คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ☆ คุณแม่ VS ลูกสาว ☆ ::: round 1
แม่ผัวลูกสะใภ้
Author : Z-ENSeeee & yjnnx
Couple : ????
รักกัลปานจิกลืนกิน..... กินหัว
เช้าวันเสาร์ที่อากาศสดชื่นมีสายลมพัดมาปอยๆเล็กน้อยชวนให้อารมณ์ดี อีกทั้งอากาศก็ยังไม่หนาวมากเหมาะแก่การมาจ๊อกกิ้งยามเช้าเสียจริง
อ่าห์
แต่นี่มันไม่ใช่เวลามานั่งชมบรรยากาศสักหน่อย!
ร่างเล็กในเสื้อสีเชิ้ตขาวสวมทับด้วยสเว็ตเตอร์สีเทายี่ห้อดังกางเกงสามส่วนสบายๆกับผ้าใบคู่ใจวิ่งกระหืดกระหอบมายังสถานีรถไฟใต้ดินหรือ MRT สายประจำเพื่อไปเรียนพิเศษกับแฟนหนุ่มซึ่งวันนี้เจ้าตัวดันตื่นสายนอนเพลินจนลืมเวลา นี่ตื่นมาก็รีบอาบน้ำแต่งตัวทุกอย่างเสร็จภายใน5นาที อะเมซิ่งมากอ่ะ
โน้มตัวลงเอามือยันเข่าไว้อย่างหอบๆจากการรีบวิ่งสี่คูณร้อย พักสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่มือบางจะล้วงหยิบเอาสมาร์ทโฟนเครื่องสวยขึ้นมารับเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงสั่นของมัน
“แฮกๆ ฮะฮัลโหล” ยูยองแจกรอกเสียงลงไปสลับกับเสียงหอบจากการวิ่ง
“ยองแจอยู่ไหนเนี่ย”
“อยู่MRTจุนฮงล่ะ”
“เราอยู่หน้าที่เรียนแล้ว อีก10นาทีครูจะมาแล้วนะ”
“อ่าๆโทษทีพอดีว่าวันนี้เราตื่นสายอ่ะ เดี๋ยวจะรีบไปจุนฮงเข้าไปรอก่อนก็ได้”
“โอเค นึกว่ายองแจไม่สบายซะอีกยังไงก็รีบมานะ”
“อื้ม”
หลังจากกดวางสายยองแจก็เบนความสนใจกลับมากับการต่อแถวเพื่อรอขึ้นรถ คาดว่าอีกไม่กี่นาทีรถก็คงจะมาแล้วคนตัวเล็กยกข้อมือขึ้นมาเช็คเวลาอีกครั้งซึ่งตอนนี้ก็ใกล้เวลาเข้าเรียนเต็มที
ปกติเขาไม่เคยมาสายนะ
ต้องโทษแถลงการณ์นายกเมื่อคืนอ่ะคั่นเวลาซีรีย์ให้จบช้าไปอีกกว่าจะดูจบก็ดึกเต็มทีจะไม่ดูก็ไม่ได้กำลังมันส์ ฮึ่ยๆ L กรี๊ดอยากเป็นชาอึนซาง
หลังจากต่อแถวได้สักพักก็รู้สึกได้ถึงแรงเบียดจากคนข้างหลัง มนุษย์ป้าหน้าตาไม่น่าคบแก่ๆคนนึงเดินเชิดหน้าพรวดพราดเข้ามาหน้าตาเฉย มือข้างหนึ่งถือกระเป๋าหลุยส์ใบตองที่ใกล้ตกรุ่นเต็มทีอันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเขาหรอก...
ถ้าไม่ติดว่าป้านี่ไม่มาแซงคิวเขาอ่ะนะ!!
เดี๋ยวเหอะ
เดี๋ยวรู้เลย
รู้เลย!!!
“นี่ป้าแถวก็มีทำไมไม่ไปต่อ คิดว่าป้าแล้วจะแซงคิวก็ได้หรอ”
“ก็แซงแล้วมันทำไม น้ำใจไม่มีบ้างรึไง คนรีบนะคนรีบ” คนอายุมากกว่าตอบกลับมาด้วยสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ป้า...
“โอ้ยป้าแล้วที่ยืนหัวโด่กันอยู่นี่ไม่เรียกรีบหรอ ใครๆเขามันก็รีบกันทั้งนั้นแหละ” ชี้มือไปยังผู้คนหลายสิบคนที่ยืนต่อแถวอยู่ข้างหลัง
รีบเป็นอยู่คนเดียวรึไง เหอะ
“แต่ฉันรีบกว่า”
ก็รีบจริงๆนี่ไม่ได้นะวันนี้ที่แพลตตินั่มมีประมูลกระเป๋าหนังกิ้งก่าที่มีใบเดียวในโลก เลอค่าที่สุดยังไงก็พลาดไม่ได้
“ทำแมะ จะรีบไปไหนนักหนารึว่ากลัวไปคลินิกไม่ทัน เอนี่มันก็ใกล้เวลาปิดเต็มทนแล้วนี่แย่จัง...”คนอายุน้อยกว่ายกนากาข้อมือขึ้นมาดูประกอบท่าทางพลางทำท่าทางขมวดคิ้วกังวลใจ
“?”
“คลินิกทำฟันอะนะ คิคิ”
อะ อะไอ้เด็กบ้านี่มันอะไรกันเป็นเด็กเป็นเล็กพูดจาร้ายกาจ รู้มั้ยนี่ใครๆๆๆ รู้จักคิมฮิมชานที่สวยและรวยมากคนนี้น้อยไปแล้ว รู้จักมั้ยฮิมชานเมียยงกุกน่ะ รู้จักแม่ะ
“นี่ ไอ้เด็กบ้าหน้าตาขี้เหร่แล้วยังปากเสียอีกนะอ้วนเอ้ย ทำไมถึงวุ่นวายงี้นะเครียดมากก็เข้าฟิตเนสซะไปจะได้ผอมซักที แก้มงี้ย้วยถึงนมแล้ว”
ยะ หยาบคายสวยตายแหละแก่ก็แก่ป้าสิอ้วนดูซิไหนละเอวยังจะมาว่าคนอื่นหน้าตาเฉยอีก
“นี่! มันจะมากไปแล้วนะว่างมากก็เอาเวลาไปเลี้ยงลูกอยู่บ้านดีกว่าไหม ออกมาให้ประชาชนเดือดร้อนทำไม”
คิดว่าตัวเองแซ่บคนเดียวรึแงะ คิดว่านี่ใคร นี่ใคร!!!
นี่ยูยองแจเชียวนะ ยูยองแจลูกชายคนเดียวของผู้พิพากษาชื่อดังที่สุดในเกาหลีเลือดกฎหมายและความยุติธรรมในสายเลือดมันเข้มข้นแล้วมนุษย์ป้านักแซงคิวที่แสนไร้อารยธรรมนี่มันเป็นใคร กรอดดดด
“ทำไมเห็นแก่ตัวงี้วะ เป็นเด็กก็หัดเคารพผู้ใหญ่บ้างนะ เข้าใจมะปากเสียแบบนี้แย่ที่สุด แย่ๆๆๆ”
“เอานิสัยตัวเองมาพูดทำไม อย่าเอาความจริงมาพูดป้านั้นแหละเห็นแก่ตัวถอยออกไปเลยนะ”
ยองแจจัดการรวบรวมพลังของตัวเองที่มีทั้งหมดผลักมนุษย์ป้าไร้มารยาทนี่ออกไปจากแถวแล้วรีบเดินขึ้นไปข้างหน้าเมื่อแอบเห็นจากหางตาว่ารถไฟกำลังมุ่งตรงมาเทียบจอดรับผู้โดยสาร
คนบ้าไรตัวหนักยังกับช้าง นี่กินตู้เย็นเข้าไปใช่มะ หนักกว่าขาจุนฮงอีก
“นี่!!!”
คนโดนผลักรีบโวยวายเสียงดังลั่นและที่หางตาก็เหลือบไปเห็นหัวรถไฟกำลังวิ่งตรงมาลิบๆเหมือนกันเลยจัดการเดินไปผลักคนที่อายุน้อยกว่าให้เซไปอีกทางแล้วมายืนแทนที่
เหอะคิดว่าจะได้ขึ้นก่อนรึไงฝันไปเถอะ
อีก10นาทีงานประมูลจะเริ่มแล้วแถมวันนี้ยังแช่น้ำในอ่างเพลินไปหน่อยกว่าจะเลือกกระเป๋าและเครื่องประดับให้เข้าชุดวันนี้ได้ก็เลทจากเวลาที่กะไว้ไปมากโข ดีนะเมื่อเช้ารีบบอกให้ยงกุกตื่นไปจองที่ในงานตั้งแต่ตี5ไม่งั้นไม่ทันแน่ๆ
“นี่แรงคนหรือช้างสารฮะถอยไปเลยนะ” ขันตงขันติที่อุตส่าห์ระงับไว้ตั้งแต่ต้นพังทลายลงทันที่เมื่อถูกคนอายุมากกว่าผลักกระเด็นไปจนเสื้อยับ บ้าไปแล้วยังไงเขากับมนุษย์ป้านี่ก็ไม่มีทางญาติดีกันได้แน่ๆ
ไม่มีทาง นี่พูดเลย!!
รีบกระโจนไปผลักอีกคนให้ออกห่างจากแถวไปในขณะเดียวกันรถไปก็ได้มาจอดเทียบท่าเรียบร้อยผู้โดยสารคนอื่นๆที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ก่อนหน้าทยอยเดินขึ้นรถไปจนหมดเหลือเพียงคนสองคนที่กำลังยื้อแย่งผลักกันไปมาไม่ให้อีกฝ่ายขึ้นรถไปได้
“ถอยออกไปเลยนะไอ้เด็กบ้า”
“ป้าสิถอยไปอย่าคิดนะว่าจะได้ขึ้นรถก่อนนะ”
“แกนั้นแหละ”
“ป้านั้นแหละ”
(ตึ่ง ตึง ตึ้ง.... ประตูรถไฟจะปิดในอีก10วินาที ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านยืนห่างจากประตูอย่างน้อย2ก้าวด้วยค่ะ)
“หยุดนะ ถอยปายยย” ยองแจที่เห็นอีกฝ่ายกำลังจะผละออกและวิ่งขึ้นรถไปรีบดึงอีกคนให้ออกห่างจากประตูทางขึ้นแล้วรีบพุ่งขึ้นไปแทน
“ย๊า ไอ้เด็กบ้าออกไปนะ” อีกฝ่ายก็รวดเร็วไม่น้อยรีบคว้าคอเสื้ออีกคนไว้แล้วกระชากให้ออกห่างจากประตูอย่างรวกเร็ว
แควก....
(5...)
(4...)
(3...)
ประชาสัมพันธ์ยังคงประกาศนับถอยหลังเวลาปิดประตูต่อไปเรื่อยๆช่วงเวลาสั้นๆวินาทีสุดท้ายก่อนที่ประตูจะปิดลงยองแจที่ถูกเหวี่ยงออกให้ห่างจากประตูทางเข้ารีบหมุนตัวกลับแล้วพุ่งตัวขึ้นรถไปอย่างรวดเร็วพอดีกับประตูที่ปิดลง
(1…)
(ขอให้ทุกท่านเดินทางอย่างปลอดภัยค่ะ ตึ่งตึงติ้ง....)
“เหอะ” ยองแจที่สามารถพุ่งตัวขึ้นรถมาได้อย่างหวุดหวิดปาดเหงื่อออกจากหน้าผากก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
ฮิมชานเบิกตาโพรงอย่างช็อคๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันเมื่อครู่ยืนค้างนิ่งจ้องเขม็งไปยังไอ้เด็กไร้มารยาทที่กำลังยักคิ้วให้อย่างมีชัย
สองมือกำหมัดแน่นจนเล็บแทบจะจิกลึกลงไปยังผิวหนังดวงตาคู่สวยเบิกโพรงขึ้นกว่าเดิมเมื่อเสี้ยววินาทีที่รถกำลังแล่นออกไปไอ้เด็กบ้าปากเสียนั่นขยับปากเป็นคำพูดธรรมดาๆแต่บาดลึกและมันจะฝั่งใจไปจนตาย
‘อัน-ยอง หึ’
“แก กรอดดดด ไอ้เด็กบ้า!!!”
หลังจากรถจอดเทียบท่ายองแจก็รีบติดสปีดใส่เกียร์ด็อกวิ่งออกมาจากสถานีรถไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาเลทไปเกือบ5นาทีแล้วเพราะมนุษย์ป้านั่นแท้เลยสภาพผมที่เซ็ทมาอย่างดีตอนเช้ากับเสื้อผ้าเนี้ยบๆเมื่อเช้าตอนนี้ดูยุ่งเหยิงและยับไปจากการต่อสู้กันเมื่อครู่
อยากจะบ้าตายจริง เมื่อไหร่มนุษย์ป้าพวกนี้จะหายไปจากโลก ฮะ !!!!!!
“ยองแจ!”
“จุนฮง แฮ่กๆ ครูยังไม่มาอีกหรอ” คำทักแรกหลังจากก้าวขาเข้าห้องเรียนเสียงเรียกจากคนรักดังขึ้นฉุดความสนใจก่อนที่ร่างสูงจะกวักมือเรียกให้มานั่งข้างๆตน ยองแจเดินมานั่งก่อนจะหอบหายใจเสียงดังเหนื่อยๆ
“เห็นว่าติดธุระนิดหน่อยเดี๋ยวก็มาแล้ว”
“ดีแล้วๆ” พูดไปก็หอบไปคนบ้าอะไรแรงเยอะชิบหายวันๆนึงกินพญาช้างไปรึไงวะ ให้ตายเสื้อยับหมดดูสิ
“แล้วนี่ยองแจไปโดนอะไรมาดูสิเสื้อขาดตรงนี้ด้วย” จุนฮงเอ่ยทักอย่างแปลกใจเมื่อสังเกตว่าสเวตเตอร์ไหมพรมของคนรักขาดเล็กน้อยตรงหัวไหล่ปกติยองแจเป็นระวังตลอดเวลาไม่น่าจะซุ่มซ่ามทำเสื้อขาดได้นี่นา
“นี่ไม่อยากจะเล่า เมื่อกี้เราไปเจอคนๆนึงนิสัยแย่มากเลย แย่ๆๆๆ”บ่นไปก็พัดตัวเองไป แอร์ในห้องเรียนว่าเย็นแล้วนะแต่ตอนนี้เขาร้อนมากๆ สงสัยจะสู้ชีวิตไปหน่อย สกิลวิ่งควายเมื่อเดือนที่แล้วยังพอเหลืออยู่ในกาย คือโอเค
“หือ เขาทำอะไรล่ะ”
“เขามาแซงคิวเราตอนจะขึ้นรถไฟน่ะสิ แถมยังด่าเราด้วยเสื้อนี่ก็คงจะขาดตอนเขากระชากเราเมื่อกี้”
“ทำไมนิสัยเสียแบบนี้นะแซงคิวไม่พอยังจะมาทำร้ายกันอีก เถื่อนสุด ยองแจเจ็บตรงไหนมั้ย?” จุนฮงเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์เสียเมื่อได้ฟังเรื่องราวจากคนรัก ดูสิเสื้อขาดเลยเสื้อตัวนี้ยองแจใส่บ่อยมากๆเพราะชอบเป็นพิเศษ ตัวก็เล็กบอบบางยังจะมาผลักได้ลงคอ
แย่จริงๆ อย่าให้เจอตัวเชียวนะพ่อจะตั้นหน้าให้
จะวิ่งเข้าไปต่อยสักสองสามทีให้หายแค้น แล้วก็ด่าจนลืมโคตรเลยคอยดู
“ใช่นิสัยเสียมาก การแต่งตัวก็ขัดหูขัดตาสิ้นดีแถมยังหิ้วกระเป๋าหลุยส์ใบตองใกล้ตกรุ่นอีกถ้าเจอกันจุนฮงต้องจัดการให้เรานะ”
“ได้เลยเราจะซัดๆให้หน้าหงายซะโทษฐานที่มาทำนิสัยไม่ดีใส่ยองแจ ว่าแต่เขาลักษณะเป็นยังไงล่ะ”
“ก็ผมบลอนด์ๆ ฟันเหยินๆท่าทางหยิ่งๆหน่อยชอบเดินเชิดไปเชิดมา ไอ้แว่นกันแดดนั่นก็ไม่รู้จะใส่มาทำไมMRTนะไม่ใช่สนามบิน”
เดี๋ยวนะ.. ทำไมฟังดูคุ้นตะหงิดๆ
“อ่างั้นหรอ...”
“เนี่ยเสื้อนี่ก็โคตรขัดหูขัดตา เชิ้ตลายสก็อตดำแดงงี้โถ่ะ ยังกับคนตัดอ้อย รสนิยมแย่จริงๆ”
ยิ่งฟังไปหัวคิ้วก็ยิ่งกระตุกยิกๆทำไมมันดูคลับคล้ายคลับคลากับใครบางคน ยองแจยังคงบ่นถึงนิสัยแย่ๆของคนๆนั้นไปเรื่อยๆจนกระทั่งครูมาถึงได้เงียบลงและกลับไปตั้งใจเรียนเหมือนเดิม
ทำไมถึงได้รู้สึกแปลกๆ เหมือนใครสักคน....
ไม่หรอกมั้ง
คิดอะไรเพ้อเจ้อน่าจุนฮงบ้าไปกันใหญ่แล้ว ไม่ใช่หรอก =_=
ช่างเหอะคงจะคิดมากไปเองแหละ เฮ้อ
[2]
มันน่าเซ็งมะ ต้องตบตีกับเด็กก่อนขึ้นรถไฟฟ้า แถมยังไม่ได้กระเป๋าหนังกิ้งก่าเลอค่าอีก
ชีวิตสวยช่างเศร้าละเกิน -_- สามีปรังก็ไม่ใจเลย ก็อุตส่าห์บอกไปแล้วว่ามีเท่าไหร่ก็ใส่ไปให้หมด กระเป๋าหนังกิ้งก่ายีห้อใบตองหนึ่งเดียวในโลกพลาดได้แงะ
เสียใจจนบรรยายไม่ออกบอกไม่ถูก ขอโดปสตาร์บัคซักสองสามช๊อตซิ
บ้าเจง พูดละช้ำ
“โอ๋น่าเตง คิดมากแก่เร็วนะกระเป๋าใบเดียวเองเดะซื้อย่ามให้”
ขำดิขำ
ขำเข้าไป
-_- อิปัง
“โอ๋ระ ก็บอกให้จ่ายไปเลยยยยยย มีเท่าไหร่จ่ายไปให้หมด ก็อุตส่าห์นัดตั้งกะเมื่อคืนละนะ”
“...”
“เงียบอีกเงียบทำไม เถียงเซ่ มาไม่ใจอะไรตอนเน้ เห็นจีบพริตตี้พนักงานขายทีวียังทุ่มไม่อั้นเลยเน่”
“ฮิมชาน...”
“อะระ อะระ รีบพูดมาเลย”
“คือเค้า... พกเงินมาสามร้อย”
สามร้อย
สามร้อย!!!!!!!!!!!!!!
เท่าราคาเขาเปิดประมูลเลยมั้งอิเหงือกตอบบบบบบบ
พกมาสามร้อย ประมูลทีละห้าบาทหรา
ฟังละปวดไต
“ช่างมันเถอะๆ”
ฮิมชานบอกปัดไป มือถือในกระเป๋าหนังหลุยส์ใบตองสั่นครืดคราดราวกับจะพัง ฮิมชานล้วงเข้าไปในกระเป๋าควานหานิดหน่อยก่อนหยิบมือถือที่ห้อยตุ๊กตานับสิบออกมา
คือแม่งไม่ต้องควานหาก็ได้ ล้วงไปก็เจอละ
มันต้องมีสเตปแงะ
วรั้ย ลูกชายโทรมา นึกว่ามือถือโดนขาทับพังไปแล้วซะอีก ขาหรือเสาเข็มใหญ่ชิบหาย
“ว่าไงเจลโล่ของแม่ห์”
“แม่เดี๋ยวเย็นนี้จุนฮงพายองแจไปกินข้าวที่บ้านนะ”
“ยองแจ อิอ้วนของลูกอะนะ มาสิ”
อยากจะเห็นหน้าค่าตาลูกสะใภ้เมียจุนฮงอยู่เหมือนกัน สวยสู้ชานได้ปร่ะ สวยสู้ไม่ได้สินสอดลด 50% นะจะบอก
“โอเค เจอกันเย็นๆจู้บบบบบบบบบบบบบบบบบบบ”
ส่งจูบใส่โทรศัพท์หนึ่งที่ก่อนกดวางสาย สเตปของคนส๋วย
ทำมาเป็นมองตาขวางนะบัง อัลระ
“คุยกับใคร” ทำมาเสียงต่ำ ตาเหลือกๆ กลัวมากดิ กลัวจนยืนเลย ยืนเลย!!
“จุนฮรงลูกรักจะหิ้วลูกสะใภ้มากินข้าวบ้าน”
“อ๋อ...”
รีบบึ่งกลับบ้านไปซื้อของสดสำหรับอวดลูกสะใภ้
ทำไรดี ส้มตำคอหมูย่างดีมั้ย
รึทำสลัดดีง่ายๆ ฉีดผักละใส่น้ำส้มสายชู
เออดี
.......................................................................................
แซมเปิ้ลราววัน .__.
ทูบีคอนติ๊นิว....... กีสสส
ความคิดเห็น