ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn Yaoi] From boss to teacher! จากบอสมาเป็นครู!

    ลำดับตอนที่ #8 : คาบเรียนที่ 8!! ความตายที่อยากหยุดยั้ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.78K
      300
      26 มี.ค. 59

    คาบเรียนที่ 8!! ความตายที่อยากหยุดยั้ง


    ฮิบาริ เคียวยะหรี่ตามองผ่านควันสีชมพูหลังจากที่รู้สึกตัวว่าถูกเคลื่อนย้าย…?

    กลิ่นเลือดฉุนกึกกระทบเข้าสู่โสตประสาท--เสียงลมหายใจ ฝีเท้าของคนเป็นกลุ่มเองก็ด้วย

    ความรู้สึกหงุดหงิดก่อตัวขึ้นในใจกรรมการคุมกฏหนุ่ม..


    “พวกสัตว์กินพืชที่จับกลุ่มกัน..”


    เจ้าสัตว์กินพืช ซาวะดะ อิเอยาสึ ก่อเรื่องวุ่นวายไม่เว้นวัน..

    รวมถึงวันนี้ก็ด้วย…

    แต่ยังไม่ทันที่ควันจากบาซูก้าทศวรรษจะจางหายไป คมดาบที่ไม่รู้ที่มาก็ตวัดผ่านผ่านควันสีชมพูมาปะทะกับทอนฟ่าที่ยกขึ้นมากันตามสัญชาติญาณ!


    “มันโดนบาซูก้าทศวรรษ! ฆ่ามันให้ได้ก่อนที่คนปัจจุบันจะกลับมา!”


    เสียงพูดโหวกเหวกสั่งการและขานรับคำสั่งในภาษาที่ฮิบาริไม่เข้าใจ

    ภาษาอิตาลี่?

    แต่ถึงไม่เข้าใจยังไงความรู้สึกมุ่งร้ายและรังศีฆ่าฟันก็เป็นเครื่องยืนยันได้ดี...ว่า..ชาวต่างชาติเหล่านี้เป็นศัตรู..


    “จะขย้ำ--”


    ปืนหลายกระบอกถูกชักขึ้นมากระหน่ำยิงใส่ฮิบาริที่พุ่งเข้าใส่คนที่ใกล้ที่สุด  มือฟาดทอนฟ่าเข้าใส่โดยไม่คิดยั้งแรงไว้เหมือนทุกครั้ง

    ถึงจะไม่แน่ใจว่าที่นี่ที่ไหนและถูกโจมตีเพราะอะไร แต่ในเมื่อพกอาวุธ จู่โจมและก่อความวุ่นวายในนามิโมริก็มีแต่ต้องขย้ำเท่านั้น!

    สัตว์กินเนื้อหนึ่งเดียวขย้ำฝูงสัตว์กินพืชจนหน้ำใจ--ถึงจะรู้สึกรำคาญมากกว่าสนุกแต่อย่างน้อยก็ได้ที่รองมือรองเท้ามาให้หายหงุดหงิดไปได้บ้าง...และถึงจะพึ่งต่อสู้กับผู้ใหญ่นับสิบคนแต่ร่างกายของฮิบาริก็มีเพียงรอยเฉียดของกระสุน ร่องรอยของมีดและการต่อสู้ที่ไม่หนักหนามากเท่านั้น

    ฮิบาริมองหาศัตรูอีกรอบเพื่อความแน่ใจ...ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับ…

    “โลงศพ…?”

    ตราสัญลักษณ์แห่งวองโกเล่ที่ช่วงนี้เห็นผ่านตาบ่อยๆจากเจ้าหนูถูกสลักลงบนฝาโลง...ทั้งงดงามทั้งดุดันในเวลาเดียวกัน…

    ถ้าเป็นตรานี้...ก็หมายความว่าศพที่อยู่ข้างในเป็นหนึ่งในพวกสัตว์กินพืชซาวาดะ อิเอยาสึ…

    ความสงสัยที่ว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ทำให้ฮิบาริเลื่อนมือไปเปิดฝาโลง

    แต่ว่ามั--

    ควันสีชมพูปรากฎขึ้นอีกครั้ง…



    181818181818181818181818181818181818181818181818181818181818181818181818181818181818181818


    ร่างสูงในชุดสูทที่เชิ้ตตัวในเป็นสีม่วงหัวเราะออกมาครึ่งคำ... สายตามองเข้าไปในโลงศพที่ถูกแง้มเอาไว้โดยตัวเขาในสิบปีที่แล้ว…

    อนาคตถูกเปลี่ยนแล้ว...

    มุมปากยักยิ้มขึ้นน้อยๆก่อนจะเลื่อนฝาโลงให้ปิดลงอีกครั้ง

    เพราะร่างกายที่เย็นเชียบของเจ้าสัตว์กินเนื้อในคราบสัตว์กินพืชนั่น….

    “หายไปแล้ว...”

    แกร็บ..

    ฮิบาริ เคียวยะละสายตาออกจากโลงศพตรงหน้า รอยยิ้มบนใบหน้าไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อยถึงแม้จะรู้ตัวว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากกว่าเมื่อกี้สองเท่าตรงมาทางนี้


    "โรล...มาเล่นโบว์ลิ่งกันเถอะ..."



    TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18TYL18



    สึนะแทบจะทรุดตัวลงทันทีที่สายตาคมกริบของเคียวยะ ฮิบาริถูกม่านควันสีชมพูบดบังไปอีกครั้ง

    “แค่ก---แค่ก”สึนะพยายามหายใจ แต่ร่างกายไม่ยอมตอบสนองเขาเลย ขาเขาสั่นจนรับน้ำหนักตัวเองไม่ไหว---และกำลังล้มลง---

    “น่าๆ...ใจเย็นๆสิสึนะโยชิคุง..”เบียคุรันรับสึนะแล้วพยุงเขาเอาไว้

    “กรรมการคุมกฎคุงตัวใหญ่ไปแล้วหล่ะ?”

    “เพราะงั้น...หลับให้สบายเถอะนะ สึ-นะ-โย-ชิ-คุง”เสียงหัวเราะอันคุ้นหูดังแผ่วลง...จนหายไปในที่สุด..

    สึนะหลับไปทั้งที่อยู่ในเงื้อมือของชายที่ชื่อเบียคุรัน…

    และในโลกนี้...ไม่มีใครคิดจะมาช่วยเขาเลย…แม้แต่คนเดียว….?





    แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะสึนะโยชิคุง~

    เพราะจนกว่าจะถึงตอนที่เธอเล่นเกมกับฉันได้อีกครั้ง…

    ฉันจะอยู่ข้างๆเธอเอง……….

    เพราะงั้นนอกจากด้วยฝีมือของฉัน...


    เธอห้ามตายอีกนะ?



    100271002710027100271002710027100271002710027100271002710027100271002710027



    “หืม..?”ผมกระพริบตาช้าๆภาพตรงหน้าเริ่มชัดขึ้นจากความมืดมิดเมื่อครู่..

    “ตื่นแล้วเหรอแกนะ”เสียงที่ติดรำคาญอันคุ้นเคยกล่าวจากที่ไกลๆ…

    หรือผมยังตื่นไม่เต็มตาก็ไม่รู้? อึก--ปวดหัว--

    “หือ?..เอ่อครับ?”ผมลุกขึ้นมาช้าๆ...เอามือกุมหัวเพราะรู้สึกเหมือนมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

    “เออดี ตื่นแล้วก็ไปซะ ชู่ๆ ฉันไม่รักษาผู้ชายเพราะงั้นอย่ามาแย่งเตียงสาวน้อยในอนาคตของฉันเฟ้ย ชิ้วๆ”


    เสียงแบบนี้มัน...

    ไทรเด็ทน์ ชามาล…

    มาทำอะไรที่นี่?



    ผมหรี่ตามองภาพเบลอๆที่ควรจะเป็นหน้าเขาที่ถูกบังไว้ด้วยนิตยสารเพลย์บอยที่เขากำลังอ่านอยู่เกือบครึ่งหน้า

    มองไม่ชัดเลย? แว่นอยู่ไหนนะ?

    ผมอ้าปากและกำลังจะเอ่ยถามเรื่องแว่นตา--


    แต่ก็หยุดก่อนที่จะถามออกไป...ทั้งๆที่เขาเองก็มีตัวตนอยู่ในอีกมิตินึงแท้ๆ

    น่าแปลกที่ผม...เจอเขาแล้วไม่ได้รู้สึกแย่เท่าไร?

    แน่นอนว่าผมคิดถึงเขาจริงๆ...ตาแก่ที่พล่ามเรื่องไม่รักษาผู้ชายแต่ก็ช่วยชีวิตเขากับทุกคนไว้ไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง

    คงเพราะผมยอมรับเรื่องที่เขาป่วยและตายหลังจากที่จากที่ฮายาโตะรับตำแหน่งมือขวาเพียงสามปี

    ถึงจะไม่พูดออกมาแต่ฮายาโตะนับถือชามาลเหมือนพ่อคนนึง…

    และฮายาโตะรับมันได้ไม่ดีเท่าไร...เขาขอลาหยุดและเก็บตัวไปพักนึง...แน่นอนว่าผมให้เวลาเขา..แต่มันนานเกินไปจนผมเป็นห่วง...แรมโบ้ที่ไม่เข้าใจสถานการ์ณเองก็พยายามที่จะให้กำลังใจด้วยการเล่นหรือกวนประสาทเขาไปตามประสาเด็กๆ

    ฮายาโตะตอบรับมันไม่ดีเท่าไรและตะคอกหรือลงความรู้สึกตัวเองกับทั้งแรมโบ้ อี้พิง และฟูตะ


    ผมยังจำมันได้ดี..เด็กๆที่หลบอยู่หลังผมทั้งน้ำตา สั่นกลัวกับภาพคนแปลกหน้าที่เคยเป็นพี่ชายที่ถึงจะอารมณ์ร้อนแต่ก็ใจดีมาเสมอ


    และในตอนนั้นนั่นแหล่ะที่ผมฟิวขาด

    ผมประกาศสงครามกับหนึ่งในเพื่อนสนิทหรือมือขวาของผมเอง

    ผมสู้กับเขาจนเกือบตายกันไปข้างนึง ต้องบอกว่าโชคดีที่ตอนนั้นเราอยู่ในคฤหาส์ส่วนตัวที่ถูกสร้างใหม่ของผมไม่ใช่คฤหาสน์เก่าแก่ของวองโกเล่...ไม่งั้นเราคงโดนรีบอร์นฆ่าก่อนจะได้ทำอะไรแหง...

    เพราะตัวคฤหาส์นนั่นถูกระเบิดหายไปครึ่งนึงด้วยฝีมือฮายาโตะ...พร้อมๆกับสวนญี่ปุ่นของฮิบาริและคลังวิสกี้ของแซนซัส

    อีกครึ่งนึงก็ไม่วายถูกผมแช่แข็งไปพร้อมๆกับคลังอาวุธของสะสมของรีบอร์นและแล็ปลับของเวรเด้ที่ไม่รู้ถูกสร้างขึ้นตอนไหนด้วยซ้ำ..

    แน่นอนว่าห้องเอกสารของผมก็โดนบึ้มไปด้วย...

    คงต้องขอบคุณทาเคชิกับรีบอร์นที่รู้งานและลากเด็กๆและทุกคนออกมาจากคฤหาส์นก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที

    จนกระทั่งเราทั้งคู่หมดแรงลงไปกองกับพิ้นและฮายาโตะยอมเปิดใจระบายแล้วยอมรับผมอีกครั้งนั้นหล่ะ…เรื่องถึงได้สงบลงอีกครั้ง

    แต่รีบอร์น ฮิบาริและแซนซัส ไม่ได้ดีใจกับผลลัพท์จากการต่อสู้เท่าไร....และไล่ล่าพวกเราตลอดสามอาทิตย์จนต้องหนีไปอยู่กับฟงที่จีนพักใหญ่

    ถึงทุกอย่างจะออกมาดีในตอนท้ายแต่ถ้าเป็นไปได้

    ผมก็อยากหยุดมัน…

    การตายของชามาล...

    ฮายาโตะจะได้ไม่ต้องเสียใจเรื่องนั้น...และไม่ต้องเก็บเรื่องที่ตะคอกใส่อารมณ์ใส่เด็กๆไว้เป็นแผลใจเล็ดๆที่แก้ไม่ได้อีก

    เเต่น่าเสียดายที่ฮายาโตะไม่ได้บอกว่าเขาป่วยเป็นอะไรตาย

    ไม่งั้นหล่ะก็…


    “เฮ้ยๆ!! นี่แกฟังอยู่มั้ยเนี่ย!?”สิ้นเสียงเรียกที่ผมพึ่งได้ยินนิตยสารในมือเขาก็บินมากระแทกหน้าผมที่ยังคงมึนๆจนหงายลงไปนอนอีกรอบ

    “โอ้ย---เจ็บๆ!”ผมกุมจมูกตัวเองที่โดนกระแทกเข้าเต็มๆแล้วเหลือบไปมองนิตยสารที่ตกอยู่ข้างเตียง


    อ่ะ เเว่นตา?

    มันถูกวางทับผ้าเช็ดหน้าของผมไว้ข้างๆเตียง


    “เหม่ออะไรของแก? ฟื้นแล้วก็ออกไปสิฟร่ะ--”


    ผมไม่แน่ใจว่าจะตอบยังไงดี เพราะเคยอายุอ่อนกว่าเขามากและปกติก็มัวแต่วุ่นวายไม่ให้เขาตีกับฮายาโตะด้วยก็เลยก้มลงไปเก็บแว่นตากับผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา


    “เอ่อคือ--”


    ครืด---


    เด็กที่เปิดประตูเข้ามาเป็นเด็กผู้หญิง--


    “ไงจ๊ะสาวน้อยมาหาฉันเพราะคิดถึ---”

    “ขอโทษนะคะ---อาจารย์!! แต่มัตสึชิดะคุงเขา--”


    เสียงคุ้นๆยังไงไม่รู้แฮะ?


    “โทษทีนะสาวน้อยแต่ฉันไม่รักษาผู้ชาย...แต่ถ้ารักษาเธอละก็--”

    “เป็นลมชักคะ!!”


    ผมลุกขึ้นพรวดพราแล้วคว้าผ้าพันเเผลสะอาดใส่มือ


    “อึก--”ผมเซวูบ รู้สึกหน้ามืดขึ้นมา...บางทีคงเพราะลุกเร็วเกินไป


    ผมหันไปมองชามาลที่ตาเบิกกว้างขึ้นนิดหน่อยและดูไม่แน่ใจว่าควรจะหักคำพูดตัวเองแล้วไปช่วยหรือปล่อยให้เป็นไป


    “นำไป”ผมพูดกับเด็กสาวตรงหน้าพร้อมกับใส่แว่นในมือ--ตาเบิกกว้าง--เพราะพึ่งจะรู้สึกตัวว่าเธอคือ…



    เคียวโกะจัง...


    “ซือคุง…”

    ผู้หญิงที่ผมเคยหลงรักมาตลอดจนเธอแต่งงานกับ...พลเรือนปกติที่ไม่มีประวัติเกี่ยวกับมาเฟียและประวัติอาชญากรรมก็มีแค่ใบสั่งกับเรื่องเล็กๆน้อยๆสมัยวัยรุ่นเท่านั้น..

    ผมยังจำตอนที่ได้อุ้มเคียวกะลูกชายคนแรกของทั้งสองคนได้อยู่เลย..

    ตอนนี้...ที่นู่นจะเป็นยังไงบ้างนะ…



    “ค่ะ!”ผมสะดุ้งเสียงเธอจนหลุดออกจากภวังค์ความคิดและถึงสายตาที่มองมายังผมสลับกับชามาลจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือแต่ก็ยอมวิ่งนำผมไปโดยดี

    “ชามาล!”ผมหันไปเรียกเขาจนเขาหลุดออกจากความคิดของตัวเอง สายตาไม่แน่ใจว่าควรจะช่วยเด็กหรือไม่...

    “โทรศัพท์!”ผมตะโกนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะออกวิ่งตามเคียวโกะจั--ไม่--ซาซางาวะจังไป

    “ทางนี้ค่ะอาจารย์ซาวาดะ!”เธอตะโกนกลับมา--ผมเห็นกลุ่มนักเรียนและอาจารย์พล่ะประจำโรงเรียนยืนมุงอยู่รอบๆอะไรบางอย่าง


    ซึ่งก็คุงเป็นมัตสึชิดะคุงที่ว่า


    “หลบไป!”ผมตะโกนลั่น ฝูงนักเรียนแตกหือในขณะที่สีหน้าของอาจารย์พล่ะนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่คิดว่าผมจะมีประโยชน์หรือช่วยให้สถานการ์ณดีขึ้นเลยซักนิด--

    “ถอยไป!อย่างน้อย 3 เมตร! อย่ามุง!”ผมตวาดคำสั่งก่อนจะคุกเข่าลง


    ผมมีประสบการ์ณหลายรอบเพราะหนึ่งในลูกน้องของผมมีคนนึงเป็นโรคลมชักขั้นรุนแรง


    “คุณ!”ผมหันไปเรียกอาจารย์พล่ะ

    “มาจับแขนขาเขาอย่าให้กระแทกพื้น! เธอ!มาช่วยประคองหัวเขาไว้!”ผมชี้เด็กหนุ่มท่าทางแข็งแรงคนนึง


    แม้จะแปลกใจนิดๆแต่พวกเขาก็รีบทำตามคำสั่งผมโดยดี


    “เราจะพลิกตัวเขาหนึ่ง สอง สาม ฮึบ”ผมลดเสียงลงแต่ก็เสียงดังพอให้ทุกคนได้ยินคำสั่ง หลังจากนั้นก็แกะม้วนผ้าพันแผลสะอาดออกมาปั้นนึงแล้วใส่เข้าไปในปากกันการกัดลิ้น

    “ฉันเรียกรถพยาบาลแล้ว!”เป็นชามาลเองที่วิ่งเข้ามาดูสถานการ์ณพร้อมรายงานว่าคำสั่งสั้นๆของผมนั้นส่งไปถึง


    ชามาลคุกเข่าลงมาเช็คสภาพมัตสึชิดะแล้วพยักหน้าให้ผม

    ตอนนี้เราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ

    เพียงไม่กี่นาทีเสียงรถพยาบาลก็ดังขึ้นแว่วๆ


    “หนึ่งในพวกเธอไปแจ้งหน่วยกรรมการคุมกฎ อีกคนช่วยไปนำทางรถพยาบาลเข้ามาที”ผมหันไปบอกเด็กนักเรียนที่ยังคงยืนเป็นห่วงเพื่อนกันอยู่ไม่ไกลเท่าไร


    หลังจากนั้นก็เป็นครูพล่ะที่ตามไปโรงพยาบาลเพื่อดูอาการเด็ก

    ผมปาดเหงื่อแล้วถอนหายใจที่ทุกอย่างดูจะผ่านไปได้ด้วยดี…

    ก่อนจะรู้สึกถึงสายตาหลายคู่ที่มองผมอย่างสงสัย..

    เสียงซุบซิบจากเด็กนักเรียนทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน


    “เออใช่เรื่องเมื่อกี้--”ผมหันไปเพื่อมองชามาลที่กำลังพูดอะไรซักอย่างขึ้นมา--


    แต่...


    สายตาผมก็สบเข้ากับ…พวกเขา...

    ห่างจากผมไปไม่ไกล…ที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือ

    ฮายาโตะ...

    ทาเคชิ...

    และคนที่…อยู่(ในที่ของผม!)ตรงกลาง

    ผมสีน้ำตาลทอง...ตาสีฟ้า...ใบหน้าที่ดูหมดห่วงจากสถานการ์ณเมื่อครู่…

    มือที่ประสานกับมือของเคียวโกะจัง…

    ฮานะที่กำลังแกะมือเขาออกจากเคียวโกะจังตาขวาง

    ทาเคชิที่กำลังหัวเราะกับท่าทางทั้งตกใจทั้งอายของ...เด็กคนนั้น

    ในขณะที่ฮายาโตะกำลังข่มขู่ให้ฮานะประสานมือสองคนนั้นเข้าหาหันใหม่…


    อึก--!


    “...”ผมกุมหัวร่างกายสั่น--?  เจ็บไปหมด--เล็บผมจิกเข้ากับแขนตัวเอง มึนหัว---รู้สึกเหมือนอยากจะอ้วก--



    นั่นมันที่ของฉัน!!!!!!


    ถอยออกจากพวกเขา!!!!


    สิทธิ์นั่นควรจะเป็นของฉัน!!!



    น้ำใสๆไหลออกจากดวงตา


    พลั่ก!!


    หัว...? ของผมกระแทกเข้ากับ...อะไร? พื้นงั้นเหรอ...?


    “เฮ้ย--เป็นอะไรของแ---”เสียงชามาลเลือนลางอยู่ในโสทประสาท--

    “เฮ้ย!!--ถอย---มุง-”ผมได้ยินเสียงเขาเป็นระยะๆเท่านั้น--


    และก่อนที่ผมจะละสายตาออกมาจากภาพบาดตานั่น…

    ทาเคชิ--ยามาโมโตะคุง...กลับหันมา…


    ดวงตาของเขาเบิกกว้าง---


    ไม่รู้ว่าผมเพ้อไปเองรึเปล่า...แต่ว่า…


    ‘สึนะ...?’


    แล้วสติของผมดับวูบไป…



    2727272727272727272727272727272727272727272727272727272727272727272727272727272727272727



    แหมๆหายไปนานอีกแล้--//โดนปาหม้อไหกะละมังครกใส่

    ก็อย่างที่รู้ๆกันนะคะว่าอาโพเป็นพวกเขียนตามใจมากๆฟฟฟ สงสารนักอ่านทุกคนเหมือนคะที่ต้องมายืนจนนั่งจนนอนรออาโพอัพ ฟฟฟฟ
    แต่ฟิคของอาโพมันค่อนข้างเขียนยากพอสมควรเลย อร่า... เพราะแนวแบบนี้ไม่ค่อยเห็นมีใครเขียนกันเลย ยิ่งอาโพอ่านฟิคในเด็กดีอื่นๆก็ยิ่งเห็นแต่สึนะที่ดูบอบบางอ่อนแอเหมือนตุ๊กตาแก้วจนบางทีก็ลืมไปว่าสึนะเป็นผู้ชาย แต่เวลาโกรธชอบควักเอ็กส์ เบริน์เนอร์ออกมาใช้--- บางทีก็งงนะว่าจะอ่อนแอหรือแข็งแกร่ง 5555+
    อาโพชอบเคะ/เสะแกร่งๆคะ5555555+ ยิ่งไฟว์แย่งตำแหน่ง(???)กับเมะนี่แบบโอ้ย--ขอปาใจให้-- เพราะงั้นอาโพดีใจมากเลยที่คุณ มาจิก มาเม็นท์ไว้ว่า ชอบที่สึนะเข้มแข็งดี โอ้ยเขินมาก
    จริงๆกังวลว่าจะรำคาญฉากอ่อนแอของสึนะมาก ถถถ แต่เชื่ออาโพเถอะ สึนะจะเข้มแข็งในอีกไม่นานนี้!!

    ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ยังคงติดตามกันมาจนถึงทุกวันนี้---แต่เวลาเห็นใครทวงนิยายอาโพก็ยังหัวเราะชั่วร้ายใส่จอคอมแถมไม่อัพอยู่ดี---//โดนดักตีหน้าบ้าน----

    สุดท้ายนี้ขอแต่งตั้งฟิคนี้ให้มีคติตามที่คุณ ซาวาดะ สึโนะโกะริแนะนำมานะคะ---


    อยากจะอ่านต้องอดทน รอจนเป็นปีต้องไม่ตาย!!!


    //โดนถีบ--


    ApologiZE
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×