คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : คาบเรียนที่ 11!! การกลับมาของซาวาดะ สึนะโยชิ?
บทที่ 11
ฮิบาริ เคียวยะหรี่ตามองไปที่ประตูทางเข้าโรงเรียนอย่างหงุดหงิดสลับกับมองเอกสารการขาดหรือลาของนักเรียนและครูประจำนามิโมริ
และการลาป่วยครั้งที่ไม่รู้เท่าไรของสัตว์กินพืชตัวนึงที่ป่วยไม่รู้จักพอ!
นี่ยังไม่นับเรื่องที่กระโจนออกมาจากห้องเรียนกะทันหันจนชนเขาตกตึกเรียน(ถึงฮิบาริจะไม่อยากยอมรับเรื่องที่ตัวเองไม่ทันได้ตั้งตัวตอนนั้นก็เถอะ)
แต่นั่นก็ถือเป็นการเกือบก่อเหตุให้นักเรียนนามิโมริบาดเจ็บและสมควรได้รับบทลงโทษ!
“คุซาคาเบะ”
“ครับคุณฮิบาริ”
“เมื่อไรสัตว์กินพืชนั่นจะกลับมา”
“ตามข้อมูลที่ได้จากไทรเด็นท์ ชามาล เขาพึ่งได้สติจากอาการโคม่าเมื่อวานนี้เองครับ”คุซาคาเบะตอบเสียงเรียบ
“โคม่า?”
“เดือนนี้ในวันจันทร์ที่ยี่สิบสี่ เวลาสิบห้านาฬิกาสี่สิบหกนาที เขาเป็นคนที่รักษาอาการลมชักเบื้องต้นให้กับปีหนึ่งห้องเอ มัตสึชิดะ โอซามุ และส่งขึ้นรถพยาบาลไป...แต่หลังจากนั้นเขาก็หมดสติล้มลงหัวฟาดพื้นจนต้องส่งโรงพยาบาลครับ”
ฮิบาริเลิกคิ้ว...เป็นการลาที่มีเหตุผล..แต่ถ้าสัตว์กินพืชนั่นไม่กลับมาสอนภายในวันพรุ่งนี้เขาจะ--
ยังไม่ทันคิดจบกลับมีคาวาซากินินจาสีดำสนิทคันเงาวับก็บดถนนสไลด์มาจอดหน้ารั้วโรงเรียนด้วยความเร็วที่ทำให้เกิดเสียงเอี้ยดดังสะท้อนไปทั่วทั้งโรงเรียนจนเหล่านักเรียนพากันชะงักไปชั่วครู่...กับการกระทำที่ดูเหมือนกับกำลังท้าทายอำนาจ...ของกรรมการคุมกฎ…
ฮิบาริก้าวขึ้นไปบนขอบหน้าต่างอย่างไม่ลังเลที่จะกระโดดลงไปหาผู้ท้าทาย...ที่ไม่คุ้นหน้า…?
“อะฮะๆๆๆ สุดยอดไปเลยพี่สึนะ!”
กรรมการคุมกฏหนุ่มชะงักดวงตาหรี่มองเด็กหนุ่มที่ซ้อนท้ายมาอีกคนถอดหมวกกันน็อคส่งคืนให้บุรุษที่รับมันไปสวมแทน
ยามาโมโตะ ทาเคชิ…?
“ให้ผมซ้อนพี่อีกนะพี่สึนะ! รีบกลับมาก่อนจะสายหล่ะ!”เขามองรอยยิ้มที่แตกต่างไปจากเดิมของยามาโมโตะ ทาเคชิแล้วเบิกตากว้าง
ถึงเขาจะไม่ชอบอยู่รวมเป็นกลุ่มแต่ก็ถูกเหมารวมเข้ากลุ่มผู้พิทักษ์นั่นไปแล้ว…
แต่สีหน้าและท่าทางของยามาโมโตะทาเคชิเมื่อครู่คือ...การไว้ใจแบบไร้เงื่อนไขใดๆ….
ใครคือสึนะ? ทำไมเขาถึงได้รับการไว้วางใจถึงขนาดนั้น?
สายตาของฮิบาริตวัดกลับมาที่ใบลางานที่ถูกเขียนโดยไทรเดนท์ ชามาลก่อนจะหันหลับไปดูเด็กหนุ่มที่ตอนนี้โดนห้อมล้อมโดยสัตว์กินพืชอื่นๆที่ชอบแส่เรื่องชาวบ้าน...แต่ยังคงยิ้มแป้นแล้นทั้งๆที่มอเตอร์ไซค์คันนั้นละจากไปแล้ว
เป็นสัตว์กินพืชซาวาดะ สึนะโยชิที่ทำให้สัตว์กินพืชยามาโมโตะ ทาเคชิดีขึ้น?
ท่าทีมั่นคงขึ้น...สายตาที่หลายเดือนมานี้ว่างเปล่าเหมือนไม่มีเหตุผลให้มีชีวิตอยู่ต่อและไหลไปตามสถานการ์ณเสมอ...ตอนนี้เปลี่ยนไปเหมือนได้รับชีวิตกลับมา
ความสามารถที่เจ้าหนูบอกว่าเป็นนักฆ่าแต่กำเนิดกลับมาฉายชัดจน...น่าสนุก!
ฮิบาริยิ้มเหี้ยม ปากแสยะออกจนรองกรรมการคุมกฏขนลุกแม้ไม่ได้มองตรงๆ
“คุซาคาเบะ!”เขาปัดเอกสารลางานไปให้คนสนิทอย่างแสดงเจตจำนง
ก่อนอื่นก็ต้องพิสูจน์เรื่องซาวะดะ สึนะโยชิก่อน…
คุซาคาเบะหลบตาที่เหลือบมองไปยังรั้วโรงเรียนก่อนจะหยุดการล่าถอยออกจากห้องเพื่อรับใบลางานมา
“ตอนพักเที่ยง”
“เข้าใจแล้วครับคุณฮิบาริ…”เขาปิดประตูลงแล้วขมวดคิ้ว
คุณฮิบาริมองยามาโมโตะทาเคชิแล้วเปลี่ยนท่าทีไป...อีกทั้งยังให้เขาเตรียมประกาศเรียกอาจารย์ซาวะดะมาในตอนเที่ยงแบบนี้...บางที่เขาคงต้องเคลียร์ดาดฟ้าและกันไม่ให้คนขึ้นไปตลอดช่วงพักเที่ยง...
“ทาคาดะ โยมุ สั่งการลงไป---”
หวังว่าครูซาวาดะจะไม่กลับไปโคม่าอีกรอบทันทีที่พึ่งฟื้นหรอกนะ…
18181818181818181818181818KusaKusaKusaKusaKusaKusa
ในห้องลับที่เชื่อมต่อกับทางลับทั้ง 16 ช่องทางในโรงเรียนนามิโมริ รีบอรน์นั่งมองเหตุการ์ณเมื่อครู่อย่างจากกล้องจิ๋วที่ถูกติดไว้ทั่วโรงเรียนอย่างใจเย็น...
ยามาโมโตะมากับคนนอกเรด้าของเขา…
‘ญาติ? เพื่อนต่างวัย? เพื่อนของยามาโมโตะ สึโยชิ?’
ใบหน้าที่ซูบและทรงผมสีน้ำตาลชี้ตั้งเป็นเอกลักษณ์แบบนั้นในเขตนามิโมรินักฆ่าอันหนึ่งอย่างเขาไม่มีวันลืมแน่นอน
ทารกในชุดสูทอาร์มานี่สุดหรูหาข้อมูลจากป้ายทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์และพบว่ามันเป็นของซาวะดะ สึนะโยชิ
หนึ่งในครูสอนในโรงเรียนแห่งนี้
‘คนที่ขัดขวางเมนูฝึกการเข้าช่วยเหลือเพื่อนร่วมห้องที่เขาตั้งใจให้เจ้าห่วยอิเอเมาท์ ทู เมาท์กับเพื่อนร่วมห้องทั้งที่ไม่จำเป็น?’
รีบอร์นตาลุกวาว
‘แต่เอาเถอะ...เมนูฝึกนั่นเขาทำไปเพราะอยากถ่ายรูปไว้แบล็กเมล์ลูกศิษย์ก็เท่านั้น ไม่ได้สลักสำคัญอะไรขนาดนั้น’
‘แต่การเปลี่ยนไปเป็นคนละคน (ประวัติของเขาบอกว่าหมอนี่มันกากเดนดีๆนี่เอง) จนทำให้ปัญหาเรื่องยามาโมโตะคลี่คลายลงไปได้คงต้องถือเป็นโบนัส’
‘ที่น่าห่วงคือถ้าหากเขาพึ่งเขาหายามาโมโตะแล้วคลี่คลายปัญหาได้ในทันทีแบบนี้...เกิดเป็นศัตรูขึ้นมา...ก็แปลว่าเขารู้จักยามาโมโตะดี...ดีซะยิ่งกว่าเจ้าห่วยอิเอที่พยายามช่วยเพื่อนมาซักพักแล้วยังทำไม่ได้’
“คุซาคาเบะ…”
รีบอร์นหันไปให้ความสนใจกับบทสนทนาระหว่างรองและกรรมการคุมกฎ
ดูเหมือนว่าฮิบาริเองก็คิดเหมือนกัน
คงต้องรอดูผลลัพธ์จากทางนั้น….
ถ้าเป็นอันตราย...ก็คงต้องกำจัดทิ้ง...
RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRR
สึนะเดินกึ่งจูงกึ่งกอดอดีตเพื่อนสนิทที่ไม่ยอมปล่อยเอวเขามาจนถึงสวนระหว่างลานจอดรถกับตึกผู้ป่วยแล้วนั่งลงบนม้านั่ง...มือยังคงลูบหลังยามาโมโตะที่ไม่ยอมพูดอะไรหลังจากนั้น…
“ดีขึ้นรึยังยามาโมโตะคุง?”เขาถามเสียงแผ่วเหมือนกับเวลาที่หนึ่งในผู้พิทักษ์ของเขาล้มป่วยแล้วแปลงร่างเป็นเด็กโข่งขี้งอนและเอาแต่ใจ…
เพราะในเวลาเหล่านั้น...ทาเคชิเป็นคนเดียวที่ยอมอ้าปากพูดว่าเสียงของเขาทำให้รู้สึกสงบลงเหมือน………..อยู่กับ...แม่(ไม่รู้ทำไมแต่ทาเคชิหลบตาไปซะเฉยๆ…)
พวกเขาก็เลยอดไม่ได้ที่จะเอาแต่ใจขึ้นมาระยะนึง
ตอนที่ได้รู้ผมทำตัวไม่ถูกเลย...โดนมองเป็นแม่เนี่ยนะ??? อย่างน้อยขอเป็นพ่อได้มั้ย…?
สึนะเจ็บแปล็บกลางอกก่อนจะยิ้มเศร้าๆกับความทรงจำ…ก่อนจะรู้สึกถึงยามาโมโตะที่ส่ายหน้ากับอกเขาเป็นคำตอบและไม่ยอมละออกไป…
“เป็นอะไรไปหืม?”เขาลูบหัวอีกคนปลอบๆ ไม่แน่ใจว่าเขาและยามาโมโตะมีความสัมพันธ์แบบไหนหรือสนิทพอที่จะเรียกชื่อจริงอย่างทาเคชิได้รึเปล่า…
จะว่าไปเขาเป็นคนตั้งชื่อทาเคชิในมิตินี้สินะ
สึนะหน้าร้อนวาบ รู้สึกเหมือนเสียมารยาทสุดๆที่ไปอาสาตั้งชื่อแทนพ่อแม่อย่างสึโยชิ...และ...ทาเอะซัง?
จะว่าไปในมิติเดิมทาเคชิไม่ค่อยได้พูดถึงแม่เท่าไร…แล้วในมิตินี้เธอจะยังมีชีวิตอยู่มั้ยนะ?
“พี่บอกว่าจะไม่...กลับมาแล้ว…”
เสียงอู้อี้จากอกเสื้อเขาทำให้สึนะเม้มปากแน่น
ตัวผมอีกคนรู้ตัวว่าเขาจะตายก็เลยบอกลาเขาไปสินะ…
และเขาก็ไม่กลับมาจริงๆ…
ที่กลับมาแย่งที่เขา...ก็มีแค่...ผม
ความรู้สึกผิดที่แย่งที่มาทับถมลงบนใจสึนะอีกครั้ง
“แต่ฉัน..พี่ก็กลับมาแล้วนี่? เห็นมั้ย? ปลอดภัยดีแล้วด้วยนะ?”เจ้าของผมสีน้ำตาลดันใบหน้าที่ซุกอยู่ที่อกตัวเองขึ้นมาเบาๆแล้วยิ้มกริ่มใส่จนยามาโมโตะที่ยังคงมีคราบน้ำตาอดไม่ได้ที่จะยิ้มน้อยๆขึ้นมาบ้าง
“พี่หายไปตั้งนาน ตอนหน้าร้อนไปหาก็ไม่อยู่ซักครั้ง...แถมตอนที่ได้เจอ...พี่ก็นอนอยู่กับพื้นด้วยสีหน้า...เจ็บปวดเหมือนจะตายเลย...ตอนนั้นก็...ก็เลยนึกว่า….”
พี่กำลังจะตาย…
แม้ห้าคำนั้นจะจะไม่ได้ถูกพูดออกมาแต่สายตาที่สั่นไหวและคลอไปด้วยน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาอีกครั้งก็บอกสึนะได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
“บา-ก่ะ...คิดว่าพี่จะตายง่ายขนาดนั้นเลยเหรอหึ๊! พี่อายุมากกว่าไม่เท่าไรอย่ามาทำเหมือนพี่เป็นตาแก่ 100 ปีได้มั้ยห่ะ--”สึนะพูดกลั้วหัวเราะก่อนจะยีหัว...น้องชาย?ให้ก้มลงเพื่อไม่ให้เห็นสีหน้าที่เหมือนเขียนว่า (ฉันเป็นตัวปลอม) ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อปรับอารมณ์แล้วสีหน้าตัวเอง…
“แต่พี่--”
“ไม่มีแต่! ว่าแต่ช่วงนี้เรื่องเรียนกับเรื่องเบสบอลเป็นยังไงบ้างหึ๊!? ไม่ได้ตกลงเพราะมัวแต่คิดอะไรเป็นตุเป็นตะไปเองคนเดียวหรอกนะ?”
“แฮะ..แฮะ?”ยามาโมโตะหัวเราะแห้งๆ...ก่อนจะยกมือขึ้นมาเกาหัวด้วยท่าทีที่ว่า...ไม่..
ไม่เหลือ..
“ยามาโมโตะคุง!!!”ผมยิ้มให้น้องชาย...ยิ้มเหมือนตอนที่ยิ้มให้มุคุโร่กับเคียวยะเวลาตบตีกันจนทำลายคฤหาส์นทั้งที่พึ่งซ่อมเสร็จไม่ถึงวัน--
“หว๊า---ก็พี่ทิ้งระเบิดไว้แบบนั้นใครจะไปรู้หล่ะ--”และก่อนที่จะคว้าตัวเขามาลงโทษได้ทันท่วงทียามาโมโตะก็ลุกขึ้นแล้วทำการหนีอย่างไม่คิดชีวิต--
“จะไปไหนหืมมมม--กลับมาให้ทำโทษซะดีๆ!”
“ถึงการเรียนผมจะตกแต่ผมไม่ได้โง่นะพี่สึนะ! หว๊าาา!”
พวกเราวิ่งไล่กันไปทั่วสวน...และมันเป็นปาฏิหาร์ยที่ไม่มีใคร(และรวมถึงตัวพวกเราเอง)ได้รับบาดเจ็บ..
และมันยังเรียกเสียงหัวเราะจากเด็กๆที่เข้ามาร่วมวิ่งเล่นและเหล่าผู้สูงอายุที่มานั่งพักผ่อนบริเวณสวนให้ยิ้มได้แม้ว่าจะป่วยอยู่ก็ตาม
ดอกไม้เยี่ยมของทาเคชิเองก็ถูกแบ่งไปให้เด็กๆที่ดี้ด้ากันใหญ่โตเพราะมีพี่ชายสุดหล่อมอบดอกไม้ให้
คนที่หน้าบานที่สุดก็เห็นจะเป็นทาเคชินั่นแหล่ะนะ…
‘ดีแล้วหล่ะ…’ผมยืนพิงต้นไม้ที่บอกว่าจะพักซักนิดเพราะวิ่งต่อไม่ไหวแล้วในขณะที่ทาเคชิยังคงถูกเด็กๆรายล้อมไปด้วยเสียงกรี้ดเพราะถูกไล่จับและเสียงหัวเราะเบาๆของเหล่าผู้สูงอายุ
เขาหัวเราะเหมือนทาเคชิของผมเลย...เหมือนสายฝนที่จำชำระล้างทุกสิ่ง…รวมถึงความเศร้าหมองที่เกาะกุมตัวเขามาตลอด
ขอบคุณนะทาเคชิ
ถึงจะข้ามมิติมาแต่นายก็ยังคอยช่วยฉันอยู่เรื่อยๆเลย…
ถึงตอนนี้จะเป็นในฐานะยามาโมโตะคุงก็เถอะ…
“นาย...ชื่นชมฉันมาตลอดเลย..งั้นเหรอ? ทั้งๆที่ฉัน...ไม่เคยยื่นมือไปช่วยนายเลยนะน่ะ?”ดวงตาที่เบิกกว้างของยามาโมโตะคุงมองตอบกลับมาด้วยความตกใจปนประหลาดใจและรู้สึกผิด...ดวงตาที่เคยให้ความรู้สึกแตกสลายเหมือนกับได้รับ...ความหวัง…? ก่อนที่เขาจะหันมองรอบๆตัวแล้วพบว่าที่ๆตัวเองยืนอยู่มันห่างจากพื้นดินมากเพียงไหน...แต่ในขณะที่เขากำลังปีนกลับมายังฝั่งที่ปลอดภัยรั้วที่ไม่ได้รับการบำรุงดูแลกลับพังครืนลง...ดวงตาที่ตกอยู่ในความหวาดกลัวสุดขีดฉายชัดว่าอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อนั่นทำให้ผมกระโจนตามลงไปก่อนที่กระสุนดับเครื่องชนจะถูกเหนี่ยวไกเสียอีก…
ในตอนนั้นถึงจะเป็นแค่อารมณ์ชั่วครู่...แต่ถ้าต้องแลกด้วยชีวิต...ผมว่าผมก็คงไม่เสียใจหรอก
“วางใจได้เลยสึนะ!”ยามาโมโตะยิ้มกว้างแล้วยกนิ้วโป้งให้ผมเมื่อพิธีสาบานตนต่อวองโกเล่ในฐานะหน้าที่รุ่นที่สิบใกล้เข้ามา...ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไปให้ ใจชื้นขึ้นมาหน่อยๆที่มีใครซักคนให้กำลังใจในเวลาที่ประหม่าแบบนี้...เพียงแต่หลังจากนั้น...เขาก็ถูกหามเข้าส่งโรงพยาบาลโดยที่ไม่รู้ว่าคนก่อเหตุเป็นใคร...และตกอยู่ในอาการโคม่า...
ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากเป็นคนที่นอนอยู่ตรงนั้น...ให้ความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขาได้รับมาลงที่ผมแทน
“น่าๆแผลแห่งลูกผู้ชายไงฮ่าๆๆๆ”เจ้าของเสียงฉีกยิ้มกว้าง...ทั้งที่ปลายคางพึ่งจะถูกเฉือนเป็นรอยลึกจนเรียวเฮเองก็ยังบอกเลยว่าเป็นแผลเป็นแน่ๆแบบไม่ต้องดูอาการ…ไอ้เพื่อนสนิทบ้องตื้นนี่! นายคิดมั้ยว่าถ้าดาบนั่นเฉือนต่ำลงไปอีกซักหน่อยไอ้ที่ๆจะมีรูหรือโดนเฉือนมันคือคอของนาย ทาเคชิ!
บาดแผลและความเสี่ยงที่ไม่ควรจะได้รับถ้าหากเขาไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์ของผม...ผมขอโทษที่ผมเห็นแก่ตัวเกินกว่าจะปล่อยให้นายไปเป็นนักเบสบอลมืออาชีพ...ถ้าผมได้รับแผลเป็นพวกนั้นแทนเขาก็คงจะดี
“ได้โปรดเถอะสึนะ...ลุกขึ้นมาเถอะนะ…ฮึก...ได้โปรด--”ถึงแม้จะขยับไม่ได้...และมองไม่เห็นใบหน้าของเขา...แต่น้ำเสียงของพื่อนสนิทที่กำลังพร่ำคำภาวนาคำขอร้องต่อหน้าโลงศพของผม...เสียงสั่นเทาจนเดาได้ไม่ยากว่ากำลังร้องไห้ทำให้ผมอยากจะลุกขึ้นไปบอกเขาซะเดี๋ยวนี้...ว่าผมยังไม่ตาย…
ความเสียใจของเขาผมยินดีจะแบกรับไว้...มากกว่าที่จะต้องเห็นเขาตายเพราะผมไม่กล้าพอที่จะทำให้เขาเสียใจ
“โทษนะแค่ก--สึ--นะ ฉันไม่คิดว่าอึก--จะถูกแทงข้างหลัง…”มีเลือดอยู่เต็มไปหมด...เลือดของทาเคชิ...แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อนสนิทของผมก็ยังพยายามยิ้มเหมือนไม่ได้เจ็บปวดเลยซักนิด มือที่เปื้อนเลือดเลื่อนขึ้นมาสัมผัสแก้มผม...มันสั่นเหมือนเป็นแรงเฮือกสุดท้ายเลย…
“ฉัน….ก…าย---สึนะ…”ทาเคชิยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เจ็บปวด...แล้วกล่าวคำพูดไม่ได้ศัพท์ประโยคสุดท้ายออกมาด้วยรอยยิ้มเปื้อนน้ำตา…
ถ้าผมเคยทำบาปกรรมอะไรไว้ ผมเสียใจ ผมขอโทษ ถึงแม้ผมจะไม่ได้นับถือคริสต์แค่ได้โปรดเถอะพระเจ้า ได้โปรดสลับที่ผมกับเขาที...
น้ำตาของคนที่กำลังก้มหน้าและตกอยู่ในภวังค์ไหลออกมาเงียบๆและไร้ซึ่งเสียงสะอึกสะอื้นใดๆ…
ยามาโมโตะที่พึ่งจะถูกตักเตือนเรื่องที่ทำเสียงดังในโรงพยาบาลเดินยิ้มกริ่มตรงแหน่วมาหาพี่ชายต่างสายเลือดอย่างอารมณ์ดี
“พี่...สึนะ?”เมื่อเรียกแล้วอีกฝ่ายไม่ตอบอีกทั้งยังก้มหน้ายืนนิ่ง...เขาจึงตัดสินใจเชยคางเขาขึ้นมา…
ใบหน้านิ่งสนิทที่ดวงตาฉายแววเศร้าโศก...น้ำตาที่ไหลลงมาที่คางจนนิ้วที่ใช้เชยคางอีกคนขึ้นมาเปียกชุ่ม...ปากของเจ้าของผมสีน้ำตาลเม้มแน่นเพื่อไม่ให้มีเสียงเล็ดรอดออกมา
“เอ๊ะ---? หว่าพี่เป็นอะไรเจ็บตรงไหน--”เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กหนุ่มวัยกะเต๊าะอย่างยามาโมโตะทำตัวไม่ถูก...เขาไม่เคยปลอบคนร้องไห้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ! ยิ่งคนที่เขานับถืออย่างพี่สึนะนี่ยิ่งแล้วใหญ่!
เขาปล่อยคางสึนะอย่างตกใจแล้ววนๆรอบตัวสึนะเพื่อหาสาเหตุแต่ก็ไม่พบอะไร--
“ท...าเคชิ…ขอโทษ...”
เจ้าของชื่อนิ่งไป...นอกจากในวันนี้แล้ว...ก็คงมีแค่ตอนเด็กๆที่สึนะเรียกเขาด้วยชื่อเต็มจริงๆไม่ใช่ ยามาโมโตะคุง หรือ ทัคจัง…
และไม่รู้ทำไม...หรือเพราะอะไรแต่พี่สึนะขอโทษเขาออกมา...แต่ตามสัญชาตญาณแล้ว...เขาค่อยๆสวมกอดพี่ชายที่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ...กล้ามเนื้อเกร็งเมื่อถูกสวมกอด…
“ไม่เป็นไร..สึนะ ไม่เป็นไร…”เด็กหนุ่มพร่ำบอกเบาๆมือก็ลูบหลังอีกคนไปเรื่อยๆจนแขนของอีกคนสวมกอดตอบกลับมา...ร่างกายสั่นเทิ้มก่อนจะผ่อนคลาย...หลับตาลงซุกตัวลงกับไหล่เขาโดยดี…
ภาพคนกอดกันโดยที่คนหนึ่งร้องไห้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกของโรงพยาบาล...ทุกคนมองมาทางคนสองคนที่กอดกันกลมอย่างเห็นใจแล้วค่อยๆปลีกตัวออกไปเพื่อให้ความสงบกับทั้งสอง…
พวกเขาคงคิดว่าพ่อหนุ่มผมสีน้ำตาลคนนั้นคงพึ่งเสียใครซักคนไป
ตอนแรกยามาโมโตะก็คิดว่าอย่างนั้น…แต่ถ้าอย่างนั้นจะขอโทษเขาทำไม?
แต่ตอนนี้ช่างมันก่อนก็แล้วกัน…
“ดีขึ้นรึยังพี่สึนะ?”เด็กหนุ่มตบหลังอีกคนเบาๆ
“อือ…”เสียงอู้อี้ตอบกลับมาก่อนจะละออกจากอ้อมแขนคนถาม
“น่าอายชะมัด…มาซบอกเด็กร้องไห้ฟูมฟายเนี่ย...”
“น่าๆวันนี้ผมก็ร้องไห้นะถือว่าหายกันแล้วกัน--?”
ทั้งสองหันมายิ้มบางๆให้กันก่อนจะเริ่มออกเดินเพื่อออกจากโรงพยาบาลพร้อมๆกัน
“อ่ะ...ลืมซะสนิทเลยว่าวันนี้มีเวรทำความสะอาดตอนเช้าอ่ะ..แฮะๆ...”ยามาโมโตะเกาหัวแกรกๆมองนาฬิกาที่ชี้เวลาเจ็ดโมงยี่สิบสองแล้วทำหน้ายุ่งยากเพราะยังไงก็ไปไม่ทัน
“พี่ไปส่งมั้ย?”สึนะยักคิ้วแล้วถามยิ้มๆมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบกุญแจรถออกมาควงกับนิ้วหล่อๆราวกับไม่ได้พึ่งได้มันมาเมื่อเช้านี้--ก่อนจะดึงกึ่งลากเด็กหนุ่มที่ยังไม่ทันขานรับให้ออกวิ่งไปที่ลานจอดรถทั้งอย่างนั้น
ยามาโมโตะหัวเราะกับการขับที่เรียกได้ว่าตื่นเต้นสุดๆของสึนะไปตลอดทาง…
อืม...คิดถูกแล้วแฮะที่เขาตัดสินใจมาเยี่ยมในช่วงเช้าของวันนี้...ไม่ใช่ตอนเย็นเหมือนทุกวัน
ถึงจะอดดูหน้าตอนหลับก็เถอะ...แต่ได้ทั้งกอดทั้งปลอบทั้งปรับความเข้าใจนี่คุ้มสุดๆเลยฮะๆๆ---?
ความคิดเห็น