ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 11 เหมือนกลับไปเป็นเด็กๆอีกครั้งเลย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.43K
      23
      23 มี.ค. 57

    Chapter 11 เหมือนกลับไปเป็นเด็กๆอีกครั้งเลย

     

    "บาดแผลไม่เป็นอะไรมากแล้วหละ หันมาได้แล้ว พยายาม"

    เสียงของรุ้ง สาวชาวนาผมสั้นหยิกสวมแว่นหน้าหน้าตาดูจืดๆเสียหน่อย ผิวขาวซีด เอ่ย

    หลังจากติด พลาสเตอร์ให้รวมๆ 7 ถึง 8 อันและสวมเสื้อผ้าคืนให้กับสโรชาที่นอนหลับอยู่บนแคร่

     

    ผมหันหน้ากลับมาทันที

    "ขอบคุณนะครับ คุณรุ้ง"

    เห้อ จะพูดคำไหนได้หละ ถ้าไม่ใช่คำนี้

     

    "อื้ม ไม่เป็นไรหรอก"

    รุ้งยิ้มตอบผม

     

    "ว่าแต่แย่เลยนะ เกิดเรื่องแบบนั้นไปหน่ะ สโรชาคงจะเจ็บแย่เลย"

    หนูนาหญิงสาวชาวนา ที่ตัวสูงใหญ่ผิดกับคนอื่น ผิวสีแทนไปในทางคล้ำไว้ผมยาวตรง ผมด้านหน้าตัดซอยง่ายๆ เอ่ยระหว่างเดินเข้ามาภายในกระท่อมพลางวางกระติกน้ำที่อุ้มมา ไว้ข้างๆผม

     

    จะว่ายังไงดีหละ สำหรับหนูนาใบหน้าถือว่าออกไปในแนวสวย แต่ก็ไม่เข้ากับหุ่นของเธอนัก

    ผมหันไปมองเธอด้วยรอยยิ้มแหยๆ

     

    "ดื่มซักหน่อยนะ โดนเขม่าระเบิดมา น่าจะหิวน้ำ"

    เธอบอกกับผม

     

    ให้ตายเถอะน้า มาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    การดื่มน้ำก็คือ เอาน้ำกับน้ำแข็งใส่กระติก แล้วใช้แก้วใบเดียวดื่มกันทุกคน

    ถ้าเป็นเพื่อนก็พอเข้าใจอยู่หรอก .... แต่นี่มันคนไม่รู้จักกันนะครับ

    แลกเปลี่ยนเชื้อไวรัสลงในน้ำ สั่งสมไปกี่คนต่อกี่คนหละเนี่ยเห้ย

    แต่ ก็ได้แค่คิด ก่อนจะเงยหน้าบอก

    "ขอบคุณนะ คุณหนูนา"

     

    หนูนาพยักหน้าให้ยิ้มๆกับผม

     

    จะพูดยังไงดีหละ ถึงเธอจะสวยก็เถอะนะ ... แต่หุ่นเธอมันล่ำกว่าผมอีก

    เป็นพวกที่แรงเยอะสุดๆไปเลยนะเนี่ย

     

    "นี่ๆ หนูนา รุ้ง ปล่อยให้สองสามีภรรยาเขาอยู่ด้วยกันเหอะน่า ออกมาช่วยขนกล้าไปคันนาหน่อย"

    มะม่วงหญิงสาวตัวเตี้ย น่าจะสูงแค่ 145 cmผิวขาวอมชมพูแต่น่าจะคล้ำนิดๆเพราะแดดจัด มัดผมฟูออกมาทั้งสองข้างด้วยที่รัดผมสีเขียวทำจากหนัง โกรกผมสีแดงทั้งหัว โผล่หน้าเข้ามาเอ่ย รอยยิ้มของเธอดูกวนๆ ใบหน้าของเธอก็เหมือนเด็ก ม.ต้น ค่อนไปทางประถม

     

    "ไม่ใช่สามีภรรยากันสักหน่อย มะม่วง"

    ผมไม่ค่อยให้เกียรติ เธอเวลาพูดเลยหละ เพราะ เธอดูเหมือนเด็ก แถมไม่ค่อยให้เกียรติผมเหมือนกัน ถือว่า เท่าเทียมกันหละนะ

     

    "ฮ่าๆๆๆ ไม่ใช่เหรอ ?.... ไม่เชื่อหรอก"

    เธอหัวเราะเยาะแล้วออกไปจากกระท่อมทันที

     

    "ฮ่ะๆๆ ... พวกเราไปช่วยมะม่วงก่อนนะ"

    หนูนาหัวเราะเดินตามออกไป

     

    รุ้งยิ้มๆให้กับผมแล้วจากไป

    "ไปดำนาก่อนนะ"

     

    พวกผมได้รู้กจักกับ หนูนา รุ้งและมะม่วง ก็ตอนที่ กลุ่มเหล่าสาวชาวนาวิ่งกลับมาช่วยพวกผม

    ส่วนเจิน พลอย หน่อย ...

    ผมพูดแรงกับพวกเธอเกินไป คงยังโมโหผมอยู่แน่ๆหละนะ

     

    "ดำ ... นา"

     

    "หา?"

    ผมนั้นหันไปมองต้นเสียง

     

    "ดำนา ....."

     

    สโรชาเองเหรอ

    แล้วนั่นละเมอสินะ เล่นละเมอแต่เรื่องนี้นะเธอ

     

    "ดำนา!!!"

    สโรชานั้นลุกพรวดมานั่ง

     

    เหวยยย ตกใจเว้ยยย ยัยบ้า

    "เห้ย อะไรของเธอเนี่ยสโรชา ยังไม่หายดีจะลุกมาทำไม"

     

    "ชั้นหลับมากเกินไปแล้ว เดี๋ยวไม่ได้ดำนา รีบไปดำเร็ว!!!"

    สโรชานั้นหันมาหาผม ดวงตาของเธอลุกโชนราวกับการ์ตูนต่อสู้ที่ตัวเอกมีใจจะต่อยกับเหล่าร้าย

     

    ไม่ได้ๆ ยังไงชั้นก็ให้เธอไปไม่ได้ นอกจากเธอจะยังไม่หายดีแล้ว

    ชั้นยังขี้เกียจด้วย

    "จะบ้าเหรอ เธอยังไม่หายดีเลยนะ"

     

    "ไม่เอาน่าพยายาม อย่าขี้เกียจสิ"

     

    แหนะ ยัยนี่ รู้ทันอีก

    เธอเป็นผู้ฝ่าฝืนด้านอ่านจิตใจหรือไง

    "ขี้เกียจหน่ะก็ใช่ แต่เธอก็ต้องรักษาตัวด้วยนะ สโรชา"

     

    สโรชาเอ่ยด้วยใบหน้ามุ่งมั่นสุดๆเลย

    "ไม่เอาหละ ชั้นสบายดีมากๆด้วย ตอนนี้ก็พักผ่อนเหลือเฟือละไปกันเถอะเนอะ .... ไปดำนากัน"

     

    "อ่า.... ก็ได้ ดำนาก็ดำนา"

    ผมนั้นถอนหายใจ แล้วเดินเข้าไปหาเธอ

    "ลุกไหวมั้ย"

     

    "สบายมาก!"

    สโรชาเอ่ยแล้วดันตัวลุกขึ้นราวกับไม่เคยเจ็บ

     

    "อ่า ... งั้นก็ไปเลยละกัน"

    ผมตอบรับแล้วเดินออกไปนอกกระท่อมกับเธอ

     

    "อืม ไปเลยปะๆๆ"

    เธอนั้นเดินมาดันหลังผมไป

     

    ให้ตายเหอะ ไม่อยากเชื่อเลยว่ายัยนี่จะเป็นดารา เน็ตไอดอล หรือซอมบี้เลือดเย็น

     

    พวกเราโผล่ออกมาจากกระท่อม ในช่วงเวลาราวๆ 16.45 .

    พวกเราเลทไปเกือบชั่วโมง

    ผมมองไปบนท้องฟ้า ที่ยังฉายแสงแดดลงมาไม่ลดละ

    แต่มันน่ายินดีจริงๆ ที่ในบริเวณนี้เย็นผิดคาดเพราะมีการปรับอุณหภูมิจากฝ่ายเวทย์ให้อย่างเหมาะสม ต่างจากตำแหน่งที่เราเดินกันมาตอนต้น ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวไป ทำให้ร้อนตับแตก

     

    "ไม่ .. จริง ... น่า ... ขะ เขา ทำอะไรกัน?"

    เสียงอันแสนผิดหวังของสโรชาเอ่ยขึ้น

     

    ผมหันไปมองตามทางที่เธอมอง

     

    สิ่งที่พวกเราเห็นในตอนนี้

    คือ เหล่าสาวๆ กำลังแบกกระจาด ที่ใส่ต้นกล้าไปยืนอยู่ตามคันนา ที่มีน้ำพอหมาด

    แล้วกำต้นกล้าขึ้นมา โยนขึ้นไปบนฟ้า ปล่อยให้มันค่อยๆ ลอยขึ้นไป

    แล้วใช้ส่วนรากที่มีดินเกาะนิดหน่อยเป็นตัวถ่วง พุ่งตกลงมาสู่ผืนดิน

    จนมันตกลงมาเกาะกับผืนนาที่มีน้ำเจิ่งนองอยู่แล้ว

     

    ผมหันไปมองเธอแล้วไม่พูดอะไรต่อ

    เพราะเห็นสโรชามองการโยนกล้าแล้วอ้าปากค้าง

    จะให้พูดอะไรได้หละฟระ

    ตรูยังไม่รู้เลยว่าพวกเขาทำอะไรกัน

    ไม่ใช่ว่าเขาต้องเอาต้นกล้าไปปักใส่ตามแปลงนาเหรอ

    ผมคิดแบบนั้นแหละ

     

    "ทำอะไรกันเหรอ?"

    สโรชาเดินตรงเข้าไปถามสาวชาวนาคนหนึ่งที่กำลังกำแล้วขว้างต้นกล้าพวกนั้นอยู่ ทันที

     

    "เอ๋ สโรชาหายดีแล้วเหรอ"

    สาวชาวนาผู้โดนเรียกหันมาหาสโรชา ..... อย่างตกใจ เธอคือหน่อยนั่นเอง

    ให้ตายเหอะ เวลาใส่หมวกฟางแล้วจำไม่ได้เลยแฮะ

     

    "ตรงนั้นไม่สำคัญหรอก ..... แล้วดำนาหละ? ไม่ดำกันเหรอ?"

    สโรชาเอ่ยทันที ไม่สนใจอย่างอื่น

    เสียงของเธอดูเย็นยะเยือกขึ้นมาก

     

    "มะ หมายเธอดำนา ด้วยวิธีการกดกล้าหน่ะเหรอสโรชา"

    หน่อยถามย้อนกลับ

     

    ข้างๆนั้นมีเจินกับพลอยอยู่พวกเธอก็หันมามองสโรชา แล้วถามเหมือนๆกัน

    "สโรชาหายแล้วเหรอ?"

     

    "..... หายแล้ว แต่ตอนนี้ พวกเธอทำอะไรกัน ไม่ดำนาเหรอ?"

    สโรชานั้นเอาแต่ถามท่าเดียวเลย

    ใบหน้าของเธอตอนนี้นิ่ง ราวกับพวกสาวคูลเดเระ ไร้อารมณ์ เชียวหละ

     

    "อ่า...."

    หน่อยนั้นหันไปมองเจินกับพลอยทำหน้าน่าสงสารราวกับลูกหมา

    เหมือนอยากจะบอกว่า ช่วยเค้าด้วยสิ หงิง~~~~~

    อะไรแบบนั้นเลยหละนะ

     

    พลอยนั้นเดินเข้ามาหาสโรชาก่อนจะตบไหล่แล้วเอ่ย

    "นี่หน่ะ เป็นการดำนา ของข้าวที่ราคาถูกๆ เพราะเน้นเร็ว ทั้งการปลูก และการเกี่ยว รวมถึงผลผลิตด้วย แต่ก็ไม่ได้ใช่ว่ามันจะแย่หรอกนะ เอาไปเอามา ได้ผลดีด้วยซ้ำ เขาเรียกกันว่า การทำนาโยน หน่ะ"

     

    "นาโยน?"

    สโรชาหันไปมองหน้าพลอยจ้องเขม็งถามกลับ

     

    "การที่เราทำนาโยน ก็เพราะมันสะดวก ใช้คนน้อย และเร่งผลผลิต ... ก็แค่นั้นแหละ"

    เจินเดินเข้ามาเสริม

    "ถ้าหวังทำนาด้วยการดำนา คงต้องไปนาเกรด A ถึง E โน่นแหละ สโรชา"

     

    "อืม....ขอบคุณนะ.... งั้นขอช่วยหน่อยแล้วกัน"

    สโรชาพยักหน้า

     

    "เอาสิ"

    หน่อยเอ่ยแล้วยื่นกระจาดต้นกล้าให้

     

    "แล้วนายหน่ะ จะยืนถึงเมื่อไหร่ มีโอกาสมาครั้งเดียว ไม่ลองหน่อยเหรอ"

    เจินหันมาเอ่ยแล้วยกกระจาดต้นกล้าโบกไปมา

     

    นั่นไงหละ หันมาจนได้

    ".... อ่า ชั้นไม่.... "

    ผมนั้นรู้ตัวดี ... ว่าผมพูดอะไรแย่ๆกับพวกเธอไป

    พวกเธอคงจะต้องอดทนกับคำพูดผม และเรียกรักษาน้ำใจ

     

    "ไม่ต้องเกรงใจน่า ... ชั้นรู้ว่านายไล่พวกเราเพราะอยากปกป้องใช่ไหม"

    เจินเดินมาเอ่ยแล้วยิ้ม

    "เนอะ"

    ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับทั้งสอง

     

    "อื้ม... เข้าใจอยู่หรอก ว่าถ้าไม่พูดแรงๆแบบนั้น พวกชั้นก็อาจจะยืนต่อใช่มั้ยหละ"

    พลอยบอกผม

     

    หน่อยก็ยิ้มให้ผม

    "ชั้นเข้าใจพยายามนะ ไม่ต้องคิดมากหรอก"

     

    ให้ตายเหอะ.... ยัยพวกนี้ เชื่อพวกเธอจริงๆเลย

    "อ่า .... ขอบใจนะ"

    ผมนั้นไม่รู้จะพูดอะไรออกไปนอกจากคำนี้

    "ขอบคุณที่เข้าใจ"

     

    "ฮ่ะๆ ทำตัวเป็นพวกขี้อายไปได้"

    เจินเดินเข้ามาหาผมยิ้มหวานแล้วยื่นกระจาดต้นกล้าของเธอให้กับผม

     

    "ทางนี้ คนขาดหน่ะ ขอคนนึงสิ"

    เสียงของมะม่วงเอ่ยโบกมือเรียก

     

    "อ่า จะส่งผู้ชายคนเดียวของเราไปนะ"

    เจินเอ่ยแล้วดันผม

    "ลุยๆ"

     

    เห้ ไม่คิดจะสอนหรือไงหน่ะ

    ผมบ่นในใจ แต่ก็เอาเถอะ

    ผมหันไปมองสโรชา ที่หลังจากผิดหวังจากการดำนา ก็มีของเล่นใหม่แทน

    เธอกำลังโยนต้นกล้าเล่น ใบหน้าดูสนุกพิลึกๆ จะว่าเหมือนหุ่นยนต์ยิ้มก็ไม่ใช่

    เหมือนหมากำลังสนุกก็ไม่เชิง.... พูดไม่ถูกแฮะ

    เธอโยนต้นกล้าสูงๆ แล้วมองมันตกลงมา ....

    แล้วโยนใหม่ แล้วมองมันตกลงมา.... ราวกับเด็กอนุบาลติ๊งต๊องเลย ...

    แต่ก็น่ารักจริงๆแหละ

     

    -พยายาม ดูต้นไมยราบนี่สิ-

     

    .....

    แล้วไหงไปคิดถึงมายด์ได้ฟระ

    ผมนั้นส่ายหัวแล้วเดินไปที่แปลง ที่มีมะม่วง กับหนูนายืนโปรยอยู่

     

    "โยนเป็นมั้ย ทำแบบนี้หน่ะ"

    หนูนานั้นเอ่ย สอนผม ด้วยการหยิบต้นกล้าในกระจายมาโปรย

    "ง่ายมากเลยนะ แต่ต้องกะโยนให้มันลงในกรอบ แล้วก็ ลงตรงที่ยังไม่ครบ แค่นั้นแหละ"

     

    "ง่ายใช่มั้ยหละ คนโง่ๆยังทำเป็นเลย แต่ถ้าคุณพยายามที่เป็นผู้ชายจะโง่ ก็ไม่แปลกหละนะ"

    มะม่วงเอ่ยกอดอกยิ้มภูมิใจ

     

    ยัยมะม่วงนี่ ท่าทางจะปากเสียเกินไปละ

    จะเหยียดเพศไปมั้ยครับ

    เอาเถอะ

    โกรธไปก็เท่านั้น

    ผมค่อยๆ หยิบเอาต้นกล้ากำขึ้นมา แล้วโยนไปข้างหน้า

    พวกมันพุ่งเฉียงลงนอนสงบบนทุ่งนา

     

    "อ้า ทำอะไรของนายหน่ะเจ้าโง่!!!"

    มะม่วงเอ่ย โวยกับผม

    เห้ย ไม่ใช่ละมะม่วง

    กับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่นาที มาด่าโง่แบบนี้

    คนมันทำไม่เป็นนะแสรด

     

    "เตี้ย"

    ผมเอ่ยไปคำเดียวสั้นๆง่ายๆ ได้ใจความ

     

    "อุ้บ... คิกๆ"

    หนูนานั้นขำทันที

     

    มะม่วงทำหน้าโมโหแล้วหันมามองผม

    "ว่าไงนะ!"

     

    "เตี้ย ไง แต่ไม่ได้บอกซักหน่อย ว่าใครเตี้ย"

    ผมเอ่ยตอบเธอ แล้วยิ้มสะใจ หันไปมองสโรชา ที่กำลังโยนต้นกล้าขึ้นสูงๆ

    ออ ยังงี้เองสินะ ต้องโยนสูงๆ

    ผมกำแล้ว โยนมันขึ้น

    ต้นกล้าก็ค่อยๆร่วงหล่นลงมา ใช้ส่วนรากที่หนักที่สุดของมัน แตะกับดินที่มีน้ำแฉะๆอยู่ พอดิบพอดี

    "เยี่ยมไปเลยแฮะ"

    ผมเอ่ยรู้สึกดีโดยไม่รู้ตัวเลยหละ

    ผมโยนมาขึ้นอีกรอบ มองเหล่าต้นกล้าสีเขียว ที่...

    แผละ!!!

    ที่ .... เหี้ยอะไรดำๆวะครับ!!! อ้าก แสบตา

    "โอ้ย แสบตา!! อะไรเนี่ย แค่ก ถุยๆ... โคลนนี่หว่า"

     

    "ห้าๆๆๆ ฮ่าๆๆ วะ ฮ่าๆ รู้ซะมั่ง ว่านาแปลงนี้ ใครคุม"

    มะม่วงเอ่ยกอดอก

     

    ผมลืมตามองเธอช้าๆ

    มือของเธอเลอะโคลนชัดเจน

     

    "อย่าเล่นโคลนสิ มะม่วง!"

    รุ้งที่เพิ่งเดินกลับมานั้นเอ่ยดุ

     

    "มันหาเรื่องชั้นก่อนอะ"

    มะม่วงหันไปเอ่ยกับรุ้ง

     

    "จริงเหรอ..."

    รุ้งครับ ทำไมรุ้งเชื่อยัยเตี้ยนี่ได้ครับ

     

    "ฮ่ะๆๆ"

    หนูนาครับ จะหัวเราะทำไมครับ พอได้แล้วครับ!!

     

    "ใครหาเรื่องเธอก่อนฟระ!!"

    ผมวางกระจาดข้าวลงแล้วกดโคลนขึ้นมา ปาใส่มะม่วงที่ไม่ได้สนใจผมทันที

     

    "ก็เจ้าพยายามมันโ......"

    เผละ!

    โคลนอัดเข้าหน้าของมะม่วงเต็มๆ

     

    โดนเต็มหน้าเลยวุ้ย

    "ห้าๆๆ!!"

    ผมหัวเราะกลับ

     

    "ได้!! จะทำสงครามใช่มั้ย!!!"

    มะม่วงนั้นหยิบก้อนดินขึ้นมาปาใส่ผม

     

    "เอาเด้!!"

    ผมก็หยิบก้อนดินขึ้นมาปาใส่มะม่วง

     

    "ทั้งสองคนเล่นกันงานไม่เดินนะ!!"

    รุ้งนั้นเตือนๆ แต่มันคงหยุดสงครามนี้ไม่ได้แล้วหละ

     

    "ปล่อยไปเถอะ คิก"

    หนูนาก็เอ่ยหัวเราะไป ทำงานไป

     

    ผมปามะม่วงโดนมั่งไม่โดนมั่ง แต่โดนที เธอก็หงายล้มทุกครั้ง

    ส่วนมะม่วงนี่ก็ปาผมโดนทุกนัด แต่เบาซะจริงๆ

     

    สโรชาหันมามองผมแล้วก็ยิ้มๆ ก่อนจะเล่นของเล่นต้นกล้าบินของเธอต่อไป

    แปลงข้างๆผม ก็พากันหันมาหัวเราะคิกคักกันใหญ่

    ถ้าคิดดีๆแล้ว ไร้สาระจริงๆแฮะ

    เหมือนกลับไปเป็นเด็กๆอีกครั้งเลย

     

    ...........................................

    .................................

    .............

    สายตาคู่หนึ่ง

    ที่มองการกระทำของพวกพยายามอยู่ตลอดในบริเวณนั้นยิ้มหวาน

    ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

    "อะไรกันเนี่ย ... ก็นึกว่าจะเก่ง... หลบไม่ได้เลยสักนัด....ท่าทางตอนไม่เอาจริง ก็ไม่คิดจะหลบเลยนี่นะ.... ถ้าเล่นตอนเผลอหละก็.... ฮิๆ.."

    เจ้าของสายตานั้นแสยะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

    ................

     

    END Chapter 11 เหมือนกลับไปเป็นเด็กๆอีกครั้งเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×