"นี่มันคำใบ้นรกอะไรวะเนี่ยยยยย"
หลังจากวันนั้นที่ผมได้รับคำใบ้จากปากของรุ่นพี่จินฮวานจนตอนนี้ผมยังไม่ได้อะไรคืบหน้าเลยเถอะครับ เรียนก็ต้องเรียน รับน้องก็ต้องเข้าหลังเลิกเรียนแล้วจะให้ผมเอาเวลาที่ไหนไปตามหาเฮดว้ากวะคุณ แถมเวลาสามสัปดาห์ที่เหลือก็อีกไม่นานขนาดนั้นแล้ว ทางเลือกสุดท้ายของผมคงต้องเป็นไปถามอาจารย์!!!!
ตอนนี้ผมกำลังนั่งหัวเสียอยู่ในโรงอาหารเพื่อรอไอ้ยูคมันเลิกเรียนครับ วันนี้ไม่มีการรับน้องใดๆทั้งสิ้น น้ำตาจะไหลเลยตอนผมรู้ข่าว แต่ถึงยังไงผมเองก็ไม่สามารถที่จะกลับหอไปนอนแผ่อย่างสบายอารมณ์ได้หรอกครับ ต้องหาไอ้เฮดว้ากนี่ต่อเพราะสัปดาห์หน้ามีงานเข้าเยอะแน่ๆ ผมรู้สึกอย่างนั้น
"เป็นอะไรไปครับคุณ" เสียงปริศนาดังขึ้นใกล้หูผมทำให้ผมรีบหันขวับหันไปมองทางต้นเสียงทันทีก่อนจะพบว่าเป็นรุ่นพี่ปีสี่นามว่า ปาร์ค ชานยอล คณะวิศวะฯ ที่ชอบเข้ามาช่วยผมตลอดๆ ก็งงครับว่าเขาว่างมากรึไงถึงได้เข้ามาคุยด้วยทุกครั้งที่เจอผม
"หงุดหงิดนิดหน่อยว่ะพี่ ว่าแต่พี่เถอะปีสี่ของวิศวะนี่ชีวิตมันว่างขนาดมานั่งให้คำปรึกษาผมเลยรึไงกัน" ผมว่าพลางถอนหายใจออกมายาวๆแล้วควักโทรศัพท์จากในกระเป๋ากางเกงมาจิ้มเล่นเช็คข่าวสาร
"หงุดหงิดเรื่องอะไรเล่าให้พี่ฟังได้นะครับน้อง"
"เฮ้อ ก็เรื่องเฮดว้ากไงพี่ ที่ผมเคยเล่าให้ฟังเมื่อวันก่อนๆพอจะจำได้ไหม เออ นั่นแหละ น้ำตาจะไหลเลยอ่าให้ตายเถอะ แค่คิดก็ท้อแล้ว" เมื่อผมเห็นพี่ชานยอลพยักหน้าเล็กน้อยเชิงบอกว่าจำได้ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมานิดนึง ไม่งั้นต้องมานั่งเล่าใหม่หมดคงจะยิ่งแค้นขึ้นกว่าเดิมอีก ล้มโต๊ะทิ้งแม่ง
"เรื่องรับน้องใช่ไหม...เหมือนพี่จะได้ยินข่าวใหม่มา แล้วพี่ก็ไม่รู้ว่าแบมรู้รึยัง เพราะฉะนั้น....ห้ามตกใจเด็ดขาด!!"
"พี่ก็เล่ามาสักทีดิ้"
"เฮดว้ากที่ว่าน่ะจะเป็นใครก็ได้ที่อยู่ปีสองจนถึงปีสี่ในมหาลัยที่มีคุณสมบัติมากพอ เพราะว่ามีนโยบายออกมาใหม่ เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ของทุกคณะ พี่เองก็ไม่รู้ว่าเรารู้รึยังนะว่ามหาลัยนี้พี่รหัสอะไรทั้งหลายก็ปนคณะทั้งหมด"
สิ้นเสียงของพี่โย่งหูกางที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมทำเอาหัวใจแทบหยุดเต้นเลยครับ อห แค่ในคณะก็หาจะไม่รอดแล้วนี่มันอะไรกันวะทั้งมหาลัยแถมยังเป็นตั้งแต่ปีสองจนถึงปีสี่ด้วย?!!!!!!! กรี๊ดแปบ สานสัมพันธ์บ้าอะไรวะมันก็แค่เฮดว้ากคนเดียวไม่ใช่รึไง เอามีดมาแทงผมเถอะซาร่าห์ T____T เรื่องพี่รหัสอีก ทำไมไอ้ยูคมันไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กับผมเลยวะครับหรือเพราะมันเป็นเศษเหลือเลยได้รุ่นพี่คณะเดียวกันมันเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
"แล้วก็..."
"...."
"ยินดีต้อนรับสู่สายรหัสพี่ครับ :)"
ห๊า!!!!!
EX-LOVER
ตอนนี้ผมกับไอ้ยูคกำลังเดินเตร็ดเตร่กันอยู่ในมหาลัย ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็นครับ ส่วนพี่ชานยอลที่อ้างตัวว่าเป็นทวดรหัสของผมรายนั้นก็อยู่รอไอ้ยูคเป็นเพื่อนผมจนมันมาแล้วก็กลับไป อันที่จริงแล้วพี่เขาอยู่ก็เหมือนจะไม่อยู่นั่นแหละครับ เดี๋ยวก็เงียบเดี๋ยวก็พูดมาก เดาอารมณ์ไม่ถูกเหมือนกัน แต่แปลกนะครับที่จู่ๆเขาเองก็มาเฉลยให้ผมรู้ซะงั้นว่าเราสายรหัสเดียวกัน แต่อาจจะเป็นเพราะพี่เขาสงสารผมซะมากกว่า ก็เล่นไม่ใช่คณะเดียวกันแล้วงี้จะตรัสรู้ได้ไหมล่ะครับคุณเอ้ยว่าไผเป็นไผ
"แบมมึง กูขอเสนออะไรหน่อยดิ" ไอ้หมียูคมันยื่นขาหน้า อะไรนะ? มือหรอ อ๋อครับ มันยื่นมือมาสะกิดแขนผมสองสามทีเพื่อให้หันไปคุยกับมัน
"ไม่มีสาระกูตบนะ"
"เออหน่า นี่มึงเห็นกูเป็นคนยังไง"
"เป็นคนไม่มีสาระสักนิด -_-;;"
"โหย งั้นกูรีบเข้าเรื่องแล้ว คือว่าพี่จินฮวานน่ะเขาเป็นคนให้คำใบ้มึงมาว่า 'ที่สุด' ใช่ไหมเพราะฉะนั้นพี่เขาจะต้องรู้จักกับเฮดว้ากบ้าๆนั่น" ผมพยักหน้าตามคำพูดของไอ้ยูค "ดังนั้นสิ่งที่มึงต้องทำคือสังเกตว่าพี่จินฮวานเขารู้จักกับใครบ้าง แล้วก็ไปพยายามอ้อนวอนขอคำใบ้อื่นๆจากพวกพี่ว้ากทั้งหลาย จากนั้นก็เอามานั่งวิเคราะห์ต่อว่าจะเป็นใคร แค่นี้!! จบ!!"
"แต่กูสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง"
"สงสัยอะไรว่ามา"
"แล้วถ้าสมมติว่ากูเจอตัวเฮดว้าก แล้วเขาไม่ยอมไปคุมหรือว่าปฏิเสธว่าไม่ใช่ แล้วทีนี้กูจะรู้ได้ยังไงว่าเขาหลอกหรือเขาพูดว่าไม่ใช่จริงๆ" คำพูดที่ออกจาปากผมไปทำให้ไอ้ยูคคิดได้สังเกตจากสีหน้าและท่าทางของมันที่แตกต่างออกไป อยากลาออกจังเลยครับแม่
"กูว่าเขาไม่แกล้งมึงหร๊อกกก"
ก็ภาวนาให้มันเป็นแบบนั้นแล้วกัน. . .
ผมเดินกับไอ้ยูคไปเรื่อยๆ ก่อนจะพบกับบรรดาพี่ว้ากที่พึ่งเลิกเรียน สังเกตได้จากสีหน้าง่วงๆนั่นแล้วก็กำลังเดินลงมาจากตึก ผมก็ต้องรีบวิ่งไปดักสิครับรออะไรกันอยู่ล่ะคุณ ความหวังจากเพื่อนๆปีหนึ่งถูกส่งมาให้ผมจนแทบแบกรับไม่ไหวขนาดนี้ ต้องสู้เพื่อเพื่อนแล้วก็ตัวเองสักครั้งในชีวิตแหละว้า
"คุณกันต์พิมุกต์..?" พี่ว้ากนามว่าคุณเจบีเจ้าเก่าเจ้าเดิมขมวดคิ้วแน่นจนแทบผูกกันเป็นโบว์ เขาอ้าปากหาวหวอดๆอีกครั้งหนึ่งแล้วเรียกชื่อผมออกมาด้วยความสงสัย เขาก็คงงงว่าผมมาดักอะไรพวกพี่เขาเอาป่านนี้ "คุณมาทำอะไรที่นี่ เด็กปีหนึ่งควรจะกลับหอพักไปทำงานแล้วก็พักผ่อนได้แล้ว วันนี้ผมให้พวกคุณพักแต่พวกคุณกลับจะไม่พักใช่ไหม"
"คนอื่นน่ะใช่ แต่ผมต้องมาตามหาเฮดว้ากตามคำสั่งคุณไงครับ" ไม่รอช้ารีบตอบคำถามไปมนทันทีครับ เดี๋ยวโดนหาว่าหยิ่งอีก หูหนวกอีก เบื่อจะเถียง!!
"ขยันไม่เบานี่เด็กน้อย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกผมล่ะครับ" เสียงปรบมือดังขึ้นสองสามแปะก่อนจะเงียบลงไปแล้วเผยให้เห็นถึงเจ้าของประโยคเมื่อสักครู่นี้ หัวสีแดงเพลิงนั่นทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่ามันคือไอ้มาร์ค ต้วน มันยิ้มโชว์เขี้ยวขาวอย่างกวนประสาทแล้วยักคิ้วใส่ผม
"ในเมื่อพวกคุณไม่ให้อะไรเกี่ยวกับเฮดว้ากมาเลย เพราะฉะนั้นผมจะมาขอคำใบ้จากพวกคุณสักนิดมันก็ยังดี" ผมเลือกที่จะเมินไอ้มาร์คแล้วหันกลับไปคุยกับพี่เจบีที่กำลังยืนกอดอกมองผมกับไอ้ยูคอยู่ จะว่าไปแล้วไอ้มาร์คกับพี่เจบีเขารู้จักกัน?
"....."
"ว่ายังไงครับ?"
"หึ คุณกล้าขอผมก็กล้าให้ครับ"
"....."
วันนี้ใจดีแปลกๆนะว่าไหม
"แต่มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน"
นั่นไง กูว่าแล้วววววว -__-;;
"กินข้าวกลางวันกับไอ้มาร์คในเวลาที่มาเรียนที่มหาลัยตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะหาเฮดว้ากเจอ" ว่าจบรุ่นพี่เจบียิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างที่ชอบทำเป็นประจำตามประสาคนชิคๆ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นแล้วถามผม "ตกลงใช่ไหม?"
".......ตกลง" อันที่จริงแล้วผมก็ตกลงไปงั้นแหละครับ เดี๋ยวพอถึงเวลาจริงๆค่อยเผ่นก็ได้เพราะได้คำใบ้แล้ว จะกลัวอะไรล่ะครับ มันก็แค่หมูหมากาไก่แถวนี้ อย่าไปสนใจมันมากนักเล๊ย
"ครับ เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ พรุ่งนี้เที่ยงหน้าคลาสเรียนคุณ ไปกันเถอะไอ้บี" ไอ้มาร์คมันยิ้มกว้างออกมาแล้วกอดคอ(ไอ้)พี่เจบี ก่อนจะก้าวขาเตรียมตัวจะเดินออกไป เดี๋ยวนะ แล้วคำใบ้กูล่ะครับมึง "หืม กำลังอยากได้คำใบ้ใช่ไหม? เดี๋ยวจะให้วันละตัวสองตัวแล้วแต่ว่าคุณจะทำให้ผมประทับใจได้แค่ไหนเพื่อเป็นการกันคุณไม่ให้หนีด้วย ผมรู้นิสัยของคุณดีแบมแบม ไม่แน่นะผมอาจจะปากลั่นบอกหมดเลยก็ได้ :)"
เกลียดมันครับเกลียดมัน!!!! แม่งเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย บิดาสงสัยตาย ((พ่...องตาย)) อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก มันทิ้งระเบิดเอาไว้ลูกใหญ่สำหรับผมก่อนจะเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี ไม่น่าเลย พลาดแล้ว พลาดหนักมาก พอเหลือบไปข้างๆก็เห็นไอ้ยูคมันกำลังยืนกุมท้องกลั้นขำอยู่จนตัวสั่น ตลกนักรึไงวะ!!!?
"นะ..หน้ามึงโคตรตลกเลยแบมตอนได้ยินพี่มันพูดว่าจะให้วันละตัวสองตัวตอนที่มาตามนัด กร๊ากกกก กูรู้ว่ามึงจะเจ้าเล่ห์เบี้ยวนัดแต่พี่เจบีเพื่อนพี่มันดันรู้ทันซะก่อนว่ะ ขำกลิ้งแปบ ไม่ไหวละ"
ผมหันไปมองค้อน (มองตะปูไม่ได้เหรอ สุดงง) ใส่ไอ้ยูคแล้วฟาดหัวมันไปหนึ่งทีอย่างเต็มแรง เอาจริงๆไหมครับ ถ้าจะถามผมว่ามันมาทำแบบนี้กับแฟนเก่าทำไม? เพื่ออะไร? ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันแหละครับคุณเอ๋ย ไม่เข้าใจจริงๆไอ้มนุษย์แฟนเก่าประเภทนี้ หรือเพราะเห็นว่าผมกลับมาแล้วเลยอยากจะมาปั่นสมองกันเล่นๆรึไง สงสัยว่าบาร์บี้ที่บ้านโดนเอาไปเผาทิ้งล่ะมั้ง เหอๆๆๆ
"แต่กูว่ามันก็ไม่เลวร้ายอะไรหรอกหน่า" นายคิม ยูคยอมยิ้มตาหยีก่อนจะตบบ่าของผมสองสามทีแล้วพูดต่อ "ในเมื่อมึงบอกเองว่ามึงลืมเขาได้แล้ว ก็ถือซะว่าทำเพื่อพวกน้องๆร่วมรุ่นมึงแล้วกัน"
ก็ขึ้นชื่อว่าเคยรักกัน เฉยชาให้ตายยังไง ลึกๆข้างในมันก็...ยังรู้สึกอยู่ดี จริงไหมล่ะ?
EX-LOVER
"พี่เอาข้าวผัดปลาหมึกไม่ใส่ผัก ผัดไทไม่ใส่ผัก ไม่เอาเต้าหู้ด้วย แล้วก็ขอน้ำอัดลมมาสักอย่างที่ไม่ใช่น้ำแดง อ่า..งั้นก็โค้กแล้วกัน แต่ขอแบบที่มีน้ำตาลไม่มาก อย่าลืมเอานมกล่องมาให้พี่ด้วย ช่วงนี้ขาดแคลนแคลเซียมมากๆ"
ตอนนี้ผมกำลังยืนทำหน้าเซ็งอยู่ในโรงอาหารเหตุผลก็เป็นเพราะไอ้มนุษย์หัวแดงเพลิงที่กำลังนั่งชี้นิ้วสั่งอาหารยาวเป็นหางว่าวกับผมอยู่ ใช่แล้วครับ คุณฟังไม่ผิดหรอก มันใช้ให้ผมไปซื้ออาหารตามที่มันบอกทั้งหมดแบบเรื่องมาก นู่นไม่เอาผัก นี่ไม่เอาเต้าหู้ สั่งเหมือนชาตินี้จะไม่ได้กินข้าวอีกแล้วอ่ะครับ
"เหอะ แค่นี้ใช่ไหม"
ไอ้มาร์คมันไม่ตอบอะไรแต่พยักหน้าแทนก่อนจะคว้าเอาโทรศัพท์มือถือราคาแพงในกระเป๋ากางเกงขึ้นมานั่งจิ้มเล่นอย่างไม่สนใจโลกรอบข้าง ทำให้ผมรีบหันหลังกลับเดินมุ่งตรงไปยังร้านอาหารตามที่มันสั่งมาทั้งหลายแหล่ คำถามที่หนึ่ง กูจะแบกหมดไหมวะตอบ คำถามที่สอง สั่งเยอะขนาดนี้จะจุดธูปเชิญทวดมาแดกด้วยไง๊ คำถามที่สาม แล้วข้าวผมอีกล่ะวะวันนี้หมดไปกี่ร้อยแล้ว คำถามที่สี่ ย้อนกลับไปอ่านคำถามที่หนึ่งใหม่!!
"เดี๋ยว!! แบม!!"
แม่ง..เอ้ย.....
ก็ได้แต่สบถคำหยาบในใจเงียบๆแหละครับ ขี้เกียจเถียงด้วยแล้ว ผมหยุดเดินแล้วหันหลังไปมองไอ้คุณรุ่นพี่ด้วยสีหน้าเซ็งโลกแบบสุดขีด เมื่อไหร่จะได้ไปซื้อวะ เรื่องมากขนาดนี้ไปซื้อเองแมะ เดี๋ยวต่อยหน้าแหก ยัง ยังจะไม่พูดอีก ทำหน้าอ้ำอึ้งแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่นี่คือไรวะ ร่างกายต้องการปะทะงั้นรึ
"คือ...นมกล่องน่ะ ขอรสจืด"
"เออ" ผมตอบแบบกระแทกเสียงให้รู้ว่าไม่พอใจและเบื่อมากอย่างสุดซึ้งแล้วเดินต่อ เรื่องมาก วุ่นวาย น่าเบื่อ สองสามคำนี้วนอยู่ในหัวผมมาเป็นล้านๆรอบ นี่ถาคำใบ้ที่ให้มามันไม่คุ้มล่ะก็ผมท้าต่อยมันกลางโรงอาหารแน่นอน นอกจากจะเสียเงินแล้วต้องมาเสียเวลามาคุย มาเจอหน้ามันอีกเหรอวะ สมควรดี๊ด๊ามากมั้งแฟนเก่าที่จบกันไม่ค่อยจะสวยเนี่ย!!! โว้ย!!
"ป้าครับ ผมเอาข้าวผัดปลาหมึกไม่ใส่ผัก 1 ข้าวผัดกุ้ง 1 แล้วก็ผัดไทไม่ใส่ผักไม่ใส่เต้าหู้อีก 1 ครับ" พอผมเดินมาถึงร้านอาหารตามสั่งที่แถวว่างมากๆ ก็รีบสั่งแบบชนิดที่ว่าแร็พเปอร์ยังต้องสะพรึงไปในทันที คืออากาศมันร้อน แถมผมยังต้องมาเลี้ยงข้าวมันทุกๆวันอีก จะลาป่วย ลาหยุดแบบสมัยมัธยมก็ไม่ได้ ชีวิตนี้มันเศร้าเหลือเกิน เฮอะ
ผมหยิบธนบัตรขึ้นมาสองใบซึ่งก็...โอ้ย!!! เจ็บโคตรๆเลยครับ โดนเงินบาด(ท) ถุ้ย! ผมหยิบจำนวนเงินสองร้อยบาทขึ้นมากำไว้ในมือ ก็คิดว่าไม่น่าเกินเท่านี้หรอกครับก่อนที่จะเคาะนิ้วเล่นเพื่อฆ่าเวลา พอผมเหลือบมองพ่อหนุ่มสุดฮอตของมหาลัยฯอย่างมาร์ค ต้วนที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดีแล้วก็ยิ่งหมั่นไส้มากกว่าเดิม ใจคอแม่งไม่คิดจะมาช่วยเลยรึไงวะ แต่ก็บ่นไปงั้นครับ ผมไม่หวังแล้วก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนอย่างมันหรอก ยกเว้นแต่เรื่องเฮดว้าก..ไว้เรื่องนึงแล้วกัน
"ผัดไทไม่ใส่ผักไม่ใส่เต้าหู ข้าวผัดปลาหมึกไม่ใส่ผัก ข้าวผัดกุ้งได้แล้วจ้าพ่อหนุ่ม ทั้งหมด 135 บาทจ้ะ" เสียงแหลมเล็กพุ่งทะลุเพดานของแม่ค้าทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ ก่อนที่มือหยาบกร้านจากการทำงานหนักของเธอจะยื่นจานทั้งหมดมาให้ผม ผมรีบยื่นเงินแล้วรอรับเงินทอนก่อนจะหาวิธีหยิบจานไปให้ครบ เอาไงดีวะ ถาดรองก็ไม่มี โต๊ะก็ค่อนข้างไกลพอสมควร
"เอ่อ..คือป้าครับ ผมฝากเอาไว้ตรงนี้จานนึงก่อนได้ไหมครับ พอดีมะ-"
"เอามาดิ เดี๋ยวพี่ช่วยถือ / เอามาเดี๋ยวช่วย" ชายหนุ่มร่างสูงสองคนที่ยืนต่อคิวอยู่ทางด้านซ้ายมือของผมพูดขึ้นพร้อมกัน ทำเอาต้องรีบหันไปมองเขาเพื่อที่จะขอบคุณอย่างซาบซึ้งในน้ำใจงามๆ ก่อนจะพบว่าเป็นหนุ่มวิศวะทวดรหัสผมอย่างปาร์ค ชานยอลกับไอ้หัวแดงเพลิงมาร์ค ต้วน ที่หยิบยื่นความช่วยเหลือมาที่ผม
จะเอายังไงดีวะกู มีผู้ชายมาช่วยตั้งสองคน แอร้
ถุยเถอะครับ ถ้าผมคิดแบบนั้นจริงๆเอามีดมาปาดคอตายกันไปเลยดีกว่าเยอะ ผมผงกหัวทักทายรุ่นพี่ปีสี่อย่างพี่ชานยอลแล้วส่งยิ้มไปให้พี่เขาก่อนที่จะเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นนิ่งเฉยใส่มาร์ค ต้วน พึ่งจะมานึกขึ้นได้ว่าต้องเป็นคนดีเอาตอนนี้รึไงฟะ
"หนูจะให้ใครช่วยก็รีบๆเถอะจ้ะ ลูกค้าป้าเขาต่อคิวรอกันยาวไปถึงชายแดนภาคใต้แล้วลูกเอ้ย"
ผมเอ่ยปากขอโทษออกไปก่อนจะส่งยิ้มแหยๆแล้วหยิบจานที่ไอ้มาร์คต้วนสั่งส่งไปให้เจ้าตัวแล้วหยิบของผมเองขึ้นมา ส่วนพี่ชานยอลเขาก็ถือของตัวเองในมือเอาไว้แล้วเหมือนกันครับ พี่เขาก็แห้วเลยดิถ้างั้น
"พี่ชาน ผมโคตรขอบคุณพี่จากใจจริง เอออันนี้ไม่ได้ประชดที่พี่มีน้ำใจจะมาช่วยผมถือทั้งๆที่มันไม่ใช่ของๆพี่น่ะ ขอบคุณมากนะคร้าบ ฮ่าๆ" ผมโค้งจนแทบจะติดพื้นเพื่อขอบคุณพี่หูกางเขา "อ้อ แล้วพี่มีโต๊ะนั่งยังอะ"
ถามไปตามมารยาทแหละครับ ถ้าเป็นในเวลาปกติ แต่ตอนนี้ถามเพราะอยากให้พี่เขามานั่งด้วยล้วนๆ อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่นั่งกับไอ้มาร์คแค่คนเดียว ผมรู้สึกไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เดี๋ยวมือลั่นเสยคางมันทำไงอะ ขี้เกียจจะโดนแฟนคลับมันมองเขม่น เบื่อแอนด์เบื่อ
"หึ ไม่มี พี่ว่าจะเอาไปกินข้างนอกกับพวกเพื่อน" พี่เขาส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะชูถุงพลาสติกที่ภายในมีกล่องโฟมเรียงอยู่สามกล่อง สงสัยจะซื้อไปให้เพื่อนพี่เขาด้วย หางตาของผมเหลือบเห็นไอ้มาร์คมันทำหน้าเหมือนตอนกำลังขี้ดีๆแล้วถูกเรียกให้ออกจากห้องน้ำเลยว่ะครับ เป็นไรของมัน
"งั้นก็ทานให้อร่อยนะครับ" ผมบอกลาโดยพี่เขาก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วโบกมือกลับอย่างเท่ ก่อนจะเดินออกไปจากโรงอาหารจนลับสายตา ผมก็รีบเดินตรงไปที่โต๊ะอาหารที่จองเอาไว้ในทันที
"วิศวะ?"
"ก็ใช่ไง เสื้อชอปแถมยังดูแมนๆ เท่ๆขนาดนั้นหวังว่าคุณจะไม่คิดว่าพี่เขาไปเอาเสื้อผัวมาใส่หรอกนะ" ผมตอบแบบปัดๆก่อนจะวางจานลงบนโต๊ะและเตรียมจะเดินออกไปซื้อน้ำให้ไอ้คนหัวแดงต่อ ใจนึงก็อยากรู้ว่ามันจะถามทำไม แต่ไม่อยากจะคุยด้วยให้ปวดประสาทแล้วเลยเลือกจะเดินออกไปง่ายกว่าครับ
"ไม่ต้อง!! นั่งลงเลย เดี๋ยวพี่ไปซื้อเอง จะเอาอะไร?"
เอ้า!! อะไรของนางวะ
"อยากกินชานมไข่มุก" ผมพูดออกไปสั้นๆก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ มาร์คต้วนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วรีบเดินตรงไปทันที คืออะไรอะ สุดงง มันต้องการอะไรจากโลกใบนี้ครับ ตอบที แล้วไอ้ชานมไข่มุกที่ว่านี่ก็มีขายอยู่ร้านเดียวในโรงอาหาร คิวก็ยาวแสนยาว จะมีอีกร้านก็ฝั่งตรงข้ามของหน้ามอเลยนะครับคุณ ผมว่าเดี๋ยวมันก็แถนู่นนี่ซื้ออย่างอื่นมาแทนนั่นแหละ
ลงมือกินข้าวตอนนี้น่าจะดีที่สุดแล้วครับ ไม่ต้องไปรอแม่งแล้ว ก้มลงไปมองในจานตัวเองก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก ที่จู่ๆมีช้อนส้อมมาอยู่ในจานแบบครบครัน ปกติต้องลุกขึ้นไปหยิบเองป่ะครับ แล้วจู่ๆมาได้ไง หันไปมองของไอ้หัวแดงก็ไม่มีแม้แต่เศษช้อนส้อม เอ้า แล้วใครหยิบมาให้วะ ผมยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆด้วยความงงงวยแล้วลงมือบีบมะนาวสุดเปรี้ยวลงไปในข้าวผัด มะนาวก็ต้องเปรี้ยวอยู่แล้วป่ะว้า สงสัยไร
ครืด ครืด
ผมละสายตาจากจานข้าวผัดที่กำลังหอมฟุ้งแล้วมองหาต้นตอของเสียง จะบอกว่าเป็นโทรศัพท์ของผมก็ไม่ใช่เพราะเมื่อกี้นี้หยิบขึ้นมาดูแล้วไม่มีอะไรแจ้งเตือนมาเลยสักนิด หันไปมองบนโต๊ะก็ไม่มีอะไรวางไว้ กินต่อไปเถอะไอ้แบม
ครืด ครืด ครืด ครืด ครืด ครืด ครืด
ครืดพ่ออ่ะรัวขนาดนี้!!!! คนจะกินข้าวโว้ย อย่าให้รู้นะว่าโทรศัพท์ใคร ปาทิ้งแม่ง ก็รู้อยู่แล้วป่ะวะว่ามีคนส่งมา มึงช่วยกดเข้าไปอ่านหรือทำอะไรให้มันสั่นเสียงเบากว่านี้หน่อยได้ไหมล่ะ หยิบขึ้นมาชูเอาไว้เหนือหัวก็ไม่มีใครว่ามึงบ้าหรอกนะโว้ย!!
ผมหันซ้ายหันขวาก่อนจะพบว่าทุกคนยังคงกินข้าวและนั่งเม้าท์มอยกันตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ผมเริ่มเอะใจก่อนที่จะก้มลงไปมองใต้โต๊ะ และบนเก้าอี้นั่ง อ้อ โทรศัพท์ไอ้มาร์คแน่ๆที่วางไว้ตรงนั้น ทำไมแม่งขี้ลืมงี้วะ ไหนจะมีการแจ้งเตือนสุดสะพรึง ชนิดที่ว่าถ้าใส่เอาไว้ในกระเป๋ากางเกงคงลดไขมันส่วนเกินไปได้หลายขุม
ผมถอนหายใจออกมาแล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามขึ้นมากดดู ไม่ได้อยากจะสอดรู้สอดเห็นนะเออ แค่สงสัยว่ารัวมาขนาดนี้พ่อใครตายรึเปล่าแค่นั้นเอ๊ง สาบานได้
Y.
เป็นไงบ้าง 12:21
Y.
ได้คุยกันบ้างยัง 12:21
Y.
เห้ยๆ ยังไม่ตายใช่ปะ 12:25
แปลกคนมากๆครับ ไม่ตอบสี่นาทีนี่หาว่าตายแล้ว ผมกดล็อคหน้าจอก่อนจะเอามันไปวางตามเดิม คงหนีไม่พ้นเรื่องรักๆใคร่ๆสุดยุ่งยากของมันนั่นแหละครับ เฮ้อ ไม่อยากจะเจอคนประเภทนี้อีกแล้วอะ ผมพูดจากใจจริง คิดแล้วมันก็ยิ่งแค้น หงุดหงิดชิบหาย เมื่อไหร่มื้อเที่ยงนี้มันจะจบๆไปสักทีวะ!
ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีที่ผมนั่งๆนอนๆ เล่นเกมรอไอ้หัวแดงโผล่มา พลางโบกไล่แมลงวันให้ด้วย ก็ไม่ได้กลัวว่ามันจะกินข้าวสกปรกแล้วท้องเสียหรอกครับ คือถ้าผมไม่ทำแล้วมันท้องเสียเดี๋ยวมันจะไม่มีใครมาให้คำใบ้ผมเท่านั้นเอง จริงๆ!!! หายหัวไปทำอะไรวะนานชะมัด
"มาแล้วครับ มาแล้ว" พูดไม่ทันขาดคำ ก็ปรากฎตัวมาในทันทีพร้อมกับชานมไข่มุกในมือข้างหนึ่งกับโค้กกระป๋องในมืออีกข้างหนึ่ง อะไรนะ สรุปที่หายไปนี่คือซื้อให้ผมกินจริงๆเหรอวะ ปริ่มเหลือเกิน หมายถึงฉี่กูเนี่ย ปริ่มแล้ว!!! "โทษที คิวมันยาวมากแต่พี่เห็นว่าแบมอยากกินเลยต้องอดทนรอ"
"แล้วไหนคำใบ้ผม?"
"รีบๆจริงๆ" ไอ้มาร์คหัวเราะออกมาพร้อมกับยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ผมเห็นสีหน้ามันเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแห้งๆออกมา "พี่ต้องไปแล้ว...ส่วนคำใบ้ในวันนี้ก็คือ จุดสี่ตัว โชคดีมีชัย" พอมันว่าจบก็หยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วก็กระป๋องโค้กก่อนจะติดเกียร์หมาวิ่งออกไปตรงตึกคณะ คะ..คือเหี้ยไรวะเนี่ยจะ..จุดสี่ตัว!!! ไหนจะยังสั่งอะไรมาเยอะแยะแล้วไม่แตะสักคำอีกเนี่ยนะ คือ..โว้ย!!! มันแปลกๆจริงๆให้ตาย
ผมคว้าชานมไข่มุกที่มันซื้อขึ้นมากินอย่างอารมณ์เสียก่อนจะลุกขึ้นไปเก็บจานทั้งหมดแบบทุลักทุเล เออ มึงจำไว้ จำไว้เลย สั่งมาแล้วไม่กิน คือถ้ามันไม่สั่งแล้วไม่กิน แถมยังติดสปีดออกไปขนาดนั้นผมจะแฮปปี้มากครับ แต่คือเงินผม 90 บาท ลอยไปกับสายลมโคตรๆ
หงุดหงิดโว้ย!!!!!!
TO BE CONTINUED
EX-LOVER
เจอกีนอีกครั้งเมื่อพี่กู้ชาติเสร็จ ลาก่อน ม้าหลังครับ สวัสดี
ทีตอนนี้อยากจะง้อโวะะะะ
ไรท์ขอให้สอบผ่าน ผ่าน ผ่าน
ถ้าจะให้ดี.. สอบไปอัพไปได้ไม๊ 55555
หรือจะเสื้อแฟนของชานยอลจริงๆ 55555 แต่มาร์คคุยกับ Y=ยูค? ปะ
แหนะ แอบเชียร์มาร์คก็บอกแล้วที่ดูดวงนั้นก็มั่วนิ่มใช่ปะ สร้างขึ้นมาเงอแหงๆ 55555
แบมแบมลองฟังมาร์คอธิบายดูก่อน
แง้งงง แต่ชอบเกมพระราชานะ ใกล้ชิดกันดีออก แหะๆ แต่แบมๆคงเจ็บแหละ แง้ง
แราก็อยาให้แบมฟังเหตุผลแบบที่ยูคบอกนะ
ที่บ้านแบมเกิดอะไรขึ้นม๊าถึงไม่ให้แบมกลับ
เอะ!นี่แม่แบมรู้อะไรรึเปล่า ที่ว่าพ้นรับป.. นี่ ใช่รับปริญญาปะ