ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Review Story วิจารณ์นิยายสไตล์ชิวๆ xxปิดจ้าxx

    ลำดับตอนที่ #42 : Review Story : 040 - จอม [She&Wolf รัก ลวง ร้าย ในสถาบันลับ]//รับแล้ว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 66
      1
      26 ก.ย. 56



    ชื่อนักวิจารณ์ :: พี่เพกา

    ชื่อเรื่องนิยาย/ฟิคที่วิจารณ์ :: She&Wolf รัก ลวง ร้าย ในสถาบันลับ

    ชื่อผู้แต่ง/นามปากกา :: จอม/ เจ้าจอม(มักง่ายจุง)

     

    ทำความเข้าใจกันก่อนสักนิด พี่เพกาคนนี้ไม่ใช่นักวิจารณ์ที่เก่งกล้ามาจากไหนแต่เป็นเพียงนักอ่านคนหนึ่งซึ่งอยากบอกกล่าวถึงจุดเด่นจุดด้อยของนิยายที่ได้อ่าน ดังนั้นพี่จะไม่ใช้คำว่าวิจารณ์แต่จะใช้คำว่าแนะนำ พี่ไม่ได้ต้องการให้น้องจอมเชื่อทั้งหมดแต่อยากให้พิจารณาสิ่งที่พี่เสนอด้วยตัวของน้องเอง หากส่วนไหนที่น้องเห็นด้วยว่าสมควรปรับเปลี่ยนก็ทำ แต่ถ้าส่วนไหนน้องมองว่ามันดีแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง...

     

    ภาษาที่ใช้ (18/20คะแนน) :: ออกตัวเพิ่มอีกสักหน่อย... จริงๆแล้วพี่เป็นคนเยอะ อาจจะ (พล่าม-O-;)ยาวไปบ้างอะไรบ้าง โปรดทำใจ

                    เริ่มจากชื่อเรื่องเลยนะ ‘She&Wolf รัก ลวง ร้าย ในสถาบันลับ อยากบอกว่าชื่อภาษาอังกฤษน่าสนใจและน่าสงสัยมากเลยค่ะ มันให้ความรู้สึกแบบว่า ผู้หญิงธรรมดาจะเกี่ยวข้องอะไรกับหมาป่าหว่า? ส่วนชื่อภาษาไทย พี่เพการู้สึกว่ามันคุ้นๆไงไม่รู้ เหมือนกับเคยได้ยินชื่อนี้จากภาพยนตร์ฝรั่งเรื่องหนึ่งที่พี่เคยได้ดู แต่พี่จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร คุ้นๆเหมือนจะมีคำว่า School ปนอยู่ด้วย พอเอามาฉายในไทย ก็แปลออกมาคล้ายๆชื่อเรื่องของน้องจอมเลย พี่เลยคิดว่าชื่อภาษาไทยมันยังไม่สะดุดตาพี่สักเท่าไหร่ แหะๆๆ แต่พี่เชื่อนะว่าชื่อนี้น่าจะไปสะดุดตาสะดุดใจนักอ่านหลายๆคนไม่มากก็น้อยล่ะนะ

                    พี่เพกาเห็นน้องจอมพึ่งแต่งได้สองตอน ดังนั้นพี่ขอลงรายละเอียดแบบเจาะลึกสุดๆ ประมาณว่าย่อหน้าต่อย่อหน้า ฉากต่อฉาก บทต่อบทกันเลยที่เดียว เหอๆๆ (อาจจะแลดูเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงจนเกินไปก็อย่าถือสาพี่นะ-/\-;) ไม่ต้องตกใจกลัวหรือจิตตกนะเออ เพราะพี่ไม่ได้น่ากลัวหรือโหดร้ายทารุณแต่อย่างใด พี่หวังจะให้น้องจอมจับจุดนิยายของตัวเองได้ก็เท่านั้นเอง

    สำหรับการเกริ่นเรื่อง พี่ขอบอกตามตรงว่าน้องจอมสื่ออารมณ์ในจุดนี้ได้ธรรมดาและไม่ค่อยน่าสนใจ พี่รู้สึกว่ามันยังไม่จูงใจให้อยากอ่านเนื้อหาในนิยายสักเท่าไหร่ (ในความคิดนะ-O-;) ถ้าเป็นไปได้พี่อยากให้น้องจอมดึงจุดเด่นของนิยายเรื่องนี้ออกมา (อาจจะเป็นประโยคหรือวลีเด็ดๆ / บางช่วงบางตอนที่ลุ้นระทึก กดดัน ไม่ใช่ง่ายๆสบายๆแบบที่เป็นอยู่ / หรือบรรยายความน่าสะพรึงอะไรก็ได้ที่ทำให้คนอ่านรู้สึกขนลุก!) เพื่อเป็นตัวกระตุ้นให้นักอ่านเกิดความยากที่จะติดตาม นั่นเพราะการเกริ่นนำถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้คนที่เปิดเข้ามาเลือกที่จะออกจากหน้าจอหรือเลือกที่จะอ่านต่อ

                    ข้อมูลเบื้องต้น ว่าด้วยเรื่องสำนวนภาษากันก่อนเลย ถือว่าเขียนออกมาได้ดีทีเดียวค่ะ เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ยืดเยื้อ เข้าใจง่าย ชี้ตรงประเด็นว่า ณ ขณะนั้น ใครกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ใด บอกตามตรงพี่เพการู้สึกว่ามันเหมือนนิยายแปลมากๆเลยค่ะ แต่ก็นั่นแหล่ะ ถึงจะเขียนได้ราวกับเป็นนิยายแปลก็จริง มีสิ่งหนึ่งที่น้องจอมยังเข้าไม่ถึง นั่นคืออารมณ์ตัวละครที่มีต่อสถานการณ์ตรงหน้า จะว่ายังไงดีล่ะ ความรู้สึกที่พี่อ่าน  'Intro' ของน้องจบมันคือความเฉยๆ งั้นๆ แทนที่จะเป็นตื่นกลัว หวาดผวา หรือว่าขนลุก สารภาพจากใจจริงว่ามันไม่ค่อยปลุกใจหรือปลุกอารมณ์ให้พี่อยากอ่านต่อ ถ้าเป็นไปได้พี่อยากให้น้องจอมลองใช้บุรุษที่สามในการบรรยายและลองเรียบเรียงประโยคใหม่อีกรอบ พี่คิดว่าความน่าสะพรึงมันน่าจะมีมากกว่าการใช้บุรุษที่หนึ่ง ลองดูนะ

                    ฉับๆๆ

    ท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล ยินเสียงฝีเท้าย้ำพื้นหนักเบาต่างระดับ เจ้าของฝีเท้าเปลือยเปล่าหนึ่งข้างกำลังวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างในสภาพที่ดูแทบไม่ได้ เสื้อและกางเกงขาดวิ่นเพราะสิ่งที่ติดตามหลังร่างบางอยู่เป็นสาเหตุ เนื้อตัวสกปรกโสกโครกอันเกิดจากการล้มลุกคลุกคลานหลายต่อหลายครั้ง รอยแผลที่ไม่รู้ว่าโดนอะไรเกี่ยวแทงมาบ้างสร้างความเจ็บแสบและปวดหนึบตามร่างกายก็จริง แต่คงเทียบไม่ได้กับความหวาดกลัวที่มีต่อสถานการณ์เลวร้ายจากบางสิ่งที่กำลังไล่ล่าคนร่างบางมาด้วยความหิวกระหาย มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ...

    กึก!

    ราวกับต้องมนต์จนไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้ เมื่อเจ้าของดวงตาสีนิลวาววับจับจ้องมายังร่างอิดโรยของเธอด้วยแววตาเป็นประกาย เจ้าของเรือนผมสีจินเจอร์สั่นสะท้านอย่างหนักเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งนั้น ชีวิตของเธอจะจบลง ณ สถาบันแห่งนี้จริงเหรอ...

    ดวงตาหวาดหวั่นเหลือบแลไปรอบกายอย่างต้องการขอความช่วยเหลือ แต่กลับว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งยึดเหนี่ยวใดๆ หมดสิ้นแล้วทุกหนทาง ร่างบางแทบทรุดลงไปกองกับพื้นเมื่อเห็นว่ามันทำท่าจะกระโจนเข้ามาขย้ำคอเธอราวกับเห็นเป็นเนื้อชั้นดีที่หาไม่ได้ในป่าหลังสถาบันเทสมาเนีย!

    กรี๊ดดด!!!

    อ่า... หลังจากอ่านคำบรรยายที่พี่ตัดเติมเสริมแต่งจนไม่แน่ใจว่าผิดประเด็นที่น้องจอมวางไว้รึเปล่า เราก็เปลี่ยนมาเอ่ยถึงบทนำกันเลยดีกว่า พี่เพกาไม่ขอพูดถึงตอนต้นบทที่เป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทยกำกับไว้นะ เพราะพี่ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่แม้จะได้รับการแปลแล้วก็ตาม ไหนๆก็ไหนๆล่ะ ขอถามหน่อยล่ะกัน ตัวเอกตายแล้วเหรอถึงได้บรรยายอะไรแบบนั้น ส่วนประโยคนี้ ฉันค่อยๆรวบรวมชิ้นส่วนของฉัน พี่สงสัยจัง ชิ้นส่วน ที่ว่าคืออะไร ถ้าสื่อทำนองว่าเป็นอวัยวะก็แปลว่าตัวเอกไม่ใช่คน แต่เป็นหุ่นยนต์หรือสิ่งของอะไรสักอย่างที่ไม่มีชีวิต แต่ถ้าสื่อถึงเสื้อผ้าหรือเครื่องใช้ไม้สอยที่ติดตัวมาล่ะก็ แนะนำให้ระบุเจาะลึกลงไปเลยว่าสิ่งนั้นคืออะไรดีกว่ามั้ย? บทนำ ขอชมว่าสำนวนภาษาที่น้องจอมเขียนมันดีมากๆเลยค่ะ เหมือนกับหนังสือแปลจริงๆนะ (มีย้ำ-O-;) ลื่นไหล อ่านเข้าใจง่าย เขียนแค่นิดเดียวนักอ่านก็สามารถเข้าใจตามเรื่องราวในอดีตที่น้องกำลังจะสื่อให้ทราบต่อจากนี้เป็นต้นไปได้ในทันทีทันใด โดยรวมแล้วบทนี้สมบูรณ์แบบ (หลังจากที่พี่เพกาคนเดียวล่ะมั้งที่อึนๆมึนๆและติโน่นนี่นั่นตั้งแต่ชื่อเรื่อง เกริ่นนำ ข้อมูลเบื้องต้น จนกระทั่งช่วงต้นบทนำY_Y;) เอาเป็นว่าบทนำน่าสนใจ และน่าติดตามต่อ 

    บทที่1 ซึ่งเขียนลำดับเหตุการณ์ต่อมาจากบทนำ การบรรยายยังคงเขียนได้ลื่นไหลดี ไม่มีสะดุด ตอนแรกพี่แอบงงการลำดับเหตุการณ์อยู่พอสมควร ว่าทำไมประโยคนี้ เชอร์รี่ เธอต้องไปเรียนที่สถาบันเทสมาเนียนะ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในปัจจุบัน น้องจอมถึงไม่ใส่เครื่องหมายนี้ “ ” ล่ะ แต่พออ่านจบก็พึ่งจะอ๋อ~ นั่นเพราะประโยคที่ว่า ตัวเอกคิดถึงถ้อยคำของคนที่ช่วยชีวิตนั่นเอง งั้นพี่ขอแนะนำเพื่อป้องกันไม่ให้นักอ่านท่านอื่นสงสัยหรืองงเหมือนพี่ (หรือพี่งงอยู่คนเดียวก็ไม่แน่ใจ-///-;) พี่อยากให้น้องจอมบรรยายเพิ่ม เจาะจงไปเลยว่านั่นคือความคิด เช่น แม้เจ้าของเสียงจะจากไปนานแล้ว แต่ประโยคบอกเล่าเชิงคำสั่งของเธอคนนั้นก็ยังคงตีวนอยู่ในความคิดของฉันไม่จางหาย... บลาๆอะไรก็ว่าไป  นอกจากนี้เหตุการณ์เมื่อห้าชั่วโมงก่อน มันดูยืดเยื้อไปนะ แถมไม่ค่อยน่าหวาดหวั่นและไม่น่าลุ้นสักเท่าไหร่ นั่นเพราะอารมณ์ของตัวเอกและตัวร้ายแสดงออกไม่สุดสักทีเดียว (ในความรู้สึกพี่นะ-O-;) เหตุการณ์นี้มันควรจะกดดัน แต่มันกลับไม่ใช่ ตัวเอกอยู่ในอารมณ์เกรี้ยวกราดและหวาดกลัวก็จริง แต่เธอกลับบรรยายสภาพแวดล้อมและบุคคลรอบข้างให้ออกแนวตลกมากกว่าจริงจัง ซึ่งพี่มองว่ามันไม่สอดคล้องกับอารมณ์เดือดดารของตัวร้ายและไม่สมจริง หากเป็นไปได้แนะนำให้ใส่ความตึงเครียดเข้าไปเต็มๆหนักๆไม่ต้องหยอดมุกใดๆ เอาให้นักอ่านกระอักและรู้สึกอับจนหนทางไปตามตัวเอกด้วยได้ยิ่งดี จากนั้นค่อยผ่อนคลายด้วยความช่วยเหลือจากทางอากาศที่นักอ่านคิดไม่ถึง ซึ่งมันจะช่วยให้นักอ่าน อึ้งอินตาม และอยากรู้ตอนต่อไป

    บทที่2 อ่า... จะว่าไปแล้วบทนี้ สำนวนภาษาของน้องจอมยังดีเหมือนเดิมค่ะ แต่พี่เพการู้สึกว่าการบรรยายของน้องจะออกแนวรวบรัดตัดตอนไปหน่อย เหมือนเร่งเขียนเร่งจบไงไม่รู้ พี่เพกาอยากบอกเกี่ยวกับการบรรยายว่า ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเยอะ เพราะพี่รู้สึกว่าน้องบรรยายได้ดี ลื่นไหล และไม่ยืดเยื้อ แต่น้องอาจจะกลัวหรือลังเลใจว่ามันจะเยอะเกินไปจนคิด (ไปเอง) ว่าจะทำให้คนอ่านรู้สึกถึงความน่าเบื่อ อย่าคิดแบบนั้นค่ะเพราะมันไม่ใช่ ลองคิดดูนะ ระหว่างบรรยายเยอะแล้วคนอ่านเข้าใจ กับไม่บรรยายอะไรเลยแล้วคนอ่านงง แบบไหนร้ายแรงกว่ากัน? บางตอนก็เหมือนเขียนข้ามซะงั้น ประมาณว่ากำลังอ่านเพลินๆแล้วจู่ๆข้อความหรือประโยคบางประโยคมันขาดหายไป (อ่านต่อที่เนื้อหานะเออ) พอมีตัวละครเพิ่มมากขึ้น พี่รู้สึกว่าน้องจอมจะไม่ค่อยบรรยายอารมณ์หรือตำแหน่งที่ตัวละครเหล่านั้นนั่งหรือยืนอยู่เลย แต่จะไปเน้นบทพูด (ที่บางที่พี่ก็แบสงสัยว่าใครพูดหว่า?) ซะมากกว่า นอกจากนี้ยังมีการแจกบทไม่ค่อยทั่วถึงสักเท่าไหร่ ยังไงก็ระวังจุดนี้นิดนึงเน๊อะ

    ว่าด้วยเรื่องคำผิด จริงๆแล้วก็ไม่มีนะ แต่จะเป็นคำตกหล่นและประโยคไม่สมบูรณ์ที่พี่อ่านแล้วงงๆ ถ้าเป็นไปได้ก็แนะนำกลับไปปรับแก้สักหน่อยล่ะกัน เพราะถือว่าเป็นประตูบานแรกที่จะจูงใจให้นักอ่านเปิดบานต่อๆไป

    บทนำ จ้องมาขึ้นมา>จ้องมองขึ้นมา / แสแสร้ง>เสแสร้ง บทที่1 แสแสร้ง>เสแสร้ง (เจออีกแล้ว-0-;) / ไม่แข็งแรงซะเท่าไหร่>ใช้สักดีกว่าค่ะ / ไม่ได้หลับไม่ได้... (นอนหายค่ะ) / หนูอยากจะอยาก>หนูอาจจะอยาก / ทุกเลา>ทุเลา / โลกนี้ชักจะไม่น่าอยู่ขึ้นทุกๆ วัน L ! คืออะไร? อีกอย่างไม่ต้องใส่ ๆ ย้ำแล้วค่ะ ทุกวัน ก็พอ / เลยไม่มงคล>หมายถึงเลขรึเปล่า บทที่2 เลือนหน้า>เลื่อนหน้า / ซ้อน>ซ่อน / อย่าโกรธ...ลืม>ตกจนค่ะ / หน้าแหย่ๆ>หน้าแหยๆ / เราสั้นว่า>เรียกสั้นๆว่า / ทุกอย่างถูกชะงัก>ใช้หยุดจะเหมาะกว่านะ / เธอ???และถอยหายอย่างเบื่อหน่าย / ถอยหลังจนต้องกับประตู>น่าจะเป็นติดนะ / ลากฉันอีกไปจาก>หมายถึงออกรึเปล่า / ถูกสร้างมีจาก>มาใช่มั้ย / ที่นาย...ที่นี่>ตกมาค่ะ / โรมหยิบเศษแก้วไวน์ไปทางเฟอร์ท>หยิบมาทำอะไรค่ะ ขว้างปา หรือร่ายเวทลงไปด้วย หรือว่าดูเฉยๆ แนะนำอธิบายเพิ่มนิดนึงเพราะแค่เสียงเอฟเฟคประกอบมันยังไม่พอค่ะ / ครวนคราง>ครวญคราง

    แนะนำเพิ่มเติม

    เอ่อ... พี่รู้สึกว่าน้องจอมจะใช้เครื่องหมายพวกนี้ (... / ! / ?) พร่ำเพลื่อเกินไปนะ มันเยอะเกินไปทั้งๆที่บางประโยค บางจังหวะไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้มันก็สมบูรณ์ดีแล้ว ถ้าสังเกตดีๆมันมีแทบทุกย่อหน้า แทบทุกทุกบทสนทนา ถ้าเทียบกับนิยายรัก มันคงจะเปรียบเสมือนตัวอีโมฯที่ใส่เข้ามา (เยอะเกินไป) จนทำให้นิยายขาดความสมจริง อ่านๆไปแล้วรู้สึกสะดุดตาสะดุดอารมณ์อย่างแรง (สำหรับพี่นะ= =;) ถ้าเป็นไปได้ก็ลดๆลงบ้าง ไว้ใส่เมื่อจำเป็นเหมาะเจาะจริงๆก็พอ เช่น เครื่องหมาย ( ... ) ใช้สำหรับการลากเสียง หรือ การต่อประโยค เครื่องหมาย ( ! ) ใช้สำหรับ อารมณ์ตกใจ สบถ หรือถ้อยคำที่ต้องการเน้นย้ำ ถ้าบรรยายธรรมดา ไม่ต้องใส่ค่ะ เพราะถ้าใส่เข้าไปมันจะให้อารมณ์โมโหร้ายราวกับตัวเอกตะคอกคนอื่นไปทั่ว เครื่องหมาย ( ? ) ใช้สำหรับ ใช้สำหรับความสงสัยก็จริง แต่ถ้าสงสัยบ่อยๆในย่อหน้าหรือประโยคเดียวกัน แนะนำให้ใส่ไว้ท้ายสุดก็พอ

    ^^ อิโมฯตัวนี้น้องได้แต่ใดมา แนะนำว่าเอาออกเถอะค่ะ เนื่องจากน้องจอมไม่ได้คิดจะใส่ตั้งแต่ต้น (แถมในบทที่สองก็บรรยายแล้วว่าคนพูดยิ้มอยู่ ดังนั้นไม่ต้องใส่สีหน้าให้แล้วค่ะ) พออ่านเจอแล้วมันทำให้พี่สับสน สรุปว่าจะเขียนนิยายรักหวานแหววที่มาพร้อมบ้องแบ๋วตลอดเวลาหรือแฟนตาซีที่มาพร้อมกับความสมจริง

    เครื่องหมายนี้ @ พี่ว่าเอาออกเถอะ แบบว่ามันไม่เหมาะจะใส่ในนิยายสักเท่าไหร่ แค่น้องจอมบอกว่า บนเครื่องบิน เท่านี้นักอ่านก็ทราบโดยทั่วกันแล้วว่าน้องจอมหมายถึงสถานที่สักแห่ง

    เนื้อหา (17/20คะแนน) :: เท่าที่อ่านๆมาทั้งตัวพี่เพกาเองและนักอ่านก็พอจะเข้าใจเนื้อหาของเรื่องได้ตรงกันตามนี้ ตัวเอกถูกเพื่อนนามว่าโอเด็ตซึ่งตัวเองไว้ใจกล่าวหาว่าเป็นแม่มด และเพื่อนๆคนอื่นๆที่เรียกว่าทาสของโอเด็ตก็คงไม่ผิดต่างก็เชื่อตามที่เธอกล่าวหา คำว่าแม่มดยิ่งนับวันยิ่งรุนแรงจนกระทั่งวันที่ตัวเอกถูกจับตรึงกับไม้กางเขนเพื่อฆ่าให้ตายด้วยไฟ แต่เคราะห์ดีที่มีคนจากสถาบันเทสมาเนียมาช่วยไว้ ทำให้ตัวเอกรอดตายมาได้ และคนในสถาบันก็ชวนเธอไปอยู่ที่สถาบันดังกล่าวด้วย  แม้จะไม่สับสนและไม่สนิทใจ แต่ตัวเอกก็ตัดสินใจไปคนๆนั้นจนได้ สถาบันเทสมาเนียจะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือเลวลงนั้น ก็ยังให้คำตอบไม่ได้ นักอ่านจะต้องไปติดตามกันเอาเอง

    สำหรับเนื้อหาในบทที่สองเรามาจับเข่าคุย (ขนานนั้นเลย แหะๆ) กันทีละฉากดีกว่า ฉากก่อนเจอแมว อันที่จริงพี่ว่าน้องจอมน่าจะเล่าเสริมเข้าไปอีกนิดนะว่าตัวเอกหอบหิ้วอะไรมาบ้างหรือว่ามาแต่ตัวทัวร์ยกแก๊ง เพราะส่วนใหญ่ที่สัมผัสได้ ตัวเอกมักจะบรรยายสรรพสิ่งรอบกาย (อันได้แก่บรรยากาศ สถานที่) ก่อนเสมอ แต่ไม่โฟกัสเข้ามาหาตัวเองสักเท่าไหร่ พออ่านตรงที่หยิบMP3 ขึ้นมาฟังมันเลยให้ความรู้สึกโดดๆลอยๆ ประมาณว่าเอามาจาไหน กระเป๋าสัมภาระ ถือมาตั้งนานแล้วแต่ไม่ได้เอ่ยถึง มีอยู่แล้วบนเครื่องบิน หรือเสกมา อะไรทำนองนั้นน่ะนะ คราวนี้ก็ฉากเจอแมวกับหนุ่มหล่อ ขอบอกว่าฉากนี้ทั้งน่ารัก ทั้งน่าสงสัย ทั้งน่าจิ้น อ่านแล้วอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว ถือว่าฉากนี้ผ่านค่ะ (แอบสงสัยไม่น้อยว่าตกลงแล้วผู้ชายคนนี้เป็นคนเดียวกับแมวรึเปล่า? ถ้าให้พี่เดา คงเดาว่าเป็นคนละคน>เป็นคำตอบที่ผิดคับง่า= =;)

    ฉากต่อมาก็บนเครื่องบิน รู้สึกว่าฉากนี้น้องจอมจะบรรยายรูปพรรณสัณฐานตัวเอกเทียบกับตัวประกอบจนพี่รู้สึกว่าตัวประกอบเรื่องนี้มีไว้ประกอบฉากจริงๆ แค่เขียนขึ้นมาให้รู้ว่ามีคนอยู่เท่าไหร่และมีส่วนไหนที่ต่างไปจากเธอบ้าง (เปรียบเทียบกันซึ่งๆหน้ากันเลยทีเดียวเชียว=[]=;) มันจึงให้ความรู้สึกรวบรัดเกินไปประมาณว่า น้องอธิบายบุคคลเหล่านั้นแล้วนะและจะไม่อธิบายซ้ำอีก แต่จะไปพูดถึงตัวละครอื่นๆที่โดดเด่นขึ้นมากว่านี้หน่อย อันที่จริงน้องจอมสามารถบรรยายลักษณะท่าทางและสถานที่สิงสถิตของบุคคลเหล่านั้นเพิ่มอีกสักนิดก็ได้นะ นอกจากพี่คิดว่านางไม้น่าจะเอะใจว่าตัวเอกเป็นเด็กใหม่ได้ตั้งแต่ก่อนที่จะถามชื่อแล้วนะ แต่นี่คุยกันจนจะจบอยู่แล้วพึ่งรู้สึกตัวว่าคุยกับเด็กใหม่ พี่มองว่ามันแปลกๆและไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ จะว่ามันเหมือนน้องจอมพึ่งนึกได้แทนที่จะเป็นนางไม้นึกก็คงไม่ผิด จริงๆแล้วเอามาแทรกตรงที่ตัวเอกพูดถึงปีศาจก็ได้ (ในความคิดนะ-O-;) สุดท้ายก็ตอนที่นางไม้สลายกลายเป็นทราย หวังว่านางคงไม่ได้ตายหรอกนะ แม้จะสงสัยว่าเจ้าตัวเฟอร์ทมันตัวใหญ่ขนาดไหนหรือมีพลักพิเศษอะไร ถึงสามารถกำร่างคนทั้งคนให้แหลกสลายได้ในพริบตา และงงๆว่าทำไมตอนนี้มันออกแนวปุบปับพิลึก แต่พี่ก็ยังแอบหวังอยู่ลึกๆว่าตอนต่อไปมันจะไม่ใช่อย่างที่เห็น แบบว่าจริงๆแล้วนางไม้ไม่ได้โดนฆ่าตายแต่เธอใช้เวทย์มนต์สลายตัวออกจากการเกาะกุมของเจ้าตัวร้ายหรืออาจจะเป็นใครสักคนที่ใช้เวทมนต์ให้เธอหลุดพ้นจากมือใหญ่ (ง่า~ พี่คิดเป็นตุเป็นตะแล้วนะ)

    สุดท้ายนี้พี่ขอพูดถึงเสน่ห์ที่พี่ชอบในตัวน้องจอมสักนิดล่ะกัน นั่นคือ น้องจอมมีการบรรยายความไม่ยืดเยื้อ เวลาอ่านมันเลยดูไม่เยอะ (โปรดอย่างงU_U;) ไม่ยืดเยื้อในที่นี้หมายถึงการที่น้องจอมไม่บรรยายสิ่งเดิมๆซ้ำๆ ส่งผลให้เนื้อหาที่อยู่ (ไม่รู้ว่ามีเยอะหรือน้อย) มันต่อเนื่องกัน ไม่วกวนอยู่กับที่ สุดท้ายก็กลายเป็นความลื่นไหลที่นักอ่านสามารถอ่านได้เรื่อยๆโดยไม่สะดุด เพราะเนื้อหาที่มีมันไม่ซ้ำส่งผลให้งานเขียนไม่เยอะ (หวังว่าจะไม่งงนะ^^;) เอาเป็นว่าพี่ขอชมเรื่องที่กล่าวไปข้างต้นนนะ หวังว่าน้องจอมจะรักาไว้และพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไปเรื่อยๆ

    คาแรกเตอร์ (17/20คะแนน) :: ในที่นี้พี่เพกาขอพูดถึงนางเอกนามว่าเชอร์รี่คนเดียวเดี่ยวๆเลยนะ บอกตรงๆว่าพี่ยังดูไม่ออก เดาไม่ได้เลยว่าลักษณะนิสัยที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้เป็นยังไงกันแน่ เพราะเท่าที่อ่านมาพี่สัมผัสจากคำพูดคำบรรยายของเธอแล้ว รู้สึกว่าเจ้าตัวจะมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆและไม่คงที่ อาจจะเป็นไปได้ว่า สถานการณ์รอบข้างที่เธอเผชิญอยู่มันโหดร้ายเกิดไปสำหรับเด็กสาววัย17-18 ทำให้เธอสับสนและแสดงอารมณ์ก้าวร้าวออกมา พอเข้าสู่บทที่สอง นิสัยใจคอและความคิดความอ่านของเธอกลับเปลี่ยนไปจนน่าตกใจ (ราวกับเป็นคนละคนกันแน่ะ-0-;) แต่พี่ชอบลักษณะท่าทางของเธอในบทที่สองมากกว่าบทที่หนึ่งนะ เพราะพี่รู้สึกว่าการแสดงออกของเธอมันดูเป็นธรรมชาติ มีชิวิตจิตใจและมีเหตุผล

    การตกแต่งบทความ (20/20คะแนน) :: เรื่องนี้พี่คิดว่ามันเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญมากน้อยแตกต่างกัน แต่สำหรับพี่จะไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ถ้าบทความน้องดีมีสาระซะอย่าง เรื่องของการตกแต่งก็ช่างมันเถอะ

    ความน่าสนใจ (13/15คะแนน) :: เด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งสำนึกตัวเองมาตลอกว่าเป็นเพียงมนุษย์เดินดินธรรมดาเท่านั้น แต่แล้วเพื่อนที่เธอไว้ใจกลับกล่าวหาว่าเธอเป็นแม่มด แล้วยังสั่งให้คนมาจับเธอไปเผาไฟอีกต่างหาก ยังดีที่มีคนมาช่วยไว้ และชวนให้ไปอยู่ด้วยกัน ไม่แน่ใจว่าเพราะต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่างหรือต้องการหลีกหนีจากเพื่อนที่เคยทำร้าย เธอจึงตัดสินใจไปยังสถาบันที่คนๆนั้นเรียกว่าเทสมาเนีย จากโครงเรื่องคร่าวๆที่พี่เขียนแล้วเขียนอีก ในความรู้สึกของพี่เพกาคนนี้ คือ... ธรรมดาค่ะ เหมือนแนวเรื่องแม่มดพ่อมดทั่วไปที่ไม่เชื่อว่าตัวเองเป็นอย่างที่ใครสักคนบอก และเพื่อไขข้อข้องใจดังกล่าวก็จำเป็นต้องเลือกไปกับคนๆนั้นเพื่อพิสูจน์ให้รู้แจ้งเห็นจริงว่าใช่หรือไม่ แม้แนวเรื่องจะไม่ค่อยแตกต่างกับแฟนตาซีมนุษย์หลากหลายเผ่ากันเรื่องอื่นๆก็จริง แต่น้องจอมสามารถทำให้มันแตกต่างได้ไม่ยาก นั่นคือการดำเนินเรื่องราว หากน้องจอมเขียนออกมาได้แปลกและต่างจากแฟนตาซีแนวเดียวกัน พี่เชื่อเหลือเกินว่านิยายเรื่องนี้น่าสนใจมาก!

    คะแนนพิเศษ (5/5คะแนน) :: ถือเป็นความรู้สึกล้วนๆ สำหรับพี่แล้ว แค่เห็นน้องจอมกล้าที่จะลงมือเขียน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเขียนให้จบเท่านี้พี่ก็พร้อมเป็นกำลังใจให้แล้ว

    รวมคะแนน 100 คะแนน :: 90 คะแนน (อย่ายึดติดกับคะแนนเพราะมันไม่ใช่ทุกอย่างของนิยาย แต่ให้มองลึกลงไปถึงสิ่งที่น้องได้รับจากการแนะนำในครั้งนี้-O-;)

    ปอปลาลอลิง     * อย่าพึ่งตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อพี่เพกาในทันทีทันใด เพราะน้องจอมคือผู้ดำเนินเรื่องราวทั้งหมด ดังนั้นจงใช้วิจารณญาณในการตัดสินคำแนะนำของพี่ด้วยตัวของน้องเอง^^

     

    ก้อปไปวางให้หมด จัดชิดซ้ายน่ะค่ะ
    ห้ามนำภาพหรือแบบฟอมร์ไปใช้ที่อื่นหรือเซฟ ^^

    ชื่ออะไรค่ะ ::
    นามปากกาอะไรหรอ ::
    ชื่อเรื่อง ::
    นักวิจารณ์คนไหนค่ะ ::
    พอใจกับคำวิจารณ์มั้ย ::
    +โหวต//แปะแบรนเนอร์ด้วยน่ะค่ะ ::
    แล้วมาใช้บริการอีกน้า ::


    สามารถนำลิ้งหรือแบนเนอร์ไปติดก็ได้ :)

    (C) Review Story วิจารณ์นิยายสไตล์ชิวๆ

     


     

    เหมียว หง่าว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×