คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : THE ROOMMATE - 07
“…นายรู้จักกับพี่ลู่หานด้วยหรอ”
“ก็…” เซฮุนขมวดคิ้วให้กับคำถามชานยอลเล็กน้อย แล้วกำลังจะตอบออกมา แต่ประตูห้องที่อยู่ด้านหน้าของตัวเองถูกเปิดออกซะก่อน ทำให้ร่างสูงต้องหันไปสนใจคนที่กำลังเปิดประตูเข้ามาแทน
“อ้าวเซฮุน กูก็นึกว่ามึงไปไหน เมื่อกี้วิ่งไปหาที่ห้องแล้วไม่เจอ” แบคฮยอนพูดพร้อมกับหอบออกมาเล็กน้อย แล้วก็มีเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ทำให้เซฮุนตกใจนิดหน่อยก่อนจะถามกลับไป
“มึงมีอะไร ทำไมรีบขนาดนี้”
“จงแด เมื่อกี้กูไปมินิมาร์ทมา จงแดขี่จักรยานล้มแล้วกำลังรอรถพยาบาลมาอยู่ กูจะบอกให้มึงไปดูหน่อย”
“ห้ะ แค่จักรยานล้มแล้วถึงกับเรียกรถพยาบาลเลยหรอ”
“ไม่ คือมันล้มแล้วหัวทิ่มลงคลองอ่ะ ไม่รู้โดนตัวอะไรกัดตัวพองไปหมดแล้ว”
“อ้าวฉิบหายละ งั้นกูไปละ ไปก่อนนะชานยอลไว้คุยกันใหม่” เซฮุนพูดพร้อมกับทำหน้าตกใจ ก่อนจะลาเพื่อนทั้งสองคนแล้วรีบวิ่งออกไปทันที
แบคฮยอนมองตาหลังเซฮุน ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลงอย่างเบามือ เมื่อเดินเข้ามาในห้อง คนตัวเล็กก็ต้องแปลกใจกับสายตาของรูมเมทที่ส่งมาทางเขาอย่างผิดปกติ
“…ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ”
“ปกตินายพูดกูมึงกับแฟนหรอ”
“…” แบคฮยอนอ้าปากเหวอให้กับคำถามของชานยอล ก่อนกัดปากตัวเองไว้แล้วกลอกตาไปมาอย่างไม่รู้จะตอบอะไร
“…” ชานยอลเลิกคิ้วขึ้นมองเพื่อรอคำตอบของคนตัวเล็ก ทำให้คนที่โดนจ้องอยู่นั้นขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขัดใจเพราะยังคิดคำตอบไม่ได้
“คือ…”
เสียงเพลงจังหวะหนักดังก้องไปทั่วทั้งห้อง
“ช่วยลดเสียงลงหน่อยได้ป้ะ” คนตัวเล็กทักท้วงขึ้นมาในขณะที่กำลังนั่งทำรายงานอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ
“ไม่”
“จงอิน”
“ฟังไปเถอะน่าคยองซู สนุกดีออก” จงอินที่นอนเฉยๆอยู่บนเตียงตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเบื่อ
“แต่ฉันไม่สนุกด้วย ฉันทำงานไม่รู้เรื่องแล้ว”
“งั้นก็พักก่อนสิ”
“ไม่พักมันละ เลิกเลยดีกว่า ที่เหลือนายก็ทำเองละกัน ฉันทำให้ไปเกือบเสร็จแล้ว” ว่าแล้วคยองซูก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายเตรียมจะออกจากห้องทันที
“เดี๋ยวดิปิดละ ๆ” จงอินรั้งแขนเล็กของคยองซูเอาไว้ ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดเพลงที่ยังคงเสียงดังไม่หยุดอยู่
“…” คยองซูมองจงอินแล้วถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิม
“ฉันยังไม่มีอารมณ์ทำ ถ้านายปล่อยให้ฉันทำเองพรุ่งนี้ฉันคงไม่มีงานส่งแน่”
“เลิกไร้สาระเถอะ มาเรียนนะไม่ได้มามีเรื่องกับคน ทำไมต้องไปอารมณ์เสียกับเมทแบคฮยอนขนาดนั้นด้วย”
“ก็มันเริ่มก่อน”
“แน่ใจหรอ” คยองซูพูดแทรกจงอินขึ้น ก่อนที่จงอินจะมองคยองซูด้วยสีหน้าที่เซ็งเอาการแล้วหันไปมองทางอื่น “ชอบแบคฮยอนรึไง”
“…ไม่ได้ชอบ แบคฮยอนก็แค่น่ารักดี อยู่ด้วยแล้วมีความสุข”
“…”
“แต่พอเห็นไอ้ชานยอลท่าทางแบบนั้นแล้วอยากจะจูบแบคฮยอนโชว์มันตรงนั้นเลย คนอะไรแม่งน่าต่อยชะมัด”
“อ่อ ที่แท้นายก็ไปแหย่เขาเล่นแล้วก็อารมณ์เสียกลับมาซะเอง”
“มันก็อารมณ์เสียเหมือนกันไง”
“แล้วนายไปทำอย่างที่ฉันพูดจริงไหมล่ะ!” ทั้งสองคนยกคำพูดขึ้นมาเถียงกันอย่างจริงจัง แล้วก็เป็นคยองซูที่เป็นฝ่ายตะคอกจงอินให้เงียบไปอีกครั้ง “วัน ๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่นอนกับหาเรื่องใส่ตัวเอง ไม่เบื่อกับชีวิตแบบนี้บ้างรึไงจงอิน”
“…”
“นายจะทำตัวเหลวไหลแบบตอนมัธยมไม่ได้แล้วนะ การเรียนในมหาลัยน่ะถ้ายังทำตัวแบบนี้นายไปไม่รอดหรอก เรียนก็ไปไม่ค่อยทันแถมยังไม่ทบทวนที่เพื่อนเขาจดมาให้อ่านอีก”
“…”
“ไม่รู้รึยังไงว่าส่วนมากอาจารย์เอาคะแนนไปกองไว้ตรงตอนสอบ ถ้านายมัวแต่หวังพึ่งฉันให้ทำงานให้อยู่แบบนี้เกรดก็คงออกมาเละอยู่ดี”
“แล้วนายมาทำให้ฉันทำไมล่ะ! ปล่อยให้มันเละไปทั้งหมดเลยสิถ้ามันเป็นภาระนายขนาดนั้น” จงอินเงยหน้าขึ้นไปจ้องคยองซู ก่อนจะตะคอกกลับไป
คยองซูมองหน้าจงอินอย่างเหลืออด แล้วเดินไปกระชากแขนร่างสูงขึ้นมาจากเตียง “มานี่”
“อะไรของนายน่ะ!” จงอินเซไปตามแรงดึงของคยองซู แล้วโดนคนตัวเล็กผลักให้นั่งลงที่โต๊ะเขียนหนังสือที่มีงานกองอยู่เต็มไปหมด
“ทำให้มันเสร็จเรียบร้อย ถึงเวลาที่นายต้องช่วยตัวเองจริง ๆ แล้ว ก็คงไม่มากมายเท่าไหร่หรอก ฉันเคลียร์ไว้ให้แล้วส่วนหนึ่ง”
“…”
“ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็อ่านในนี้” คยองซูพูดพร้อมกับหยิบสมุดในกระเป๋าของตัวเองมาวางบนโต๊ะให้จงอิน
“…นายจะไม่ช่วยฉันแล้วจริง ๆ หรอ”
“ลองทบทวนคำพูดตัวเองดูสิ”
“…”
“ฉันเคยพูดหรอว่านายเป็นภาระฉัน เคยบอกรึไงว่าฉันไม่อยากทำให้นาย แต่เพราะนายดูถูกน้ำใจฉันแบบนั้นแหละฉันถึงต้องทำแบบนี้”
“…”
“บางทีฉันก็อาจจะมีส่วนผิดที่คอยทำทุกอย่างให้นายจนนายไม่ได้สนใจจะกลับมาพึ่งตัวเองอีก เรื่องนี้ก็ขอโทษละกัน ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทำให้นายเคยตัวอีก”
“…คยองซู”
“ตลอดเวลาสามปีกว่ามานี้คิดว่าฉันไม่เหนื่อยรึไง ฉันเหนื่อยมากเลยแหละ แต่ที่มันแย่ไปมากกว่านั้นคือการที่ต้องเห็นนายเหลวไหลขึ้นเรื่อย ๆ ฉันเลยต้องคอยช่วยนายแบบนี้ไง เพราะกลัวว่านายจะคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ให้ตัดเกรด กลัวว่านายจะไม่มีงานส่ง กลัวว่านายต้องกลายเป็นแกะดำในห้องที่มีแต่คนเรียนเก่ง ฉันผิดเองแหละที่ไม่เคยเด็ดขาดกับนาย แต่วันนี้ฉันคงต้องทำให้ได้จริง ๆ”
“…”
“สู้กับตัวเองให้ได้นะ ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยก็บอก แต่ฉันคงไม่ได้ช่วยนายแบบเดิมที่เคยทำตลอดหรอกนะ” คยองซูพูดในขณะที่ดวงตาตาเริ่มแดงก่ำเข้าไปทุกที ก่อนที่จะจับสายกระเป๋าขึ้นมาสะพายเช่นเดิมแล้วหันหลังให้กับจงอิน
“คยองซู” จงอินรั้งแขนของเพื่อนตัวเล็กเอาไว้
“…”
“ฉันขอโทษ” จงอินลุกขึ้นมายืนข้างๆคยองซู ก่อนจะขอโทษออกไปอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไร”
“อยู่กับฉันก่อนนะ ฉันจะทำทั้งหมดให้เสร็จวันนี้เลย”
“ฉันปวดหัว อยากกลับไปนอนห้องแล้ว”
“…”
“พรุ่งนี้ตื่นให้เร็ว ๆ ด้วยล่ะ ฉันอาจจะไม่ได้มาปลุกนาย ฉันไปก่อนนะ” พูดจบแล้วคยองซูก็แกะมือของจงอินออกแล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้จงอินยืนรู้สึกผิดในห้องคนเดียวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ตั้งแต่เป็นเพื่อนกับคยองซูมา จงอินไม่เคยเห็นคยองซูเป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดยาวๆที่เอาแต่โทษตัวเองแบบนั้น หรือว่าสีหน้าที่เหมือนกำลังจะร้องไห้แบบที่คนตัวเล็กเพิ่งเป็นเมื่อกี้ จะมีก็แต่คำพูดที่คอยกระแทกแดกดันที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร กับการที่คอยบ่นให้เขาเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น แต่คยองซูก็ไม่เคยปริปากพูดเรื่องที่เหนื่อยเพราะคอยช่วยเหลือเขาเลย
คยองซูถ้ามองเผิน ๆ แล้วดูเหมือนจะเป็นคนที่เงียบมากสำหรับคนอื่น ก็มีแต่จงอินนี่แหละที่มีโอกาสได้รู้จักหลาย ๆ มุมของคน ๆ นี้ และวันนี้จงอินก็ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของคยองซู มุมที่ทำให้เขาต้องรู้สึกผิดแล้วคิดอยากจะเปลี่ยนนิสัยแย่ ๆ ของตัวเองขึ้นมา…
เวลาผ่านไปกว่าสองชั่วโมง ตอนนี้เซฮุนก็ยังนั่งหาวอยู่หน้าห้องฉุกเฉินรอจงแดอยู่
“เมื่อไหร่จะออกมาวะ ถึงตายปะเนี่ย” ร่างสูงบ่นอุบอิบแล้วคอพับลงไปกับพนักเก้าอี้ก่อนจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็เป็นแบบนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ จนมีพยาบาลเดินออกมาจากห้อง
“อ้าวคุณ ยังไม่ไปอีกหรอคะ”
“ห้ะ ไปไหนครับ เพื่อนผมยังไม่ออกจากห้องเลย” เซฮุนตอบออกไปด้วยสีหน้ามึน ๆ
“เอ๊ะ เพื่อนคุณนี่คุณจงแดใช่ไหมคะ คือเราเข็นเตียงคุณจงแดไปห้องธรรมดาเป็นชั่วโมงแล้ว คุณไม่เห็นหรอคะ”
“ไม่…ไม่ครับ”
“งั้นตอนนั้นคุณคงหลับ ตอนเดินเข้าไปในห้องฉันก็เห็นคุณคอตกหลายรอบอยู่ งั้นก็ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ปลุก นึกว่ารู้แล้วแต่กำลังนั่งทำอะไรอยู่” พูดจบแล้วพยาบาลก็โค้งหัวให้เซฮุนเล็กน้อย ก่อนจะก้าวขาเดินไปต่อ
“เอ่อเดี๋ยวก่อนครับ!” เซฮุนที่กำลังทำหน้างงกับตัวเองอยู่เรียกพยาบาลคนเดิมไว้
“…คะ?”
“ตกลงเพื่อนผมโดนอะไรมาอ่ะถึงเป็นแบบนี้”
“แพ้สารเคมีหลาย ๆ ชนิดที่มีคนปล่อยลงคลองน่ะค่ะ คุณหมอจัดการให้หมดแล้ว ให้คุณจงแดนอนพักที่นี่สองวันเดี๋ยวก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ ส่วนห้องที่คุณจงแดอยู่เดินไปทางซ้ายมือห้องสุดท้ายนะคะ”
“อ่อ ขอบคุณครับ” เซฮุนขอบคุณแล้วก้มหัวลงเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วขยี้หัวหัวตัวเองอย่างนึกอารมณ์เสีย
แล้วกูมานั่งรอใครเป็นชั่วโมงวะเนี่ย !
หลังจากนั้นเซฮุนก็เดินออกมาจากบริเวณนั้นแล้วตรงไปยังห้องที่จงแดพักอยู่ทันที
“ฉันเจ็บอ่ะ โอ๊ย”
“เดี๋ยวก็หายแล้ว กินยาที่หมอสั่งให้ครบด้วยอย่าดื้อล่ะ”
“นายก็อยู่คุมฉันสิ จะไม่ดื้อจะยอมทุกอย่างเลย”
ทันทีที่เดินถึงหน้าห้อง ภาพที่เซฮุนเห็นผ่านกระจกช่องเล็ก ๆ ที่อยู่บนประตูคือภาพของจงแดที่กำลังอ้อนมินซอกอยู่ ทั้งคู่ดูน่ารักมาก ทำเอาเซฮุนไม่อยากจะเข้าไปขัดให้เสียบรรยากาศ จึงลงไปนั่งลงเก้าอี้ที่อยู่หน้าห้องแทน
ร่างสูงนั่งยิ้มคนเดียวอยู่สักพักก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา นิ้วเรียวเลื่อนหน้าจอไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่รูปหนึ่ง รูปของลู่หาน…
เซฮุนจดจ่อกับรูปนี้พักใหญ่ก็คลี่ยิ้มออกมาอีกครั้ง พอได้นึกถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่กับลู่หาน
“ปกติคุณทำอาหารกินเองตลอดเลยหรอ”
“ประมาณนั้นแหละ ตอนอยู่บ้านพ่อแม่ก็ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเท่าไหร่ แต่จะชอบซื้อของมาติดตู้เย็นไว้เยอะก็เลยลองผิดลองถูกดู สุดท้ายก็ทำเป็นเฉยเลย แม่ยังบอกว่าทำอร่อยกว่าแม่อีก ฮ่าๆๆ”
“อย่างงี้แม่ก็คงใช้ทำให้กินทุกวันเลยอ่ะดิ”
“ไม่อ่ะ ฉันขี้เกียจจะตาย ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่บ้านแล้ว ออกมาอยู่คอนโดคนเดียว เมนูส่วนใหญ่ก็เป็นรามยอนอ่ะ นาน ๆ จะทำกับข้าวกินที”
“เก่งจังเลย อย่างงี้ใครได้เป็นแฟนโคตรโชคดีเลยอ่ะ”
“ก็นะ ไม่รู้ว่าพี่นายจะคิดแบบนั้นรึเปล่า” ลู่หานพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมา ทำให้เซฮุนต้องกังวลใจอีกครั้งในคำพูดของตัวเองที่มันเชื่อมโยงไปถึงคริสได้ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“…คิดดิ ต้องคิดอยู่แล้ว เออนี่แล้วคุณจะกลับคอนโดยังไงหรอ”
“นั่งแท็กซี่กลับน่ะ”
“ให้ผมไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันกลับคนเดียวได้”
“เถอะน่า ถือเป็นค่าตอบแทนที่วันนี้ผมกินของที่คุณทำไว้ละกัน อีกอย่างมันอันตรายนะไปไหนมาไหนคนเดียวกลางดึกแบบนี้”
“…”
“นะครับ” เซฮุนพูดพร้อมกับทำหน้าอ้อนใส่ลู่หาน ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับหัวเราะเบา ๆ ออกมาก่อนจะพยักหน้าตอบตกลงไป
ทั้งสองคนช่วยกันล้างจานหลังจากที่เซฮุนกวาดอาหารไปแทบเรียบ ก่อนจะออกจากห้องแล้วลงไปยังที่จอดรถเพื่อกลับคอนโดของลู่หานต่อไป
เมื่อเดินมาถึงรถปอร์เช่ 356A สีดำวาว เซฮุนก็จัดการล้วงหากุญแจจากในกระเป๋ากางเกงทันที แต่กลับพบว่ากุญแจรถไม่ได้อยู่ในนี้ ร่างสูงจึงสลับข้างกับล้วงหาในกระเป๋าเสื้ออย่างลุกลี้ลุกลน
“มีอะไรหรอเซฮุน”
“คือ…กุญแจรถผมหายไปไหนไม่รู้อ่ะ”
“เฮ้ย หาดีรึยัง มันหล่นอยู่บนห้องรึเปล่า”
“ผมไม่รู้อ่ะ เฮ้ย เดี๋ยวนะครับ” เซฮุนรีบไปยืนหน้ากระจกรถแล้วหยิบมือถือขึ้นมาส่องไฟเข้าไปในรถ หลังจากที่เห็นว่ามีวัตถุบางอย่างคล้ายกุญแจรถของตัวเองอยู่ตรงเบาะคนขับ
“มีอะไรน่ะ”
“แม่งเอ๊ย…”
“…” ลู่หานเลิกคิ้วขึ้นเพราะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะเดินไปอยู่ข้างเซฮุนแล้วก็มองผ่านกระจกรถเข้าไป
“…ผมทำมันตกไว้ในรถน่ะ”
“อ้าว แล้วนายจะกลับยังไงเนี่ย”
“ผมไม่เป็นไรหรอก กังวลเรื่องที่จะไปส่งคุณมากกว่า”
“เฮ้ยฉันไม่เป็นไร กลับเองก็ได้ นายรีบหาทางเปิดรถให้ได้เถอะ หรือไม่ก็บอกใครมารับซะ หรือว่าจะนอนที่นี่เลยก็ได้ มันดึกแล้ว”
“…ไม่เอาอ่ะ ให้ผมนั่งแท็กซี่ไปส่งคุณเถอะนะ!”
“มะ…ไม่เป็นไร ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้” ลู่หานปฏิเสธเซฮุนอีกครั้ง แต่ก็โดนเซฮุนเล่นไม้เดิมก็เลยต้องยอมตามเดิม…
“ปกติคุณไปไหนมาไหนคนเดียวบ่อยหรอ” หลังจากที่ทั้งคู่ได้ขึ้นมาบนรถแท็กซี่ เซฮุนก็เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาขึ้น
“อื้ม ก็ทำอะไรคนเดียวตลอดอ่ะ”
“แย่เลยดิ ทีหลังเวลาจะไปไหนตอนดึก ๆ ก็บอกผมละกัน เดี๋ยวจะไปส่ง”
“ไม่ต้องบริการขนาดนั้นก็ได้แหม แค่วันนี้มาส่งฉันก็เกรงใจจะแย่แล้ว นี่ตั้งใจจะเต๊าะแฟนพี่ตัวเองรึไง”
“อืม… อะไรประมาณนั้นมั้ง”
“ตลกละ”
“ฮ่าๆๆๆๆ ผมก็พูดเล่นไปงั้นแหละ”
ทั้งคู่คุยกันอย่างสนุกสนานจนแทบจะหมดเรื่องคุย จนรถแท็กซี่แล่นมายังแยกหนึ่ง ข้างหน้ามีอุบัติเหตุเลยทำให้รถติดยาวเหยียดอยู่เป็นชั่วโมง
“…” เซฮุนมองลู่หานที่กำลังหลับตาลงแล้วเอนไปยังพนักของรถ ก่อนที่จะคอตกเป็นพัก ๆ ร่างสูงยิ้มออกมาก่อนจะค่อยขยับตัวเข้าไปให้ชิดลู่หาน และหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ศีรษะของลู่หานก็ซบลงที่ไหล่เขาไป
“ไปง่วงมาจากไหนเนี่ย” เซฮุนพึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะมองเสี้ยวหน้าของลู่หานที่ซบอยู่บนไหล่ของตัวเองอย่างไม่ยอมละไปไหน
พอปล่อยให้เวลาผ่านไปอยู่พักใหญ่ เซฮุนก็ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา แล้วจัดการเก็บภาพของลู่หานที่กำลังหลับเอาไว้
คนบ้าอะไรขนาดตอนนอนยังน่ารัก ขอเก็บไว้หน่อยแล้วกัน…
ตอนนี้ตำรวจจราจรเคลียร์ถนนได้ปกติแล้ว และเพียงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถแท็กซี่ก็แล่นมาถึงหน้าคอนโดของลู่หาน
เซฮุนได้เดินมาส่งลู่หานถึงหน้าห้อง ก่อนที่ทั้งสองคนจะแลกเบอร์โทรกันไว้เพราะความต้องการของเซฮุน และหลังจากที่ได้เบอร์ของลู่หานแล้วเดินออกจากคอนโดไป เซฮุนก็จัดการเพิ่มภาพที่เพิ่งถ่ายไปไว้ในชื่อของลู่หานทันที
หลังจากวันนั้นมา ร่างสูงก็คิดว่าถึงแม้จะมีเบอร์โทรก็คงจะไม่ติดต่อกับลู่หานแล้ว จนกระทั่งวันนี้ตอนอยู่ในห้องของแบคฮยอน ลู่หานก็โทรหาเขาเพราะเรื่องผ้าเช็ดหน้าที่ยังไม่ได้คืน ทำเอาเซฮุนดีใจแล้วก็รู้สึกใจเต้นแรงเมื่อได้คุยกับลู่หานอีก
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าเซฮุนรู้สึกดีกับลู่หานเข้าเต็มเปาแม้เพิ่งจะรู้จักกันไม่กี่วัน แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าตัวก็ยังรู้สึกแย่ไม่น้อยที่ไปแอบคิดไม่ซื่อกับแฟนพี่ชายตัวเอง
แล้วจะให้ทำยังไง ?
“ผมขอโทษนะพี่คริส” เซฮุนพูดออกมาเบา ๆ ในขณะที่ยังนั่งอยู่หน้าห้องของจงแด ก่อนที่โทรศัพท์มือถือตัวเองจะสั่นขึ้น นิ้วเรียวยาวแตะหน้าจอดู แล้วพบว่าเป็นข้อความทางไลน์ของแบคฮยอนที่ส่งมา
21:28 BYUNBAEK : มึง
21:29 OHSAY! : ว่าไง
21:29 BYUNBAEK : กูเกือบโดนชานยอลจับได้แหนะเรื่องที่กูกับมึงไม่ได้เป็นแฟนกัน
21:29 OHSAY! : อ้าว มึงไปทำยังไงวะ ฮ่าๆๆๆๆ
21:30 BYUNBAEK : ก็ตอนที่กูเข้ามาในห้องแล้วพูดกูมึงกับมึงใส่กันปาว ๆ ไง
21:30 OHSAY! : แล้วมึงบอกชานยอลไปว่ายังไง
21:31 BYUNBAEK : กูบอกว่ากูกับมึงเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กอ่ะเลยติดพูดแบบนี้ แล้วมันก็ไม่ได้ถามอะไรอีก
21:31 OHSAY! : ฮ่า ๆ เกือบไปแล้วมึง
21:31 BYUNBAEK : นั่นดิ กูเกือบไปไม่เป็นละ
21:32 OHSAY! : ลำบากเนอะ ถามจริง ๆ เหอะมาถึงตอนนี้แล้วมึงจะโกหกชานยอลต่อทำไม
แบคฮยอนอ่านข้อความจากเซฮุนแล้วไม่ตอบอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะพิมพ์ส่งกลับไปอีกครั้ง
21:36 BYUNBAEK : กูไม่รู้ว่ะ
21:38 OHSAY! : เลิกเล่นได้ละ ถ้ายังโกหกต่อไปเรื่อย ๆ แล้ววันนึงมันจับได้ระวังจะโดนโกรธเอานะ
เป็นอีกครั้งที่แบคฮยอนอ่านแต่ไม่ตอบ แต่ครั้งนี้เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังคงไม่ตอบกลับมาสักที จนเซฮุนต้องทักไปอีกรอบ
22:16 OHSAY! : มึงจำเรื่องแฟนพี่คริสที่กูเล่าให้ฟังได้ไหม
22:17 BYUNBAEK : เออจำได้ทำไม
22:18 OHSAY! : เขาชื่อลู่หาน แล้ววันนี้ตอนที่กูอยู่ห้องมึงเขาโทรมาหากู ชานยอลแม่งถามกูว่ารู้จักพี่ลู่หานด้วยหรอ แล้วทำหน้าแบบ แบบไรไม่รู้กูพูดไม่ถูก แล้วกูก็งงไง คือชานยอลก็รู้จักหรอ
22:18 BYUNBAEK : มึงจำไม่ได้หรอตอนที่ชานยอลเมาเป็นหมากลับมาตอนนั้นอ่ะ
22:18 OHSAY! : จำได้ดิ ทำไมวะ
22:19 BYUNBAEK : กูบอกมึงแล้วใช่ป้ะว่าชานยอลมันไปต่อยกับศัตรูหัวใจมันมา แล้วตอนที่หลับก็ยังเพ้อถึงชื่อคนที่มันรักด้วย คนนั้นแหละ ชื่อลู่หาน
22:19 OHSAY! : ไอ้เหี้ย
22:19 BYUNBAEK : มึงคิดอะไรออกยัง
22:20 OHSAY! : ถ้าไม่มีอะไรผิด วันนั้นชานยอลไปต่อยกับพี่คริสมา หลังจากนั้นชานยอลก็ยอมถอยออกมา แล้วตอนนี้กูก็ชอบแฟนพี่คริส สุดท้าย ชานยอลกำลังสงสัยในความสัมพันธ์ของกูกับแฟนเก่าตัวเอง
22:20 BYUNBAEK : สัดยาว โลกกลมเหลือเกิน โชคดีนะมึง
เซฮุนอ่านประโยคสุดท้ายของแบคฮยอนแล้ววางโทรศัพท์ลง ก่อนจะถอนใจออกมาแล้วพิงไปยังพนักของเก้าอี้ด้วยอารมณ์ว่างเปล่า
จะชอบใครจริง ๆ สักคนทำไมมันเรื่องเยอะขนาดนี้นะ ?
ส่วนแบคฮยอนที่อ่านข้อความของเซฮุนซ้ำไปซ้ำมาก็เก็บโทรศัพท์ลง ก่อนจะหันไปมองรูมเมทตัวสูงที่นั่งดีดกีต้าร์เล่นบนเตียงของเขาอย่างอารมณ์ดี
“จะกลับที่ตัวเองได้ยัง” แบคฮยอนกอดอกพร้อมกับถามชานยอลออกไป
“ขอเล่นต่อไม่ได้ไง หวงเตียงตัวเองหรอ” ชานยอลตอบออกมาแล้วยังคงนั่งเล่นต่อไป ก่อนที่แบคฮยอนจะเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ แล้วชวนคุยเรื่องใหม่
“เดี๋ยวนี้ดูนายอารมณ์ดีจังเลยเนอะ หายเฮิร์ทแล้วหรอ” ชานยอลหยุดดีดกีต้าร์ ก่อนจะเงียบไปสักพักแล้วหันมาตอบแบคฮยอน
“ไม่รู้ดิ หายแล้วมั้ง”
“แน่หรอ”
“ก็ดีกว่าตอนแรกมากแล้วล่ะ ไม่ค่อยรู้สึกแย่แบบนั้นแล้ว”
“ก็ดีละ”
“ชวนคุยเรื่องอะไรเนี่ย เสียบรรยากาศหมด ไม่เล่นละ” พูดแล้วชานยอลก็วางกีต้าร์ลง ก่อนจะหันหน้ามาต่อว่าแบคฮยอนอย่างไม่ได้จริงจังอะไร
“อ้าว ก็อยากรู้เฉย ๆ ฉันผิดหรอ” พอแบคฮยอนตอบกลับไป ชานยอลก็ได้แต่มองหน้าของคนตัวเล็กแล้วไม่ได้ตอบอะไรอีก แล้วสักพักก็เอนศีรษะลงไปซบที่ไหล่ของแบคฮยอน “เฮ้ยอะไรเนี่ย” แบคฮยอนพูดพร้อมกับดันตัวชานยอลออก แต่ชานยอลก็ยังเอนตัวเข้ามาทำเหมือนเดิม
“ขอซบหน่อยแปปนึง”
“ไม่โว้ย!” แบคฮยอนพยายามดันรูมเมทตัวโตออก แต่กลับโดนชานยอลกอดไว้อีกชั้น จนเจ้าตัวทนไม่ไหวแล้วยกเท้าขึ้นมาถีบใส่ตัวชานยอลเต็มแรงจนทำกระเด็นลงพื้นไป
“โอ๊ย!!!”
“เฮ๊ยฉันขอโทษ เจ็บมากไหม”
“ถามมาได้ ลงมาขนาดนี้คงไม่เจ็บหรอกมั้ง นี่คนหรือช้างวะแรงเยอะชะมัด”
“อ้าว ลองอีกสักทีมั้ยล่ะ” แบคฮยอนทำท่าจะกระทืบชานยอล แล้วชานยอลก็รีบลุกขึ้นก่อนจะวิ่งหนีแบคฮยอนไปทั่วทั้งห้อง
เวลาผ่านไปไม่นาน ทั้งคู่ก็เหนื่อยหอบแล้วมานอนตายที่เตียงของตัวเองอย่างอัตโนมัติ ถือว่าเป็นอันปิดศึกครั้งนี้ไปแต่โดยดี…
“แบคฮยอน” หลังจากที่บรรยากาศภายในห้องเงียบไปพักใหญ่ ชานยอลก็เป็นคนทำลายความเงียบนั้นโดยการเอ่ยชื่อรูมเมทตัวเล็กขึ้น
“หื้ม”
“ทำไมตอนนี้นายถึงไม่ชอบให้ฉันโดนตัวนายเลยล่ะ”
“…ฉันเคยชอบด้วยหรอ”
“โอเค…นายไม่เคยบอกฉันว่าชอบ แต่หมายถึงตอนนี้มันไม่เหมือนตอนแรกไง แต่ก่อนนายไม่เห็นตกใจหรือสะดุ้งแบบเดี๋ยวนี้เลย แถมยังทำหน้าเหมือนไม่พอใจฉันอีก”
“ไม่รู้สิ”
“ถ้าไม่ชอบก็บอกก็ได้นะ ฉันจะได้ไม่ทำอีก แต่วันนี้ที่ทำไปอ่ะไม่ใช่รู้แต่ตั้งใจจะแกล้งนะ ฉันแค่รู้สึกอุ่นใจเวลาที่ได้อยู่ใกล้ ๆ นาย รู้สึกดีที่นายคอยถามฉันตลอด ขอบคุณนะ ดีใจที่ได้รู้จักกับนาย”
“…” คนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไรอีก แล้วชานยอลก็ไม่ได้ทักมาอีกครั้ง จึงทำให้ความเงียบเข้าปกคลุมในห้องของทั้งสองคนอีกทันที
จะมีก็แค่เสียงหัวใจของแบคฮยอนเท่านั้น ที่เต้นแรงจนผิดปกติ
ฉันก็ดีใจนะ ที่สามารถทำให้นายรู้สึกดีได้
กรี๊ด ยาว T __ T 5555555555555555555555555555555555
งานเยอะมากค่ะนี่ปลีกตัวมาหาฟิคบอกเลยว่ารักการเรียนมาก 555555555555555
ตอนที่เจ็ดแล้วน้าความสัมพันธ์ในฟิคก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างละ เลิ้บ
มีข่าวดีค่ะตอนนี้ฟิคเรามีแท็กแล้ว เย่ #ฟดรม นะคะ ใครอยากพ่นใส่ทวิตเอาเลยไรท์อยากอ่าน 555555
ไปละค่ะไปทำงานต่อละ บาย 55555555555555555555
CRY .q
ความคิดเห็น