คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : คาบเรียนที่ 4! All alone!
คาบเรียนที่ 4!! All alone
“...”
ผมนี่ถึงกับพูดไม่ออกเลยครับ...
‘ซ่า.......’
ฝนไม่ได้ตกหรอกครับ....ผมอาบน้ำอยู่
เพียงแต่...
สบู่กลิ่นสตอเจลโล่มะกรูด้าตราสี่เยน!! ใช่แล้วสาวร้ากกกกกสาวหลงงงงง
ได้ผลจริ๊งงงงงไม่โม้!!!
“...”
ผมมองกล่องสบู่ในมือแล้วหันไปมองก้อนสีไม่อาจระบุได้ในที่วางสบู่ด้วยสายตาว่างเปล่า...
ขนแขนถึงกับเสตนอัพแม้จะอาบน้ำอุ่นอยู่ก็ตาม!
“...”
หวังว่าจะมีสบู่ยี่ห้ออื่นอยู่บ้างนะ...
ผมกวาดสายตาไปทั่วๆห้องน้ำที่ผมพึ่งทำความสะอาดไป...
และผมก็ค้นพบว่า...
มันไม่ได้มีแค่สบู่...
มันมาเป็นเซ็ต!!!
ยาสระผม ครีมนวดผม น้ำหอม จวบจนโฟมล้างหน้า....
เป็นกลิ่นสตอเจลโล่มะกรูด้าตราสี่เย็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!
“...”
ผมปิดน้ำก่อนจะเดินออกไปนอกห้องน้ำทั้งๆที่เปียกไปทั้งตัว
หยิบถุงขยะที่ใกล้ที่สุดมา...
และกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่มีตราสี่เยนลงไป
ต้องบอกว่าโชคดีที่ยาสีฝันเป็นยี่ห้อปกติทั่วไป
ไม่อย่างนั้นผมคงเลือกที่จะไม่แปรงฝันไปสอน...
“...”
ผมพูดจริงน่ะ...
สึนะถอนหายใจหลังจากมัดปากถุงขยะก่อนจะเริ่มต้นการอาบน้ำอีกครั้ง...
ถึงแม้จะหลับตาพริ้มรับน้ำที่พ่นออกจากฝักบัวแต่มือทั้งสองข้างของเขาก็เริ่มการสำรวจร่างกายตัวเอง
นอกจากนั้นเขายังเลือกที่จะพิถีพิถันเป็นพิเศษเพื่อทดแทนการขาดแคลนของสบู่อีกด้วย
ผมเหนื่อยกับการทำความสะอาดก่อนหน้าเอามากๆ
เพราะหลังจากที่เป็นบอสเต็มตัวนอกจากทำอาหารหรือขนมกับกาแฟกินเองตอนดึกๆ
พวกงานบ้านอย่างอื่นก็ไม่เคยได้แตะเลยสักครั้ง
มันจึงทุลักทุเลไม่น้อยเลยกับกล้ามเนื้อที่ไม่มีนี่...
ถึงแม้จะอยากทำอะไรบ้างตามนิสัย แต่คนรอบตัวก็เอาแต่ห้ามนู่นห้ามนี่ไปทั่ว
ทีงานเอกสารปึ้งเท่าบ้านนี่ไม่เคยห้าม...
‘ถึงตอนนั้นจะฝึกร่างกายทุกวันแต่...’
สึนะกดนิ้วลงตามหน้าท้อง แขน ขา สะโพก หลัง และพบว่า..
“ส...สิ้นหวังสุดๆ...”
สึนะอยากจะทรุดลงไปกองกับพื้น
แต่เขาก็ลืมตาขึ้นเพื่อสำรวจส่วนที่เป็นรอยจากการใช้เข็มฉีดยา
“แล้วยังเรื่องนี้อีก...”
ก่อนอื่นเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นยาตัวไหน
ใช้ครั้งสุดท้ายเมื่อไร
รอยเข็มเยอะขนาดนี้ใช้ทั้งหมดกี่ชนิดก็ยังไม่รู้
เรื่องการเลิกนั้นเขาค่อนข้างที่จะมีประสบการณ์จึงไม่ได้ห่วงอะไรมากมาย
ก็นะ ช่วงที่เป็นบอสก็โดนอะไรหลายๆอย่างนั้นแหล่ะ
“ถ้ารู้ว่าได้ยานี่มาจากไหนก็คงดี...”
เพราะถ้าหากว่าทุกคนอายุเท่ากับผมละก็ นามิโมริเองก็ต้องตกอยู่ภายใต้การดูแลของวองโกเล่หรือของเคียวยะ....
“...”
เคียวยะ...
เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ!
เคี....ยว.....................ยะ........................................
“อึก..!”ร่างผอมแห้งพุ่งไปที่ชักโครก
ก่อนจะ...
“อ็อก...!!!”
ไม่มีอะไรออกมาเลยนอกจากน้ำย่อย...
‘ร่างกายนี่ไม่ได้รับอาหารมานานเท่าไรแล้วนะ?’
สึนะกำลังเลี่ยงมัน...
ภาพความทรงจำที่เขาอยากจะลืม..
‘อืม...หวังว่าเราจะไม่มีหนี้สินหรืออะไรทำนองนั้น’
ผมลุกขึ้นกดชักโครก กลับไปขัดตัวใต้น้ำอุ่นอีกพักนึงและเริ่มเช็ดตัวหลังจากอาบเสร็จ
สึนะจ้องแปรงสีฟันตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจทิ้งมันแล้วเปลี่ยนอันใหม่
มันรู้สึกแปลกๆที่จะใช้แปรงร่วมกับ...ตัวเขาอีกคน...
“ค่อยดีหน่อย...”
สึนะลูบใบหน้าตัวเอง
“ที่ว่าหนวดจริงๆแล้วแข็งกว่าเพชรเป็นเรื่องจริงสินะ...เหอๆ..”
เขาก็ไม่ได้อยากเรื่องมากกับเรื่องจิปาถะ
แต่การมีชีวิตอยู่กับรีบอรน์โดยเฉพาะในฐานะบอสนั้น...คงไม่ต้องบอกก็คงจะรู้กันดี...
ว่าหนึ่งรอยยับแลกกับหนึ่งกระสุน....
“เฮอะๆๆ...”
2727272727272727272727272727272727272727272727
พออาบน้ำเสร็จสึนะก็ค้นเจอตารางสอนของตัวเองในกองเอกสารโดยบังเอิญ!
‘อืม...วันนี้วันพฤหัสเพราะงั้น...’
“วันนี้ไม่มีโฮมรูม...”
งั้นก็เริ่มตอนเก้าโมง
สึนะหยุดมือที่เช็ดผมของตัวเอง
สึนะแอบแปลกใจเล็กน้อย ที่โรงเรียนจะเริ่มตอนเก้าโมงถ้าหากว่าไม่มีโฮมรูม
เพราะจริงๆแล้วเขากะจะไปสายเพื่อให้สมกับความห่วย
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีเวลามากกว่าที่คิดไว้
‘จะออกไปข้างนอกดีหรือว่า...’
สึนะเหลือบมองโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะกินข้าวก่อนจะตัดสินใจสืบข้อมูลของ“ตัวเอง”ก่อน
“เบสิกๆเราก็รู้แล้วละนะ...”
เขาเริ่มแฮ็กเข้าไปในเมล์และเว็บไซต์ที่ตัวเขาเคยสมัครเอาไว้และทยอยจดจำพาสเวิร์ดต่างๆ
เขาเช็กเมล์ของตัวเองและพบว่ามันค่อนข้างว่างเปล่า...จะมีก็แต่ข้อมูลการสมัครเขาเว็บต่างๆ การแจ้งเตือน หรือจดหมายลูกโซ่ก็เท่านั้น...
นอกจากนั้นก็มีเมล์ที่มีไฟล์อัลบั้มของชายหญิงคู่นึงที่เขาไม่รู้จัก
ทั้งคู่ดูมีความสุขดี...มีกระทั่งภาพในวันแต่งงาน ตอนฮันนีมูนและภาพที่พวกเขาอุ้มเด็กตัวเล็กๆคนนึงไว้ในอ้อมแขน...
เดาไม่ยากเลยว่าพวกเขาเป็นใคร...
สายตาของเขาเหลือบไปเห็นเว็บไซต์ของธนาคารแห่งหนึ่ง
อสังหาริมทรัพย์กับการเงินของเรา...
เขาใช้เวลาแฮ็กเข้าบัญชีธนาคารไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ
เพราะในอีเมล์ที่ใช้สมัครไม่ได้ส่งฟอรม์กลับมายืนยัน และให้ไปยืนยันที่ธนาคารแทน
นอกจากนั้นสึนะยังพบว่าครอบครัวของเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปนานมากแล้ว
ทั้งซาวาดะ ซึราโกะ และ ซาวาดะ อิเอโยชิ
ดูเหมือนว่าบ้านเด็กกำพร้าจะเป็นสถานที่ที่ตัวเขาเติบโตขึ้นมา
และบ้านหลังเล็กๆสำหรับครอบครัวสามคนหลังนี้ก็คือมรดกเพียงอย่างเดียวของเขา
ซึ่งก็พึ่งจะได้รับมาตอนอายุครบสิบแปดปี...
‘ถ้าหากว่าตัวเราในโลกนี้...ตายไปแล้วจริงๆ...’
‘หวังว่าพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันนะ’
“สู่สุขตินะครับ ซึราโกะซัง อิเอโยชิซัง สึนะโยชิซัง”
‘แต่ถ้าเขายังอยู่ละก็...’
‘สึนะโยชิซัง...ผมคงต้องขอยืมร่างนี้ไปก่อนเพื่อปกป้องคนสำคัญของผม...’
‘ผมจะคืนให้ทันทีที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี’
‘หวังว่าคุณจะเข้าใจ...’
สึนะเริ่มเช็กรายรับรายจ่ายในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
ทุกๆกลางเดือนเขาจะถอนเงินจำนวนมากออกไป
เขาคิดสาเหตุอะไรไม่ออกนอกจาก...
“ยาสิน่ะ...”
ในขณะเดียวกันเงินเดือนจากการเป็นครูก็ถูกโอนเข้ามาทุกเดือน
ถ้าเทียบกันแล้วเขาคงจะอยู่กินได้สบายๆทุกๆเดือนถ้าไม่ได้ใช้ยา
แต่หลังจากนี้เขาก็คงไม่ได้ซื้อมันอยู่ดี
จริงๆเขาก็ไม่ได้มีทางเลือกอื่น เพราะสึนะไม่รู้ว่าจะซื้อมันได้จากที่ไหน
เขารู้เพียงแค่ว่าเป็นช่วงกลางเดือนของทุกๆเดือนและจำนวนเงินในการซื้อเท่านั้น
“คงต้องเจาะลึกกว่านี้...”
แล้วหาทางบอกเคียวยะให้จัดการ คงต้องเป็นในฐานะผู้หวังดีหรือะไรสักอย่---
‘โครก......!’
“....”
แต่ตอนนี้คงต้องหาอะไรกินก่อนละนะ...
“พรืด...ฮะๆๆ”สึนะหัวเราะเบาๆ
มัวแต่ยุ่งๆเลยลืมกินข้าวไปเลย
สึนะล็อกเอาท์ออกจากเพจของธนาคารแล้วปิดโน๊ตบุ๊กลง
มือหยาบจากการไร้ความดูแลกระชับผ้าเช็ดตัวที่เอวแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจหลังจากนั่งอยู่ที่เดิมเป็นเวลานาน
สึนะพาดผ้าเช็ดผมกับเก้าอี้ในห้องครัวแล้วเปิดตู้เย็น
“...”
นอกจากความว่างเปล่าแล้วก็มีเพียงซอสมะเขือเทศ มายองเนส และข้าวกล่องสำเร็จรูปจากร้านสะดวกซื้อ...
ที่หมดอายุไปแล้วร่วมอาทิตย์...
“วันนี้กินข้าวข้างนอกแล้วกัน...”
สึนะปิดตู้เย็นแล้วพิงหน้าผากไว้กับตู้เย็น
ชีวิตในฐานะบอสของเขาช่างแตกต่างกับตอนนี้ซะจริงๆ...
นี่คือสิ่งที่เขาจะเป็นถ้าเขาไม่ได้พบกับรีบอรน์งั้นเหรอ?
ชีวิตที่เหมือนถูกทอดทิ้ง...
ดวงตาที่มองลงไปที่พื้นค่อยๆรื้นไปด้วยน้ำตา
“ฉัน...คิดถึง....พวกนาย....”
น้ำสีใสหยดลงจากใบหน้าเศร้าสร้อยหยดแล้วหยดเล่า
จากที่ไม่มีเสียงเล็ดลอด เสียงสะอื้นค่อยๆก่อตัวขึ้น
สึนะไถลตัวลงมานั่งกับพื้น
เขาขดตัวแล้วกอดตัวเองเอาไว้...
ใช้เวลาคิดทบทวนเพื่อยอมรับความจริงที่ว่าเพื่อนคนเดิมของเขาจะไม่มีวันกลับมา...
และจะไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว...
“......................................................................!!!”
สึนะกรีดร้องโดยที่ไม่มีเสียง...
(พวกเราจะอยู่ด้วยกัน...ตลอดไป)
สึนะหลับตาที่แดงก่ำลง....
น้ำตาของเขายังคงไหลออกมาไม่หยุด
ตอนนี้เขาไม่อยากจะยอมรับ รู้สึกหรือรับรู้ถึงสัญชาติญาณที่ได้รับสืบทอดมาจากพรีโม่เลยสักนิด...
สัญชาติญาณที่เหมือนกับมีดที่กรีดลงซ้ำๆที่เดิม
สัญชาติญาณที่กรีดร้องว่า
หลังจากนี้จะไม่มี
“สึนะ”
จะมีเพียง
.
.
.
.
“ซาวาดะซัง”
27272727272727272727272727272727272727272727
มุมคำตอบบบบบ
- ทำไมสึนะไม่แฮ็กหาเพื่อนหล่ะ?
กับตอนนี้เราเขียนช่วงต้นออกมาเป็นสึนะที่พยายามจะเอางานมาทำถมตัวเองให้ลืมเรื่องเพื่อนไปคะ สึนะที่พยายามเลี่ยงทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่แม้แต่จะแฮ็กฐานข้อมูลเพื่อค้นหาอดีตผู้พิทักษ์ของตัวเองทั้งที่มีโอกาส ที่สำคัญยังไม่ยอมออกจากบ้านไปสำรวจนามิโมริแต่กลับเลือกที่จะค้นเรื่องตัวเองแทน สึนะกลัวจะเจอกับใครสักคนเข้าเพราะยังรับไม่ได้กับการสูญเสียนั่นเอง
- ทำไมร้องไห้เยอะจริงกี่ตอนๆก็ร้อง?
ถ้าสึนะไม่ได้ร้องไห้ไปกับพรีโม่เราว่าสึนะคงบ้าไปแล้วแหล่ะคะ เพราะในชีวิตสึนะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการปกป้อง “แฟมิลี่” (คำนี้จะรวมไว้ทุกคนเลยคะ จะเด็กๆกับนานะ พวกแซนซัส แน่นอนว่าผู้พิทักษ์กับพันธมิตรและลูกน้องในแฟมิลี่ด้วย) แต่ตอนนี้สึนะไม่เหลืออะไรเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตหายไปหมดแล้ว จะไม่มีใครมาตะโกนเรียกด้วยชื่อเล่น เอาแขนมาคล้องคอ ทะเลาะกันแบบเด็กๆหรืออะไรแบบนั้นอีก จะมีแค่รอยยิ้มสุภาพ ระยะห่างที่มากพอสมควรและการถูกเดินผ่านไปโดยที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเท่านั้น
จริงๆแล้วอยากจะเขียน ถ้าฮายาโตะอยู่ด้วย... ถ้าทาเคชิเห็นเข้า... ถ้า..ฯลฯ ไปด้วยแต่กลัวจะรำคาญคะ 555+ เพราะถ้าเป็นสึนะก็ต้องนึกถึงปฏิกิริยาของ“แฟมิลี่”ก่อนตัวเองอยู่แล้วเนอะ? แต่คิดว่าตัดออกไปคงดีกว่า
ในตอนจบตอนสึนะก็ทนหลอกตัวเองต่อไปไม่ได้เพราะสัญชาติญาณที่มีประโยชน์ในการต่อสู้ก็เป็นดาบสองคมที่แทงเข้าตัวสึนะเองเมื่อสึนะเริ่มหลอกตัวเอง
ตอนนี้ทั้งตอนออกจะน่าเบื่อๆไปหน่อยแต่อยากให้เวลาสึนะอยู่คนเดียวบ้าง ไม่งั้นสึนะต้อง“พัง”แน่ๆถ้าเจอกับเพื่อนที่เห็น
สึนะเป็นคนแปลกหน้า
ความอู้ไม่เข้าใครออกใครรรรรรรร
ยังมีต่อนะจ๊ะ!!
2727272727272727272727272727272727272727272727
สึนะมารู้สึกตัวอีกทีตอนตีห้าของวันรุ่งขึ้น...
“อะ...โดดสอนไปซะแล้ว”
อย่างน้อยเขาก็ได้พักผ่อน...และเขาก็รู้สึกดีขึ้นเยอะหลังจากที่ร้องไห้ออกไปแบบนั้น
สึนะลุกขึ้นมาบิดขี้ตัวด้วยความเมื่อยขบ
’แน่หล่ะ ก็เล่นนอนพิงตู้เย็นอยู่ทั้งวันทั้งคืนเองนี่..’สึนะส่ายหัวยิ้มๆ ในหัวได้ยินเสียงเอือมระอาจากเพื่อนๆของเขา
ผมกำลังเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน...
‘ปาฏิหารย์ด้วยซ้ำที่ไม่ได้เป็นหวัดเพราะนอนล่อนจ้อนกับผ้าเช็ดตัวเปียกๆหน่ะ เหอะๆ’
“อืม...ต้องเอาขยะออกไปทิ้ง”
สึนะหยิบแว่นรุ่นปู่มาสวมก่อนจะคุ้ยตู้เสื้อผ้าที่เรียกได้ว่าเน่าจนถึงที่สุดก่อนจะสะดุดเข้ากับชุดวอรม์
“ออกไปจ็อกกิ๊งหน่อยก็ดี...มั้ง?”
ถ้าในอนาคตเขาต้องเข้าไปเอี่ยวกับทั้งวองโกเล่ทั้งผู้พิทักษ์ละก็...ก่อนอื่นก็ต้องสร้างกล้ามเนื้อก่อน...
สึนะสวมชุดวอรม์สีขาวแถบดำและส้มตัวนั้นก่อนจะเดินออกมานอกห้อง
ท้องเขาเริ่มโหยหวนอีกครั้ง...
“ต้องไปซื้อข้าวกับเครื่องใช้ด้วย..”
ที่นามิโมริมีร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด24ชั่วโมงอยู่ไม่กี่ที่
แต่นามิโมริก็ไม่ได้ใหญ่มากถ้าไม่ได้รวมป่ากับภูเขาเข้าไปด้วย
“คงไหว...”
สึนะเกือบลืมที่จะตามหากระเป๋าตังค์และกุญแจบ้าน เพราะเขาไม่เคยต้องพกอะไร...นอกจากถุงมือ..
อยากได้อะไรฮายาโตะก็พุ่งไปจัดการให้หมด
เหมือนจะได้ยินเสียงฮายาโตะกำลังตบอกด้วยความภูมิใจ
เขาแปลกใจที่หาทั้งสองอย่างเจอแทบจะทันที
สึนะจดลิสต์ของที่เขาจำเป็นต้องซื้อแล้วยัดมันเข้ากระเป๋ากางเกงเอาไว้
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีรองเท้ากีฬาเลย
สึนะยักไหล่ก่อนจะหยิบรองเท้าหุ้มข้อที่หนาพอสมควรมาใส่
’แอ็ด...’อากาศเย็นๆทำให้สึนะรู้สึดสดชื่นแปลกๆ
สึนะเดินเข้าไปลากถุงดำสองถุงใหญ่ออกมาแล้วหันไปปิดประตูบ้าน
’จริงๆมันมีมากกว่านี้อีกหนะหน่ะ แต่ค่อยๆทยอยทิ้งจะดีกว่า..’
บรรยากาศรอบๆทำให้รู้ว่าอยู่ในนามิโมริชัวร์ๆ
สึนะหันไปสำรวจบ้านของตัวเอง
บ้านของเขามีสวนรอบๆบ้านคล้ายๆกับบ้านเก่า
กระทั่งหลังคายังสีเดียวกัน
ที่แตกต่างก็คงมีแต่ความกว้างที่มากกว่าและมีเพียงชั้นเดียว
เขาลากขยะไปทิ้งในที่ทิ้งขยะก่อนจะรื้อฟิ้นความทรงจำว่าเขาอยู่ส่วนไหนของนามิโทริ
“ซุปเปอร์นั่นอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไร”
เขารู้ตัวดีว่าไม่ควรหักโหมเหมือนกับที่รีบอร์นเคยบังคับให้ทำ เพราะคราวนี้เขาไม่มีใครมารักษาให้แบบฟรีๆ
แถมตอนนี้เขายังอ่อนแอ๊อ่อนแอสุดๆถ้าหักโหมเดี๋ยวได้นอนยาวไม่ต้องลุก...
เมื่อวานก็ไม่ได้กินข้าวอีก...
“เฮ้อ...”
เอาเป็นว่าวันนี้เขาจะวิ่งไปซุปเปอร์อย่างเดียวละกัน
ผมเริ่มวอรม์ร่างกายและพบว่านอกจากจะไร้ซึ่งกล้ามเนื้อแล้วตัวยังแข็งมากอีกด้วย
ถ้าไม่มีรีบอรน์เราก็คงเป็นแบบนี้...
หลังจากวอรม์ร่างกายเสร็จผมก็ออกตัวช้าๆ
“วิ่งได้...แฮ่ก...ไม่ถึงห้านาทีเอ--แฮ่ก”
เสียงข่มขู่ของรีบอร์นดังก้องอยู่ในหัวเหมือนทุกครั้ง
ผมปฏิเสธที่จะหยุดพักและวิ่งต่อไปเรื่อยๆ
‘ขากลับคงต้องแวะพักบ้าง เพราะต้องถือของกลับมาอีก’
ผมวิ่งไปในท้องถนนที่เงียบสงบ เหงื่อไหลเหมือนสู้กับแซนซัสมาสามชั่วโมง...
’เหนื่อย...ส..สุดๆเลย..’
ผมทิ้งตัวลงที่ม้านั่งข้างๆซุปเปอร์เพื่อพักก่อนจะเข้าไปซื้อของตามที่จดไว้
’สบู่เหลว สบู่เหลว...แล้วก็ครีมโกนหนวด’
’ผักเยอะๆ อะ..เส้นสปาเก็ตตี้’
‘อ๊ะ ขนมนี่มัน! ยังมีขายอยู่อีกเหรอเนี่ย?’
รถเข็นของสึนะเริ่มจะเต็มขึ้นเรื่อยๆ...
“เยอะไปรึเปล่านะ?
สึนะเอียงคอพลางลูบคาง
“ไม่มั้ง?”
เวลาไปซื้อของกับทุกคนก็ซื้อกันคนละสองสามคันนี่...?”
สึนะยักไหล่ก่อนจะเดินไปจ่ายเงิน
ห้าถุงใหญ่....
สึนะมองถุงเหล่านั้นแล้วกลืนน้ำลาย...
‘ส...สู้โว้ย...!’
ขากลับก็ไม่ได้มีอะไรมาก
นอกจากเขาคลานเข้าบ้านนะน่ะ...
2727272727272727272727272727272727272727272727
หลังจากที่เก็บของเข้าตู้เย็นและที่ๆมันสมควรจะอยู่สึนะก็รีบพุ่งไปอาบน้ำพร้อมกับอุปกรณ์อาบน้ำที่ซื้อมาเมื่อครู่อย่างมีความสุข...
“ถ้ามีอ่างอาบน้ำคงจะดี...”
สึนะพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของตัวเอง
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จจนตัวหอมฟรุ้ง สึนะก็เตรียมตัวที่จะโกนหนวด...
“...คงต้องเอาไว้ก่อน”
อยู่ๆถ้าอาจารย์เปลี่ยนไปทั้งหน้าทั้งนิสัยเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เปล่าๆ
ความห่วยของสึนะในวัยเด็กไม่ใช่เรื่องโกหก เขาไม่ได้มีบุคลิกภาพที่ต้องซ่อนเหมือนตอนนี้
เขาเลยไม่แน่ใจว่าต้องทำยังไงถึงจะเนียน เพราะสิ่งที่เขาทำมาตลอดมันตรงกันข้าม
“เฮ้อ...”
สึนะลดมีดโกนลงก่อนจะเริ่มล้างหน้าและบำรุงหน้าตัวเองอย่างพิถีพิถัน!
รีบอรน์สอนและบังคับเขาจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว!
สึนะเช็ดผมตัวเองจนแห้งหมาดๆแล้วจึงเดินไปเลือกเสื้อผ้า
‘เจ็ดโมงกว่าแล้ว’
สึนะหยิบตารางสอนขึ้นมาดู
“วันนี้ก็ไม่มีโฮมรูมแฮะ”
สึนะใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วจึงเริ่มทำอาหารเช้าและข้าวกล่องสำหรับตอนกลางวัน
สึนะหุงข้าว และเริ่มทอดไส้กรอกและเทมปุระ
ซุปไข่สาหร่ายถูกทำขึ้นแบบไม่ได้อะไรมากนัก พร้อมๆกับกาแฟที่ตอนนี้กำลังถูกกลั่นโดยเครื่องทำกาแฟ
สึนะพลิกไส้กรอกกับกุ้งก่อนที่จะไปตามหากล่องข้าวมาใส่
ซุปถูกใส่ลงในถ้วยที่มีฝาปิดแน่นหนา
‘คราวหน้าต้องซื้อแบบที่เก็บความร้อนด้วย’
กุ้งเทมปุระที่แป้งน้อยแต่เนื้อเยอะถูกจัดวางข้างๆไส้กรอก
สึนะเด็ดสลัดให้เป็นชิ้นเล็กๆและเริ่มหั่นมะเขือเทศแครอทแตงกวาและใส่ข้าวโพดกระป๋องเข้าไปสองสามช้อน
สึนะไม่ได้ซื้อซอสสลัดมาแต่ค้นเจอมายองเนสในตู้เย็น(ที่น่าจะยังไม่หมดอายุ)ก็เลยใส่แก้ขัดไป
ข้าวกล่องเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ขาดก็แต่ข้าวที่ยังไม่สุก
ถึงจะฟังดูเหมือนเชฟมือโปรทำอาหารแต่จริงๆแล้วทั้งห้องครัว มือและผ้ากันเปื้อนนั้นกลับเหมือนกับผ่านสงครามโลกมา
ความไม่คุ้นเคยกับร่างกายนั้นทำให้สึนะมีดบาดไปหลายแผล
สึนะใช้เวลาทำความสะอาดและการทำแผลกับทำอาหารมากกว่าการทำอาหารด้วยซ้ำ
และเนื่องจากอยู่อิตาลี่มานาน สึนะจึงติดนิสัยกินอาหารเช้าง่ายๆมาด้วย
อาหารเช้าของสึนะคือ กาแฟกับขนมปังทาเนย
สึนะเบ้หน้าเมื่อชิมกาแฟ
“ต้องหากาแฟที่คุณภาพดีกว่านี้..”
สึนะหันไปเช็กเวลาอีกครั้ง
“แปดโมงสามสิบห้า...อืม ถมเถ”
ตอนที่ไปวิ่งเขาจึงพอจะรู้ว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนของนามิโมริ
สึนะยัดของที่เขาคิดว่าจำเป็นสำหรับการครูลงไปในกระเป๋าและถือมันมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว
ข้าวสุกพอดี
สึนะทำข้าวกล่องจนเสร็จและยัดมันเข้าไปในกระเป๋าพร้อมๆกับกระเป๋าตังค์และกุญแจบ้าน
“ไปละนะคร้าบบบบบ!”
.
.
.
.
.
ไปดีมาดีจ้า ซือคุง~!
สึนะหันขวับกลับไปหาประตูบ้าน“ใหม่”
“เมื่อกี้...”
“...”
สึนะส่ายหัวก่อนจะหันกลับไปเดินต่ออย่างไม่แน่ใจ...
เขาหยุดที่หน้าประตูรั้วอีกครั้ง
คราวนี้เขาไม่ได้หันกลับไป
สึนะมองมือที่จับรั้วของตัวเอง...ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว
“ครับ...หม่าม๊า”
272727272727272727272727272727272727272727
สึโยชิกำลังเดินกลับจากซุปเปอร์หลังจากที่พบว่าน้ำมันงาหมด
เขาคงต้องงดการยืดเส้นยืดสายเพราะเรื่องนี้
“ไม่ได้มาแถวนี้นา....”
ถุงในมือของเขาเลื่อนหลุดจากมือที่คลายออกด้วยความตกใจ...
เขามองภาพชายผมสีน้ำตาลเดินออกจากบ้านของเขาหลังจากปิดประตูรั้วไปด้วยฝีเท้าที่หนักแน่นและลำตัวที่ยืดตรง
แล้วยัง...
“...”ตอนนี้เจ้าของร้านทาเคซูชิอยากจะขยี้ตาแล้วดูเพื่อความแน่อีกรอบถ้าไม่ติดว่าชายหนุ่มเดินไปไกลแล้ว
แต่สึโยชิก็ยังหยิกตัวเองเพื่อความชัวร์
“ถ้ายังยิ้มแบบนั้นได้ ทำไมไม่ยิ้มซะตั้งนานแล้วนะ”
สึโยชิหัวเราะก่อนจะหยิบถุงใส่ขวดน้ำมันงาที่แตกหลังจากตกพิ้นขึ้นมาดู
“แย่แฮะ”
สึโยชิส่ายหัวยิ้มๆก่อนจะเดินกลับไปยังซุปเปอร์อีกครั้ง
หลังจากนั้นทั้งวันสึโยชิก็อารมณ์ดีจนลูกค้าประจำแซวไม่หยุดไม่หย่อน
“รอยยิ้มที่สดใสที่สุดมักอยู่กับคนที่ผ่านเรื่องร้ายๆมาได้นะว่ามั้ย? ฮ่าๆๆ”
“เอ๋? เถ้าแก่พึ่งผ่านเรื่องแย่ๆมางั้นเหรอ?”
“...”สึโยชิเพียงแค่ยิ้มกว้างแล้วหยิบสาเกมาเพิ่มพร้อมให้ส่วนลดเท่านั้น
‘เรื่องร้ายๆของเธอผ่านพ้นไปแล้วสินะ สึนะโยชิคุง’
ภาพเด็กน้อยที่ทำหน้ามุ่ยเกือบตลอดเวลาแล่นเข้ามาในหัวของสึโยชิ
“ทา--”นิ้วนั่นชี้ไปที่ทาเอะภรรยาของเขา
“เค---”ก่อนจะเลื่อนไปที่ป้ายร้านทาเคซูชิชื่อของร้านซูชิที่พวกเขารัก
“ชิ!!”ก่อนที่นิ้วนั่นจะลากมาจบลงที่ตัวของเขาเอง
“ทา” จาก “ทา”เอะ
“เค” จาก ทา“เค”ซูชิ
และ “ชิ” จาก สึโย“ชิ”
ชื่อที่เด็กคนนั้นตั้งให้ลูกชายคนเดียวของเขา...
รีบๆกลับมาให้เต็มร้อยทีเถอะนะสึนะคุง
ทาเคชิกำลังต้องการใครสึกคนนอกจากเพื่อนที่เข้าใจและไว้ใจได้พอที่จะแบ่งน้ำหนักจากไหล่เล็กๆนั่นออกไปบ้าง
ไม่อย่างนั้น...
ทาเคชิจะต้อง“แตกสลาย”ไปแน่...
เหมือนกับที่เธอ...ต้องเผชิญมาตลอดสิบปีมานี่ยังไงละ...
สึนะคุง...
Tsuyoshi27Tsuyoshi27Tsuyoshi27Tsuyoshi27Tsuyoshi27Tsuyoshi27
ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ววววววจ้าาาาาาาาาา
(และจะหายไปอีก??)
จริงๆแล้วมีต่อแต่พอจะลงแบบตอนเดียวมันแลดูแปลกๆ อะโพเลยตัดเป็นสองตอนจ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาลงส่วนที่ตัดไปเป็นอีกตอนนึงเนอะ
ชีวิตสึนะช่างรันทดนักเฮ้อออออ
*เดี๋ยวนะนี่ฉันแฝง สึโยสึนะ กับ ทาเคสึนะ ลงไปใช่มั้ย????
เอาเป็นว่าเดี๋ยวมาต่อจ้าาาา
ApologiZE
ความคิดเห็น