ลำดับตอนที่ #33
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : บางสิ่งที่ขาดหายไป
มาอัพช้ามากๆเลย ^ ^\" ช่วงนี้ยุ่งมากๆเลยอ่าค่ะ การบ้านด้วยธุระด้วย ยุ่งมากจริงๆ ยังไงก็เชิญติดตามชมด้วยน่ะคะ และก็ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามฟิคของเรา ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ
*********ฉันของอินุยาฉะ*******
ฟุตบอลแมทช์สำคัญดันมีก่อนสอบวันพรุ่งนี้ หนังสือหนังหาก็ไม่อ่าน การบ้านก็ดองไว้เต็มเลย ช่างมันเหอะ ตอนนี้กำลังลุ้นอยู่ ไอ้เรื่องพวกนี้ไว้คิดทีหลัง.......
“และก็เข้าแล้วครับ 2-0!!!!!!!” เสียงทีวี
“โถ่เว้ยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!” ล้มลงไปกับเตียงเลยเรา
อยากจะบ้าตายยยยยยยยยยยยยย มันยิงเข้าอีกแล้ววววววว ทำไงดีวะเนี่ย ก็ต้องลุกขึ้นมาดูทีวีต่อน่ะสิ มันนำไปสองประตูแล้ว... อย่างงี้จ่ายเละแน่  โอยยยย ปวดหัว ทำไงดี พนันกับมิโรคุไว้ ถ้าแพ้เราจ่ายเละไม่เหลือแน่.... แต่มันอาจจะนำก็ได้นี่น่า เอ่า ดูต่อๆๆ แต่ว่า......พนันกับหมอนั่นไม่เคยชนะเลยซักครั้ง
“เออ....ยิง....” ฉันพล่ามอยู่คนเดียวและยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทีวีเพื่อดูให้ชัด
“ก๊อก ก๊อก... อินุยาฉะ? แม่เข้าไปได้มั้ยจ้ะ?” หา เสียงแม่เหรอ เฮ้ย ดันมาตอนที่กำลังลุ้นอยู่ อยากจะเปิดอยู่หรอกนะ... แป๊บนึง....... เฮ้ย!!!! ยิงไม่เข้าอ๊ากกกกกกกกกกกกก
“ก๊อกๆ อินุยาฉะจ้ะ?” แม่เคาะมาอีกแล้ว แม่ง นำไป 3-0 แล้ว ทำไงดี อย่าบอกนะว่าต้องจ่ายจริงๆเนี่ย
ฉันเดินไปเปิดประตูให้แม่โดยสายตาไม่ละจากทีวีเลย
แม่เดินไปนั่งที่โซฟาตัวโปรดในห้องอย่างเรียบร้อย... นั่งไหนก็นั่งไปเหอะ กำลังลุ้นอยู่......เมื่อไหร่มันจะยิงเข้าวะเนี่ย......อ๊ากกกกกกก
“ดึกแล้วนะลูก พรุ่งนี้มีสอบครั้งสุดท้ายด้วยนี่นา...”แม่พูดพลางถอนหายใจ เออ อย่าเพิ่งน่า....อย่าเพิ่ง...มันจะ....มันจะ!!!!!!!!!!!!
“เข้าแล้วคร้าบบบบ 3-1!!!!!!!!!” โอ้หม่ายก๊อด เสียงจากสวรรค์ประทานลงมาจากฟ้า (เว่อร์)
“โอ้ววววววววววววววววววว”  ในที่สุดมันก็เข้าแล้วครับ ยิงเข้าแล้วคร้าบบบบบบบบบบ
“หัดขยันอ่านหนังสือเหมือนพี่เขาบ้างสิ...” เสียงแม่ดังมาจากโซฟา เหมือน “พี่เขา” งั้นเหรอ?..... ไม่รู้ทำไมหูเรากระดิกไปเอง “พี่เขา” ที่ว่านี่มันเส็ตโชมารุใช่มั้ย? (ก็แหงอยู่แล้วสิฟะ) ไม่ชอบเลยที่เอาเราไปเทียบกับมัน ไม่ชอบมากๆเลยจริงๆ บอกตรงๆว่าน้อยใจหน่อยๆ.... เชอะ...ใครจะไปเก่งทุกอย่างเหมือนมันเล่า... ช่างมันเหอะ...ดูทีวีต่อดีกว่า
ฉันสังเกตุวาแม่มองรอบๆห้อง และทำท่าทางไม่พอใจในแบบของแม่ ก็นะ ห้องเรามันออกจะรก...ช่วยไม่ได้... และแม่ก็เดินมานั่งข้างๆฉันบนเตียงนอนอย่างสุภาพ...แม้แต่มานั่งข้างๆลูกชายอย่างเรายังต้องทำสุภาพเลยคิดดู... ไม่เข้าใจเลยว่าแม่จะมาหาตอนดึกๆที่เราห้องทำไม เพราะปกติแม่ไม่เคยเข้ามาในห้องแบบนี้ลย แถมนี่มันก็ตีสี่แล้วด้วย...เป็นปกติแม่นอนหลับปุ๋ยไปนานแล้ว 
อยู่ๆแม่ก็มองที่ฉัน อ่า...มองไมหว่า...มีอะไรจะพูดกะเรางั้นเหรอ? ละสายตาจากทีวีซักักไปมองหน้าแม่ดีกว่า เอ่...ทำไมหน้าตาแม่ดูซีเรียสจัง? จริงจังมากๆเลย.. เกิดอะไรขึ้นนะ? ทำเอาเราจริงจังไปด้วยเลยนะเนี้ย
“...ขยันอ่านหนังสือได้แล้วนะลูก...” แววตาและน้ำเสียงของแม่จริงจังมาก ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องจริงจังขนาดนี้...แต่เรารู้สึกว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ ปกติแม่ไม่เคยพูดอย่างงี้กับเราเลย ไม่ค่อยเห็นแม่มีสีหน้าอย่างงี้มาก่อน แม่เป็นอะไรไปนะ? ฉันไม่ได้พูดอะไรและรอให้แม่พูดต่อ มันต้องมีอะไรแน่....แม่ทำสีหน้าเครียดมากกว่าเดิม...
“แม่คุยกับพี่ชายลูกแล้ว.......” สีหน้าเครียดมากๆเลย...คุยอะไรกับไอ้นั่น?..
“คุย?....” แม่มองต่ำ และเอามือผอมเรียวมาจับมือฉัน มือของแม่อบอุ่นแต่ก็มีไอเย็นอยู่นิดหน่อย แม่ยิ้มเศร้าๆ..... ฉันรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที แม่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย.....
__________________________________________________________________
ฉันของคาโงเมะ
“อรุณ...สวัสดิ์.......แฮ้กๆๆๆ” ฉันเปิดประตูห้องเรียนอย่างรวดเร็ว ก็เหมือนทุกๆวันน่ะแหล่ะ... เออว่าแต่ก็โมงแล้วนะ?
7:58 กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด มาทันนนนนนนนน ทันตั้งสองนาทีเชียวนะ เฮ่อออออออออ เหนื่อยจัง...เดินไปนั่งดีกว่า...ทำแบบนี้ก็ไม่ไหวแฮะ ทำจนเป็นรูทีนไปแล้ว ซึ่งก็เป็นรูทีนที่ห่วยแตกเอามากๆเลย
“ไง คาโงเมะ ติวสอบยัง”ซังโกะจังเดินมาหาฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม...ต่างจากใบหน้าของฉันอย่างลับลิบ ยังจะมาถามอีก...คนอย่างฉันน่ะนะจะติวสอบ แม้แต่สอบครั้งสุดท้ายของม.5เราก็ไม่คิดจะติว ฉันยิ้มกลับไปอย่างความหวังริบหรี่ ซังโกะเหงื่อตกทันที แต่ไม่เป็นไรหรอก อินุยาฉะก็คงจะไม่ติวเหมือนกันน่ะแหละ
พอฉันหันไปที่โต๊ะข้างๆ....
เห็นอินุยาฉะใส่แว่นตาอ่านหนังสืออย่างเคร่งครัดมีหนังสือตั้งไว้ที่โต๊ะเป็นสิบๆเล่ม ไม่น่าเชื่อ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! อึ้งครับอึ้ง มันยังไงอยู่นะ มัน....ผิดปกติ.........เพราะถ้าเป็นปกติมันจะหลับปุ๋ยอยู่ที่โต๊ะ.....แต่นี่.......
“เขาห้องปุ๊บก็มัวแต่ขยันอ่านอยู่อย่างงี้อ่ะแหละ....แถมมาคนแรกอีกต่ะหาก” ซังโกะพูด โอ้ว..ไม่น่าเชื่อ มันเป็นไปได้ไง อินุยาฉะเปี๊ยนไป๋!!!!!!
“ครืดดดดดดดดด”เสียงประตูห้องเลื่อน
ทุกคนในห้องรีบกลับไปนั่งที่ของตัวเองทันที ก็แหม...จะใครที่ไหน ยัยครูคาเอเดะมันมาแล้วไงล่ะ น่ากลัวเป็นบ้า...ทุกคนในห้องรีบเก็บของรอบๆตัว และหยิบดินสอปากกายางลบออกมาวางไว้บนโต๊ะแทน ฉันก็ด้วย...
“รู้กฎดีมาก....” คุณครูพูด
คุณครูที่คุมห้องหนึ่งอย่างห้องนี้ได้ก็มีแต่ครูคาเอเดะเท่านั้น  แม่งโหดชิบ... ชั้นล่ะอยากจะจบ ม.5เร็วๆจังเลย จะได้เรียนกับครูคนอื่นแทน..เกลี๊ยดเกลียดยัยครูคาเอเดะบ้า.....
ยัยป้าคาเอเดะแจกชีทข้อสอบ.......อ่อย.........วิชาเลขอ้ะ.......โอยยยย  ใจฉันครึ่งนึงก็ไม่อยากสอบ อีกครึ่งก็อยากสอบแฮะ.. พอครูแจกข้อสอบเสร็จก็เดินวนรอบๆห้องให้เสียวหลังกันเล่นๆ... อย่างงี้จะลอกได้มะเนี้ย...มันลอกไม่ได้อ่า แต่ว่าคนที่ลอกด้วยได้และทำเนียนที่สุดคงจะมีแต่เจ้าอินุยาฉะนั้น
พอจะหันไปขอความช่วยเหลือ....เปลี่ยนใจดีกว่าแฮะ อินุยาฉะตั้งหน้าตั้งตาทำสอบอย่างเต็มที่ ถ้าเป็นปกติจะลุกลี้ลุกลนถามคนข้างแล้วแท้ๆนี่นา.... มันไม่แปลกหรอกนะแต่ว่า..ทำไมถึงดูจริงจังขนาดนี้นะ? มองไปมองมา..มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรขาดหายไป.... อะไรบางอย่างขาดหายไปในตัวอินุยาฉะ สิ่งที่ขาดหายไปมันคืออะไรนะ?
__________________________________________________________________
*******ฉันของอินุยาฉะ*********
เลิกเรียน
“ไง อินุยาฉะ” เสียงใครอะ คุ้นๆ รู้สึกจะดังมาจากร้านอาหารร้านนั้นนี่? หันไปตามเสียงเจอแล้ว......เจ้ามิโรคุเรียกนั่นเอง  กำลังนั่งกินข้าวอยู่เลยนี่ อืม........กินข้าวอย่างมีความสุขซะด้วย........ไม่รู้ทำไมหูเรามันก็กระดิกไปเอง.....สงสัยด้วยความหงุดงิดมั้งเนี่ย.......... ก็มันเล่นกินข้าวกับไอ้เวรโคงะนั่น......... กับกลุ่มโคงะอีกสิบยี่สิบคน
“ไร.....” มันถามมาก็ตอบไป..... หงุดหงิดมากกว่าเดิม......พอจ่ายปุ๊บก็มาเลี้ยงข้าวคนอื่นปั๊บ......แถมเลี้ยงไอ้แก๊งนักเลงหัวไม้พวกนั้นอีก....... เป็นเพื่อนที่ดีมากไอ้มิโรคุ ยิ่งมองแล้วยิ่งหงุดหงิด ดันมาทำแบบนี้ต่อหน้าเราทั้งที่เรายังอยู่ในอารณม์ช็อกแบบนี้.......สิ่งที่แม่พูดเมื่อวานนี้.........ฮ่วย หงุดหงิด!! ฉันเดินจ้ำอ้าวต่อไปทันที
******ฉันของมิโรคุ*******
งงตึ๊บ......งงกันทั้งโต๊ะ......มันงอนกันขนาดนี้เลย?  ถึงนิสัยแบบนี้จะเป็นปกติของมันอยู่ก็เถอะ......แต่มันเหมือนมีอะไรที่ขาดๆไปบางอย่าง ไม่รู้สิ เราคิดไปเองรึปล่าว?
“สงสัยหงุดหงิดที่แพ้พนัน” โคงะพูดและกินราเม็งคำใหญ่.......นังเลงก็คือนักเลงวันยังค่ำล่ะน้า...ไม่มีมารยาทเอาซะเลย...... แต่ว่า มันตะหงิดๆยังไงไม่รู้สิ กับเจ้าอินุยาฉะเนี่ย.....
*******ฉันของอินุยาฉะ********
เดินจ้ำอ้าวมาถึงบ้านแล้วเหรอเรา เร็วดีแฮะ......เฮ่ออออออออ หงุดหงิดๆๆๆๆๆๆ มันสมควรที่จะหายแล้วล่ะแต่.... ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ มันเซ็งๆ... ฉันโยนเป้ที่ดำลงพื้นและทิ้งตัวลงบนโซฟา... มองเพดานว่างเปล่าสีขาว ทำไมในใจเรารู้สึกแปลกๆ? ไม่ใช่เรื่องของมิโรคุ....มันเรื่องอะไรกันนะ? และฉันก็คิดเรื่องเพ้อเจ้อของฉันนาน......
สอบก็ทำได้......ทุกอย่างก็ดีไปหมด.....ชีวิตเหมือนเดิม.......แต่ทำไม.......
คิดไม่ออกว่าทำเราถึงได้สับสนขนาดนี้... เพราะทุกอย่างในชีวิตเรามีแต่ความราบรื่น แน่เหรอ? ฉันหลับตาและคิดอะไรมั่วๆต่อไป
“เพล้ง!!” เสียงจานแตกมาจากหลังบ้าน
ฉันหลุดจากความคิดบ้าบอนั่นและลุกขึ้นมาทันที พวกแม่บ้านทำจานแตกอีกล่ะสิเนี่ย?
“คุณนายคะ?....คุณนาย...??????” เสียงแม่บ้านพ่อบ้านดังมาจากหลังบ้าน และก็มีเสียงเร่งฝีเท้าไปที่หลังบ้านด้วย
เฮ้ย...มันต้องมีอะไรแน่เลย คุณนาย....? งั้นก็แม่น่ะสิ!!!! ฉันรีบเร่งฝีเท้าไปที่หลังบ้านทันที ...มันเกิดอะไรขึ้น?????
“ใครก็ได้ไปเรียกรถพยาบาลมาเร็วเข้า!!!!!!!!!” เสียงของปู่เมียวกะดังมาจากครัวระหว่างที่เรากำลังวิ่งไป
รถพยาบาล???? หรือว่า??? แม่!!!!! ......เครียดชะมัดเลย...............
ในที่สุดก็ถึงครัวซะที......ความเครียดเพิ่มขึ้นมาเป็นทวีคูณ... เมื่อเห็นแม่นอนสลบไสลกองอยู่กับพื้น...... หน้าตาสวยสดใสของแม่เปลี่ยนไป...ริมฝีปากซีดเซียว... แม่ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เหงื่อเริ่มแตก มือเปียกไปหมด ต้องรีบวิ่งไปดูแม่.......
“แม่.........แม่..........แม่!!!!!!!!!!”เขย่าเท่าไหร่แม่ก็ไม่ยอมตื่น.........
__________________________________________________________________
โรงพยาบาล
ปวดหัว.....เครียด.......กังวล........... รีบมาโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.....ตอนนี้ทุกคนนั่งรออยู่หน้าประตูสีขาวอย่างเป็นห่วง.......รวมถึงเจ้าเส็ตด้วย....มันนั่งเอามือกุมหน้าผากอย่างกังวล....
เครียดชะมัด...ช็อกเลยนะเนี่ยกับสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเนี่ย.... บ้าเอ๊ย...ถ้าเกิดแม่..ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด มือฉันกุมกันตลอดเวลา เหงื่อชุ่มมือด้วยความกังวล..... หน้าผากของฉันไปแต่มือที่กุมอยู่โดยไม่รู้ตัว.....ขอร้องล่ะ........ขอให้แม่ปลอดภัยทีเถอะ.....ขอให้แม่ไม่เป็นไรที่เถอะ.......
เจ้าเส็ตยังหน้าตายเหมือนเดิม แต่ว่าดูออกเลยว่ากังวลมากขนาดไหน...พอถึงเวลาแบบนี้ทีไรฉันเกลียดมันไม่ลงเลยจริงๆ.. รอบๆนี้เงียบมาก ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยกันเลย ทุกคนล้วนแต่จ้องมองประตูสีขาวอย่างมีคามหวังเท่านั้น...ขอร้องล่ะ.....ขอให้แม่ปลอดภัยด้วย....
เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมง ประตูสีขาวเริ่มเปิดออก ผู้ชายสวมเสื้อขาวเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเครียด...นั่นต้องเป็นหมอแน่ๆ...ท่าทางแบบนั้น...ยิ่งไอ้หมอหัวล้านนั่นเดินออกมา...เรายิ่งรู้สึกไม่ดีมากขึ้นยังไงก็ไม่รู้สิ
“แม่เป็นไงบ้างหมอ” ฉันรีบวิ่งไปหาหมอทันทีด้วยความเป็นห่วงและความหวัง.....ขอให้ตอบว่าแม่ไม่เป็นไรทีถอะ.....
หมอหัวล้านยิ้มให้พวกเราอย่างใจเย็น ทำให้เราโล่งใจไประดับหนึ่งล่ะนะ...แต่มันจะตอบว่าอะไรล่ะ...ถ้าตอบว่า ไม่ ล่ะก็ฉันฆ่าแกแน่.......(ใจเย็นๆจ่ะหนู)
“คุณอิซายูอิอาการตอนนี้หลุดพ้นจากอันตรายแล้วครับ......”หมอพูด
เฮ่ออออออออออออออ คำพูดนี้ทำเอาเราอยากจะล้มลงกับพื้น มันโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเลยแฮะ  แม่ปลอดภัย......เฮ่อ.........สบายใจ........นายเก่งมากไอ้หัวล้าน..... ซูฮกเลย เพราะนายคนเดียวแท้ๆ...(เพี้ยนไปแล้ว)
“แต่...ต้องรีบรักษาอย่างโดยด่วน..”หมอพูดอีก
กลับมาเครียดอีกแล้วแฮะเรา....เฮ่อ.....โรคนั้น รักษาไม่หายแล้วจริงๆเหรอเนี่ย.....โธ่เว้ย.........
ปู่เมียวกะกับจาเก็นรีบกระโดดไปหาหมอหัวล้านและพูดคุยเรื่องอาการของแม่
บ้าชิบ.......ถ้าไม่รีบไปล่ะก็.......แ ม่คงไม่รอดแน่.......แล้วทำไมที่นั่นมันดีกว่าที่ญี่ปุ่นกันล่ะ? มือฉันกำแน่นและเปียกอีกครั้งนึง....เราทำอะไรไม่ได้เลยเหรอไง?
เส็ตโชมารุยังทำหน้าตายแต่ก็ดูออกเลยว่าโล่งใจล่ะนะ แต่ฉันไม่เลย.....
“เราต้องรีบ.............ไปนิวยอร์คแล้ว......................” เส็ตโชพูดจบก็หันหลังเดินออกจากแถวๆนั้นไป......
นี่เป็นครั้งแรก......ที่ฉันเห็นด้วยกับนาย.......ไอ้ขี้เก๊ก........
จบ
ดราม่าหน่อยๆปะ (นี่น่ะนะดราม่า เว่อร์ละ)
*********ฉันของอินุยาฉะ*******
ฟุตบอลแมทช์สำคัญดันมีก่อนสอบวันพรุ่งนี้ หนังสือหนังหาก็ไม่อ่าน การบ้านก็ดองไว้เต็มเลย ช่างมันเหอะ ตอนนี้กำลังลุ้นอยู่ ไอ้เรื่องพวกนี้ไว้คิดทีหลัง.......
“และก็เข้าแล้วครับ 2-0!!!!!!!” เสียงทีวี
“โถ่เว้ยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!” ล้มลงไปกับเตียงเลยเรา
อยากจะบ้าตายยยยยยยยยยยยยย มันยิงเข้าอีกแล้ววววววว ทำไงดีวะเนี่ย ก็ต้องลุกขึ้นมาดูทีวีต่อน่ะสิ มันนำไปสองประตูแล้ว... อย่างงี้จ่ายเละแน่  โอยยยย ปวดหัว ทำไงดี พนันกับมิโรคุไว้ ถ้าแพ้เราจ่ายเละไม่เหลือแน่.... แต่มันอาจจะนำก็ได้นี่น่า เอ่า ดูต่อๆๆ แต่ว่า......พนันกับหมอนั่นไม่เคยชนะเลยซักครั้ง
“เออ....ยิง....” ฉันพล่ามอยู่คนเดียวและยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทีวีเพื่อดูให้ชัด
“ก๊อก ก๊อก... อินุยาฉะ? แม่เข้าไปได้มั้ยจ้ะ?” หา เสียงแม่เหรอ เฮ้ย ดันมาตอนที่กำลังลุ้นอยู่ อยากจะเปิดอยู่หรอกนะ... แป๊บนึง....... เฮ้ย!!!! ยิงไม่เข้าอ๊ากกกกกกกกกกกกก
“ก๊อกๆ อินุยาฉะจ้ะ?” แม่เคาะมาอีกแล้ว แม่ง นำไป 3-0 แล้ว ทำไงดี อย่าบอกนะว่าต้องจ่ายจริงๆเนี่ย
ฉันเดินไปเปิดประตูให้แม่โดยสายตาไม่ละจากทีวีเลย
แม่เดินไปนั่งที่โซฟาตัวโปรดในห้องอย่างเรียบร้อย... นั่งไหนก็นั่งไปเหอะ กำลังลุ้นอยู่......เมื่อไหร่มันจะยิงเข้าวะเนี่ย......อ๊ากกกกกกก
“ดึกแล้วนะลูก พรุ่งนี้มีสอบครั้งสุดท้ายด้วยนี่นา...”แม่พูดพลางถอนหายใจ เออ อย่าเพิ่งน่า....อย่าเพิ่ง...มันจะ....มันจะ!!!!!!!!!!!!
“เข้าแล้วคร้าบบบบ 3-1!!!!!!!!!” โอ้หม่ายก๊อด เสียงจากสวรรค์ประทานลงมาจากฟ้า (เว่อร์)
“โอ้ววววววววววววววววววว”  ในที่สุดมันก็เข้าแล้วครับ ยิงเข้าแล้วคร้าบบบบบบบบบบ
“หัดขยันอ่านหนังสือเหมือนพี่เขาบ้างสิ...” เสียงแม่ดังมาจากโซฟา เหมือน “พี่เขา” งั้นเหรอ?..... ไม่รู้ทำไมหูเรากระดิกไปเอง “พี่เขา” ที่ว่านี่มันเส็ตโชมารุใช่มั้ย? (ก็แหงอยู่แล้วสิฟะ) ไม่ชอบเลยที่เอาเราไปเทียบกับมัน ไม่ชอบมากๆเลยจริงๆ บอกตรงๆว่าน้อยใจหน่อยๆ.... เชอะ...ใครจะไปเก่งทุกอย่างเหมือนมันเล่า... ช่างมันเหอะ...ดูทีวีต่อดีกว่า
ฉันสังเกตุวาแม่มองรอบๆห้อง และทำท่าทางไม่พอใจในแบบของแม่ ก็นะ ห้องเรามันออกจะรก...ช่วยไม่ได้... และแม่ก็เดินมานั่งข้างๆฉันบนเตียงนอนอย่างสุภาพ...แม้แต่มานั่งข้างๆลูกชายอย่างเรายังต้องทำสุภาพเลยคิดดู... ไม่เข้าใจเลยว่าแม่จะมาหาตอนดึกๆที่เราห้องทำไม เพราะปกติแม่ไม่เคยเข้ามาในห้องแบบนี้ลย แถมนี่มันก็ตีสี่แล้วด้วย...เป็นปกติแม่นอนหลับปุ๋ยไปนานแล้ว 
อยู่ๆแม่ก็มองที่ฉัน อ่า...มองไมหว่า...มีอะไรจะพูดกะเรางั้นเหรอ? ละสายตาจากทีวีซักักไปมองหน้าแม่ดีกว่า เอ่...ทำไมหน้าตาแม่ดูซีเรียสจัง? จริงจังมากๆเลย.. เกิดอะไรขึ้นนะ? ทำเอาเราจริงจังไปด้วยเลยนะเนี้ย
“...ขยันอ่านหนังสือได้แล้วนะลูก...” แววตาและน้ำเสียงของแม่จริงจังมาก ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องจริงจังขนาดนี้...แต่เรารู้สึกว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ ปกติแม่ไม่เคยพูดอย่างงี้กับเราเลย ไม่ค่อยเห็นแม่มีสีหน้าอย่างงี้มาก่อน แม่เป็นอะไรไปนะ? ฉันไม่ได้พูดอะไรและรอให้แม่พูดต่อ มันต้องมีอะไรแน่....แม่ทำสีหน้าเครียดมากกว่าเดิม...
“แม่คุยกับพี่ชายลูกแล้ว.......” สีหน้าเครียดมากๆเลย...คุยอะไรกับไอ้นั่น?..
“คุย?....” แม่มองต่ำ และเอามือผอมเรียวมาจับมือฉัน มือของแม่อบอุ่นแต่ก็มีไอเย็นอยู่นิดหน่อย แม่ยิ้มเศร้าๆ..... ฉันรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที แม่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย.....
__________________________________________________________________
ฉันของคาโงเมะ
“อรุณ...สวัสดิ์.......แฮ้กๆๆๆ” ฉันเปิดประตูห้องเรียนอย่างรวดเร็ว ก็เหมือนทุกๆวันน่ะแหล่ะ... เออว่าแต่ก็โมงแล้วนะ?
7:58 กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด มาทันนนนนนนนน ทันตั้งสองนาทีเชียวนะ เฮ่อออออออออ เหนื่อยจัง...เดินไปนั่งดีกว่า...ทำแบบนี้ก็ไม่ไหวแฮะ ทำจนเป็นรูทีนไปแล้ว ซึ่งก็เป็นรูทีนที่ห่วยแตกเอามากๆเลย
“ไง คาโงเมะ ติวสอบยัง”ซังโกะจังเดินมาหาฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม...ต่างจากใบหน้าของฉันอย่างลับลิบ ยังจะมาถามอีก...คนอย่างฉันน่ะนะจะติวสอบ แม้แต่สอบครั้งสุดท้ายของม.5เราก็ไม่คิดจะติว ฉันยิ้มกลับไปอย่างความหวังริบหรี่ ซังโกะเหงื่อตกทันที แต่ไม่เป็นไรหรอก อินุยาฉะก็คงจะไม่ติวเหมือนกันน่ะแหละ
พอฉันหันไปที่โต๊ะข้างๆ....
เห็นอินุยาฉะใส่แว่นตาอ่านหนังสืออย่างเคร่งครัดมีหนังสือตั้งไว้ที่โต๊ะเป็นสิบๆเล่ม ไม่น่าเชื่อ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! อึ้งครับอึ้ง มันยังไงอยู่นะ มัน....ผิดปกติ.........เพราะถ้าเป็นปกติมันจะหลับปุ๋ยอยู่ที่โต๊ะ.....แต่นี่.......
“เขาห้องปุ๊บก็มัวแต่ขยันอ่านอยู่อย่างงี้อ่ะแหละ....แถมมาคนแรกอีกต่ะหาก” ซังโกะพูด โอ้ว..ไม่น่าเชื่อ มันเป็นไปได้ไง อินุยาฉะเปี๊ยนไป๋!!!!!!
“ครืดดดดดดดดด”เสียงประตูห้องเลื่อน
ทุกคนในห้องรีบกลับไปนั่งที่ของตัวเองทันที ก็แหม...จะใครที่ไหน ยัยครูคาเอเดะมันมาแล้วไงล่ะ น่ากลัวเป็นบ้า...ทุกคนในห้องรีบเก็บของรอบๆตัว และหยิบดินสอปากกายางลบออกมาวางไว้บนโต๊ะแทน ฉันก็ด้วย...
“รู้กฎดีมาก....” คุณครูพูด
คุณครูที่คุมห้องหนึ่งอย่างห้องนี้ได้ก็มีแต่ครูคาเอเดะเท่านั้น  แม่งโหดชิบ... ชั้นล่ะอยากจะจบ ม.5เร็วๆจังเลย จะได้เรียนกับครูคนอื่นแทน..เกลี๊ยดเกลียดยัยครูคาเอเดะบ้า.....
ยัยป้าคาเอเดะแจกชีทข้อสอบ.......อ่อย.........วิชาเลขอ้ะ.......โอยยยย  ใจฉันครึ่งนึงก็ไม่อยากสอบ อีกครึ่งก็อยากสอบแฮะ.. พอครูแจกข้อสอบเสร็จก็เดินวนรอบๆห้องให้เสียวหลังกันเล่นๆ... อย่างงี้จะลอกได้มะเนี้ย...มันลอกไม่ได้อ่า แต่ว่าคนที่ลอกด้วยได้และทำเนียนที่สุดคงจะมีแต่เจ้าอินุยาฉะนั้น
พอจะหันไปขอความช่วยเหลือ....เปลี่ยนใจดีกว่าแฮะ อินุยาฉะตั้งหน้าตั้งตาทำสอบอย่างเต็มที่ ถ้าเป็นปกติจะลุกลี้ลุกลนถามคนข้างแล้วแท้ๆนี่นา.... มันไม่แปลกหรอกนะแต่ว่า..ทำไมถึงดูจริงจังขนาดนี้นะ? มองไปมองมา..มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรขาดหายไป.... อะไรบางอย่างขาดหายไปในตัวอินุยาฉะ สิ่งที่ขาดหายไปมันคืออะไรนะ?
__________________________________________________________________
*******ฉันของอินุยาฉะ*********
เลิกเรียน
“ไง อินุยาฉะ” เสียงใครอะ คุ้นๆ รู้สึกจะดังมาจากร้านอาหารร้านนั้นนี่? หันไปตามเสียงเจอแล้ว......เจ้ามิโรคุเรียกนั่นเอง  กำลังนั่งกินข้าวอยู่เลยนี่ อืม........กินข้าวอย่างมีความสุขซะด้วย........ไม่รู้ทำไมหูเรามันก็กระดิกไปเอง.....สงสัยด้วยความหงุดงิดมั้งเนี่ย.......... ก็มันเล่นกินข้าวกับไอ้เวรโคงะนั่น......... กับกลุ่มโคงะอีกสิบยี่สิบคน
“ไร.....” มันถามมาก็ตอบไป..... หงุดหงิดมากกว่าเดิม......พอจ่ายปุ๊บก็มาเลี้ยงข้าวคนอื่นปั๊บ......แถมเลี้ยงไอ้แก๊งนักเลงหัวไม้พวกนั้นอีก....... เป็นเพื่อนที่ดีมากไอ้มิโรคุ ยิ่งมองแล้วยิ่งหงุดหงิด ดันมาทำแบบนี้ต่อหน้าเราทั้งที่เรายังอยู่ในอารณม์ช็อกแบบนี้.......สิ่งที่แม่พูดเมื่อวานนี้.........ฮ่วย หงุดหงิด!! ฉันเดินจ้ำอ้าวต่อไปทันที
******ฉันของมิโรคุ*******
งงตึ๊บ......งงกันทั้งโต๊ะ......มันงอนกันขนาดนี้เลย?  ถึงนิสัยแบบนี้จะเป็นปกติของมันอยู่ก็เถอะ......แต่มันเหมือนมีอะไรที่ขาดๆไปบางอย่าง ไม่รู้สิ เราคิดไปเองรึปล่าว?
“สงสัยหงุดหงิดที่แพ้พนัน” โคงะพูดและกินราเม็งคำใหญ่.......นังเลงก็คือนักเลงวันยังค่ำล่ะน้า...ไม่มีมารยาทเอาซะเลย...... แต่ว่า มันตะหงิดๆยังไงไม่รู้สิ กับเจ้าอินุยาฉะเนี่ย.....
*******ฉันของอินุยาฉะ********
เดินจ้ำอ้าวมาถึงบ้านแล้วเหรอเรา เร็วดีแฮะ......เฮ่ออออออออ หงุดหงิดๆๆๆๆๆๆ มันสมควรที่จะหายแล้วล่ะแต่.... ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ มันเซ็งๆ... ฉันโยนเป้ที่ดำลงพื้นและทิ้งตัวลงบนโซฟา... มองเพดานว่างเปล่าสีขาว ทำไมในใจเรารู้สึกแปลกๆ? ไม่ใช่เรื่องของมิโรคุ....มันเรื่องอะไรกันนะ? และฉันก็คิดเรื่องเพ้อเจ้อของฉันนาน......
สอบก็ทำได้......ทุกอย่างก็ดีไปหมด.....ชีวิตเหมือนเดิม.......แต่ทำไม.......
คิดไม่ออกว่าทำเราถึงได้สับสนขนาดนี้... เพราะทุกอย่างในชีวิตเรามีแต่ความราบรื่น แน่เหรอ? ฉันหลับตาและคิดอะไรมั่วๆต่อไป
“เพล้ง!!” เสียงจานแตกมาจากหลังบ้าน
ฉันหลุดจากความคิดบ้าบอนั่นและลุกขึ้นมาทันที พวกแม่บ้านทำจานแตกอีกล่ะสิเนี่ย?
“คุณนายคะ?....คุณนาย...??????” เสียงแม่บ้านพ่อบ้านดังมาจากหลังบ้าน และก็มีเสียงเร่งฝีเท้าไปที่หลังบ้านด้วย
เฮ้ย...มันต้องมีอะไรแน่เลย คุณนาย....? งั้นก็แม่น่ะสิ!!!! ฉันรีบเร่งฝีเท้าไปที่หลังบ้านทันที ...มันเกิดอะไรขึ้น?????
“ใครก็ได้ไปเรียกรถพยาบาลมาเร็วเข้า!!!!!!!!!” เสียงของปู่เมียวกะดังมาจากครัวระหว่างที่เรากำลังวิ่งไป
รถพยาบาล???? หรือว่า??? แม่!!!!! ......เครียดชะมัดเลย...............
ในที่สุดก็ถึงครัวซะที......ความเครียดเพิ่มขึ้นมาเป็นทวีคูณ... เมื่อเห็นแม่นอนสลบไสลกองอยู่กับพื้น...... หน้าตาสวยสดใสของแม่เปลี่ยนไป...ริมฝีปากซีดเซียว... แม่ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เหงื่อเริ่มแตก มือเปียกไปหมด ต้องรีบวิ่งไปดูแม่.......
“แม่.........แม่..........แม่!!!!!!!!!!”เขย่าเท่าไหร่แม่ก็ไม่ยอมตื่น.........
__________________________________________________________________
โรงพยาบาล
ปวดหัว.....เครียด.......กังวล........... รีบมาโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.....ตอนนี้ทุกคนนั่งรออยู่หน้าประตูสีขาวอย่างเป็นห่วง.......รวมถึงเจ้าเส็ตด้วย....มันนั่งเอามือกุมหน้าผากอย่างกังวล....
เครียดชะมัด...ช็อกเลยนะเนี่ยกับสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเนี่ย.... บ้าเอ๊ย...ถ้าเกิดแม่..ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด มือฉันกุมกันตลอดเวลา เหงื่อชุ่มมือด้วยความกังวล..... หน้าผากของฉันไปแต่มือที่กุมอยู่โดยไม่รู้ตัว.....ขอร้องล่ะ........ขอให้แม่ปลอดภัยทีเถอะ.....ขอให้แม่ไม่เป็นไรที่เถอะ.......
เจ้าเส็ตยังหน้าตายเหมือนเดิม แต่ว่าดูออกเลยว่ากังวลมากขนาดไหน...พอถึงเวลาแบบนี้ทีไรฉันเกลียดมันไม่ลงเลยจริงๆ.. รอบๆนี้เงียบมาก ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยกันเลย ทุกคนล้วนแต่จ้องมองประตูสีขาวอย่างมีคามหวังเท่านั้น...ขอร้องล่ะ.....ขอให้แม่ปลอดภัยด้วย....
เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมง ประตูสีขาวเริ่มเปิดออก ผู้ชายสวมเสื้อขาวเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเครียด...นั่นต้องเป็นหมอแน่ๆ...ท่าทางแบบนั้น...ยิ่งไอ้หมอหัวล้านนั่นเดินออกมา...เรายิ่งรู้สึกไม่ดีมากขึ้นยังไงก็ไม่รู้สิ
“แม่เป็นไงบ้างหมอ” ฉันรีบวิ่งไปหาหมอทันทีด้วยความเป็นห่วงและความหวัง.....ขอให้ตอบว่าแม่ไม่เป็นไรทีถอะ.....
หมอหัวล้านยิ้มให้พวกเราอย่างใจเย็น ทำให้เราโล่งใจไประดับหนึ่งล่ะนะ...แต่มันจะตอบว่าอะไรล่ะ...ถ้าตอบว่า ไม่ ล่ะก็ฉันฆ่าแกแน่.......(ใจเย็นๆจ่ะหนู)
“คุณอิซายูอิอาการตอนนี้หลุดพ้นจากอันตรายแล้วครับ......”หมอพูด
เฮ่ออออออออออออออ คำพูดนี้ทำเอาเราอยากจะล้มลงกับพื้น มันโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเลยแฮะ  แม่ปลอดภัย......เฮ่อ.........สบายใจ........นายเก่งมากไอ้หัวล้าน..... ซูฮกเลย เพราะนายคนเดียวแท้ๆ...(เพี้ยนไปแล้ว)
“แต่...ต้องรีบรักษาอย่างโดยด่วน..”หมอพูดอีก
กลับมาเครียดอีกแล้วแฮะเรา....เฮ่อ.....โรคนั้น รักษาไม่หายแล้วจริงๆเหรอเนี่ย.....โธ่เว้ย.........
ปู่เมียวกะกับจาเก็นรีบกระโดดไปหาหมอหัวล้านและพูดคุยเรื่องอาการของแม่
บ้าชิบ.......ถ้าไม่รีบไปล่ะก็.......แ ม่คงไม่รอดแน่.......แล้วทำไมที่นั่นมันดีกว่าที่ญี่ปุ่นกันล่ะ? มือฉันกำแน่นและเปียกอีกครั้งนึง....เราทำอะไรไม่ได้เลยเหรอไง?
เส็ตโชมารุยังทำหน้าตายแต่ก็ดูออกเลยว่าโล่งใจล่ะนะ แต่ฉันไม่เลย.....
“เราต้องรีบ.............ไปนิวยอร์คแล้ว......................” เส็ตโชพูดจบก็หันหลังเดินออกจากแถวๆนั้นไป......
นี่เป็นครั้งแรก......ที่ฉันเห็นด้วยกับนาย.......ไอ้ขี้เก๊ก........
จบ
ดราม่าหน่อยๆปะ (นี่น่ะนะดราม่า เว่อร์ละ)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น