ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #262 : Chap.52 ก็เราเป็นพี่น้องกัน ... ก็ต้องเจ็บด้วยกันไม่ใช่เหรอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 165
      3
      6 มิ.ย. 57

    Chap.52 ก็เราเป็นพี่น้องกัน ... ก็ต้องเจ็บด้วยกันไม่ใช่เหรอ

     

    .....................................................................

    .....................................................................

    .......................................

    ............

    - นี่ วันศุกร์หน้าว่างใช่ไหม ฝ่าฟัน -

    - ฝ่าฟัน วันศุกร์หน้าว่างสินะ -

    - คือ ... ฝะ ฝ่าฟัน .. วันศุกร์หน้า ... พะ พอจะมีเวลาหน่อยมั้ย -

     

    เวทศักราชที่ 398 / 07 / 24

    เวลา 22.14 น.

     

    ผมกำลังเดินทาง มายังบ้านเก่าๆ หลังหนึ่ง .... มองซ้าย มองขวา ... มองหน้า ... มองหลัง...

    เมื่อสังเกต ว่าไม่มีใครแล้ว ผมก็เดินเข้าไปภายในบ้านหลังนั้น

    ไขกุญแจ .... แล้วเดินตรงเข้าไป ยังห้องที่ 2

     

    ก่อนจะเคาะประตู ....

    ก๊อกๆ .....

     

    "เข้ามาได้เลยจ้า อิจิกะจัง"

    เสียงของอลิซ ตอบรับออกมา จากภายใน

     

    ".... อืม ...."

    ผมตอบรับสั้นๆ แล้วเปิดประตู เข้าไป ก็พบกับ อลิซ ที่นั่งขัดสมาธิ บนโซฟาสำหรับสองคนนั่ง เล่นเกมอย่างสบายใจเฉิบอยู่

    "สวัสดี อลิซ"

     

    "สวัสดีจ๊ะอิจิกะ ไม่เจอกันตั้งวันนึงแหน่ะ.... "

     

    ตั้งวันนึงเลยเชียวนะ .....

    "แค่วันเดียวเอง อลิซ..."

     

    "ฮะๆ ... ของที่เธออยากได้ .... อยู่บนโต๊ะหน่ะ .... อย่างดีเลยนะ .... ใช้แล้วจะฟินมาก...."

    อลิซตอบรับกลับมา ระหว่างยังเล่นเกมต่อสบายใจ

     

    "อื้ม .... ขอบคุณนะ"

    ผมตอบรับแล้วเดินอ้อมเข้าไปนั่งข้างๆเธอ พลางหยิบ สิ่งที่เธอเอามาให้ผม ....

    มันเป็นถุงใส่ยา ที่เขียนชื่อด้านข้างเอาไว้ ว่า MK-4こんにちは

    หรือที่อ่านว่า มาร์คโฟร์ คนนิจิวะ

    "มันต่างจาก มาร์คทรี ที่ให้ชั้นเป็นประจำยังไงหน่ะ"

     

    "..... ประสิทธิภาพดีกว่าหน่อย ตรงที่ใช้แล้วไม่เหนื่อย.... แต่ราคาแพงกว่ามาก พอดี ของเหลือหน่ะ เลยหยิบติดมือมาจากบ้าน"

    อลิซตอบผม โดยยังเล่นเกมอยู่ ไม่ได้หันมามอง

     

    รู้สึกผิดต่อเธอจริงๆ ....ผมไม่ได้หลอกใช้เธอ แต่ก็ใช้การแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นธรรมเอาเสียเลยกับเธอ

    อาศัยแค่ความรู้สึกที่เธอมีให้เท่านั้น เป็นตัวแลกเปลี่ยน

    "ขอบคุณมากนะ อลิซ ..... รบกวนเธอตลอดเลย .... แถมยัง ไม่มีอะไรตอบแทนเธอเป็นชิ้นเป็นอัน .... ร่างกายหรือความรักก็ไม่ได้มอบให้เธอ"

     

    "ได้ประโยชน์ ทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องคิดมากหรอก ..... ลดคู่แข่งลงไปได้ สินค้านำเข้าของพ่อชั้น ทั้งคนนิ ทั้งโอฮา ทั้ง คมบัง ก็ขายดีขึ้น .... ยิ่งช่วงนี้ ยิ่งรู้สึกว่า ขายดีมากเลย .... ต้องขอบคุณเธอด้วยซ้ำนะ อิจิกะ"

    อลิซเอ่ยแล้วนิ่งไปแปบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ

    "เรื่องความรักหน่ะ ไม่ต้องมีให้ชั้นก็ได้ ..... แค่ความรู้สึกนี้ที่เธอมีให้ก็ดีที่สุดแล้วหละ .... เพราะยังไงเธอก็หนีไปจากชั้นไม่ได้อยู่แล้ว ....."

     

    หนีไปจากอลิซไม่ได้ ....

    ก็แน่หละนะ ... เพราะร่างกายผมในตอนนี้หน่ะ .....

     

    "ถึงโครงการที่จะสร้างสิ่งมีชีวิตแบบชั้นขึ้นมาจะล่มไม่เป็นท่า เพราะใช้เวลามาก ใช้งบมาก แถมบุคคลที่ทดลอง ต้องโตมาในสภาพแวดล้อมปกติก็เถอะ ..... แต่นั่นก็ทำให้ชั้น เป็นคนเดียวที่มีความสามารถนี้ ..... และก็ทำให้ชั้น .... ได้เธอมาครอบครองไงหละอิจิกะ ถึงจะเป็นแกมบังคับก็เถอะนะ คิกๆ"

    อลิซเอ่ยพลางหยุดเล่นเกม ก่อนจะหันมาสางผมของผมช้าๆ

     

    เป็นกึ่งเสมือนสิ่งอัญเชิญของอลิซไปแล้ว

    "เป็นทั้งมนุษย์ เป็นทั้งสิ่งอัญเชิญ ..... ฟังดูพิลึกดีนะ"

     

    "ประจุเวทย์ของชั้นก็ใช้ตามสบายซะขนาดนั้น พิลึกแต่ดี ก็คุ้มแล้วไม่ใช่เหรอ ....."

    อลิซเอ่ยต่อ ระหว่างจ้องมองเรือนร่างของผม

    ".... ความผิดของอิจิกะเองนะ .... ที่เข้ามายุ่งย่ามกับ เชื้อโรคแบบชั้น ปั่นป่วนหัวใจเด็กผู้หญิงที่เปล่าเปลี่ยวในวัยเด็กหน่ะ .... ผลมันรุนแรงนะจะบอกให้"

     

    ตอนนั้น...... ใครจะคิดว่าเธอเป็นเชื้อโรคกันหละ ....

    แล้วก็ไม่ได้คิดว่า การเข้าไปช่วยเธอมันจะได้ผลลับแบบนี้ด้วย

    ก็แค่ ... หน้าที่ของเด็กดี ไม่ใช่หรือไงกัน....

    "ค่ะ นายท่าน ... ขออภัยนะคะ ที่อิจิกะ ในตอนนั้นเข้าไปช่วยเหลือหน่ะค่ะ"

     

    "คิกๆ พูดแบบนี้สิน่ารัก .... จ้า จ้า ....แต่ไม่ต้องกลัวหรอก ... ชั้นใจกว้างจะตายไป"

    อลิซย้ำจุดยืนเดิม

     

    ไอ้เรื่องใจกว้างนั่นหน่ะ ฟังยังไงมันก็ ทะแม่งๆ อยู่ดีนั่นแหละ

    "ค่า ... ขอบพระคุณมากๆเลยนะคะ คุณอลิซผู้ใจกว้าง ...."

    ผมตอบรับกลับไป

     

    "...... งีบก่อนสิ .... เหนื่อยอยู่ไม่ใช่เหรอ ....ไว้ใกล้ถึงเวลาแล้วจะปลุกมาอ่านหนังสือกับชวนไปกินข้าวนะ...."

    อลิซกุมมือผมแล้วยิ้มหวานให้

     

    นั่นสินะ ...ปกติก็มานอนตรงนี้ทุกวันเลยนี่

    "ค่ะ ..... ขออนุญาตนอนก่อนนะคะ ท่านอลิซ ..."

    ผมตอบรับก่อนที่ผมจะค่อยๆหลับตา เอนตัวนอนลง....

     

    "จ้า ....."

    อลิซตอบรับยิ้มหวานให้ผม ...

     

    แล้วผม ... ก็หลับไป .... อย่างรวดเร็ว

     

    -------------------------------------------------------

    -----------------------------

    ---------

     

    ภายในห้อง ป.3 / 3

    ซึ่งขณะนี้ เป็นชั่วโมงว่าง เพราะอาจารย์ไม่มาสอน

     

    อริสรา เด็กสาวที่มีผิวและใบหน้าเป็นตุ่มเต็มตัว ราวกับโรคร้าย แม้ว่าจะได้รับการตรวจสอบพบว่า ไม่ได้เป็นโรคติดต่อก็ตาม กำลังนั่งเหงาอยู่คนเดียวภายในห้องเรียน

    ในขณะที่เด็กคนอื่นออกไปเล่นนอกห้องกันหมด เพราะไม่มีใครคิดจะยุ่งกับเธอ

     

    เธอกำลังนั่งซึม และวาดรูปคนเดียว .....หน้าแรกเธอวาดตัวเธอกลายเป็นปีศาจ .... และทำร้ายทุกๆคน .... ก่อนจะขีดค่าทิ้ง .... แล้วพลิกไปอีกหน้า วาดรูปของตัวเธอเอง ที่เป็นเจ้าหญิง ... และมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมารับ

     

    "โอ้โห ... วาดสวยจังเลยนะ ....."

    เสียงของเด็กชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังเธอ

     

    "อะ..."

    เธอตกใจหันไปมอง ....  

    เด็กชายผมสีทองอ่อน ไว้ผมประบ่า หน้าตาน่ารักจากห้อง ป.3 / 10 หรือก็คือฝ่าฟันในวัยเด็ก

     กำลังจ้องมองภาพของเธอ

     

    "กำลังวาดผู้ชายแอบลักพาตัวผู้หญิงมาจากคุณแม่ โดยนั่งม้าหนีไปอยู่ใช่ไหม .... สวยสุดๆเลยนะ!!"

    ฝ่าฟันเอ่ยชม .... แต่เหมือนจะผิดประเด็นและเนื้อหาไปไกล

     

    เด็กสาวพยายามจะส่ายหัวไปมา ปฏิเสธ

    ".... มะ .. ไม่ ...."

     

    แต่ก็โดนเด็กชายพูดต่อทันที

    "นี่ .... ไม่ออกไปเล่นข้างนอกเหรอ.... "

     

    ".... คนอื่นๆ กลัวติดเชื้อโรค....จากอริสรา"

    อริสราเอ่ย ตาละห้อย

     

    "เอ๋? .... จะติดเชื้อโรคจริงๆเหรอ ? แต่ถ้าติดเชื้อโรคจริงๆ โรงเรียนคงไม่ให้มาเรียนหรอก...."

    ฝ่าฟันเอ่ยบอกเธอไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะยื่นมือไปจับแขนของเด็กสาว ที่เต็มไปด้วยตุ่ม อันน่าขยะแขย่ง

     

    หมับ ....

    "อ้ะ... จะ จับจริงๆเหรอ?"

    เด็กสาวเอ่ยกลัวสั่นๆ .... เธอแทบไม่เคยถูกใครสัมผัสตัวเลย นอกจากหมอและพ่อแม่

     

    ".... ไม่เห็นเป็นไรเลย ....เห็นป่ะ .... ปะ .... ไปเล่นกันเถอะ.... เดี๋ยวพาไปเล่นกับน้องของชั้นด้วย"

    ฝ่าฟันเอ่ยด้วยรอยยิ้ม .... เขาโดนสอนมาว่า ถ้ารู้สึกว่าใครกำลังต้องการความช่วยเหลือ ให้เข้าไปช่วยหละนะ

     

    "อะ ... อื้อ"

    อริสราพยักหน้าเขินอาย

    ก่อนจะตามเด็กชายออกไปเล่นข้างนอก

    แต่ยังไม่ทันจะ ได้ออกไปถึงไหน ....

    ก็เจอกับกลุ่มเพื่อนในห้องเดียวกับอริสรา เดินสวนเข้ามาในห้องเรียน

     

    "เหวย มีคนจากห้องอื่นมาโดนตัวอีอริสราด้วย!!"

    "เห้ย .... นาย ระวังนะเว้ย เดี๋ยวติดเชื้อโรค!!"

    "ใช่ๆ!! ระวังนะเว้ย ติดเชื้อโรคไม่รู้นะ!!"

    พวกเด็กๆพากันเตือนใหญ่ ก่อนจะขยับตัวถอยห่างออก

     

    "อึก ...."

    อริสรานั้นสะอึกสั่น กลัว

     

    ฝ่าฟันนั้นมองทำหน้าไม่พอใจ ....

    "พอเลยนะ!!! ห้ามว่าคนอื่นเป็นตัวเชื้อโรคนะ!! เขาไมได้มีเชื้อโรคสักหน่อย!!"

     

    ".... หวาย ... เจ้านี่ก็ติดเชื้อโรคแล้ว ..."

    "โดนเชื้อโรคล้างสมองแล้ว....."

    "ขยะแขยง!!"

     

    ฝ่าฟันนั้นโมโห แต่ก็กุมมือของเด็กสาวไว้แน่น ก่อนจะพาเดินไป

    "...ไปกันเถอะ อย่าไปสนใจเจ้าพวกนี้เลย"

     

    "ตะ แต่ .... แต่...."

    อริสรานั้นเกรงใจฝ่าฟันเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากโดนจูงมือลากไป

     

    ฟุบ!!!! ...

    แต่ทันใดนั้น อริสรา ก็โดนไม้กวาดขัดขา

     

    "อ้ะ!!!"

    ตุบ...

    เธอล้มลง พร้อมทั้งเกาะตัวของฝ่าฟันไว้ ทำให้ทั้งสอง ล้มไปด้วยกัน

    "ฮืออออ ... อึก..."

     

    "ตัวเชื้อโรคล้มแล้ว!!!"

    "ฮ่าๆๆ ... ดูดิ เชื้อโรคคงเข้าไปผสมเจ้านี่หมดแล้ว"

    ".... หน้าเหมือนตุ๊ดด้วย เรียกเชื้อโรคตุ๊ดเป็นไง!!!"

    "ดีๆ เชื้อโรคตุ๊ดๆๆ!!"

     

    "แง.....ฮือออ ทำคนอื่นติดเชื้ออีกแล้ว ฮื้อออ"

    อริสราถอยออกมาจากตัวของฝ่าฟัน นั่งแบะขา ร้องไห้เสียใจทันที

     

    ฝ่าฟันกำมือแน่น .....ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นแล้ว ถีบเข้าที่เป้ากางเกง เด็กคนหนึ่งทันที

     

    ผัวะ!!!

    "โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย!!! ไข่ ไข่!!!"

    เด็กคนนั้นร้อง ล้มตัว ลง ดิ้นทุรนทุรายทันที

     

    "เหวอ!!! "

    เด็กสองคนตกใจ ก่อนที่อีกคนจะ ถูกฝ่าฟันถีบเข้าที่เป้ากางเกงอีก

    ผัวะ!!!

    "โอ้ยยยยยยยยยยยยย!!!"

     

    "เห้ย ... ทำร้ายคนอื่น ไอ้เชื้อโรคทำร้ายคนอื่น"

    เด็กชายคนที่เหลือเอามือปิดเป้าตกใจ

     

    "แง!! จะฟ้องแม่ ..... ฮื้อออออ!!!"

    "จะฟ้องอาจารย์ ฮื้อออ!!"

    "คะ คอยดูเถอะ ชั้นจะฟ้องคุณครู ว่าเจ้าเชื้อโรคตุ๊ดทำร้ายเพื่อน!!! โดนครูตีแน่"

     

    ฝ่าฟันมองหน้าอย่างไม่กลัว

    "พวกนายนั่นแหละ!!! จะต้องถูกครูตี ....เพราะพวกนายทำร้ายผู้หญิงก่อน!!!!"

     

    ..........................................

    เพียะ!!....เพียะ!!!! .....เพียะ!!!!!! .......เพียะ!!!!!!!!

     

    "พวกเด็กห้องสิบก็แบบเนี้ย ...."

    "ไปรังแกเด็กห้องสาม ...."

    "จำไว้เป็นบทเรียนนะ!! ไม่งั้นต่อไป จะเรียกผู้ปกครองมาพบ!!"

     

    เพียะ!!....เพียะ!!!! .....เพียะ!!!!!! .......เพียะ!!!!!!!!

    .............................................

     

    ".... ฮึก อึก ....ฮื้ออ...."

    ฝ่าฟันนั้นหนีไม่เข้าคาบเรียน มานั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ตรงสวนนั่งเล่นของโรงเรียน เพราะเสียใจที่อาจารย์ไม่ฟังตนเองเลย เนื่องจากตนเองอยู่ห้องท้ายๆ ซึ่งน่าจะเป็นเด็กเกเร มากกว่าพวกเด็กห้อง 3

    ส่วนอริสรานั้นก็ได้แต่แอบมอง เพราะเธอไม่กล้าแม้แต่จะคุยกับครู

    ทำให้ ฝ่าฟัน โดนคนเดียวเต็มๆ ....

     

    ".....ฝ่าฟัน...."

    เสียงของก้าวเดินในวัยเด็ก ดังขึ้น ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆ

    ".... เจ็บมากมั้ย ...."

     

    ".....ฮึก ... อึก...."

    ฝ่าฟันยังร้องไห้งอแง เสียใจอยู่ .....

     

    "....."

    ก้าวเดินมองแล้ว ค่อยๆลุกขึ้นมายืนด้านหน้าของฝ่าฟัน

    "ไม่เท่เลย!! ฝ่าฟันตอนนี้ไม่เห็นเป็นพี่ที่เท่ตรงไหนเลย!!!"

    ก้าวเดินเอ่ยแล้ววิ่งไปหยิบ ไม้หวาย ที่วางไว้ตรงด้านข้างสวน ขึ้นมา

     

    "..ฮึก ... อึก ....."

    ฝ่าฟันค่อยๆเงยหน้ามอง

     

    เพียะ!!!

    "โอ้ย... เจ็บๆๆๆ..."

    ก้าวเดินฟาดหวายใส่ตนเอง แล้วร้องด้วยความเจ็บทันที

     

    "กะ .. ก้าเวดิน ... ทำอะไรหน่ะฮึก ... อึก..."

    ฝ่าฟันเอ่ยตกใจทันที

     

    ก้าวเดินไม่ตอบก่อนจะ เอาไม้หวายฟาดใส่ตนเองต่อ

     เพียะ!!!!

    "โอ้ย..."

    เพียะ!!!

    "โอ้ย!!!...."

    ฟาดไปก็ร้องไป...

     

    "พะ พอแล้ว ... ก้าวเดิน .... ทำอะไรของก้าวเดินหน่ะ ฮึก..."

    ฝ่าฟันเอ่ยแล้วรีบลุกเอามือจับแขนของก้าวเดินให้หยุด

     

    "ฮะๆ.... ก็เราเป็นพี่น้องกัน ... ก็ต้องเจ็บด้วยกันไม่ใช่เหรอ ...."

    ก้าวเดินยิ้มขำๆกัดฟัน ท่าทางจะแสบไม่ใช่น้อย

     

    และกับ คำพูดนั้น .... มันก็ทำให้ ก้นบึ้งของเด็กคนหนึ่งสั่นสะท้านไปหมด

    เขาหน้าแดง ขึ้นมาเล็กน้อย

    "....บะ ... บ้า.... ทำไมทำแบบนี้...."

     

    "ก็เห็น .... ฝ่าฟันร้องไห้นี่ .... ไม่เห็นจะเท่สมกับคำที่ชอบโม้เลย .... แบบนี้ชั้นจะเชื่อในตัวฝ่าฟันได้เหรอ ...."

    ก้าวเดินเกาแก้ม เอ่ยออกไป ... เพื่อจะปลอบพี่ชายตนเอง

     

    คำพูดนั้นทำให้ฝ่าฟันนั้นถึงกับอึ้ง และพยายามข่มน้ำตาตนเองไว้

    "อึก .... อื้ม ... ขะ ขอโทษ .... "

     

    ".... อื้อ ... หยุดร้องไห้แล้วทำตัวให้สมกับที่ฝ่าฟันชอบโม้หน่อยสิ!!"

    ก้าวเดินยิ้มออกมาได้ เมื่อเห็นฝ่าฟันเริ่มหยุดร้องไห้

     

    ฝ่าฟัน พยายามเช็ดน้ำตาตนเอง

    ".... อื้อ .... ขอโทษนะ ... ที่ทำตัวไม่เอาไหน .... นั่นสิ .... กะอีแค่เรื่องแค่นี้เอง ..... ฮะๆ ขอบคุณนะ ก้าวเดิน"

     

    "อื้อ ..."

    ก้าวเดินยิ้มรับแล้วพยักหน้าให้กับฝ่าฟัน

     

    และต่อจากนั้น .... ฝ่าฟันที่ได้รับสิ่งเล็กๆ ... ที่มีค่า

    กับแค่คำว่า เป็นพี่น้อง ก็ต้องเจ็บด้วยกัน

    ถึงแม้ว่า มันจะเป็นความคิดเล็กๆในวัยเด็กของก้าวเดินที่ไม่ได้ดูยิ่งใหญ่หรือทำให้จดจำก็ตาม

    แต่มันทำให้ฝ่าฟัน แข็งแกร่งขึ้นมาอีกขั้น .... กับคำพูดเล็กๆนั้น

     

    และเขา ... ก็พยายามปกป้อง ทั้งอริสรา

    และพยายามไม่ให้น้องของเขา โดนล้อแบบเขา ... ในเวลาเดียวกัน

     

    ------------------------------

    -------------

     

    End Chap.52 ก็เราเป็นพี่น้องกัน ... ก็ต้องเจ็บด้วยกันไม่ใช่เหรอ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×