ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Review Story วิจารณ์นิยายสไตล์ชิวๆ xxปิดจ้าxx

    ลำดับตอนที่ #28 : Review Story : 026 - พี่ราเซีย [Aesel story อลเวงบันทึกเดินทาง]//รับแล้ว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 79
      0
      27 ส.ค. 56


    ชื่อนักวิจารณ์ :: พี่เพกา

    ชื่อเรื่องนิยาย/ฟิคที่วิจารณ์ :: Aesel story อลเวงบันทึกเดินทาง

    ชื่อผู้แต่ง/นามปากกา :: ราเซีย/พยัคฆ์หิมะขาว

     

    ทำความเข้าใจกันก่อนสักนิด พี่เพกาคนนี้ไม่ใช่นักวิจารณ์ที่เก่งกล้ามาจากไหนแต่เป็นเพียงนักอ่านคนหนึ่งซึ่งอยากบอกกล่าวถึงจุดเด่นจุดด้อยของนิยายที่ได้อ่าน ดังนั้นพี่จะไม่ใช้คำว่าวิจารณ์แต่จะใช้คำว่าแนะนำ พี่ไม่ได้ต้องการให้น้องราเซียเชื่อทั้งหมดแต่อยากให้พิจารณาสิ่งที่พี่เสนอด้วยตัวของน้องเอง หากส่วนไหนที่น้องเห็นด้วยว่าสมควรปรับเปลี่ยนก็ทำ แต่ถ้าส่วนไหนน้องมองว่ามันดีแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง...

     

    ภาษาที่ใช้ (16/20คะแนน) :: ออกตัวเพิ่มอีกสักหน่อย... จริงๆแล้วพี่เป็นคนเยอะ อาจจะ (พล่าม-O-;)ยาวไปบ้างต้องทำใจ

    อ่า... ออกนอกเรื่องอีกนิดนึง นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่พี่ได้เข้ามาวิจารณ์และแนะนำอะไรสักอย่างให้กับนิยายที่เขียนจบแล้ว (แม้จะมีภาคต่อ ซึ่งพี่ขออนุญาตอ่านเฉพาะ ภาค กำเนิดตำนานนักรบสีส้ม จนกระทั่งถึงตอนพิเศษนะ^^//) ขอเริ่มจากชื่อเรื่องภาษาอังกฤษก่อนเลย  Aesel story’ เป็นการนำชื่อตัวเอกมาตั้งสินะ พี่ได้อ่านการเกริ่นเรื่องแล้วรู้สึกว่าชื่อนี้มันเหมาะสมกับเนื้อหาของเรื่องมากๆเลย ถือว่าตั้งชื่อได้ดี แต่พี่สะดุดภาษาไทย อลเวงบันทึกเดินทาง ประโยคนี้พี่ว่ามันขาดๆไงไม่รู้ น่าจะใส่คำอีกคำลงไป ประมาณนี้ อลเวงบันทึกนักเดินทาง หรือไม่ก็ อลเวงบันทึกการเดินทาง (ในความคิดนะ-O-;) มาต่อกันที่ข้อมูลเบื้องต้น พอได้อ่านแล้วให้รู้สึกอยากผจญภัยขึ้นมาทันทีทันใด ยิ่งมีความลับมากมายซ่อนอยู่เท่าไหร่ยิ่งน่าเดินทางพร้อมๆตัวเอกเท่านั้น บอกตรงๆว่าพี่อ่านช่วงนี้จบแล้วขนลุกเลย (หรือพี่อ่านอยู่ในห้องแอร์หว่า555+) ย้ำอีกทีมันขนลุกจริงๆ

                    คลิกเข้าสู่หน้าปฐมบทแล้วให้รู้สึกถึงความอลังการงานสร้างไงไม่รู้ มันออกแนว ยิ่งใหญ่ สมจริง และมีความเป็นแฟนตาซี (เยอะได้อีก-O-;) ก่อนจะยาวไปมากกว่านี้พี่จะเริ่มอ่านจริงๆจังๆแล้วนะ และขออธิบายพร้อมทั้งแนะนำโดยรวมซะเลย อ่า... อ่านบรรทัดแรกก็เห็นเลยว่าภาษาที่น้องราเซียใช้มันช่างธรรมดาแต่ว่าสวยงาม รวมถึงสำนวนที่ใช้อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่โอเว่อร์ แต่การบรรยายยังไม่ค่อยลื่นไหลสักเท่าไหร่ จากที่พี่สักเกตดู น่าจะเกิดจากการที่น้องราเซียมักจะใช้คำเชื่อมที่มันเหมือนกันบ่อยๆ มีคำซ้ำในประโยคเดียวกันเยอะ และถี่จนเกินไปทำให้การบรรยายไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร และคนอ่านอย่างพี่ก็มักจะอารมณ์สะดุดกับคำซ้ำๆเหล่านั้น (พี่จะอธิบายในส่วนเนื้อหานะ= =;) สิ่งที่น้องราเซียทำได้ดีอีกอย่างหนึ่งและพี่ขอชมจากใจจริงคือการบรรยายเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะหน้าตาของตัวละครเด่นๆโดยเฉพาะตัวเอก ซึ่งน้องเขียนได้ละเอียดดีไม่มีที่ติ จนพี่รู้สึกว่าละเอียดเกิน แบบว่า พอเอ่ยถึงใครสักคนแม้จะเป็นคนๆเดิมฉากเดิมๆน้องก็จะบรรยายรูปร่างลักษณะอยู่ตลอดเวลาอันที่จริงอธิบายครั้งเดียวคนอ่านก็จำได้แล้ว แต่น้องก็ยังอธิบายซ้ำ มันเลยออกแนวเยอะ (ถ้าแรงไปพี่ขออภัยจริงๆ _/\_;) เนื่องจากน้องราเซียเน้นบรรยายรูปลักษณ์ตัวเอก (มาก) จนเกินไปอาจจะทำให้ตัวรอง (น้อยใจ) กลายเป็นตัวประกอบไปเลยก็ได้ ดังนั้นควรระวังเรื่องการบรรยายรูปร่างหน้าตาของตัวเอกนิดนึง ตอนแรกๆบรรยายรูปร่างหน้าตาตอนหลังๆอาจจะบรรยายชุดที่ใส่แล้วก็อารมณ์บนใบหน้าก็พอ อาจบรรยายตัวเอกมากหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่าลืมบรรยายตัวรองซึ่งถือว่าเป็นตัวเอกเหมือนกันและตัวประกอบร่วมด้วย ไม่อย่างนั้นตัวอื่นๆจะกลายเป็นแค่อากาศธาตุลม พูดถึงอารมณ์ น้องราเซียก็เขียนออกมาได้ดีทีเดียว อ่านแล้วรู้สึกได้ว่าตัวละครแต่ละตัวอยู่ในอารมณ์ไหน (แม้น้องราเซียจะเน้นหนักไปทางอารมณ์เรียบเฉยซะส่วนใหญ่-O-;) นอกจากนี้การบรรยายเหตุการณ์สถานที่ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน มันเห็นภาพเสมือนเราเข้าไปยืน ณ สถานที่แห่งนั้นก็มิปาน พี่อยากให้น้องราเซียรักษาจุดดีของการบรรยายเหล่านี้ไว้ และพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไป   

                    เห็นว่าแต่งจบแล้ว พี่ก็ไม่อยากเห็นคำผิด ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ใช่คำผิดหรอก แค่เขียนตกหล่นมากกว่า

                    บทนำ นัยตาน์สีเท้า>นัยน์ตาสีเทา บทที่1 ทดดู>ทนดู / ร่วมตัว>รวมตัว / ผู้???ในห้องพากันยกมือ ฯลฯ บทที่2 "เอเซล... พ่อมี???จะพูดด้วย" / สนามประลง>สนามประลอง / มันพูดเสียงเบาแผ่วราว???แต่กลับแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น บทที่เมื่ออก>เมื่อออก / ก้าวเท้าเข้ามาหาทีละ???ช้าๆ / ขาเรียวยา>ขาเรียวยาว / เยียดหยาม>เหยียดหยาม  / เคร่ง!>เคร้ง/ ปราณี>ประณีต / เงียบเฉียบ>เงียบเชียบ / ทิวทัศ>ทิวทัศน์ บทที่4 ทิวทัศ>ทิวทัศน์ / เอซล>เอเซล / ดวงเรียว>ดวงตาเรียว / แทบสีฟ้า>แถบสีฟ้า / พิบ>พิศ / ผุขึ้น>ผุดขึ้น / หน้าระเบียบ>หน้าระเบียง / หน้ากลัว>น่ากลัว / เมน>เมนู บทที่5 เบื่อเป็นย่างมาก>เบื่อเป็นอย่างมาก / ด่านฟ้า>ดาดฟ้า / ทิวทัศ>ทิวทัศน์ บทที่6 ครุ่นเครือ>คลุมเครือ / ถนนสายเปรียว>ถนนสายเปลี่ยว / ระหวาสงทาง>ระหว่างทาง / สภาพแดล้อม>สภาพแวดล้อม / ผลรับ>ผลลัพธ์ / ครั้งหา>ครั้งหน้า / พ่อนหุ่ม>พ่อหนุ่ม บทที่7 พุพัง>ผุพัง / ค่อยๆนู้นขึ้นมามันคล่อยๆ>ค่อยๆนูนขึ้นมามันค่อยๆ / รวบร่วม>รวบรวม / เก็บฝืน>เก็บฟืน / เสียงอ๋อย>เสี่ยงอ่อย / มี่>มี / สาย>ส่าย / ดวงอาทิตย์รอย>ดวงอาทิตย์ลอย / กำปัด>กำปั้น บทที่8 ฝักทอง>ฟักทอง บทที่9 ทั้งสาว>ทั้งสาม / ขาวบ้าน>ชาวบ้าน / ขึ้ร>ขึ้น / ล่วง>ล้วง / สีน้ำตา>สีน้ำตาล / เข่านั่งย่องๆ>เขานั่งยองยอง / เข้าฟัก>เข้าฝัก / คลุกกระจาย>คลุ้งกระจาย / ประสุดท้าย>ประโยคสุดท้าย บทที่10 ซีกขาด>ฉีกขาด / เขงมอง>เขามอง ขอมอบา>ขอมอบ / พายมือ<ผายมือ / ครู่คิด>ครุ่นคิด / ขอตามา>ขอตามมา บทที่11 แสงแรง>แสงแรก / รันติกาล>รัตติกาล / เกรงขา>เกรงขาม / ดป็นลอยยาวประบา>เป็นลอนยาวประบ่า บทที่12 หอยอยู่>ห้อยอยู่ / กองทัก>กองทัพ / ยกคง>ยังคง / ถูกฟัด>ถูกฟัน / เหล่าซากศพที่???อยู่ใกล้ๆ / เรี่วแรง>เรี่ยวแรง / สีหข้า>สีหน้า / ฝืน>ฟืน ตอนที่13 ส่องไร้ความมืด>ส่องไล่ความมืด / งมเข้ม>งมเข็ม บทที่14 เยือนมือ>ยื่นมือ / ดิ้นตัว>ดีดตัว / นัดไม่ถ้วน>นับไม่ถ้วน / ปักตอ>ปังตอ บทที่15 กลั้นระหว่าง>กันระหว่าง / ทางเห่งนี้>ทางแห่งนี้ / มือชาย>มือซ้าย / สอมง>สมอง / เพ็ง>เพ่ง บทที่16 เมืองเห็น>เมื่อเห็นบทที่17 ผูกผัน>ผูกพัน / ยุก>ยุค / ขออภัยที่เสียงอนุญาตด้วยท่าน??? / นองไก่>น่องไก่ บทที่18 ดีเลศ>ดีเลิศ / สีดำนิล-เลือกว่าจะเอาดำหรือนิล เพราะมีความหมายเดียวกัน / ผุดพัง>ผุพัง บทที่20 เขียนชื่อ ครีโอลัส เป็น ครีโอลัว เยอะเลย / ท้วงของ>ทวงของ บทที่21 สถาณการณ์>สถานการณ์ บทที่24 จากจัว>จากตัว บทที่25 หลังจากที่ตัวสอบด้วยตากูลก็กับตัวเอง??? / เงายหน้า>เงยหน้า / ขาวโพลง>ขาวโพลน / เข้ม>เข็ม บทที่26 ยิ้มเย้าะ>ยิ้มเยาะ / หรุบ>หลุบ / เปลิวเพลง>เปลวเพลิง บทที่28 เลือบ>เหลือบ / ฝร>ฝี / อำอึ้ง>อ้ำอึ้ง / น้ำเสียงกระเหี้ยนกระหือรือ??? ตอนพิเศษ1 ทำสอบ>ทดสอบ / เดินหาก>เดินห่าง / ตะเตียง>ตะเกียง ตอนพิเศษ2 เสียงรายเรียบ>เสียงราบเรียบ / น่ามเพช>น่าสมเพช / กระด้าน>กระด้าง พลันตัว>ผันตัว

    *** บอกตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมเลยว่า มีคำตกหล่นเยอะมาก (ๆๆๆ) และมีแทบทุกบท เท่าที่พี่เขียนให้ นั่นแค่บางส่วนเท่านั้น จริงๆแล้วยังมีอีกเยอะ ยังไงก็ลองกลับไปตรวจทานด้วยนะเออ

     

    แนะนำเพิ่มเติม

    ถ้าเป็นความคิดของตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง สามารถใส่ตัวเอียงลงไปแทนเครื่องหมาย ... ก็ได้ เพราะตัวเอียงใช้แทนความคิด

    การใส่เครื่องหมาย ‘ ‘ คือการแสดงถึงคำพูดเก่าๆหรือคำพูดในอดีตของใครสักคน ถ้าเป็นการพูด ณ ขณะนั้นหรือคำพูดปัจจุบัน ให้ใส่เครื่องหมาย “ “ ปกติ

    จริงๆแล้วถ้าตัวละครคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ สามารถเขียนปกติได้เลย ไม่จำเป็นต้องใส่ตัวเอียงลงไปในบทพูด แต่แนะนำให้ใส่เครื่องหมาย ' ' ลงไปในบทพูดแทน

    ความรู้สึกของน้องราเซียที่อยู่ในวงเล็บอ่ะ จริงๆแล้วบางช่วงบางจังหวะไม่ต้องใส่ก็ได้นะ (เช่น เตี้ยนั่นเอง เล่นซะเต็มแรงนี่ เกรงว่าถ้ามีหญิงสาวคนอื่นมาเห็นคงเป็นลมฯ ไปเอามาจากไหนนั้น ได้ยินว่าเรื่องที่เมืองท่ามิลโรฯ แค่กินข้าวจะมุ่งมันฯ) ที่ให้เอาออกเพราะพี่ว่ามันไม่ค่อยเข้ากับสถานการณ์ในตอนนั้นสักเท่าไหร่ หรืออาจจะไม่ต้องใส่คำในวงเล็บเลยก็ได้ แบบว่า น้องราเซียเขียนดีอยู่แล้ว คนอ่านที่มีอารมณ์ร่วมเค้าจะสัมผัสได้เองและสามารถคิดหรือเข้าใจตามข้อความในวงเล็บที่น้องวงไว้นั่นแล ดังนั้นพี่เลยไม่อยากให้ใส่สักเท่าไหร่ (แต่ถ้าอยากใส่ก็ไม่ผิด^^;) พี่แค่เกรงว่าอารมณ์คนอ่านบางคนอาจจะสะดุด (ในความคิดนะ-O-;)

    พี่รู้สึกว่าน้องราเซียเขียนบทพูดกับบทบรรยายได้สอดคล้อองกันก็จริง แต่ดูเหมือนจะวางไว้ผิดตำแหน่งทำให้เป็นอีกเหตุผลที่อ่านแล้วไม่ลื่น อ่านแล้วสะดุด แถมงงอีกต่างหาก พี่ขออนุญาตแนะนำเป็นแนวทางให้ลองพิจารณาเป็นบางบทนะ

    บทที่1

    "เชอะ คิดว่าตัวเองดีนักรึไง" เอลเจิลชักสีหน้าไม่พอใจ หญิงสาวกอดอกก่อนจะบ่นด้วยน้ำเสียงแหลมสูง

    "ฉันว่าอย่าอิจฉาเลยเอลเจิล มันทำให้คนอื่นดูถูกเธอได้นะ" เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น

    "ฉันรู้ว่านายไม่พอใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นนายไม่มีสิทธิ์มาว่าฉัน" เอลเจิลปลายตามองชายหนุ่มตรงหน้า เธอพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย แนะนำ

    "เชอะ” หญิงสาวกอดอกชักสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะบ่นด้วยน้ำเสียงแหลมสูง “คิดว่าตัวเองดีนักรึไง"

    "ฉันว่าอย่าอิจฉาเลยเอลเจิล มันทำให้คนอื่นดูถูกเธอได้นะ" เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น

    "ฉันรู้ว่านายไม่พอใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นนายไม่มีสิทธิ์มาว่าฉัน" เจ้าของชื่อตอบกลับในน้ำเสียงเยาะเย้ยขณะปลายตามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ

    บทที่13

    "ตามหาไปก็ไร้ค่า เพราะ..." ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะพูดก็ถูกแทรกด้วยเสียงของหญิงสาว

    "นายจะไปเข้าใจอะไร!" เอเซลตะโกนเสียงดัง ทำให้เด็กสาวเผ่าจิ้งจอกที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นแนะนำ

    "ตามหาไปก็ไร้ค่า เพราะ..."

    "นายจะไปเข้าใจอะไร!" เอเซลตะโกนแทรกเสียงดัง จนทำให้เด็กสาวเผ่าจิ้งจอกที่หลับอยู่สะดุ้งตื่น

    บทที่19 "น่าขันอะไร แล้วแววตาที่ดูถูกคนอื่นของนายล่ะ" ดีมิทรีชบฟันแน่น ก่อนจะพยายามพูดโต้กลับอย่างเย็นชา แนะนำ "น่าขันอะไร" ดีมิทรีชบฟันแน่น ก่อนจะพยายามโต้กลับอย่างเย็นชา "แล้วแววตาที่ดูถูกคนอื่นของนายล่ะ"

    บทที่29 “เธอเป็นแบบเดิมดีที่สุดแล้ว จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดมาก” ดีมิทรีเหลือบมองใบหน้าเรียวที่แหงนมองท้องฟ้า นัยน์ตาสีเทาทอประกายเศร้าสลดเขาพึมพำเสียงเบา แนะนำ “เธอเป็นแบบเดิมดีที่สุดแล้ว จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดมาก” ดีมิทรีพึมพำเสียงเบา นัยน์ตาสีเทาทอประกายเศร้าสลดขณะเหลือบมองใบหน้าเรียวของคนที่กำลังแหงนมองท้องฟ้า

    ตอนพิเศษ “เอาน่า... ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิดหรอก ฝึกไปเดี๋ยวก็เก่งเอง” พอเห็นสีหน้าของน้องสาวแล้ว คาร์เรย์อดสงสารไม่ได้ พลางยกมือขึ้นแตะหัวอย่างเบามือ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแนะนำ “เอาน่า...” พอเห็นสีหน้าของน้องสาวแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปแตะศีรษะเธอเบาๆก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิดหรอก ฝึกไปเดี๋ยวก็เก่งเอง”

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับการตัดฉากไปมา ซึ่งพี่อ่านๆดูแล้วมันไม่ค่อยประติดประต่อกันเท่าไหร่ น้องราเซียมีการเว้นบรรทัดเพื่อเปลี่ยนฉากก็จริงและพี่ก็เข้าใจว่านั่นคือการเปลี่ยนฉาก แต่ที่บอกว่าไม่ประติดประต่อ นั่นเพราะเวลาที่น้องเปลี่ยนไปฉากใหม่แล้วย้อนกลับมาฉากเดิมมันเหมือนมีการเดินเรื่องของฉากเดิมเร็วเกินไปหรือข้ามนั่นเอง ทำให้ผู้อ่านอย่างพี่สับสนและมองว่ามันไม่ประติดประต่อ (โดยเฉพาะในบทที่9) ลองกลับไปอ่านทวนดูนะ
     

    เนื้อหา (18/20คะแนน) :: เห็นว่าน้องราเซียมีการเขียนเป็นภาค และที่พี่อ่านอยู่นี่คือ ภาค กำเนิดตำนานนักรบสีส้ม สำหรับการเดินเรื่องไม่ช้าหรือเร็วเกินไป ไม่หวือหวา ไม่ยืดเยื้อให้ต้องลุ้นจนตัวโก่ง สามารถอ่านได้เรื่อยๆ (อาจจะเรื่อยๆจริงๆในบางบท-O-;) เข้าใจง่าย ให้อารมณ์สบายๆ ไม่ตึงเครียด และไม่น่าเบื่อ เพราะในแต่ละบทแต่ละตอนมีการลงเนื้อหาและความยาวไว้เหมาะสม ไม่อัดแน่นจนเกินไป แถมยังมีการสอดแทรกมุกตลกรวมถึงแง่คิดดีๆเข้าไปในเนื้อหานิยายด้วย ทั้งมุกและแง่คิดบอกได้คำเดียวว่าลงตัวสุดๆ

                    ต่อไปก็เรื่องคำอธิบาย (ที่พี่เกริ่นไว้ในภาษาที่ใช้) เกี่ยวกับคำซ้ำ คำเหมือน ประโยคพร่ำเพลื่อ พี่เพกาขอแนะนำบางประโยคบางช่วงบางตอนซึ่งอ่านแล้วให้รู้สึกสะดุดตาสะดุดอารมณ์พอสมควร บทนำหญิงสาวรู้สึกดีถึงหัวใจที่หนักอึ้ง คำว่า รู้สึกดี มันค่อนข้างขัดๆอ่ะ ถ้าเว้นวรรคดีกับถึงออกจากกันก็พอได้ แต่ถ้าตัดดีออกไปเลยจะเข้าท่ากว่า หรือจะเปลี่ยนดีเป็นได้ก็โอนะ / เสียงอันสั่นเครือน้ำเสียงนุ่มทุ้ม (มันฟุ่มเฟือยไปนะ)>น้ำเสียงนุ่มทุ้มทว่าสั่นเครือ / เขาแหล่มองด้วยหางตา>เขาเหลือบแลด้วยหางตา / เมื่อเห็นอีกฝ่ายตั้งท่าพร้อมสู้ หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีส้มก็กำด้ามดาบแน่น จากนั้นก็พุ่งเข้าหาด้วยความรวดเร็ว พอใกล้ถึงตัวของชายหนุ่มก็รวบแรงไว้ที่ปลายดาบ แล้วดีดตัวกระโดดขึ้น ฟาดดาบยักษ์ใส่ชายหนุ่มขณะลอยตัวลงอย่างรวดเร็ว>เมื่อเห็นอีกฝ่ายตั้งท่าพร้อมสู้ หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีส้มจึงกำด้ามดาบแน่น ร่างบางพุ่งเข้าหาชายหนุ่มด้วยความรวดเร็ว พอเข้าใกล้เป้าหมายก็รวบแรงไว้ที่ปลายดาบ แล้วดีดตัวกระโดดขึ้น ฟาดดาบยักษ์ใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะโรยตัวลงสู่พื้นอย่างสวยงาม บทที่1 เธอมีผิวขาวเนียนขาวขัดกับชุดสีดำที่ใส่อยู่ยิ่งนัก>ผิวขาวเนียนของเธอช่างขัดกับชุดดำที่สวมใส่ยิ่งนัก / พวกเขาต้องการขัดขวางการทดสอบ เพียงเพราะต้องการให้คนในครอบครัวของตนได้เป็นผู้นำ แม้จะต้องเข่นฆ่าหรือก่อสงครามฝ่ายในตระกูล พวกเขาก็ยอมที่จะเสียสละสายเลือดเดียวกัน ขอเพียงผลลัพธ์ที่ได้คือชื่อเสียง อำนาจและเงินตรา มันคือสิ่งที่มนุษย์นั้นกระหาย ไม่ว่าต้องทำวิธีใดพวกเขาก็ยอม...>ทุกคนในที่นี้ต้องการขัดขวางการทดสอบ เพียงเพื่อให้คนในครอบครัวของตนได้เป็นผู้นำ อาจจะต้องเข่นฆ่า ก่อสงครามภายในตระกูล หรือแม้กระทั่งเสียสละสายเลือดเดียวกันก็ยอม ขอเพียงผลลัพธ์ที่ได้คือชื่อเสียง อำนาจและเงินตรา ไม่ว่าต้องทำวิธีใดพวกเขาก็ยินดี... บทที่3 รู้สึกว่าบทนี้น้องราเซียจะใส่ชื่อตัวเอกบ่อยมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่น้องดันใส่มันถี่เกินไปในประโยคเดียวกัน โดยเฉพาะตอนที่มีเรื่องกับเหล่าชายฉกรรจ์  ความจริงสามารถใช้ เธอ หญิงสาว สาวน้อย ร่างบาง เจ้าของ... แทนเอเซลได้ / เอเซลยิ้มกระตุกยิ้มมุมปาก>เอเซลกระตุกยิ้มมุมปาก / รอบๆถูกสลักด้วยลวดลายรูปดอกไม้เล็กๆสลักไว้>รอบๆถูกสลักเป็นลวดลายรูปดอกไม้เล็กๆ บทที่6 เอเซลแทงดาบลงไปที่ตัวของมันอย่างรวดเร็ว จนมองเห็นเป็นเพียงแสงสีเงินวูบวาบออกมา บนตัวของมันเกิดเป็นแผลนับไม่ถ้วน แผลบนตัวมันสาหัสเกินกว่าที่มันจะรับได้ เลือดของมันไหลทะลักออกมาจากบาดแผล เมื่อมันพยายามดิ้นทุรนด้วยแรงเฮือกสุดท้าย แต่สุดท้ายมันก็ไม่อาจทนบาดแผลบนตัวได้อีกต่อไป ร่างของปลาหมึกยักษ์หยุดนิ่งทันที บนผืนทะเลเต็มไปด้วยเลือดสีเขียวของมัน>มันเยอะและยืดเยื้อจริงๆลองปรับแก้ดู / ถอยออกหลังออกมา>ถอยหลังออกมา บทที่7 เมื่อมือของพวกมันโผล่ขึ้นมาส่วนต่อไปก็ปรากฏมันเป็นส่วนหัว และลำตัว มันมีส่วนสูงประมาณสองเมตร ร่างที่สร้างจากโคลนของมันค่อยๆแข็งเป็นหิน รอบๆลำตัวของมันมีอักษรแสงสีฟ้าปรากฏ ซึ่งเป็นภาษาที่พวกเอเซลไม่สามารถอ่านออกได้ ดวงตาของมันเปล่งแสงสีฟ้า มันยื่นมือออกมา ทำให้ดินโคลนลอยตัวขึ้นมารวมกันเป็นรูปดาบ>อันนี้ก็ยืดเยื้อเหมือนกัน / มีเพียงแสงสว่างจากกองไฟตรงหน้าที่มอบความอบอุ่นและแสงสว่างได้>มีเพียงกองไฟตรงหน้าที่มอบความอบอุ่นและแสงสว่างได้ บทที่11 อัลซูฟีครุ่นคิดอยู่สักพัก ก็วางหนังสือเล่นหน้าไว้ที่โต๊ะข้างๆ ก่อนจะเดินออกไปข้างนอกบ้าน เจ้าของร่างเล็กยืนอยู่หน้าบ้านของตน ก่อนจะทอดสายตามองไปยังทางที่ทั้งสามคนจากไป ริมฝีปากเล็กขยับขึ้นลงช้าๆก่อนจะเปร่งเสียงขึ้น>อัลซูฟีครุ่นคิดอยู่เพียงครู่จึงวางหนังสือเล่มหนาไว้บนโต๊ะข้างๆ เจ้าของร่างเล็กค่อยๆเดินออกมาหยุดยืนบริเวณหน้าบ้านของตน ขณะเดียวกันสายตาก็ทอดมองไปยังทิศทางที่ทั้งสามคนจากไป ริมฝีปากเล็กขยับเปรยขึ้นเบาๆ บทที่12เหมือนสิ่งที่เห็นตรงหน้าเป็นเพียงเรื่องที่ปกติที่เห็นไปจนชินชาเสียแล้ว...>ราวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นเพียงเรื่องปกติซึ่งเห็นจนชินชาเสียแล้ว... บทที่13 ดวงตะวันเคลื่อนขึ้นจากขอบฟ้าทีละช้าๆ>ดวงตะวันเคลื่อนขึ้นจากขอบฟ้าช้าๆ (รู้สึกว่าแต่ละประโยคของตอนที่มีคำว่า ช้าๆ  น้องราเซียมักใส่ ทีละ นำหน้าเสมอ ซึ่งพี่มองว่ามันแปลกๆจึงอยากให้เอาออก) บทที่14 ร่างบางก็วิ่งออกไปตรงไปยังดาบของตนที่ตกอยู่>ร่างบางก็ออกวิ่งตรงไปยังดาบของตนซึ่งตกอยู่ บทที่15 บรรยายได้ยืดยาวมาก อันนี้ไม่ติดใจอะไร แต่สิ่งที่บรรยายมันออกแนวซ้ำไปซ้ำมากับบรรยากาศเดิมๆ แบบว่าบรรยายแล้วบรรยายอีกไม่จบสักทีทั้งที่น่าจะจบได้แล้ว คนอ่านอย่างพี่เลยรู้สึกว่าตอนนี้มันน่าเบื่อและอยากอ่านแบบข้ามๆ ให้มันจบๆไป อ่า... ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ลดทอนประโยคบรรยายที่ยืดเยื้ออยู่ในป่าออกบางส่วนจะดีมาก แล้วเปลี่ยนมาเน้นถึงความวุ่นวายในเมืองน่าจะดีกว่า บทที่16 "เฮ้ย... พระเจ้า" - ดีมิทรีพูดประโยคนี้ซ้ำกัน2รอบ และมีการบรรยายซ้ำประโยคเดียวกันนี้2รอบอีกด้วย บทที่17 จะให้ตัวเอกแทนตัวว่าฉันหรือเรา เพราะปนกันไปหมด บทที่19 เขายิ้มแสยะยิ้มมุมปากให้อย่างเยือกเย็น>เขาแสยะยิ้มมุมปากให้อย่างเยือกเย็น / แม้จะผู้คนมากมายที่จะแสวงหาในอำนาจ>แม้ผู้คนมากมายจะแสวงหาในอำนาจ บทที่21 ดูเหมือนจะเอลฟ์เป็นคนทำไว้>ดูเหมือนเอลฟ์จะเป็นคนทำไว้ บทที่23 พลางเอานำที่คั่นหนังสือฯ>พลางนำเอาที่คั่นหนังสือฯ บทที่25 สรุปว่าวอสฮานน์ตาสีน้ำเงินหรือสีคราม???

    *** สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่มุมมองหรือข้อเสนอแนะของพี่เพกาเท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้เชื่อหรือทำตามทันที แต่พี่ต้องการให้น้องราเซียลองพิจารณาไว้เป็นแนวทางในการปรับแก้หรือไม่แก้ก็แล้วแต่ อาจใช้เป็นแนวทางในการต่อยอดในบทอื่นๆต่อไป

     

    คาแรกเตอร์ (19/20คะแนน) :: เริ่มจากตัวเอกนามเอเซลเลย มีเอกลักษณ์และมีความเป็นตัวของตัวเองสุดๆ สงบ เยือกเย็น และเฉยชา ที่สำคัญmanมากๆ (นึกว่าผู้ชายแปลงกายมาซะอีก555+) ส่วนตัวเอกรองลงมานามดีมิทรีซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทางก็สร้างออกมาให้มีนิสัยแตกต่างกับตัวเอกสุดขั้ว พูดมาก สนุกสนานเฮฮา บางทีพี่รู้สึกว่าอารมณ์ผู้ชายคนนี้ยังไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ ยังออกแนวครึ่งๆกลางๆอยู่ อาจจะเป็นไปได้ว่าตัวละครตัวนี้มีความลับหลายๆอย่างซ่อนอยู่และมีมิติของอารมณ์ที่เคลือบแฝงตลอดเวลา ส่งผลให้การสื่อความเป็นตัวตนของตัวละครตัวนี้เป็นไปได้ยากพอสมควร ลักษณะเด่นที่สำคัญคือเขาwomenมากๆ (ยิ่งกว่าผู้หญิงกันเลยทีเดียวเชียว เหอๆๆ) ตัวรองซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทางอีกคนนามว่ากูลเด็กคนนี้เขียนออกมาได้น่ารักสดใสก็จริง แต่ภายในใจของเด็กน้อยก็ยังมีความเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวแฝงอยู่ ครีโกลัส ตัวเอกคนสุดท้ายที่โผล่แว๊บไปแว๊บมา แต่สุดท้ายก็เข้ามาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ร่วมเดินทางจนได้ รู้สึกว่าลักษณะนิสัยผู้ชายคนนี้เหมือนจะนิ่งก็จริงแต่ยังนิ่งไม่พอ อารมณ์ของเค้ายังคงครึ่งๆกลางๆอยู่ ลักษณะนิสัยอาจจะเรียกได้ว่าเป็นกระจกที่สะท้อนเงาของเอเซลก็ว่าได้ แต่ถือว่าบุคลิกของเค้าโดดเด่นมากทีเดียว (กรี๊ดแอบจิ้นผู้ชายคนนี้โดยไม่รู้ตัว>///<;) ทั้งหมดแตกต่างกันสุดขั้วก็จริง แต่เมื่อมารวมตัวกันก็ให้รู้สึกถึงความลงตัวอย่างประหลาด สุดท้ายก็ตัวประกอบ มันเป็นอะไรที่ จะว่ายังไงดีล่ะ ก็คงจะเหมือนตัวประกอบในบทความทั่วๆไป (เรียกว่าตัวประกอบสำเร็จรูปล่ะกัน) พอน้องราเซียเอ่ยถึงตัวประกอบนั้นๆว่าเป็นคนประเภทไหน (เช่น หัวหน้าชายฉกรรจ์/หัวหน้าอัศวิน) คนอ่านอย่างพี่ก็จินตนาการออกทันทีเลยว่าพวกเขาเหล่านั้นมีหน้าตารวมถึงลักษณะท่าทางเป็นยังไง แม้น้องจะยังไม่ได้บรรยายใดเลย อ่า... ลักษณะนิสัยใจคอตัวละครบางตัวอาจจะยังไม่นิ่งพอ แต่โดยรวมแล้วทุกตัวละครที่น้องราเซียสร้างขึ้นมันช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

     

    การตกแต่งบทความ (20/20คะแนน) :: เรื่องนี้พี่คิดว่ามันเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญมากน้อยแตกต่างกัน แต่สำหรับพี่จะไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ถ้าบทความน้องดีมีสาระซะอย่าง เรื่องของการตกแต่งก็ช่างมันเถอะ

     

    ความน่าสนใจ (14/15คะแนน) :: บันทึกที่พี่ชายทิ้งไว้ อยากจะบอกว่าอ่านแล้วขนลุกแทบทุกตัวอักษรเลย มันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างให้อยากค้นหา มิตรภาพที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นพร้อมๆกับการเดินทางที่เรียกได้ว่าเป็นการผจญภัยสุดแสนจะสมบุกสมบันของเหล่าตัวละครเอก อ่านแล้วเหมือนได้เข้าไปร่วมเดินทางด้วยก็มิปาน คำว่าเพื่อนร่วมทางมันให้ความรู้สึกอุ่นอกอุ่นใจอย่างไงบอกไม่ถูก ซ้ำยังมีการทิ้งปมทั้งในอดีตและปัจจุบันเพื่อให้คนอ่านได้ขบคิดเป็นระยะๆ ส่งผลให้คนอ่านได้ลุ้นและอยากติดตามต่ออยู่เรื่อยๆ โดยรวมถือว่าเนื้อเรื่องมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ติดตรงที่การดำเนินเรื่องบางช่วงบางตอนออกอาการเรื่อยๆไปหน่อย สิ่งที่พี่รู้สึกชอบมากๆสำหรับเรื่องนี้คือความสุภาพของตัวเอก แม้จะบอกว่าเย็นชา ออกแนวแข็งกระด้าง เย่อหยิ่ง และไม่ยอมใครไปบ้าง แต่กลับรู้จักเคารพยำเกรง มีความสุภาพอ่อนน้อมกับบุคคลอื่นๆที่มีโอกาสได้ช่วยเหลือตน ข้อดีข้อนี้มันทำให้ตัวเอกไม่ถูกมองด้านลบ ไม่ถูกมองว่าเก่งเว่อร์หรือกร่างไปทั่ว  แต่กลับเป็นความพอดีต่างหาก อ่า... พี่คงหลงเสน่ห์เอเซลซะแล้ว เฮ้ย~ อุตส่าห์ร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรค์มากมาย แต่ไหงหนึ่งในสี่ กลับกลายเป็นตัวร้ายได้ล่ะ (ไม่ขอเอ่ยนามนะเดี๋ยวคนอ่านรู้ เอ๊ะหรือเค้ารู้กันหมดแล้ว= =;) กรี๊ดไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ในเมื่อบทนำได้มีการปูทางไว้แล้วคงแก้ไขอะไรไม่ได้ นักอ่านคงต้องคอยลุ้นและคอยติดตามกันต่อไปว่าทำไมเพื่อนรักคนนี้ถึงได้กลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดไปได้ โอ๊ยน้ำตาจะไหล (ไปกันใหญ่Y_Y;)

     

    คะแนนพิเศษ (5/5คะแนน) :: ถือเป็นความรู้สึกล้วนๆ สำหรับพี่แล้ว แค่เห็นน้องราเซียกล้าที่จะลงมือเขียน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเขียนให้จบเท่านี้พี่ก็พร้อมเป็นกำลังใจให้แล้ว (ถ้าเป็นไปได้จะให้มากกว่าห้าด้วยซ้ำเพราะเขียนได้ประทับใจจริงๆ^^) นอกจากนี้แล้วพี่อยากให้น้องราเซียลองอ่านนิยายแนวแฟนตาซีของนักเขียนท่านอื่นๆดูเพื่อใช้เป็นแนวทางในการบรรยายหรือเชื่อมประโยคให้ลื่นไหลไม่ซ้ำไม่สะดุด ยิ่งอ่านเยอะงานเขียนของเราก็จะยิ่งแปลกใหม่และน่าสนใจมากขึ้น ไม่ใช่มีเพียงความรู้สึกด้านเดียวของน้อง แต่น้องราเซียจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ จากงานเขียนของท่านอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้อารมณ์ ความรู้สึก และทัศนคติ ที่จะนำมาปรับใช้ในงานเขียนของตัวเองกว้างมากกว่าเดิม

     

    รวมคะแนน 100 คะแนน :: 92คะแนน (อย่ายึดติดกับคะแนนเพราะมันไม่ใช่ทุกอย่างของนิยาย แต่ให้มองลึกลงไปถึงสิ่งที่น้องได้รับจากการแนะนำในครั้งนี้= =;)

     

    ปอปลาลอลิง        * อย่าพึ่งตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อพี่เพกาในทันทีทันใด เพราะน้องราเซยคือผู้ดำเนินเรื่องราวทั้งหมด ดังนั้นจงใช้วิจารณญาณในการตัดสินคำแนะนำของพี่ด้วยตัวของน้องเอง^^


     

    ก้อปไปวางให้หมด จัดชิดซ้ายน่ะค่ะ
    ห้ามนำภาพหรือแบบฟอมร์ไปใช้ที่อื่นหรือเซฟ ^^

     


    ชื่ออะไรค่ะ ::
    นามปากกาอะไรหรอ ::
    ชื่อเรื่อง ::
    นักวิจารณ์คนไหนค่ะ ::
    พอใจกับคำวิจารณ์มั้ย ::
    +โหวต//แปะแบรนเนอร์ด้วยน่ะค่ะ ::
    แล้วมาใช้บริการอีกน้า ::


    สามารถนำลิ้งหรือแบนเนอร์ไปติดก็ได้ :)

    (C) Review Story วิจารณ์นิยายสไตล์ชิวๆ
     


     
    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×