ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #27 : Chapter 19 กุ้งเผา... เผา เผา...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 970
      13
      25 มี.ค. 57

    Chapter 19 กุ้งเผา... เผา เผา...

     

    "ชั้นก็ความทรงจำเพี้ยนและบิดเบี้ยวเหมือนกัน"

    สโรชาเอ่ยด้วยเสียงที่แสนจะมั่นใจ แม้จะเหมือนว่าเธอเจ็บปวด

     

    เธอบรรจง บีบแชมพูลงมือเพื่อสระผม ขยี้หัวไปมาแล้วเอ่ยต่อ

    "ชั้นก็ไม่มั่นใจเหมือนกันพยายาม .... ว่ามันใช่หรือป่าว เพราะความทรงจำของชั้นสับสนมากๆ ชั้นในตอนนี้ รู้แค่ว่าพยายามหอมมาก....."

     

    บอกตรงๆว่าก่อนหล่อนพูดคำนั้น ชั้นยังตกใจอยู่เลย

    ขอร้องหละเห้ย!!! ไม่ใช่เวลาเล่นมุขนะ สโรชา

    "ขอหละ เมื่อกี้ชั้นกำลังเสียใจเลย พูดแบบนั้นมา อารมณ์ที่บิวด์มาหายอีกแล้ว"

     

    "แฮะๆ โทษทีนะ พยายาม ไม่อยากจะให้เครียดมากหน่ะ"

    สโรชาบอกกับผม แล้วยิ้ม โดยใช้ร่างกายของมะม่วง

     

    "ตอนนี้ก็เท่ากับว่า ถ้าเธอได้พบร่างตนเองจริงๆ ก็จะจำได้สินะ ว่าเธอจริงๆแล้วเป็นใคร แบบนั้นก็ดีเลยไม่ใช่เหรอ จะได้ออกตามหา"

    ผมเสนอออกไปทันที

     

    "ชั้นว่า ... อย่าดีกว่า"

     

    "ทำไม?"

     

    "ความทรงจำอีกส่วนนึงของชั้น เหมือนมันจะบอกให้ชั้น ต้องมาฆ่าพยายามเหมือนกัน ......"

     

    "วะ ว่าไงนะ?"

     

    "...อย่างที่บอกแหละ เหมือนว่าหนึ่ง ในความทรงจำชั้นจะบอกให้ ตัวชั้นมาฆ่าพยายามเหมือนกัน แต่.... อีกความทรงจำหนึ่งของชั้น ก็บอกว่าต้องปกป้องพยายาม"

    สโรชาบอกผมระหว่างใช้ร่างของมะม่วงล้างแชมพูออก พลางสะบัดผมไปมา

    แล้วกลืนน้ำลายอึกหนึ่งเหมือนกล้ำกลืนคำพูดของตนแล้วเอ่ยต่อว่า

    "ชั้นไม่อยากจะเจอตัวจริงของชั้น แล้วจำได้ว่าชั้นเป็นใคร เพราะชั้นกลัวว่า ตัวจริงของชั้น จะเป็นส่วนที่ต้องมาฆ่าพยายาม... เพราะฉะนั้น .... ให้ชั้นเป็นสโรชา ในแบบนี้แหละ ดีแล้ว... อย่าค้นหาเลย"

     

    ผมรู้สึกว่า ผมจำเป็นจะต้องพยายามให้มากขึ้น

    มากกว่านี้ แต่ ไม่รู้ว่าจะพยายามยังไง

    เพราะตัวผมนั้นยังไม่สามารถจะใช้เวทย์อะไรได้ด้วยซ้ำ

     

    "เอาหละ ลืมเรื่องนั้นไปเลย สรุปแล้วเจ้าเกราะเหล็กนั่น มันจะซ่อมแซมร่างกายให้เราจนเสร็จ วันที่ 22 นี้ เพราะฉะนั้น เราจำเป็นต้องอยู่ร่วมกันในร่างของมะม่วง ต่อจากวันนี้ไปก่อนหละนะ!"

     

    ทำไมเสียงของหล่อนระรื่นแล้วดีใจขนาดนี้

    ผมถอนหายใจออกมา แทรกการทำงานของร่างกายมะม่วง จากสโรชา

    "เห้อ ไม่ว่ายังไงก็ตาม แปลว่าเราสามารถฟื้นชีวิตให้กับมะม่วงได้สินะ"

     

    "อ้ะ ใช่ ชั้นก็คิดแบบนั้น ถ้าบอกว่า ไปขอร้องเจ้าเกราะเหล็กนั่น... ก็ไม่มั่นใจว่ามันจะยอมมั้ย แล้วจะคุยกับมันรู้เรื่องหรือป่าว"

     

    จะว่าไป ตรูนี่มันเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะแย่จริงๆแฮะ

    ทำไม ถึงทำใจได้ไวแบบนี้นะ

    เรื่องแต่ระเรื่อง ที่ผ่านมา

    มันหลอมเราให้กลายเป็นพวกเย็นชาไปหรือไงกัน

     

    พวกเราอาบน้ำกันจนเสร็จ เช็ดกายเป่าผมจนแห้ง

    แล้วออกมาจากห้องน้ำ แต่งกายด้วยชุดของสโรชา แม้มันจะหลวมมากก็ตาม

     

    ขณะนี้ เวลา

    11.42 น. 19 พฤศจิกายน เวทศักราช 212

     

    จากเหตุการณ์ในวันนั้น ก็ผ่านมาแล้ว 4 วันกว่าๆ

    เหลือเวลาอีก 3วัน ที่จะได้กลับร่างเดิม

    หรือถ้าจะพูดให้ถูก ต้องพูดว่า

    ขอยืมร่างเธอใช้หน่อยนะมะม่วง

    ขอแค่ 3 วัน

     

    แล้วชั้นจะ หาวิธีช่วยให้เธอ .... กับมายด์ ฟื้นขึ้นมาแน่ๆ

     

    ...........................

    แม้ว่าความสามารถด้านเวทมนตร์ หรือแม้แต่ผู้ฝ่าฝืน ตามที่สโรชาบอกกับผม

    ก็ไม่มีใคร ที่สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์

    นอกจากการอัญเชิญถาวร

    โดยวิญญาณจะต้องยังคงวนเวียนอยู่กับคนๆนั้น

    แต่ก็เป็นการยาก เพราะวิญญาณเมื่อตายแล้ว มักจะหลงทางจนไปผุดไปเกิดเอง

    แต่มายด์... ตายข้างๆเรา

     

    เมื่ออัญเชิญ

    กายหยาบจะปรากฏ ซึ่งก็ไม่สามารถตอบได้ ว่า กายหยาบนั้นคืออะไร

    แต่ที่ผมรู้แน่ๆก็คือ

    ถ้าวิญญาณของมายด์ยังคงวนเวียนอยู่กับเราหละก็

    ผมจะต้องพยายาม เพื่อที่จะสามารถอัญเชิญทั้งสองคนออกมาให้ได้

     

    ............

    โครกกก....

    "หิว...."

     

    "อื้ม หิวเหมือนกันเลย~~~~~"

     

    "หาอะไรกินกันมั้ย"

     

    "ดีเลย!"

    สโรชาตอบรับแล้วพาร่างของมะม่วง ที่บรรทุกผมไปด้วย เปิดตู้เย็น

     

    ไข่.....

    ในตู้เย็นมีไข่ อยู่ 13 ฟอง

    ต้นหอมเก่าๆ อีก 1 ต้น

    แต่ดันไม่มีอย่างอื่นให้กิน คงต้องเมนูไข่หละนะ

    พวกเรานั้นหุงข้าวสวย 2 ใน 5 ถ้วยตวง

    แล้วหันไปนั่งมองดูทีวีรอเวลา

    ทีวีก็มีแต่ข่าว

    แน่หละ เปิดมาตอนเที่ยงจะมีอะไร ถ้าไม่ใช่ข่าว

     

    10 นาที ข้าวดีด...

    "โอเค ... เราจะกินอะไรกันดี ข้าวผัดไข่?"

     

    "วันนี้กินเมนูง่ายๆแล้วกัน ชั้นจะนำเสนอเอง พยายาม"

     

    "อ่า... เชิญ"

     

    สโรชาพาร่างของมะม่วงลุกขึ้นไปหยิบผ้ามารองมือเพื่อยกหม้อข้าวลงมาวางที่โต๊ะอาหาร

    หยิบไข่จากตู้เย็นมา 1 ฟอง ต้นหอมที่เหลืออยู่

    เธอนำมีด ที่ตอนนี้ เหลือเพียงแค่มีด หันเนื้อออกมา หั่นต้นหอม เป็นฝอยๆ

    เปิดฝาหม้อข้าวควันฉุย โปรยต้นหอมลงไปในข้าว

    ตอกไข่ใส่ ตามด้วยการเหยาะ ซอสถั่วเหลืองยี่ห้อมินกี้

    คลุกเคล้าให้เข้ากัน

     

    "เสร็จแล้ว ข้าวทองคำน้ำเยิ้มแต่งเติมด้วยต้นหอม"

     

    พรูดดดด!!!

    เสร็จแล้วเหรอ!!!

    แล้วนี่มันชื่อบ้าอะไรของหล่อนวะ!!!!

    อย่าบอกนะว่า ชั้นต้องมากินร่วมกับเธอ

    "เห้ย เดี๋ยวสโรชา นี่มันไข่ดิบนะ จะกินทั้งอย่างนี้"

     

    "ช่าย ปกติ ที่อยู่ด้วยกัน ชั้นก็ทำแบบนี้แล้วเอาไปผัดต่อ มันจะอร่อยมาก"

     

    "ข้าวผัดที่เธอทำให้ชั้นกินบ่อยๆ ใช้วิธีทำนี้?"

     

    "อื้ม ก็ผสมอย่างอื่นลงไปแทนด้วย อร่อยไม่ใช่เหรอ"

     

    "อร่อยหน่ะอร่อย แต่.... ไม่คิดว่าขั้นตอนการผัดมันหายไปเหรอ"

     

    สโรชานั้นยิ้มขึ้นมา ผมรู้สึกได้

    "พยายามต้องลองทานแล้วหละ"

     

    "มะ ไม่เอานะเว้ย ... หยุดนะ ยัยบ้า ซกมกเกินไปแล้ว"

    ผมโวยวาย มือของผม

    ไม่สิ มือของมะม่วง แต่ตอนนี้โดนยัยสโรชาคุมอยู่ ใช้ทัพพีตักข้าวขึ้นมา

    "หยุดนะ!..."

    ผมได้เอ่ยคำสุดท้าย ก่อนที่ปากของผม... ไม่สิปากของมะม่วง

    จะโดนยึดโดยสโรชาอย่างสมบูรณ์

     

    "อา~~~~~"

    ร่างกายของมะม่วงอ้าปาก

     

    ไม่เอานะ นั่นมันไข่ดิบนะ อย่า!!!

    ไม่นะ ผมคุมร่างกายไม่ได้ ฝ่าฝืนไม่ได้

     

    "อั้ม!..."

    งับเข้าไปแล้ว

    ร่างกายของมะม่วง ที่มีผมบรรจุอยู่ข้างใน งับมันเข้าไปแล้ว

    ข้าวทองคำน้ำเยิ้มแต่งเติมด้วยต้นหอม

    ข้าวคลุกไข่ดิบๆ....

     

    ....

    "อร่อยแฮะ"

     

    "ใช่มั้ยล่ะ คิกๆๆ...."

    สโรชาในร่างมะม่วงเอ่ยหัวเราะคิกคัก

     

    พวกเรา นั้นนั่งใช้ทัพพีพลาสติก แทนช้อน ตักข้าวในหม้อข้าวทานโดยไม่ตักใส่จาน

    จะบอกว่ามันซกมก ก็ว่าได้ แต่ตอนนี้พวกเราอยู่กันแค่ คนเดียว ?

    เอามันแบบนี้นี่แหละ

     

    13.12 น.

    พวกเราทานข้าวและล้างหม้อข้าวกับทัพพีเสร็จแล้ว

    สโรชานั้นเดินเข้าไปแปลงฟันหลังอาหาร ... อนามัยจัดมาก

    พูดถึงเจ้าข้าวทองคำน้ำเยิ้มอะไรนั่น บอกก็บอกเถอะ หลังจากทานไปแล้วก็ ...

    ...อิ่มจริงๆ ร่างกายของมะม่วง ทานข้าวเกือบ 1 จานแล้วอิ่มขนาดนี้เลยเหรอ...

     และถึงจะไม่อยากยอมรับว่ามันจะอร่อยก็เถอะ

    แต่มันก็ดันอร่อย

     

    สโรชาพาร่างกายของมะม่วงไปทำความสะอาดบ้าน ตรงนั้นที ตรงนี้ที

    ยอมรับเลยว่า สโรชาขยันจริงๆ

     

    และแล้วเราก็เดินกลับขึ้นมาบนห้องอีกครั้ง

    เธอเดินมาหยุดยืนที่กระเป๋าเดินทางของพวกเรา 3 ใบ ที่มันถูกเอากลับมาด้วย

    และวางไว้ภายในตู้เสื้อผ้าที่ข้างๆ มีเจ้าเกราะเหล็กสีดำนั่งมองพวกเราอยู่

    ช่างเกราะเหล็กมันเถอะ ไม่อยากนึกถึงสภาพตัวเองข้างในเลยวุ้ย

    แต่เจ้าเกราะเหล็กนี่มันน้ำใจงามจริงๆนะ หิ้วกระเป๋าของเรากับสโรชากลับมาให้ด้วย

    คงจะด่ามันว่าปีศาจฆาตกรเลือดเย็นไม่ได้แล้วสิ

     

    สโรชานั้นคุ้ยดูข้าวของภายในกระเป๋า

    ข้าวของและเงินของพวกเราอยู่ในนั้นครบ

    ขาดแต่เสื้อผ้าชาวนา กับเสื้อผ้าที่ใส่ในวันนั้น

    เดี๋ยวนะ พวกเรามีแค่ 2 ใบนี่....

    ว่าแต่ กระเป๋าใบใหญ่ใบที่ 3 นี่มันอะไรกัน

     

    "สโรชา กระเป๋านั่น"

     

    "อืม"

    สโรชาตอบรับแล้วเปิดออกดู

     

    "นี่มัน!"

    ผมไม่ได้คิดอะไรเลย และของที่อยู่ภายในก็ไม่ได้แปลกจนจะต้องชวนตกใจ

    แต่ที่ผมเปิดมาแล้วต้องตกใจ....

    เรื่องราวมันปะติดปะต่อกันเล็กน้อย

    เพราะของข้างในคือ

    บัตรประชาชน ... เงิน.... กระเป๋าสตางค์ อุปกรณ์เวทย์ ชุดฮู้ดดำ ... ปืนพกคาบศิลา

    ใช่ มันคือ .... ข้าวของเครื่องใช้ ของคนที่ตายไปในวันนั้น

    ไม่สิ ถึงจะมีไม่ครบก็เถอะ

    ถ้าประกอบกับข่าวที่บอกว่า สาวชาวนา 9 คน แอบหนีงาน

    ก็แปลว่า ข้าวของเสื้อผ้าอื่นๆของพวกเธอ ต้องโดนเอาไปทำลายหลักฐานทั้งหมดด้วย

     

    .............................

    ....เหมือนไม่ได้บ่งบอกอะไรสินะ.....

    แต่มันบ่งบอกชัดเจน

    ว่าเจ้าเกราะเหล็กดำทมิฬตัวนี้ ..... มันไม่ได้บ้าคลั่งแล้วกินคนแบบที่เราคิด

    มันมีสติสัมปชัญญะ

    มีความคิด ไม่ก็ต้องมีวิธีการกระทำเหมือนมนุษย์แน่ๆ

    มันกินคนด้วยความต้องการของมัน และเอาเวลา ไปนั่งทำลายหลักฐาน....

    แถมยังขโมยของกลับมาได้อีก

    ........................

     

    "จะ จะเอายังไงกับของพวกนี้ดีหละ"

     

    "เอาปืนพกคาบศิลาของมะม่วงมาใช้ นอกนั้น ซ่อนเอาไว้กับเจ้าชุดเกราะนี่แหละ"

     

    "มันจะมีคนมาตามล่ามะม่วงถึงที่นี่หรือไง"

     

    "พวกมันจะมาตามล่าพยายามมากกว่า ชั้นสังหรใจได้ เพราะตอนนี้ พวกมันเสียคนไป 10 คนจากการสั่งฆ่าพยายามเพียงคนเดียวแล้ว"

    สโรชาในร่างมะม่วงตอบ

    "และถ้าพวกนั้นมาที่บ้าน คนที่เป็นเป้านิ่ง ก็คือมะม่วงถึงพวกมันจะไม่รู้ว่าเป็นใคร และอาจจะไม่รู้ว่ามะม่วงเป็นพวกเดียวกับมัน ก็อันตรายอยู่ดีเพราะดูเหมือนเด็กแล้วยังอยู่บ้านเดียวกับพยายาม ส่วนถ้ารู้ว่าเป็นพวกเดียวกับมัน พวกนั้นก็คงให้แสดงเลข.... แล้วดันเป็นเลขของคนที่หายตัวไปก็จะน่าสงสัยขึ้นไปอีก"

     

    "แบบนั้นเองสินะ"

    ผมเข้าใจที่เธอจะสื่อ

    "อย่างน้อยๆก็เอาไว้ป้องกันตัวเอง"

     

    สโรชาเอาปืนนั้นออกมาวางซุกไว้ใต้หมอน

    และหยิบชิ้นผ้าบางอย่างในกระเป๋าของผมออกมา 1 ตัว

    ก่อนจะปิดตู้ลงแล้วล็อคไว้เหมือนเดิม

     

    "ว่าแต่ ... นี่มันตั้ง 4 วันแล้ว พวกนั้นก็ยังไม่มาที่บ้านเราไม่ใช่เหรอ"

     

    "พวกนั้นไม่ได้ทำ โดยไม่มีวิธีการนะ ... อย่างน้อยๆ การจะฆ่าใคร ก็ต้องอยู่ในอาณาเขตของพวกมัน และต้องไม่มีผู้มีประจุเวทย์คนอื่นๆมารบกวน ไม่งั้นมันจะเป็นการทำงานนอกเหนือหน้าที่ ชั้นคิดว่า.... พวกนั้นน่าจะหาคนที่เหมาะสมพอ ที่จะมาค้นบ้านของเรามากกว่า"

    สโรชาอธิบายจบ

    แล้วเริ่มหยิบชิ้นผ้าของผมขึ้นมาดอมดม

    "ซื้ดดดด ฮ้า!!! .... อ้า ซื้ดดดด"

     

    พรูดดดดดดดดดดด!!!

    นี่มันกางเกงในนี่หวา จะอ้วก ถึงจะของตรูเองก็เถอะ!!!

    นี่หล่อนทำอะไรของหล่อนฟระ ก็ว่า ทำไมหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา

    "หยุดนะ สโรชา หยุด หยุดนะโว้ยยยยย!!!"

     

    "ไม่เอาอะ ... พยายามห้ามชั้น ทุกเรื่องเลย อ้า ... เรื่องดมนี่ ... ขอเถอะนะ ... กลิ่นพยายาม ... อ้า!! มะม่วงก็ต้องชอบแน่ๆเลย ซื้ดดดด อ้า!!! เชื่อชั้น!! เชื้อสิ แฮ่ก ... เชื้อชั้นนนน ซื้ดดดดดด!!!"

    สโรชาเอ่ยในร่างมะม่วงเสียงครางกระเส่าระริกราวลูกหมาพุดเดิ้ลติดสัตว์

    เหมือนเธอจะเก็บกดสุดๆ จากการไม่ได้ทำแบบนี้

    เธอดอมดม สูดกลิ่นอายของเจ้าผ้าทรงคล้ายสามเหลี่ยมนั่นไม่หยุด

     

    จะอ้วกโว้ยยยย อ้ากกกก อยากอ้วก

    "ไม่ไหวโว้ย ไม่ ไม่ดมม ใครจะไปอยากดม กางเกงในตัวเองฟระ ม้ายยยยยย!!!"

    ผมตะโกนกู่ร้องก้องกังวาลไปทั่ว แต่ก็ได้แค่นั้น ก่อนสโรชาจะยึดการพูดของผมไป

    แล้วดอมดม กางเกงในตัวนั้น ตลอดทั้งวัน .....

     

    ไม่ ไม่อยากจะดมเลย ... จะอ้วก

    แต่ไหง ... ในใจเรากลับมีความสุขที่ได้ดมฟระ

    หรือว่า มะม่วง ... เธอจะชอบจริงๆเหรอ....

     

    ถ้าใครมองจากภายนอก

    พวกเรา ... ไม่สิ ...

    เหมือนมะม่วง เป็นเด็กมีปัญหา

    ที่พูดคุยกับตนเองเล่นกับตัวเองเพียงคนเดียวจริงๆ

    ................................................

    ............................

    พวกเราใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยในร่างมะม่วง

    นั่งๆ นอนๆ ดมๆกกน. ดูทีวี ไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้รู้แม้แต่น้อย ว่าโลกภายนอกเขาไปถึงไหนกันแล้ว

    แต่อย่างน้อยๆก็ยังดี .... ได้พักหายใจ กับการโดนตามฆ่าสักพัก

    ไม่อยากจะบอกเลยว่า การอยู่ในร่างมะม่วงนี่ มันรู้สึกดี แปลกๆจริงๆ

    หัวใจมันอบอุ่น และมีความสุข

    อาจจะเป็นเพราะจิตใจของมะม่วง .... ต้องการให้ผมอยู่กับเธอก็เป็นได้

     

    .............................

    .................................................

    .................................................................................

    ...............................................................................................................

     

    02.30 . 20 พฤศจิกายน เวทศักราช 212

     

    ภายในบ้านพักขนาดใหญ่บนพื้นที่กว้างกว่า 4 ไร่ของนักการเมืองเศรษฐีชื่อดัง ผู้มีความรวยผิดปกติ โดยมีข่าวซุบซิบว่าเขานั้นลักลอบขายของผิดกฎหมาย

     

    ภายในห้องทำงานในบ้านที่ตอนนี้ รูปร่างสิ่งของต่างๆกำลังบิดเบี้ยว อันเกิดมาจากความร้อนของไฟ ที่แผดเผาไปทั่วทั้งห้อง ทำให้ภาพต่างๆผิดเพี้ยน

     

    นักการเมืองผู้มีหุ่นท้วมไว้หนวดคนนั้นกำลังลนลาน อย่างหนัก วิ่งคลานล้มลง เพื่อเอ่ชีวิตรอด

    "ฮึก ฮื้อออ ได้ โปรด วะ ไว้ ไว้ชีวิตป๋าด้วย ... เธอ เธอจะเอาเท่าไหร่ 10ล้าน ไม่สิ ... 100ล้าน เอาไปเลย ยะ อย่าฆ่าชั้น"

     

    "ไม่ได้หรอกค่า ป๋าขา...."

    หญิงสาวเจ้าของเสียงเอ่ยปฏิเสธ

    เธออยู่ในชุดนางพยาบาลสาวสีขาวแสนสวยสวมถุงน่องสีขาว ถุงมือผ้าขาวมีลูกแก้วครึ่งวง แปะติดที่ฝ่ามือ

    หุ่นของเธอดีอย่างมาก แม้จะไม่ได้หน้าอกใหญ่อะไร แต่บั้นท้ายที่เข้ารูปและทรงผมย้อมทองปาดเป็นลอนยาวถึงไหล่ และเอวที่คอดเว้าเซ็กซี่ ยืนบิดเอวไปมา ขวาที ซ้ายที

    "ป๋าเป็นคนชวนหนูมาเล่นสนุกๆ ที่บ้านเองนี่ค้า แค่หนูส่ายชุดพยาบ้าน พยาบาล เดินชนป๋านิดๆหน่อยๆถึงกับทนม่ายด้าย หมายด้าย .... มันเป็นความผิดของป๋าเองน้าค้า"

     

    "ได้โปรด .... อะ ... เอา ... เอาไปหมดเลย ป๋ามี 6000ล้าน เอาไปเลยยย ... จะเซ็นให้เดี๋ยวนี้... เดี๋ยวนี้เลย!!!"

    ชายนักการเมืองหน้าตาตื่นขวัญหนี

    คลานไปที่โต๊ะทำงานที่มีสมุดเช็คอยู่

     

    ไฟนั้นเริ่มลุกลามมาเรื่อยๆ และเรื่อยๆ

    ลุกลามไปทั่วทั้งห้อง

     

    "ไม่ได้หรอกค่า ป๋า...."

    เสียงของหญิงสาวเอ่ยแล้วเดินเข้าไปหาใกล้ๆ

     

    "นังร่าน ตายซะ!!"

    ชายผู้นั้นเอ่ยแล้วหันมาพร้อมกับปืน

    แต่มือของเขาก็โดนจับแล้วบิดขึ้นด้านบนอย่างง่ายดาย

    ปั้ง....!!!

    ปืนนั้นยิงขึ้นฟ้าไป

     

    "ป๋าขา..... ป๋าชอบกินกุ้งเผามั้ยค้า~ "

    หญิงสาวยื่นหน้าเข้าหายิ้ม

    เอ่ยด้วยเสียงหวาน ราวกับสาวเชียร์เบียร์

    "กุ้งเผา... เผา เผา..."

     

    ".....ฮื้อออ ...  ไม่ ไม่อยาก ไม่กินกุ้งเผา ใครก็ได้ช่วยด้วยยยยย!!!"

    ชายผู้นั้นกรีดร้อง ราวกับเด็ก โวยวายเรียกหาคนช่วย

    "อ้าก อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!! ร้อน ร้อนนนนนน!! ร้อนนนน!!!"

    ไม่ทันไร แขนของเขาก็ไฟลุกท่วมขึ้นมา

     

    "กลิ่นหอม ของเนื้อคนเนี่ย .... หอมดีนะคะ น้าค้า...."

    เธอเอ่ยยิ้มแสยะมองใบหน้าของชายผู้นั้นที่แขนกำลังโดนย่างสด แม้จะอยากหนีก็ไม่สามารถดิ้นหลุดจากแรงของหญิงสาวได้เลย

    "เผา ... เผา ... เผา เผา เผา และ เผา.... แล้วก็เผา ... เผาเผา"

     

    "อ้ากกก ร้อนนนนนนนนนน!!! อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!!!! อ้ากกกกกกกก!!!"

    เขาโดนไฟเผาแล้วก็ลามไปทั่วทั้งร่างอย่างรวดเร็ว แต่ไฟกลับไม่ลามไปที่ตัวของเธอเองเลย

     

    "เผา ... เผา เผา เผา เผา... แล้วก็เผา เผา เผา เผา เผา เผาเผาเผา เผา เผา แล้วก็เผา"

    หญิงสาวเอ่ยไป โยกหัวซ้ายที ขวาทีไปตามจังหวะคำพูดเธอ

     

    จนเขากลายเป็นเถ้าถ่านไปในที่สุด

     

    "..... ว้า จิตใจของป๋า มอดไหม้หมดแล้ว ... งี้ก็ไม่สนุกสิ .... งานจบไวอีกแล้ว...."

    เธอเอ่ยบ่น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่มีปุ่มหมายเลข เหมาะสำหรับรุ่นคนแก่ใช้กัน แต่กดผ่านถุงมือนั้นได้ไม่มีปัญหา มากดจิ้มๆๆ

     

    กลุ่มกองเพลิงและอาณาเขตของเธอค่อยๆหายไปช้าๆจนกลับกายเป็นห้องทำงานสุดหรูดังเดิม

    ศพของชายคนนั้นไม่ได้โดนเผาไหม้ไปด้วยตามที่เห็นในอาณาเจต เขายังคงนอนแน่นิ่งอยู่ ที่หน้าโต๊ะทำงาน

    น้ำลายของเขาฟูมปาก ราวกับโรคหัวใจกำเริบ

     

    หญิงสาวเดินข้ามศพ กระโดดปีนขึ้นหน้าต่างไปนั่งอยู่บนหลังคาบ้านอันสวยงาม

    เงยหน้ามองแสงจันทร์ที่ไม่เต็มดวงดีนัก

    เอาหูแนบโทรศัพท์

    "อะ เจ็ดสี่หกแปด ... เสร็จงานแล้วค่า .... .... หืม มีงานที่อันตราย ถามว่าช้านสนใจจะทำม้ายเหรอค้า.... .... โฮ่ ต้องไปเปนทีม?... ไม่เอาอาค้า สนอะสนเลย ช้อบบ ชอบ งานอานตาร้าย อันตราย แต่ไปคนเดียวนี่แหละ .....หืม ....... เห สามสองสองสี่ หายตัวไป เพราะไปจัดการมันคนเดียวเหรอค้า ..... แย่จางน้า สงสัยเธอมัวแต่เล่นจนลืมฆ่าศัตรูก็เลย โดนศัตรูฆ่าละม้างงงงง .... ไม่ต้องกลัวหรอกค่า~~~ ช้านจะไม่มัวแต่ใช้ของเล่นเด็กไปสู้โดยม่ายช้ายพลังทั้งหมดแต่ต้นหรอกค่า .....ข้อจำกัดยายนั่นมันมากปาย ....... ด้ายจังหวะหละก็ จะ เผาเลย..... ค่า ตกลง ชั้นรับงานนี้ค้า~~~ ....... เจอให้ฆ่า ...... ม่ายเจอ ก็ห้ามทำร้ายผู้เกี่ยวข้อง..... ร้าบทราบค้า ..... ไว้จาไปรับงานอีกที ที่คอมน้าค้า ..... ค่า สวัสดีค่า .... เจ็ดสี่หกแปด วางหละน้า ค้า"

    หญิงสาวเอ่ยเสียงกวนประสาท ฟังแล้วดูไม่เป็นผู้เป็นคนต่างจากใบหน้าที่ดูเป็นผู้มีวุฒิภาวะ

    เธอนั้น หยิบเอาหมากฝรั่งตราหมาดำที่มีลักษณะเป็นแท่งกลมยาวคล้ายบุหรี่ขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆ

    พลางเอ่ยสบายอารมณ์

    "เผา เผา เผา แล้วก็ เผาเผาเผา ... เผา เผา เผา เผาเผาเผา เผา เผา"

    .................................

    ......................................................

    End Chapter 19 กุ้งเผา... เผา เผา...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×