ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn Yaoi] From boss to teacher! จากบอสมาเป็นครู!

    ลำดับตอนที่ #4 : คาบเรียนที่ 4! All alone!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.06K
      318
      5 พ.ค. 58

     

     


    คาบเรียนที่ 4!! All alone


     

    “...”

    ผมนี่ถึงกับพูดไม่ออกเลยครับ...

     ‘ซ่า.......

    ฝนไม่ได้ตกหรอกครับ....ผมอาบน้ำอยู่

    เพียงแต่...


    สบู่กลิ่นสตอเจลโล่มะกรูด้าตราสี่เยน!! ใช่แล้วสาวร้ากกกกกสาวหลงงงงง

    ได้ผลจริ๊งงงงงไม่โม้!!!

    “...”

    ผมมองกล่องสบู่ในมือแล้วหันไปมองก้อนสีไม่อาจระบุได้ในที่วางสบู่ด้วยสายตาว่างเปล่า...

    ขนแขนถึงกับเสตนอัพแม้จะอาบน้ำอุ่นอยู่ก็ตาม!

    “...”

    หวังว่าจะมีสบู่ยี่ห้ออื่นอยู่บ้างนะ...

    ผมกวาดสายตาไปทั่วๆห้องน้ำที่ผมพึ่งทำความสะอาดไป...

    และผมก็ค้นพบว่า...

    มันไม่ได้มีแค่สบู่...


     

    มันมาเป็นเซ็ต!!!


     

    ยาสระผม ครีมนวดผม น้ำหอม จวบจนโฟมล้างหน้า....

    เป็นกลิ่นสตอเจลโล่มะกรูด้าตราสี่เย็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!

    “...”

    ผมปิดน้ำก่อนจะเดินออกไปนอกห้องน้ำทั้งๆที่เปียกไปทั้งตัว

    หยิบถุงขยะที่ใกล้ที่สุดมา...

    และกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่มีตราสี่เยนลงไป

    ต้องบอกว่าโชคดีที่ยาสีฝันเป็นยี่ห้อปกติทั่วไป

    ไม่อย่างนั้นผมคงเลือกที่จะไม่แปรงฝันไปสอน...

    “...”


    ผมพูดจริงน่ะ...

     


     

    สึนะถอนหายใจหลังจากมัดปากถุงขยะก่อนจะเริ่มต้นการอาบน้ำอีกครั้ง...

    ถึงแม้จะหลับตาพริ้มรับน้ำที่พ่นออกจากฝักบัวแต่มือทั้งสองข้างของเขาก็เริ่มการสำรวจร่างกายตัวเอง

    นอกจากนั้นเขายังเลือกที่จะพิถีพิถันเป็นพิเศษเพื่อทดแทนการขาดแคลนของสบู่อีกด้วย


     

    ผมเหนื่อยกับการทำความสะอาดก่อนหน้าเอามากๆ

    เพราะหลังจากที่เป็นบอสเต็มตัวนอกจากทำอาหารหรือขนมกับกาแฟกินเองตอนดึกๆ

    พวกงานบ้านอย่างอื่นก็ไม่เคยได้แตะเลยสักครั้ง

    มันจึงทุลักทุเลไม่น้อยเลยกับกล้ามเนื้อที่ไม่มีนี่...

    ถึงแม้จะอยากทำอะไรบ้างตามนิสัย แต่คนรอบตัวก็เอาแต่ห้ามนู่นห้ามนี่ไปทั่ว

    ทีงานเอกสารปึ้งเท่าบ้านนี่ไม่เคยห้าม...


     

    ถึงตอนนั้นจะฝึกร่างกายทุกวันแต่...

    สึนะกดนิ้วลงตามหน้าท้อง แขน ขา สะโพก หลัง และพบว่า..


     

    “ส...สิ้นหวังสุดๆ...”

    สึนะอยากจะทรุดลงไปกองกับพื้น


     

    แต่เขาก็ลืมตาขึ้นเพื่อสำรวจส่วนที่เป็นรอยจากการใช้เข็มฉีดยา


     

    “แล้วยังเรื่องนี้อีก...”


     

    ก่อนอื่นเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นยาตัวไหน

    ใช้ครั้งสุดท้ายเมื่อไร

    รอยเข็มเยอะขนาดนี้ใช้ทั้งหมดกี่ชนิดก็ยังไม่รู้

    เรื่องการเลิกนั้นเขาค่อนข้างที่จะมีประสบการณ์จึงไม่ได้ห่วงอะไรมากมาย

    ก็นะ ช่วงที่เป็นบอสก็โดนอะไรหลายๆอย่างนั้นแหล่ะ

    “ถ้ารู้ว่าได้ยานี่มาจากไหนก็คงดี...”

    เพราะถ้าหากว่าทุกคนอายุเท่ากับผมละก็ นามิโมริเองก็ต้องตกอยู่ภายใต้การดูแลของวองโกเล่หรือของเคียวยะ....


    “...”

    เคียวยะ...

     



     

    เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ! เคียวยะ!

    เคี....ยว.....................ยะ........................................





     

     

    “อึก..!”ร่างผอมแห้งพุ่งไปที่ชักโครก

    ก่อนจะ...

    “อ็อก...!!!


     

     

    ไม่มีอะไรออกมาเลยนอกจากน้ำย่อย...


     

    ร่างกายนี่ไม่ได้รับอาหารมานานเท่าไรแล้วนะ?



     

    สึนะกำลังเลี่ยงมัน...

    ภาพความทรงจำที่เขาอยากจะลืม..

     



     

    อืม...หวังว่าเราจะไม่มีหนี้สินหรืออะไรทำนองนั้น

    ผมลุกขึ้นกดชักโครก กลับไปขัดตัวใต้น้ำอุ่นอีกพักนึงและเริ่มเช็ดตัวหลังจากอาบเสร็จ


     

    สึนะจ้องแปรงสีฟันตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจทิ้งมันแล้วเปลี่ยนอันใหม่

    มันรู้สึกแปลกๆที่จะใช้แปรงร่วมกับ...ตัวเขาอีกคน...

    “ค่อยดีหน่อย...”

    สึนะลูบใบหน้าตัวเอง

    “ที่ว่าหนวดจริงๆแล้วแข็งกว่าเพชรเป็นเรื่องจริงสินะ...เหอๆ..”

     
     

    เขาก็ไม่ได้อยากเรื่องมากกับเรื่องจิปาถะ

    แต่การมีชีวิตอยู่กับรีบอรน์โดยเฉพาะในฐานะบอสนั้น...คงไม่ต้องบอกก็คงจะรู้กันดี...


     

    ว่าหนึ่งรอยยับแลกกับหนึ่งกระสุน....


    “เฮอะๆๆ...”



     

    2727272727272727272727272727272727272727272727

     
     

    พออาบน้ำเสร็จสึนะก็ค้นเจอตารางสอนของตัวเองในกองเอกสารโดยบังเอิญ!

    อืม...วันนี้วันพฤหัสเพราะงั้น...


    “วันนี้ไม่มีโฮมรูม...”


    งั้นก็เริ่มตอนเก้าโมง

    สึนะหยุดมือที่เช็ดผมของตัวเอง

    สึนะแอบแปลกใจเล็กน้อย ที่โรงเรียนจะเริ่มตอนเก้าโมงถ้าหากว่าไม่มีโฮมรูม

    เพราะจริงๆแล้วเขากะจะไปสายเพื่อให้สมกับความห่วย

    แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีเวลามากกว่าที่คิดไว้


     จะออกไปข้างนอกดีหรือว่า...

    สึนะเหลือบมองโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะกินข้าวก่อนจะตัดสินใจสืบข้อมูลของ“ตัวเอง”ก่อน


    “เบสิกๆเราก็รู้แล้วละนะ...”


    เขาเริ่มแฮ็กเข้าไปในเมล์และเว็บไซต์ที่ตัวเขาเคยสมัครเอาไว้และทยอยจดจำพาสเวิร์ดต่างๆ

    เขาเช็กเมล์ของตัวเองและพบว่ามันค่อนข้างว่างเปล่า...จะมีก็แต่ข้อมูลการสมัครเขาเว็บต่างๆ การแจ้งเตือน หรือจดหมายลูกโซ่ก็เท่านั้น...

    นอกจากนั้นก็มีเมล์ที่มีไฟล์อัลบั้มของชายหญิงคู่นึงที่เขาไม่รู้จัก 

    ทั้งคู่ดูมีความสุขดี...มีกระทั่งภาพในวันแต่งงาน ตอนฮันนีมูนและภาพที่พวกเขาอุ้มเด็กตัวเล็กๆคนนึงไว้ในอ้อมแขน...


    เดาไม่ยากเลยว่าพวกเขาเป็นใคร...

    สายตาของเขาเหลือบไปเห็นเว็บไซต์ของธนาคารแห่งหนึ่ง

    อสังหาริมทรัพย์กับการเงินของเรา...


     

    เขาใช้เวลาแฮ็กเข้าบัญชีธนาคารไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ

    เพราะในอีเมล์ที่ใช้สมัครไม่ได้ส่งฟอรม์กลับมายืนยัน และให้ไปยืนยันที่ธนาคารแทน



     

    นอกจากนั้นสึนะยังพบว่าครอบครัวของเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปนานมากแล้ว

     ทั้งซาวาดะ ซึราโกะ และ ซาวาดะ อิเอโยชิ

    ดูเหมือนว่าบ้านเด็กกำพร้าจะเป็นสถานที่ที่ตัวเขาเติบโตขึ้นมา

    และบ้านหลังเล็กๆสำหรับครอบครัวสามคนหลังนี้ก็คือมรดกเพียงอย่างเดียวของเขา

    ซึ่งก็พึ่งจะได้รับมาตอนอายุครบสิบแปดปี...


     

    ถ้าหากว่าตัวเราในโลกนี้...ตายไปแล้วจริงๆ...

    หวังว่าพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันนะ


     

    “สู่สุขตินะครับ ซึราโกะซัง อิเอโยชิซัง สึนะโยชิซัง”


     

    แต่ถ้าเขายังอยู่ละก็...

    สึนะโยชิซัง...ผมคงต้องขอยืมร่างนี้ไปก่อนเพื่อปกป้องคนสำคัญของผม...

    ผมจะคืนให้ทันทีที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี

    หวังว่าคุณจะเข้าใจ...

     

     
     

    สึนะเริ่มเช็กรายรับรายจ่ายในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา

    ทุกๆกลางเดือนเขาจะถอนเงินจำนวนมากออกไป

                 เขาคิดสาเหตุอะไรไม่ออกนอกจาก...


     

    “ยาสิน่ะ...”


     

    ในขณะเดียวกันเงินเดือนจากการเป็นครูก็ถูกโอนเข้ามาทุกเดือน

    ถ้าเทียบกันแล้วเขาคงจะอยู่กินได้สบายๆทุกๆเดือนถ้าไม่ได้ใช้ยา

    แต่หลังจากนี้เขาก็คงไม่ได้ซื้อมันอยู่ดี

    จริงๆเขาก็ไม่ได้มีทางเลือกอื่น เพราะสึนะไม่รู้ว่าจะซื้อมันได้จากที่ไหน

    เขารู้เพียงแค่ว่าเป็นช่วงกลางเดือนของทุกๆเดือนและจำนวนเงินในการซื้อเท่านั้น

    “คงต้องเจาะลึกกว่านี้...”

    แล้วหาทางบอกเคียวยะให้จัดการ คงต้องเป็นในฐานะผู้หวังดีหรือะไรสักอย่---



    โครก......!’

     



    “....” 


    แต่ตอนนี้คงต้องหาอะไรกินก่อนละนะ...



    “พรืด...ฮะๆๆ”สึนะหัวเราะเบาๆ

    มัวแต่ยุ่งๆเลยลืมกินข้าวไปเลย



    สึนะล็อกเอาท์ออกจากเพจของธนาคารแล้วปิดโน๊ตบุ๊กลง

    มือหยาบจากการไร้ความดูแลกระชับผ้าเช็ดตัวที่เอวแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจหลังจากนั่งอยู่ที่เดิมเป็นเวลานาน

    สึนะพาดผ้าเช็ดผมกับเก้าอี้ในห้องครัวแล้วเปิดตู้เย็น


    “...”

    นอกจากความว่างเปล่าแล้วก็มีเพียงซอสมะเขือเทศ มายองเนส และข้าวกล่องสำเร็จรูปจากร้านสะดวกซื้อ...

    ที่หมดอายุไปแล้วร่วมอาทิตย์...


     “วันนี้กินข้าวข้างนอกแล้วกัน...”

    สึนะปิดตู้เย็นแล้วพิงหน้าผากไว้กับตู้เย็น



     

    ชีวิตในฐานะบอสของเขาช่างแตกต่างกับตอนนี้ซะจริงๆ...

    นี่คือสิ่งที่เขาจะเป็นถ้าเขาไม่ได้พบกับรีบอรน์งั้นเหรอ?


     

    ชีวิตที่เหมือนถูกทอดทิ้ง...



     

    ดวงตาที่มองลงไปที่พื้นค่อยๆรื้นไปด้วยน้ำตา

    “ฉัน...คิดถึง....พวกนาย....”

    น้ำสีใสหยดลงจากใบหน้าเศร้าสร้อยหยดแล้วหยดเล่า

    จากที่ไม่มีเสียงเล็ดลอด เสียงสะอื้นค่อยๆก่อตัวขึ้น


    สึนะไถลตัวลงมานั่งกับพื้น

    เขาขดตัวแล้วกอดตัวเองเอาไว้...

    ใช้เวลาคิดทบทวนเพื่อยอมรับความจริงที่ว่าเพื่อนคนเดิมของเขาจะไม่มีวันกลับมา...


    และจะไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว...


     

     

    “......................................................................!!!


    สึนะกรีดร้องโดยที่ไม่มีเสียง...


     

    (พวกเราจะอยู่ด้วยกัน...ตลอดไป)


     

    สึนะหลับตาที่แดงก่ำลง....

    น้ำตาของเขายังคงไหลออกมาไม่หยุด

    ตอนนี้เขาไม่อยากจะยอมรับ รู้สึกหรือรับรู้ถึงสัญชาติญาณที่ได้รับสืบทอดมาจากพรีโม่เลยสักนิด...


    สัญชาติญาณที่เหมือนกับมีดที่กรีดลงซ้ำๆที่เดิม

    สัญชาติญาณที่กรีดร้องว่า


     

    หลังจากนี้จะไม่มี


     

     “สึนะ”

     

    จะมีเพียง

    .

    .

    .

    .

    “ซาวาดะซัง”

     
     

    27272727272727272727272727272727272727272727

     

     

    มุมคำตอบบบบบ

     

    -          ทำไมสึนะไม่แฮ็กหาเพื่อนหล่ะ?

    กับตอนนี้เราเขียนช่วงต้นออกมาเป็นสึนะที่พยายามจะเอางานมาทำถมตัวเองให้ลืมเรื่องเพื่อนไปคะ สึนะที่พยายามเลี่ยงทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่แม้แต่จะแฮ็กฐานข้อมูลเพื่อค้นหาอดีตผู้พิทักษ์ของตัวเองทั้งที่มีโอกาส ที่สำคัญยังไม่ยอมออกจากบ้านไปสำรวจนามิโมริแต่กลับเลือกที่จะค้นเรื่องตัวเองแทน สึนะกลัวจะเจอกับใครสักคนเข้าเพราะยังรับไม่ได้กับการสูญเสียนั่นเอง

     

    -          ทำไมร้องไห้เยอะจริงกี่ตอนๆก็ร้อง?

    ถ้าสึนะไม่ได้ร้องไห้ไปกับพรีโม่เราว่าสึนะคงบ้าไปแล้วแหล่ะคะ เพราะในชีวิตสึนะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการปกป้อง “แฟมิลี่” (คำนี้จะรวมไว้ทุกคนเลยคะ จะเด็กๆกับนานะ พวกแซนซัส แน่นอนว่าผู้พิทักษ์กับพันธมิตรและลูกน้องในแฟมิลี่ด้วย)  แต่ตอนนี้สึนะไม่เหลืออะไรเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตหายไปหมดแล้ว จะไม่มีใครมาตะโกนเรียกด้วยชื่อเล่น เอาแขนมาคล้องคอ ทะเลาะกันแบบเด็กๆหรืออะไรแบบนั้นอีก จะมีแค่รอยยิ้มสุภาพ ระยะห่างที่มากพอสมควรและการถูกเดินผ่านไปโดยที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเท่านั้น

    จริงๆแล้วอยากจะเขียน ถ้าฮายาโตะอยู่ด้วย... ถ้าทาเคชิเห็นเข้า... ถ้า..ฯลฯ ไปด้วยแต่กลัวจะรำคาญคะ 555+ เพราะถ้าเป็นสึนะก็ต้องนึกถึงปฏิกิริยาของ“แฟมิลี่”ก่อนตัวเองอยู่แล้วเนอะ? แต่คิดว่าตัดออกไปคงดีกว่า


    ในตอนจบตอนสึนะก็ทนหลอกตัวเองต่อไปไม่ได้เพราะสัญชาติญาณที่มีประโยชน์ในการต่อสู้ก็เป็นดาบสองคมที่แทงเข้าตัวสึนะเองเมื่อสึนะเริ่มหลอกตัวเอง


    ตอนนี้ทั้งตอนออกจะน่าเบื่อๆไปหน่อยแต่อยากให้เวลาสึนะอยู่คนเดียวบ้าง ไม่งั้นสึนะต้อง“พัง”แน่ๆถ้าเจอกับเพื่อนที่เห็น
    สึนะเป็นคนแปลกหน้า


    ความอู้ไม่เข้าใครออกใครรรรรรรร


    ยังมีต่อนะจ๊ะ!!


     

    2727272727272727272727272727272727272727272727

     
     

    สึนะมารู้สึกตัวอีกทีตอนตีห้าของวันรุ่งขึ้น...



    “อะ...โดดสอนไปซะแล้ว”


    อย่างน้อยเขาก็ได้พักผ่อน...และเขาก็รู้สึกดีขึ้นเยอะหลังจากที่ร้องไห้ออกไปแบบนั้น

    สึนะลุกขึ้นมาบิดขี้ตัวด้วยความเมื่อยขบ

    แน่หล่ะ ก็เล่นนอนพิงตู้เย็นอยู่ทั้งวันทั้งคืนเองนี่..สึนะส่ายหัวยิ้มๆ ในหัวได้ยินเสียงเอือมระอาจากเพื่อนๆของเขา


     

    ผมกำลังเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน...


     

    ปาฏิหารย์ด้วยซ้ำที่ไม่ได้เป็นหวัดเพราะนอนล่อนจ้อนกับผ้าเช็ดตัวเปียกๆหน่ะ เหอะๆ

    “อืม...ต้องเอาขยะออกไปทิ้ง”


    สึนะหยิบแว่นรุ่นปู่มาสวมก่อนจะคุ้ยตู้เสื้อผ้าที่เรียกได้ว่าเน่าจนถึงที่สุดก่อนจะสะดุดเข้ากับชุดวอรม์


    “ออกไปจ็อกกิ๊งหน่อยก็ดี...มั้ง?”


    ถ้าในอนาคตเขาต้องเข้าไปเอี่ยวกับทั้งวองโกเล่ทั้งผู้พิทักษ์ละก็...ก่อนอื่นก็ต้องสร้างกล้ามเนื้อก่อน...

    สึนะสวมชุดวอรม์สีขาวแถบดำและส้มตัวนั้นก่อนจะเดินออกมานอกห้อง

    ท้องเขาเริ่มโหยหวนอีกครั้ง...

    “ต้องไปซื้อข้าวกับเครื่องใช้ด้วย..”

    ที่นามิโมริมีร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด24ชั่วโมงอยู่ไม่กี่ที่

    แต่นามิโมริก็ไม่ได้ใหญ่มากถ้าไม่ได้รวมป่ากับภูเขาเข้าไปด้วย



    “คงไหว...”

    สึนะเกือบลืมที่จะตามหากระเป๋าตังค์และกุญแจบ้าน เพราะเขาไม่เคยต้องพกอะไร...นอกจากถุงมือ..

    อยากได้อะไรฮายาโตะก็พุ่งไปจัดการให้หมด

    เหมือนจะได้ยินเสียงฮายาโตะกำลังตบอกด้วยความภูมิใจ



    เขาแปลกใจที่หาทั้งสองอย่างเจอแทบจะทันที 

    สึนะจดลิสต์ของที่เขาจำเป็นต้องซื้อแล้วยัดมันเข้ากระเป๋ากางเกงเอาไว้


    แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีรองเท้ากีฬาเลย


    สึนะยักไหล่ก่อนจะหยิบรองเท้าหุ้มข้อที่หนาพอสมควรมาใส่


    แอ็ด...อากาศเย็นๆทำให้สึนะรู้สึดสดชื่นแปลกๆ


    สึนะเดินเข้าไปลากถุงดำสองถุงใหญ่ออกมาแล้วหันไปปิดประตูบ้าน


    จริงๆมันมีมากกว่านี้อีกหนะหน่ะ แต่ค่อยๆทยอยทิ้งจะดีกว่า..

    บรรยากาศรอบๆทำให้รู้ว่าอยู่ในนามิโมริชัวร์ๆ

    สึนะหันไปสำรวจบ้านของตัวเอง

    บ้านของเขามีสวนรอบๆบ้านคล้ายๆกับบ้านเก่า

    กระทั่งหลังคายังสีเดียวกัน

    ที่แตกต่างก็คงมีแต่ความกว้างที่มากกว่าและมีเพียงชั้นเดียว

    เขาลากขยะไปทิ้งในที่ทิ้งขยะก่อนจะรื้อฟิ้นความทรงจำว่าเขาอยู่ส่วนไหนของนามิโทริ


    “ซุปเปอร์นั่นอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไร”

    เขารู้ตัวดีว่าไม่ควรหักโหมเหมือนกับที่รีบอร์นเคยบังคับให้ทำ เพราะคราวนี้เขาไม่มีใครมารักษาให้แบบฟรีๆ

    แถมตอนนี้เขายังอ่อนแอ๊อ่อนแอสุดๆถ้าหักโหมเดี๋ยวได้นอนยาวไม่ต้องลุก...

    เมื่อวานก็ไม่ได้กินข้าวอีก...



    “เฮ้อ...”


    เอาเป็นว่าวันนี้เขาจะวิ่งไปซุปเปอร์อย่างเดียวละกัน

     

    ผมเริ่มวอรม์ร่างกายและพบว่านอกจากจะไร้ซึ่งกล้ามเนื้อแล้วตัวยังแข็งมากอีกด้วย

    ถ้าไม่มีรีบอรน์เราก็คงเป็นแบบนี้...

    หลังจากวอรม์ร่างกายเสร็จผมก็ออกตัวช้าๆ


    “วิ่งได้...แฮ่ก...ไม่ถึงห้านาทีเอ--แฮ่ก”


     

    เสียงข่มขู่ของรีบอร์นดังก้องอยู่ในหัวเหมือนทุกครั้ง


     

    ผมปฏิเสธที่จะหยุดพักและวิ่งต่อไปเรื่อยๆ

    ขากลับคงต้องแวะพักบ้าง เพราะต้องถือของกลับมาอีก

    ผมวิ่งไปในท้องถนนที่เงียบสงบ เหงื่อไหลเหมือนสู้กับแซนซัสมาสามชั่วโมง...

    เหนื่อย...ส..สุดๆเลย..

    ผมทิ้งตัวลงที่ม้านั่งข้างๆซุปเปอร์เพื่อพักก่อนจะเข้าไปซื้อของตามที่จดไว้

    สบู่เหลว สบู่เหลว...แล้วก็ครีมโกนหนวด

    ผักเยอะๆ อะ..เส้นสปาเก็ตตี้

    อ๊ะ ขนมนี่มัน! ยังมีขายอยู่อีกเหรอเนี่ย?

    รถเข็นของสึนะเริ่มจะเต็มขึ้นเรื่อยๆ...


    “เยอะไปรึเปล่านะ?

    สึนะเอียงคอพลางลูบคาง


    “ไม่มั้ง?”

    เวลาไปซื้อของกับทุกคนก็ซื้อกันคนละสองสามคันนี่...?”


    สึนะยักไหล่ก่อนจะเดินไปจ่ายเงิน

    ห้าถุงใหญ่....

    สึนะมองถุงเหล่านั้นแล้วกลืนน้ำลาย...



    ส...สู้โว้ย...!’




     

    ขากลับก็ไม่ได้มีอะไรมาก

    นอกจากเขาคลานเข้าบ้านนะน่ะ...


     

    2727272727272727272727272727272727272727272727

     

    หลังจากที่เก็บของเข้าตู้เย็นและที่ๆมันสมควรจะอยู่สึนะก็รีบพุ่งไปอาบน้ำพร้อมกับอุปกรณ์อาบน้ำที่ซื้อมาเมื่อครู่อย่างมีความสุข...

    “ถ้ามีอ่างอาบน้ำคงจะดี...”

    สึนะพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของตัวเอง

    หลังจากที่อาบน้ำเสร็จจนตัวหอมฟรุ้ง สึนะก็เตรียมตัวที่จะโกนหนวด...


    “...คงต้องเอาไว้ก่อน”


    อยู่ๆถ้าอาจารย์เปลี่ยนไปทั้งหน้าทั้งนิสัยเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เปล่าๆ

    ความห่วยของสึนะในวัยเด็กไม่ใช่เรื่องโกหก เขาไม่ได้มีบุคลิกภาพที่ต้องซ่อนเหมือนตอนนี้

    เขาเลยไม่แน่ใจว่าต้องทำยังไงถึงจะเนียน เพราะสิ่งที่เขาทำมาตลอดมันตรงกันข้าม


    “เฮ้อ...”


    สึนะลดมีดโกนลงก่อนจะเริ่มล้างหน้าและบำรุงหน้าตัวเองอย่างพิถีพิถัน!

    รีบอรน์สอนและบังคับเขาจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว!

    สึนะเช็ดผมตัวเองจนแห้งหมาดๆแล้วจึงเดินไปเลือกเสื้อผ้า

    เจ็ดโมงกว่าแล้ว

    สึนะหยิบตารางสอนขึ้นมาดู


    “วันนี้ก็ไม่มีโฮมรูมแฮะ”


    สึนะใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วจึงเริ่มทำอาหารเช้าและข้าวกล่องสำหรับตอนกลางวัน

    สึนะหุงข้าว และเริ่มทอดไส้กรอกและเทมปุระ  

    ซุปไข่สาหร่ายถูกทำขึ้นแบบไม่ได้อะไรมากนัก พร้อมๆกับกาแฟที่ตอนนี้กำลังถูกกลั่นโดยเครื่องทำกาแฟ

    สึนะพลิกไส้กรอกกับกุ้งก่อนที่จะไปตามหากล่องข้าวมาใส่

    ซุปถูกใส่ลงในถ้วยที่มีฝาปิดแน่นหนา

    คราวหน้าต้องซื้อแบบที่เก็บความร้อนด้วย

    กุ้งเทมปุระที่แป้งน้อยแต่เนื้อเยอะถูกจัดวางข้างๆไส้กรอก

    สึนะเด็ดสลัดให้เป็นชิ้นเล็กๆและเริ่มหั่นมะเขือเทศแครอทแตงกวาและใส่ข้าวโพดกระป๋องเข้าไปสองสามช้อน

    สึนะไม่ได้ซื้อซอสสลัดมาแต่ค้นเจอมายองเนสในตู้เย็น(ที่น่าจะยังไม่หมดอายุ)ก็เลยใส่แก้ขัดไป

    ข้าวกล่องเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

    ขาดก็แต่ข้าวที่ยังไม่สุก

    ถึงจะฟังดูเหมือนเชฟมือโปรทำอาหารแต่จริงๆแล้วทั้งห้องครัว มือและผ้ากันเปื้อนนั้นกลับเหมือนกับผ่านสงครามโลกมา


    ความไม่คุ้นเคยกับร่างกายนั้นทำให้สึนะมีดบาดไปหลายแผล

    สึนะใช้เวลาทำความสะอาดและการทำแผลกับทำอาหารมากกว่าการทำอาหารด้วยซ้ำ


    และเนื่องจากอยู่อิตาลี่มานาน สึนะจึงติดนิสัยกินอาหารเช้าง่ายๆมาด้วย

    อาหารเช้าของสึนะคือ กาแฟกับขนมปังทาเนย

    สึนะเบ้หน้าเมื่อชิมกาแฟ


    “ต้องหากาแฟที่คุณภาพดีกว่านี้..”


    สึนะหันไปเช็กเวลาอีกครั้ง


    “แปดโมงสามสิบห้า...อืม ถมเถ”


    ตอนที่ไปวิ่งเขาจึงพอจะรู้ว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนของนามิโมริ

    สึนะยัดของที่เขาคิดว่าจำเป็นสำหรับการครูลงไปในกระเป๋าและถือมันมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว

    ข้าวสุกพอดี

    สึนะทำข้าวกล่องจนเสร็จและยัดมันเข้าไปในกระเป๋าพร้อมๆกับกระเป๋าตังค์และกุญแจบ้าน

     

     

    “ไปละนะคร้าบบบบบ!

    .

    .

    .

    .

    .

    ไปดีมาดีจ้า ซือคุง~!

     
     

    สึนะหันขวับกลับไปหาประตูบ้าน“ใหม่”


    “เมื่อกี้...”


    “...”

    สึนะส่ายหัวก่อนจะหันกลับไปเดินต่ออย่างไม่แน่ใจ...

    เขาหยุดที่หน้าประตูรั้วอีกครั้ง

    คราวนี้เขาไม่ได้หันกลับไป

    สึนะมองมือที่จับรั้วของตัวเอง...ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว



     

    “ครับ...หม่าม๊า”

     

     

     

    272727272727272727272727272727272727272727


     

    สึโยชิกำลังเดินกลับจากซุปเปอร์หลังจากที่พบว่าน้ำมันงาหมด

    เขาคงต้องงดการยืดเส้นยืดสายเพราะเรื่องนี้


    “ไม่ได้มาแถวนี้นา....”


    ถุงในมือของเขาเลื่อนหลุดจากมือที่คลายออกด้วยความตกใจ...

    เขามองภาพชายผมสีน้ำตาลเดินออกจากบ้านของเขาหลังจากปิดประตูรั้วไปด้วยฝีเท้าที่หนักแน่นและลำตัวที่ยืดตรง


     

    แล้วยัง...


     

    “...”ตอนนี้เจ้าของร้านทาเคซูชิอยากจะขยี้ตาแล้วดูเพื่อความแน่อีกรอบถ้าไม่ติดว่าชายหนุ่มเดินไปไกลแล้ว

     

     

    แต่สึโยชิก็ยังหยิกตัวเองเพื่อความชัวร์


     

    “ถ้ายังยิ้มแบบนั้นได้ ทำไมไม่ยิ้มซะตั้งนานแล้วนะ”


    สึโยชิหัวเราะก่อนจะหยิบถุงใส่ขวดน้ำมันงาที่แตกหลังจากตกพิ้นขึ้นมาดู


    “แย่แฮะ”


    สึโยชิส่ายหัวยิ้มๆก่อนจะเดินกลับไปยังซุปเปอร์อีกครั้ง

    หลังจากนั้นทั้งวันสึโยชิก็อารมณ์ดีจนลูกค้าประจำแซวไม่หยุดไม่หย่อน

     
     

    “รอยยิ้มที่สดใสที่สุดมักอยู่กับคนที่ผ่านเรื่องร้ายๆมาได้นะว่ามั้ย? ฮ่าๆๆ”

    “เอ๋? เถ้าแก่พึ่งผ่านเรื่องแย่ๆมางั้นเหรอ?”
     

    “...”สึโยชิเพียงแค่ยิ้มกว้างแล้วหยิบสาเกมาเพิ่มพร้อมให้ส่วนลดเท่านั้น

     

     

    เรื่องร้ายๆของเธอผ่านพ้นไปแล้วสินะ สึนะโยชิคุง

     
     

    ภาพเด็กน้อยที่ทำหน้ามุ่ยเกือบตลอดเวลาแล่นเข้ามาในหัวของสึโยชิ



    “ทา--”นิ้วนั่นชี้ไปที่ทาเอะภรรยาของเขา

    “เค---”ก่อนจะเลื่อนไปที่ป้ายร้านทาเคซูชิชื่อของร้านซูชิที่พวกเขารัก

    “ชิ!!”ก่อนที่นิ้วนั่นจะลากมาจบลงที่ตัวของเขาเอง



    “ทา” จาก “ทา”เอะ

    “เค” จาก ทา“เค”ซูชิ

    และ “ชิ” จาก สึโย“ชิ”

     

     

    ชื่อที่เด็กคนนั้นตั้งให้ลูกชายคนเดียวของเขา...

    รีบๆกลับมาให้เต็มร้อยทีเถอะนะสึนะคุง

    ทาเคชิกำลังต้องการใครสึกคนนอกจากเพื่อนที่เข้าใจและไว้ใจได้พอที่จะแบ่งน้ำหนักจากไหล่เล็กๆนั่นออกไปบ้าง

    ไม่อย่างนั้น...

     

     

    ทาเคชิจะต้อง“แตกสลาย”ไปแน่...

     
     

    เหมือนกับที่เธอ...ต้องเผชิญมาตลอดสิบปีมานี่ยังไงละ...




     สึนะคุง...



     

    Tsuyoshi27Tsuyoshi27Tsuyoshi27Tsuyoshi27Tsuyoshi27Tsuyoshi27




     

    ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ววววววจ้าาาาาาาาาา
    (และจะหายไปอีก??)
    จริงๆแล้วมีต่อแต่พอจะลงแบบตอนเดียวมันแลดูแปลกๆ อะโพเลยตัดเป็นสองตอนจ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาลงส่วนที่ตัดไปเป็นอีกตอนนึงเนอะ
    ชีวิตสึนะช่างรันทดนักเฮ้อออออ 
    *เดี๋ยวนะนี่ฉันแฝง สึโยสึนะ กับ ทาเคสึนะ ลงไปใช่มั้ย????
    เอาเป็นว่าเดี๋ยวมาต่อจ้าาาา

     

     

    ApologiZE



     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×