ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic HP]"I love you...Who you love?" [ SS x HP , DM x RW]

    ลำดับตอนที่ #6 : Part 6 ความสงสัย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 462
      14
      6 พ.ค. 59

    ป่าต้องห้ามในเวลานี้เงียบสงัด ปราศจากเสียงใด ๆ หนุ่มน้อยแฮร์รี่ที่รับอาสาเป็นคนเฝ้ายามก็เผลอสัปหงกไปหลายครั้ง เนื่องจากความเหน็ดเหนื่อยในการเดินทาง รวมถึงการที่ต้องฝ่าฟันอันตรายโดยการต่อสู้กับเจ้าแมงมุมยักษ์นั่น

     

    ในขณะที่หนุ่มน้อยกำลังดำดิ่งลงสู่ห้วงนิทรา พลันก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงร้องจากคนเจ็บในเต็นท์ดังขึ้น เด็กหนุ่มกระโดดลุกขึ้นยืนพร้อมกับพุ่งตัวไปที่เต็นท์อย่างรวดเร็ว

     

    ทันทีที่ผ้าใบซึ่งเปรียบเสมือนประตูเต็นท์เปิดออก แฮร์รี่ก็มองเห็นคนเจ็บกำลังดิ้นทุรนทุรายไปมาบนเตียง พร้อมกับยกมือขึ้นทั้งสองข้างเหมือนกำลังพยายามจะไขว่คว้าอะไรบางอย่าง พลางส่งเสียงร้องตะโกน

     

    “ไม่...อย่าไปนะ...ได้โปรด”

     

    แฮร์รี่รีบสาวเท้าให้ถึงเตียงที่คนเจ็บนอนอยู่โดยเร็ว จริง ๆ เขาก็พอจะสันนิษฐานได้ว่าที่คนเจ็บร้องโวยวายแบบนี้ คงจะเป็นเพราะพิษไข้เป็นแน่ ทางที่ดีเขาควรรีบปลุกให้คนเจ็บรู้สึกตัวดีกว่า จะได้ถามอาการด้วย

     

    ขณะที่แฮร์รี่กำลังจะเอื้อมมือไปแตะตัวคนเจ็บนั้น เขาก็ต้องชะงักกึก เนื่องจากคำพูดของคนเจ็บที่พรั่งพรูออกมาจากปาก

     

    “ทำไมล่ะ...นายสัญญาแล้วว่าจะอยู่กับฉันตลอดไป แล้วทำไมนายถึงทำแบบนี้ ได้โปรด...อย่าไปจากฉันเลย อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวอีก ขอร้องล่ะ...เจมส์”

     

    พ่อเหรอ นี่สเนปกำลังพูดเรื่องอะไรกันหนุ่มน้อยรู้สึกทั้งสับสน ทั้งสงสัย และไม่เข้าใจในสิ่งที่สเนปละเมอออกมา

     

    “เจมส์...หยุดก่อน เดี๋ยว ทำไมล่ะ ทำไมนายถึงไม่รักษาสัญญา อย่าไปนะ...ได้โปรด”

    ใจจริงแฮร์รี่ก็อยากจะฟังต่อนะ ว่าสเนปจะละเมออะไรออกมาอีก แต่ท่าทางของชายหนุ่มตอนนี้ดูทุรนทุรายมาก เขาจึงตัดสินใจเอื้อมมือไปเขย่าตัวคนเจ็บทันที โดยยังคงสงสัยกับสิ่งที่ชายหนุ่มละเมอออกมา สัมผัสแรกที่รู้สึกได้คือความร้อนของร่างกายคนเจ็บที่ค่อนข้างสูงทีเดียว แฮร์รี่เขย่าตัวคนเจ็บสักพัก สเนปก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พลางดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง โดยยังเอามือกุมหัวเอาไว้

     

    “มีอะไรเหรอ...พอตเตอร์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า” สเนปพูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา โดยไม่ได้หันหน้ามามองแฮร์รี่ เนื่องจากอาการปวดตุบ ๆ ในหัว

     

    “เปล่า...ผมได้ยินเสียงคุณละเมอร้องโวยวาย เลยรีบเข้ามาดูน่ะ”

     

    เมื่อได้ยินดังนั้น สเนปรีบหันหน้ากลับมามองเด็กหนุ่มด้วยความรวดเร็ว โดยลืมอาการปวดตุบ ๆ ที่หัวซะสนิท เขามองแฮร์รี่ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ จะไม่ตกใจได้อย่างไร ก็เขาฝันถึงเจมส์อยู่ แถมเด็กคนนี้บอกว่าเขาละเมอ นี่เขาเผลอพูดอะไรที่เด็กคนนี่ไม่สมควรรู้ไปบ้างหรือเปล่านะ

     

    “ละเมองั้นเหรอ นี่เธอ...เธอได้ยินอะไรบ้าง บอกมานะ”

     

    ท่าทางของสเนปเกรี้ยวกราดมาก เนื่องด้วยเขาไม่อยากให้เด็กคนนี้รับรู้เรื่องราวในอดีต ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามแต่

     

    ทางแฮร์รี่เมื่อเห็นท่าทางเกรี้ยวกราดของสเนป ทำให้เขายิ่งสงสัยมากขึ้นอีกเท่าตัว สเนปกับพ่อเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันไม่ใช่เหรอ แต่จากที่เขาได้ยินเมื่อครู่ ฟังดูไม่เหมือนคนที่เป็นศัตรูกันเลย ยิ่งคิดก็ยิ่งสร้างความสงสัยให้แฮร์รี่มากขึ้นไปอีก เขาถึงกับขมวดคิ้วทีเดียว

     

    “ว่ายังไงล่ะ เธอไม่ได้ยินที่ฉันถามเหรอ พอตเตอร์” สเนปเร่งเร้าเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กตรงหน้าเงียบไป เขายิ่งรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นเป็น 2 เท่า

     

    “พอตเตอร์” สเนปตะโกนเสียงดัง จนแฮร์รี่สะดุ้งสุดตัวตัวเลยทีเดียว

    “ห๊ะ...ครับ คุณ...คุณว่ายังไงนะ”

     

    “ฉันถาม เธอไม่ได้ยินเหรอ นั่งบื้ออยู่ได้”

     

    ทำไมต้องหงุดหงิดขนาดนี้ด้วย น่าสงสัยชะมัด ต้องมีอะไรแน่ ๆ อยากรู้จริง ๆ แต่ถ้าถามไปตรง ๆ คงโดนฆ่าหมกป่าแหง ๆ เนียนไปก่อนแล้วกันแฮร์รี่คิด

     

    “เปล่านี่ครับ คุณก็แค่ร้องโวยวาย แล้วนอนดิ้นทุรนทุรายไปมา ผมก็เลยปลุกให้คุณรู้สึกตัวนี่แหละ”

     

    “จริงเหรอ” สเนปยังคงถามด้วยความสงสัย

     

    “ครับ” แฮร์รี่ตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้น จึงคลายความกังวลลงไป

     

    “อย่างนั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป” สเนปพูดพลางถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก”

     

    “คุณไข้ขึ้นนะ ตัวคุณร้อนจี๋เลยนะครับ ผมว่า...!!!” ยังไม่ทันที่แฮร์รี่จะพูดจบ สเนปก็พูดสวนขึ้นมาทันที

     

    “ฉันบอกว่าไม่เป็นไร ก็ไม่เป็นไรสิ เธอออกไปได้แล้ว ฉันจะนอน เห็นหน้าเธอแล้วฉันนอนไม่หลับ ไปสิ”

     

    เมื่อแฮร์รี่ได้ยินดังนั้นก็อารมณ์ขึ้นทันที

     

    ทีกับเราล่ะก็ รังเกียจจังนะ ทำไมไม่พูดกับเราด้วยน้ำเสียงแบบเมื่อกี้บ้างนะ ให้ตายเถอะเขาลุกขึ้นยืน หันหลังกลับและเดินกระแทกส้นเท้าออกจากเต็นท์ไปทันที

     

    โถ่เอ๊ย...ถ้าไม่ได้บาดเจ็บเพราะช่วยชีวิตฉันไว้ล่ะก็ จ้างให้ฉันก็ไม่สนใจคนอย่างคุณหรอก หางตายังไม่อยากจะแลเลย ไอ้หัวเมือกเอ๊ยเด็กหนุ่มเดินกลับไปนั่งยังจุดเดิม พลางคิดอย่างเคียดแค้น จนกระทั่งผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

     

    ทางด้านสเนป เมื่อเห็นเด็กหนุ่มเดินออกไปด้วยความไม่พอใจ เขาจึงส่ายหัวน้อย ๆ พลางล้มตัวลงนอน และหลับไปอย่างรวดเร็วเพราะพิษไข้

     

    ทางด้านรอนกับมัลฟอย หลังจากผ่านวันที่แสนจะวุ่ยวายในความคิดของมัลฟอย บวกกับความรู้สึกแปลกที่ และความรู้สึกไม่สะดวกสบาย ทำให้เมื่อคืนเขานอนไม่ค่อยจะหลับ เช้านี้จึงตื่นแต่เช้า เขาจึงตัดสินใจที่จะออกเดินทางต่อทันที เพราะจุดหมายปลายทางคงอยู่อีกไกลพอสมควร เขาหันไปมองรอนที่ยังคงนอนหลับ (สนิท) พลางคิด

     

    หมอนี่ ดูมีความสุขกับการนอนเหลือเกิน หลับเข้าไปได้ยังไง ที่นอนก็แข็ง แถมยังขยันละเมออีก คนอะไร ละเมอได้ทั้งคืน ถ้าไปปลุกตอนนี้ จะอารมณ์เสียไหมเนี่ย...แต่ยังไงก็ต้องปลุกล่ะนะ ไม่อย่างนั้นคงทำภารกิจไม่สำเร็จแน่ๆมัลฟอยตัดสินใจเดินไปที่เตียงของรอนทันที และเอื้อมมือไปปลุกเจ้าหัวแดงขี้เซา

     

    “นี่...ตื่นได้แล้ว นายคิดจะนอนไปถึงเมื่อไหร่น่ะ” พูดพลางเอามือเขย่าตัวรอน

     

    “อืม...ขออีก 5 นาทีนะแฮร์รี่” รอนตอบกลับมาด้วยเสียงงัวเงีย

     

    พอตเตอร์งั้นเหรอ อะไรนักหนา นายอยู่กับฉันแท้ ๆ จะลืมไอ้หัวแผลเป็นนั่นสักนาทีไม่ได้เลยหรอคิดได้ดังนั้นเขาก็รู้สึกเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาทันที เขาจึงกระชากแขนรอนด้วยความแรง จนเจ้าหัวแดงหล่นจากเตียงเลยทีเดียว

     

    “โอ๊ย...นายทำบ้าอะไรน่ะ หา!!! มัลฟอย ทำไมต้องกระชากจนฉันตกเตียงด้วย”

     

    “ช่วยไม่ได้ ฉันเรียกนายตั้งหลายรอบ ไม่ยอมตื่นสักทีนี่ มันก็ต้องรุนแรงกันหน่อยล่ะ”

     

    “ไม่จริง...ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย นายจงใจแกล้งฉันใช่ไหม”

     

    “นายจะได้ยินอะไร ก็สมองนายมีแต่เจ้าพอตเตอร์นี่ นอนยังเรียกชื่อมัน ห่างกันแค่วันสองวันก็คิดถึงมันซะแล้วเหรอ”

     

    “นายพูดบ้าอะไร นี่นายปลุกฉันมาหาเรื่องแต่เช้า สมองนายยังปกติอยู่รึเปล่า”

     

    “ใช่สิ คนอย่างฉันไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่เคยดีในสายตานายอยู่แล้ว นายอยากคิดอะไรก็คิดไปเถอะ แต่ตอนนี้นายต้องลุกได้แล้ว เราต้องรีบออกเดินทางนะ เรามีเวลาทำภารกิจแค่ 1 อาทิตย์นะ ไม่ใช่ 1 ปี เอาแต่นอนละเมออย่างนาย คงไม่มีวันทำภารกิจสำเร็จแน่ รีบ ๆ เก็บของ จะได้รีบออกเดินทาง”

     

    “แล้วนายรู้เหรอว่าต้องไปทางไหน ทำเป็นเก่ง...ทุเรศ”

     

    “รู้...เราต้องเดินทางไปทางตะวันออกของป่า เมื่อเราไปจนสุดทาง จะเจอทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่สวยงาม ที่นั่นแหละคือที่อยู่ของจ้าวยูนิคอร์น ซึ่งการที่จะได้ขนหางมานั้น เราต้องทำภารกิจที่ทางนั้นตั้งเงื่อนไขมาให้สำเร็จ ซึ่งฉันก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าคืออะไร นายคิดว่ายังไงล่ะ เราควรจะรีบออกเดินทางได้หรือยัง แต่ถ้านายยังอยากจะนั่งละเมอเรียกหาเจ้าพอตเตอร์อยู่ ก็ตามใจ” พูดจบมัลฟอยก็เดินออกจากเต็นท์ไปทันที

     

    “อะไรของเขาอีกเนี่ย อารมณ์ไหนวะ โอ๊ย...ทำไมนายเข้าใจยากอย่างนี้นะ ทำไมชอบทำตัวให้ฉันไม่เข้าใจอยู่ตลอดเวลาด้วย อ๊ะ...ถ้าเรื่องที่หมอนั่นพูดเป็นเรื่องจริง เวลาแค่ 1 อาทิตย์จะพอหรือนี่” ว่าแล้วรอนก็รีบกระโดดลุกขึ้น รีบแต่งเนื้อแต่งตัว แล้วรีบเดินตามมัลฟอยออกไปเพื่อช่วยเก็บข้าวของและเตรียมตัวออกเดินทาง

     

    TBC

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×