คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ฝนตก ไฟดับ
ตอนที่ 2
“จะออกไปไหน ดึกๆดื่นๆ”ไอ้กิ๊บถามหน้าเข้ม มันหาผมในสภาพชุดนอนกางเกงบอลเสื้อยืดพร้อมกับเป้ประจำตัวของมันอีกหนึ่งใบ
“จะออกไปเซเว่น” ผมบอกแต่ไม่มองหน้ามัน
“ป่านนี้เนี่ยนะ แล้วจะออกไปยังไง” มันโยนกระเป๋าเป้มันไปที่โซฟาที่ผมนั่งเมื่อกี้
“ก็ขับมอไซค์ไปดิ รถบ้านกูก็มี”
“ไม่ต้องเดี๋ยวกูไปซื้อให้เอง มึงรออยู่บ้านนี่แหละ ฝนทำท่าจะตกด้วย”มันพูดพร้อมกับยื่นมือจะมาแย่งร่มจากมือผมไปแต่ผมไม่ให้ เอามือเอาไปแอบไว้ด้านหลัง
“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูออกไปซื้อเอง”ผมพูดและผลักตัวมันให้พ้นทางแต่เท่านั้นของผมไม่ได้สะกิดผิวหนังของมันเลยสักนิด
“อยากให้กูเป็นเหมือนตอนเย็นอีกใช่ไหม ถึงทำตัวแบบนี้อีกแล้ว”มันพูดและจับตัวผมให้ยื่นนิ่งก่อนจะแย่งร่มไปจากมือผม
“เรื่องของมึง!”ผมพูด มันถอนหายใจออกมาเหมือนว่าเหนื่อยกับผมสุดๆ
“บอกอะไรไม่เคยจะฟัง มึงรอกูอยู่ที่บ้านนี่แหละ เดี่ยวกูออกไปซื้อมาให้!”มันพูดอีกครั้ง ก่อนจะผลักตัวผมเข้ามาในบ้านแล้วปิดประตูใส่หน้าผมเต็มๆ เสียงรถมอเตอร์ไซค์ของไอ้กิ๊บเมื่อกี้คงบอกอารมณ์ของเจ้าของมันได้อย่างชัดเจนสุดๆเพราะขับรถออกไปด้วยความเร็วแสง
นั่งดูการ์ตูนรอไปสักัพกฝนเริ่มตกลงมาจริงๆแบบที่ไอ้กิ๊บคาดเดาไว้และดูท่าทางว่าจะตกมากด้วย โดยส่วนตัวผมไม่กลัวเสียงฟ้าร้องอยู่แล้ว แต่ที่กลัวที่สุดคงเป็นไฟดับ คือผมไม่ชอบอยู่ในที่มืดๆมันหายใจไม่ออก จะเดินไปทางไหนก็ไม่ได้ จำได้ตอนเด็กๆผมร้องไห้ลั่นบ้าน ตอนนั้นแม่ก็ไม่อยู่ยังไม่กลับ ส่วนไอ้ฟาวอยู่ด้านล่าง ส่วนผมขึ้นมานอนอยู่ด้านบนแล้ว ขนาดหลับไปแล้วยังรู้สึกได้อีกอ่ะ แต่ผมว่าครั้งนี้คงไม่หรอกมั้ง ไม่งั้นผมตายแน่ เพราะไอ้ฟาวก็ไม่อยู่ แม่ก็ไม่อยู่ ไอ้กิ๊บก็ยังไม่กลับ
พรึบบ !!! และสิ่งผมไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจนได้ ทีนี้จะทำไงล่ะครับมืดมองอะไรไม่เห็นเลย ผมค่อยๆเดินไปหาประตูบ้าน คิดว่าออกไปนั่งรอไอ้กิ๊บที่ด้านนอกดีกว่า อย่างน้อยมันอาจจะไม่มืดขนาดนี้ก็ได้ ระหว่างนี้ก็เหยียบแหลก ไม่สนอะไรทั้งสิ้น น้ำตาไหลอย่างเดียว พอเปิดได้เริ่มเห็นแสงมานิดนึงเหมือนเห็นทางสว่าง ผมจึงออกมานั่งตรงที่ใกล้ที่เก็บรถ ระหว่างที่นั่งรอไอ้กิ๊บผมนั่งร้องไห้เหมือนญาติบวกกับผมที่เป็นคนกลัวผีขึ้นสมองอยู่แล้ว ฟ้าดังลั่นขนาดไหนไม่หวั่น ขออย่างเดียวไม่ชอบความมืด ผมไม่รู้ว่าร้องไห้มากขนาดไหน รู้สึกอีกทีตอนเห็นรถฟีโน่สีแดงของไอ้กิ๊บขับมาจอดที่หน้าบ้าน ผมรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปหามันทันที ไอ้กิ๊บตกใจรีบหยุดรถเดินเข้ามาผมแทบไม่ทัน
“ฮือๆ กิ๊บไฟดับ มึงไปไหนมา ทำไมมาช้าแบบนี้ อึก ฮือ”ถามไปแม่งก็สะอึกไป
“ก็ไปซื้อไส้กรอกให้มึงไง เงียบๆร้องไห้ตาบวมหมดแล้ว” มันค่อยๆเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างเบามือ
“ฮือๆ มึงไปซื้อที่เซเว่นไหน! บ้านกูกับเซเว่นไกลขนาดนั้นเลยรึไง ถึงไปเป็นชาติแบบนี้ อือ อึก”
“โอ๋ๆ อย่าร้องไปๆ เข้าไปในบ้านดีกว่าเนอะ ฝนตกตัวมึงเปียกหมดแล้ว รู้สึกบ้างไหมเนี้ย”
“ไม่เอาไม่เข้าบ้าน ไฟดับ มันมืดกูไม่ชอบ! อึก”ยังสะอึกอยู่ครับ มันส่ายหัวเบาแล้วค่อยๆลากผมเข้ามานั่งข้างที่เก็บรถมันเอาผมนั่งบนตักมัน แล้วโอบเอวผมไว้หลวมๆ
“โอเคๆ งั้นนั่งรอตรงนี้จนกว่าไฟจะมาละกันเนอะ ฟาร์เงียบนะ อย่าร้องน่ะครับ” มันพูดและโยกตัวพูดปลอบเบาๆ
“อึก อือ ไหนไส้กรอกกูอะ หิวจะกิน!”ร้องไห้หนักไปหน่อยเลยหิว ไอ้กิ๊บหลุดหัวเราะออกมาทันที
“นี่แสดงว่าร้องนานใช่ไหมฮืม ถึงหิวขนาดนี้เนี้ย”มันเห็นผมรีบยัดไส้กรอกเข้าปากมั้งถึงถามออกมา ผมพยักหน้าให้มันไปทีหนึ่ง แล้วชวนมันกิน แต่มันไม่กินครับ บอกว่าอิ่มแล้ว เรานั่งกันจนฝนเริ่มจะหยุดตกบ้างแล้ว คาดว่าอีกไม่นานไฟก็คงน่าจะมาได้แล้วนะครับ ผมนั่งรอสักอีกพักใหญ่ๆเหมือนกันกว่าไฟจะมา และตอนนี้ไฟก็มาแล้วด้วย เข้าบ้านดีกว่าเริ่มหนาวแล้วครับ เมื่อกี้วิ่งออกไปหาไอ้กิ๊บผมโดนฝนเต็มๆ
“ไปมึงเข้าบ้าน ไฟมาแล้ว” ผมลุกขึ้นแล้วเดินจะเข้าบ้าน หันมาดูด้านหลังไม่เห็นไอ้กิ๊บตามมา มันยังนั่งอยู่ที่เดิมท่าเดิมไม่ขยับ
“ทำไมมึงไม่ลุกอ่ะ อยากเป็นปอดบวมตายหรอรึไง เข้าบ้านเร็ว”ผมเร่ง ไอ้กิ๊บสั่นหัวเบาๆทำมือไล่ให้ผมเข้าบ้านไปก่อน ผมเลยเดินเข้ามาดูมันใกล้ๆ
“แปบนึงดิ เอามึงนั่งตักนานไปหน่อยเลยปวดขา แปบนึงปรับสภาพขากูแปบ!”ไอ้ควายเอ้ย! ผมนึกอายหน้าแดงขึ้นมาทันที ที่แท้มาจากผมนี่เอง นี่แสดงว่ากูอ้วนกว่าเดิมใช่ไหมไอ้กิ๊บถึงกับปวดขาหลังจากเอาผมนั่งตัก
“ช่วยไม่ได้นี่หว่า มึงอยากเอากูนั่งตักมึงเอง ไม่ได้ข้อร้องซะหน่อย!” ผมนี้แก้ตัวไปเรื่อยครับ
“หึหึ แล้วเมื่อกี้เด็กที่ไหนมันร้องไห้โยเยพูดไม่รู้เรื่องวะ พูดอย่างเดียว กิ๊บไฟดับ บ้านไฟดับ ร้องไห้ด้วย” สัตว์ไอ้กิ๊บได้ทีล้อนะมึง
“ไม่รู้เหมือนกัน! แถวบ้านกูไม่มีใครเลี้ยงเด็กอ่อนซะด้วยซิ” ยิ่งคิดยิ่งอายตัวเอง
“หึ! สงสัยเมื่อกี้กูคงตาฝาด หูเพี้ยนไปเองนั้นแหละ! ไปๆเข้าบ้านไปอาบน้ำกันดีกว่า”ว่าแล้วมันจูงมือผมเข้ามาในบ้าน แต่เมื่อกี้ตอนมันบอกว่าไปอาบน้ำกันดีกว่า มันทำตาเจ้าชู้วิบวับใส่ผมด้วยอะ ผมเกลียด!!
“มึงไปอาบน้ำก่อนเลยไป สระผมด้วยเดี๋ยวไม่สบาย”มันลากผมขึ้นมาข้างบนเข้ามาในห้องปุ๊บมันก็ดันตัวผมมาที่ห้องน้ำ พร้อมกับส่งผ้าขนหนูมาให้อย่างเสร็จสรรพกันผมหนีอย่างแรง
“ไม่เอาอะ มึงเปียกกว่า มึงไปอาบก่อนไม่เป็นไรกูเสียสละให้!”ผมพยายามบ่ายเบี่ยงแบบว่ายังไม่พร้อมจะอาบน้ำนี่หว่า อยากเล่นหรือทำอะไรก่อน
“ไม่ต้องมาเสียสละให้กู รีบเข้าไปอาบน้ำสระหัวเดี๋ยวนี้”มันพูดและดันตัวผมเข้าไปอีก
“ไม่เอา!เมื่อตอนหัวค่ำกูอาบน้ำแล้ว เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อแล้วก็เช็ดผมให้แห้งก็ได้ละไม่เห็นต้องอาบน้ำใหม่เลย”ในเมื่อพูดดีๆไม่ด้วยไม่ได้ มันก็ต้องดื้อใส่เท่านั้น
“อย่ามาคิดอะไรโง่ๆนะ ไปอาบน้ำ มึงยิ่งขี้โรคๆอยู่หรือว่าจะให้กูอาบให้ เอาไหม”เท่านั้นแหละครับ ผมวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างเร็วเลยครับ ผมได้ยินเสียงมันหัวเราะตามหลังมาด้วย น้ำตอนกลางคืนนี่เย็นมากๆผมถึงรีบอาบน้ำให้เร็วที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้
“ฟอกสบู่ป่ะเนี้ย! อาบเร็วขนาดนี้อ่ะ” มันหันมามองผมตั้งหัวจรดเท้า
“ฟอกเหอะ พูดมากอยู่นั่นแหละ มึงรีบไปอาบน้ำแล้วกลับบ้านไปเลย” ผมพูดและรีบเดินมาใส่เสื้อผ้าเพราะหนาวมากไอ้กิ๊บมันกดเปิดแอร์เท่าไหร่วะเนี้ย มันที่นั่งเล่นคอมอยู่เดินมาชนผมไหล่เล่นเอาผมที่กำลังใส่กางเกงล้มไปนอนคว่ำบนเตียง
“เสียใจว่ะ คืนนี้กูนอนที่นี่กับมึง!”แล้วมันก็เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายใจ ส่วนผมนี่ก็เอ๋อไปตามระเบียบ ไม่ใช่ว่ามันไม่เคยมานอนที่นี่นะ ไอ้กิ๊บเคยมานอนมานอนบ่อยด้วยเวลามีบอลมันชอบมานั่งรวมกับเพื่อนๆไอ้ฟาวที่บ้านผม แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกันนะครับมันมานอนกับผมบนห้องของผมสองต่อสองภายในบ้าน เอาจริงๆผมเขินนะถ้าจะให้นอนกับไอ้กิ๊บสองคน ไอ้กิ๊บแม่งชอบทะลึ่งชอบแหย่ให้ผมเถียงกลับไม่ได้ ช่างมันเดี๋ยวค่อยหาทางคิดรับมือกับมัน แต่ตอนนี้ผมขอดูก่อนว่าเมื่อกี้มันเล่นเอ็มกับใคร ผมเลื่อนเมาส์ดูกลุ่มเพื่อนมันในเอ็ม มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น มันแบ่งเป็นสัดส่วนเลยครับ ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อน โอ๊ะ!มี Love ด้วย แต่ผมไม่ได้สนใจผมลองหาชื่อเมล์ผม ไม่มีอ่ะ แต่ผมมีเมล์มันนะ นี่มันไม่ตั้งผมอยู่ในกลุ่มเพื่อนของมันด้วยหรอวะ มึงจะมากไปแล้วนะ >< ผมหมั่นไส้มากเลยชักปลั๊กคอมออกหมดแล้วนอนดูทีวี สบายใจครับ
“ตุ๊ด!มึงจะนอนแล้วหรอ รีบนอนไปไหนวะเพิ่งจะสี่ทุ่มเอง”ไอ้กิ๊บที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จออกมาในสภาพที่ผมไม่กล้ามองเท่าไหร่ คือผ้าขนหนูผืนเดียว ทั้งที่ไอ้ฟาวมันก็ใส่แบบนี้ประจำ
“ใครจะไปเหมือนมึง พ่อมนุษย์กลางคืน คงต้องคุยกับสาวๆให้ครบทุกคนก่อนถึงจะนอนหลับฝันดีอะ”ผมไม่หันไปมองมัน ก็คนมันไม่กล้ามองนี่หว่า เห็นแวปๆ แอบคิดว่าทำไมมึงหุ่นดีอย่างนี้นะ
“ใครบอกกูรอคุยกับที่รักกูหรอก แต่กูว่าวันนี้เค้าคงไม่ออนแล้วแหละ”มันพูดบอก อ่อ..ที่แท้ก็รอคุยแฟน ใช่ๆเมื่อกี้ผมเห็นชื่อกลุ่มเพื่อนในเอ็มมัน มีชื่อนี้กลุ่มนี้ด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปดู
“หรอ! แต่เสียใจด้วยว่ะเมื่อกี้กูพลาดชักปลั๊กคอมออกหมดแล้ว ถ้าอยากจะเล่น ก็เปิดใหม่ได้น่ะ!” พูดเสร็จผมหันหัวกลับไปนอนเลยครับ แล้วเอาผ้าห่มคลุมโปงเลย เกลียดเห็นหน้ามัน
“ไม่เป็นไร วันนี้ที่รักกูเค้าคงไม่ออนแล้วแหละ!” ผมไม่ได้ตอบ ผมเห็นเสียงมันเงียบไปเลยเปิดห่มออกมาดู นึกว่าทำไรอยู่ ที่ไหนได้มันออกคุยโทรศัพท์ด้านนอก หน้างี้ยิ้มหน้าบาน มีความสุข ทีทำหน้าใส่ผมแต่ละทีนะเหมือนยักษ์ตลอด ผมเห็นว่ามันทำท่าจะวาง เลยแกล้งหลับครับเดี๋ยวมันจะหาว่าผมสนใจมัน
“ตุ๊ด!มึงไม่ร้อนรึไง ห่มผ้าหนาขนาดนี้แล้วยังคลุมโปงอีก”ผมรู้สึกได้ว่าเตียงมันยวบลง สงสัยมันมานั่งที่ปลายเตียงแล้วแน่เลย ผมนิ่งครับ คนหลับอยู่พูดไม่ได้
“ไม่ตอบ สงสัยมึงคงหลับแล้วใช่ไหม งั้นกูก็ต้องนอนดีกว่า”ผมรู้สึกเหมือนมีคนมาดึงผ้าห่มผมไป แล้วมันก็เข้ามานอนเบียดผมด้วย ไอ้ผมที่แกล้งหลับอยู่สติแทบกระเจิงเลยครับ แล้วมันก็คว้าผมเข้าไปกอดเต็มๆเลย ไอ้ควายเอ้ย!ทำไมมึงนอนไม่ใส่เสื้อเนี้ย
“ตุ๊ด!มึงไม่ต้องมาแกล้งหลับเลย กูรู้ว่ามึงยังไม่นอน”มันพูดที่ข้างหูผม แล้วก็จับผมพลิกตัวหันเข้ากับหน้าอกมัน ผมยังเนียนอยู่ครับ
“มึงใช้แป้งไรทาตัววะ ทำไมมันหอมแบบนี้อ่ะ”ไอ้นี่เริ่มลามปาม มันหอมแก้มผมอ่ะ ผมนี่ไม่ไหวแล้วครับตื่นเลย
“เชี้ย!มึงหอมแก้มกูทำไมเนี่ย ปล่อยเลยกูจะนอน”ผมโวยวาย
“ก็แก้มมึงนิ่ม น่าหอมจะตาย อีกอย่างแก้มมึงหอมมากด้วยอ่ะ”ยังไม่เลิกครับ มันยังหอมผมอยู่นั่นหอมเหมือนไม่เคยเจอ ไอ้ผมก็ดิ้นดิครับ แต่ไม่หลุดสักที ดีนะที่มันปิดไฟในห้องแล้ว เลยเห็นหน้าผมไม่ค่อยชัด แต่ยังมีแสงไฟมาจากห้องน้ำ จะเห็นก็แค่ลางๆแต่ผมว่ามันต้องรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังหน้าแดง
“ไอ้หัวหมา!กูจะนอน ไม่ต้องมายุ่งกับแก้มกูเลย!” ผมพูดและถีบมันเต็มแรงแต่ไอ้กิ๊บร่างควายเพราะมันไม่รู้สึกซ้ำยังรัดตัวให้แน่นขึ้นกว่าเดิมอีก
“มึงก็หยุดดิ้นสักทีดิ กูแค่หอมแก้มมึงเองนะ ไม่ได้ปล้ำมึงซะหน่อย”มันพูดและแก้มผมแรงๆอีกหนึ่งที
“เชี้ย! มึงหยุดหอมแก้มกูซักทีดิ แล้วก็ปล่อยกูด้วยไม่ต้องมากอด”ผมพูด
“โอเค! กูไม่หอมแก้มก็ได้ แต่คืนนี้กูจะนอนกอดมึง ไม่ต้องพูดมาก ไม่อย่างนั้นมึงโดนกูกินปากมึงแน่”นิ่งครับ ไม่ขยับเลย ไอ้เชี้ยกิ๊บไอ้สัตว์นรก ดูมันพูดแต่ละอย่างดิ
“ดีมาก พูดง่ายๆแบบนี้แหละดี เลี้ยงง่ายหน่อย”มันกระซิบพูดที่ข้างหูผมเบาๆ
“ใคร...”
“อย่านะ ห้ามพูดเถียงขึ้นมานะ ไม่งั้นกูกินปากมึงจริงๆด้วย นอนได้แล้ว ฝันดีนะครับ จุ๊บ”มันพูดและหอมที่ผากผมอีกหนึ่งทีก่อนจะกอดรัดผมให้แน่นขึ้น นี่มึงเห็นกูเป็นหมอนกอดหรือยังไงวะ ผมไม่อยากสู้กับมันให้เหนื่อย เพราะเริ่มง่วงมากแล้วด้วย เลยปล่อยเลยตามเลยครับ แต่พูดถึงมันก็อุ่นดีเหมือนมันนะเนี่ย
เมื่อเช้ากว่าจะพามันกันโรงเรียนได้นี่นานมากเพราะกว่าไอ้กิ๊บจะปลุกผมให้ตื่นนอนได้ก็นาน เมื่อเช้าผมโดนมันหอมแก้มเท่าที่นับได้ทั้งหมดสามทีแบบเน้นๆ ยังไม่รวมกับที่มันชอบลักเล็กขโมยน้อยบ่อยๆอีก คอยดูผมจะคิดเงินค่าหอมแก้มกับมัน แล้วกว่าผมจะอาบน้ำเสร็จก็ต้องใช้เวลาอีกปกติมีไอ้ฟาวคอยมาด่าแต่วันนี้มีไอ้กิ๊บด่าแรงกว่าไอ้ฟาวอีก ก่อนจะถึงโรงเรียนเกือบวางมวย เพราะมันนั่นแหละคนเดียวเลยเร่งอยู่ได้ ไม่รู้จะรีบไปไหน ผมหมั่นไส้เลยบอกให้มันไปก่อนผมค่อยตามไปทีหลัง มันเลยเงียบนั่งมองผมแต่งตัวแบบไม่ได้พูดอะไร แต่จ้องทุกอิริยาบถ รอจนผมแต่งเสร็จมันถึงลากผมมาโรงเรียนพร้อมกัน
“อ้าว!เฮ้ย ไอ้กิ๊บ เมื่อเช้าแม่มึงให้แดกรังแตนแทนข้าวหรอวะ ถึงมาหน้าหงิกงอแบบนี้เนี่ย”ไอ้ดีนเพื่อนมันนั่นแหละทักคนแรก
“สัตว์! เดี่ยวมึงจะได้แดกตีนกูแทนข้าว พูดมาก” ไอ้กิ๊บด่าพร้อมกับประทานฝ่าเท้างามๆไปที่หลังไอ้ดีนหนึ่งที สมน้ำหน้า ไอ้ดีนมองหน้าพวกผมสองคนแล้วยิ้มกรุ่มกริ่ม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้น่าหมั่นไส้มาก
“เหี้ย”ผมด่าพวกมันสองคนก่อนจะเดินนำหน้ามาทีแถวที่เดิมของเมื่อวาน และก็เหมือนเดิมเพราะประชาสัมพันธ์แม่งพูดมาก ทักทายกันอยู่ได้
“ประกาศ ตอนคาบ6ของวันนี้ ให้นักเรียนห้องม.6/10 และ ม.6/12 ประชุมพร้อมกันที่ห้อง 625 ด้วยคะ” เสียงผู้หญิงตัวแทนฝ่ายประชาสัมพันธ์พูดขึ้น สงสัยคงนัดกันแบ่งหน้าที่ของและฝ่ายแต่ละบุคคล เพราะสองอาทิตย์ก่อนหน้ากีฬาสีโรงเรียนผมเขาลดเวลาเรียนในแต่ละคาบให้น้อยลง เพราะเวลาตอนเย็นที่เหลือเอาไว้เข้าสี บางวิชาจึงเรียนบ้างและไม่เรียนบ้าง
“โอ๊ย ทำไมต้องประชุมตอนคาบบ่ายด้วยวะ กูว่าจะไปนอน” ผมบ่นแบบเซ็งๆบ่ายๆหลังจากกินข้าวเสร็จเป็นเวลาที่เหมาะกับการนอนมากที่สุด ไม่มีเวลาไหนเหมาะเท่าเวลานี้อีกแล้ว
“เป็นไร เมื่อคืนมึงไม่ได้นอนรึไง ถึงมาโรงเรียนหน้างอมาเชียว”ไอ้นัทหันมาถาม
“นอน แต่เมื่อเช้ามีมารมาทำให้ชีวิตกูหม่นหมอง เลยอารมณ์เสียนิดหน่อย”ผมตอบและเดินกอดคอไอ้นัทขึ้นห้อง
“มารที่มึงว่า ใช่คนที่ลากมึงโรงเรียนด้วยเมื่อเช้าใช่ไหม”ไอ้นัทถามอีกและเสือกยิ้มเจ้าเล่ห์แบบไอ้ดีนเมื่อกี้เป๊ะ
“ก็เออดิ แต่แม่งช่างมัน ไปเรียนดีกว่า เดี่ยวต้องมาคิดเรื่องกีฬาสีอีก”ผมพูด กีฬาโรงเรียนผมไม่ต่างกับการจัดงานวิชาใหญ่ๆเลย ดีไม่ดีจะยิ่งใหญ่กว่าวิชาการอีก
แต่ละคาบของวันนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วอาจารย์บางวิชาเข้ามาเช็คชื่อนักเรียนแล้วก็ออกเพราะจะสอนอะไรก็ไม่ทันไอ้พวกผมก็สบายซิครับไม่ต้องนิ จะได้มีเวลามาคิดเรื่องกีฬาสีด้วย กีฬาสีถือเป็นงานที่เด็กๆเกือบทุกคนรอคอยโดยเฉพาะพวกรุ่นพี่แบบพวกผมเพราะจะได้โชว์พาวเต็มที และที่สำคัญปีนี้พวกผมกะว่าจะคว้าเจ้าเหรียญทองเพื่อเป็นการอำลาม.6
“ทำไมต้องไปประชุมห้องพวกมันด้วยว่ะ”ผมพูดเซ็งๆ
“เออ น่าจะให้พวกมันมาประชุมห้องพวกเรา”ไอ้นัทที่กำลังใช้ความคิดในการคำนวณคนที่จะขึ้นไปบนอัฒจันทร์ พูดขึ้นมา
“เหอะ มึงก็เห็นว่าเมื่อเช้าอีฝ้ายเป็นคนประกาศ ไม่ใช้พวกห้องเรา”ไอ้แป้งที่นั่งหน้าหงิกไม่ต่างกับพวกผมพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ
“ เอาหน่า มึงถือซะว่าพวกเราไปทำงานละกัน แต่ละคนก็ใจเย็นๆหน่อยล่ะ”ไอ้หมูตอนนี้ที่กำลังเตรียมตัวเดินไปห้องนู้นก็เริ่มเรียกผมพวกผมให้ไปพร้อมๆกัน ไม่ใช่ว่าผมขี้เกียจเดินอะไรมากหรอกนะเพราะห้องก็ใกล้กันห่างกันแค่ไม่กี่คน แต่ที่ไม่อยากไปเพราะไม่อยากเข้าห้องพวกมันต่างหาก เหมือนๆกับที่พวกมันก็ไม่ได้อยากเข้าห้องพวกผมซักเท่าไหร่ มันเป็นแบบนี้กันมาตั้งแต่รุ่นพี่ที่ห้องคิงกับห้องคิงจะไม่ค่อยกินเส้นกัน
ผมเดินมาที่ห้องไอ้กิ๊บที่ตอนนี้มีคนอยู่เกือบเต็ม เพราะบางคนก็ไปหาห้องน้องที่อยู่สีเดียวกับพวกผมด้วย แต่ก็นะที่นั่งไม่มีอะเก้าอี้เต็มหมดต้องไปนั่งเบียดสามคน ผมเลยคิดว่ากูยืนดีกว่า พูดก็พูดเหอะตั้งแต่เดินเข้าห้องมาผมยังไม่เห็นไอ้กิ๊บเลยนะ ไอ้ดีนก็อยู่ในห้องนี่หว่า ตอนนี้ไอ้ดีนกับไอ้นัทหยุดสงครามประสาทกันชั่วคราวเพรามันสองตัวเก่งคำควณและออกแบบด้วยกันทั้งคู่เขาเลยให้มันอยู่ฝ่ายเดียวกันเป็นฝ่ายจัดแต่งอัฒจรรย์ เห็นไอ้ดีนหน้าหม้อปากหมาแบบนี้พอมันเอาการเอางานขึ้นมาก็ใช้ได้เลยนะ แทบจะเป็นคนละคนดูมันจริงจังกับการวาดรูปของมันมาก ผมที่กำลังว่างเพราะไม่ต้องทำอะไร นอกจากเป็นนักกีฬาเตรียมตัวซ้อมอย่างเดียวเลยไม่จะทำอะไรจะเดินกลับห้องไปก็ไม่ได้ด้วย
“ไอ้ดีน เหี้ยกิ๊บไปไหนเนี่ย”ไอ้ที่วิทย์หัวหน้าห้องมันตะโกนถาม
“ไอ้กิ๊บอยู่หน้าห้อง คุยกับรุ่นน้องอยู่ มึงออกไปดูดิ”ไอ้ดีนตะโกนตอบ ไอ้วิทย์เลยเดินออกไปด้านนอกก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมกับไอ้กิ๊บ
“ไอ้กิ๊บ มึงเป็นคนคัดเลือกนักกีฬาบอล กับบาสนะ”ไอ้วิทย์บอก มันก็ตอบรับอืมๆก่อนจะเดินมาลากผมให้มานั่งที่หลังห้องกับมัน ตอนแรกผมก็สะบัดมือมันออก มันเลยหันมามองหน้าแบบโหดๆก่อนจะก็ออกแรงลากผมอีกครั้ง ครั้งนี้ผมเลยต้องเดินตามมันไปดีๆครับ ส่วนที่ที่มันลากมานั่งกับมันด้วยมีเก้าอี้ตัวเดียว ผมเลยหันไปมองหน้า ไอ้กิ๊บยิ้มก่อนจะนั่งแล้วดึงผมลงไปนั่งตักและรัดกอดเอวผมไว้หลวมๆเหมือนกันผมหนี
“มาตั้งนานแล้วหรอ”มันถามเบาๆและเอาคางวางบนไหล่ผม
“เออ!” ผมตอบและทำตัวนิ่งๆเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ
“น้องเขาเอาขนมมาให้เฉยๆ” ไอ้กิ๊บพูดอีกพร้อมกับยื่นกล่องขนมป็อกกี้สีชมพูมาให้ แต่ผมนิ่งแกล้งไม่รับเพราะไม่อยากรับ
“ไม่ได้ชอบน้องเขาด้วย ก็แค่คุยไปตามมารยาท”มันพูดต่ออีกเมื่อห็นผมเงียบไม่สวนหรือเถียงอะไรออกมา ผมนั่งนิ่งจนรู้สึกตัวว่าอะไรมาหยุกหยิกที่คอ พอขยับตัวดูอีกทีเลยรู้ว่าเป็นอะไรไอ้กิ๊บมันกำลังซุกหน้าเข้าที่ซอกคอ มันจูบเบาๆให้ผมสะดุ้งเล่น
“แล้วไงมาบอกทำไม กูไม่เห็นอยากรู้เลย”ผมพูดและเบี่ยงตัวหลบปากไอ้กิ๊บเล็กน้อย
“เออดิ มึงไม่เคยสนใจกูอยู่แล้วนิ”ไอ้กิ๊บพูดเหมือนงอนๆ
“เหี้ย เลิกทำน้ำเสียงแบบนั้นด้วย เอาขนมเมื่อกี้มา กูจะกิน”ผมพูดและหันกลับไปแบมือทวงขนมจากมัน ไอ้กิ๊บยกยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ก่อนจะหยิบกล่องป็อกกี้มาตีปากผมเบาๆและก้มหน้าลงมาจนชิดเหมือนจะหอมแก้มผมยังไงยังงั้นแหละ ผมเอนหน้าหนีแทบไม่ทัน
“อะแฮ่ม! ผัวเมียด้านหลังห้องครับ ผมขอขัดจังหวะแปบนึงได้ไหมครับ”เสียงไอ้หมูแทรกขึ้น ทั้งห้องถึงกับเฮลั่นห้องกันเลยทีเดียวกะแซวให้กูอายเลยนะ ผมหน้างอมองหน้าไอ้กิ๊บแบบเจ็บใจเพราะมันคนเดียวทำผมโดนโห่ แต่เหมือนจะยิ่งโห่ไอ้กิ๊บยิ่งชอบใจ นั่งยิ้มและยักคิ้วกวนตีนให้เพื่อนๆมัน
“มึงมีไร” ไอ้กิ๊บถาม ส่วนผมนะหรอขอกินอย่างเดียวดีกว่า
“คือผมจะบอกว่า ไอ้ฟาร์ปีนี้มึงลงเล่นสองกีฬานะ”ไอ้หมูพูด ผมรีบเงยหน้ามองหน้าไอ้หมูทันที อะไรของมันวะเหี้ยหมูก็รู้ว่าผมชอบเล่นบาสอย่างเดียว กีฬาอย่างอื่นผมก็เล่นแต่ไม่ค่อยลงแข่งเพราะเล่นไม่จริงจังอะไร
“อะไรวะ กูจะเล่นบาสอย่างเดียว ขี้เกียจเล่นสองอย่าง”ผมโวยวาย มองหน้าไอ้กิ๊บแบบไม่ยอม
“หึหึ เสียใจครับเพื่อน ปีนี้กูจะให้มึงลงเล่นแฮนด์บอลด้วย เพราะปีนี้ไอ้ดี้คู่ปรับเก่ามึงลงเล่นแฮนด์”ไอ้หมูบอก ผมใจเต้นแรงรู้สึกเนื้อเต้นขึ้นมาทันที ไอ้ดี้ที่ไอ้หมูพูดถึงมันเป็นศัตรูตัวจี๊ดของผมเอง เพราะถ้ามันกับผมเจอกันในสนามเมื่อไหร่เป็นอันว่าได้เรื่องครับ ปีที่แล้วผมก็เจอกับมัน แต่สีผมแพ้ปีนี้กูเลยต้องเอาคืนทั้งบาสและแฮนด์บอล
“เออ!งั้นกูลง ไอ้นัทมึงจะลงกับกูไหม”ผมหันไปถามไอ้นัทที่นั่งทำงานอยู่ที่พื้น
“ไม่ได้! กูไม่ให้มึงเล่นแฮนด์ มึงยิ่งเป็นหอบอยู่ ไอ้หมูมึงไม่ต้องใส่ชื่อฟาร์ฮัทลงไป”เสียงตัวเหี้ยสั่ง สั่งไอ้หมูเสร็จก็หันกลับมาด่าผมอีก แต่มีรึคนอย่างผมจะฟัง ไอ้หมูมันพวกใครให้มันรู้ซะมั้ง ไอ้ดี้ปีนี้มึงเจอกูแน่ กูจะเอาหายให้แค้นกันไปข้างนึงเลย
“โอเค! งั้นตกลงตามนี้ล่ะกาน เจออีกทีตอนคาบเก้านะ”พอตกลงกันเสร็จ พวกผมก็เริ่มทยอยกันกลับห้องเพื่อไปเรียนกันต่อ ส่วนพวกห้องไอ้กิ๊บมีเรียนพละมั้งเห็นลงไปที่สนามบาสกัน
“มึงปล่อยกูได้ละ กูจะกลับห้องไปเรียนแล้ว มึงก็ต้องไปเรียน”ผมพูดและพยายามแกะมือไอ้กิ๊บออกจากเอว
“รีบไปไหน ห้องกูเรียนพละส่วนห้องมึงก็เรียนศิลปะ อาจารย์ไม่สอนอยู่แล้ว นั่งกับกูอยู่ในห้องนี่แหละ”ไอ้กิ๊บพูดและหอมแก้มแรงๆ
“อื้อ เจ็บนะไอ้เชี้ยนี่ คอยดูคราวหลังกูจะเงินค่ามึงหอมแก้มหรือก็แล้วแต่มาหอม คราวนี้กูรวยแน่”ผมพูดพร้อมกับจับแก้มตัวเองลูบไปมา ไอ้กิ๊บยิ้มก่อนจะตีหน้าเข้ม
“ทำไม! มีใครกล้าดีมาหอมแก้มมึงนอกจากกูอีก ตอบดีๆนะ ไอ้ตุ๊ด!” น้ำเสียงและท่าทีเปลี่นเป็นซาตานทันที ใครจะกล้ามาหอมกูแก้มกูวะ ลองมาหอมดิไม่โดนกูชกหน้ากลับไม่ต้องมาเรียกกูว่าฟาร์ฮัทเลย ท่าจะมีก็มีแต่ไอ้กิ๊บคนเดียวนี่แหละ ทั้งกอดทั้งหอมเหมือนผมเป็นสิ่งของของมัน
“ก็แฟนกูไง ไม่เห็นแปลกเลย”ผมพูด ไอ้กิ๊บอมยิ้มและหัวเราะเบาๆ
“มีแฟนด้วย งั้นมึงก็เตรียมรับตังค์ได้เลยเพราะแฟนมึงคงหอมแก้มมึงบ่อยมากแน่ๆ เพราะแก้มมึงหอมโคตร ”มันพูดและหอมหอมแก้มแกล้งผมอีก คราวนี้มันกดปลายจมูกลงซะเต็มแรง ผมเจ็บนะถ้ามีแบบนี้อีกครั้งผมจะตบหน้ามันคืนเลยคอยดู
“รู้ดี แฟนกูรึไง”ผมย้อนถามแบบไม่คิด
“อยากจะเป็นไหมล่ะ” ไอ้กิ๊บยิ้มถาม มันอมยิ้มแบบมีเลศนัยได้อีก
“เหอะ ด่ากูแรงขนาดนี้กูคงยอมเป็นแฟนด้วยหรอกนะ ชอบตะคอกใส่พูดเสียงดัง ตามใจกูสักครั้งเหมือนที่มึงตามใจคนอื่นนะเคยทำบ้างไหม คุยคนอื่นมึงยิ้มหน้าบานแต่คุยกับกูมึงทำหน้าบึ้งใส่ไม่ก็ตะคอกใส่หน้ากูแรงๆ นิสัยไม่ดี ลำเอียง หึ!” ปากผมแบบไปเองโดยอัตโนมัติเหมือนน็อตหลุด พูดพรูออกทำเอาทั้งผมและไอ้กิ๊บอึ้งไปตามๆกัน
“พูดแบบนี้ไม่ชอบให้แตกต่าง อยากมีสิทธิ์เท่ากับคนอื่นรึไง”มันย้อนถามเสียงนิ่งได้อีก
“มึงชอบไหมเวลาที่กูทำอะไรให้มึงและก็ทำแบบนั้นกับคนอื่นเหมือนกัน ชอบรึไง มึงไม่ชอบรึไงเวลาที่กูทำอะไรให้มึงแค่คนเดียว แสดงออกกับมึงแค่คนเดียว ห่วงมึงแค่คนเดียว”มันพูดถาม
“ ถ้าสิ่งที่กูทำกับมึงมันทำให้มึงไม่พอใจ กูเปลี่ยนให้ก็ได้ กูทำแบบไหนกับมึงกูก็จะทำแบบนั้นกับคนอื่นเหมือนกัน โอเคไหม”มันพูดอีกก่อนจะคลายมือออกเอวผม
“ ”ผมเงียบ พูดไม่ออก ผมก็แค่หมั่นไส้เวลาเห็นมันพูดเพราะๆกับคนอื่นแต่ผมกับผมมันใช้น้ำเสียงห้วนเหมือนหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา 17-18 ที่รู้จักกันมาไอ้กิ๊บพูดดีกับผมแทบจะนับครั้งได้
“ไม่เอา ไม่ให้ทำ”ผมก้มหน้าพูดเสียงเบา
“มึงห้ามกับกูเหมือนที่มึงทำกับคนอื่นและห้ามทำกับคนอื่นเหมือนที่กับกูด้วย”ผมพูดอีก อยากจะกัดลิ้นตัวเองเหมือนกันนะทีพูดแบบนั้นออกไปแต่ถ้าไม่พูดไอ้กิ๊บก็ต้องทำแบบที่ปากมันพูดแน่และถ้าเป็นแบบนั้นผมคงต้องหงุดหงิดและรำคาญตัวเองมากแน่ๆ
“หึหึ แล้วเมื่อกี้ทำมาโวยวาย พอจะเปลี่ยนให้เหมือนคนอื่นก็ไม่เอาอีก” มันพูดและหลุดหัวเราะเบาๆออกมา
“แล้วไงล่ะ ปากกูมันไปเอง บังคับได้ที่ไหน”ผมพูดและก้มหน้าหนีปลายจมูกโด่งของไอ้กิ๊บที่อยู่ใกล้บริเวณผิวแก้มผมมาก
“งั้นกูทำกับมึงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนะ”มันบอก ผมก็พยักหน้าตอบ
“แต่ถ้าเหมือนเดิมแล้วมึงไม่พอใจกูอีกอะ เพราะกูก็จะไม่ตามใจมึงเหมือนเดิมนะ”มันถามซ้ำเหมือนย้ำให้ผมคิดดีๆ
“หมายความว่าไงวะ พูดมากอยู่ได้ แล้วแต่มึงเหอะอยากจะทำแบบไหนกับกูก็ทำเหอะ อยากจะกอดหรือหอมแก้มกับใครก็ทำแม่งเลยไม่ต้องมาบอกไม่ต้องมาถามกูด้วย ไม่อยากรู้เว้ย!”ผมฟิวส์ขาด สติแตกไปเรียบร้อยแล้ว
“หึหึ ขี้หงุดหงิด ขี้โวยวาย โคตรจะไม่น่ารักเลยมึงอ่ะ” ไอ้กิ๊บพูด ผมจากที่โกรธอยู่แล้วก็โมโหขึ้นกว่าเดิมอีก กูไม่น่ารักแล้วมึงมายุ่งกับกูก่อนทำไมล่ะ >,<
“แต่กูชอบนะ ชอบที่มึงเป็นแบบเนี่ย แกล้งแล้วขึ้นง่ายดี หยอกนิดหยอกหน่อยก็โวยวาย หึหึ”ผมที่กำลังอ้าปากจะด่ากลับเป็นอันว่าต้องนิ่ง นั่งฟังมันพูดเงียบๆรู้สึกหูร้อนขึ้นมาทันที รู้สึกชอบกับคำพูดเมื่อกี้ของไอ้กิ๊บยังไงก็ไม่รู้
“อืม! งั้นก็ปล่อยกูได้แล้ว สายแล้วอาจารย์เข้าแล้วมั้ง”ผมพูดและยืนขึ้นเพื่อจะหันไปเรียกไอ้นัทที่ผมคิดว่ามันยังนั่งอยู่ที่พื้นกับไอ้ดีน แต่ปรากฏว่ามันไม่อยู่แล้ว ไปไหนอะไรยังไงวะครับเพื่อน
“ไอ้ดีนลากออกไปตั้งนานแล้ว” ไอ้กิ๊บพูดขึ้น มึงเห็นแล้วทำไมกูเห็นล่ะกิ๊บ
“ห๊ะ ตั้งแต่ตอนไหน เมื่อไร ยังไง ทำไมกูไม่เห็น”ผมรีบถามรัว ตกใจซิครับไอ้นัทไปกับไอ้ดีน หึหึ
“นานแล้วส่วนที่มึงไม่เห็นเพราะตอนนั้นมึงกำลังนั่งเขินกูอยู่ สบายใจเหอะหน่า ไอ้ดีนมันไม่ทำอะไรเพื่อนมึงหรอก ถึงมันอยากจะทำมากแค่ไหนก็ตาม”ไอ้กิ๊บพูดมันทำให้ผมยิ่งสงสัยขึ้นเป็นเท่าตัว
“หมายความว่าไง ไอ้ดีนคิดไรกับไอ้นัท!” ผมเดินเข้าจับแขนไอ้กิ๊บแล้วถามทันที ไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่ผมคิดมันจะเป็นจริง แต่ก็ไม่น่าจะแปลกเพราะไอ้ดีนมันก็แสดงออกมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าจีบไอ้นัท แต่ไอ้นัทนี่ซิไหนมึงบอกว่าไม่ชอบมันไง ไหงยอมไปกับไอ้ดีนได้วะ ฟาร์งงนะ =_=
“ทำไม หึงหรือไง!” อ้าวไอ้บ้า ตะโกนใส่หน้ากูทำไมเนี่ย
“อย่ามาบ้าคิดอะไรโง่ๆแบบเมื่อวานอีกนะ คิดอะไรแต่ละอย่างเอาให้มันเป็นไปได้หน่อย” ผมว่าและเดินหนีมันเพื่อจะกลับห้องไปเรียน แต่เดินได้แค่สองก้าวผมก็โดนมือปลาหมึกมาดึงแขนกลับพอจะอ้าปากอีกก็โดนมันปิดปากด้วยปากของมันเอง เอิ่ม~~ ไอ้เหี้ยกิ๊บ!!
มันจูบผมครับจูบแบบไม่ทันตั้งตัวด้วยกระชากมาปุ๊บก็จูบปั๊บ ละครมากไอ้สัตว์กูเจ็บแขนนะ ผมถึงยืนนิ่งอึ้งอยู่นานกว่าจะเริ่มขัดขืนและจูบตอบมันเมื่อรู้สึกเคลิ้มกับจูบหนักๆของไอ้กิ๊บแบบนี้ เราไม่เคยจูบแบบเป็นจริงจังกันขนาดนี้มากสุดไอ้กิ๊บแค่แกล้งจุ๊บปากผมเบาๆ ซึ่งมีก็ไม่บ่อยนักเรียกว่านานๆครั้งเห็นจะได้ ในสมองผมตอนนี้กำลังตีรวนใจนึงอยากจะผลักหน้ามันออกแต่อีกใจกลับไม่คิดอย่างนั้นปล่อยให้เลยตามเลยยอมให้จูบต่อไปเรื่อยๆ มันโอบเอวผมไว้หลวมๆกันไม่ให้ผมล้มไปนั่งกับพื้น เหมือนไปตามอารมณ์เพราะตอนนี้มือทั้งสองข้างของผมก็กอดคอมันไว้แล้วเช่นกันเพราะผมตัวเตี้ยกว่ามันมากเลยต้องเขย่งยืดตัวเล็กน้อย ไอ้กิ๊บร้องครางสั่นผมเบาๆให้อ้าปากเพื่อที่มันจะได้ส่งลิ้นเข้ามาฉกชิมเล่นลิ้นในปากผม กิ๊บแกล้งดูดลิ้นผมแรงๆทำเอาผมตกใจสะดุ้ง แรงจะยืนก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วครับ โดนทำแบบนี้ครั้งแรกทำไมมึงไม่ถนอมกูเลยวะ มันค่อยๆพาผมเดินไปไหนไม่รู้ครับ สมองเบลอไม่รับรู้อะไรแล้ว ปากนัวเนียกันอยู่ไม่ห่างแม้แต่วินานทีเดียว ผมมาสะดุ้งและรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่หลังสัมผัสได้กับความเย็นของผนังหลังห้อง มันจับผมยืนพิงผนังห้องไว้ก่อนจะก้มลงมาจูบปากกับผมอีกครั้ง ยิ่งมันจูบผมก็ยิ่งต้องการ ยิ่งชอบ รู้สึกเหมือนอยากครอบครอง เป็นความรู้สึกที่หน้ากลัวมากเลยนะสำหรับผมเพราะผมไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้สักคน จูบกันอยู่สักพักไอ้กิ๊บเริ่มลามปามมันเอามือลวงเข้าไปในเสื้อนักเรียนผมก่อนจะลูบเบาๆไล่ขึ้นไปถึงยอดอก ผมตกใจมากรีบเอามือมาจับมือมันไว้ไม่ให้มันเล่นต่อ
“อื้อ ไม่เอา อย่าเล่นตรงนั้น” ผมพยามยามพูดแล้ว แต่เพราะไอ้กิ๊บเล่นไม่ปล่อยปากผมเลยจะพูดแต่ละทีเลยยากลำบากมาก มันละริมฝีปากออกจากปากเล็กน้อยก่อนจะค่อยไล่ๆปากบางๆของมันลงมาที่ต้นคอแล้วดูดเม้มอยู่นาน
“อื้อ กิ๊บ พอได้แล้ว เดี๋ยว อ๊ะ คนมาเห็น”ผมพูดอย่างอยากลำบาก และกว่ามันจะยอมทำตามที่บอกอีก เล่นเอาผมเกือบเสียตัวกับมันที่โรงเรียน ทำไมมึงหื่นได้น่ากลัวขนาดนี้วะ ดีนะที่ในห้องไม่มีคนอยู่แล้วห้องเรียนมันก็อยู่ริมสุดตรงมุมพอดี เลยไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมา
“หึหึ นี่ไงสิ่งที่กูคิดแล้วก็เป็นไปได้ด้วย”มันเผยปากออกแล้วพูดบอกและจุ๊บปากผมเบาๆเป็นการส่งท้าย
“แฮกๆ มึงกะจะฆ่ากูให้ตายรึไง ไปอดอยากมาจากไหน ห๊ะ ไอ้เหี้ยแม่ง!”ผมด่าและเกาะไหล่มันเพื่อเป็นที่ยึด เรี่ยวแรงตอนนี้หายไปหมดแล้วขาอ่อนมาก เสื้อนักเรียนผมที่ถูกดึงหลุดออกมานอกกางเกงเมื่อกี้ ไอ้ตัวต้นเหตุมันจัดการให้อยู่ในสภาพเดิมเรียบร้อยแล้ว
“ปากดีขนาดนี้เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปเรียนหรอก เดินไหวไหมเนี่ย”มันถามและช่วยพยุงผมมานั่งที่โต๊ะ
“นังพักแปบ ขอกระจกหน่อยดิ”ผมพูดและฟุบหน้าลงกับโต๊ะเหมือนพักเอาแรง เหนื่อยโคตรอ่ะโดนครั้งแรกไอ้กิ๊บก็จัดให้ผมซะแล้ว กะใช้ทีเดียวคุ้ม
“ไม่ต้องใช้กระจกหรอก กูบอกให้ก็ได้ ว่ามันเป็นรอย”ไอ้กิ๊บบอกเหมือนรู้ว่าผมจะเอากระจกมาทำอะไร ผมนึกอยากข่วนหน้ามันขึ้นมาจริงๆ ทำอะไรไม่รู้จักคิด เห็นว่ายอมเข้าหน่อยเอาใหญ่
“มึงนะไอ้เลว คราวหลังไม่ต้องมาเข้าใกล้กูเลยนะ กูไม่ให้แล้วด้วย เดี๋ยวถ้ามีคนมาแซวกูนะมึงโดนแน่”
“ไม่มีหรอกน่า ถึงมีคนเห็นเค้าก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ” มันยิ้มตอบแบบสบายชิลๆ
“แม่ง!กูจะไปเรียนแล้ว”ผมพูดและลุกขึ้น หมั่นไส้รอยยิ้มของไอ้กิ๊บจริงๆ มันเดินจูงมือพาผมเดินมาส่งที่ห้อง คนนี่มองตลอดทาง ไอ้กิ๊บไม่สนหรอกครับ ผิดกับผมที่ยังหน้าแดงไม่หายและก็ต้องมาแดงเพิ่มเพราะสายตามกรุ่มกริ่มของคนที่มองมากันอีก
“คาบ9เจอกันที่สนามบาสนะ ต้องให้กูมารับด้วยรึเปล่า”ไอ้กิ๊บถามระหว่างเดินเข้ามาส่งผมในห้อง คาบนี้เป็นคาบว่างอาจารย์ไม่เข้าสอน
“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูไปกับไอ้นัทเอง มึงไปได้แล้ว”ผมพูด มันเอื้อมมือมาบีบจมูกผมอีกครั้งก่อนจะเดินกลับห้องมันไป ผมตะโกนด่าตามหลัง มันเลยหันมายักคิ้วกวนตีนให้ ผมเดินเข้ามาในไอ้นัทที่กำลังนั่งอ่านการ์ตูนอยู่หลังห้อง
“ไอ้นัท มึงไปไหนกับไอ้ดีนมา”ผมจ้องหน้าถามมัน
“ไปกินไอศกรีมที่โรงอาหารมา”ไอ้นัทตอบเรียบ แล้วทำไมมึงต้องหน้าแดงด้วย
“แน่ใจว่าแค่กินไอศกรีม ทำไมมึงต้องหน้าแดงด้วย กินไอศกรีมมาแล้วร้อนรึไง”ผมถามอีก
“หน้ากูแดงขนาดนั้นเลยหรอวะ”มันถามจับหน้าตัวเอง
“เออดิ หน้าแดงแบบนี้แสดงว่าต้องมีอะไรมากกว่ากินไอศกรีม บอกกูมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย”ผมรีบถามอย่างจับผิด ไอ้นัทหน้าเหวอหันหน้าหนีมือผมทันที แสดงว่าต้องมีแน่ๆ ฉะนั้นผมต้องรู้ให้ได้
“ไม่มีไรเว้ย กินไอศกรีมอย่างเดียวบ้างเหอะ ไม่ใช่มึงที่ทำกันจนมีหลักฐานของมาโชว์”ผมที่โดนย้อนกลับถึงกับเหวอรีบดึงปกเสื้อขึ้นมาปิดคอ แม่งเกลียดไอ้คนทำจริงๆ ไอ้นัทหัวเราะเหมือนซะใจที่ย้อนกลับผมได้
อื้อ หื้อ เด็กมาจากไหนเยอะแยะวะเนี่ย ทั้งสนามหญ้าและก็สนามบาสคนเต็มมากอ่ะ แทบจะไม่มีที่ให้เดินกันเลยทีเดียว เพราะทุกคนก็มาเข้าสี สีแดงของผมได้บริเวณอาคาร9ครับ ส่วนฟังตรงข้ามของอาคาร9คือ ฝังอาคาร8เป็นส่วนของสีน้ำเงิน หน้าอาคารหนึ่งนี่ของสีฟ้า สีเหลือยู่ตรงบริเวณโรงอาหารอาคาร5 สีเขียวอยู่โรงอาหารอาคาร11 ส่วนสีชมพูไกลสุด หน้าอาคาร4 ส่วนในสนามหญ้าเอาไว้คัดตัวนักกีฬา ที่สนามบาสก็เหมือนกัน แต่วันนี้เพิ่งเข้าสีวันแรกเลยยังไม่มีการคัดเลือกอะไร แค่สมัครอย่างเดียว ตอนนี้ผมมาอยู่สนามบาส ผมเดินมาดูพวกนักกีฬาสีผมที่ตอนนี้รวมตัวกันที่สนามบาส
“เฮ้ย!ๆ ไอ้ฟาร์ ไอ้นัททางนี้ มาเร็วๆ” เสียงไอ้หมูกระโดดตะโกนเรียกพวกผมอยู่กลางสนามโน่น
“ไง!ตุ๊ด ตัวกูจะทิ่มตามึงอยู่ละ ทักกูบ้างเหอะ” ไอ้กิ๊บครับ ปากดีจริงๆ
“ ไม่อยากทัก ไม่อยากมอง รกลูกกะตา น่าเบื่อ”ผมลอยหน้าลอยตาบอกเลยโดนไอ้กิ๊บบิดแก้มเข้าให้
“พูดจาปากดี กวนสนตีน เดี๋ยวโดน”มันพูดขู่ แต่ผมไม่กลัวแลบลิ้นกลับไปให้ซะเลย
“กลัวมึงตายอะ กล้าทำกูก็เอาดิ”ผมพูด
“ปากดี ทำจริงมีเด็กแถวนี้มันร้องแน่ ตุ๊ดเอ๊ย!” ผมยืนนิ่งกำลังอึ้งกับคำพูดของมันเมื่อกี้ จะด่ามันกลับก็ด่าไม่ทันละ มันวิ่งลงไปสนามโน่นแล้ว ผมเลยไม่รอช้ารีบวิ่งตามไอ้กิ๊บลงไปในสนามเหมือนกัน
“เฮ้ย!ๆ หลบเว้ยนักบาสคนเก่งของเรามาแล้ว” เสียงของสัตว์อันไม่พึ่งประสงค์ มันพูดแขวะทันทีที่ผมเข้ามาเล่นรวมทีม
ความคิดเห็น