ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Exo fx ] It's over tonight

    ลำดับตอนที่ #20 : [[ It's over ]]: C T 18 // Up

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.02K
      5
      22 มิ.ย. 56

















     



              “...”

              “...”

              “...”

              “...”

     

              ไม่มีใครคุยกับใคร ไม่มีใครมองหน้าใคร ทั้งฉันและเทาต่างนั่งเกรงอยู่ในห้องนั่งเล่นท่ามกลางเสียงเครื่องปรับอากาศดังหึ่งๆ ภาพเหตุการณ์น่าขายหน้าในห้องน้ำเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วยังคงติดหัวอยู่ไม่หาย มันบ้าซะยิ่งกว่าบ้าที่ฉันมาแก้ผ้าต่อหน้าต่อตาเขา ไม่ต้องถามอะไรให้เปลืองน้ำลายฉันก็รู้ว่าเทาเห็นหน้าอกฉันไปเต็มๆ ตา  

              หลังที่ฉันโป๊ท่อนบนต่อหน้าเขาแล้วเทาก็รีบปล่อยแล้วรีบหันหลังก่อนที่จะเป็นฝ่ายออกไปจากห้องน้ำโดยที่ฉันไม่ต้องเอ่ยปากไล่ T_T พอฉันสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ (ไม่มีเสื้อผ้าเลยสักตัว) ออกมาด้านนอกโดยหวังว่าจะเคลียร์เรื่องในห้องน้ำกับเขา แต่เอาเข้าจริงฉันก็พูดไม่ออกเพราะมันอาย (มากๆ) .////.

              ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง

     

              “ฉัน...เอ่อ...เข้านอนก่อนนะ -////-” พูดสิ่งที่อยู่ในใจไม่ออกเลยเลือกที่จะเลี่ยงโดยการหลบเข้าห้อง ทำไมมันเกรงอย่างนี้~

              “อือ” เทาตอบเสียงนิ่งโดยที่ไม่หันมามองฉันเลยสักนิด เมื่อเห็นเขาไม่ห้ามอะไรฉันก็เลยลุกขึ้นยืนเดินตรงเข้าห้องนอน

     

              ฉันไม่น่ามานั่งตรงนี้เลยมันน่าอึดอัดกว่าตอนอยู่ในห้องน้ำสักอีก ฉันอายจนจะแทรกหน้าลงฟุบที่พื้นอยู่แล้ว ฮือออ~ น้องหน่มน๊มฉันไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป (?)

     

              “ซอลลี่” เพราะฉันมัวแต่คร่ำครวญเรื่องน่าอายเลยไม่ได้สังเกตว่าเทาเข้ามาในห้องนอนด้วย ฉันหลับตาลงสักวินาทีก่อนจะลืมตาขึ้นพร้อมกับหันไปมองเขาโดยที่พยายามไม่ให้เทาดูออกว่าฉันกำลังเขินสุดๆ

              “มีอะไร”

              “คือ...”

              “...”

              “เรื่องเมื่อกี้...”

              “...”

              “ที่ผมเห็น...เอ่อ...” เทาไม่พูดแต่ใช้สายตาสื่อโดยการมองต่ำลงมายังหน้าอกฉันแทน “ผมไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุ”

              “ฉันรู้” เพราะถ้ามันไม่ใช่อุบัติเหตุล่ะก็ฉันจะเอามีดอีโต้ในห้องครัวมาผ่าควักเอาลูกตาเขาออกมาปาลงทะเลให้ฉลามมันกินเล่น -_-

              “คุณไม่โกรธนะ” เทามองฉันอย่างกล้าๆ กลัว ฉันเลยพยักหน้ารับด้วยใบหน้านิ่งๆ พยายามควบคุมไม่ให้ตัวเองใจเต้นแรงหรือหน้าแดงอะไรทั้งสิ้น

              “จะไม่โกรธถ้านายแกล้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

              “ดะ ได้ ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”

              “อือ ขอบคุณ”

     

              ดีแล้วที่เป็นอย่างนี้...

     

              หลังจากฉันพูดคำนั้นทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง บรรยากาศอึดอัดยังคงเกาะตัวอยู่รอบๆ  เราสองคน มีเพียงแค่สายตาของฉันและเทาที่ประสานกันโดยต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่

              เทาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเป็นฝ่ายขยับเข้ามาใกล้

     

              “แล้ว...อีกเรื่องล่ะ ?

              “เรื่องไหน ?” ฉันแกล้งเป็นถามกลับอย่างใสซื่อ แต่จริงๆ แล้วฉันรู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร

              “ที่ผมขอโทษ...หายโกรธผมได้รึยัง”

              “ทำไมนายถึงอยากให้ฉันหายโกรธ...” ฉันต่อลองโดยหวังว่าเทาจะพูดคำๆ นั้นออกมาอีกครั้ง...คำๆ เดียวกับตอนที่อยู่ในห้องน้ำ

              “อย่างที่ผมเคยบอกคุณ”

              “บอกว่า ?

              “คุณก็ได้ยินหนิ” เทาขมวดคิ้วเล็กน้อย

              “อ่าห๊ะ”

              “แล้ว...”

              “ฉันลืมแล้ว”

              “...”

              “ไม่เป็นไรถ้านายไม่อยากพูด วันนี้ฉันเหนื่อยแล้วเอาไว้คุยกันพรุ่งนี้ก็...”

              “ผมชอบคุณ” เทาพูดขัดขึ้นสียงจริงจัง

              “!!!

              “ผมชอบคุณจริงๆ”

              “...”

              “ได้ยินชัดมั้ย ?

              “อะ อือ” ฉันพยักหน้าเบาๆ แล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างคนไม่รู้จะทำยังไง เรียกง่ายๆ ว่า เขิน

              “แล้วคำตอบ ?

              “จะให้ตอบว่าอะไร ?” ฉันถามโดยที่ไม่มองหน้าเทา

              “อะไรก็ได้”

              “...” ฉันหมุนตัวหันหลังให้เทาแล้วลอบหายใจเข้าลึกๆ ให้คลายความตื่นเต้นที่คับอกอยู่ขณะนี้

     

              ไม่ได้นะซอล...ผู้ชายคนนี้จะชอบเธอได้ยังไง เขาตั้งใจทำร้ายเธอมากี่ครั้ง ห้ามโอนอ่อนไปกับคำพูดชวนใจเต้นแรงนั่นเด็กขาด

             

              เทากับฉันเนี่ยนะจะรักกันได้...ฉันไม่เห็นอะไรที่เป็นเหตุผลให้เขาชอบฉันเลยสักนิด เราสองคนที่ทะเลาะกันเกือบตายเนี่ยนะ...จะเป็นไปได้ยังไง...

     

              “โกหก” พูดเสียงแข็งโดยที่หันหลังให้เทา ฉันวางมือทาบเนินอกตำแหน่งเดียวกับก้อนเนื้อที่กำลังเต้นตุบๆ คล้ายจะระเบิดแล้วกดลงเบาๆ หวังให้มันสงบลงบ้าง

              “...”

              “อย่าพูดจาบ้าๆ แบบนี้อีกถ้านายไม่คิดจริงจัง” ฉันกล้ำกลืนความรู้สึกอ่อนไหวต่างๆ ลงคอแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

              “...”

              “ฉันไม่เคยลืมใบหน้าสะใจตอนนายผลักฉันลงน้ำหรอกนะเทา ทุกคำพูดทุกการกระทำที่ต่อว่าฉันในวันนั้นอย่าคิดว่าจะลบมันได้ง่ายเพียงแค่คำว่าขอโทษ”

              “ซอลลี่...” เทาเหมือนจะพูดอะไรขึ้นมาแต่ก็ถูกฉันขัดเข้าซะก่อน

              “อีกไม่นานเราก็จะถอนหมั้นกัน...ถึงวันนั้นเราสองคนคงมีความสุขที่ได้เป็นอิสระ นายก็จะได้ไปอยู่กลับผู้หญิงคนนั้นของนายโดยไม่มีฉัน ฉันเองก็จะได้หาแฟนหล่อๆ สักคน”

              “!!!

              “นี่แหละคำตอบของฉัน”

              “ทำไม...”

              “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็เชิญออกไป ฉันขอนอน” ฉันไม่ได้หันหลังไปมองเทาเลยว่าเขาเป็นยังไงบ้างตอนได้ยินฉันพูด แต่ฉันรู้สึกถึงความผิดหวังที่ทิ่มแทงแผ่นหลังอยู่ทุกย่างก้าวขณะที่สองเท้ากำลังขยับขึ้นเตียง “...สำหรับเรื่องวันนี้ขอบคุณมาก”

              “ต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อ” เขาพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหยุดยืนปลายเตียง ใบหน้าคมกำลังบิดเบี้ยวจนเดาไม่ออกว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร

     

    โกรธ...เสียใจ...ไม่พอใจ...?

     

     “คุกเข่าให้ก็แล้ว ขอโทษก็แล้ว ทำดีกับคุณสารพัดมันยังไม่พออีกใช่มั้ย”

     

              มันไม่ใช่น้ำเสียงเกรี้ยกราดดังเช่นในอดีตหากแต่เป็นน้ำเสียงผิดหวังหรือแม้กระทั่งตัดพ้อ...

     

              “...” ฉันพูดไม่ออกได้แต่หลบสายตาเทาไปที่เตียงสีขาวแล้วล้มตัวลงนอนไม่สนใจร่างสูงที่ทอดสายตาลงมาคล้ายคนกำลังเสียใจ

     

              ผู้ชายอย่างเทาเนี่ยนะจะเสียใจ...ฉันไม่อยากเชื่อ

     

              “เราไม่ต้องคืนดีกันหรอก...เพราะยังไงสักวันเราก็ต้องแยกกันอยู่ดี” พลิกตัวนอนตะแคงใช้มือหนุนหัวแล้วเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าสีดำสนิทผ่านหน้าต่างบานใหญ่

              “ถ้าผมบอกว่าผมไม่อยากแยกกับคุณล่ะ”

              “ฉันไม่เชื่อ” ฉันตอบกลับทันทีไม่รอให้ต้องคิดด้วยซ้ำ

              “ผมบอกว่าชอบคุณคุณก็ไม่เชื่องั้นเหรอ”

              “มันไม่มีเหตุผล”

              “...”

              “เราไม่เคยทำดีให้กัน คนอย่างนายจะมาชอบฉันได้ยังไง”

              “คุณคงเกลียดผมมากถึงได้คิดยังงี้”

              “...” ความเงียบของฉันเป็นการตอบรับคำพูดเขาได้อย่างดี

              “เข้าใจล่ะ”

              “...”

              “แต่ผมไม่ยอมหรอกนะซอลลี่...คุณหมั้นกับผมแล้วเพราะฉะนั้นผมไม่มีวันปล่อยผู้หญิงของตัวเองไปแน่ๆ”

              “...”

              “สักวันคุณจะต้องตกหลุมรักผม...เชื่อสิ”

     

              ปัง

     

            แม้เสียงประตูจะบ่งบอกว่าผู้ชายคนนั้นได้ออกไปแล้ว แต่น้ำเสียงจริงจังและเด็ดเดี่ยวจากเจ้าตัวก็ยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทไปมาจนฉันไม่สามารถข่มตาลงนอนได้ คำประกาศก้องปราศจากแววล้อเล่นทำให้ฉันขนลุกขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

     

              สักวันคุณจะต้องตกหลุมรักผม...เชื่อสิ

     

              ฉันว่าไม่ใช่สักวันหรอกจื่อเทา...เพราะแค่วันนี้ฉันก็คิดว่าตัวเองเทใจให้เขาแล้ว

     

     

     

     

    ------------------------------

     

             

             

               

              Kai’s part

     

     

              ความร้อนจากร่างกายเปลือยเปล่าของผมและจูเนียลที่กำลังสัมผัสกันอยู่นั้นทำให้เหงื่อผุดขึ้นมาตามไรผมของร่างบาง มือข้างหนึ่งที่ว่างอยู่เอื้อมไปปาดเม็ดเหงื่อที่เกิดจากบทเพลงสวาทของเราสองคนออกไปอย่างไม่รังเกียจ

     

              “พี่ไค...อื้อ” เสียงแหบพร่าจากปากงามเรียกรอยยิ้มมุมปากจากผมได้เป็นอย่างดี  ยิ่งเมื่อสะโพกสอบกระแทกลงบนร่างบางอย่างแรงเป็นจังหวะรัวๆ เพิ่มความเสียวซ่านให้กับร่างน้อยจนเธอถึงกับตาลอยคว้างคล้ายคนขาดสติ

              “อีกนิดเดียว...อ๊ะ”

     

    มือทั้งสองข้างเลื่อนต่ำลงมายังสะโพกแล้วจับให้ยกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกระหน่ำสะโพกลงกระแทกอย่างดุดันหากแต่แฝงไปด้วยความเร่าร้อนทำให้หญิงสาวต้องร้องครางเสียงดังแข่งกับเสียงเนื้อกระทบเนื้ออย่างห้ามไม่อยู่

     

    “พี่ไค...อ๊ะ...อ๊า!!” เสียงหวีดร้องดังขึ้นพร้อมกับร่างบางใต้ร่างเกรงกระตุกสองสามทีหลังจากที่ส่งสาวเจ้าแตะสวรรค์เป็นที่เรียบร้อย ผมก้มหน้าลงจูบปากที่กำลังหายใจหอบอย่างดุเดือด ลิ้นเล็กพัวพันกับลิ้นหนาอย่างไม่มีใครยอมใครพร้อมกับสะโพกสอบที่กระแทกเข้าหาให้จมลึกจนมือเล็กต้องจิกลงบนไหล่กว้างคล้ายเป็นการลงโทษที่ผมแกล้งเธอ

    “อื้อ...อ่า...”

     

    ณ จุดแห่งความเสียวซ่านใบหน้าหยิ่งๆ และสายตาเย็นยะเยือกลอยเข้ามาในหัวผม...

     

    “อ่ะ พี่ไค...พอแล้วค่ะ ครั้งที่สี่แล้วนะ” จูเนียลร้องบอกอย่างเอียงอายเมื่อผมเริ่มขยับกายที่ยังคงฝังลึกในร่างบาง

     “ขออีกครั้ง” พูดจบก็จัดการจูบปิดปากจูเนียลทันที

     

    มันน่าโมโหสุดๆ เพราะไม่ว่าจะร่วมรักกับจูเนียลที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนผมอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้ง...ใบหน้าผู้หญิงอีกคนก็จะตามมาหลอกหลอนเป็นอันให้ผมต้องหงุดหงิดทุกครั้งไป

     

    “อือ~” ผมสะบัดหัวไล่ภาพใบหน้าหยิ่งๆ นั่นออกจากหัวแล้วจัดการระบายอารมณ์ลงบนคนตัวเล็กเป็นครั้งที่สี่

     

    หึ...เห็นมั้ยคริสตัล ? คุณเองก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับผมมากนักหรอก...

     

     

     

     

    ------------------------------------

     

     

     

     

    Sulli’s part

     

     

    “ฉันอยากกลับแล้ว” พูดพร้อมกับกอดอกบอกเทาที่นั่งอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่บนโซฟา และนี้เป็นครั้งที่สี่แล้วที่ฉันบอกเขาว่าอยากกลับบ้าน แต่อีกฝ่ายดันทำเป็นไม่ได้ยินซะงั้น “จื่อเทา! ฉันพูดกับนายอยู่นะ”

              “...”

     

    เงียบ...

     

    เมื่อความอดทนถึงขีดสุดฉันเลยดึงหนังสือออกจากมือเขาแล้วขว้างมันไปไกลอย่างโมโห เทายอมเงยหน้าขึ้นมาฉันก่อนจะขยับปากถามอย่างกวนอวัยวะเบื้อล่าง

     

    “ผมนึกว่าคุณไม่อยากคุยกับผมซะอีก”

    “ฉัน-อยาก-กลับ-บ้าน” ฉันบอกเน้นย้ำทีล่ะคำอย่างชัดถ้อยชัดคำโดยไม่ตอบคำถามเทา

    “ผมยังไม่อยากกลับ” เทาตอบหน้าตายพร้อมกับมองฉันอย่างกวนประสาท

    “นี่!

    “น้ำมันหมดกลับไม่ได้ ถ้าอยากกลับก็ว่ายน้ำข้ามฝั่งไปเองสิ”

    “ตาบ้า! ฉันว่ายน้ำเป็นที่ไหนเล่า”

     

    เหอะ ผู้ชายคนนี้เป็นคนเดียวกับที่บอกว่าชอบฉันจริงเหรอเนี่ย! ถ้าไม่ได้ยินกับหู ไม่เห็นกับตานี่ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด

     

    “ช่วยไม่ได้ คงต้องรอให้มีคนมาช่วยแต่คงอีกนานเพราะที่เกาะนี้ไม่มีโทรศัพท์”

    “อะไรนะ?!

    “เฮ้อ~ อากาศดีๆ อย่างนี้ไปว่ายน้ำกันมั้ยคุณ” เทาถามพลางหยัดตัวขึ้นยืนแล้วชูแขนสองข้างบิดตัวไปมายึดเส้นยึดสาย

    “ไม่! ฉันจะไปเรียกให้คนมาช่วย” พูดจบก็หันหลังให้เขาอย่างโมโห แต่เทาก็ตามมาจับไหล่ฉันไว้ ก่อนจะออกแรงดึงให้หันกลับไปเผชิญหน้าเขา

    “มันไม่มีประโยชน์หรอกน่า~ คุณก็เห็นว่ารอบด้านมีแต่น้ำทะเล อย่าทำตัวเหมือนเด็กๆ ที่ทำตามวิธีบ้าๆ ในหนังหน่อยเลย”

    !!!

    “มากับผมนี่...จะสอนว่ายน้ำให้”

    “ไม่ไป ปล่อย!” ฉันว่าพลางสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของเทา ร่างสูงส่ายหัวเล็กน้อยคล้ายกับรำคาญฉันก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายออกแรงลากให้ฉันเดินตามเข้าไปหลังบ้านที่เป็นส่วนของสระว่ายน้ำในร่ม “ไม่ว่ายนะ ปล่อย!

    “ถ้าไม่ว่ายจะทำอะไร” คนตัวสูงหยุดเดินกะทันหันแล้วหันมามาถามฉัน

    “ฉันจะไปนอน”

    “นอน ? ไม่เอาน่า ผมรู้ว่าคุณนอนไม่หลับหรอก ในหัวคุณคงคิดถึงแต่คำสารภาพของผมล่ะสิ”

    “นะ นาย...”

     

    ตาบ้านี่รู้ได้ไงว่าเมื่อคืนฉันไม่ได้นอน แล้วดูยังมีหน้ามียิ้มเยาะอีก! ต้นเหตุก็มากคำพูดของเขานั่นแหละ ชิ!

     

    “ผมเองก็นอนไม่หลับ...เพราะมัวคิดหาวิธีทำให้คุณตกหลุมรัก”

    “ไม่มีทาง!

    “หึๆ เดี๋ยวก็รู้”

    “ถ้าต้องรักคนอย่างนายให้ฉันกระโดดลงน้ำฆ่าตัวตายเสียดีกว่า”

    “งั้นเหรอ...” เทาเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนที่เขาจะทำสิ่งที่ไม่คาดคิดนั่นคือตวัดวงแขนอุ้มฉันด้วยสองแขนแกร่งก่อนที่จะโยนลงน้ำ...

     

    ตู้ม!!

     

    O_O

     

    ฉันตกถึงขีดสุดเพราะไม่คิดว่าเทาจะโยนฉันลงน้ำทั้งที่รู้ว่าฉันว่ายน้ำไม่เป็น สองมือตะเกียกตะกายคล้ายเวลาลูกหมาตกน้ำพลางเชิดหน้าขึ้นกอบโกยเอาออกซิเจนเข้าปอด

     

    ตู้ม

     

     

              “มานี่มา”  เสียงทุ้มต่ำจากคนใจร้ายมาพร้อมกับมือหนาที่จับเข้าที่เอวบางแล้วดึงฉันให้เข้าไปใกล้เขา เทารวบเอวฉันไว้ด้วยแขนข้างเดียวโดยที่อีกข้างยกขึ้นมาใช้มือปาดหยดน้ำตามใบหน้าฉันให้ออกไป

              “แค่กๆ อะ แค่ก ไอ้บ้า” ฉันไอแค่กๆ พร้อมกับทุบไหล่หนาอย่างแรงแต่เทาไม่สะทกสะท้าน เขาปล่อยให้ฉันลงแรงบนไหล่เขาโดยที่ไม่ได้ห้าม

    “ฝึกไว้หน่อย เผื่อตกน้ำไปแล้วผมไม่ได้อยู่ตรงนั้นคุณจะได้ช่วยตัวเองได้”

    “นายต่างหากที่น่ากลัว!

    “...”

    “คอยดูนะกลับไปเมื่อไรฉันจะถอนหมั้นนาย” มือสองข้างที่กำลังทำร้ายไหล่หนาหยุดลงแล้วเปลี่ยนมาเป็นเกาะไว้แทน แต่ถึงกระนั้นดวงตาที่กำลังวาวโรจน์ด้วยเพลิงโทสะยังคงทอดไปยังนัยน์ตาสีเทาเบื้องหน้า

    “ซอลลี่ ผมบอกว่าขอโทษไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ!” น้ำเสียงตะคอกกลับมาพร้อมกับแววตาดุดันที่เริ่มทอประกายความไม่พอใจ

    “รู้เรื่องแต่ไม่ฟัง! ไหนนายบอกว่าชอบฉันไง...แล้วดูสิ่งที่นายทำสิ!

     

    แทนที่เทาจะมีสีหน้าสำนึกผิดเขากลับทำสิ่งตรงกันข้ามนั่นคือการยักไหล่ด้วยใบหน้าเรียบเฉย

     

    “ก็คุณมันพูดไม่รู้เรื่อง”

     

    วงแขนทั้งสองข้างของเขากระชับร่างฉันให้แนบชิดติดกันมากขึ้น ฉันเองก็ไม่กล้าปล่อยมือที่เกาะไหล่หนาอยู่เพราะกลัวจะจมน้ำ

     

    “เหอะ” ฉันเบ้ปากพ่นลมก่อนจะเบือนหน้าหนีดวงตาดุจพญาเหยี่ยวไปอีกทาง สองมือที่โอบเอวฉันไว้ขยับเล็กน้อย ฉันถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าเทากำลังสัมผัสเนื้อแท้ของฉันอยู่เพราะเสื้อยืดบางๆ ถูกแรงดันของน้ำเลิกขึ้นจนเกือบถึงหน้าอก

    “ถ้าคุณยังดื้อผมจะจับคุณกดน้ำ”

     

    ตวัดสายตามองเทาอย่างโมโหแต่เขากลับทำหน้านิ่งอย่างไม่สะทกสะท้านก่อนจะขยับตัวไปอยู่ริมขอบสระพร้อมกับสั่งฉัน

     

    “เอามือสองข้างจับขอบสระไว้”

    “...” ฉันไม่ขยับและยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากไหล่เทา จะว่าไม่อยากทำตามที่เขาสั่งก็ใช่ กลัวจมก็ใช่เช่นกัน

    “เร็วสิ” ทำสั่งเสียงดุก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งดึงมือที่เกาะไหล่เขาออกแต่ฉันขืนไว้สุดแรง เทาเลยต้องยอมแพ้

    “ไม่เอา นายอยากว่ายก็ว่ายเองสิ ฉันจะขึ้นจากน้ำ”

    “...”

    “พาฉันขึ้นข้างบนเดี๋ยวนี้!!” ตะคอกใส่อย่างเด็กเอาแต่ใจพร้อมกับมองเขาอย่างตำหนิแต่เทากลับทำสิ่งตรงข้ามกับที่ฉันสั่ง เขาค่อยๆ ปล่อยเอวฉันออก “อย่านะ!

     

    ด้วยความที่กลัวว่าจะจมน้ำหากไม่มีที่ยึดฉันเลยตะหวัดขาสองข้างเกี่ยวสะโพกร่างสูงพร้อมกับแขนที่โอบรอบคอเขาแน่น กลายเป็นว่าตอนนี้ฉันเป็นฝ่ายติดหนึบเขาแทน

     

    “หึๆๆ”

    “ฉันเกลียดนาย”

    “เกลียดผมแต่เกาะผมแน่นขนาดนี้เนี่ยนะ”

    “ก็ไม่อยากจะเกาะมากนักหรอกย่ะ” ฉันเบ้หน้าใส่เทาที่กำลังยกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างมีชัย ฉันล่ะอยากเอามือตบหน้าเขาจริงๆ เลยให้ตายสิ

    “โอเค...ไม่แกล้งแล้วแต่คุณต้องหัดว่ายน้ำ เผื่อคุณเผลอตกน้ำแล้วผมไม่อยู่จะได้ไม่ตาย ผมไม่อยากเป็นพ่อหม้ายหรอกนะ”

    “ใครบอกว่าฉันจะแต่งงานกับคุณ”

    “หัวใจผมบอก”

    “แหวะ”

     

    เขากล้าพูดเรื่องแบบนี้หน้าตายได้ยังไง ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หน้าด้านเป็นที่สุด...

     

    จุ๊บ

     

    O_O

     

    ฉันมองคนที่ขโมยริมฝีปากฉันตาโต เทายักคิ้วข้างหนึ่งอย่างกวนประสาทพร้อมกับคำพูดที่ชวนให้น่าโดนตบ

     

    “ถ้าคุณยังเถียงอีกคืนนี้ผมจะปล้ำคุณ”

    O_O!!

    “หรือว่าจะทำที่นี่ดี...” ร่างสูงไม่เพียงแต่เอ่ยปากเปล่าแต่สายตาคมยังก้มลงต่ำมองหน้าอกผ่านเสื้อยึดตัวบางที่แนบไปกับเนินอกของฉัน ยิ่งไปกว่านั้นเสื้อสีอ่อนที่ใส่อยู่แทบไม่ช่วยปกปิดบราเซียร์ไร้สายสีขาวที่ใส่อยู่เลยสักนิด “ภาพเมื่อวานยังติดตาผมอยู่เลย”

    “นะ นาย...” ฉันอ้าปากพะงาบๆ

    “เริ่มจากเตะขาก่อนดีมั้ย ? …หรือจะจูบก่อนดี”

    “...” ฉันกัดริมฝีปากที่ถูกเขาประทับรอยไว้เมื่อสักครู่ก่อนจะยอมพยักหน้าลงอย่างว่าง่าย “เตะขา”

    “หึๆ”

    “ขึ้นไปได้เมื่อไหร่ฉันจะจัดการนายคอยดู!

    “หึๆ”

     

    ฉันจะบ้าตาย...บ้าๆๆ ทำไมต้องใจเต้นกับสิ่งที่ยังไม่สามารถเรียกว่าจูบได้ด้วยซ้ำ...-//////-

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    5 ชั่วโมงต่อมา

     

     

              เสียงถอนหายใจออกคล้ายคนหมดอาลัยตายอยากบนโลกใบนี้ถูกปล่อยออกมาไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง ฉันนั่งขดตัวในผ้าห่มสีขาวผืนใหญ่โดยที่ภายใต้ไร้ผ้าใดๆ ปกปิด ชุดเดียวที่ฉันมีให้สวมใส่บนเกาะแห่งนี้ก็ถูกตากไว้ริมระเบียงรวมทั้งชุดชั้นในของตัวเองด้วย และเพราะเหตุนั้นฉันถึงต้องมานั่งอุดอู้อยู่ในห้องนอนเกือบชั่วโมงแล้ว

     

              เฮ้อ~

     

              “จะถอนหายใจสักพันครั้งเลยมั้ย”

     

              น้ำเสียงกวนประสาทจากคนใจร้ายเรียกให้ฉันหันไปมอง เมื่อเห็นร่างสูงที่สวมเพียงกางเกงขาสั้นสีดำยืนล้วงกระเป๋าทั้งสองข้างกำลังเดินมาทางเตียงที่ฉันอยู่ ฉันก็รีบรวบผ้าห่มเข้าหาตัวทันที

     

              “...” มองเขานิ่งๆ ไม่กี่วินาทีก็ละสายตาไปทางอื่น

     

              หึ มันน่าเจ็บใจนักที่ฉันถูกเขาบังคับให้ฝึกว่ายน้ำตั้งหลายชั่วโมง แม้ว่าตอนนี้ฉันจะลอยตัวในน้ำได้แล้วแต่ฉันก็ไม่ขอบคุณเขาหรอกนะ นายคนนี่แทบจะจับฉันกดน้ำด้วยซ้ำเวลาฉันคิดหนีขึ้นฝั่ง

     

              “ไม่หนาวหรือไง เปิดแอร์ซะเย็นเชียว”

              “ไม่ ออกไป ฉันอยากอยู่คนเดียว”

              “...”

              “...”

     

              แม้ไม่ได้สบตากันและกันแต่ความเงียบที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดจนไม่รู้จะทำหน้ายังไง เมื่อนึกถึงริมฝีปากนุ่มของเขาที่สัมผัสริมฝีปากฉันอยู่หลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เราสองคนขึ้นมาบนเกาะนี้ หัวใจก็พลันเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ กลัวว่าหากต้องมองหน้าเขาอีกสักนิด ฉันจะใจอ่อนยอมคืนดีกับเขา

     

              “ไม่นี่มา” ร่างสูงไม่สนใจสิ่งที่ฉันพูด เขากลับเดินตรงเข้ามาแล้วจับข้อมือฉันก่อนจะฉุดให้เดินตามเดือดร้อนฉันที่มีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่คลุมร่างต้องรีบรวบผ้าไม่ให้หลุด

              “ไปไหน ฉันเหนื่อยแล้วนะ”

              “...”

     

              เทาไม่ตอบแต่ลากฉันออกจากบ้านหลังโตไปยังหาดทรายสีขาว ท้องฟ้าสีหม่นบ่งบอกว่าพระอาทิตย์กำลังตกดิน ลมโหมแรงพัดกระหน่ำเราสองคนจนเส้นผมตีหน้าไปมาอย่างน่ารำคาญ เมฆครึ้มลอยเข้ามาใกล้เรื่อยๆ พร้อมกับพายุฝนกำลังจะเข้ามาแทนที่ในอีกไม่กี่ชั่วโมง

     

              “ฝนจะตกแล้ว นายจะพาฉันออกมาข้างนอกทำไม”

              “คุณอยากกลับนักไม่ใช่เหรอ” เทาพูดโดยที่ไม่หันมามองฉัน เขายังคงจูงฉันให้เดินลุยน้ำไปยังเรือที่จอดเทียบชายฝั่งไว้

             

              ฉันฝืนตัวด้วยแรงทั้งหมดที่มีเพื่อให้เขาหยุด และก็ได้ผล เทาหยุดก่อนจะตวัดสายตาเย็นชามาทางฉัน

     

              “จะบ้าเหรอ ออกเรือตอนนี้นายไม่เห็นหรือไงว่าพายุจะเข้า แล้วไหนบอกว่าน้ำมันหมดไง!” ฉันตะคอกเขากลับอย่างโมโห ผู้ชายคนนี้นี่ต้องการอะไรกันแน่ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พอฉันบอกอยากกลับไม่ให้กลับ พอฉันไม่พูดด้วยก็ลากให้ไปนู้นไปนี่อย่างเอาแต่ใจ

              “ก็คุณอยากกลับนี้”

              “ใช่ ฉันอยากกลับ กลับแบบสบายๆ ไม่ใช่ไปตายกลางทะเลกับนาย!” ฉันเพิ่มระดับเสียงเมื่อลมแรงๆ ปะทะเข้าใบหน้าเราสองคน น้ำทะเลเย็นๆ ที่ข้อเท้า

              “...”

     

              ลมพายุโหมกระหน่ำตามอารมณ์ของเราสองคน เส้นผมปลิวว่อนอย่างหน้ารำคาญแต่ฉันก็ไม่สนใจที่จะจับมันทัดหู มองสบตากับนัยน์ตาสีเทาอย่างเดือดดาล นึกถึงสิ่งที่เขาทำร้ายพร้อมกับความอบอุ่นที่ละลายหัวใจฉันมันทำให้ฉันโมโหตัวเองจนอยากจะกัดลิ้นให้ตายไปซะ!

    และเป็นฉันเองที่ยอมแพ้ดวงตาคม ปิดเปลือกตาลงพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับเตือนสติตัวเอง

     

    ฉันกับเขาไม่มีวันญาติดีกันได้...

     

              “ปล่อย” พูดพร้อมกับสะบัดแขนข้างหนึ่งให้หลุดจากการเกาะกุม เทาเองก็ยอมปล่อยอย่างว่าง่าย บางทีเพราะเขาคงกำลังตกใจกับท่าทีแข็งกร้าวของฉันตอนนี้ก็ได้

     

              คำว่า ชอบ ของเขามันทำให้ฉันหวั่นไหวอย่างไม่ควร...

     

              ฉันไม่ควรเป็นแบบนี้...

     

              มือสองข้างรวบผ้าห่มเข้าหาตัวแน่นเพราะลมแรงๆ กำลังทำให้ฉันตัวสั่นเบาๆ ร่างสูงที่มีเพียงเสื้อผ้าติดตัวอยู่ชิ้นเดียวดูไม่สะทกสะท้านกับอะไรทั้งปวง...ดวงตาแข็งกร้าวที่กำลังมองมา มันทำให้ฉันตัวสั่นอย่างบอกไม่ถูก

     

              “ถ้าคุณอยากเลิกกับผมนักก็ถอดแหวนทิ้งไปเลยสิ”

              “!!!

              “เพราะแหวนนั้นเป็นสิ่งที่มัดเราสองคนไว้ด้วยกัน...อยากเลิกนักก็ถอดมันทิ้งไปซะ”

              “!!!

              “หากคุณยังสวมไว้...ผมจะถือว่าคุณเองก็มีใจให้ผม”

     

              คำพูดถือดีจากปากร่างสูงมันทำให้ในใจฉันเดือดปุดๆ จนแทบระเบิด ยิ่งเมื่อเทาเดินผ่านฉันกลับเขาฝั่งโดยไม่ลืมทิ้งสายตาดูแคลนไว้ให้ มันทำให้ฉันหมดความอดทน!

     

              เฟี้ยว~

     

            เสียงสิ่งของลอยปะทะลมข้ามหัวเทาแล้วตกลงบนพื้นทรายทำให้ขาสองข้างของเทาหยุดชะงัก

              ฉันเดินตามเขาไปก่อนจะหยุดยืนอยู่ข้างๆ มองแหวนที่จมพื้นทรายด้วยสายตาเรียบเฉย

     

              “...”

              “แหวนนั่นไม่มีความสำคัญอะไรกับฉันเลยสักนิด”

    “...”

    “เราสองคนไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีก”

              “...”

              “นายท้าคนผิดแล้ว...จื่อเทา”

     

              เปรี้ยง!

     

            เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นทันที่ฉันพูดจบประโยค ขาสองข้างก้าวยาวเข้าบ้านโดยไม่ได้สนใจผู้ชายเบื้องหลังเลยสักนิด...

     

     

     

     

     

     

     

     

    1 ชั่วโมงต่อมา

     

     

    ซ่า~

     

    เสียงสายฝนที่กำลังโปรยปรายอยู่ด้านนอกมากว่าชั่วโมงทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ฉันปาแหวนทิ้งไปก็ยังไม่ได้เจอเทาเลย เขาไม่ได้เข้ามาหาฉันดั่งเช่นทุกครั้ง และไม่มีทางที่ฉันจะเป็นฝ่ายไปหาเขาก่อนแน่ๆ

     

    เฮ้อ~

     

    ไม่รู้ว่าวันนี้ฉันถอนหายใจครั้งที่เท่าไหร่แล้ว อาจจะเป็นพันครั้งแล้วล่ะมั้ง มันช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะฉันรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเมื่อตอนเย็น...

     

    ฉันงี่เง่าเกินไป...ทั้งที่เทาพยายามทำดีด้วยแล้วแต่ฉันก็ยังอคติ

     

    “ไปขอโทษดีมั้ยนะ”

     

    ฉันลุกขึ้นยืนเดินไปหยุดตรงริมหน้าต่างบานใหญ่ที่ไร้ซึ่งผ้าม่านใดๆ มาขวางกั้นเม็ดฝนที่โหมกระหน่ำอย่างหนัก ท้องฟ้ายังคงคำรามอย่างน่ากลัวจนฉันไม่คิดอยากจะออกไปด้านนอกเลยสักนิด

     

    แหวนฉันคงถูกน้ำทะเลกับน้ำฝนพัดหายไปไกลแล้วล่ะมั้ง...

     

    !!!

     

    สายตาฉันถูกแช่แข็งเมื่อเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่บริเวรที่เคยเป็นชายหาดเพราะบัดนี้น้ำทะเลที่ยกตัวสูงขึ้นเข้ากลืนผืนทรายไปเกือบหมด

     

    หวังจื่อเถา!

     

    “ตาบ้านั่นไปทำอะไรตรงนั้น...”

     

    อย่าบอกนะว่า...

     

    มือข้างขวาลูบนิ้วนางข้างซ้ายที่เคยมีแหวนเพรชประดับไว้ด้วยความรู้สึกใจหาย ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเห็นว่าเทาก้มๆ เงยๆ แล้วเตะน้ำไปทั่วคล้ายคนบ้าอยู่กลางผืนน้ำท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำลงมา หัวใจเต้นรัวด้วยความกังวลว่ามันจะเป็นอย่างที่คิด ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองมาหยุดยืนอยู่ตรงประตูบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อสัมผัสโลหะเย็นๆ สติฉันก็กลับมา

     

    ฉันกำลังทำอะไร...

     

    เขาจะเป็นอะไรก็เรื่องของเขาสิ...

     

    เม้มริมฝีปากอย่างคนคิดไม่ตกก่อนที่จะยอมละมือที่จับลูกบิดอยู่ออกจากนั้นก็ค่อยๆ ถอยหลังกลับขึ้นห้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ทำเหมือนว่าฉันไม่เห็นอะไร...ทำเหมือนว่าฉันไม่รู้สึกอะไร...

     

     

     

     

    ----------------------------------------------

     

     

     

     

    Krystal’s part

     

     

    20.00 น.

     

    มือกดรหัสประตูบ้าน...ไค ช้าๆ ในใจก็หวังว่าเขาจะยังไม่เปลี่ยนรหัส

     

    กึก

     

    เสียงปลดล็อกเรียกรอยยิ้มจากฉันได้เล็กน้อยเพราะว่ารหัสที่ตั้งไว้คือ 1024 ซึ่งเป็นวันเกิดของฉันเอง

    ภายในบ้านเปิดไฟทิ้งไว้แต่ดันเงียบราวกับไม่มีใครอยู่ ไคอาจจะอยู่ในห้องเขาเพราะฉันเห็นรถของไคจอดอยู่ในโรงจอดรถ ฉันถอดรองเท้าส้นสูงออกเพื่อเปลี่ยนมาใส่สลิปเปอร์แทนแต่ดันเห็นรองเท้าผ้าใบสีชมพูของผู้หญิงวางทิ้งไว้

    ถึงแม้ฉันจะยังไม่ได้เก็บของกลับคอนโดตัวเองแต่ก็มั่นใจว่าไม่เคยมีรองเท้าผ้าใบสีแบบนี้แน่นอน ความคิดบางอย่างวูบเข้ามาในหัว...

     

    “จูเนียล...” ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะไม่คิดใส่ใจอะไร ต่อให้ไคจะพาผู้หญิงคนไหนเข้ามามันก็เรื่องของเขา

     

    เนื่องจากวันนี้ฉันว่างเลยกลับมาเก็บของที่เคยเอามาทิ้งไว้บ้านไคกลับ ทุกสิ่งในห้องยังเหมือนเดิมคล้ายกับเจ้าของบ้านไม่ได้มายุ่งกับมัน ฉันดึงกระเป๋าลากออกจากตู้เสื้อผ้าแล้วจัดการเก็บสิ่งของทุกอย่างอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักทุกอย่างก็ถูกจัดการรวบลงกระเป๋าลากใบใหญ่ได้หมด ขณะที่ฉันกำลังปิดซิบกระเป๋าเสียงเปิดประตูด้านหลังก็ทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย...

     

    “คริสตัล”

    “...”

     

    ฉันจับกระเป๋าลากแล้วมองหน้าไคที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีน้ำเงินตัวเดียวกับที่ฉันเห็นหลังจากตื่นขึ้นมาถูกเขาหลอกว่าเราสองคนมีอะไรกันแล้ว...

     

    “ฉันมาเก็บของ”

    “...”

     

    เราสองคนมองหน้ากันนิ่งๆ จากนั้นฉันก็เมินเขาด้วยการลากกระเป๋าจะออกจากห้องแต่เมื่อถึงจุดที่ไคยืนอยู่เขากลับรั้งข้อศอกฉันไว้

     

    “มีอะไรจะบอกผมหรือเปล่า”

    “...”

    “ผมให้โอกาสคุณนะ”

     

    ฉันขมวดคิ้วกับคำพูดแฝงความนัยแต่ก็ไม่ถามอะไรออกไปแล้วดึงข้อศอกตัวเองกลับเข้ามา

     

    “ดูเหมือนคุณเพิ่งขึ้นเตียงมาสินะ”

    !!!

    “อย่ามาโดนตัวฉันเพราะมัน...น่ารังเกียจ”

    !!!

    “พี่คริสตัล”

     

    ฉันละสายตาจากพื้นพรมขึ้นมองร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำเช่นเดียวกับไคเพียงแต่เป็นสีขาว เส้นผมดูกระเซอะกระเซิงและลำคอขาวเนียนมีร่องรอยแห่งความใคร่ปรากฏไว้เป็นจ้ำๆ

     

    “สวัสดี” ฉันเอ่ยทักเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย แวบแรกจูเนียลมองมาทางฉันอย่างตกใจแต่ต่อมาดวงตาคู่ใสก็ฉายแววสะใจก่อนที่เธอจะเชิดหน้าขึ้นสูงคล้ายกับประก้าวให้ฉันรู้ว่าเธอเป็นของไคแล้ว

    “ไม่คิดเลยนะคะว่าพี่คริสตัลจะกลับมาบ้านของ...แฟนเก่า” คำหลังจูเนียลเน้นย้ำชัดๆ พร้อมกับปรายตามองอย่างดูแคลน แต่เมื่อไคหันมา แววตาพวกนั้นก็จางไปคล้ายกับไม่เคยเกิดขึ้น

    “...”

    “พี่ไคคะ...เราสองคนยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่คืนเมื่อวานเลยนะคะ...หนูหิวแล้ว” จูเนียลเดินผ่านฉันก่อนที่จะไปเกาะแขนไคแล้วซบเข้าที่อกเขาราวกับต้องการประกาศว่าผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ

    “หึ”

     

    ฉันหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นร่องรอยสีกุหลาบตามลำคอของทั้งสองคน

     

    “น่าสมเพชผู้หญิงอย่างเธอนะ...” พูดพร้อมกับเชิดหน้าแล้วปรายตามองทั้งคู่ “นายเองก็เหมือนกัน...นึกว่าจะหาผู้หญิงได้ดีกว่านี้ซะอีก”

    “พี่คริสตัล!

    “...”

    “อย่าไปใส่ใจเลยจูเนียล เรามาทำเรื่องของเราต่อเหอะ” ใบหน้าคมคายมองฉันอย่างเย็นชาก่อนจะก้มลงหาคนตัวเล็กในอ้อมแขนที่เงยหน้าขึ้นมารับจูบดูดดื่มจากเขาพอดี

     

    ...

     

    ฉันอธิบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นในอกไม่ถูก...คล้ายกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาบีบหัวใจฉันเป็นจังหวะช้าๆ...ช้าๆ บีบคั้นจนรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วร่าง อยากจะกรีดร้องแต่ร้องไม่ออก อยากจะหนีจากภาพตรงหน้าแต่ก็ทำได้เพียงแค่ยืนมอง

    ริมฝีปากของคนทั้งสองประกบกันอย่างดุเดือด ฝ่ายชายกลืนกินริมฝีปากร่างเล็กอย่างเร่าร้อนโดยไม่สนใจว่าฉันจะยืนมองทั้งคู่อยู่ด้วยซ้ำ

     

    “พอก่อนค่ะ เกรงใจพี่คริสตัล” จูเนียลเป็นฝ่ายดันหน้าไคให้ออกไปก่อนที่ตัวเองจะหันมายักคิ้วให้ฉัน

    “...”

     

    หึ...มีความสุขกันไปเถอะเพราะอีกไม่นานมันจะไม่มีวันนี้อีก...

     

    ขวับ

     

    ฉันหมุนตัวพร้อมกับเดินลากกระเป๋าลงไปชั้นล่างโดยไม่คิดจะหันไปอำลาทั้งคู่เลยสักนิด เมื่อพ้นสายตาของทั้งสองคนฉันก็เอามือเท้ากำแพงบ้านไว้พร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ

     

    ไม่เป็นไรนะคริสตัล...ไม่เป็นไรนะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    วันต่อมา

     

    ฉันมองข้อความที่ส่งตรงมาจากเพื่อนชายเพียงคนเดียวแล้วลอบยิ้มออกมา แต่ดูเหมือนนาอึนที่อยู่ข้างๆ จะสังเกตเห็นถึงได้กระทุ้งศอกใส่สีข้าง

     

    “ยิ้มอะไรจ๊ะแม่คนสวย”

    “จงออบน่ะ ส่งมาบอกว่าเขาหาทางได้แล้ว”

    “หืม เรื่องนั้นน่ะเหรอ นี่คิดจะทำจริงๆ ใช่มั้ย ?” นาอึนมองฉันแล้วเลิกคิ้วขึ้นสูง

    “อื้อ...ลงโทษผู้ชายเจ้าชู้หน่อยนะ เขาจะได้รู่วาฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาปั่นหัวได้ง่ายๆ”

    “ระวังจะโดนเอาคืนล่ะ ไคก็ไม่ใช่ผู้ชายที่จะปั่นหัวได้ง่ายๆ เหมือนกันนะ”

    “...”

    “แล้วเธอไม่มีความรู้สึกให้เขาหน่อยเหรอ...”

     

    ฉันสบตากับนาอึนแล้วหยุดยืนกลางทางเดินย่านเมียงดงเป็นผลให้นาอึนหยุดด้วยเช่นเดียวกัน

     

    “ไม่หรอก”

    “...”

    “ระหว่างฉันกับไคมันไม่มีอะไรเลย”

    “จริงเหรอ ?

    “...”

    “แน่ใจนะว่าที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด”

    “...อื้อ”

     

    ฉันหลบสายตาเพื่อนแล้วออกเดินอีกครั้ง ยกชาเขียวปั่นขึ้นจิบเล็กน้อย หวังให้ความเย็นของมันทำให้ใจฉันสงบลงเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เอ๊ะ!

     

    จูเนียล!

     

    “ฉันว่า...ฉันต้องจัดการอะไรสักอย่าง”

    “หือ ?” นาอึนมองฉันอย่างแปลกใจก่อนที่จะไล่สายตาไปทิศทางเดียวกับฉัน “นังเด็กนั่นหนิ ตายแล้วมีแรงลุกออกจากเตียงด้วยเหรอเนี่ย”

    “แกช่วยดูหน่อยสิว่ามาคนเดียวหรือเปล่า”

    “น่าจะนะ เหมือนมาช็อปคนเดียว”

     

    ฉันพยักหน้ารับคำนาอึนก่อนที่จะออกเดินไปยังจุดหมายช้าๆ โดยที่มีนาอึนเดินตามหลังมาด้วย จูเนียลที่กำลังเลือกชุดอยู่ในร้านแบรนด์ชื่อดังหันมาเจอฉันก็ตกใจแต่แค่วินาทีเดียวเท่านั้นแหละ ใบหน้าที่เคยคิดว่าใสซื่อก็เปลี่ยนเป็นนางร้ายทันที

     

    “พี่คริสตัลชอบแบรนด์นี้เหมือนกันเหรอคะ”

    “ใช่...ไม่คิดว่าเธอจะชอบเหมือนกัน” ฉันบอกเสียงนิ่งๆ พลางส่องสายตาไปทั่วร้านคล้ายกับกำลังเลือกหาชุดที่อยากได้

    “อ้าว คุณจอง สวัสดีค่ะ” พนักงานหญิงชุดดำตรงเข้ามาฉันทันทีที่เธอเห็นว่าฉันอยู่ในร้าน ฉันยิ้มรับแล้วโค้งให้เล็กน้อยเป็นการทักทาย

    “สวัสดีค่ะ คุณคิม”

    “คุณจองมาถูกวันพอดีเลยค่ะ วันนี้ร้านเรามีคอลเลคชั่นใหม่เพิ่งมาถึง ถ้าคุณจองสนใจขอเชิญที่หลังร้านเลยค่ะ”

    “เสียดายจังเลยนะคะพอดีวันนี้ฉันไม่ได้มาซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเองน่ะค่ะ แต่กำลังหาชุดเหมาะๆ ให้น้องคนนี้” ฉันปรายตาไปทางจูเนียลที่ยืนทำหน้าอึ้งๆ ก่อนจะเอ่ยต่อ “วานคุณคิมช่วยเลือกชุดที่เหมาะกับน้องให้หน่อยได้มั้ยคะ”

    “อ้อ ได้ค่ะ ไม่มีปัญหารอสักครู่นะคะ” เธอพูดพร้อมกับมองจูเนียลเพื่อวัดไซส์อยู่สักพักก่อนจะหันหลังแต่เพื่อนฉันก็เรียกไว้ซะก่อน

    “เดี๋ยวค่ะ ขอชุดที่โชว์เนื้อโชว์หนังเยอะๆ หน่อยนะคะ พอดีน้องเขาจะใส่ไปเพื่อยั่วผู้ชายโดยเฉพาะ แบบเรียบร้อยไม่ต้องเอามานะคะ”

     

    ฉันรู้ว่าเพื่อนตัวดีแกล้งทำเป็นพูดเสียงดังให้คนทั้งร้านได้ยิน มันได้ผลเมื่อแทบทุกสายตามองมายังเราสามคน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง พนักงานคิมพยักหน้ารับอย่างงงๆ ก่อนจะเดินเข้าหลังร้านไป

     

    “พวกพี่ๆ คิดจะทำอะไรกันน่ะ” จูเนียลถามเสียงเบาแต่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ

    “หูหนวกหรือไง ถึงฟังไม่ออกว่าเพื่อนฉันตั้งใจจะซื้อชุดให้เธอ” นาอึนกอดอกแล้วจิกทั้งตาและน้ำเสียงใส่นาอึน

    “ไม่จำเป็น ฉันมีเงินซื้อของฉันเอง พวกพี่ไม่ต้องเข้ามายุ่ง!

     

    ท่าทางคงจะใกล้หมดความอดทนแล้วล่ะมั้งถึงได้เปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองจาก หนู เป็น ฉัน

    “แค่ซื้อชุดให้ทำไมต้องโกรธด้วย ปกติฉันไม่ค่อยใจดีแบบนี้หรอกนะ”

    “หึ ไม่จำเป็นหรอกมั้งคะ...เพราะแค่ได้พี่ไคมาฉันก็พอใจแล้ว” จูเนียลมองฉันด้วยสายตาเหยียดก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสมเพชโดยที่ตั้งใจให้มันดังทั่วร้าน “ขอแสดงความสมน้ำหน้าด้วยนะคะที่พี่ไคไม่เลือกคนสวยๆ อย่างพี่!!!

    !!!

    “พี่คงไม่รู้สินะคะว่าตัวเองน่ะถูกพี่ไคหลอกมาตั้งแต่ต้น..หึ พี่เองก็โง่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ถูกพี่ไคหลอกนั้นแหละ คงคิดว่าตัวเองสำคัญจนพี่ไคต้องง้อสินะ เหอะ น่าสมเพช”

    !!!

    “แล้วก็ไม่ต้องมาสงสารซื้อชุดให้ฉันหรอกค่ะ พี่ไคให้มาเยอะแล้ว...ทั้งตัวและเงิน!

    “นังบ้า!/มาแล้วค่ะ” เสียงนาอึนกับพนักงานดังขึ้นพร้อมกันแต่คนละอารมณ์ พนักงานคิมลากราวที่แขวนเสื้อผ้าเนื้อดีมาเจ็ดแปดชุด “เอ่อ...อยากดูชุดไหนก่อนดีคะ”

    “...”

     

    บรรยากาศมาคุเข้าครอบคลุมทั้งร้าน แม้แต่พนักงานและลูกค้าคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องยังไม่กล้าเอ่ยอะไร ฉันมองหน้าจูเนียลที่กำลังยิ้มเยาะให้ฉันอย่างเจ็บใจ นาอึนที่อยู่ข้างๆ ดูเดือดพอๆ กับฉัน บางทีเพื่อนฉันอาจจะเข้าไปตบแก้มพองๆ นั่นแล้วหากพนักงานไม่เข้ามาซะก่อน

     

     “ไหนๆ พี่คริสตัลก็ทำตัวเป็นแม่พระแล้ว...หนูก็จะรับไว้แล้วกันนะคะ” จูเนียลพูดพร้อมกับเดินไปเลือกดูชุดนั้นชุดนี้ไปด้วย “สวยๆ ทั้งนั้นเลยค่ะพี่คริสตัล ใส่โชว์อย่างนี้พี่ไคต้องชอบแน่เลย พี่คริสตัลเอาสักชุดมั้ยคะ ?

    “เอาทั้งราวมาให้ฉัน” พูดเสียงเย็นพร้อมกับยื่นบัตรเครดิตสีทองให้พนักงานอย่างไม่ใส่ใจในราคาสักนิด

    “คะ ?

    “ฉันบอกว่าเอาทั้งราว...ใส่ถุงให้คุณผู้หญิงคนนี้ด้วย”

    “ได้ค่ะคุณผู้หญิง” พนักงานตาแวววาวทันทีที่รู้ว่าจะได้รับเม็ดเงินก้อนใหญ่จากเสื้อผ้าทั้งแปดชุดตรงหน้า เธอรับบัตรเครดิตในมือฉันก่อนที่จะเข้าไปจัดการเรื่องชุดให้ฉัน

    “ขอบคุณนะคะพี่คริสตัล พี่ไคต้องดีใจแน่ๆ ที่มีแฟนเก่าใจดีแบบพี่คริสตัล”

    “ขนาดแฟนฉันยังให้เธอได้เลย เรื่องเงินเล็กน้อยแค่นี้ทำไมจะไม่ได้ล่ะ...จริงมั้ยนาอึน ?

    “อื้อ อยากได้มากกว่านี้มั้ยล่ะจ๊ะ บ้าน...รถ...เงิน...ค่าเทอม...บอกพี่คริสตัลคนนี้ได้เลยนะจ๊ะจะได้ไม่ต้องไปถวายตัวให้ผู้ชายง่ายๆ อีก!

    “แก นังบ้า!!

    “พูดความจริงแค่นี้ทำไมต้องโกรธด้วย หึ อย่าคิดว่าหน้าใสๆ อย่างเธอจะมาหลอกเพื่อนฉันได้ ผู้ชายแบบไคก็เหมาะกับผู้หญิงง่ายๆ แบบเธอนั่นแหละ ขอบอกว่าคริสตัลไม่เสียใจเลยสักนิด!” นาอึนพูดพร้อมกับเดินตรงไปหาจูเนียลที่ยืนหน้าขึ้นสีแดงก่ำด้วยความโกรธ มือเล็ก ๆ สองข้างกำเข้าหากันแน่น

    “นาอึนไม่เอาน่า น้องอายเป็นนะ ดูสิคนมองใหญ่แล้ว”

     

    คำพูดฉันคล้ายจะห้ามเพื่อนก็จริง แต่สิ่งที่ฉันแสดงออกคือการยืนกอดอกมองจูเนียลที่เดือดปุดๆ ด้วยสายตาเรียบเฉยพร้อมกับจิบชาเขียวปั่นไปพลาง

     

    “อุ้ย โทษที นึกว่าแย่งแฟนชาวบ้านจนไม่มียางอายแล้วซะอีก ฮ่าๆ”

     

    เพี้ยะ!

     

    !!!

     

    ทั้งร้านตกใจเมื่อเห็นจูเนียลยกมือขึ้นตบแก้มนาอึนเข้าเต็มแรงจนเพื่อนฉันหน้าหัน นาอึนที่เพิ่งถูกตบไปหมาดๆ ลูบแก้มตัวเองเบาๆ พร้อมกับตวัดสายตาขึ้นมองหน้าจูเนียลอย่างโมโห และก่อนที่เธอจะได้เข้าไปเอาคืนฉันก็รั้งแขนเพื่อนไว้ก่อน

     

    “ที่บ้านไม่สอนหรือไงว่าไม่ควรยุ่งเรื่องชาวบ้าน” จูเนียลที่ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนมองรอยแดงๆ บนหน้าเพื่อนฉันอย่างสะใจ

    !!!

    “ชุดได้แล้วค่ะ คุณจอง เอ่อ...”

     

    ฉันหันไปเซ็นชื่อก่อนที่จะรับของมาถือด้วยใบหน้านิ่งๆ  จากนั้นก็ยื่นทั้งแปดถุงไปให้จูเนียลด้วยใบหน้าเรียบเฉย

     

    “ขอบคุณค่ะ...หนูจะตอบแทนด้วยการดูแลพี่ไคเป็นอย่างดี”

    “...”

    “ไปล่ะค่ะ...แล้วก็ขอโทษด้วยพอดีเมื่อกี้อารมณ์มันพาไป”

    “...”

     

    จูเนียลเหยียดยิ้มมุมปากอย่างนางร้ายก่อนจะให้ไปจิกตาใส่นาอึนที่ยืนเดือดปุดๆ อยู่ข้างๆ ฉัน จากนั้นเธอก็ออกไป ฉันหันหน้ามองเพื่อนที่กำลังมองตามร่างบางออกไปอย่างเครียดแค้น

     

    “ไปกันเถอะ” ฉันบอกอย่างรู้ทัน

     

    ซนนาอึน...ไม่มีทางปล่อยให้คนมาทำร้ายเธอฟรีๆ แน่ๆ       

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผลัก

     

    “อุ้ย!  Sorry” นาอึนกล่าวขอโทษร่างเล็กที่ถูกชน (อย่างความตั้งใจ) ด้วยน้ำเสียงปั้นแต่งให้ดูเหมือนรู้สึกผิดเต็มที่ “อ้าว...จูเนียลเองเหรอ”

     

    จูเนียล...ที่นั่งจมกองถุงเสื้อผ้าอยู่บนพื้นตวัดสายตามองฉันสองคนอย่างโกรธเคืองก่อนที่จะพยายามลุกขึ้น มือข้างหนึ่งของฉันยื่นไปหาเธอ จูเนียลเหมือนลังเลว่าจะรับความช่วยเหลือจากฉันดีมั้ย แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจจับมือฉันไว้

    ฉันยิ้มมุมปากให้เธอเล็กน้อยก่อนจะฉุดร่างเล็กให้ลุกขึ้นแต่...

     

    “โอ้ย!!

     

    ฉันผ่อนแรงที่ช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นส่งผลให้จูเนียลลงไปนั่งที่พื้นอีกครั้ง ผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ตามแหล่งช็อปชื่อดังอย่างเมียงดงหันมามองเราสามคนอย่างให้ความสนใจ  มีใครบ้างจะไม่สนใจ...เราทั้งสามคนหน้าตาดีและดูเหมือนกำลังมีเรื่องกันอยู่อีกต่างหาก

    ฉันเหยียดยิ้มให้จูเนียลอย่างสะใจก่อนจะก้มลงไปหยิบถุงเสื้อผ้าราคาแพงขึ้นมาเทใส่ผู้หญิงคนนี้ท่ามกลางสายตาประชาชน

     

    “กรี๊ด พี่คริสตัล พี่ทำอะไรน่ะ!

     

    ฉันกับนาอึนช่วยกันเทเสื้อผ้าราคาแพงใส่เธอโดยไม่คำนึงถึงความเสียดายเลยสักนิด กลายเป็นว่าจูเนียลนั่งพับเพียบอยู่ที่พื้นโดยมีเสื้อผ้าพวกนี้คลุมหัว

     

     หึ ดูเหมือนตัวตลกดีนะ

     

    เสียงฮือฮารอบข้างไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกแย่เลยสักนิด มันกลับทำให้ฉันรู้สึกสะใจเสียด้วยซ้ำที่มีคนเห็นฉากนี้เยอะๆ

              ฉันมองหน้าจูเนียลด้วยสายตาเย็นชาเมื่อเธอเอาเสื้อผ้าออกจากหัวและยังไม่ทันที่จูเนียลจะลุก ชาเชียวปั่นกว่าครึ่งแก้วก็ถูกสาดใส่ใบหน้าหวานอย่างจัง

     

              “กรี๊ด!

              “หึ เสื้อผ้าสวยๆ พวกนั้นไม่เหมาะกับคนจิตใจต่ำๆ แบบเธอหรอก” ฉันเดินเข้าไปใกล้แล้วส้นสูงกว่าสี่นิ้วขยี้เสื้อผ้าพวกนั้นต่อหน้าต่อจูเนียลอย่างไม่ใยดีในเม็ดเงินที่เสียไป “อย่าคิดมาเทียบชั้นกับฉัน...”

     

              ฉันนั่งลงยองๆ ระดับเดียวกับจูเนียลก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างๆ ใบหูจูเนียลให้ได้ยินกันสองคน “เพราะอีกไม่นาน...เธอได้ดังกว่าฉันแน่”

     

              “มะ หมายความว่าไง”

     

              ฉันไม่ตอบคำถามและยักไหล่หนึ่งที่ก่อนจะลุกขึ้นยืนตามปกติ นาอึนที่อยู่ข้างๆ สบตากับฉันแวบหนึ่งก่อนที่ฉันจะพยักหน้าให้เธอเบาๆ

     

              “อ๊าย!

     

              ฉันถอยออกมาดูนาอึนที่กระชากผมยาวๆ ของคนบนพื้นจนหน้าหงายขึ้นก่อนที่เพื่อนฉันจะจัดการเทมอคค่าปั่นที่ซื้อมาพร้อมกับชาเขียวปั่นใส่หน้าจูเนียลไปเต็มๆ

     

              “วันนี้ฉันจะปล่อยเธอไปโดยไม่แตะต้องใบหน้าสวยๆ นี่...แต่ถ้าเจอกันอีก ฉันไม่รับรองความปลอดภัยเพราะฉะนั้นอย่ามาให้ฉันเจอหน้าอีก เข้าใจมั้ย!!

              “กรี๊ด ไอ้พวกบ้า คอยดูนะฉันจะฟ้องพี่ไค!” จูเนียลที่ตอนนี้ทั้งหน้าทั้งผมเลอะไปด้วยน้ำปั่นสีเขียวและสีน้ำตาลดูน่าตลกจนฉันหลุดยิ้มอย่างสะใจ

              “ฉันถามว่าเข้าใจมั้ย!!” นาอึนตะคอกพร้อมกับผลักหัวร่างเล็กอย่างแรงจนเธอเกือบล้มไปนอนกับพื้น

              “ไปเถอะ...เดี๋ยวเธอจะดังไปมากกว่านี้” ฉันแตะข้อศอกเพื่อนที่กำลังหายใจเข้าออกอย่างแรงด้วยโทสะก่อนจะรั้งให้นาอึนถอยออกมา

              “คอยดูนะ ฮึก ฉันจะจัดการพวกแกให้หมดทุกคน ฮือ~” จูเนียลทั้งร้องไห้และตะโกนด่าไล่หลังเราสองคนที่เดินมาได้เพียงสามก้าว แต่สิ่งที่ทำให้ฉันกับนาอึนหยุดไม่ใช่คำขู่ของเธอ หากแต่เป็น...

     

            ไค

     

            ดวงตาตกใจของเขาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันมองไคอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

    เจ้าของใบหน้าคมคายจะขยับปากช้าๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชาสุดขั้วหัวใจ...

     

              “ฉันว่าคนที่จิตใจต่ำน่าจะเป็นเธอกับเพื่อนของเธอมากกว่านะ...คริสตัล”

     

     

     

     

    -------------------------

    มาแล้ว ^^

    ตอนนี้เทาซอลอารมณ์ค่อนข้างแปรปรวน  ฮ่าๆ ต้องเข้าใจน้องซอลหน่อย~

    คนกำลังหวั่นไหวแต่ไม่ยอมรับก็งี้ คิๆ

    สำหรับไคตัลก็ยังรุนแรงเหมือนเดิม...และจะแรงขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    ขอบคุณนักอ่านและทุกคอมเม้นต์ค่ะ


     
    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×