spysky
ดู Blog ทั้งหมด

พ่อกับการศึกษาของลูกๆ

เขียนโดย spysky




พ่อกับการศึกษาของลูกๆ

 

ตอนนี้คุณพ่อของลิงบวชอยู่จ้ะ  แต่ลิงก็ขอเรียกหลวงพ่อว่า พ่อ

 

ตั้งแต่เด็กแล้ว สิ่งหนึ่งที่ลิงเห็นจนชินตาก็คือ….

 ภาพผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในโรงสีข้าว

อ่านหนังสือพิมพ์ไปพร้อมสีข้าวไปด้วย
ชายคนนี้ก็คือ
คุณพ่อของลิง….

พ่อ

เป็นพ่อเพียงคนเดียวในหมู่บ้านที่ยอมเสียเงินไปกับการซื้อหนังสือมาอ่าน  พ่ออีกเหมือนกัน ที่ไม่สนใจดูละครตอนเย็น พ่อบอกลูกๆ
เสมอๆว่า

ดูข่าวนะลูกจะได้รู้ว่า
บ้านเมืองของเราและของเขาไปถึงไหนแล้ว

ฉะนั้นถ้ามีละครชนข่าว พ่อจะเลือกเปิดดูข่าวจ้ะ

 

บ้านของลิงได้เรียนหนังสือกันทุกคน

 แม้ไม่ได้จบถึงปริญญาตรี แต่ทุกคนก็อ่านออกเขียนได้กันหมด

เพื่อนๆของพ่อพูดให้พ่อว่า….

ตากุลมันโง่

มีลูกผู้ชายก็หลายคนอยู่ในวัยทำงานทั้งนั้น

ก็ไม่ให้ทำงาน

ส่งเสียเล่าเรียนหนังสืออยู่นั่นแหละ

แล้วตัวเองก็ลำบากมาทำงานงกๆส่งลูกเรียน

 

อยากจะถามพ่อจังเลยว่า.......

ทุกครั้งที่พ่อได้ยินคนพูดแบบนี้

พ่อรู้สึกยังไง ?

ลูกๆขอขอบคุณ คุณพ่อ และคุณแม่

ที่ไม่สนใจคำพูดเหล่านี้ กัดฟันส่งเสียลูกๆให้ร่ำเรียนหนังสือ
 


 

พ่อทำโรงสีข้าวไม่ได้อะไรมากหรอก

 อาศัยแค่ว่า เอารำมาเลี้ยงหมูเท่านั้นเองหลังบ้านของลิงเลี้ยงหมูน่ะ แม่จะเลี้ยงหมูและทำนาจ้ะ

ถามว่า.... พ่อกับแม่เหนื่อยไหมนะ ?

อันนี้ลิงก็คิดว่า....

 ไม่มีคำบรรยายกับความเหนื่อยและความลำบากของพ่อกับแม่

แต่ท่านทั้งสองก็เต็มใจเหนื่อยเพื่อให้ลูกๆได้เรียนหนังสือ

 

ครั้งหนึ่งพี่อ๊อดพี่ชายคนโตเกเรมาก

ไม่ไปเรียนหนังสือพ่อจับได้เฆี่ยนพี่อ๊อดหลังยับเลยทีเดียว

พ่อพูดกับพี่ไปว่า

ลูกเป็นพี่ชายคนโต พ่อส่งเสียให้เรียน

แล้วลูกมาทำตัวแบบนี้ มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี

แล้วจะสอนน้องๆว่ายังไง

ถ้าพี่คนโตมาทำตัวเกเรซะเอง

ทุกวันนี้หลังพี่อ๊อดยังเป็นแผลเป็นจากการถูกพ่อตีในครั้งนั้นอยู่เลยจ้ะ

ลิงเข้าใจพี่อ๊อดนะ วัยรุ่นบางครั้งก็อาจจะนอกลู่นอกทางไปบ้าง

แต่ พี่เขาเรียนเก่งนะเออ ..ยอเฮียหน่อย ฮี่ ><!!! พี่อ๊อดเป็นครูค่ะ

สมัยลิงเรียนก็มีแค่ลิงเท่านั้นที่ได้เรียนหนังสือต่อ

เพื่อนๆของลิงไม่มีใครได้เรียนหนังสือเพื่อนลิงเรียนเก่งกันหลายคน

แต่ พ่อแม่เขาไม่สนับสนุนให้เรียนต่อ อยากให้มาทำงานในกรุงเทพฯ

หรือ บางคนก็อยากเรียนแต่พ่อแม่ของเขาไม่มีกำลังพอจะส่งเสียให้เรียน

พี่อ๊อดเป็นคนหัวแข็งนะ เด็กกิจกรรมของมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ก็แบบนี้แหละค่ะ
สมัย  14 ตุลา 16 …

ข้อมูลเพิ่มเติมของนักศึกษาในสมัยนี้หากันเอาเองนะ

 

พ่อพูดเสมอๆว่า

พ่ออยากให้ลูกๆได้เรียนสูงๆ

เผื่อวันข้างหน้าจะได้เป็นเจ้าคนนายคน

ไม่ลำบาก

ไปไหน มาไหนก็อ่านออกเขียนได้

คนอ่านออกเขียนได้ มันจะไม่ถูกเอาเปรียบลูก





 

พ่อจะพูดแบบนี้จ้ะ พ่อชอบอ่านหนังสือและดูข่าว

พ่อเลยรู้ว่า

การศึกษามีความสำคัญจริงๆ

 

หลายวันก่อนมีข่าวใหญ่ว่า

โรงเรียนขนาดเล็กกว่า 16,000 โรง ทั่วประเทศจะถูกยุบ

อ่านข่าวนี้แล้วเจ็บปวดที่สุด ว่าแล้วน้ำตาพาลจะไหล

สมัยลิงยังเป็นเด็กประถม โรงเรียนที่ลิงเรียนมีนักเรียนไม่เยอะ
ร้อยกว่า 
ก็เลยคิดว่า ……….

โรงเรียนของหนูไม่พ้นต้องถูกยุบแน่ๆ

 

สมัยเรียนประถม เพื่อนหลายคนของลิง รวมถึง พี่ๆน้องๆในโรงเรียน

ไม่มีแม้ชุดนักเรียนจะใส่ บางคนก็มีอยู่ชุดเดียวใส่ทั้งอาทิตย์

วันเสาร์-อาทิตย์ก็ยังหยิบกางเกงนักเรียนมาใส่ ด้วยว่าที่บ้านยากจน

ไม่มีเสื้อผ้าใส่…….รวมถึง รองเท้า เพื่อนๆน้องๆพี่ๆหลายคนในโรงเรียนก็ไม่มีใส่กัน

ว่าไปแล้ว หมู่บ้านของลิงก็ห่างจากอำเภอแค่ 14 กิโลเมตร

ทำไมนะ ? เด็กๆเหล่านี้ถึงไม่มีชุดนักเรียนและรองเท้าจะใส่กัน ?

 

ตอนนั้นลิงยังเด็ก ลิงไม่คิดอะไรมาก แต่ มาตอนนี้โตแล้วเลยมานั่งคิดว่า

ถ้ารัฐบาล ในสมัยนั้นจัดสรรงบประมาณ

มาซื้อเสื้อผ้าและรองเท้าให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศ

มันจะเป็นเงินสักเท่าไรกันนะ ?

มันจะถึง 100 ล้านไหม ?  ถ้ามันไม่ถึง แล้วมันจะสักกี่ล้าน?

ถ้ามันไม่กี่ล้านบาท ท่านคนใหญ่คนโตมัวทำอะไรกันอยู่ ?

ถึงไม่มาเหลียวแลเด็กๆในโรงเรียนของลิง
 

 

 พฤษภาคม พ.2556

ยุคการสื่อสารไร้พรมแดน ห่างไกลกันสุดหล้าฟ้าเขียวแค่ไหน

เราๆท่านๆยังติดต่อสื่อสารและเห็นหน้ากันได้ไม่ว่าท่านจะอยู่ในโลกสวยๆใบนี้

หรือท่านอยู่ดาวอังคารก็ตาม  เราก็ยังสามารถติดต่อกันได้เสมอๆกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่นั่น มันก็แค่เทคโนโลยีเท่านั้นที่ก้าวหน้า

 

ความคิดและสติปัญญาของคน(ใหญ่คนโต)

กลับย้อนหลังไปยังยุคไดโนเสาร์เต่าล้านปี

หรือว่า

 เขาเหล่านี้ร่ำเรียนเยอะจนเกินไปเลยคิดไม่เหมือนคนปกติเขาคิดกัน

 บรรดลูกๆหลานๆของท่านทั้งหลายส่งเสียให้เรียนสูงๆกัน

มหาวิทยาลัยดังๆค่าเทอมแพงแสนแพงก็ไม่หวั่น

แม้ว่าโรงเรียนและมหาวิทยาลัยดังๆเหล่านั้น
จะอยู่สุดหล้าฟ้าเขียวพ่อก็จะส่งให้ลูกไปร่ำเรียน

เพราะรู้ว่า ถ้าวันหนึ่งเมื่อเจ้าเรียนจบกลับมา

จะได้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของวงศ์ตระกูล….ของเรา

 

ส่วนลูกตาสีและยายสา  โรงเรียนของหนูอยู่แค่ปลายจมูก

โรงเรียนของหนูอยู่แค่ปลายเท้า แต่หนูกลับเอื้อมมันไม่ถึง
สัมผัสมันไม่ได้ 
ไทยกับไทยใยแตกต่างกัน

 

สงกรานต์ปีก่อนโน้น ลิง..พี่อ๊อด พ่อและคนอื่นๆนั่งคุยกันที่หน้าบ้านยามเย็น พี่อ๊อดพูดว่า

 

เด็กยุคนี้ เด็กยุคอาเซียน

เศรษฐกิจนับวันยิ่งจะเจริญเติบโต

ทุกประเทศจะไปมาหาสู่กันง่ายขึ้น

พ่อแม่ไม่ควรปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไป

ควรส่งเสียให้ลูกๆได้เรียนสูงๆกัน

จบแล้วจะได้มีงานทำที่ดีๆ



 

ผ่านไปหนึ่งปีอยากจะบอกพี่อ๊อดเหลือเกินว่า

 

 โรงเรียนของเราอาจจะไม่รอด

เพราะ เด็กเหลือน้อยเต็มทน ”  

แต่ก็ยังชื่นใจว่า  มีนักเรียนจากหมู่บ้านใกล้เคียงมาเรียนต่อ

หมู่บ้านใกล้เคียงเป็นหมู่บ้านเล็กๆค่ะ เด็กๆเลยมาเรียนที่โรงเรียนเก่าของลิงกัน

 

 

มันจะเป็นยังไงนะ ??? ถ้าวันหนึ่ง

 เด็กหญิงลิงเดินไปโรงเรียนในตอนเช้าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนทุกวัน

พอถึงหน้าโรงเรียนกลับมีป้ายประกาศ ข้อความโตๆว่า

“ ขอปิดการเรียนการสอนแบบไม่มีกำหนด

 

เด็กหญิงลิงคงทำอะไรไม่ได้  ก็คงพูดกับตัวเองเบาๆว่า

ปิดโรงเรียนของหนูทำไม แล้วหนูจะไปเรียนที่ไหน ?”

 

ถ้าโรงเรียนของหนูอยู่ไกล ไกล ไกล

 หนูจะเอาแรงมาจากไหนเดินไปเรียน ?

เพราะ อย่างน้อยแต่ละหมู่บ้านก็ห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร

อันนี้แถวๆบ้านของลิงนะ ถ้ามันไกลมากกว่านี้ล่ะ
4 กิโลเมตร...
7 กิโลเมตร

เด็กๆที่ยากจนไม่มีเงินค่ารถ จะทำยังไง ?
ความปลอดภัยของเด็กๆล่ะ 
โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง
กลางทางจะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้

เพื่อนๆจอมขี้เกียจของหนูจะอ่านออกเขียนได้ไหมนะ

ขนาดโรงเรียนอยู่หน้าบ้านยังไม่ยอมไปเรียน ?

ถ้าเด็กบางคนไม่มีรองเท้าใส่กันล่ะ ?

เดินไปเรียนที่ไกลๆ จะเป็นยังไง ?  ก็รู้อยู่ว่าบ้านเรามันร้อนตับแล่บขนาดไหน ?
เด็กนักเรียนบนดอยล่ะ ครูสอนด้วย เขาจะทำยังไงกัน ?


ถ้าโรงเรียนขนาดเล็กถูกปิด

....เพราะส่วนมากแล้วโรงเรียนที่อยู่ถิ่นทุรกันดารก็เป็นโรงเรียนขนาดเล็กทั้งนั้น 

และขึ้นชื่อว่า ถิ่นทุรกันดาร การเดินทางเข้ามาเรียนในเมืองย่อม
ลำบากแน่ๆ


ไม่มีถิ่นทุรกันดารที่ไหน ห่างจากอำเภอและจังหวัดแค่ กิโล สองกิโลหรอก......ท่านผู้อ่าน

 

 

จากเด็กโรงเรียนเล็กๆ แห่งหนึ่งที่หลังโรงเรียนติดทุ่งนา

หน้าโรงเรียนติดถนนลูกรัง

 

 

 

ลิงเขียว

 

 

 

ความคิดเห็น

Vanilla Ice
Vanilla Ice 12 พ.ค. 56 / 12:05
ผมว่านะครับแทนที่จะเอาเงินหลายพันล้านซื้อแทปเลตให้เด็กในเมืองใช้ เอาเงินนั่นไปกระจายสู่โรงเรียนในชนบทดีกว่าเยอะแยะครับ

เงินหลายพันล้านที่ส่งไปตามโรงเรียนต่างๆ ให้ซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนที่ไม่เคยมี ให้เป็นทุนนัดเรียนยากจนแต่เรียนดี ซึ่ขาดแคลน ผมว่ามันดีกว่าเป็นไหนๆ

แต่ทไมไม่ทำล่ะ?

ง่ายๆ ครับ...มันหักค่าหัวคิว 20% ไม่ได้ไงล่ะครับ

งบซื้อแมบเลต 5พันล้าน หัก 20% ก็ 1 พันล้าน เฉลี่ยแล้วเลือกตั้งหนึ่งครั้งตอนนี้ สส.อีสานใช้เงินคนละราว 10-20 ล้าน พันล้าน ได้เงินให้ สส.หาเสียงร้อยคนเชียวนะท่าน

นี่ล่ะเด็กๆ ถึงรับกรรม

และตอนนี้ออันดับการคอรัปชั่นของรัฐบาลไทยก็ขยับอันดับขึ้นมาอยู่ในอันดับท้อป 20 ประเทศที่มีการคอรัปชั่นมากที่สุดแล้วนะนี่ มันจะน่าภูมิใจยังไงกันล่ะ?
modtanoy-noinoi
modtanoy-noinoi 13 พ.ค. 56 / 00:18
@ พล

นั่นน่ะสิ

อย่างหลานชายตอนอยู่ ป. 1 รองเท้านักเรียนยังหายบ่อยๆ
ไปๆมาๆ ย่าเลยไม่ซื้อให้หลานใส่ ก็ใส่อีแตะธรรมดานั่นแหละไปเรียน เหอ
เด็กยังไง ก็คือเด็กวันยังค่ำ น้อยคนนักที่จะรู้จักรักษาข้าวของให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่เสียหาย ขนาดเราผู้ใหญ่แท้ๆ เผลอวางไม่เป็นที่เป็นทาง
ตกพื้นพังเสียหายแล้ว
เอาเงินมาละลายเล่นจริงๆ

ตำแหน่งงาน อบต ที่หมู่บ้านเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะต่อตำแหน่ง แปดหมื่นบาท
สองปีก่อน พ่อถามว่า 
" อยากกลับมาทำงานที่ อบต ไหมลูก ?"
ถามพ่อกลับไปว่า 
" แล้วมันเงินเดือนเท่าไหร่พ่อ ?"
พ่อตอบกลับมาว่า
" เงินเดือน ห้าพันลูก แต่..ค่าน้ำร้อนน้ำชา แปดหมื่นบาท "
นุชก็เหวอเลยนะ เจอเงินใต้โต๊ะเยอะขนาดนี้
ก็คิดดูว่า ขนาดตำแหน่งเล็กๆใน อบต ยังกินกันขนาดนี้
อย่าไปคิดถึง ตำแหน่งงานในกระทรวงใหญ่ๆเลย
คนที่คุมบังเหงียนคงงาบมากกว่านี้แน่ๆ เฮ้อ.... กินกันเข้าไป
เมื่อไรท้องพวกมันจะแตกวะคะ
แต่...ก็มีคนยอมเสียเงินนะ พล....
ค่าทำถนนหนทางก็กินกันเป็นทอดๆเหมือนกัน
งบมา สามแสน กินไปสองแสนเหลือสร้างถนนหนึ่งแสน
เลยได้ถนนมาใช้แค่ไปกี่ปี ก็กลับไปสู่ถนนลูกรังเหมือนเดิม
คอรัปชั่น...

นุชเห็นด้วย
น่าจะเอาเงินหลักพันล้านไปซื้อข้าวของอุปกรณ์การเรียนให้เด็กยากจนในชนบท
เด็กๆในโรงเีรียนเล็กๆ ที่ฉลาดหลักแหลมมีเยอะนะ
แต่ ขาดโอกาสเรียนต่อเท่านั้นเอง
เสียดาย อย่างเพื่อนของนุชก็เรียนเก่งกันหลายคน
ในสมัยนั้นรัฐบาลไม่มีนโยบายให้เรียนฟรีน่ะ
เลยอดเรียนหนังสือกันหลายคน
ตอนนี้ที่บอกว่าฟรีก็ไม่รู้ฟรีจริงรึเปล่า ?
เพราะกลับบ้านทีไรก็ยังเห็นหลายคนบ่นว่า
" ไม่มีค่าเทอมให้ลูกๆหลานๆอยู่เลย "

คอรัปชั่น .. 
สมัยนี้มันเยอะจริงๆนะแหละ เยอะจนคิดว่า เงินในคลังที่ควรจะนำมาพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า กลับไม่เป็นอย่างนั้น
งบเยอะแยะหายจ้อย หายจ้อยแบบนี้
ประเทศของเราเมื่อไรจะเจริญทัดเทียมนานาประเทศเขานะ
...ลาว รู้มาว่า เขามีการตกลงจะสร้างรถไฟความเร็วสูงแล้วนี่
ด้วยเงินกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
แม่เจ้า...แซงพี่ไทยแน่ๆ
 พี่ไทยยังไม่เป็นตัวเป็นตนเลย แล้วไม่รู้จะเป็นตัวเป็นตนเมื่อไร ???
แต่...อัตราค่าบริการมาแล้ว เงิบบ คิดแต่จะเอาเงินลูกเดียว ....
 

คิดไปแล้ว
เวลาจัดสรรงบออกมาแต่ละที
พวกที่มีส่วนได้ส่วนเสียคงจ้องกันตาเป็นมันเลยเนอะ 

ว่าแล้ว....เมื่อไรน่ะ พวกนี้จะรู้จักคำว่า " เพียงพอ " สักที
คงไม่มีวันนั้นแล้วล่ะ

โอ๊ยยย อึดอัดใจอยากจะด่าหยาบๆเว้ยเฮ้ยย

เรื่องการเมืองมันปวดกบาลจริงๆ
แต่ จะทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่มันก็ไม่ใช่
เพราะยังไง เรามันก็สายเลือดเดียวกัน
คนไทยเหมือนกัน


 


Vanilla Ice
Vanilla Ice 13 พ.ค. 56 / 07:02
โฮะๆ เทศบาลที่สุพรรณ ถ้าอยากเข้าในตำแหน่ง C 3 นี่สามแสนไม่อยู่ละครับ(อันนี้ไม่รวมที่ลงนะครับ)

ส่วนเรื่องถนนเดี๋ยวนี้เขาใช้ รีไซคลิง (ชื่อเท่) มันคือการใช้เครื่องมือชนิดหนึ่งลอกผิวถนนเดิมออกมาแล้วนำมาคลุกกันในเครื่องแล้วเพิ่มยามาตอยลงไป แล้วก็ลาดซ้ำน่ะครับ ใช้ทุนราว 30% ของงบ แต่กรณีนี้เขาเรียกค่าน้ำร้อนน้ำชากัน 40% นะครับ แม่งบ้าไปแล้ว...

ส่วนพวกรัฐมนตรีหรืออะไรไม่ได้เท่าไรหรอกครับ มีแต่กินตามน้ำ เงินส่วนใหญ่จะไหลเข้าตระกูลชิน โดยผ่านมือผันเงินอย่างเจ้แดง ที่เป็นผู้รับผลประโชน์เต็มๆ จากเรื่องรับจำนำข้าว แล้วค่อยแล่งออกเป็นส่วนของนายกและทักษิน

ว่ากันว่างบ 2.2 ล้านที่กู้มานี่จะใช้ปีละ3 แสนล้าน นั่นหมายความว่าจะถูกคอรัปชั่นไป 6 หมื่นล้าน

คิดแล้วเสียดาย...

แต่คุณนุชเชื่อไหมครับ ประเทศไทยไม่เหมือนชาติใดในโลก คนไทยโง่แต่ช่วงแรก แต่ถ้ารู้ว่าเงโกหกล่ะก็ เตรียมรับผลได้เลยครับ ขนาดสมัยสฤษ ถนอม เอาปืนมาจ่อยังไม่กลัวกันเลย ผมเชื่อว่าเดี๋ยวมันต้องมีอะไรทำให้กฏหมายหรือการปราบคอรัปชั่นของเราดีขึ้นอีก

ตอนนี้ที่เห็นเป๋นรูปธรรมก็น่าจะเป็นกรณี ปลัดกระทรวงการคลัง และปลัดกระทรวงกลาโหม ที่คอรัปชั่นโดนจำคุกจากฝีมือ องค์กรอิสระอย่าง ปปช. นี่ล่ะครับ นับเป็นนิมิตหมายอันดี


ปล.การสร้างรถความเร็วสูงของลาวนั่นเขาไม่ได้ลงทุนเองครับ เขาให้จีนเป็นผู้สร้างให้แลกกับการยกพื้นที่บางส่วนให้เป็นย่านอยู่อาศัยของคนจีนที่อพยพมา ประมาณเยาวราชบ้านเรานั่นล่ะครับ ^^
Vanilla Ice
Vanilla Ice 13 พ.ค. 56 / 07:09
จากที่ว่ามาถึงมีการพยายามล้มองค์กรอิสระอย่างเต็มที่นี่ล่ะครับ แต่กระแสต้านแรงมาก ผมเชื่อว่าไม่น่าจะล้มได้ แต่ถ้าเอาพวกมากลากไปล้มจริงๆ ผมว่ามีการออกมาประท้วงครั้งใหญ่แน่ๆ


ผมเบื่ออย่างเดียวพวกบอกว่าเมืองไทยไม่มีเสรีภาพที่แท้จริง เพราะพูดถึงบางเรื่องไม่ได้อย่างเรื่องของพระมหากษัตริย์ ผิดกลับประเทศอเมริกาที่เป็นเสรีอย่างแท้จริง

ผมอยากจะถามจริงๆ อเมริกานี่พูดได้เสรีจริงหรือ?

ลองไปพูดเรื่องสีผิวสิ หึหึ... แต่ละที่เขาก็มีเรื่องที่ห้ามแตะต้อง แต่อย่างว่าครับประชาธิปไตยแบไทยๆ ก็คือ

"กูทำได้ทุกอย่าง คนอื่นคัดค้านก็หาว่าขัดขวางประชาธิปไตย"

...เบื่อกับประชาธิปไตยที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งจริงๆ
modtanoy-noinoi
modtanoy-noinoi 13 พ.ค. 56 / 14:49
พล...........


มันเป็นข่าวดีเลยนะ ตามที่พลบอกมา ก็ขอให้มันเป็นจริงโดยเร็วด้วยเถิดไม่ใช่แค่ข่าวโคมลอยยย

อืม...สามแสน แม่เจ้าาา แล้วเค้าได้เงินเดือนเท่าไรกันละหว่า ? 

ก็แบบนี้แหละ.......

ข่าวการเมืองมันสนุกดีนะ ชอบ ^^ เสียดายว่าไม่ได้อยู่บ้านเรา ไม่งั้นคงได้อ่านข่าวการเมืองมันส์ๆไปแล้ว

เอาไว้ไปอยู่ที่ใหม่ จะพยายามเสาะหาว่า หนังสือที่พิมพ์ รายสุดสัปดาห์ เค้ามีขายรึเปล่า ?

แบบที่เยอรมันมีขายนะ โดยเฉพาะ คส คส ....แต่นุชไม่ได้อยู่ที่นี่นานน่ะ
เ่ดวต้องอพยพแล้ว
ไม่น่าจะเกินวันที่ 20 เดือนนี้ก็ต้องออกเดินทางอีกแล้ว ก็เลยคิดว่า ถ้าไปอยู่ที่ใหม่ น่าจะหนึ่งปี
จะตามเสาะหาหนังสือพิมพ์มาอ่านจ่ะ  อ่านจาก เน็ตมันไม่ชอบ เพราะมีแค่สองจำพวก
ทะเลาะกันไปมา เลยไม่ชอบ...........


ขอบคุณคลังความรู้จ้า >O<  นุชชอบบบบบบบ มว้ากกก กับการเมืองของพลเนี่ยยย
ว่าไปแล้วมันอ่านแล้วตื่นเต้นกว่าอ่านนิยายของพลซะอีกนะ เอิ๊กๆๆ :)


ยังไงถ้ารู้อะไรดีๆ เอาลิงก์มาแปะให้อ่านหน่อยนะ 

ในกรณีที่ขี้เกียจพิมพ์แป้น แต่....ถ้าไม่ขี้เกียจก็ส่งเมลมาให้อ่านก็ได้ค่า

(นางมึนขอข่าว=_=)


อืมมม 

เมกา ลองพูดว่า" นิโกร ...ผิวดำ " เข้าเฝ้ายมบาลแบบไม่มีลิสต์ล่วงหน้าเลยล่ะ
นุชคิดว่าอย่างงี้นะ เหมือนที่พลคิดนั่นแหละ

แต่...ก็ยังอยากไปส่องดินแดนแห่งเสรีภาพแห่งนี้อยู่นะ ว่าไปโน่น............

ลูกค้าส่วนมากถ้ามาโทนผิวสีจะน่ารักค่ะ นุชชอบ ^^

....ถ้าอยู่ในบ้านเราอันนี้ออกแนวน่ากลัวจ้า ........  
เคยเจอมาแล้ว มันน่ากลัวจริงๆ 


ประชาธิปไตยยุคบานแข่งกับดอกเห็ดจ้า....เบ่งบานเต็มบ้านเต็มเมืิอง
สุ่มสี่สุ่มห้าเก็บ(เห็ดพิษ)มากิน ตายซี้แหงแก๋....





ความคิดเห็นที่ 6
ขอ skype name ได้้มั๊ยคะจะรบกวนปรัึษา ขอบคุณคะ
highbrow
highbrow 13 พ.ค. 56 / 17:25
คำสอนของพ่อแม่ทุกคนก็น่าจะประมาณนี้นะคะ

"พ่อแม่ไม่มีอะไรจะให้ มีแค่ความรู้เท่านั้นที่พอจะให้ได้"

อ่านบทนี้ของพี่นุชแล้วบอกตรงๆ คิดถึงพ่อมากเลยค่ะ
modtanoy-noinoi
modtanoy-noinoi 13 พ.ค. 56 / 21:40
@  คุณนก........


spysky_greenmonkey17@ hotmail.com


เมลของนุชค่ะ เขียนมาปรึกษาได้เลย 

หรือ ไม่ถ้าคุณนกอยู่เมืองไทยฝากเบอร์โทรเอาไว้ที่เมลเลยก็ได้นะคะ 

นุชโทรกลับแน่นอนค่ะ 


ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านบล็อกลิงเขียวนะคะ


แล้วขั้นตอนต่อไปค่อยว่ากันเรื่อง skype 


 
modtanoy-noinoi
modtanoy-noinoi 13 พ.ค. 56 / 21:48
@ น้องปุ้ม


อืม พี่นุชทำให้หนูเศร้าหรือเปล่าจ๊ะ ?

ยังไงท่านทั้งสองก็ไปสบายแล้ว

พีนุชก็คิดถึงหลวงพ่อค่ะ คิดถึงมาก แต่....ก็สบายใจที่ได้รู้ว่าพ่อมีความสุขมากๆในตอนนี้
อยู่ใต้ร่มกาสาวพักตร์


ขอบคุณสำหรับเม้นท์จ้า น้องสาว ^^
>3333333<


Vanilla Ice
Vanilla Ice 14 พ.ค. 56 / 01:41
มาต่อเรื่องว่าทำไมคนที่อยากเข้าราชการถึงยอมจ่ายเงิน 3-4 แสนกันเพื่อเข้านะครับ

ทั้งๆ ที่เงินเดือนที่ได้ก็คือ 15,000 บาท แถมไม่ขึ้นราวๆ สีถึงห้าปีอีกต่างหาก (ตามนโยบายเงินเดือนหมื่นห้าครับ แต่ความจริงแล้วคนไม่รู้ครับว่าแต่ละหน่วยงานเขาจะมีลูกจ้างประจำด้วย แต่ยังไม่เป็นข้าราชการ ตอนรัฐบาลหาเสียงพวกลูกจ้างประจำก็อยากได้เงินเดือนหมื่นห้าด้วยเลยช่วยกันเลือกสุดลิ่มทิ่มประตู แต่พอสรุป เขาไม่ได้บอกว่าหน่วยงานต่างๆ มีงบจ้างงานจำกัดหากใช้เกินนายก อบต หรือ เทศบาลจะมีความผิดถึงติดคุกเอาง่ายๆ เมื่อเพิ่มเงินเดือนข้าราชการเป็นหมื่นห้า ก็เลยต้องลดเงินพนักงานลูกจ้าง ซวยสิครับงานนี้...จากเงินเดือน 8,000 เหลือแค่ 5,000 อยู่ไม่ได้ก็ออกไป โดนหลอกกันเยอะครับกับนโยบายนี้)

ว่ากันเรื่องทำไมถึงยอมจ่ายเงินจำนวนมากนะครับ แท้จริงแล้วไม่มีอะไรครับ แต่ผู้เข้าเป็นข้าราชการแล้วจะมีเงินให้กู้เยอะมากกกกกกกกก ครับ

C3 ทำงานสองปีนี่กู้ได้ราว 50 เท่าเงินเดือน ก็ 750,000 แล้วครับ กับกู้สหกรณ์ได้อีกราว 20 เท่า ก็อีก สามแสน และยังมีกองทุนกำนันผู้ใหญ่บ้านอีก อันนี้ ได้ราว 10 เท่า ก็ประมาณเกือบ สองแสน และเป็นดอกเบี้ยราคาถูกมากกกกกกก ราวๆ 0.5 %เท่านั้นเองครับ คนจึงยอมกู้เงินเข้าเป็นราชการ แล้วกู้เงินราชการนี่มาโปะล่ะครับ


เอวังด้วยประการฉะนี้....

ปล.เรื่องการเมืองไม่มีลิงค์แปะอ่ะครับเพราะผมไม่อ่านการเมืองในเนต มันค่อนข้างบิดเบือนครับ แต่ที่รู้มาก็จากสัมผัสจริง 50 % จากข่าวหนังสือพิมพ์อีก 50% ล่ะครับ
yupakorn
yupakorn 14 พ.ค. 56 / 14:26
อ่านจบก็ต้องถอนใจเฮือกใหญ่ กับเรื่องราวในอดีตที่ปัจจุบัน เด็กๆ ตามชนบทก็ยังไม่ต่างกับที่พี่นุชเจอมาสักเท่าไหร่ 

พูดไปก็เหนื่อนใจจริงๆ ค่ะ พี่นุช เราก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเดี๋ยวนี้การศึกษาเวียดนามแซงหน้าเราไปหลายขุมแล้ว ข่าวว่าจะจัดรถตู้กี่พันคันไม่รู้รับส่งเด็กที่ถูกยุบโรงเรียน โอว...ขนาดแค่น้ำท่วมบริจาคเรือฟรี คนได้รับยังเอามาเป็นของส่วนตัวเก็บตังแพงลิ่ว แล้วรถตู้จะเหลือหรือคะ ปวดหัวนะคะพี่นุชตราบใดที่หัวยังเป็นอย่างนี้หางจะเหลืออะไร

ดีใจค่ะ ที่ได้อ่านบทความดีๆ จากพี่นุช 

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
จุ๊ป จุ๊ป




modtanoy-noinoi
modtanoy-noinoi 15 พ.ค. 56 / 04:26
@ แจ


แม่เจ้าาาาาาาาาาาา
ตกใจอ่ะจ้ะ
ตกข่าว เรื่องรถตู้ 
จริงๆแล้วก็ไม่ใช่คนตามอะไรมากนักหรอก
แต่...การจะยุบโรงเรียนเล็กๆที่มีนักเรียนไม่ถึง 120 คน
มันสะเทือนจิตใจของพี่นุชจริง
หมู่บ้านพี่นุชตอนนั้นก็น่าจะมีนักเรียนประมาณนี้แหละ
เฉลี่ยแล้วหนึ่งห้องไม่น่าจะเกิน 25 คน
บางชั้นอาจจะน้อยกว่านี้ ....รวมๆแล้วก็ไม่เยอะ
เลยคิดว่า ไม่น่าจะรอดถ้าเค้ายุบโรงเีรียนขนาดเล็ก
ตัวเลขเอามาจากข่าวอ่ะนะ ไม่รู้ว่าตอนนี้เปลี่ยนไปบ้างรึเปล่า .......

แล้วเรื่องรถตู้รับส่ง...........เหอๆ
...งานนี้คนมีเอี่ยวไม่พ้นนอนกินค่าคิวรถตู้กันพุงกางแหงมๆ

ฟันนนนนนนนนน ธงงงงงงงงงงงงงงง !!!

ข้าวของจากน้ำท่วมเห็นแล้วก็...ได้แค่.......อึ้งงงงงงงงงงงง

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ คนใจดีที่เค้านำเอาข้าวของมาบริจาคคงเสียใจเนอะ
เมื่อรู้ว่าไม่ไปถึงมือของประชาชน....ที่เดือดร้อน


เหมือนที่พี่นุชเคยเขียนไปแล้ว...ช่วงหน้าหนาว
บ้านของพี่นุชจะหนาวมากๆ เพราะเี่ราอยู่ใกล้แม่น้ำโขง
แต่...เวลาผู้แทนมาบริจาคผ้าห่มก็บริจาคแค่ผ้าห่มขี้งา ที่หาความอุ่นไม่เจอ
พี่นุชไม่เดือดร้อนเพราะพ่อกับแม่มีกำลังจะซื้อ ....เพื่อนบ้านบางคนนี้สิ
ไม่มีผ้าห่มต้องมานอนผิงไฟทั้งคืน....มันน่าเศร้าจริงๆ
แม้ตอนนี้จะไม่มีแล้ว ....ในหมู่บ้านของพี่
แต่ก็เชือว่า อีกหลายๆหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญจะยังมีอยู่แน่ๆ
เฮ้อ.........(ถอนหายใจเฮือกใหญ่)

แก่หน่อยไปลงสมัครผู้ใหญ่บ้านแห่งบ้านนาสุขสันต์ดีไหมนะ เราเนี่ย ?

บล็อกตอนนี้ร้าวกบาลว้อยยย

ตอนหน้านี่แหละจะจัดหนักเอาให้คนหัวเราะขี้แตกขี้แตนเลยแหละ ฮึ่บบบบ !!~~~


ขอบคุณเม้นท์ค้า แจ >333333333<


 
ฝันจางๆ ที่กลางจันทร์
เอ่อ.....!!
เม้นต์ไม่ออกเลยอ่ะพี่นุช
มดน้อยไม่ได้อยู่โรงเรียนไกลเมืองขนาดนั้น
และก็เป็นโรงเรียนประจำอำเภอค่ะ
เรื่องถูกยุบนั้น ไม่น่าจะใช่
แต่มดน้อยก็เข้าใจความลำบากของเด็กๆ 
ที่อยู่ไกลๆ และอยากเรียนนะคะ
น่าสงสารเด็กๆเหล่านั้นค่ะ
บางคนฉลาด หัวดี 
แต่ไม่มีโอกาสเรียน
เฮ้อ.... คิดแล้วเศร้าอ่ะค่ะ
อยากให้เมืองไทยเท่าเทียมกันกว่านี้จริงๆ ค่ะ
โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาของเด็กๆ

 
modtanoy-noinoi
modtanoy-noinoi 30 พ.ค. 56 / 03:58
@ จ๋า

เม้นทไม่ออกก็ไม่เป็นไรจ้า
เป็นบล็อกที่สะเทือนจิตใจมากๆ

เพราะ ผู้นำของบ้านเราคิดได้เท่านี้

ประเทศไทย 

เฮ้อ....


ขอบคุณเม้นท์จ้า