ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวทยาลัย ศาสตร์มนตร์ดำรงเวทยา

    ลำดับตอนที่ #37 : Chapter 25 เหะ... เห!!!!!!!!!!!!!!??????????????

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 770
      12
      28 มี.ค. 57

    Chapter 25 เหะ... เห!!!!!!!!!!!!!!??????????????

     

    ฟืดดด ..... ฟาดดดดดดดดดด

     

    "สรุปแล้ว จบแค่นี้สินะ"

     

    ฟืดดดดดดดดด ..... ฟาดดดดด

     

    "อื้อฮึ ........ "

     

    ฟืดดด ..... ฟาดดดดดดดดดด

     

    "นอกจากเรื่องนั้น ก็ไม่มีอีกแล้วใช่ไหม"

     

    ฟืดดดดดดดดด ..... ฟาดดดดด

     

    "ใช่เลยพยายาม"

     

    ฟืดดดดดดดดด ..... ฟาดดดดด

    ฟืดดด ..... ฟาดดดดดดดดดด

     

    "ไม่มีมากกว่านั้นอีกแล้วนะ ..... "

     

    ฟืดดด ..... ฟาดดดดดดดดดด

     

    "ถ้าเป็นเรื่องความรู้สึกของชั้นหน่ะมี แต่ .... ถ้าบอกไปพยายามจะลำบากใจ เหมือนที่ชั้นทำอยู่ไง แฮ่ก .. แฮ่ก แฮ่ก"

    ฟืดด ..... ฟาด

    ฟืดดดดด ..... ฟาดด

    ฟืดดด ..... ฟาดด

     

    "อ้ากกกกกก!!! ก็รู้ไม่ใช่เหรอฟระ!!! ว่าตรูลำบากใจ!!! สโรชา ออกไปจากซอกคอของตรูเด๋วนี้นะเฟ้ย!!!!"

    ผมโวยวายลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห เผื่อผละให้สโรชา ที่ไม่ยอมถอนตัวออกจากกายผม

    แถมยังซอกซอน ดอมดมไม่หยุด หลุดออก

     

    เอาเถอะอย่างๆน้อยๆ มันก็ยังได้ผล

     

    ...............

    เธอเล่าให้ผมฟัง

    หลังจากที่เธอได้รู้ ว่าร่างกายนั้นไม่ใช่ร่างของมะม่วงจริงๆ

    เธอก็ฆ่าตัวตายเลย เพราะคิดว่าผมคงจะไม่คิดมากหรอกมั้ง กับร่างกายที่ไม่ใช่ของเธอจริงๆ

    ยังไง ก็ต้องถูกผู้หญิงที่ชื่อแฟนต้าทรมานจนตายอยู่ดี

    ชิงตัดหน้าตายก่อน เพื่อไปเอาร่างจริงมาใช้งานดีกว่า

    เมื่อได้ร่างจริงมา แทนที่จะได้สู้

    แฟนต้าก็รู้ตัวเองดี ว่ายังไงก็สู้ไม่ได้และหนีไมได้

    เธอเลยฝากฝังบางเรื่องเอาไว้ ก่อนตาย

    ข้อแรก คือไปเอาของทั้งหมดที่บ้านพักของเธอ แล้วเอาไปแจกให้เด็กๆในช่วงปีใหม่

    ข้อสองคือ ถ้าผมอัญเชิญคนมายด์และมะม่วงแล้วยังพอเหลือพลังอัญเชิญ ให้อัญเชิญเธอออกมาด้วย

    เมื่อเธอตายแล้ว สโรชาก็เลยจัดการ ศพ ให้เข้าไปอยู่ในพุงเธอเรียบร้อย

    ทั้งศพของ แฟนต้า และ ของมะม่วง

    ก่อนที่จะรักษาบาดแผลตนเอง ให้หาย ด้วยตนเอง ...

    แล้ว เธอก็รอ เวลาที่ผมออกมาจาก เจ้าเกราะเหล็กนั่น

    ซึ่งผมก็หลุดออกมา ในช่วงวันที่ 23 ตอนเช้าๆ

    แล้วเกราะเหล็กดำ ก็หายไปทันที โดยเธอไม่รู้เหมือนกัน ว่าหายไปไหน

     

    แต่มันก็เกิดความสงสัยขึ้นในใจผมหลายเรื่อง ทำให้ต้องถามเธอออกไป

    ข้อ1. เธอรู้ได้ยังไง ว่าฆ่าตัวตายแล้วจะได้กลับไปร่างเดิม

    สโรชาตอบว่า เพราะความรู้สึกมันบอก

     

    เห้อ ....ไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ

     

    ข้อ2. เธอไม่คิดว่า มะม่วงจะฟื้นขึ้นมา ถ้าร่างกายเรากลับมาปกติเหรอ

    สโรชาคิดว่า ถ้าร่างกายเราปกติ เจ้าเหล็กนั่นก็น่าจะกินร่างมะม่วงเข้าไป เพื่อปล่อยเอาเราสองคนออกมาอยู่ดี

     

    ข้อ3. คำขอของแฟนต้า จะไม่ใช่กับดักแน่เหรอ

    เธอก็ตอบว่า ถ้าเป็นกับดัก ไม่น่าจะฆ่าตัวตายเพราะสารในตัวได้ เพราะเป็นการกระทำเพื่อองค์กร และเธอก็คิดว่า ไม่มีเหตุผล ที่แฟนต้า จะเตรียมกับดักนี้มาใช้ เพราะคงคาดไม่ถึง ว่าจะมีตัวสโรชาโผล่ออกมา

     

    อืม...อันนี้มีเหตุผล

     

    ข้อ4. ทำไมแฟนต้า คิดว่าผมจะอัญเชิญตัวเธอออกมาได้ ผมยังไม่แน่ใจตนเองเลย

    สโรชาตอบว่า แฟนต้าคิดว่าผมมีพลังพิเศษอยู่ ซึ่งนั่น สโรชาก็คิดเหมือนกัน ทำให้เธอยอมตายง่ายๆ แล้วขอร้องให้อัญเชิญตัวเธอมาใช้งานด้วย ถ้ายังพอมีที่ว่างเหลือ

     

    ผมขอบอกตรงๆเลยนะ ผมไม่ใช่พระเจ้า ที่จะชุบชีวิตใครขึ้นมาก็ได้สักหน่อย

    ถ้าตามที่เรียนมา การอัญเชิญ วิญญาณใครมาแบบถาวร นี่ มันก็ไม่แน่นอนด้วย

    ว่าจะได้ไหม ... แถมอัญเชิญออกมา ก็ไม่รู้ว่า จะได้รับภาชนะ หรือร่างกายอะไรมาใส่วิญญาณ

    และผมก็ไม่ได้มีพลังอะไรเลย นอกจากการอัญเชิญ จากการตรวจวัดประจุ

    ผมก็มีประจุที่เหมาะกับการอัญเชิญถาวรอยู่หรอก

    แต่ จะให้ แบ่งประจุเวทย์ภายในตัวออกเป็น 3 ส่วนเพื่ออัญเชิญถาวร 3 คนนี่มันก็ .... แทบเป็นไปไม่ได้เลย

    ขนาดพวกมีพรสวรรค์ ที่โดนรัฐบาลคัดเลือกไป ก็ยังอัญเชิญกันได้แค่ 2 ถึง 3 ตัวเอง

    ปวดหัวจริงๆแฮะ...

     

    ข้อที่5. ผมถามเธอว่าตกลง รักษาร่างกายเละๆได้เองโดยไม่ต้องพึ่งเกราะเหล็กเหรอ

    เธอยิ้มก่อนเลย แล้วตอบว่า ใช่ ก่อนจะตายแล้วฟื้น ก็ทำได้ แต่ใช้เวลานานมาก แต่พอตายแล้วฟื้น สามารถกินคนเข้าไปได้ ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไวขึ้น

     

    คำตอบนี้นี่แหละ .... มันเป็นกุญแจอะไรหรือป่าว ก็ไม่รู้

    รู้แต่ว่าฟังแล้วหลอนชะมัดยาด ให้ตายสิ

     

    และข้อสุดท้าย เจ้าเกราะเหล็กดำนั่น .... มันไม่พูดหรืออะไรเลยเหรอ มันหายไปเฉยๆหลังจากคายผมเนี่ยนะ

    เธอตอบว่า ใช่ ... มันหายไปเลย หลังจากคายผมออก

    ผมก็ถามต่อว่าหายแบบไหน

    เธอตอบว่า พอคายผมแล้ว มันก็ค่อยๆสลายหายไป เหมือนกับกลุ่มควัน

     

    ให้ตายเหอะ เจ้าก้อนเหล็กนั่น มันเป็นตัวอะไรกันแน่ฟระ

    ไม่เข้าใจเลยสักนิด เป็นสิ่งอัญเชิญก็ไม่น่าใช่ ไม่มีใครใช้เพื่อเรียกมันออกมา

    ช่างเถอะ คิดมากๆ ก็ปวดสมอง

     

    ..........................

    หลังจากเราสนทนาจบ ผมก็ไปอาบน้ำ

    รู้สึกเหมือนร่างกายได้นอนพักผ่อนมานาน แน่หละ ถ้าหลุดออกมาจากเกราะนั่นวันที่ 23 เช้าๆ

    แล้ววันนี้ก็ 25 ช่วงสายๆ ก็เท่ากับผมนอนหลับไปไม่น้อยกว่า 2 วันเต็ม

    โดยไม่นับวันที่ไปนอนเล่นอยู่ในเกราะนั้นอีกหลายวัน

     

    ระหว่างผมอาบน้ำ ผมก็สำรวจร่างกายตนเองทั้งหมด

    ไม่มีส่วนใดสึกหรอแม้แต่เส้นผมจริงๆ ทั้งๆที่โดนระเบิดไปขนาดนั้น

    กลับใช้เวลาในการ รักษาจนหายสนิท แค่ ไม่ถึง 10 วัน

    อยากจะให้เจ้าเกราะเหล็กนั่นไปทำอาชีพหมอจริงๆ ให้ตายเหอะ

     

    ผมเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างสบายใจ

    ใส่ชุดที่เหมือนจะมีคราบน้ำลายหน่อยๆ .... เออ

    ไม่ต้องถามก็เดาได้ว่าคราบน้ำลายใคร

    ใส่ชุดเสร็จ ก็เดินมานั่งภายในห้องทานข้าว ข้างๆเธอที่กำลังมองทีวีอยู่

     

    "โอเค .... ตอนนี้ชั้นหิวแล้ว .... ขอข้าวต้มที่เธอทำหน่อยสิสโรชา"

     

    สโรชาหันมายิ้มหวานให้

    "ได้เลย พยายาม...."

     

    เธอลุกไปตักข้าวต้มใส่ชาม แล้ววางให้ผมทาน

    ผมมองดีๆแล้ว ข้าวในชามบานไปหมด เธอน่าจะต้มรอผมฟื้นนานพอดู

    แล้วผมก็ตักมันเข้าปาก

    "อร่อยแฮะ"

     

    "พยายามชอบ ชั้นก็ยินดีแล้วหละ"

    สโรชายิ้มหวานให้ผมอย่างมีความสุข

     

    ผมพยักหน้าแล้วทานต่อไปจนหมด

    โดยไม่โดนเธอเข้ามาก่อกวนและลวนลาม

     

    ตอนนี้ก็เป็นเวลา 12.20 น. แล้ว

     

    "นี่พยายาม ... ไปหอพักของแฟนต้าวันนี้เลยมั้ย เสร็จแล้วพรุ่งนี้ก็ไปซื้อของขวัญกัน แล้วก็เอาไปแจกในวันที่ ยี่สิบเจ็ดนี้เลย"

    สโรชาที่ล้างจานอยู่นั้น เอ่ยขึ้นมา

     

    "....ไม่ด่วนไปหน่อยเหรอ ยังไม่ปีใหม่เลยนะ"

    ผมเอ่ยกลับ

    "ไปเอาของอย่างเดียวก็พอแล้วมั้ง"

     

    "ไม่เอาน่า! ปิดเทอมหน่ะ ถึงแค่วันที่ 10 ธันวานี้เองนะ ใช้เวลาในช่วงปิดเทอมให้คุ้มสิ!"

    สโรชาเอ่ยเสนอ

    "เพราะหลังจาก 10 ธันวา ... อาจจะไม่ว่างแล้วก็ได้"

     

    อยู่ๆเธอก็ลดระดับเสียงความระรื่นลง เล่นเอาผมตกใจ

    "... หมายความว่าไงหน่ะ"

     

    "ก็พวกเราต้องเรียนกันตลอดทั้งเทอมเลยไม่ใช่เหรอ"

    สโรชาหันมายิ้มให้

     

    "อ่า ... นั่นสินะ ... งั้นขอแค่เธอปกป้องชั้น ระหว่างนี้ก็แล้วกัน ฝากรบกวนด้วยนะ"

    ผมบอกกับสโรชา

     

    "แน่นอนอยู่แล้วพยายาม!"

     

    ..................

    แล้วพวกเรา ก็ออกจากบ้านตรงดิ่งไปที่หอพักของแฟนต้า

    ที่นั่น เป็นหอพักเก่าๆจริงๆ

    พวกเราตรงขึ้นไปบนห้องของเธอ แล้วเปิดประตูเข้าไป

    พวกเราก็พบกับ ห้องสีแดงแสบตาสุดๆ

     

    "แสบตาโคตร!!... อะไรฟระเนี่ย ... แล้วตุ้กตาหุ่นยนต์แมวพวกนี้อีก"

    ผมโวยขึ้นมาทันที ก็ห้องนี้มันแสบตาโคตรๆ

    แต่ก็ดันมีตุ้กตาหุ่นยนต์แมวสีฟ้า วางตั้งเรียงรายทั้งห้อง

    ถามว่าเข้ากันมั้ย ตอบได้เต็มๆปาก ....ไม่เข้ากันสักนิด

     

    "ว้าว ตุ๊กตาหุ่นยนต์แมวเต็มเลย!! เต็มไปหมดเลย .... ชั้นก็ชอบนะพยายาม"

    สโรชาเอ่ยแล้วหยิบตัวหุ่นยนต์แมวสีฟ้าที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมากอดแน่นเอาหน้าแนบหนึบๆ

     

    "....คงไม่มีกับดักอะไรสินะ ....."

    ผมเอ่ยออกมาอีกด้วยความไม่ไว้ใจ

    "เจ้าตุ๊กตาพวกนี้ อาจจะมีระเบิดหรืออะไรซ่อนอยู่"

     

    "อืมๆ ... เดี๋ยวเช็คให้เลยละกัน ระหว่างนี้ก็เก็บๆของที่น่าไว้ใจรวมกันเป็นถุงแล้วกัน เดี๋ยวจะเป็นคนขนเอง"

    สโรชานั้นเอ่ยแล้วหลับตาใช้พลังเพื่อตรวจสอบ

    เสียงดัง วิ้ง วิ้ง วิ้ง ดังขึ้นรอบกายเธอแล้วค่อยๆกระจายออกไป

     

    "อา... โอเคๆ แต่ชั้นจะไม่เก็บจนกว่าจะเช็คเสร็จหละนะ"

    ผมตอบรับแต่ก็ไม่อยากเสี่ยง

    รอให้เธอตรวจสอบเสร็จก่อน

     

    "เสร็จแล้วหละ ..... พยายามเนี่ย ไม่ค่อยเชื่อใจอันแสนบริสุทธิ์ของผู้หญิงเลยนะ"

    สโรชานั้นเอ่ย แล้วทำเสียงไม่พอใจนิดๆ

     

    "....ผู้หญิงที่ชั้นเจอมาทั้งหมด ตั้งแต่ 2 เดือนก่อน เชื่อได้กี่คนกันหละ....."

    ผมตอบเธอไป

     

    ใช่เลย ทั้งหมดเลย ..... เชื่อใจไม่ได้ทั้งนั้น

    น้ำตาจะไหล ....

    เหลือยัยสโรชาเนี่ยแหละที่จะเชื่อใจเรื่องฝากชีวิตไว้

    เพราะเธอมีเหตุผลบางอย่าง โดยบอกผมไม่ได้

    ผมก็ไม่รู้นะ ยังไงก็ต้องเชื่อ ดีกว่าตาย...

    แต่ก็นั่นแหละ เรื่องกามอารมณ์นี่ ไว้ใจเธอไม่ได้อยู่ดี

     

    "โอเค เราเริ่มกันเลยดีกว่า"

    ผมนั้นเริ่มจากเก็บของชิ้นที่หยิบง่ายๆ เอาใส่ถุงผ้าใบใหญ่ภายในห้องที่แฟนต้าน่าจะเอาไว้ใส่ของขวัญไปให้เด็กๆ ส่วนทางสโรชา เมื่อถุงเต็ม ก็หยิบถุง แล้วหายตัวไปทันที แล้วก็กลับมา ซึ่งใช้เวลาแค่ นาที ถึง2นาที เท่านั้น

     

    ผมหละอยากรู้จริงๆว่า ไอ้พลังสะดวกสบาย ขนาดนี้ มันคือพลังอะไร

    แล้วขีดจำกัดของมันคืออะไร

    "นี่พลังของเธอหน่ะ คือพลังอะไร"

    ระหว่างการกลับมารอบที่ 3 ของเธอผมก็เอ่ยขึ้น

     

    "พลังหายตัวได้เนี่ยเหรอ?"

    เธอเอ่ยถามกลับ

     

    "ช่ายๆ ... นั่นแหละ"

    ผมพยักหน้ากึกๆ

     

    "เป็นพลังผู้ฝ่าฝืนหน่ะ ผู้ฝ่าฝืนตำแหน่งที่ควรจะเป็น ระดับ สิบ"

    เธอตอบแล้วยิ้มให้

     

    "ตำแหน่งที่ควรจะเป็น?"

    ผมสงสัยต่อทันที

     

    "ก็อย่างที่พยายามรู้หละนะ ....ในโลกของเราจะมีแกนสำหรับระบุตำแหน่ง เรียกว่า เอกซ์... วาย.... เซต"

    สโรชานั้น กำมือขึ้นมา

    กางนิ้ว ชี้ ไปด้านหน้า ตอนพูด X

    ชูนิ้วโป้งขึ้น ตอนพูด Y

    แล้วเหยียดข้อนิ้วกลางข้อที่สองออก ตอนพูด Z

     

    "อ่าฮะ ... ก็พอเข้าใจ"

    ผมตอบรับ

     

    "จากนั้น ถ้าสามารถ คำนวณตำแหน่งตนเองที่แน่นอนได้แล้ว ก็จะสามารถ เคลื่อนย้ายไปในระยะทางใกล้ๆ ราวๆยี่สิบถึงห้าสิบเมตรได้ทันที หรือตามในเกมที่พยายามชอบเล่น เรียกว่า เทเลพอร์ต ใช่มั้ยหละ"

    เธอเอ่ยแล้วนึกๆ ก่อนจะอธิบายต่อ

    "แต่ข้อจำกัดก็มีเยอะนะ ถึงจะไม่จำเป็นต้องกางอาณาเขตเลย สำหรับชั้น แต่ มันก็หายตัวไปตามจุดที่มองไม่เห็นไม่ได้ ถ้าไม่ทำอาณาเขตไว้ก่อน ส่วนในสถานที่ ที่มีความสูงต่ำไม่แน่นอน แล้วเกิด เทเลพอร์ตมั่วๆ ลำตัวอาจจะไปติดคาอยู่ ในช่องหรือสิ่งของก็ได้ ดังนั้น ตอนอยู่ในห้องขนาดเล็กๆ แถมไม่ได้ทำอาณาเขตอะไรไว้แบบในตอนนั้น ถึงพา พยายามหนีไปไหนไม่ได้ยังไงหละ ขอโทษเรื่องนั้นด้วยนะ"

    เธอพูดจบแล้วก้มหัวให้ผม

     

    "ไม่หรอกความผิดชั้นทั้งนั้นเลย ... ไม่ใช่ความผิดสโรชาหรอก"

    ผมตอบตามตรง

    ถ้าผมให้สโรชา ฆ่าทิ้งทั้งหมด โดยไม่ใส่ใจ มันก็คงง่ายกว่านี้จริงๆแหละ

    แต่ ..... ใครจะไปคิด ว่าพวกเธอจะเป็นศัตรู... ทั้ง 9 คน

    ผมก็ไม่อยากจะให้สโรชาฆ่าพวกเธอจริงๆนั่นแหละ ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเธอจะมาฆ่าผม

     

    "งั้นเก็บของต่อเถอะ .... "

    สโรชานั้นเปลี่ยนประเด็น

     

    "อืม..."

    ผมตอบรับแล้วเปิดลิ้นชักตู้ เจอกับกางเกงในผู้หญิงแบบเด็กๆ

    .... เดี๋ยวสิ ... เดี๋ยวๆๆ...

    ไซส์ขนาดนี้ต้องของผู้ใหญ่แน่ๆ .... ไหงเป็นผ้าฝ้าย สีต่างๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาวติดลาย

    ลายที่มีก็เช่น ช้าง ม้า หมี หมา แมว นก หนู แครอท กระต่าย และอื่นๆเต็มไปหมด

    ถึงจะเป็นแบบเว้าครึ่งก้นบ้าง เต็มก้นบ้างก็เหอะ.... แล้วแบบผู้ใหญ่หละ ...

    ลายลูกไม้แบบผู้ใหญ่ก็มีอยู่ ... แต่จากสายตาน่าจะแค่ 6 ตัว

    แบบลายเด็กๆนี่มีเป็นสิบ ......

    ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่ใช่เพราะอยากได้

    แต่เพราะคิดในใจว่า พยาบาลโหดคนนั้น .... นอกจากจะใจดีกับเด็กแล้ว

    ไม่แน่ลึกๆ ... อาจจะน่ารักกว่าที่คิดก็ได้

    ไม่ไหว จิ้นภาพเธอคนนั้นไม่ออกเลย....

     

    "เห .... พยายามอยากได้ไปสวมเหรอ .... เอาของชั้นก็....."

     

    "ไม่เอาโว้ย!!"

    ผมรีบพูดขัดเธอทันที แล้วปิดลิ้นชัก

     

    "เอาไปด้วยสิพยายาม .... อย่าเหลือหลักฐานไว้"

    สโรชาเอ่ยบอกผม ราวกับมีแผนการร้าย

    แต่ช่างเถอะ

     

    "ของพวกนี้ เธอเก็บไปเองแล้วกัน!"

    ผมตอบเธอ

     

    "จ้า!"

     

    และแล้ว วันที่ 25 พฤศจิกายน ทั้งวัน เราก็ม่วนกับการเก็บของของแฟนต้า ให้หมดจากห้องนี้

    ราวกับเป็น ขโมย.....

     

    ..............................................................................

    .................................................

    .........................

     

    ภายในห้องของอาคารแห่งหนึ่ง ที่มีการจัดเรียงสิ่งของอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

    ด้านข้างมีชั้นวางของที่เต็มไปด้วยหนังสือมากมาย

     

    จุดโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ 3 เครื่องที่พื้นข้างโต๊ะ

    จอมอนิเตอร์ 6 จอ เปิดอะไรบางอย่างคล้ายข้อมูลวิ่งเร็วระรัว

    ด้านขวาของโต๊ะทำงาน มีเน็ตบุ๊ค สีชมพูหวานแหวววางตั้งเอาไว้อยู่

    ที่เก้าอี้ตัวใหญ่มีหญิงสาวตัวเล็กนั่งตะไบเล็บอยู่

     

    แกรก ... ตึ้ง

    ประตูภายในห้องโดนเปิดออก และปิดลง พร้อมกับหญิงสาวผู้สวมใส่ฮู๊ดดำ ที่ก้าวเข้ามา

    "เจ็ดสี่หกแปด ก็ไม่ตอบกลับมาอีกแล้วค่ะ นี่ก็ ห้าวันผ่านไปแล้ว"

    หญิงสาวนั้นเอ่ยบอก

     

    "ฟู่...."

    เด็กสาวบนเก้าอี้ เป่าเศษเล็บตัวเอง ไม่หันหน้ามามอง

    "ตอบกลับมาแล้วสินา ... เยี่ยมเลย ...."

     

    ".... เอ่อ คะ?"

    ฮู้ดสาวที่อยู่อยู่ทำหน้างง

    เพราะคนที่นั่งบนเก้าอี้พูดคนละเรื่อง

     

    "งั้น! ก็หมดหน้าที่ของประเทศเราที่จะต้องไปตามตัวเจ้านั่นสักที ชั้นหละเบื่อมากๆเลย ที่จะโดนต่างประเทศ ด่าเอาๆ ว่าเอา คนเก่งๆ ไปผลาญเล่น"

    เด็กสาวเอ่ยอารมณ์ดี

     

    "... เดี๋ยวนะคะ ... ชั้นบอกว่าเจ็ดสี่หกแปดไม่ตอบมาค่ะ ไม่ใช่ตอบกลับมา"

     

    "หา!!! วะ ว่าไงนะ แม้แต่ เจ็ดสี่หกแปด ก็พลาดเหรอ!!!!!! ไม่จริง!! วันนี้เอพริลฟูลสินะ!!!"

    เธอตะโกนร้องเสียงหลง หันเก้าอี้กลับมาด้วยความตกใจ เสียงของเธอนั้นสูงแหลมน่ารัก

    ราวกับเด็กๆ

     

    "เรื่องจริงค่ะ ... และวันนี้ก็ยังไม่ถึง 1 เมษา ไม่ใช่เอพริลฟูลแน่ๆค่ะ"

    สาวฮู้ดดำตอบเหงื่อตก

     

    "เหะ... เห!!!!!!!!!!!!!!??????????????"

    เด็กสาวร้องเสียงหลงออกมาอย่างตกใจ

    "ไม่นะ ..... คนหมายเลขหลักพันของสาขาเราจะไม่เหลือแล้วนะ!!! ม่ายน้า!!!"

    เธอร้องน้ำตาเล็ดพร้อมกับเขี้ยว ที่มุมปาก

    แม้จะไม่สามารถมองหน้าเธอได้ก็ตาม

     

    End Chapter 25 เหะ... เห!!!!!!!!!!!!!!??????????????

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×