คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : [[ It's over ]]: C T 17 // Up
1.00 น.
สองชั่วโมงแล้วที่ผมขับรถวนไปวนมาอยู่บนถนน เลี้ยวไปทางซ้ายได้ไม่ทันไรก็กลับรถมาทางขวา ขับวนไปวนมาจนผมกลัวว่าพวงมาลัยจะหักเข้าให้ แต่ท้ายที่สุดรถคันโปรดของผมก็กลับมาจอดหน้าคอนโดคนๆ คนหนึ่งเข้าซะได้
ผมไม่ได้ไปหาคริสตัลกับแทมินที่ร้านตามคำบอกของแอลเพราะไม่อยากให้สิ่งที่เซฮุนกับลู่ฮานพูดเป็นจริง ผมไม่ได้รักเธอเพราะฉะนั้นจะหึงได้ยังไง อย่างไรก็ตามผมก็ไม่เข้าตัวเองเท่าไหร่นักเพราะตอนนี้ขาทั้งสองข้างมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องคริสตัลซะแล้ว
เธอกลับมานอนห้องตัวเองตั้งแต่กลับมาจากฮ่องกงแล้วแต่ของของคริสตัลก็ยังคงอยู่ที่บ้านผม เธอยังไม่ได้ไปเหยียบที่นู้นเลยตั้งแต่เราเลิกกัน
กึก
หลังจากวางคีย์การ์ดเสียงปลดล็อคบานประตูดังขึ้นเป็นสัญญาณบ่งบอกให้ผมเข้าไปได้ มันเป็นโชคดีของผมที่ช่วงแรกๆ ตอนเราคบกันผมแอบขโมยคีย์การ์ดเธอไปให้ร้านคัดลอกโดยที่คริสตัลไม่รู้ตัวเลยสักนิด
ก็ถ้าเธอรู้ผมคงไม่มีชีวิตมาถึงวันนี้...
“!!!”
ผมกับคนที่ยืนกึ่งเปลือยอยู่ในห้องรับแขกสบตากันตาโตด้วยความตกใจ
เฮ้ย! นี่มันตีหนึ่งแล้วทำไมมันยังมาอยู่นี่อีก แถมยังถอดเสื้อเปลือยอกอีกด้วย
“ไอ้ไค/ไอ้แทม” ผมกับแทมินเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายขึ้นพร้อมกัน ผมมองมันด้วยสายตางุนงงปนตกใจเช่นเดียวกับแทมิน
“แทมิน ฉันมีแต่เสื้อยืดสีขะ...” คริสตัลที่เพิ่งออกมาจากทางห้องนอนหยุดพูดกะทันหันเมื่อเห็นผมยืนอยู่ในห้องนี้ด้วย “นะ นาย...”
“ไอ้ไค แกเข้ามาได้ไงวะ” แทมินถามผมด้วยน้ำเสียงสงสัยพลางขมวดคิ้วและหรี่ตาจับผิด
“เรื่องของฉัน” ผมบอกอย่างหงุดหงิดและยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อคิดว่าตัวเองไม่มีเหตุผลอะไรให้มายืนอยู่ตรงนี้
ห้องของแฟนเก่า...ผมมาทำไม ?
ผมมองคริสตัลและเพื่อนสนิทตัวเองสลับกันไปมา ชุดเดรสสีเนื้อสั้นเหนือเข่าขึ้นไปเกือบคืบที่ร่างบางสวมใส่อยู่มันช่างอวดเรือนร่างเธอได้เป็นอย่างดีส่วนร่างสูงที่สวมกางเกงยีนส์สีเข้มอยู่ตัวเดียวมันทำให้ผมรู้สึกเดือดปุดๆ อยู่ในอกจนไม่รู้ว่าควรจะทำหน้ายังไงออกไป
“แฟนเก่ามาหาน่ะค่ะ” คริสตัลบอกด้วยใบหน้าเรียบเฉยขณะที่เดินเข้าไปยืนข้างๆ แทมินแล้วยื่นเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ให้
แทมินไม่ได้ตอบอะไรนอกจากพยักหน้าอย่างเข้าใจ ถ้าให้เดาคริสตัลคงเล่าเรื่องที่เราสองเคยคบกันให้แทมินฟังแล้วล่ะ
“มีอะไรหรือเปล่า ฉันจำได้ว่าตัวเองไม่ได้นัดนายนะ”
“...” ผมเงียบเพราะไม่รู้จะยกเหตุผลไหนมาอ้างดี ถ้าหากในห้องนี้มีแค่คริสตัลอย่างที่นึกไว้ในตอนแรก ผมคงไม่รู้สึกหนักปากแบบนี้ แต่นี่...แทมินเองก็กำลังยืนมองผมด้วยแววตาจับผิด เชื่อสิว่าเดี๋ยวมันต้องซักผมแน่ๆ
“ถ้าไม่มีก็กลับไป ฉันมีแขก” น้ำเสียงหยิ่งๆ นั่นทำให้ผมเผลอมองเธอด้วยความไม่พอใจแต่คริสตัลกลับทำเป็นไม่เห็นมันแล้วพูดต่อ “...คนที่นายควรไปหาไม่ใช่ฉันนะหรือฉันควรจะโทรบอกจูเนียลดีว่านายอยู่นี่”
“...”
ผู้หญิงคนนี้มีความสามารถพิเศษในการยั่วโมโหผมได้เป็นอย่างดี เธอรู้ว่าการใช้น้ำเสียงและท่าทางแบบไหนถึงจะทำให้ผมไม่พอใจ และมันก็ได้ผลซะด้วยเนื่องจากตอนนี้ผมกำลังหมั่นไส้กับท่าทางหยิ่งๆ เชิดๆ ของเธอซะเหลือเกิน
“...” ร่างบางมองผมด้วยสายตาเหนือกว่าก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้
“ไอ้แทม กลับ!!” ผมบอกเสียงดังแล้วหันหลังเดินออกจากห้องด้วยความรู้สึกขายขี้หน้าเป็นอย่างมาก
ทำไมน้า~ ทำไมไอ้แทมต้องมาอยู่ในเวลานี้ด้วยเพราะถ้าไม่มีมันผมจัดการผู้หญิงปิดปากจิ้มลิ้มนั่นได้แล้ว ฮึ่ย!
หมับ
ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่ามือหนักๆ นี่เป็นของใคร...
“ถ่านไฟเก่ามันลุกเหรอวะ” น้ำเสียงเรียบๆ เอ่ยขึ้น ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
“...” ผมหมุนตัวกลับไปมองเพื่อนตัวเองได้ใบหน้าเรียบเฉยและปัดมือแทมินให้หลุดออกจากบ่า “ไม่ใช่เรื่องของแก”
“...”
“แล้ววันหลังอย่าสะเออะมาที่นี่อีก”
“บอกเหตุผลที่ฉันต้องทำตามแกมาสิ ถ้ามันน่าฟัง...ฉันอาจจะยอมทำตาม” แทมินเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างท้าทาย “เพราะตอนนี้ฉันกำลังคิดว่าคริสตัลน่าสนใจ...มาก”
“แฟน...”
“แฟนเก่า” มันพูดขัดขึ้นทั้งที่ผมยังพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำ “แล้วไง ?”
“ไอ้แทมิน...” ผมเรียกเพื่อนด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแต่แทมินกลับทำเป็นไม่รับรู้แล้วเผยรอยยิ้มบางเบาที่มุมปากทั้งสองข้าง
“บอกเหตุผลมาสิ อย่าคิดว่ากูดูมึงไม่ออกนะ มึงกำลังหวงของเก่าใช่มั้ย ?”
“...”
“ถ้ามึงชอบเขาอยู่กูจะหลีกทางให้ก็ได้นะ...”
“กูไม่ได้ชอบ!” ผมรีบตอบกลับอย่างรวดเร็วก่อนจะชักสีหน้าไม่พอใจใส่เพื่อนตัวเอง
“...”
“จะเอาก็เอาไปเลย ของเหลือจากกูน่ะ หึ แล้วมึงจะได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีดีแค่หน้าตา!”
ด้วยความโมโหผมถึงได้พูดออกไปแบบนั้น และไม่ได้ฉุดคิดเลยสักนิดว่าอาจจะมีใครได้ยินสิ่งที่ผมตะโกนใส่หน้าแทมินไปเมื่อกี้ ส่วนคนที่ได้ยินสิ่งที่ผมพูดเต็มสองรูหูถึงกลับมองผมด้วยสายตาตกใจ
ปัง!
!!!
เสียงปิดประตูอย่างดังด้านหลังของเราสองคนทำเอาผมถึงกลับหน้าชา...ถ้าหากผมคิดไม่ผิด เสียงที่เกิดขึ้นมาจาก...เจ้าของห้องที่ชื่อคริสตัล
แทมินเองก็เหมือนจะรู้ว่าคริสตัลได้ยินเพราะมันเองก็มีสีหน้าตกใจไม่ต่างจากผม แต่ไม่นานนักมันก็เปลี่ยนเป็นยกยิ้มมุมปากแล้วมองผมอย่างท้าทายก่อนที่ประโยคต่อมาของมันจะทำให้ผมถึงกับของขึ้น
“กูจะถือว่ามึงอนุญาตแล้วล่ะกัน”
“!!!”
“ขอบใจมากนะเพื่อนรัก” พูดพลางตบไหล่ผมสองสามทีเบาๆ แล้วเดินผ่านไปโดยที่ใบหน้าประดับไปด้วยร่องรอยแห่งความสนุกสนาน
ผมไม่ได้สนใจแทมินที่ทำให้ผมรู้สึกเดือดดาลหากแต่เป็นเจ้าของห้องห้องนั้นต่างหากที่เรียกความสนใจจากผมไปหมด…
เธอได้ยิน...
---------------------------
Tao’s part
ผมเปิดประตูห้องนอนอย่างเบามือด้วยกลัวว่าร่างบางที่คาดว่าน่าจะกำลังหลับสบายจะตื่นเอาได้ แต่...บนเตียงกลับว่างเปล่า ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าซอลลี่จะตื่นเช้าหลังจากที่เมื่อวานเพิ่งเจอเหตุการณ์ระทึกใจ เมื่อลองเดินดูภายในบ้านก็ไม่พบว่าคนที่กำลังตามหา ผมเลยเดินออกไปด้านนอกแทน
ซอลลี่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวตัวเดียวกับเมื่อวาน ผมยาวสลวยที่ช่วงปลายยักศกเป็นลอนอ่อนๆ กำลังพลิ้วไหวไปตามแรงลมยามเช้า ใบหน้าขาวใสไร้สิวฝ้ามาให้รบกวนลูกตากำลังเผยรอยยิ้มสดใสขณะที่กำลังวิ่งขึ้นวิ่งลงล้อเล่นไปกับฟองลูกคลื่นเล็กๆ อย่างสนุกสนาน แสงแดดอุ่นๆ ยามเช้ากระทบเข้ากับผิวขาวกระจ่างใสตัดกับสีน้ำทะเลได้เป็นอย่างดี
ผมมองภาพตรงหน้าแล้วก็ได้แต่เผยรอยยิ้มบางเบาออกมาพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น...
“...”
ผมทำหน้าไม่ถูกเมื่อคนริมหาดหันกลับมาสบตาเข้ากับผมพอดี รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนหน้าจางลงเรื่อยๆ ก่อนที่ผมจะกลับมาเก๊กขรึมเช่นเดิม ซอลลี่มองผมด้วยสายตาตื่นๆ ก่อนจะหันหลังกลับไปไม่สนใจคล้ายกับว่าไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องเอ่ยทักทาย
ถอนหายใจยาวก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกอดไม่ได้ที่จะ....น้อยใจ ผมสะบัดหัวสองสามครั้งเพื่อไล่ความคิดบ้าๆ นี่ออกไป หลังจากหยิบของที่ต้องการเรียบร้อยผมก็กลับออกมาแล้วเดินไปหาซอลลี่ที่ยังคงยืนแหย่เท้าเล่นน้ำอยู่ที่เดิม
“ซอลลี่....เอาชุดนี้ไปเปลี่ยนก่อนไป” ผมสั่งเสียงเรียบพร้อมกับแตะบ่าบางเบาๆ ร่างสวยหันมามองผมด้วยสายตาขัดใจที่ถูกขัดจังหวะ
“ไม่เป็นไร”
“ไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” สั่งเสียงดุพร้อมกับหรี่ตาแกมบังคับเล็กน้อย เธอไม่เป็นไรแต่ผมเนี่ยแหละเป็น แค่จินตนาการว่าร่างภายใต้เสื้อคลุมไม่ได้ใส่ทั้งบราเซียร์และแพนตี้มันก็ทำให้อะไรๆ ของผมรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาเสียเฉยๆ
ดีนะที่เมื่อวานแยกห้องกันนอนเมื่องั้นล่ะก็ร่างกายผมแย่แน่ๆ -_-
“...” สายตาที่ลังเลของซอลลี่ทำให้ผมเลือกที่จะยัดเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้นให้ซอลลี่ เธอรับมันไปถือไว้ก่อนจะมองผมตาแข็งแล้วไล่สายตามองร่างกายผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ทำไมนายอยู่ในชุดเมื่อวาน”
“มันไม่มีชุดให้เปลี่ยน”
นับเป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งของแผนการนี้เพราะผมดันลืมเอาชุดมาเผื่อไว้ก่อน หลังจากค้นๆ ดูก็พบว่ามีแค่เสื้อยืดและกางเกงขาสั้นของผู้หญิงอยู่ในห้องเก็บของอยู่แค่ชุดเดียว
“งั้นทำไมไม่เอานี้ไปใส่” ซอลลี่ยื่นเสื้อผ้าพวกนั้นกลับมาทางผม
“มันเป็นของผู้หญิง ผมใส่ไม่ได้ คุณไปเปลี่ยนเถอะตากลมด้วยชุดนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก ผมไม่อยากดูแลคนป่วยหรอกนะ”
“นายก็ไม่เคยดูแลอยู่แล้วหนิ”
“...”
ปึก
ร่างบางเดินกระแทกไหล่ใส่ผมอย่างแรงก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปด้านใน ผมยืนอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกเจ็บๆ ที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก คำพูดและแววตาที่ฉายแววเจ็บปวดเมื่อกี้ยังคงติดอยู่ในหัว และมันทำให้ผมรู้สึกแย่ที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องแสดงออกแบบนั้น
“เฮ้อ~” เป็นครั้งที่ร้อยกว่าที่ผมถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำยังไงเพื่อระบายความอึดอัดในใจนี้ได้
“เมื่อไหร่เราจะได้กลับ” ซอลลี่ที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยเป็นสียืดสีเนื้ออ่อนกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเดินเข้าในห้องหยุดยืนข้างๆ ผมแล้วถามขึ้น
“ใส่ได้พอดีเลยเหรอ” ผมไม่ได้ตอบแล้วถามกลับขณะที่สำรวจเสื้อผ้าบนร่างบางไปด้วย ไม่รู้ว่ามันเป็นของแม่หรือเปล่าแต่ผมคิดว่าน่าจะใช่เพราะบนเกาะนี้เท่าที่รู้ไม่มีใครได้มานอกจากพ่อและแม่
“อื้อ ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง”
“ก็ถ้าปลอดภัยแล้วก็คงกลับ” ผมตอบขณะที่ทอดไข่ไปเลื่อยๆ “คุณชอบไข่ดาวใช่มั้ย ?”
“รู้ได้ไง”
ผมยิ้มและไม่ตอบ จะไม่รู้ได้ยังไงอยู่กับเธอมาตั้งนานสองนาน แม้จะไม่ค่อยได้ร่วมโต๊ะทานเข้าด้วยกันแต่ผมก็สังเกตว่าเธอไม่เคยทานไข่เจียวเลย…แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ดันจำรายละเอียดเกี่ยวกับเธอได้
“เวลานายยิ้มเหมือนโรคจิตเลย”
“...” ผมเงยหน้าจากไข่ดาวตรงหน้าแล้วก้มลงสบตาคนตัวเล็ก เมื่อเห็นเธอทำหน้าหยีๆ อยู่ผมถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังยิ้ม
“แต่ก็หล่อดี”
“...” คราวนี้ไม่ใช่แค่รอยยิ้มหายไปแต่จังหวะการหายใจก็ยังชะงักไปหลายวินาทีเมื่อได้ยินคำชมจากปากคนที่คิดว่าเกลียดผมเข้าไส้
“นี่ จะมองหน้าฉันทำไม เดี๋ยวไข่ก็ไหม้หรอก”
“...”
“หลบไปเลยไป” ซอลลี่เข้ามาจับด้ามกระทะกับตะหลิวแทนแล้วใช้สีข้างกระแทกผมเบาๆ ให้ออกไป สายตาผมกำลังจับจ้องไปยังมือเล็กๆ ที่กำลังตักไข่ดาวเกรียมๆ โปะลงบนจานข้าวจากนั้นก็ต่อด้วยตอกไข่อีกใบลงกระทะ “...นายเองก็ชอบไข่ดาวเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ”
“...”
“คิดว่าตัวเองรู้คนเดียวหรือไง” ซอลลี่เหมือนจะพึมพำกับตัวเองมากกว่าผมแต่ถึงกระนั้นผมก็ยังได้ยินเต็มสองรูหู
ริมฝีปากถูกเม้มเข้าหากันเพื่อป้องกันรอยยิ้มของตัวเองแต่เหมือนผมจะทนไม่ไหวถึงได้ปล่อยรอยยิ้มประดับใบหน้าคล้ายคนบ้าเมื่อคิดว่าซอลลี่เองก็ใส่ใจในตัวผมเหมือนกัน และยิ่งยิ้มจนปากจะฉีกมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นคนตัวเล็กตั้งหน้าตั้งตาทอดไข่ให้ย่างตั้งใจ
“ไม่ต้องมายิ้มเลย ฉันยังไม่ยกโทษให้หรอกนะ!” ซอลลี่พูดโดยที่ไม่ได้หันมาหาผมเลยสักนิด ไม่รู้หรอกว่าเธอรู้ได้ยังไงว่าผมยิ้มแต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมรู้ว่าตัวเองหุบยิ้มไม่ได้เลย
อ่า...เธอน่ารักจัง
-----------------------------
Suzy’s part
“กรี๊ด~...อุ๊บ” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อเดินออกจากคอนโดอยู่ดีๆ ดันถูกล็อกคอแล้วลากให้ไปตามทางที่คนเบื้องหลังต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกปิดปากด้วยมือหยาบๆ
เดี๋ยวนะ กลิ่นน้ำหอมแบบนี้...
“แอล” ฉันหลุดชื่อคนร้ายทันทีที่ถูกโยนเข้ารถหรูคันหนึ่ง แอลที่ยืนค้ำประตูอยู่ยักคิ้วข้างเดียวให้ทีหนึ่งก่อนจะปิดประตูใส่หน้าฉันอย่างจังแล้วรีบวนมานั่งประจำที่คนขับก่อนจะเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วสูง
“อะไรของนายเนี่ย!”
“เธอไปก่อเรื่องอะไรมา” แอลหันมองมาฉันตาเขียวก่อนจะละออกไปมองถนนเบื้องหน้า
“อะไร”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ”
“...”
“หาตั้งนานที่ไหนได้เป็นคนใกล้ตัวนี่เอง หึ”
“ฉันไม่เข้าใจ” ฉันเริ่มขึ้นเสียงเมื่อแอลพูดคล้ายกับกำลังหาว่าฉันทำผิด
“เธอนี่มัน...หึ”
“ฉันทำไม พูดให้มันดีๆ หน่อย”
“อย่าคิดว่าเรื่องที่เธอปล่อยรูปพวกนั้นจะไม่มีใครรู้ล่ะ”
“!!!”
“เธอคิดว่าไอ้ไคมันใจดีถึงขนาดไม่ตามเอาเรื่องคนปล่อยหรือยังไง โชคดีที่มันวานให้ฉันช่วยสืบ ฉันเลยรู้เข้าซะก่อน”
โชคร้ายน่ะสิไม่ว่า...
ฉันกอดอกแล้วเสมองไปทางวิวด้านนอกอย่างใช้ความคิด ไม่แปลกที่เขาจะหาคนปล่อยเจอได้ง่ายๆ เพราะฉันใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้านตัวเอง ถ้าเขาตามสืบจากเลขไอพีก็คงเจอได้ไม่ยากและฉันเองก็ไม่ได้คิดจะปกปิดสิ่งที่ทำอยู่แล้วด้วย ก็ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด...ช่วยแฉพวกชอบแย่งแฟนชาวบ้านเท่านั้นเอง
“แล้วไง” ฉันเอ่ยอย่างไม่แคร์ “นายจะไปบอกไคก็ได้นะ...มันคงสนุกดีเหมือนกัน”
ใช่มันต้องสนุกมากแน่ๆ ถ้าหากไครู้ว่าตัวการที่แท้จริงคือคริสตัล คนที่เขาสวมเขามาโดยตลอด
“เหอะๆ นี่เธอชอบมันมากถึงขนาดไม่สนว่าเพื่อนตัวเองจะถูกมองไม่ดีสินะ”
“คนที่ต้องอายน่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้นมากกว่านะ เพื่อนฉันอุตส่าห์ทำดีด้วยแต่ดันลอบกัดซะได้ นึกถึงหน้าใสๆ ของยัยนั่นแล้วอยากจะตบสักทีจริงๆ”
“...”
แอลเงียบไปแล้วหันมามองฉันด้วยสายตาอึ้งๆ เพราะเขาคงไม่คิดว่าฉันรู้สินะว่าเป็นจูเนียล รูปพวกนั้นไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นจูเนียลก็จริงแต่หากคนสนิทๆ กับเธอคงพอดูออก และฉันเองก็เห็นฉบับเต็มมาแล้วด้วย
“เลิกกันได้ก็ดี...”
“เพราะเธอคิดจะเสียบใช่มั้ยล่ะ!” เสียงตะคอกดังขึ้นพร้อมกับระดับความเร็วของรถที่พุ่งทะยานไปข้างหน้าจนหัวฉันเกือบพุ่งชนคอนโซล “อย่าคิดว่าฉันดูไม่ออกว่ามันเป็นแผนเธอนะซูจี...ใช้คนอื่นเบี่ยงเบนความสนใจแต่แท้ที่จริงแล้วเธอตั้งใจจะงาบเพื่อนฉันอยู่ล่ะสิ ฉลาดดีนี่”
“!!!”
“คริสตัลเลิกกับไคโดยที่เธอไม่ต้องทำอะไร ไม่มีใครมองว่าเธอผิด...”
“...”
“รอเวลา...จากนั้นเธอก็จะเอาไคมาเป็นของตัวเองโดยไม่ต้องหักหลังเพื่อน”
แปะๆๆๆ
“โห สุดยอด ฉันว่านายน่าจะไปเป็นนักเขียนนะ พล็อตนายสุดยอดมาก” ฉันพูดด้วยใบหน้าที่แสร้งทำเป็นตื่นเต้นพลางตบมือแปะๆ ไปด้วย
เอี๊ยดดดดด!
แอลหักรถเข้าจอดข้างทางก่อนจะเหยียบเบรกเสียงดังลั่นถนน โชคดีที่เมื่อกี้ฉันขาดเข็มขัดนิรภัยกันไว้เรียบร้อย เมื่ออย่างนั้นละก็หัวพุ่งทะลุกระจกแน่ๆ
หมับ
แอลจับข้อมือฉันไว้ทั้งสองข้างแล้วรั้งให้เข้าไปใกล้ “อย่ายั่วโมโหฉัน”
“ปล่อย!” ฉันร้องเมื่อแอลบีบเข้าอย่างแรงที่สองข้อมือ
“ทำไม! ไอ้ไคมันมีอะไรดี เธอถึงอยากได้มันนัก แฟนเพื่อนก็ไม่สนหรือไง ผู้หญิงอย่างเธอนี่มันยังไงกันแน่!”
“...”
“ฉันแย่กว่ามันตรงไหนห๊ะ!?”
“เพราะฉันไม่ได้ชอบนาย!” ฉันโกหกกลับไปเสียงดังไม่แพ้กัน กล้ำกลืนความเจ็บปวดตรงข้อมือก่อนจะมองเข้าด้วยสายตาไม่ยอมแพ้ “และใครกันแน่ที่สมควรโกรธ ไหนนายบอกว่าจะช่วยฉันให้ใกล้ชิดไคเร็วๆ แต่เท่าที่เห็น...นายไม่ทำอะไรเลยต่างหาก!”
“!!!”
“มันจะแปลกอะไรถ้าฉันทำเรื่องแบบนั้น นายก็รู้อยู่แล้วว่าฉันชอบไคและอยากได้เขามาเป็นของฉัน นายเสนอตัวจะช่วยถ้าฉันยอมนอนกับนาย...แล้วดูตอนนี้สิ ฉันไม่เห็นนายจะทำอะไรเลยนอกจาก...” ฉันพูดไม่ออกเพราะมันน่าอายเกินไป
“นอกจากอะไร ?” แอลขมวดคิ้วแล้วมองฉันอย่างคาดคั้น
“นอกจาก...” จะบอกได้ยังไงล่ะว่านอกจากปล้ำฉัน! บ้าที่สุด! “ช่างมันเถอะ”
ฉันเบือนหน้าหนีเขาแล้วพ่นลมหายใจอย่างอึดอัด แอลไม่ลดแรงที่กำลังบีบข้อมือฉันเลยสักนิด
ทำไมฉันต้องมาโกหกอะไรแบบนี้ด้วย...
ถ้าฉันบอกว่าฉันชอบเขา ฉันจะกลายเป็นผู้หญิงโง่ๆ ที่แอลคิดว่าง่ายจนไม่เห็นค่าหรือเปล่า...
“หึ” เสียงแค่นหัวเราะทำให้ฉันหันกลับไปมองเขาอีกครั้ง สายตาดูถูกกำลังสะท้อนเข้ามาในนัยน์ตามันทำให้รู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่หัวใจ
“...”
“ฉันผิดเองแหละ...”
“...”
“โทษทีที่ลืมทำหน้าที่ของตัวเอง ผู้หญิงที่ยอมเสียตัวให้ผู้ชายง่ายๆ อย่างเธอก็คงไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจากเรือนร่างที่เอาไว้ให้กับเรื่องพรรค์นั้นนักหรอก...เหอะ นี่ฉันเผลอเล่นหมากของตัวเองมากไปเหรอเนี่ย”
มันเจ็บ...เจ็บอย่างบอกไม่ถูกที่ถูกเขาดูถูกด้วยสายตาเหมือนเห็นฉันเป็นผู้หญิงอย่างว่า...
ผลัก
!!!
ปึก
แอลผลักฉันจนหลังชนกับประตูรถอย่างแรง ฉันนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดแต่แอลทำเป็นไม่เห็นมัน แถมเขายังมองฉันด้วยสายตาสะใจกลับมาด้วยซ้ำ
“อย่างน้อยไอ้ไคมันก็กินของเหลือจากฉันแล้วกัน”
“!!!” ฉันเบิกตาอย่างตกใจเมื่อแอลเข้ามาประชิดตัวแล้วเอื้อมมือไปทึ้งผมฉันจากทางด้านหลังจนหน้าหงายขึ้นเล็กน้อย ฉันสบตากับเขาใกล้จนลมหายใจร้อนของคนตรงหน้ารดอยู่ปลายจมูก
“แล้วเธอจะได้รู้ว่าฉันไม่เคยผิดคำพูด”
“...”
มันเจ็บไปหมด ทั้งข้อมือ หลังและศีรษะที่ถูกเขาทึ้งผมอยู่ตอนนี้
แอลกำลังทำกับฉันเหมือนฉันไม่ใช่คน…ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้…
เราสองคนสบตากันอย่างดุเดือด ฉันเองก็โกรธเขาเหมือนกัน! ทำไมแอลต้องว่าฉันเหมือนฉันเป็นผู้หญิงไม่ดีด้วย ทั้งที่ฉันก็นอนกับเขาคนเดียว...เขาเองก็รู้
ปึก
“โอ้ย” ฉันร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อแอลผลักหัวฉันอย่างแรงจนหัวโขกกับกระจกด้านข้าง
เจ็บ T_T
“ลงไป”
“!!!”
“ลงไป ไม่เข้าใจภาษาคนรึไง”
“O_O” ฉันมองแอลอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ให้ฉันลงตรงนี้อ่ะนะ กลางมอเตอร์เวย์ที่รถก็ไม่ค่อยจะผ่านแล้วถ้าฉันลงไปจะหาแท็กซี่ได้จากไหนเล่า!
“จะลงไปดีๆ หรือจะให้ฉันถีบเธอลงไป”
“นะ นาย…”
“...” สายตารังเกียจถูกส่งมาให้จนรู้สึกเจ็บปวดจนอยากจะร้องไห้เสียตรงนี้แต่ก็กลัวว่าหากร้องคนตรงหน้าคงสมเพชฉันไปมากกว่าที่เป็นอยู่
“ฉันเกลียดนาย!!” ตะคอกใส่หน้าเขาแล้วลงจากรถอย่างรวดเร็ว
ปัง
…
บรื้นนนนน!!
เขาไม่ได้ตามลงมาง้อเหมือนพระเอกในหนังแต่กลับขับรถออกไปโดยอย่างเร็ว ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมารับฉันเลยสักนิด...
เจ็บ...
น้ำตาที่รื้ออยู่รอบขอบตาทั้งสองข้างไหลลงมาตามแนวแก้มช้าๆ ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วปาดน้ำตาที่กำลังไหลอยู่นี้ให้หมดไป บ้าชะมัด ฉันร้องไห้ทำไมเนี่ย ยัยซูจีเอ้ย เธอน่าจะรู้อยู่แล้วว่าแอลเขาคิดว่าตัวเองชอบไค…เขาแค่เห็นเธอเป็นหมากตัวหนึ่ง มีไว้เพื่อใช้เล่นเกมส์เท่านั้นเอง...
เอาน่า~ จะยอมแพ้แค่นี้ไม่ได้นะ สวยๆ อย่างฉันต้องมีสักวันที่ทำให้แอลสนใจได้สิ!
----------------------------------
Krystal’s part
“สวัสดีค่ะ” ฉันกล่าวทักทายและโค้งให้รุ่นพี่อย่างนอบน้อมดั่งเช่นทุกวัน ไม่สนสายตาที่กำลังมองมาทางฉันอย่างกระอักกระอ่วนจากเหตุการณ์เมื่อวานเลยสักนิด
วันนี้ต่างไปจากทุกวันเนื่องจากวันนี้เราจะมาถ่ายโปสเตอร์โปรโมตละครเวทีกัน สถานที่ที่มาเลยไม่ใช่ห้องชมรมดังเช่นเมื่อวาน แถมนักแสดงบางรายที่ไม่จำเป็นต้องถ่ายโปสเตอร์ก็ไม่ได้มา รุ่นพี่ที่มาวันนี้ก็จะเกี่ยวกับพวกคอสตูมซะมากกว่า
“พี่ทิฟฟานี่คะ” ฉันเรียกพร้อมกับเดินไปหาพี่ทิฟฟานี่ในห้องแต่งตัว พอพี่เห็นฉันเธอก็ยิ้มจนตาหยีดั่งเช่นทุกครั้งที่เราเจอกัน
“มาเร็วเชียว พี่ยังเป็นห่วงอยู่แล้วว่าเรา...เอ่อ...”
“ตัลไม่เป็นไรค่ะ” ฉันบอกแล้วยิ้มให้พี่เขากลับ พี่ทิฟฟานี่พยักหน้าก่อนจะเลื่อนสายตาลงตามือฉันที่กำลังถือแบกของอยู่
“แล้วนั่นแบกอะไรมา”
“นิตยสารน่ะค่ะ พอดีช่วงที่ไปอเมริกาตัลมีโอกาศได้ไปถ่ายแบบกับแทมิน”
“จริงป่ะคะน้องตัล!?”
“ค่ะ” ฉันยิ้มให้พี่ทิฟฟานี่แล้วเดินไปวางนิตยสารกว่าสิบเล่มที่แบกมาจากคอนโดไปวางไว้บนเก้าอี้ใกล้ๆ ก่อนจะหยิบเล่มหนึ่งยื่นให้พี่ทิฟฟานี่ที่ยืนมองฉันด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ “พอดีเป็นนิตยสารของอเมริกาที่ไม่ได้วางขายในเกาหลีน่ะค่ะ พี่สาวตัลส่งมาให้ ตัลเห็นว่ามันเยอะเลยเอาฝาก ไม่รู้ว่าพี่ทิฟฟานี่อยากได้มั้ย”
“อยากสิจ๊ะ รุ่นน้องคนสวยของพี่ได้ถ่ายแบบทั้งที” พี่ทิฟฟานี่รับไปแล้วมองหน้าปกด้วยสายตาตื่นๆ ฉันไม่แปลกใจหรอกที่พี่เขามีท่าทางอย่างนี้เพราะตอนฉันเห็นรูปตัวเองกับแทมินในชุดว่ายน้ำนั่งตักกันบนโขดหินด้วยท่าทางที่ดูเซ็กซี่เกินควรก็ตกใจเหมือนกัน
ตอนเห็นภาพถ่ายใหม่ๆ ฉันก็ว่ามันเซ็กซี่มากอยู่แล้วแต่รูปที่ออกมาถูกปรับแต่งแสงและสีมันเลยดูวาบหวิวมากกว่าเดิมหลายเท่า ผมยาวที่ถูกฉีดน้ำให้เปียกหมาดๆ ลู่ลงตามใบหน้าเรียวคม ในภาพหน้าปกเป็นเซ็ตที่ฉันใส่ชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่สีทองลายเสือดาวโดยที่มีเสื้อเชิ้ตสีขาวของผู้ชายสวมทับไว้หลวมๆ ยิ่งไปกว่านั้นสีของมันไม่ได้ช่วยปกปิดความสมบูรณ์แบบของร่างกายฉันเลยสักนิด เนื้อขาวๆ ที่โผล่พ้นเสื้อตัวนั่นชวนให้ฉันดูน่าค้นหามากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ และสายตาปรือๆ ที่ฉันกับแทมินมองกล้องมันทำให้คนมองภาพนี้รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ได้ดีทีเดียว
ยิ่งแทมินสวมแต่กางเกงเล่นเซิร์ฟอวดกล้ามเล็กๆ บนหน้าท้องขาวเนียนตามฉบับคนเกาหลีที่ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ตายกันไปเลยทีเดียว ส่วนแขนยาวๆ ของเขาก็สวมกอดฉันที่นั่งตักไว้หลวมๆ …เพอร์เฟค
นั่นขนาดรูปฉันเองฉันยังรู้สึกว่ามันร้อนแรงอย่างบอกไม่ถูก...
“สวยมากเลยน้องตัล”
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มรับเขินๆ ก่อนจะขอตัวไปแจกนิตยสารให้คนอื่นแต่ก็ถูกพี่ทิฟฟานี่เรียกไว้ซะก่อน
“น้องตัลคะ”
“คะ ?”
“คือเรื่องเมื่อวาน...พี่อยู่ข้างน้องตัลนะคะ”
“...”
“พี่คิดว่าน้องตัลจะไม่รู้ซะอีกว่าไคกับจูเนียลกำลังชอบพอกัน พี่เคยเห็นพวกนั้นหอมแก้มกันตอนน้องตัลไม่อยู่ด้วย พี่กำลังลำบากใจอยู่เลยว่าจะบอกน้องตัลดีมั้ย แต่เห็นทีคงไม่จำเป็นแล้ว”
“...”
“สวยๆ อย่างน้องตัลหาได้ดีกว่าไคอยู่แล้วล่ะ เชื่อพี่สิ >_^”
“ขอบคุณค่ะ” ฉันโค้งให้พี่ทิฟฟานี่เล็กน้อยก่อนจะหยิบนิตยสารมาแจกรุ่นพี่คนอื่นๆ ซึ่งแต่ล่ะคนก็มีท่าทีไม่ต่างจากที่ฉันคาดเท่าไหร่ หลายคนตกใจที่เห็นฉันกล้าถ่ายในชุดว่ายน้ำแถมยังถ่ายคู่กับผู้ชายอีกด้วย
อย่าว่ายังงั้นยังงี้เลย...ฉันเองก็ตกใจตัวเองเหมือนกันที่ตอนนั้นกล้าตกปากรับคำพี่เจสสิก้าน่ะ คิดๆ ดูแล้วคงเป็นเพราะช่วงนั้นฉันอยู่ในช่วงเสียศูนย์คิดว่าตัวเองเสียตัวให้ไคเลยอยากจะหาอะไรทำเพื่อลืมเรื่องพวกนั้นล่ะมั้ง...
“ดูอะไรกันอยู่เหรอคะ” เสียงใสคุ้นหูดังขึ้นทำให้รุ่นพี่ที่ยืนอยู่รวบๆ ตัวฉันหันไปมองทางประตู ฉันเองก็เช่นกัน...
จูเนียลและไคเดินเข้ามาด้วยกันโดยที่มือของทั้งสองจับกันไว้อย่างรักใคร่ ดูช่างเหมาะกันยิ่งนัก
หญิงก็ร้ายชายก็เลว...คงไม่มีคู่ไหนเหมาะไปกว่านี้แล้วล่ะ
จูเนียลที่เห็นฉันชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมาปั้นยิ้มแบบนางฟ้าอีกครั้ง
“อ้อ นิตยสารที่คริสตัลไปถ่ายแบบน่ะ นางเอกเราดังใหญ่แล้วนะเนี่ย” พี่ชินดง
“ฮ่าๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“คริสตัลเซ็กซี่มากเลย” รุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น “…อยากจะเป็นแทมินบ้างจัง”
“ฮ่าๆ” ฉันหัวเราะกับท่าทางเพ้อฝันของพวกรุ่นพี่อยู่สักพักก่อนหันไปมองไคที่เดินเข้ามากลางวงแล้วหยิบนิตยสารในมือรุ่นพี่คนนั้นไปดู
ไคนิ่งไปทันทีที่เห็นภาพบนหน้าปก จูเนียลเองก็มาหยุดยืนข้างๆ ไคแล้วชะเง้อดูภาพนั้นเช่นเดียวกัน...
“ฉันเอามาฝากนายกับจูเนียลด้วย” ฉันยกยิ้มมุมปากอย่างเชิดๆ ก่อนจะยื่นนิตยสารสองเล่มสุดท้ายไปตรงหน้าทั้งสองคน จูเนียลรับไปถือไว้แต่ไคไม่ “เอาไปสิ”
ไคยอมรับมันไปถือไว้ก่อนที่จะมองฉันด้วยสายตาน่ากลัวจนเกือบทำให้ขนลุก แม้กระทั่งจูเนียลที่ยืนอยู่ข้างๆ เขายังรู้สึกได้จนต้องเอื้อมมือไปกุมมือหนาไว้ ฉันมองพวกเขาสองคนด้วยสายตาเรียบเฉยก่อนจะเอ่ยชมด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“ฉันไม่เคยเห็นใครเหมาะสมกับนายไปมากกว่าจูเนียลเลย”
“พี่คริสตัล...”
“หึ ไม่ต้องบอก ฉันรู้อยู่แล้ว” ไคไม่เพียงแต่พูดเขากลับแสดงให้เห็นด้วยการดึงจูเนียลเข้ามาโอบไว้ท่ามกลางสายตาทุกคน
“เอ่อ...ฉันหมายถึง...ผู้ชายแบบนายก็เหมาะกับผู้หญิงแบบ...” ฉันมองทั้งคู่ด้วยหางตาแล้วเหยียดริมฝีปากเล็กน้อย “ง่าย-ง่าย แบบนี้แหละ”
“!!!”
ไม่ใช่แค่ไคกับจูเนียลที่อึ้งในคำพูดฉันแต่ทุกคนที่ได้ยินก็ตกใจไม่แพ้กัน ฉันมองทั้งสองคนด้วยสายตาเหยียดๆ ก่อนจะหันหลังเข้าห้องแต่งตัวโดยที่ตรงนั้นมีพี่ทิฟฟานี่ยกนิ้วโป้งให้ฉันอยู่
“เจ๋งมากเลยคุณน้อง ^^”
3 ชั่วโมงผ่านไป
การถ่ายโปสเตอร์กว่าสามชั่วโมงจบไปแล้ว ทุกครั้งที่ฉันกับไคมีฉากที่ต้องถ่ายรูปร่วมกันบรรยากาศจะแปลกๆ เหมือนมีเมฆดำลอยข้ามหัวไปมาจนพี่ช่างกล้องยังไม่กล้าสั่งให้เราสองคนทำอะไรเลยสักนิด แต่ก็นะด้วยความที่ฉันแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจึงไม่ได้มีปากเสียงกับไคขณะทำงาน
กึก
ฉันกดล็อกประตูห้องแต่งตัวก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำในตัวอีกทีพร้อมกับถือชุดติดมือไปด้วย กลังจากเปลี่ยนชุดฮันบกมาเป็นเสื้อผ้าตามสไตล์ฉันเรียบร้อยแล้วก็เปิดประตูตามปกติ แต่...
!!!
ผลัก
และ…
ปึง
ไคผลักฉันให้เข้าไปในห้องน้ำอีกรอบแล้วปิดประตูเสียงดังพร้อมกับลงกลอนเรียบร้อย ฉันตวัดสายตามองเขาด้วยสายตาเดือดดาลเช่นเดียวกับไคที่มองฉันราวกับอยากจะขยำทิ้ง พื้นที่เล็กๆ สี่เหลี่ยมสำหรับคนๆ เดียวมันเลยทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องยืนเผชิญหน้าอย่างใกล้ชิดกับเขา
“งามหน้าดีนี่”
“อะไร” ถามกลับอย่างเอาเรื่องก่อนจะยืนหลังตรงมองไคกลับไป ไม่รู้ว่าไคเข้ามาได้ยังไงเพราะฉันคิดว่าตัวเองล็อกประตูด้านนอกไว้แล้ว สงสัยตาบ้านี่ไปขอกุญแจจากใครสักคนมาล่ะสิ หึ เถื่อนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“ฉันจำได้ว่าภาพถ่ายพวกนั้น...มันเกิดขึ้นหลังจากที่เธอกับฉันได้กันแล้วไม่ใช่รึไง”
ไคตั้งใจเน้นคำว่า ‘ได้’ ใส่หน้าฉันคล้ายกับต้องการจะย้ำเตือนเรื่องราวคืนนั้นให้ฉันสะอึก แต่โชคไม่ดีที่เขาจะไม่มีวันได้เห็น…
“แล้วไง...” ฉันเหยียดริมฝีปากสื่อว่าเรื่องที่เขาพูดมันช่างไร้สาระ “ทำไม ฉันต้องขออนุญาตนายด้วยเหรอคะ...คุณ-แฟน-เก่า”
“…”
“อย่าลืมสิ ตอนนั้นเราไม่ได้เป็นแฟนกัน นายไม่มีสิทธิ์มาห้ามฉัน...และตอนนี้เราก็ไม่ได้เป็นแฟนกันนายไม่มีสิทธ์มาว่าฉัน”
“สิทธิ์เหรอ ? …ทำไมฉันจะไม่มี” ไคทำสายตาน่ากลัวพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้จนทำให้ฉันต้องเดินถอยหลังจนแผ่นหลังแนบไปกับกำแพงโดยที่มีใครตามเข้ามาค้ำแขนข้างหนึ่งไว้เหนือหัวฉันขณะที่อีกค้างเชิญปลายคางฉันขึ้นไปสบตาเขา
“...”
“สิทธิ์ที่เป็นผัวเธอน่ะพอมั้ย!!”
เพี้ยะ
ร่างสูงหน้าหันไปตามแรงตบจากฝ่ามือฉัน มือสองข้างผลักไคไปให้พ้นทางอย่างแรงจนเขาหน้าทิ่มไปยังอ่างล้างหน้า ฉันจับลูกบิดเตรียมจะเปิดออกแต่ถูกไคกระชากเอวกลับแล้วถูกเหวี่ยงใส่ผนังที่เดิมอย่างจัง
ปึก
คราวนี้ฉันหมดหนทางหนีจริงๆ เมื่อไคใช้มือตัวเองตรึงข้อมือฉันไว้กับผนังทั้งสองข้างและตัวเขาเองก็ทาบทับลงมาจนอะไรแนบกันไปหมด ความใกล้ชิดระหว่างเรามันมากถึงขนาดที่หน้าอกฉันสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวของไค
บ้าชะมัด!
“ไอ้เลว!” ฉันด่ากราดอย่างหมดความอดทนเมื่อเขาจงใจใช้ร่างกายตัวเองบดเบียดลงมาอย่างน่าหวาดเสียว
“ทำไม...มากกว่านี้ยังเคย”
“แกมันเลว!”
“แก...เหรอ หึ” ไคแค่นหัวเราะก่อนจะก้มหน้าลงมาไซร้ซอกคอขาวของฉันอย่างไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะหลบหลีกยังไงไคก็ไม่ยอมถอยริมฝีปากออกไปเลยสักนิด หลบไปทางซ้ายเขาก็เลื่อนตามมา พอไปทางขวาร่างสูงก็ทำเช่นเดียวกัน
“ปล่อยนะไค นายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้!”
“ทำไม จะเก็บไว้ให้ไอแทมงั้นเหรอ!” เขาตอบโดยที่ใช้ริมฝีปากไซร้ไปตามลำคอระหงพร้อมกับพ่นลมหายใจร้อนๆ รดไปตามริมฝีปากที่เขาลากผ่านอย่างบ้าคลั่ง
ถึงแม้จะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้หลายครั้งช่วงที่เราคบกันแต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ระหว่างเขากับฉันมันจบกันไปแล้ว!
และก่อนที่ริมฝีปากหยักจะกดจูบลงบนริมฝีปากฉัน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ปังๆๆ
“พี่ไคอยู่ในนี้มั้ยคะ”
“...”
ไคหยุดชะงักเมื่อเขาได้ยินเสียงแฟนตัวเอง ฉันเองก็เลยใช่โอกาสนั้นผลักไคออกไปอย่างแรงจนหลังเขาชนเข้ากับประตูอย่างจัง
“พี่ไคหรือเปล่าคะ”
“...”
ไคยังไม่ตอบเพียงแต่มองฉันคล้ายกับคนมีอะไรจะพูด ตรงข้ามกับฉันที่ใช้สายตามองเขาอย่างเย็นชา และก่อนที่จะมีใครพูดอะไรอีก ฉันก็นึกแผนๆ หนึ่งขึ้นมาได้
“ทำอะไรน่ะ” เสียงเบาๆ จากไคถามขึ้นเมื่อเห็นฉันถูริมฝีปากตัวเองอย่างแรงจนลิปสติกสีแดงที่ทาไว้ตอนเข้าฉากเลอะรอบขอบปาก เท่านั้นยังไม่พอฉันแกะหนังยางที่รัดผมตัวเองอยู่ก่อนออกแล้วยีให้มันกระเซิงพอสมควรจากนั้นฉันก็...
แควก~
“O_O”
หลังจากฉีกเสื้อเชิ้ตสีดำราคาแพงของตัวเองจนกระดุมขาดไปสองสามเม็ดพอให้เห็นเนินอกขาวๆ ด้านในฉันก็ยิ้มออกมาอย่างบางเบาแล้วหันไป...เปิดประตู
“พะ พี่คริสตัล O_O”
“อ้าวจูเนียล” ฉันแสร้งทำเป็นตกใจแล้วเอามือทาบอก ลอบยิ้มออกมาอย่างสะใจเมื่อเห็นจูเนียลมองฉันอย่างตกใจที่เห็นฉันอยู่ในสภาพนี้
เธอคงไม่โง่จนดูไม่ออกว่าฉันเจอกับอะไรมาหรอกนะ...
“จูเนียล” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้านหลังฉัน ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าไคเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ไม่รู้ว่าเขาตกใจที่เจอจูเนียลหรือตกใจที่เห็นฉันทำแบบนี้มากกว่า...
“พี่ไค...พี่คริสตัล...” เธอมองฉันกับไคสลับกันไปมาด้วยแววตาไม่อยากเชื่อก่อนที่ร่างเล็กตรงหน้าจะเลือกตำหนิฉัน “ทำไมพี่คริสตัลถึงทำแบบนี้ล่ะคะ!”
“ทำไมน่ะเหรอ...อืม...” ฉันแกล้งทำเป็นเล่นหูเล่นตาคิดคำตอบก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “ก็ถ่านไฟก่อนมันลุกล่ะมั้ง”
“!!!”
“ซอรี่นะคะน้อง...แต่ช่วยบอกแฟนเธอด้วยว่าอย่ามายุ่งกับฉันอีก” ฉันจิกเสียงมส่จูเนียลอย่างเย็นชา “เพราะถ้าเขากลับมาหาฉัน...กลัวว่าเธอจะกลายเป็นมหาหัวเน่า”
“...”
“ฉันไปล่ะ...” ฉันเดินผ่านจูเนียลที่ยืนกำมือด้วยวามโกรธอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้จึงหันกลับ “ไม่ได้จูบกันนาน...รสชาติยังแย่เหมือนเดิมเลยนะคะคุณแฟนเก่า”
“!!!”
เอาล่ะ...ชักสนุกขึ้นแล้วสิ ^^
-----------------------------
Sulli’s part
ซ่า~
น้ำเย็นๆ จากฝักบัวกระทบกับร่างกายทำให้ฉันรู้ดีอย่างเช่นทุกครั้งที่อาบน้ำ จะว่าไปการติดอยู่บนเกาะนี้ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด สิ่งอำนวยความสะดวกมีอยู่ทุกอย่าง หากจะลำบากก็คงเป็นเรื่องอาหารที่ทั้งวันทานแต่มาม่ากับข้าวไข่ดาว อ่ะ แล้วก็เรื่องชุดด้วย
ฉันเอื้อมมือไปหยิบยาสระผมแล้วก็ต้องแปลกใจที่ไฟในห้องน้ำติดๆ ดับๆ แต่ฉันก็ไม่ติดใจอะไรแล้วสระผมต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง…
พรึ่บ
O_O
“กรี๊ดดดดดด~” กรีดร้องเสียงดังเมื่ออยู่ดีๆ ไฟในห้องน้ำก็ดับลง ไม่จริงน้าฉันเกลียดไฟดับที่สุดเลย ความมืดฉันก็ไม่เอา~ และไม่รู้ทำไมฉันถึงตัดสินใจตะโกนเรียกหาใครอีกคนที่อยู่ในบ้านหลังนี้สุดเสียง “เทา!!!”
ปังๆๆ
“ซอลลี่ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า!?”
“ไม่ๆ ทำไมไฟมันดับล่ะ ฉันกลัว!” พูดโดยที่ไม่ยอมลืมตาแถมยังเอามือปิดหน้าอีกต่างหาก ฉันกลัวความมืดจริงๆ นะ T_T
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณโอเคมั้ย ? เอางี้ดีกว่าเดี๋ยวผมไปหาเทียนมาให้”
“ยังไงก็ได้ เร็วๆ นะ...โอ้ย” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อฟองบนหัวไหลเข้าตา ที่เผลอลืมขึ้น
ปังๆ
“คุณเป็นอะไรน่ะ”
“ฟองมันเข้าตา นายเข้ามาช่วยฉันหน่อยสิ ฉันกลัว!”
“แต่...”
“ไม่ต้องแต่แล้วเข้ามาเลย ฉันไม่ได้ล็อก” ฉันพูดอย่างเร็วเร่งให้เทาเข้ามาช่วยชีวิตฉันก่อนที่ตาจะได้บอดเข้าซะก่อน นี่ฉันไม่กล้าขยับตัวเลยแม้แต่นิด ขนาดแค่ลืมตาขึ้นมาฉันก็ต้องรีบหลับตาลงทันที
ฉันเกลียดความมืดดดดดด~
เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาทำให้ฉันรู้ว่าเทาเข้ามาอยู่ในห้องน้ำแล้ว
“คุณอยู่ตรงไหน่ะซอลลี่...ทำไมมันมึดจังวะ”
ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันมืดอย่างนี้...บนเกาะนี้ถ้าไม่มีบ้านหลังนี้ทุกอย่างก็ถูกกลืนลงไปในความมืดมิด อย่างตอนนี้ที่ไฟดับฉันมองเห็นแต่สีดำสนิทเพราะฉะนั้นไม่ว่าลืมตาหรือหลับตาก็มีค่าเท่ากัน
“ตรงนี้ แถวๆ ฝักบัว”
เทาเดินตามเสียงฉันมาก่อนที่จะรูดม่านกั้นออก
“ยะ หยิบฝักบัวให้หน่อยสิ”
“อะ อื้ม”
คิดไปคิดมามันก็เขินเหมือนกันนะที่ต้องให้เขามาทำอะไรแบบนี้ให้ แต่ฉันกลัวความมืดจริงๆ นี่น่า ถ้าเป็นตอนนอนแล้วปิดไฟฉันไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่แต่อยู่ดีๆ มาไฟดับแบบนี้ฉันรับไม่ไหว TOT
เสียงฝีเท้าเทาเข้ามาใกล้มากขึ้นจนฉันสัมผัสได้ถึงลมที่พัดผ่านเวลาเขาเดิน บรรยากาศในห้องน้ำเงียบมากจนฉันกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวดวงนี้
“คุณหลบไปหน่อยสิ” เสียงเทาที่ดังขึ้นเบื้องหน้าทำให้ฉันสะดุ้งเบาๆ เพราะเราอยู่ใกล้กันมาก...มากจนฉันคิดว่าถ้าขยับผิดท่าเพียงเล็กน้อยเนื้อตัวเปล่าๆ ของฉันคงต้องสัมผัสเสื้อผ้าเขาแน่
“...” ฉันไม่ตอบแต่ส่ายหน้าเบาๆ โดยที่ไม่ลืมตาเพราะฟองยาสระผมกำลังไหลลงมาเต็มใบหน้าฉันเลย “ไม่เอา ฉันไม่ขยับ”
“คุณกลัวความมืดตั้งแต่เมื่อไรกัน”
“ตั้งแต่เด็ก...อ่ะ”
ดูสิ มัวแต่พูดฟองเข้าปากฉันเลย หยีๆๆ
“อย่าเพิ่งขยับไปไหนล่ะ มันคงอยู่หลังคุณ ให้ตายสิผมมองอะไรไม่เห็นเลย”
ฉันเบ้ปากอย่างรู้สึกผิดที่ต้องให้เทามาลำบากช่วยเรื่องแปลกๆ แบบนี้แต่ฉันไม่รู้จะทำยังไงนี้น่า ถ้าให้เลือกได้ใหม่วันนี้ฉันคงยอมนอนทั้งที่ไม่อาบน้ำเสียดีกว่า
ไหล่ฉันถูกสัมผัสเบาๆ คิดว่าน่าจะเป็นแขนเขาที่เฉียดหน้าฉันอ้อมไปด้านหลังนะ
“ได้แล้ว อยู่ข้างหลังคุณนี่เอง ถ้าคุณหันไปแต่แรกมันก็จบแล้ว อ่ะ เอาไป”
“อะ อื้อ” ฉันยื่นมือไปด้านหน้าโดยที่ไม่ได้ลืมตาแต่แทนที่จะสัมผัสฝักบัวฉันกลับจับใบหน้าเขาแทนซะได้
“นั่นหน้าผม ไม่ใช่ฝักบัว” เทาจับมือฉันออกจากหน้าก่อนที่จะบังคับให้มาจับที่ฝักบัว ฉันรับมันมาถือไว้ก่อนจะกล่าวขอบคุณ “แต๊งกิ้ว”
“หมดธุระแล้วใช่มั้ย งั้นผมออกไปรอข้างนอกนะ”
“ดะ เดี๋ยว”
“...”
“อยู่อาบน้ำเป็นเพื่อนฉันก่อน”
“ห๊ะ?!”
“หมายถึงให้อยู่ในห้องน้ำเป็นเพื่อนกันก่อน อย่าเพิ่งออกไป...มันน่ากลัว -////-”
“...”
ดีนะที่มันมืดจนมองอะไรไม่เห็นฉันถึงไม่ต้องกังวลว่าเทาจะเห็นเรือนร่างและแก้มแดงๆ ของฉัน -/////- เรื่องนี้มันน่าอายจริงๆ นะ ปกติเพื่อนๆ ฉันจะคอยอยู่ใกล้ๆ เสมอถ้าไฟดับ แต่นี่กลับมาอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง
“อื้อ” เทารับคำสั้นๆ ก่อนที่จะถอยฝีเท้าออกไปสองสามก้าวก่อนจะรูดม่านแล้วออกไปรอด้านหลัง “ผมจะรออยู่ตรงนี้ คุณอาบน้ำไปเถอะ”
“อะ อื้อ -////-” ฉันคลำๆ ไปตามฝาผนังแล้วเปิดน้ำเพื่อให้เสียงน้ำทะลายความเงียบอันหน้าอึดอัดนี้
ซ่า~
บ้าจริง ฉันยังได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรัวๆ อยู่เลย โอ้ย…ทำไมมันเป็นแบบนี้ ตั้งแต่มาอยู่บนเกาะนี้ฉันควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเองไม่ได้เลยหรือว่าเป็นเพราะผู้ชายคนนั้น...ไม่จริง ต้องเป็นเพราะเกาะนี้มีเวทมนตร์ประหลาดๆ ที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วแน่ๆ
“เทา” ฉันเรียกเขาอีกครั้งหลังจากที่จัดการล้างฟองบนหัวเสร็จ วันนี้ไม่ถูสบู่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“หือ”
“นายอยู่ไหนอ่ะ”
“หลังม่าน”
“เอาผ้าเช็ดตัวให้หน่อยสิ อยู่แถวอ่างล้างหน้า”
“อือ”
หลังจากที่ลืมตาได้สักพัก สายตาฉันก็เริ่มปรับเข้ากับความมืดจนเห็นอะไรลางๆ แต่มันก็ไม่ชัดเจนอย่างมาก จะว่าไป...เทาจะเห็นเรือนร่างฉันหรือเปล่าเพราะเขาลืมตาอยู่ตลอดเลยหนิ
“อ่ะ” แขนข้างหนึ่งสอดเข้ามาผ่านม่านที่กั้นไว้แต่...
“ฉันขยับขาไม่ได้”
ขาสองข้างเหมือนถูกแช่แข็ง ฉันกลัวจนไม่กล้าที่จะขยับไปไหนเมื่อกี้ก็แค่ล้างๆ หัวแล้วก็หันไปปิดน้ำไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั้นเลย
“เฮ้ออออ~” เทาถอนหายใจก่อนจะที่รูดม่านออกไปทำให้ฉันเห็นเงาร่างสูงลางๆ
“หลับตาเลยนะ!” ฉันสั่งเสียงดังเพราะกลัวว่าเขาจะเห็นแม้ว่าบางทีเขาอาจะเห็นมันตั้งแต่ตอนแรกอยู่แล้ว ฮือ~ แย่แล้วฉัน
“ผมไม่เห็นอะไรหรอกน่า มันมืดจริงๆ”
“จริงเหรอ ?”
“คุณเห็นผมมั้ยล่ะ”
“เห็น”
“...”
“นายไม่เห็นจริงๆ ใช่มั้ย ?” ฉันคาดคั้นเขาอีกครั้งแต่เทาไม่ตอบแล้วเดินเข้ามาใกล้ก่อนที่จะจัดการเอาผ้าเช็ดตัวคลุมหัวฉันแล้วขยี้แรงๆ จนฉันเกือบเซ
“จริงๆ ก็เห็นลางๆ”
“!!!”
“รีบคลุมตัวซะจะได้ออกไปข้างนอก”
“เทา!!!”
“เอาน่า...ผมไม่บอกใครหรอกว่าคุณหุ่นดีมาก”
“เทา!!!”
ฉันดึงผ้าเช็ดตัวลงมาพันตัวไว้อย่างลวกๆ ด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีก่อนจะเงยหน้ามองเทาในความมืด นัยน์ตาสีเทาที่กำลังส่องประกายท่ามกลางสีดำทำให้ฉันรับรู้ว่าจุดไหนที่เขาอยู่ และก็เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้ฉันไม่สามารถละออกไปจากสิ่งแปลกตาท่ามกลางความมืดนี้ได้
ฉันเห็นตัวเองสะท้อนอยู่ในนัยน์ตาคู่นั่น...ดวงตาที่มีแต่ฉัน...
“...”
เราสองคนไม่มีใครพูดอะไร แต่ฉันรับรู้ถึงสัมผัสเบาๆ ที่เอวของตัวเอง มือทั้งสองข้างของเขาจับเข้าที่เอวฉันหลวมๆ โดยที่ดวงตาของเราสองคนยังคงถูกตรึงอยู่กับที่ ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามือทั้งสองของตัวเองไปวางอยู่บนไหล่กว้างนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้แม้กระทั้งผ้าที่กำลังจะหลุด
ประกายสีเทานั่นขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนลมหายใจร้อนๆ รดลงบนหน้าผากฉันและความร้อนนั่นเหมือนเป็นสัญญาณที่ทำให้สติฉันกลับมา...
“ผ้าฉันมะ...” ฉันกำลังจะบอกว่าผ้ามันใกล้จะหลุดแต่ถูกหยุดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำกึ่งขอร้องของเขาเข้าซะก่อน
“อย่าเพิ่งขยับ”
“...”
“ขออยู่แบบนี้สักพัก” พูดพร้อมกับมือรั้งเอวฉันให้เข้าไปใกล้จนสัมผัสกับความแข็งแกร่งใจกลางร่างผู้ชายที่กำลังดุนดันอยู่ช่วงหน้าท้องฉัน
“!!!”
“แค่แป๊บเดียว”
“!!!”
ฉันเบิกตาโตท่ามกลางความมืดเมื่อเทาก้มหน้าลงซุกกับไหล่ฉันก่อนที่จะรั้งทั้งร่างฉันเข้าไปกอดจนเนื้อแทบจะหลอมละลายเป็นหนึ่ง
“เทา...” ฉันพูดไม่ออกเมื่อเทาออกแรงรัดฉันไว้ในอ้อมกอดอย่างแนบแน่น มันทั้งตกใจ อายและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน
ฉันอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยอย่างนี้มันช่าง...-/////-
“ขอโทษ” เทาพูดโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตาฉัน เขายังคงซุกใบหน้าเขาที่ไหล่ฉันคล้ายกับกำลังรู้สึก...อ่อนแอ
ผู้ชายที่ทำร้ายฉันอย่างเทาเนี่ยนะกำลังอ่อนแอ...ฉันนึกหน้าเขาไม่ออกจริงๆ
“...”
“ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างในอดีต”
“...”
“ยกโทษให้ผมได้มั้ย...”
ฉันไม่ได้ตอบแต่กลับกอดเขาตอบเบาๆ แล้วลูบหลังร่างสูงขึ้นลงอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ตรงหน้า ฉันไม่ชอบเสียงหงอยๆ นั่นเลย มันทำให้ฉันรู้สึกแย่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะทำยังไงจริงๆ...ใจหนึ่งก็ไม่ได้โกรธเขาจนถึงขนาดยกโทษให้ไม่ได้ แต่อีกใจ...ฉันก็กลัวว่าตัวเองจะเจอเทาโหมดโหดร้ายอย่างในอดีตอีก
ร่างสูงในอ้อมกอดผ่อนแรงลงเล็กน้อยก่อนจะถอยออกมาสบตาฉันในความมืดที่มีแต่สีตาเขาสะท้อนเด่นอยู่ มือหนายังคงกอดเอวฉันไว้หลวมๆ
“นะซอลลี่ ผม...”
“...”
“...ชอบคุณ”
“!!!”
ฉันเบิกตามองเขาด้วยความตกใจ แม้จะมองอะไรไม่เห็นแต่รับรู้ได้ว่าคนตรงหน้าไม่ได้พูดเล่น แต่...
“เทา...ขยับออกไปก่อน”
“คุณบอกมาก่อนว่าจะยกโทษให้ผมหรือเปล่า” น้ำเสียงคาดคั้นทำให้ฉันต้องหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย หวังว่าเขาจะไม่เห็นมันนะ
“ปล่อยมือก่อนเพราะผ้า...”
“หือ ?”
“ผ้าเช็ดตัวฉัน...อ๊ะ!”
พรึ่บ
ไฟติดและ...
O_O
ฉันกับเทามองหน้ากันท่ามกลางแสงไฟสีนวลในห้องน้ำก่อนที่ฉันจะค่อยเลื่อนสายตาลงมองร่างตัวเอง ผ้าเช็ดตัวสีขาวไม่ได้ล่วงลงพื้นตามที่ฉันคิดเพราะมันติดลำแขนเทาที่อยู่ตรงเอว แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ...
“O_O!!” เทา
“กรี๊ดดดดดดดดดด!!”
หน้าอกช้านนนนนนนนนนนนนนนนน TOT
--------------------------------------
ไม่ช้าไปใช่มั้ยยยย ? คิคิ ตอนหน้าอาจะมาวันเสาร์อาทิตย์หน้าเลยนะคะ
ขอโทษจริงๆ เน้อ~ แบบว่ามีควิซเล็กน้อย
ขอบคุณที่สนใจรูปเล่มนะคะ เท่าที่นักดูมีประมาณสิบนิดๆ เอง
ไว้ถ้าตัดสินใจทำจริงๆ จะบอกอีกทีเน้อ
มีนักอ่านใจดีเต็มเลย ขอบคุณค่า~
มีคนจะช่วยพิสูจน์อักษรด้วย กราบขอบพระคุณอย่างสูงลิ้วววว~
ปล. ช่วงนี้มีความสุขเพราะเด็กดาวชนะรายการต่างๆ เป็นครั้งแรก^^
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านและทุกคอมเม้นต์ค่ะ
ความคิดเห็น