเขายังไหวอยู่ แต่พวกเขาก็ทนรับสภาพบอบช้ำของเพื่อนแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งข่าวจากเอแคลร์ที่บอกว่าไอรีนไปเฝ้าไอ้รุ่นพี่นั่นเล่นบาสทุกวัน คอยส่งน้ำส่งขนมให้ ยิ่งทำให้พวกเขารับไม่ได้เข้าไปใหญ่

              อาจจะเจ็บหน่อยนะเพื่อน แต่เจ็บหนักครั้งเดียว ดีกว่าต้องทนช้ำใจแบบนี้ไปเรื่อยๆ



              “...” 
              ผิดคาด ปฏิกิริยาของจินผิดจากที่ทุกคนคาดการณ์ไว้มาก ทุกคนต่างคิดว่าถ้าจินรู้เรื่องนี้คงจะโมโห โวยวายทำลายข้าวของ ไม่ก็ร้องไห้ฟูมฟายเสียใจ เก็บตัวอยู่ในห้องไม่อยากพบเจอผู้คน แต่ไม่ใช่ จินเพียงแค่ดูโทรศัพท์ด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนจะส่งคืนให้เอแคลร์ด้วยรอยยิ้ม
              รอยยิ้มที่ทุกคนไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น รอยยิ้มที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรเลย นัยน์ตาเรียวที่เคยเปล่งประกายสดใส ตอนนี้กลับว่างเปล่า ว่างเปล่าจนน่าใจหาย
              “เอ่อ จิน” สไปรท์เอ่ยเรียกเพื่อนอย่างไม่ค่อยมั่นใจ หวังว่าสิ่งที่เพื่อนของเขาพึ่งจะรับรู้ไป จะไม่ทำให้จินคิดสั้น
              “กูรักผู้หญิงคนนี้มาก” จินพูดพลางหันหน้าไปทางหน้าต่างห้องของตัวเอง ที่ข้างหน้าต่างมีบอร์ดขนาดปานกลางที่ติดรูปถ่ายเกี่ยวกับความทรงจำดีๆของเด็กหนุ่มเอาไว้ นัยน์ตาเรียวเหม่อมองไปยังใบหน้าน่ารักของหญิงสาวที่เขารักอย่างสุดหัวใจ
              “กูยอมให้เขาทุกอย่าง ถ้าเขาอยากได้อะไรกูก็จะรีบหามาให้ ต่อให้เขาทำร้ายร่างกายกู ทำร้ายจิตใจกู กูก็ยอม” น้ำเสียงนุ่มที่เคยน่าฟังบัดนี้สั่นเครือ ไม่เหลือวี่แววของนักร้องหนุ่มสุดห้าวที่แสนแข็งแกร่งอีกแล้ว จินเงียบไปสักพัก สูดลมหายใจเพื่อควบคุมน้ำเสียงของตัวเอง ก่อนจะพูดประโยคที่ทำเอาเพื่อนๆต่างเจ็บปวดไม่แพ้กัน

              “เพราะกูรักเขา รักเขาจนสุดหัวใจ”

              ก่อนที่มือเรียวจะกระชากรูปของคนรักของตัวเองออกมา ทุกคนต่างสะดุ้งก่อนจะลอบกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอ
              ใบหน้าคมสวยค่อยๆหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับเพื่อนๆ นัยน์ตาเรียวที่เคยแฝงประกายสดใส บัดนี้หมองหม่น  น้ำใสๆคลอรื้นที่ขอบตา ก่อนจะค่อยๆเอ่อล้น ไหลออกมาหนึ่งหยด สองหยด และยังคงไหลออกมาเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
              ทุกคนต่างตัดสินใจนิ่งเงียบ ท่าทางของเพื่อนที่แสนอ่อนแออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้อารมณ์ของพวกเขาตีกันยุ่ง เจ็บหรอ ใช่ โกรธแค้นหรอ ก็ไม่เชิง ทำได้เพียงแต่หวัง คาดหวังให้เพื่อนของเขากลับมาเป็นเด็กหนุ่มที่แสนร่าเริงเหมือนเดิม
              เอแคลร์ที่ไม่เคยเห็นเพื่อนวัยเด็กของตัวเองร้องไห้มาก่อน ถึงกับหลุดร้องไห้ออกมาตาม จินคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะลูบหัวปลอบประโลมอย่างแผ่วเบา ทั้งๆที่ใบหน้าของตัวเองก็มีน้ำตาเปื้อนเขรอะไม่ต่างจากเพื่อนสาวของตัวเองเท่าไหร่
              ไม่มีเสียงสะอื้นใดๆหลุดมาจากริมฝีปากได้รูป มีเพียงแววตาที่ค่อยๆแข็งกร้าวขึ้น จนทุกคนต้องรู้สึกหัวใจกระตุกวูบ

              “รักมากก็เกลียดมาก”










    -----------------------------------------------
    Talk : ตอนแรกเขียนยากสุดๆเบย ._.



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×